กระดานสนทนาวัดบางพระ
หมวด มิตรไมตรี => รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) => ข้อความที่เริ่มโดย: hut ที่ 18 ก.ค. 2553, 09:34:57
-
วันนี้ผมได้มีโอกาศไปกราบพระอาจารย์พรสิทธิ์ วัดสว่างอารมณ์ มาครับ เพื่อนผมเขาอยากสักกับพระอาจารย์พรสิทธิ์ครับ เลยไปหาท่าน ท่านอัธยาศัยดีมากครับ วันนี้ผมเช่าวัตถุมงคลไปเยอะมากครับ ช่วงนี้ท่านจะหาทุนสร้างโบส์ พอเพื่อนผมสักเสร็จ(สักน้ำมันครับ ) เลยถามท่านเรื่องสักทับได้ไหมครับ ท่านก็ตอบว่า ถ้าจะสักทับควรที่จะขอขมาครูบาอาจารย์ สักทับแล้วจะเป็นการกักขัง ท่านก็เล่าให้ฟังครับ ว่าบางคนสักทับไปแล้วเกิดอาการเพี้ยนก็มีครับ ถ้าจะสักทับต้องสักให้ครบ 7 อาจารย์ จะได้เป็น 7 ชั้น แต่ห้ามเกินครับจะไม่ดี ทางที่ดีไม่ควรที่จะสักทับ
ก็ขอฝากเตือนเพื่อนที่จะไปสักทับนะครับให้ระวังเรื่องนี้ดีๆนะครับ แล้วควรที่จะถามครูบาอาจารย์ด้วยนะครับ ว่าเราสักไปแล้วจะไปสักทับอีกได้หรือไม่ ต้องขออนุญาติจากอาจารย์สักด้วย เพราะ บางตำราวิชาจะแรงครับ
-
ผมเองก็ทับมาเยอะเพราะสักน้ำมัน ก็ยอมรับว่า แรกๆก็แรงดีนะ พอหลังๆ กลัวไปหมดทุกอย่างทำอะไรก็แปลกๆ
แล้วแต่สายวิชาจริงๆครับ แต่ถ้าสัก แบบผม เช่น โอม พระพิฆเนศ หรือตรีศูรย์พระอิศวร แล้วสักทับ ทำให้จิตใจเราลอยๆครับ ทางแก้คือ มาหาพระอาจารย์ที่บางพระแล้วบอกอาการท่าน ท่านจะเมตตาเลือกยันต์สักกำกับให้ครับ
แต่บางสายก็สักทับกันได้ แล้วแต่สายครับ
-
ขอบคุณครับ................. :090: :090: :114: :090: :090:.....................
-
ใช่ครับทางภาคเหนือ อาจารย์ที่จะสักให้เราท่านจะถามก่อนว่าสักทับได้ไหม
(เพราะท่านเป็นห่วงครับเลยต้องถาม) ถ้าเราตอบว่าได้ท่านจะเร่มท่อง สุณาตุฯ หรือ ขอขมาปิ๊สนู(ทางเหนือเขาเรียกกันครับ)หรือครูของเขาก่อน
แล้วจึงลงมือสักครับ เหมือนกับท่านตุ๊ลุงสิทธิ์กล่าว สักควรสักครบ 7 เพราะนั้นคือกำแพงแก้วทั้ง 7 ครับ :054:
---ขอบคุณครับที่เปิดประเด็นนี้--
ด้วยความเคารพ
-
ข้อแนะนำครับ เจอด้วยตัวเอง
สักยันต์หลายสาย มีข้อแนะนำง่ายๆ สำหรับคนสักน้ำมัน เหมือนกัน
1.1 สักแล้วถ่ายรูป แชะๆ ตรงจุดที่มีรอยสักน้ำมัน
1.2 อย่าพยายามสักทับกัน ถ้ามาจากสายบางพระแล้วไปสักสายอื่น
เพราะบางสาย ถ้าสักทับอาจารย์จะปวดหัวเอง แล้วก็จะทำให้เราปวดหัวไปด้วย ปวดเหมือนไมเกรน
หรือ ปวด ฟันลั่นถึง สมองเลย ตาจะแดงปั้ดๆ ต้อง ขอให้ ครูอาจารย์แก้
การครอบครู เป็นสิ่งดี แต่การรับขันอย่าไปรับ เช่นมีร่าง ถ้ายังไม่ชัดเจน
ร่างมี2แบบ
1.1.ร่างทรง เรามีความผู้พันธ์ กับท่านนั้นๆ เช่น พระปิยะ หรือเสด็จเตี่ย (ผู้ที่มามักเป็นบริวารท่านท่านอยู่เบื้องบนเฝ้าดูเราเสมอครับเมื่อเราถวายตัวเป็นบริวารท่านท่านดูแลเราเสมอ) ส่วนพ่อปู่ฤษี หรือวิทยาธร ก็คือครูอาจารย์ปกติที่ท่านละสังขารไปแล้ว ที่เราเชิญท่านมาเวลาไหว้ครูหรือทำพิธีใดๆ ด้วยคามเคารพรักในท่าน ท่านก็เมตตาเรา ช่วยกันสร้างสิ่งดๆเสริมกุศล บารมีให้ท่านด้วย
1.2.กับร่างผ่าน ร่างผ่านคือ คุณคือคนดีนะ สามารถสัมผัส จิตท่านหรือ ผู้เมตตาเหล่านั้น เราอาจจะ จิตใจดี ถือศีล
