ตถตาอาศรม เขาเรดาร์ บ้านบึง ชลบุรี
พฤหัสบดีที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๔
......ดั่งที่เคยกล่าวไว้ว่า...วิถีโลกและวิถีธรรมนั้นต้องจะเดินคู่กันไป...
เพราะว่าเราทั้งหลายนั้น ต้องใช้ชีวิตร่วมกันในสังคม มิอาจจะอยู่อย่าง
โดดเดี่ยวได้ ต้องมีการอาศัยพึ่งพาซึ่งกันและกัน มีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
ไม่มากก็น้อย ตามจังหวะ เวลา โอกาศ สถานที่และตัวบุคคล เป็นเหตุและผล
ซึ่งกันและกัน โลกและธรรมจึงต้องเดินคู่กันไป แต่คนส่วนใหญ่นั้นมักจะปฏิเสธ
ธรรม เพราะคิดว่าเป็นเพียงเรื่องของศาสนา เป็นลัทธิ เป็นความเชื่อเฉพาะตน
ทั้งที่จริงแล้วธรรมะนั้นคือธรรมชาติแห่งความเป็นจริง เป็นสิ่งใกล้ตัวที่เราพบเห็น
อยู่เป็นประจำในชีวิตของเรา ธรรมะคือความเป็นจริงทั้งหลายในโลกนี้เป็นสัจจธรรม
และสิ่งที่จะนำเข้าสู่ธรรมชาติแห่งความเป็นจริงนั้นก็คือคุณธรรมจิตสำนึก ความรู้สึก
นึกคิด จิตที่ยอมรับซึ่งความเป็นจริงของธรรมชาติทั้งหลายนั้น ความมีใจเป็นกลาง
ไม่เข้าข้างความรู้สึกนึกคิดเพื่อผลประโยชน์ของตนจนเกินไป ความพึงพอในในสิ่งที่มี
ในสิ่งที่เป็นและสิ่งที่ควรจะได้ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติศาสนาไหนก็ตาม ล้วนแล้วมุ่งหวัง
ที่จะชี้นำให้คนกระทำความดี ให้ทุกคนมีจิตสำนึกแห่งคุณธรรม เพื่อความสงบสุขร่มเย็น
เพื่อความเป็นไปโดยสันติ สิ่งนั้นคือแก่นแท้ของทุกศาสนา....
...ฝากสายลม...ผ่านร่มไม้...จากภูผา...บทที่ ๑๐...
....ฝากไว้เป็น ข้อคิด ให้ศึกษา
เรียนรู้ค่า แห่งชีวิต ทิศทางใหม่
สิ่งที่รู้ สิ่งที่เห็น ที่เป็นไป
อาจมิใช่ สิ่งที่คิด พินิจดู
....ควรตั้งจิต ตั้งใจ ให้เปิดกว้าง
มองทุกอย่าง ที่เห็น เพื่อเรียนรู้
เอาทุกอย่าง มาพินิจ คิดเป็นครู
จงเฝ้าดู และวิเคราะห์ ให้เหมาะควร
....มองให้เห็น ความเป็นจริง สิ่งทั้งหลาย
เห็นความหมาย ชั่วและดี นั้นมีส่วน
ทำในสิ่ง ทีดี และที่ควร
ฝึกทบทวน นึกคิด จิตใฝ่ดี
....คุณธรรม นั้นจงมี ในชีวิต
รู้ถูกผิด คุณธรรม นั้นนำชี้
จิตสำนึก ส่วนลึก นั้นใฝ่ดี
เมื่อมันมี โอกาส พึงกระทำ
....โลกและธรรม นำชี้ บทชีวิต
ก่อเกิดกิจ กันไป อย่างสม่ำ
สิ่งที่คิด สิ่งที่เห็น นั้นเป็นธรรม
เป็นประจำ ในชีวิต คิดใคร่ครวญ
....เพราะธรรมะ นั้นคือ ธรรมชาติ
ตามโอกาส และจังหวะ ตามสัดส่วน
สิ่งที่ทำ สิ่งที่คิด กิจที่ควร
ทุกสิ่งล้วน คือธรรม ตามความจริง
....ธรรมะนั้น อยู่ใกล้ ในชีวิต
ถ้าหากจิต ของเรา นั้นหยุดนิ่ง
ก็จะรู้ และเห็น ความเป็นจริง
สรรพสิ่ง ล้วนคือธรรม ที่นำพา
....คือความจริง ทั้งหลาย ในโลกนี้
สิ่งที่มี สิ่งที่เห็น ได้ศึกษา
คือความจริง ใช่สิ่งหลอก โลกมายา
คือธัมมา ธรรมชาติ ที่เป็นไป
....มันคือกฎ ของโลก ที่เป็นอยู่
มันเป็นคู่ กันมา ทุกสมัย
โลกและธรรม คู่กัน นั้นเรื่อยไป
เกิดจากใจ จากจิต ที่คิดจริง
....เมื่อใจรับ ความเป็นจริง สิ่งทั้งหลาย
พบความหมาย ในชีวิต สรรพสิ่ง
ก็จะเห็น โลกธรรม ตามความจริง
สรรพสิ่ง มันก็เป็น เช่นนั้นเอง...
...ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต..
...รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร...
๙ มิถุนายน ๒๕๕๔ เวลา ๐๗.๐๔ น. ณ ตถตาอาศรม บ้านบึง ชลบุรี