เรื่อง คนปลุกพระ โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
--------------------------------------------------------------------------------
ผู้ถาม>>>> มีคนเขาฝากมาให้ถามว่า ทำไมคน "ปลุกพระ" จึงต้องมีอาการดึ้นกระแด่ว ๆ ครับ..?
หลวงพ่อ>>>> เดี๋ยวถามก่อน...ปลุกพระหนุ่มหรือพระแก่..?
ผู้ถาม>>>> ไม่ใช่อย่างนั้นหลวงพ่อ พระที่ห้อยคอน่ะ
หลวงพ่อ>>>> อ๋อ...ไม่บอกว่าพระอะไร
ผู้ถาม>>>> ทำไมถึงมีอาการสั่นต่าง ๆ นานา ครับ...?
หลวงพ่อ>>>> เป็นเรื่องสมาธิของเขานะ สมาธิในตอนนั้นเขาเข้าถึง อุเพงคาปีติ ก็สั่นพั่บ ๆ แล้วก็มีอาการต่าง ๆ เวลาปีติมันจะสั่นมาก แล้วบางคนอารมณ์ไม่ถึงอุเพงคาปีติมันก็ไม่สั่น นั่นสงสัยปลุกพระหรือปลุกคนก็ไม่รู้ คนสั่นไม่ใช่พระสั่น อ๋อ...พระอยู่ในมือพลอยสั่นไปด้วยนะ (หัวเราะ)
ผู้ถาม>>>> อย่างนี้แสดงว่าเกี่ยวกับตัวคน ไม่ใช่เกี่ยวกับองค์พระ ใช่ไหมครับ..?
หลวงพ่อ>>>>ก็ต้องตัวคน คือกำลังของพระท่านทำแรงขนาดไหนมันก็เหมือนกัน บางทีเขาปลุกลูกเสือ ถ้าขอเสกไว้ในด้านนั้น เขาแสดงอาการคล้ายเสือก็มี แต่ปลุกลูกหมานี่ไม่เคยเห็น
ผู้ถาม>>>> (หัวเราะ) ตอนเป็นนักเรียนเคยปลุกที โอ...ไปเลิกเอาตี 2 เหนื่อยแทบแย่ แต่เขาว่าปลุกพระนี่ดีนะ ถ้าไม่ปลุกเขาว่าไม่มีฤทธิ์ไม่มีเดช
หลวงพ่อ>>>> อ้าว...ไม่ปลุกท่านก็นอนหลับเรื่อยสิ ไปว่าอะไรท่านได้ล่ะ เอาพระมาป้องกันตัว เลี้ยงข้าวท่านบ้างหรือเปล่าเอาแต่ปลุกอย่างเดียว เดี๋ยวทานก็โกรธ เตะชัก
ผู้ถาม>>>> พระที่ห้อยคอนะ หลวงพ่อ
หลวงพ่อ>>>> ไม่รู้ล่ะ ไม่เลี้ยงข้าวไม่มีแรงตีกับเขานะ นอนหลับข้าวไม่ได้กิน ต้องเลี้ยงข้าวท่าน เมื่อกี้ถามว่ายังไงนะ...?
ผู้ถาม>>>> คือเขาว่าพระเครื่องรางของขลัง ถ้าไม่ปลุกไม่มีผล จริงไหมครับ...?
หลวงพ่อ>>>> อย่างนี้แสดงว่าใจไม่มั่นคงจริง คือว่าไม่ได้ถวายความเคารพจริง คำว่า "ปลุก" ก็คือ "อาราธนา" นี่เองใช่ไหม...ถ้าเขาไม่อาราธนาแสดงว่าจิตไม่ยอมรับ ถ้าเขาทำมาด้วยจิตก็ต้องรับด้วยจิต ถ้าสักแต่ว่าคล้องก็มีผลน้อยหน่อย
ผู้ถาม>>>> เวลาจะอาราธนานี่ส่วนมากคอนโบราณเขาแนะนำว่ายังไงครับ..?
หลวงพ่อ>>>> เอ...ฉันก็เกิดไม่ทันโบราณ ไอ้ตอนที่เกิดสมัยโบราณก็ลืมหมดแล้ว แต่หลวงพ่อปานท่านใช้แบบนี้นะ "อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่ มะอะอุ นี้เถิด" จำได้ไหม...ได้คาถาปลุกพระแล้วต่อไปนี้จะให้ "คาถาปลุกคน"
ผู้ถาม>>>> มีอีกหรือครับ
หลวงพ่อ>>>> มี
ผู้ถาม>>>> ว่ายังไงครับ หลวงพ่อ...?
หลวงพ่อ>>>> อัปปมาเทนะ สัมปาเทถะ (ท่านทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม) ถ้าประมาทไม่ปลุกเมื่อไร ตายเมื่อนั้น.