ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมพุทธศาสนา  (อ่าน 1702 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ น้องลิงน้อย

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 1127
  • เพศ: หญิง
    • ดูรายละเอียด
ทำไมพุทธศาสนา
« เมื่อ: 13 มี.ค. 2552, 07:11:21 »
น้องลิงน้อยอ่านเจอบทความนี้ ก็เลยอยากให้เพื่อนๆ พี่ๆ ได้อ่านด้วยกันค่ะ
http://www.dhamma5minutes.com/webboard.php?id=94&wpid=0017




       เคยมีคนถามภูเตศวร... ?ทำไมศาสนาพุทธ จึงสอนแต่เรื่องทุกข์??

            คำถามสั้น...แต่ทำให้ผู้เขียนอึ้งไปนานพอควร  เหตุผลคือต้องลำดับความคิดก่อนตอบ

            ประเด็นแรกที่ต้องทำความเข้าใจก่อนคือ...พุทธศาสนาจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มีพระบรมศาสดาถือกำเนิดขึ้นบนโลก

            อะไรทำให้เจ้าชายสิทธัตถะละทิ้งสิริราชสมบัติออกผนวช  เพื่อแสวงหาความหลุดพ้น  ก็เพราะทรงเห็นความไม่เที่ยงแท้ของมนุษย์  ความไม่เที่ยงทำให้เกิดทุกข์  ความไม่เที่ยงแท้ที่ปรากฏต่อสายพระเนตร  คือความเกิด  ความแก่  ความเจ็บ  และความตายนั่นเอง

            ความจริงภาพแห่งความเกิดแก่เจ็บตาย  เราท่านทั้งหลายในปัจจุบันล้วนพบเห็นไม่เว้นแต่ละวัน  ซึ่งก็ไม่แผกไปกว่ายุคก่อนพุทธกาลที่มนุษย์โลกล้วนต้องเคยพบเห็นสัจจะเหล่านี้

            หากแต่สิ่งที่คนทั่วไปเห็น  ย่อมต่างกับพระมหาโพธิสัตว์ผู้บำเพ็ญบารมีมาอย่างยาวนาน  เพื่อการตรัสรู้ และประกาศศาสนานำพาส่ำสัตว์จำนวนมากมายมหาศาลให้ก้าวข้ามวัฏสงสารสู่แดนนิพพาน

            เพราะเห็นทุกข์...อันมาจากความเกิดความแก่ ความเจ็บความตาย  ทำให้พระมหาโพธิสัตว์ทรงปรารถนาหนทางไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย  คือจุดเริ่มต้นที่พระองค์ทรงละวางความสุขทางโลกอันไม่จีรังยั่งยืนสู่เพศบรรพชิต

            หลังดั้นด้นค้นหาหนทางแห่งความหลุดพ้นอยู่อย่างยาวนาน  ทั้งทรมานกายอย่างแรงกล้า  หลาย ๆ วิธีจนจาระไนไม่หวาดไหว  ท้ายสุดทรงสามารถตรัสรู้โดยชอบภายใต้ควงต้นพระศรีมหาโพธิ์ ณ ตำบลพุทธคยา  ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6

            สิ่งแรกที่พระบรมศาสดาทรงค้นพบเป็น  ?สัจจะ? คือ ?ความจริง? ที่ยิ่งใหญ่  นั่นคือ ?อริยสัจ 4? ความจริงอันยิ่งยวด 4 ประการ  ประกอบด้วยทุกข์  อันมาจากความแปรปรวน ความไม่เที่ยงเป็นอนิจจัง  ทำให้เกิดโทมนัส  ปริเวทนาทั้งกายและใจ  สมุทัย เหตุหรือต้นตอของความทุกข์ทั้งหลาย  นิโรธ คือการดับทุกข์  จนมาถึงมรรค คือเส้นทางหรือวิธีการดับทุกข์ อันมีองค์ 8 ประการ

 

            เรื่องของมรรค 8 ขออนุญาตไม่เขียนโดยละเอียด เพราะจะกลายเป็นความเยิ่นเย้อ  และขอพูดถึง ?แก่น? ไปเลยทีเดียว  ดังเคยย้ำมาแล้วหลายครั้งหลายครา ว่า พุทธศาสนาสอนเรื่องปัญญา  และปัญญาเท่านั้นจะทำให้เราพบเห็นหนทางแห่งการหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง

            พูดถึงเรื่องความทุกข์  ทำให้นึกขึ้นได้  หลายวันก่อน เพื่อนสนิทคนหนึ่งส่งหนังสือเล่มเล็ก ๆ ความหนาแค่ร้อยกว่าหน้าให้ผู้เขียน  พร้อมเอ่ยคำสั้น ๆ

            ?ลองอ่านดูสิ...เขียนดีจริง ๆ?

