แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - one

หน้า: [1]
1
สวยงามมาก+อดทนเป็นยอด :017:

2
ขอบคุณสำหรับเรื่องที่น่าประทับใจ+บารมีของหลวงพ่อเปิ่นที่ให้ทุกได้อ่านนะค่ะ :017:

3
เมาห้ามขับนะค่ะ :017:
ไม่เมาก็ขับรถอย่างระมัดระวังถนนลื่นอันตรายค่ะ :017:

4
สวยงามสมกับที่รอคอยนะค่ะ :017:

5
รับทราบและจะปฏิบัติตามค่ะ :017:

6
ให้พระอาจารย์ท่านไปสอบถามกับที่วัดอัปสรสวรรค์ ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะค่ะ

แต่อยากให้คนที่ไปสอบถามที่วัดอัปสรรค์ดูว่า ความจริงหรือเรื่องไปมา อย่างไงกัน

ถ้าทำให้เกิดความเข้าใจผิดก็ขอโทษด้วยนะค่ะ :054: :054:



7
 *ปล.มีอ.ที่วัดบางพระ บางท่านขอคำแนะนำเรื่องฝังเข็มฝังตะรุดด้วยค่ะยังไงลองสอบที่วัดอัปสรรค์ดูนะค่ะ



เห็นคนที่วัดพูดกันคงไม่มีอะไรพิเศษก็อยากให้สอบถามกันดูคงไม่อะไรผิดนะค่ะ

ทำไมท่านโองการยันนะรังสี จับผิดจังมีอะไรหรือเปล่าค่ะ :009:

8
ก็เว็บดังกว่ามีการซื้อ ขายแลกเปลี่ยนวัตถุมงคล เลยไม่ได้ให้เครดิตในตอนแรก เห็นว่ามีรูปรอยสักสวยเลย เอามาฝากให้ชมกัน หวังว่าท่านโองการยันนะรังสี คงจะไม่โกรธ หรือสงสัยอะไรอีกนะค่ะ :017:

9
ฝังได้ทุกวันค่ะไม่เว้นวันหยุดราชการค่ะพุทธคุณบังเกิดได้ทุกวันไม่จำกัดค่ะ :017:
ที่ขอแนะอีกอย่างฝังตะกรุดใต้ตาเป็นตำหรับหลวงพ่อประเทืองอะค่ะ
เบอร์วัดอัปสรรค์กุฏิหลวงพ่อออด โดยตรง02-457XXXXงานนี้ไม่มีปิดบังค่ะ
 :017:
*ปล.มีอ.ที่วัดบางพระ บางท่านขอคำแนะนำเรื่องฝังเข็มฝังตะรุดด้วยค่ะยังไงลองสอบที่วัดอัปสรรค์ดูนะค่ะ

ขอความสีแดง หมายถึงอะไรเหรอครับช่วยอธิบายรายละเอียดด้วยครับ

ผมตามอ่านกระทู้คุณ one มาหลายกระทู้แล้ว ทำให้ไม่แน่ใจว่าเป็นสุภาพสตรี หรือเปล่า ถ้าเข้าใจผิดต้องขออภัยด้วยครับ

แต่ ผมว่ารูปในกระทู้หลายๆกระทู้ ที่นำมาโพส การย่อขนาดรูป ผมว่าผมจำไม่ผิด นะครับเหมือนเพื่อนสมาชิกท่านหนึ่งในบอร์ดเราเลยครับ

แล้วก็แปลกใจ ว่าทำไมทราบรายละอียดมากพอสมควรเลย ทั้งๆที่สมัครสมาชิกได้ไม่นานนี้เอง  สมัครสมาชิกเมื่อ: ๑๓ มี.ค. ๕๒, ๐๑:๐๓:๐๓


ONE นำข้อมูลมาจากลิงค์นี้ค่ะhttp://www.luangXXXXX.pantown.com/ ลองดูนะค่ะ :017:

ต้องขออภัยด้วยนะค่ะที่ใม่ได้ให้เครดิต :054:


ลิงค์ดังกล่าวมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนวัตถุมงคลครับ

10
สวยงามจริงๆครับ เพิ่งเคย สวยเข้ม ใหญ่อลังการงานสร้าง ค่าครูเท่าไหร่ครับ

ลองสอบถามดูที่วัดได้เลยค่ะรับรองไม่แพงหลายแบบหลาย ยันต์ ราคาถูกกว่าการที่สักแทกทู ที่สะพานพุทธมากค่ะ :017:


สวยงามมากๆครับ ความรู้แน่นๆมากเลยนะท่านไม่นานเชื่อว่าเป็นสมาชิกใหม่เลยนะท่าน

คนที่วัดทั้งหลวงพ่อออดท่านใจดี อยากรู้ว่ายันต์นี้มีพุทธคุณเป็นไง ท่านเมตตาอธิบายให้แบบ ระเอียด หรือเวลาหลวงพ่อออดมีแขกมาก ก็สอบถามอ.เล็ก อ.พลได้ค่ะท่านก็เมตตาอธิบายอย่างละเอียดว่ายันต์นี้ของอ.ท่านใดมีพุทธคุณด้านไหน ยังไงลองไปที่วัดดูค่ะได้ความรู้มากมายค่ะ :017:



สวยมากเลย สดๆ ซิงๆ ได้ใจจริงๆ
แต่ท่านความรู้แน่นดีนะ  :016: :015:
แล้วท่านสักอะไรบ้างค่ะ


ที่นีอยากสักที่แบบไหนก็ได้มีให้เลือกได้หลากหลายมีเป็นสมุดภาพยันต์ให้เลือก อยากสักหงส์ก็ได้หงส์ อยากสักเสือก็ได้เสือแน่นนอนไม่กลายเป็นอย่างอื่นแน่นนอนค่ะ ลองไปสอบถามที่วัดดูได้ค่ะ รับรองถูกใจค่ะ :017:

11
ท่าทางน้อง one จะอวบ อวบ อวบ ขาวๆ นะคะ.... หลังสวย รอยสักก็สวยค่ะ
[/quotei


รูปศิษย์พี่ที่วัดอะค่ะ  :017:

12
ฝังได้ทุกวันค่ะไม่เว้นวันหยุดราชการค่ะพุทธคุณบังเกิดได้ทุกวันไม่จำกัดค่ะ :017:
ที่ขอแนะอีกอย่างฝังตะกรุดใต้ตาเป็นตำหรับหลวงพ่อประเทืองอะค่ะ
เบอร์วัดอัปสรรค์กุฏิหลวงพ่อออด โดยตรง02-457XXXXงานนี้ไม่มีปิดบังค่ะ
 :017:
*ปล.มีอ.ที่วัดบางพระ บางท่านขอคำแนะนำเรื่องฝังเข็มฝังตะรุดด้วยค่ะยังไงลองสอบที่วัดอัปสรรค์ดูนะค่ะ

