:059:ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวว่า"โง่ไม่เป็น...เป็นใหญ่ยาก.."ความฉลาดทางโลกคือความโง่ในทางธรรม
เพราะความฉลาดทางโลกนั้น ประกอบไปด้วยอัตตา เป็นไปเพื่อการยกตนข่มผู้อื่น เป็นไปเพื่อการโอ้อวด
เป็นไปเพื่อความเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น ซึ่งสิ่งเหล่านั้นล้วนแล้วนำมาซึ่ง กิเลส ตัณหา อุปาทาน เป็นการเพิ่ม
พูลอกุศลจิตทั้งหลาย
:060:ความฉลาด มีปัญญาในทางธรรมนั้น คือการมีสติ สัมปชัญญะ ที่สมบูรณ์รอบรู้ในกองกิเลสทั้งหลาย
คือรู้เท่าทันกับกิเลส เห็นทุกข์ เห็นภัย เห็นโทษ เห็นประโยชน์ และไม่ใช่ประโยชน์ ในสิ่งทั้งหลาย แล้วละวางออกห่างจากอารมณ์ความรู้สึกที่เป็นอกุศลทั้งหลาย ละอัตตาและอุปาทาน ดำรงค์ทรงจิตไว้ในกุศล
บำเพ็ญตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ประกอบด้วยองค์แห่งคุณธรรม มีหิริและโอตัปปะ มีเมตตา กรุณา มุทิตา
อุเบกขา องค์แห่งคุณธรรมคุ้มครองจิต
:060:คนพาลและคนโง่ มักคิดว่าตนเองฉลาดกว่าผู้อื่น เพราะเขาเอาเปรียบผู้อื่นได้ แสวงหาประโยชน์จากผู้อื่นได้ โดยสำคัญผิดคิดว่าผู้อื่นโง่กว่าตน รู้ไม่ทันตน ซึ่งแท้จริงแล้ว เขากำลังแสดงความโง่ ความไม่รู้
ความหลงของตนให้ปรากฏออกมา ทางธรรมท่านกล่าวว่า "โง่แล้วอวดฉลาด" คนที่คิดว่าตนเองเก่ง ตนเอง
ฉลาดนั้นคือลักษณะของคนโง่ คนที่ขาดปัญญาทางธรรมจิตใจมืดดำด้วยอวิชชา
"แกล้งโง่ แกล้งบ้า" เพื่อศึกษาความรู้สึกความคิดของคนรอบข้าง ว่าเขามีความเห็นเป็นอย่างไร
เปิดโอกาศให้เขาได้แสดงความคิดเห็น ซึ่งถ้าเราแสดงตนว่าเราเก่ง เราฉลาด ไม่เปิดโอกาศให้ผู้อื่นแสดงความคิดเห็น เราจะไม่รู้เลยว่าคนรอบข้างเขาเป็นอย่างไร....
:059:อ่อน เมื่อพบ ลมแรง อย่าแข็งขืน
น้อม แล้วยืน ขึ้นสู้ สู่จุดหมาย
ถ่อม ลงหา มวลชน อย่างมงาย
ตน ควรมี จุดหมาย ต่อมวลชน
:059:เชื่อ เมื่อคิด พินิจ และศึกษา
มั่น คงมา เมื่อเห็น เป็นเหตุผล
ศรัทธา มี อย่าเพียงเห็น เป็นของตน
สามัคคี จะชี้ชน สู่ทางชัย....
:016:อ่อนน้อม ถ่อมตน เชื่อมั่น ศรัทธา สามัคคี
รวี สัจจะ
วจีพเนจร-คนรอนแรม
๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๒ เวลา๐๗.๓๐ น. ณ จุดหนึ่งของมหานครที่วุ่นวาย