            เราพลิกดูหน้าปก  ชื่อหนังสือ ?รวยด้วยการให้? เขียนโดยวิธูร  คลองมีคุณ  ซึ่งปัจจุบันท่านมีตำแหน่งถึงอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา

 

            ต้องยอมรับว่าถึงตอนนี้เพิ่งอ่านไปได้สองสามบท ทว่าแค่บทแรกเราต้องแอบอมยิ้มและเอ่ยชมในใจ  ท่านเขียนเรียบง่ายทว่าเหมือนท่านนั่งอยู่ในหัวใจมนุษย์  ในบทที่ 1 ท่านวิธูร พูดถึงความกลัวอันเป็นพื้นฐานของมนุษย์อยู่ 6 ประการ  ความกลัวที่มนุษย์โดยทั่วไปต้องทนทุกข์ทรมานจากการผสานความร่วมมือของพวกมันตามโอกาส

            1. กลัวความยากจน  นักเขียนท่านนี้บรรยายภาพได้แจ่มชัด...ทั้งด้านจิตใจอันเป็นสภาวะลบและบวก  สามารถให้ความสำเร็จและล้มเหลวได้  หากบทสรุปในที่สุด ความกลัวจนคือความกลัวที่มีผลทางทำลายล้างมากที่สุด... เพราะไม่มีสิ่งใดก่อให้เกิดความทุกข์และรู้สึกต่ำต้อยได้เท่ากับความยากจนอีกแล้ว

 

            2. กลัวคำวิพากษ์วิจารณ์ (ติฉินนินทา)  เพราะผู้คนจะรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งเมื่อถูกวิพากษ์วิจารณ์  เก็บกดและทุกข์โศกเมื่อถูกตำหนิ

 

            3. กลัวความพลัดพราก (สูญเสียคนรัก)  การพลัดพรากหรือแม้การสูญเสียคนรัก  เป็นความกลัวที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดที่สุด สามารถสร้างความวุ่นวายให้กับร่างกายและจิตใจมากกว่าความกลัวใด ๆ อย่างน้อยเราก็เห็นคนฆ่าตัวตายเพราะเรื่องนี้มาแล้ว

 

            4. กลัวความเจ็บไข้ได้ป่วย (เป็นโรคร้าย)  ความกลัวชนิดนี้เกี่ยวข้องกับร่างกายเป็นการสืบทอดทางมรดกอันเป็นสัจจะที่เชื่อมโยงไปถึงความแก่และความกลัวตาย  เพราะมันชักนำบุคคลเข้าใกล้เขตแดนแห่งโลกที่น่าขนลุกพองสยองเกล้าที่ไม่เคยมีใครกลับมาเล่าให้ฟัง

 

            5. กลัวพรากจากความเป็นหนุ่มสาว (กลัวแก่)  เพราะความแก่คือการสูญเสียสมรรถภาพ  สูญเสียความสนุกสนานในโลกอันมาจากความเสื่อมถอยของร่างกาย

 

            6. กลัวจากโลกนี้  (กลัวตาย)  ประการนี้ผู้เขียนอธิบายแจ่มชัดว่าเป็นความกลัวพื้นฐานที่อำมหิตที่สุด  เพราะเราไม่อาจคาดคำนวณหรือคาดหมายได้เลยว่าเราจะเจออะไรหลังความตาย  โดยยกตัวอย่างที่วิลเลี่ยม เชคสเปียร์ กล่าวไว้ใน ?แฮมเล็ต? ว่า  ?มันเป็นประเทศที่ยังไม่เปิดเผย เพราะนักเดินทางที่ผ่านเขตแดนเข้าไป ยังไม่เคยมีใครย้อนกลับมา?