13
เตรียม พวงมาลัย 1 พวง บุหรี่กรุงทอง 1 ซอง เงินค่าครู ตะกรุดดอกละ 126 บาท
แล้วบอกท่านเลยว่า จะเอาพุทธคุณด้านไหน เสน่ห์ เมตตา คงกระพัน

ฝังครั้งแรกต้องฝัง ตระกรุดยอดสินก่อน 3ดอก เป็นตะกรุดครูอะค่ะ

ฝังเสร็จเรียกให้ดูเลยค่ะไม่วิ่งไม่ต้องกลับบ้านค่ะ :017:

14
:048: สวยมากครับ พุทธคุณด้านไหนครับ

กันคุณไสย คุณผี คุณคน และมีด้านคงกระพันแคล้วคลาด+พละกำลัง ด้วยค่ะ แบบว่าครบทุกด้านอะค่ะ :017:

15
 อาจารย์เล็ก ศิษย์เอกหลวงพ่อออด วัดอัปสรสวรรค์

กำลังรับพานครูค่ะ



เริ่มวางลายยันต์สุครีพหักฉัตรมนต์ ก่อนสัก



สักเสร็จแล้วใช้ไปประมาณ 5 ชั่วโมงกว่า ๆ ครับ ผลงานยอดเยี่ยมจริง ๆ ครับ




เสร็จแล้วก็ให้หลวงพ่อออดท่านลงคาถากำกับให้อีกครั้งหนึ่งครับ เข้มขลังสุดยอดจริง ๆค่ะ






ขอบคุณพี่ นพ สำหรับข้อมูลด้วยค่ะ :017:




17
หลวงพ่อ ออด วัดหมู หรือวัดอัปสรสวรรค์ ซอยเพชรเกษม 23 สักสวยมากค่ะ :016:

18
สวยมากค่ะ หมึกดำเข้ม หลวงพ่อออด วัดหมู ช่วยปลุกเสกอีกที :017:


19


เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา...คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้จัดให้มีการประชุมสุดยอด ?เสือลายเมฆ+เสือขนาดเล็ก? (Clouded Leopard and Small Felid Conservation Summit) จัดโดย Conservation Breeding Specialist Group (CBSG) - IUCN และ IUCN's Cat Specialist Group

 



ในการประชุมครั้งนี้ มุ่งหวังสร้างเครือข่าย ความร่วมมือในเอเชียตะวัน ออกเฉียงใต้ เพื่อการอนุรักษ์ วิจัย ประเมินสถานภาพเสือลายเมฆ และ เสือขนาดเล็ก พร้อมกับจัดทำแผนงานการอนุรักษ์ในระยะยาวของภูมิภาคนี้ โดยมีนักวิทยาศาสตร์-นักอนุรักษ์ของโลก ที่เกี่ยวข้องกับเสือลายเมฆ และ เสือขนาดเล็ก จำนวนถึง 14 ประเทศ ได้เดินทางมาร่วม ประชุมและมากที่สุดคือ ประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ซาราวัก และไต้หวัน

 



 



จากนั้นนำไปสู่ การลงนามในบันทึกความเข้าใจกัน (MOU) ระหว่าง องค์การ สวนสัตว์ สวนสัตว์แห่งชาติของสถาบันสมิธโซเนียน สวนสัตว์แนชวิลล์ และ สวนสัตว์ Point Defiance ของสหรัฐอเมริกา เพื่อช่วยเหลือในการเพาะเลี้ยงเสือลายเมฆ ณ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว

 



นายสุริยา แสงพงศ์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์เปิดเขาเขียว บอกว่า ทีมงานของ สวนสัตว์ได้เพาะเลี้ยงเสือลายเมฆมา 6 ปีแล้ว ได้ ลูกมากกว่า 30 ตัว ถือเป็น แหล่งเพาะพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมทั้งยังเป็นศูนย์รวม การศึกษา การวิจัย การจัดการ แหล่งรวมพันธุกรรม นอกถิ่นอาศัยที่สำคัญมากแห่งหนึ่งของโลก

 



เสือลายเมฆ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pardofelis nebulosa อยู่ในวงศ์ Felidae มีขนาดเล็กกว่าเสือดาว แต่ใหญ่กว่าแมวป่าชนิดอื่นๆที่พบใน ภูมิภาคอินโดจีน ลักษณะทั่วไป มีความยาวลำตัวถึงหัว 65-95 ซม. ความยาวหาง 55-80 ซม. น้ำหนักประมาณ 16-23 กก. ขาทั้ง 4 ข้างค่อนข้างสั้น แต่อุ้งเท้ามีขนาดใหญ่ ซึ่งช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการปีนต้นไม้

 



ลักษณะเด่นคือ มี ลวดลายตามลำตัวคล้ายก้อน เมฆ...จึงเป็นที่มาของชื่อ...เสือลายเมฆ ลายที่อยู่บนหลัง จะมีขนาดใหญ่กว่าบริเวณอื่นๆ โดยมี ขอบสีดำล้อมรอบ ขนตามลำตัวสีเหลืองอ่อน บางตัวอาจมีสีเทาเข้ม หรือน้ำตาลเทา ใต้ท้องมีสีอ่อนกว่าลำตัว หางยาวฟูและมีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับความยาวลำตัว มีลายจุดสีเข้มตลอดถึงปลายหาง

 



 



การกระจายพันธุ์ตั้งแต่ ประเทศเนปาล สิกขิม ภาคเหนือของ อินเดีย ภาคใต้ของ จีน ไต้หวัน ตะวันตกของ พม่า ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย เกาะบอร์เนียว และ เกาะสุมาตรา พฤติกรรมมัก ชอบอาศัยอยู่อย่างโดดเดี่ยว และ หากินตามลำพัง ส่วนมากอยู่บนต้นไม้ แต่ก็ลงมาบนพื้นดินบ้างเป็นครั้งคราว มักหา กินในเวลากลางคืน เหยื่อ ได้แก่ นก ลิง และ งูบางชนิด โดยก่อนกินเหยื่อจะเลียขนของเหยื่อเพื่อทำความสะอาด บางครั้งจะกลับมากินเหยื่อที่เหลือทิ้งไว้จนหมด ใช้เวลาตั้งท้อง 90-95 วัน ตกลูกครั้งละ 2-4 ตัว โดยลูกเสือแรกเกิดมีน้ำหนักตัวประมาณ 150-180 กรัม

 



เสือชนิดนี้มีลวดลายสวยงาม จึงตกเป็นที่ต้องการของมนุษย์เสมอๆทั้งล่าเพื่อเอาหนัง และนำไปเป็นสัตว์เลี้ยงโดยมนุษย์แล้ว ปรากฏว่า เสือลายเมฆมีพฤติกรรมที่ไม่ดุ และค่อนข้างเชื่องมาก กว่าเสือหรือแมวป่าชนิดอื่นๆ

 



สถานะปัจจุบันใน สหภาพนานาชาติ เพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากร ธรรมชาติ (IUCN) จัดให้อยู่ในสถานะ DD (Data Defficient) หมายถึง ข้อมูลไม่เพียงพอในการประเมินความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์.

