หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล > สนทนาภาษาผู้ประพฤติ

การฝึกสมาธิอย่างเรียบง่ายสบายๆภาค3

(1/1)

รวี สัจจะ...:
      "เมื่อหยุดคิดปรุงแต่ง และวางทุกสิ่งลงได้(ทั้งสิ่งที่รู้และสิ่งที่ถูกรู้ทั้งปวง)สัจจธรรมความจริงแท้ก็จะปรากฏขึ้นมาให้รู้เราเอง"
การที่จิตของเราไม่สงบนั้น เป็นเพราะเราคิด จิตของเราไปปรุงแต่ง มีความกังวลหวังผลของการปฏิบัติ อยากจะให้สมาธิเกิดขึ้นโดยเร็ว หรือไม่ก็ปรุงแต่งไปในความคิดต่างๆ เพราะเรายังละวางอารมณ์เก่าของเราไม่ได้ หรือจะกล่าวไปก็คือความกังวลยังมีอยู่
ความกังวลนั้น ภาษาธรรมะเรียกว่า"ปลิโพธิ"ซึงมีอยู่ ๑๐ ประการด้วยกันคือ
 ๑.อาวาสปลิโพธิ  คือความกังวลเกี่ยวกับที่อยู่ที่อาศัย ที่ปฏิบัติ  คือเกี่ยวกับสถานที่
 ๒.กุลปลิโพธิ      คือความกังวลเกี่ยวกับตระกูลที่มีอุปการะต่อเรา
 ๓.ลาภปลิโพธิ     คือความกังวลเกี่ยวกับลาภสักการะ หรือรายได้ของเรา
 ๔.คณปลิโพธิ     คือความกังวลเกี่ยวกับหมู่คณะเพื่อนฝูงของเรา
 ๕.กัมมปลิโพธิ    คือความกังวลเกี่ยวกับหน้าที่การงานของเรา
 ๖.ญาติปลิโพธิ    คือความกังวลเกี่ยวกับญาติพี่น้องของเรา
 ๗.อาพาธปลิโพธิ คือความกังวลเกี่ยวกับการเจ็บไข้ได้ป่วย
 ๘.คันธปลิโพธิ    คือความกังวลเกี่ยวกับการศึกษาหาความรู้
 ๙.อัทธาปลิโพธิ  คือความกังวลเกี่ยวกับการเดินทางการอยากท่องเที่ยว                                                              
๑๐.อิทธิปลิโพธิ   คือความกังวลที่เกี่ยวกับผลสำเร็จในการปฏิบัติป คาดหวังผลที่จะได้รับ                                                                สิ่งเหล่านี้คือความกังวลที่เกิดขึ้นในขณะที่เรากำลังปฏิบัติ ฉนั้นเราจึงต้องรู้ว่าเรากำลังคิดถึงเรื่องอะไรอยู๋ ที่ทำให้จิตของเราหลุดจากองค์ภาวนา และเมื่อเรารู้เท่าทัน ในสิ่งที่เราคิด เราก็พิจารนาว่าเวลานี้สิ่งที่คิดมันสมควรจะคิดหรือไม่ คิดแล้วมันได้อะไร ทำในตอนนี้ได้หรือไม่ ใช้จิตถามจิตให้มันจบ แล้วเราจะพบกับคำตอบว่าควรหรือไม่ที่จะคิดที่จะกังวล เรียกว่าเราเคลียร์จิตจบ ซึ่งถ้าเราเคลียร์ไม่จบ พอเราภาวนาไปมันจะกลับมาคิดใหม่ ให้เราปล่อยวางความกังวลไว้ชั่วคราว ในขณะที่เรากำลังปฏิบัติ เพียรพยายามทำให้เกิดความชำนาญ ในการปล่อยวางความกังวล ซึ่งมันจะปล่อยวางความกังวลได้เร็วขึ้นตามลำดับ จนในที่สุดพอเกิดขึ้นมาเราก็ดับได้วางได้ในทันที  ความสำเร็จจะมีได้ก็เพราะความเพียร ทำให้จริง อย่าทอดทิ้งธุระทำอย่างมีสติสัมปชัญยะและมีปัญญา สิ่งที่จะได้มา คือสมาธิที่แท้จริง(สัมมาสมาธิ)
      ฝากไว้เป็นข้อคิด โปรดอ่านสักนิด แล้วพิจารนาตาม ลองนำไปปฏิบัติ แล้วท่านจะรู้ว่าสิ่งที่กล่าวมานั้น มันใช่หรือไม่ ซึ่งจะพิสูจน์ได้ด้วยการปฏิบัติ อย่าได้ตัดสินใจโดยใช้ความคิดในขณะนี้มาตัดสิน ว่าถูกหรือผิด ลองทำสักนิดผิดไม่ผิดค่อยว่ากัน
                            เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี
                              รวี สัจจะ -สมณะไร้นาม
                              วจีพเนจร - คนรอนแรม
                  ๑๘ มีนาคม เวลา ๑๑.๐๙ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายแดนประเทศไทย 
                                                                            


SIC:
ขอบคุณครับ  :053:

รวี สัจจะ...:
 :059:อ่านแล้วคิดพิจารณา ปัญญาจะเกิด...และจะชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อได้ลองปฏิบัติดู
"ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ คือหัวใจของการปฏิบัติธรรม"
ปริยัติคือการศึกษาหาข้อมูล จากการอ่าน การฟัง การเห็น การพูดคุยแลกเปลี่ยน่ ความรู้ทั้งหลายคือปริยัติ
ปฏิบัติคือการลงมือกระทำตามที่เรารู้มาศึกษามา ตามลำดับและขั้นตอน
ปฏิเวธคือผลของการปฏิบัติที่เราได้กระทำมา...

นอมอท้อผิด:
อ่านและเข้าใจ

จะนับไปปฏิบัติจริง ครับ

^^

 :114: :114: :114:

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

Go to full version