 

            ท่านวิธูร คลองมีคุณ  สามารถนำวิทยาศาสตร์มาอธิบายและแนะนำการปลดปล่อยตัวเองออกจากความกลัวทั้ง 6 ประการอย่างน่าคิด

            ?เราจำต้องควบคุมจิตใจของเราให้มีแรงพลังด้วยการหล่อเลี้ยงมันด้วยแรงบันดาลใจ  อันเป็นสิทธิพิเศษของเรา  เราจึงเป็นผู้กำหนดโชคชะตาแห่งตนบนโลกนี้ได้อย่างแน่นอน?

            บทสรุปของท่านวิธูร เป็นเรื่องการควบคุมจิตใจ ซึ่งตรงกับมรรค 8 ในข้อสัมมาสติ กับสัมมาสมาธิ  คือการระลึกรู้กับการตั้งมั่นไม่หวั่นไหวในธรรมารมณ์ทั้งหลายทั้งปวงที่เข้ามากระทบจิตใจ

            แม้ว่าผู้เขียนจะแตกหัวข้อเป็นความกลัว  หากแท้จริงความกลัวนั้นก็คือความทุกข์ของมนุษย์โดยชัดแจ้ง  โดยเฉพาะกลัวเจ็บ  กลัวแก่  และกลัวตาย  เป็นเรื่องของพุทธศาสนาโดยตรง  เป็นสัจจะที่มนุษย์ทุกรูปนามต้องน้อมรับโดยดุษฎี  ซึ่งก็เป็นเช่นเดียวกับการกลัวคำวิพากษ์วิจารณ์อันอาจทำให้ตนสูญเสียเกียรติ  เข้าข่ายเป็นการเสียคนรัก  ก็คือการพลัดพรากจากของรักของเจริญใจทั้งหลายนั่นเอง

            รวมความทุกประการคือ  ทุกข์พื้นฐานของสรรพสัตว์บนโลกแห่งนี้

            เพราะประการดังกล่าวพระบรมศาสดาจึงทรงบัญญัติศีล...ให้เหล่าเวไนยสัตว์ประพฤติตนเพื่อความสงบสันติของสังคม  บัญญัติสมาธิคือวิธีการสร้างความมั่นคงแห่งจิต  สร้างอำนาจแห่งใจไว้เผชิญกับความทุกข์  ท้ายสุดคือการสร้างปัญญา  อันเป็นภาวนาปัญญาเอาไว้ ?ผ่าน? ความทุกข์ไปสู่แดนพ้นทุกข์ตลอดกาลนาน  คือพระนิพพานอันสูงสุดในคติแห่งบวรพุทธศาสนา

 

            ขอย้ำอีกครั้งตรงนี้  พระธรรม 84,000 พระธรรมขันธ์ของพระบรมศาสดาจะกล่าวโดยพิสดารอย่างไร  รวมลงแล้วเหลือเพียงมรรคอันมีองค์ 8 ประการ 8 ย่อแล้วเหลือไตรสิกขา 3 คือ ศีล สมาธิ และปัญญา  อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น  ไตรสิกขา 3 รวมลงที่ ?ใจ? ดวงเดียว

            ฝึก...ใจที่มีสติระลึกรู้โดยชอบ
            ฝึกใจให้มีสมาธิไม่หวั่นไหวในธรรมารมณ์ใด ๆ ที่เข้ามากระทบ
            นั่นแหละคือ ?แก่น? ของพุทธศาสนา!
            ใครฝึกจิตและใจให้ระลึกรู้โดยชอบโดยสร้างสติจนเป็นมหาสติ  ใครฝึกจิตใจให้ไม่หวั่นไหวต่อกิเลสตัณหาได้เหมือนใบบอนที่น้ำมิอาจซึมผ่าน พระนิพพานอยู่ตรงนั้นแหละครับ!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13 มี.ค. 2552, 07:20:51 โดย น้องลิงน้อย »