 

อ้างอิงจาก ไทยรัฐ ค่ะ

20








คมชัดลึก :พระกริ่ง เป็นพระเครื่องที่คนในวงการพระเครื่องเชื่อมากันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะ "เซียนพระกริ่ง" ยังเชื่อกันอย่างแน่วแน่ว่า สามารถช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆได้ทุกโรค โดยเฉพาะโรคที่การแพทย์แผนปัจจุบันหาสาเหตุไม่พบ


และรักษาด้วยยาไม่ได้ ยามใดที่เกิดอาการเจ็บไข้ได้ป่วยจงอธิษฐานขออำนาจพุทธคุณในพระกริ่ง แล้วนำพระแช่น้ำ จากนั้นก็เอามาดื่ม บ้างก็นำมาอาบ เพื่อความเป็นสิริมงคล โรคภัย ไข้เจ็บป่วยอยู่นั้น ก็จะหายโดยอัศจรรย์

เรื่องการใช้พระกริ่งทำน้ำมนต์รักษาโรคนั้นผมเคยมีประสบการณ์ตรงด้วยตัวเองเมื่อประมาณปี ๒๕๓๐ ลูกชายคนโต (นายอรรจน์ จิระเจริญยิ่ง ปัจจุบันอายุ ๒๖ ปี) ท้องร่วงอย่างรุนแรง ต้องหามส่งโรงพยาบาล หมอเริ่มให้กินยาชุดแรกตอน ๐๒.๐๐ น. และชุดที่ ๓ ประมาณ ๐๔.๐๐ น. อาการก็ไม่ดีขึ้น นอนดิ้นทุรนทุราย จึงคิดถึงคำร่ำลือเรื่องพระกริ่งช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้ทุกโรค จากนั้นนำพระกริ่งวัดช้างปี ๒๔๘๔ ที่พกติดตัวเป็นประจำ เอาน้ำใส่แก้ว จากนั้นก็ยกมืออธิษฐานก่อนที่จะแช่พระกริ่งในแก้ว แล้วให้ลูกดื่มกิน เพียงแค่ลูกกลืนน้ำอึกที่ ๓ ลูกก็หลับสนิท ตื่นมาอีกครั้งตอนเที่ยงวันของวันรุ่งขึ้น สามารถกินข้าวได้ และออกจากโรงพยาบาลได้ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

ประวัติการสร้าง"พระกริ่ง" มีมาแต่โบราณ เริ่มขึ้นที่ประเทศทิเบต และจีน จึงเรียกติดปากว่า พระกริ่งทิเบต และพระกริ่งหนองแส พระกริ่งเป็นพระพุทธเจ้าปางมาช่วยโปรดสัตว์โลก หรือเรียกกันว่า "พระไภสัชคุรุ" เป็น พระพุทธเจ้าปางหนึ่งของลัทธิมหายาน ซึ่งหมายความว่า ทรงเป็นครูในด้านเภสัช คือ การรักษาพยาบาล ต่อมาได้แพร่หลายมาก นิยมสร้างในเขมร เรียกว่า พระกริ่งอุบาเก็ง หรือ พระกริ่งพนมบาเก็ง และพระกริ่งพระปทุมสุริยวงศ์

สำหรับพระที่มีชื่อเสียงทรงคุณวิเศษหลายประการมีผู้นิยมนับถือกันมากยิ่งในปัจจุบันนี้ยิ่งหายาก ต้องยกให้พระกริ่งวัดสุทัศนฯ เพราะ สมเด็จพระสังฆราช(แพ) ทรงสร้างไว้จำนวนไม่มาก

สาเหตุที่ทรงสร้างพระกริ่งนั้นเนื่องจากเมื่อครั้งที่ สมเด็จพระวันรัต(แดง) พระอุปัชฌาย์อาพาธเป็นอหิวาตกโรค สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ของพระองค์ทรงเคยรักษาผู้ป่วยเป็นอหิวาตกโรคให้หายได้ ด้วยการอาราธนาพระกริ่งลงในน้ำ ทำเป็นน้ำพระพุทธมนต์ แล้วโปรดให้น้ำนั้นแก่ผู้ป่วยดื่ม ปรากฏว่าหายอย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อตรัสอย่างนั้นแล้วก็อาราธนาพระกริ่งลงในน้ำ ทำน้ำพระพุทธมนต์ประทานแก่ สมเด็จพระวันรัต(แดง) เมื่อท่านฉันน้ำพระพุทธมนต์นั้นแล้วก็บรรเทาหายอาพาธเป็นปกติ

สมเด็จพระสังฆราช(แพ ติสฺสเทว) วัดสุทัศนเทพวรารามได้ทอดพระเนตรเห็นคุณวิเศษน่าอัศจรรย์ของพระกริ่งในขณะนั้นแล้ว จึงเกิดความสนพระทัย และทรงเริ่มศึกษาค้นคว้าตำราที่จะสร้างพระกริ่งเรื่อยมา จนมีความรู้ความเชี่ยวชาญในการสร้าง จนเจนจบ เมื่อจะมีการสร้างพระกริ่งขึ้นครั้งใด พระองค์จะถูกขอร้องให้เป็นผู้ชี้แจงการสร้าง และการหล่อ ในฐานะประธานการหล่อพระกริ่งเสมอมา

ตำนานความเป็นมาของพระกริ่งและพระชัยวัฒน์ของสมเด็จพระสังฆราช (แพ) ซึ่งนายนิรันดร์ แดงวิจิตร หรือ อดีตพระครูวินัยกรณโสภณ เป็นผู้เขียน มีข้อความที่น่าสนใจมากดังนี้

ตำนานความเป็นมาของพระกริ่งและพระชัยวัฒน์ "คำว่ากริ่ง" นี้ หมายความว่ากระไร สมเด็จฯ (สมเด็จพระสังฆราช แพ ติสฺสเทว) เคยรับสั่งเสมอว่า คำว่า "กริ่ง" นี้ มาจากคำถามที่ว่า "กึ กุสโล" (กิง กุสะโล) คือ เมื่อพระโยคาวจรบำเพ็ญสมณธรรมมีจิตผ่านกุศลธรรมทั้งปวงเป็นลำดับไปแล้ว

ถึงขั้นสุดท้ายจิตเสวยอุเบกขาเวทนา ปุญญาภิสังขาร (สภาพที่ปรุงแต่งกรรมฝ่ายดี ได้แก่ กุศลเจตนา) เปลี่ยนเป็น อเนญชา (สภาพที่ปรุงแต่งภพอันมั่นคง ไม่หวั่นไหว ได้แก่ ภาวะจิตที่มั่นคงแน่วแน่ด้วยสมาธิแห่งจตุตถฌาน คือ ฌานที่ ๔) เป็นเหตุให้พระโยคาวจรเอะใจขึ้นว่า "กึ กุสโล" นี้เป็นกุศลอะไร เพราะเป็นธรรมที่เกิดขึ้น แปลกประหลาด ไม่เหมือนกับกุศลอื่นที่ผ่านมา ดังนั้น คำว่า "กึ กุสโล" จึงเป็นชื่อของ อเนญชา คือ "นิพพุติ" แปลว่า "ดับสนิท" คือหมายถึงพระนิพพานนั่นเอง"

มูลเหตุที่สมเด็จพระสังฆราช(แพ) ทรงสร้างพระกริ่งและพระชัยวัฒน์นั้น มีดังจะกล่าวต่อไปนี้ คือ ทรงเล่าว่าเมื่อพระองค์ดำรงสมณศักดิ์เป็นพระศรีสมโพธิ ครั้งนั้น สมเด็จพระวันรัต (แดง) อาพาธเป็นอหิวาตกโรค สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ครั้งยังทรงเป็นกรมหมื่นเสด็จมาเยี่ยม เมื่อรับสั่งถามถึงอาการของโรคเป็นที่เข้าพระทัยแล้ว รับสั่งว่า เคยเห็นกรมพระยาปวเรศฯเสด็จพระอุปัชฌาย์ของพระองค์อาราธนาพระกริ่งแช่น้ำอธิษฐาน ขอน้ำพระพุทธมนต์แล้วให้คนไข้เป็นอหิวาตกโรคกินหายเป็นปกติ

พระองค์จึงรับสั่งให้มหาดเล็กที่ตามเสด็จไปนำพระกริ่งที่วัดบวรนิเวศแต่สมเด็จฯ ทูลว่า พระกริ่งที่กุฏิมี สมเด็จพระมหาสมณเจ้า จึงรับสั่งให้นำมา แล้วอาราธนาพระกริ่งแช่น้ำอธิษฐานขอน้ำพระพุทธมนต์แล้วนำไปถวายสมเด็จพระวันรัต (แดง) เมื่อท่านฉันน้ำพระพุทธมนต์แล้ว โรคอหิวาต์ก็บรรเทาหายเป็นปกติ ส่วนจะเป็นพระกริ่งสมัยไหนพระองค์ท่านรับสั่งว่าจำไม่ได้

สำหรับคำกล่าวว่าตำราสร้างพระกริ่งในยุคกรุงรัตนโกสินทร์นี้ เดิมเป็นตำราของสมเด็จพระนพระชัต วัดป่าแก้ว สำนักอรัญญิกาวาสสมถธุระวิปัสสนาธุระแห่งกรุงศรีอยุธยา และมาอยู่ที่สมเด็จกรมพระยาปรมานุชิตชิโนรส ศรีสุคตขัตติยวงศ์ วัดพระเชตุพนฯ จากนั้นพรมงคลทิพย์มุนี (มา) วัดจักรวรรดิราชาวาส ก่อนที่จะมาตกอยู่ที่สมเด็จพระสังฆราช (แพ) เมื่อครั้งยังทรงสมณศักดิ์เป็นพระเทพโมลี

นอกจากนี้การแสวงหาแร่ธาตุที่มีคุณต่างๆ นั้น ต้องใช้ความพยายามไม่น้อย ตามตำราการ สร้างพระกริ่งเนื้อนวโลหะสายวัดสุทัศนฯ ประกอบไปด้วย ๑.ชินน้ำหนัก ๑ บาท (๑ บาท = ๑๕.๒ กรัม) ๒.จ้าวน้ำเงิน น้ำหนัก ๒ บาท(แร่ชนิดหนึ่ง สีเขียวปนน้ำเงิน) ๓.เหล็กละลายตัว น้ำหนัก ๓ บาท ๔.บริสุทธิ์ทองแดงบริสุทธิ์น้ำหนัก๔ บาท ๕.ปรอท น้ำหนัก๕ บาท ๖.สังกะสี น้ำหนัก ๖ บาท๗.ทองแดง น้ำหนัก ๗ บาท ๘.เงิน น้ำหนัก ๘ บาท และ ๙.ทองคำ น้ำหนัก ๙ บาท มาหล่อหลอมให้กินกันดีแล้วนำมาตีเป็นแผ่นแล้วจารยันต์ ๑๐๘ กับ นะ ปถมัง ๑๔ นะ ครั้งได้ฤกษ์ยามดีก็จะพิธีลงยันต์ในพระอุโบสถต่อไป จากนั้นก็กลับนำมาหล่อตามฤกษ์อีกครั้ง

ด้วยมวลสารพิธีกรรม และฤกษ์ ทำให้พระกริ่งที่สร้างในยุคก่อนมีความเข้มขลังสามารถแช่น้ำทำน้ำมนต์มาดื่มกันรักษาโรคได้ แต่การสร้างยุคหลัง ส่วนใหญ่จะเป็นการรวบรัด แม้ว่าจะเป็นเนื้อนวโลหะครบตามสูตร แต่การจารยันต์และฤกษ์การเทนั้นไม่เป็นตามตำรา พระกริ่งยุคหลังจึงนำมาแช่น้ำทำน้ำมนต์มาดื่มกันรักษาโรคไม่ได้ดีเท่าในอดีต

ล้งท่าพระจันทร์

อ้างอิงจาก คมชัดลึก


21
คมชัดลึก : พระปิดตาแร่บางไผ่ เป็นพระปิดตา ๑ ใน ๕ ของ ชุดเบญจภาคีพระปิดตายอดนิยม ประเภทเนื้อโลหะ ที่ได้รับความเชื่อถือมานานปี และมีการเช่าหาในราคาแพงเป็นหมื่นเป็นแสนขึ้นไป