ออฟไลน์ cho presley

  • ------> I'm Cho Presley
  • นวมะ
  • ****
  • กระทู้: 2049
  • เพศ: หญิง
  • สุดท้ายก็กาหลง!
    • MSN Messenger - cho.khalong@hotmail.com
    • AOL Instant Messenger - เมืองเสน่ห์กาหลง
    • Yahoo Instant Messenger - มหาเสน่ห์+เมตตา+มหานิยม
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.khalong.com
ตอบ: ทำไมพุทธศาสนา
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 13 มี.ค. 2552, 07:14:11 »
น้องลิงฯ ทำเป็นตัวใหญ่หน่อยจิคะ...พี่โชวตาลายค่ะ... :008:

cho presley       

ออฟไลน์ น้องลิงน้อย

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 1127
  • เพศ: หญิง
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ทำไมพุทธศาสนา
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 13 มี.ค. 2552, 07:19:51 »
น้องลิงฯ ทำเป็นตัวใหญ่หน่อยจิคะ...พี่โชวตาลายค่ะ... :008:

กำลังทำอยู่ค่ะพี่โชว 11;  ต้องลองผิดลองถูกเองอ่ะ  :070:  กำลังหาครูดีๆ แนะนำอยู่เนี่ย :070:

ออฟไลน์ น้องลิงน้อย

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 1127
  • เพศ: หญิง
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ทำไมพุทธศาสนา
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 13 มี.ค. 2552, 07:22:24 »
งานนี้ก็ขอบคุณ นายเอ็ม...นะค่ะ  :053: :053:  นายแน่มาก  25;

ออฟไลน์ cho presley

  • ------> I'm Cho Presley
  • นวมะ
  • ****
  • กระทู้: 2049
  • เพศ: หญิง
  • สุดท้ายก็กาหลง!
    • MSN Messenger - cho.khalong@hotmail.com
    • AOL Instant Messenger - เมืองเสน่ห์กาหลง
    • Yahoo Instant Messenger - มหาเสน่ห์+เมตตา+มหานิยม
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.khalong.com
ตอบ: ทำไมพุทธศาสนา
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 13 มี.ค. 2552, 07:24:24 »
น้องลิงฯ ทำเป็นตัวใหญ่หน่อยจิคะ...พี่โชวตาลายค่ะ... :008:
กำลังทำอยู่ค่ะพี่โชว 11;  ต้องลองผิดลองถูกเองอ่ะ  :070:  กำลังหาครูดีๆ แนะนำอยู่เนี่ย :070:

ยอดเยี่ยมกระเทียมเจียวค่ะ... บางทีความมันส์อยู่ที่ได้เรียนรู้เอง อ้าว.. น้องเอ็มจัดให้แล้วเหรอ น่ารักจริงๆ น้องชายสุดที่รักของพี่เองนี่หว่า มาโพสบ่อยๆ หละ... (ไว้มาอ่านทีหลัง ตาลาย ประชุมออกมามึนตึ้บ..)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13 มี.ค. 2552, 07:25:49 โดย cho presley »

ออฟไลน์ น้องลิงน้อย

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 1127
  • เพศ: หญิง
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ทำไมพุทธศาสนา
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 13 มี.ค. 2552, 07:38:22 »
น้องลิงฯ ทำเป็นตัวใหญ่หน่อยจิคะ...พี่โชวตาลายค่ะ... :008:
กำลังทำอยู่ค่ะพี่โชว 11;  ต้องลองผิดลองถูกเองอ่ะ  :070:  กำลังหาครูดีๆ แนะนำอยู่เนี่ย :070:

ยอดเยี่ยมกระเทียมเจียวค่ะ... บางทีความมันส์อยู่ที่ได้เรียนรู้เอง อ้าว.. น้องเอ็มจัดให้แล้วเหรอ น่ารักจริงๆ น้องชายสุดที่รักของพี่เองนี่หว่า มาโพสบ่อยๆ หละ... (ไว้มาอ่านทีหลัง ตาลาย ประชุมออกมามึนตึ้บ..)