 ผู้สร้าง พระปิดตาแร่บางไผ่ คือ หลวงปู่จัน วัดโมลี จ.นนทบุรี พระเกจิอาจารย์ชาวเขมร ผู้มีวิชาอาคมแก่กล้าในทุกด้าน และมีความรอบรู้ในไสยศาสตร์ทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขับไล่ภูตผีปีศาจ ถอดถอนคุณไสย สักยันต์ รวมทั้งการปลุกเสกพระเครื่อง โดยเน้นในทุกทาง ไม่ว่าด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี หรือทางแคล้วคลาดมหาอุด รวมทั้งด้านมหานิยมมหาเสน่ห์  นอกจากนี้ ยังเชื่อกันว่า ท่านมีวิชากำบังกายหายตัว และย่นระยะทางได้อย่างมหัศจรรย์



 เมื่อมาอยู่ที่วัดโมลี ท่านได้รู้ด้วยญาณวิเศษว่า ในคลองบางคูลัด ต.บางไผ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี มีแร่วิเศษชนิดที่มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเอง ท่านจึงได้ติดตามค้นหาจนพบ และได้นำแร่ชนิดนี้มาสร้างเป็นพระปิดตามหาอุดขึ้น เรียกกันว่า พระปิดตาแร่บางไผ่ ตามชื่อของตำบลที่ค้นพบแร่ชนิดนี้ นับเป็นตำนานการสร้าง พระปิดตาด้วยเนื้อแร่วิเศษ เป็นครั้งแรกของเมืองไทย

 ทุกวันนี้ พระปิดตาแร่บางไผ่ ของแท้ ที่ หลวงปู่จัน จัดสร้างขึ้นเมื่อกว่า ๑๐๐ ปีมาแล้ว หายากยิ่ง

 ต่อมาเมื่อปี ๒๕๓๖ พระอาจารย์สมศักดิ์ ฐิตสกโข วัดนครอินทร์ อ.เมือง จ.นนทบุรี ได้นิมิตถึงเรื่องแหล่งแร่บางไผ่ ที่หลวงปู่จันได้นำมาสร้างพระปิดตา จึงพร้อมด้วยคณะศิษย์เดินทางไปค้นหาสถานที่ดังกล่าว ก็พบก้อนแร่ตามที่นิมิตจริงๆ

 จากนั้นจึงได้ประกอบพิธีบอกกล่าวหลวงปู่จัน พร้อมทั้งเจ้าที่เจ้าทาง เทพเทวาผู้อารักษ์ผืนแผ่นดินนั้น เพื่อขออนุญาตนำแร่ที่ได้นี้ไปสร้างพระปิดตา เป็นการสืบพระศาสนา และนำรายได้บำรุงพระพุทธศาสนาต่อไป

 นับเป็นครั้งแรก ในรอบกว่า ๑๐๐ ปี ที่มีสร้างพระปิดตาด้วยเนื้อแร่บางไผ่ อันเป็นการสืบสานตำราของ หลวงปู่จัน โดยตรง

 พระอาจารย์สมศักดิ์ กล่าวว่า การสร้างพระปิดตาแร่บางไผ่ เมื่อปี ๒๕๓๖ ได้รับความสำเร็จอย่างยิ่ง เพราะอย่างน้อยก็ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยได้รู้จัก "แร่บางไผ่" กันมากขึ้น รวมทั้งผู้ที่ไม่มีโอกาสได้เป็นเจ้าของ พระปิดตาแร่บางไผ่ ของเก่าที่หลวงปู่จันได้สร้างไว้ เพราะมีราคาแพง ไกลเกินเอื้อมที่ชาวบ้านทั่วๆ ไปจะสามารถเช่าหา ก็มาได้ พระปิดตาแร่บางไผ่ รุ่น ย้อนยุค ที่พระอาจารย์สมศักดิ์ ได้สร้างขึ้นด้วยพิธีกรรมเดียวกัน

 กาลเวลาผ่านมา ๑๖ ปี พระปิดตาแร่บางไผ่ (รุ่นย้อนยุค) ส่วนใหญ่ได้หมดไปจากวัดนครอินทร์ พอดีช่วงเวลาดังกล่าว พระอาจารย์สมศักดิ์ได้เดินทางไปพำนักอยู่ที่ จ.สกลนคร เพื่อบูรณปฏิสังขรณ์วัดร้างแห่งหนึ่ง จนสำเร็จเสร็จสมบูรณ์ไปแล้วทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ ฯลฯ ท่านจึงได้เดินทางกลับมาจำพรรษาอยู่ที่ วัดนครอินทร์ อันเป็นถิ่นฐานบ้านเกิดของท่านอีกครั้งหนึ่ง

 พระอาจารย์สมศักดิ์ กล่าวว่า "การกลับมาอยู่วัดเก่าที่เคยพำนักมาก่อน ก็อยากจะบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะต่างๆ ที่ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ให้อยู่ในสภาพที่ดีขึ้น เพื่อเป็นการตอบแทนพระคุณของพระศาสนา ตามหน้าที่ของสงฆ์ ขณะเดียวกัน บรรดาลูกศิษย์เก่าๆ และชาวบ้านที่ล้วนเป็นญาติพี่น้อง ที่ยังมีความระลึกถึงกันอยู่ ก็มาเรียกร้องให้สร้างพระปิดตาแร่บางไผ่ ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง อาตมาจึงได้สนองศรัทธาเจตนาอันเป็นกุศลของญาติโยมทั้งหลาย ด้วยการสร้างพระปิดตาแร่บางไผ่ ตามสูตรเดิม และพิธีกรรมเหมือนเมื่อปี ๒๕๓๖ ทุกประการ"

 การจัดสร้าง พระเนื้อแร่บางไผ่ พระอาจารย์สมศักดิ์และคณะศิษย์ได้นำแร่บางไผ่ที่ค้นพบ มาตำบดให้ละเอียด เป็นผงแล้วใส่ลงในเบ้าหลอม ตามกรรมวิธีแบบโบราณ  จากนั้นได้นำเนื้อแร่ที่หลอมละลายเป็นโลหะเหลวแล้ว เทลงในแม่พิมพ์พระทีละองค์ เมื่อเนื้อแร่เย็นลง ก็นำองค์พระออกมาตกแต่งให้สวยงามเรียบร้อยทีละองค์ โดยสร้างกันเองภายในบริเวณวัด มิได้ไปจ้างโรงงานที่ไหนสร้างให้ ทั้งนี้เพื่อให้ถูกต้องตามตำราเดิมทุกอย่าง และเป็นการควบคุมการสร้างพระด้วยเนื้อแร่บางไผ่ล้วนๆ โดยไม่มีเนื้อโลหะอื่นเจือปนเลย

 พระเนื้อแร่บางไผ่ ที่จัดสร้างครั้งนี้ ประกอบด้วย ๑.พระปิดตาแร่บางไผ่ จำนวนสร้าง ๕,๐๐๐ องค์ (ขนาด ๒x๒.๔ ซม.)

 ๒.เหรียญหล่อหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน เนื้อแร่บางไผ่ พิมพ์จอบใหญ่ (ขนาด ๒x๒.๔ ซม.) จำนวนสร้าง ๕,๐๐๐ องค์  ชนิดฝังตะกรุดเงิน จำนวนสร้าง ๓,๘๐๐ องค์

 ๓.ตะกรุดตัน เนื้อแร่บางไผ่ จำนวนสร้าง ๔,๔๐๐ ดอก (ยาว ๓.๕ ซม.)

 สำหรับ เหรียญหล่อหลวงพ่อเงิน เนื้อแร่บางไผ่ ฝังตะกรุดเงิน รุ่นนี้นับเป็นการสร้างพระเนื้อโลหะหล่อโบราณที่มีการฝังตะกรุดเป็นครั้งแรกของเมืองไทย เพราะยังไม่เคยมีวัดใด สำนักใด สร้างได้มาก่อนหน้านี้ เพราะกรรมวิธีในการฝังตะกรุดนั้นมีความซับซ้อนมาก และทำได้ยากยิ่ง

 ในส่วนของ ตะกรุดตัน เนื้อแร่บางไผ่ เป็นตะกรุดหล่อแบบโบราณ มีความโดดเด่นเป็นของตัวเอง ไม่เหมือนของที่ไหน และนับเป็น ตะกรุดตัน รุ่นแรก ของวัดนครอินทร์ โดยได้รับความเมตตาจาก หลวงพ่อตัด วัดชายนา จ.เพชรบุรี พระเกจิอาจารย์ผู้โด่งดังด้านตะกรุดโทนแห่งยุค ได้อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวให้ด้วย

 จึงนับเป็นโชคดีของนักสะสมอีกครั้งหนึ่ง ที่มีโอกาสได้เป็นเจ้าของ พระเนื้อแร่บางไผ่ล้วนๆ ซึ่งไม่ค่อยมีการจัดสร้างกันบ่อยนัก

 สำหรับปัจจัยที่ได้จากการทำบุญครั้งนี้ วัดนครอินทร์จะนำไปสมทบทุนงานก่อสร้างศาลา ที่สร้างค้างอยู่ ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

 พิธีพุทธาภิเษก ในวันเสาร์ที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๒ เวลา ๑๕.๐๐ น. ณ วัดนครอินทร์ โดยพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายท่านนั่งปรกปลุกเสก อาทิ หลวงพ่อตัด วัดชายนา, หลวงพ่อเจือ วัดกลางบางแก้ว, หลวงพ่อรวย วัดตะโก, หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว, หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน, หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม ฯลฯ (หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน ได้อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวเป็นกรณีพิเศษ เมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๒)

 สั่งจองบูชาได้ที่ วัดนครอินทร์ ถนนพิบูลสงคราม ใต้สะพานพระราม ๕ ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ๑๑๐๐๐ โทร.๐๘-๐๔๑๔-๐๐๕๗, ๐๘-๑๔๐๙-๑๘๒๗ ต่างจังหวัดสอบถามโทร.๐๘-๑๘๐๔-๒๒๘๖

"บุญนำพา"

อ้างอิงจาก คมชัดลึก

22
บทความ บทกวี / ตอบ: ไม่รู้จริงป๊ะ
« เมื่อ: 07 เม.ย. 2552, 06:39:37 »
ชอบคำสอนนี้มากค่ะ :017:

คำสอนพุทธทาสภิกขุ
?เขามีส่วนเลวบ้างช่างหัวเขา               จงเลือกเอาสิ่งที่ดีเขามีอยู่

เป็นประโยชน์โลกบ้างยังน่าดู   สิ่งทีชั่วอย่าไปรู้ของเขาเลย

จะหาคนมีดีโดยส่วนเดียว                  อย่ามัวเที่ยวค้นหาสหายเอ๋ย

เหมือนตามหาหนวดเต่าตายเปล่าเลย  ฝึกให้เคยมองแต่ดีมีคุณจริง?

23
รักมากไป...ไม่ดีค่ะ

รักน้อยๆ แต่นานๆ น่านก็แย่งซีน พี่เป้าสายัณ...


เมื่อใดก็ตาม.. คุณคิดว่า เขา หรือ เธอ คือส่วนหนึ่งของชีวิตคุณ.... แบบว่า จริงๆ...

ขาดเขาไม่ได้แน่นอน...

หรือในทางกลับกัน..... เขา หรือ เธอ กำลังเอื้อนเอ่ย ออกมาว่า..... คุณคือส่วนหนึ่งของชีวิตผม/ฉันไปแล้ว....

จงตอบรับ... เขา... ให้มาอยู่ในหัวใจคุณ....

แล้วคุณจะพบว่า....

การมีชีวิตอยู่....ในโลกนี้.... มีค่ามาก!



คุณcho presley กล่าวได้ประทับใจมากเลยค่ะดุจอยู่ในห้วงแห่งความรักเลยนะค่ะ :095:

24
หล่อๆๆอย่างคุณโจ้ไม่น่าจะเหงานะค่ะ น่าจะมีพวกสาวแก่ แม่หม้าย แฟนเผลอ มาชอบเต็มไปหมดแน่นเลย หรือคุณโจ้ ชอบแบบแบบนักศึกษาอะค่ะ :080:

25
แล้วพอมีคาถาจิ้งจกคู่ของวัดบางพระบ้างไหมค่ะ :017:

26
สวยมากเลยค่ะไม่เหมือนบ้างอ.บ้างรูปสักเป้นไข่ปลา  :009:

27
ขอบคุณสำหรับข้อความเติมกำลังใจขึ้นมาได้มาเลยค่ะ :017:

28
สวยดูแปลกตาดีค่ะ ว่าแต่สร้างพ.ศไหนค่ะ :017:

29
กุมารดูดรกของหลวงพ่อแช่มวัดตาก้อง ได้ยินชื่อมานานแล้วค่ะ สวยมากองค์ละเท่าไหร่ค่ะอยากได้เหมือนกันค่ะ 15;

30
อีกหนึ่งของขึ้นชื่อของ วัดชายนา นอกจาก ปลัด ตะกรุด ว่าแต่ที่วัดมีอีกไหมค่ะ :017:

31
เยี่ยมมาค่ะ ทั้งมวลสารและผู้เสก ว่าแต่ที่วัดหมดยังค่ะ :017:

32
สุขสันต์วันเกิดคุณเอ ศิษย์รักหลวงพี่ญา ขอให้คุณเอมีความสุขตลอดปีตลอดไป :017:

33
รูปสวย ข้อมูลแน่ขอบคุณมากนะค่ะ :017:

35
ขอตอบแบบ ไม่ สีแดง และเหลือง พระต้องตัดทางโลภเพื่อหาทางหลุดพ้นครับ ไม่ควรไปยุ่ง แต่งานนี้ พระไปร่วมก็ไม่สมควรนะครับ ผิดศีลแน่นอนครับ

เคยเห็นหลวงพี่ท่านนึงที่จำวัดอยู่วัดปรินายก กทม เดินขบวนบ่อยๆๆ องค์ที่มา วันไหว้ครู อ้วนๆๆ ที่ลงทองอะค่ะ   :017:

36
:053: :053: ความหมายดีจริงๆ ครับ ผมชอบสีน้ำเงิน ไม่มีเนอะ ฟ้าแทนละกัน :005: :005:
[/quote


















นึกว่าชอบ2สีชมพู+ฟ้าซะอีกค่ะ :009: :009:

37
 
 

ที่มาว่าทำไมวันจันทร์ต้องสีเหลือง อังคารสีชมพู พุธสีเขียว พฤหัสบดีสีส้ม ศุกร์สีฟ้า เสาร์สีม่วง จากการสืบค้นดูแล้วไม่ปรากฏว่าใครเป็นผู้กำหนดสีประจำวันเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เรามีคำอธิบายเกี่ยวกับสีประจำวันในแต่ละวันว่ามีความหมายอย่างไรบ้างมาฝาก ดังนี้




สีแดงเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง สุขภาพ และแรงปรารถนา เชื่อว่าสีแดงจะมีพลังอำนาจสูงสุดเมื่ออยู่คู่กับคนที่เกิดวันอาทิตย์ สีแดง อาจหมายถึงโชคดีสำหรับคนที่เริ่มทำธุรกิจใหม่ คู่แต่งงานและความอายุยืน ในด้านสุขภาพสีแดงยังช่วยในการไหลเวียนโลหิตเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้ยืนยาวนานอีกด้วย




สีเหลืองมักถูกอ้างถึงความเจิดจ้า ความสว่างไสว ความเชื่อใจ พระอาทิตย์รังสีสีเหลืองที่ให้ชีวิตแก่สิ่งมีชีวิต สีเหลืองเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตใหม่และชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยความสว่างไสว สีเหลืองยังช่วยชำระจิตใจที่ยังช่วยให้ตัดสินใจได้ดีที่สุดสำหรับเรื่องธุรกิจและชีวิตที่นำไปสู่ความอุดมสมบูรณ์




สีชมพูทำให้แรงปรารถนาของสีแดงอ่อนโยนลงกลายเป็นสีแดงอันอ่อนละมุน สีชมพูช่วยหัวใจในตัดสินใจได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนรักเพราะสีชมพูหมายถึงความรักที่คงทนและไร้เงื่อนไข รวมถึงมิตรภาพ ในเรื่องสุขภาพสีชมพูสร้างความสมดุลระหว่างสุขภาพกายและใจ


 

สีเขียวเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองและสะท้อนพลังอันมีชีวิตชีวาของชีวิต ทำให้สิ่งมีชีวิตเจริญเติบโต เชื่อกันว่าสีเขียวมีคุณลักษณะอันเป็นประโยชน์หลายประการ ยกตัวอย่างเช่น ช่วยให้ตาผ่อนคลาย เพิ่มพูนความฉลาดและกล้าหาญและช่วยป้องกันจากโรคร้าย และนำพาสู่ชีวิตอมตะ สีเขียวจะมีพลังสูงสุดเมื่อคู่กับคนที่เกิดวันพุธ




สีส้ม
เป็นสีที่ดีที่สุดสำหรับคนที่เกิดวันพฤหัสบดี สีส้มแสดงถึงความหวังและความอิ่มเอิบ ช่วยเปลี่ยนโลกให้กลายเป็นสถานที่อันชวนหลงใหลสำหรับการอาศัยอยู่ ช่วยส่งเสริมและนำมาซึ่งความหวังแก่ผู้คนที่โชคร้ายในชีวิต นอกจากนั้นยังเชื่อว่าสีส้มช่วยเผยความรู้สึกที่เก็บไว้ซึ่งเป็นการดีเมื่อได้แสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา ในด้านสุขภาพ สีเขียวช่วยป้องกันการติดต่อจากเชื้อโรคและทำให้สุขภาพดี




สีฟ้าแสดงถึงสันติภาพ ความสงบและความฝัน ช่วยให้การแต่งงานราบรื่นและยืนยาว ซึ่งจะทรงพลังที่สุดเมื่ออยู่กับคนที่เกิดวันศุกร์ สำหรับคนที่ทำธุรกิจ สีฟ้าช่วยยุติการทะเลาะเบาะแว้ง สร้างหุ้นส่วนใหม่และช่วยให้มีความกล้าในการทำสิ่งที่ยากลำบาก ช่วยรักษาอาการขี้เกียจและเสริมสร้างพลังทางใจด้วย



สีม่วงเป็นการผสมผสานระหว่างแรงปรารถนาของสีแดงและความสงบเงียบของสีฟ้า สีม่วงเป็นที่รู้จักสำหรับความลึกลับ ความรุ่งโรจน์ สีม่วงเป็นสีที่เป็นประโยชน์สำหรับคนที่เคร่งเครียดและบ้างานเพราะช่วยในการควบคุมอารมณ์ ผ่อนคลายจิตใจและปลดปล่อยจากภาระผูกพันเนื่องจากการวิตกกับชีวิต จากหลายความเชื่อ สีนี้เหมาะสำหรับคนที่เกิดวันเสาร์

ว่าแต่เพื่อนเกิดวันอะไรกันบ้างค่ะ :027:
   
 :017: :017: :017: :017: :017: :017: :017: :017: :017: :017: :017: :017: :017: :017: :017: :017: :017:

38
น่ารักจังค่ะ กุมารขี่วัวหายากค่ะ :017:

39
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ :017:

41
ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆๆนะค่ะ :017:

43
เคยไปที่วัดหลายครั้งเหมือนกันค่ะ หลวงปู่ใจดีมากแจกลูกอมชานหมากกับเงินก้นถุง แต่ไม่เคยได้จารวัตถุมงคลแบบท่านเด็กนอกวัดเลย ส่วนใหญ่ไปเสาร์ อาทิตย์คนเต็มกุฏิทุกทีเลยค่ะ  :017:

44
ของดีค่ะ  :053: ตะกรุดสามห่วง ขึ้นตั้งแต่หลวงพ่อเต๋รุ่นนี้แช่น้ำหมากหลวงปู่แย้มด้วยสุดยอดค่ะ :016:

45
ชานหมากของท่านศักดิ์สิทธิ์มากค่ะ :053:

46
กราบหลวงปู่ทั้งสองค่ะ :054:

47
ขุนแผนหลวงพ่อชื่น วัดตาอี รุ่นแรก จริงๆ ชื่อมะรุมมะตุม ไม่ใช่หรือ ค่ะน่าจะโดนหลอกแล้วค่ะ :070:

48
ท่านเยื่ยมมากค่ะเป็นผุ้ใหญ่ในดวงใจ :026:

49


กำลังได้รับความนิยมจากนักสะสมอย่างมากอยู่ในขณะนี้ เครื่องรางของขลัง "หนุมานสะกดทัพลังกาสุกะ" ผลงานของพระอาจารย์แดง โอภาโส วัดไร่ จ.ปัตตานี พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง เจ้าตำรับตะกรุดปลอกลูกปืนอันลือลั่น



"หนุมานสะกดทัพลังกาสุกะ" สร้างจากเค้าโครงเรื่องรามเกียรติ์ พระเอกของเรื่อง พระราม คือ พระนารายณ์อวตาลลงมาเกิดเพื่อปราบอสูรและยักษ์ฝ่ายอธรรม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้มีความชั่วร้ายกระทำสิ่งที่ผิดๆ แม้จะมีความเก่งกล้าสักเพียงใดก็ต้องพ่ายแพ้แก่ฝ่ายผู้ที่กระทำความดี ทำสิ่งที่ถูกต้อง แม้ฝ่ายธรรมะจะมีกำลังน้อยกว่าก็ตาม

วีรบุรุษของเรื่องคือ "พระราม" กษัตริย์ผู้ปกครองด้วยคุณธรรมเป็นลูกที่มีความกตัญญู เป็นสามีที่ดี โดยมี "หนุมาน" ทหารเอกผู้มีฤทธิ์มากเป็นผู้ปฏิบัติการในการนำทัพทำให้พระรามรบชนะต่อทศกัณฐ์ในที่สุด
 


ต่อมาเมื่อศาสนาฮินดูได้เผยแผ่เข้ามาสู่ประเทศไทยจึงได้มีการสร้างรูปจำลองหนุมานขึ้น เป็นเครื่องรางเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแห่งชัยชนะและความสำเร็จตลอดกาล หนุมาน หรือพญาอนุชิตจักรกฤษพิพัทพงศา เป็นลิงเผือก (กายสีทอง) มีลักษณะพิเศษคือมีเขี้ยวแก้วอยู่กลางเพดานปาก มีกุณฑลขนเพชร สามารถแผลงฤทธิ์ให้มีสี่หน้าแปดมือ และหาวเป็นดาวเป็นเดือนได้ ใช้ตรีเพชร (สามง่าม) เป็นอาวุธประจำตัว มีความเก่งกล้ามาก สามารถแปลงกายหายตัวได้ ทั้งยังอยู่ยงคงกระพันแม้ถูกอาวุธของศัตรูจนตาย เมื่อมีลมพัดมาก็จะฟื้นขึ้นได้อีก เพราะหนุมานเป็นลูกของพระพาย (ลม) กับนางสวาหะ

โดยกล่าวว่าเมื่อครั้งนางสวาหะถูกมารดาสาปให้ยืนตีนเดียวเหนี่ยวกินลม พระอิศวรจึงบัญชาให้พระพายนำเทพอาวุธของพระองค์ไปซัดเข้าปากของนางสวาหะ นางสวาหะจึงตั้งครรภ์และคลอดบุตรเป็นลิงเผือกเหาะออกมาจากปาก ได้ชื่อว่าหนุมาน จึงถือว่าพระพาย (ลม) คือพ่อของหนุมาน

ลักษณะที่สำคัญที่สุดของหนุมานคือ เมื่อถวายตัวเป็นทหารเอกของพระรามแล้วมีความจงรักภักดีต่อเจ้านายพระราม โดยทำงานให้อย่างถวายหัวไม่ย่อท้อ แม้งานที่ได้รับมอบหมายจะมีอุปสรรคเพียงใดก็ตาม จะถูกตำหนิหรือทำงานแล้วไม่มีใครเห็นความดีก็จะไม่ย่อท้อ ช่วยพระรามรบกับยักษ์ฝ่ายอธรรมทั้งหลายจนเสร็จสิ้นสงคราม

โบราณาจารย์จึงคิดประดิษฐ์สร้างเครื่องรางเป็นรูปหนุมานจำลองแล้วปลุกเสก เพื่อเป็นขวัญกำลังใจมอบแก่ลูกศิษย์ลูกหา เป็นเครื่องรางที่ถือว่าสุดยอดแต่อดีตกาล แม้ในยุครัตนโกสินทร์ก็มีคณาจารย์สร้างขึ้นจนโด่งดัง เช่น หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน, หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว เป็นต้น

ส่วน "ลังกาสุกะ" คืออาณาจักรโบราณที่เก่าแก่ของไทย ดังนั้น จึงเชื่อว่าอาณาจักรลังกาสุกะนั้นเป็นอาณาจักรที่เกิดก่อนอาณาจักรสุโขทัยและอาณาจักรศรีวิชัย เพื่อเป็นการสืบสานตำนานพิธีกรรมโบราณอันศักดิ์สิทธิ์โดยถือเอาคืนจันทร์วันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 ตามตำราฤกษ์ พระอาจารย์แดง โอภาโส วัดไร่ จ.ปัตตานี จึงได้จัดสร้างหนุมานทหารเอกของพระรามขึ้น โดยท่านได้ปลุกเสกเดี่ยว 3 วาระ เพื่อเป็นสุดยอดเครื่อง

รางแห่งชัยชนะและความสำเร็จตลอดกาล ทุกองค์มีโค้ดและหมายเลขกำกับ บูชาได้ที่วัดไร่ และศูนย์พระเครื่องชั้นนำทั่วไป

สวยแปลกดีค่ะ :017:
แหล่งที่มาwww.khaosod.co.th

50
นับถือหลวงพ่อสำอางค์ มากค่ะเป่าทีขนลุกทั้งตัวเลยค่ะ :054:

51
รับทราบค่ะ

52
กราบนมัสการ ขอให้หลวงพ่อสำอางค์มีสุขภาพแข็งแรงนะค่ะ :054

53
ชอบสีผึ่งเหมือนกันค่ะ แต่ต้องรออีก2-3อาทิตย์แย่จัง 15;

54
แบบบูชา





รุ่นแรกเมฆพัตร์




รุ่นสองเนื้อเงิน




ไม่ชอบของเลียนแบบค่ะ :095:

หน้า: [1]