ขอบคุณมากมายค่ะ  :054: :054: สำหรับคำชม :106: ดีนะที่เป็นกะเทียมเจียว  31;

 
ถ้าเป็นกระเทียมดอง คงไม่ได้เกิดแน่เลยอ่ะค่ะ   09;  ถ้ามีเวลาจะอะไรดีๆ มาโพสอีกค่ะ  :053:

 น้องลิงน้อย ขอไป นายเอ็มก็จัดมา น่ารักเนอะ  :053:

ไว้คราวหน้าจะปรึกษาพี่โชวแล้วกัน  38; ฉลองตำแหน่งใหม่ของพี่โชวไงจ๊ะ  30;
 16; (ว่าแต่จะหาคนแนะนำเพิ่มเติมอีกดีอ๊ะป่าวเนี่ย 37; 17;)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13 มี.ค. 2552, 07:43:14 โดย น้องลิงน้อย »

ออฟไลน์ ~เสน่ห์โจรสลัด~

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 7913
  • เพศ: ชาย
  • " ถ้ามุ่งมั่นจะเป็นที่หนึ่งคุณจะเป็นที่หนึ่ง "
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ทำไมพุทธศาสนา
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 13 มี.ค. 2552, 08:59:55 »
ขอบคุณมากครับ ที่แนะนำสิ่งดีดีต่อกันจ้า ..  :089:

ออฟไลน์ tum72

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 2246
  • ณ ตลาดพลู
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ทำไมพุทธศาสนา
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 13 มี.ค. 2552, 10:14:00 »
ขอบคุณครับ
โอม ราศีกูเอ๋ย  จงมาเป็นอาสน์  สีธาวาส  มาเป็นเกียรติ  ศรีชายมาเป็นช่วง
หญิงชายทั้งปวง รักกูมิรู้วาย  ด้วยราศีกูงามคือฟ้า  หน้ากูงามคือพรหม
หญิงเห็นหญิงรัก  ชายเห็นชายทัก  กูอยู่ทุกเมื่อ  ไม่เบื่อแต่สักวัน
โอม หญิงชายทั้งหลายเอ๋ย  มา

ออฟไลน์ SIC

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 938
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - diasberm@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • Marlboro Photographer
    • อีเมล
ตอบ: ทำไมพุทธศาสนา
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: 13 มี.ค. 2552, 11:55:14 »
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ครับ  :016:

ออฟไลน์ prathomsak

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 631
  • เพศ: ชาย
  • โอม หนุมานะ
    • MSN Messenger - prathomsak-pong@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • www.hi5.com
    • อีเมล
ตอบ: ทำไมพุทธศาสนา
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: 14 มี.ค. 2552, 01:02:44 »
ขอบคุณเช่นกันครับ
เวลาของเรามีน้อยนัก หมั่นทำบุญทำกุศลกันเถิด จักเกิดผล

ออฟไลน์ อชิตะ

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 3218
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - aston_25@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ทำไมพุทธศาสนา
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: 14 มี.ค. 2552, 02:16:13 »
ขอบคุณครับ เข้าใจได้ดี แต่ยังไม่ซึ้งครับ เพราะยังไม่เจอกับตัว ลองได้เจอกับตัวจะซึ้งเองทุกข้อ

ลองคิดซิครับว่าถ้าเกิดมาจนสุดๆ มีแต่คนกล่าวหาว่าร้าย รักใครเขาก็ทิ้ง โรคภัยรุมเร้า แก่ง่อม จนนอนนิ่งไม่ไหวติ่ง

ถ้ามาพร้อมกันทุกอย่างนี่ ถึงกับช็อคเลยนะครับ

แต่เชื่อไหมครับว่า เราทุกคนผ่านมาแล้ว แต่ไม่จำ ??  เราถึงได้มาเจอกันไงครับ   :027: :027:


ออฟไลน์ ชลาพุชะ

  • เราอาจไม่รู้มากนัก แต่เรารู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร
  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 1526
  • เพศ: ชาย
  • ที่นี่คือเว็บวัดบางพระ เราก็ศิษย์วัดบางพระ
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ทำไมพุทธศาสนา
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: 14 มี.ค. 2552, 06:09:40 »
ได้อ่านข้อความดีๆตอนตื่นนอนนี่ดีนะครับ

ออฟไลน์ santa

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 324
  • เพศ: ชาย
  • นกน้อยคลาสสิค
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ทำไมพุทธศาสนา
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: 14 มี.ค. 2552, 06:10:01 »
ขอบคุณครับสำหรับบทความดีๆ