บูชาท่านบ่อยๆ ท่านผ่านมาท่านก็มาช่วย มาดูแลเรา บางครั้ง แต่ไม่ไช่ประจำ เพียงเราน้อมรำลึก ท่านก็สัมผัสจิตเราได้ จริงๆนะ ใครเคยดูถูกท่านใดไว้ให้ปรับจิตใหม่เลย คำว่าไม่เคารพแต่ไม่ลบหลู่ใช้ได้ดีเสมอ
ถ้าไม่ไช่ขันวิชา อย่าไปรับ เพราะ ท่านนั้นๆจะมีผลต่อดวงชะตาของเรา
คนที่รับ ขันร่าง หลายๆที่ จะไปตามที่ต่างๆอัตโนมัติ เหมือนเรามาช่วยคน มาช่วยท่านสร้างบารมี แต่ที่หายไปคือชีวิตส่วนตัว (อยากได้ก็ต้องยอม)
1.3 พวกแอบอ้าง (ไม่ต้องอธิบายเลยครับชัดเจน)
ถ้าจะสัก ก็ต้องหมั่น ถือศีล5 หมั่นทำความดี หมั่น ดูแลบุพการีย์ และครูอาจารย์ ทั้งยามดีและยามไข้
ไม่ด่าพ่อ ล่อแม่ใคร นี้แหละ พุทธคุณครูอาจารย์ก็คุ้มครองแล้วครับ
ถ้าเตะกระจกเล่นๆบาดเข้าเลือดพุ่ง แต่ถ้าเราอุบัติเหตุพลาดไป หลบไม่ทันสะกิด แท่งกระจกไม่ลบคมกระจกกระเด็น ที่เท้าเรามีรอยแค่แมวข่วนไม่มีแผลใดๆ
และพี่น้องเป็นช่างกล หลวงพ่อไม่ชอบให้สำนักเดียวกันตีกันเองครับ สถาบันใดก็ตาม ถ้ามาสักยันต์ถวายตัวเป็นศิษย์หลงพ่อเปิ่นแล้วถือว่าสำนักเดียวกันพี่น้องกันอย่าตีกันมันไม่ดี มีโอกาสโดนลงโทษฟันหรือยิงเข้าทั้งคู่
พยายามอย่าลอดราวผ้า ถ้าต้องลอดกลั้นใจ เข้าพุท พ้นราวออกท่องโธ จบครับ
สมัยก่อนเขาตีกันเพื่อความเทห์ไม่ไช่จ้องฆ่ากันครับ มีครบ ปืน2กระบอก ระเบิด ปาจริงแต่มันไม่ระเบิด ยิงจริงแต่ไม่เข้า หรือยิงแล้วไม่ออกจริงๆ เพื่อโชว์ของดีแต่ละฝ่าย ให้สาวกรี๊ด ตำรวจก็ไม่กล้าจับเพราะมันมีของดี พูดจริงๆไม่ได้พูดเล่น ยุคนั้นตำรวจน้อย ไม่เยอะแบบสมัยนี้
ถ้ารุ่นพี่มาบอกให้เราไปตีเขาให้ตายล้างแค้น บอกได้เลยว่า ทำผิดจุดประสงค์นักเรียนนักเลงแน่นอนครับ
นักเลงไม่ไช่นักฆ่า ขอย้ำ ตีกันคือวัดของวัดใจ ไม่ไช่ฆ่ากัน ไม่มีการลอบกัน ซัดกันจะๆปืน2กระบอกเหนี่ยวหมดแม็กจริงๆ ไม่เชื่อไปถามกันได้ ตีกันไม่ไช่ฆ่ากัน จำไว้เสมอ แล้วพวกเอ๋อๆ หรือพวกไม่เกี่ยวอย่าฝาก นักเลงเขาไม่ทำกัน
พวกเอ๋อๆหรือเด็กเรียนนี้ อย่าว่าแต่อิติปิโสถอยหลังเลย แค่นะโม3จบยังท่องไม่ได้ แล้วจะหวังให้ใครคุ้มครองล่ะครับ
-
ขอบคุณครับที่ให้ความรู้
-
ขอบคุณครับสำหรับความรู้เรื่องการสักทับยันต์ (http://img6.imageshack.us/img6/5366/2yvv20080519103534.th.jpg) (http://img6.imageshack.us/img6/5366/2yvv20080519103534.jpg)
-
ขอบคุณมากครับ
-
ขอบคุนครับ
-
การจะสักทับ ได้หรือไม่ได้ หรือกี่พระอาจารย์ อาจารย์ จะเป็นหมึกหรือน้ำมัน ก็ต้องขึ้นอยู่กับแต่ละสายวิชาแต่ละสำนักเพราะไม่เหมือนกัน
เช่นสายวิชาของ วัดสาลีโข ไม่ว่าหมึกหรือน้ำมัน เมื่อสักที่นี่แล้วก็ห้ามไปสักที่อื่น
ก็ควรสอบถามก่อน แต่ถ้าเป็นสายวัดบางพระ ทุกกุติ ย่อมได้ครับเพราะครูบาอาจารย์เดียวกัน
นอกจากเสียว่าวิชาที่สักของพระอาจารย์วัดบางพระนั้นไปเรียนเพิ่มเติมจากที่อื่นมาหรือป่าว ท่านจะใช้ดุจพินิจพิจณาให้เองครับ
ถ้าของวัดบางพระไม่ต้อง ครบ 7 ท่านก็ได้ ถ้าวัดบางพระมีไม่ถึง 7 ท่านก็คงวุ่นน่าดู หรือ ใครเคยสักมาเกิน 7 ก็ไม่เป็นไรครับไม่ต้องกังวล เพราะไม่มีข้อห้าม ในหลักของข้อห้าม
ถ้าให้ดีควรสักเป็นที่ๆไป อย่ามั่ว ใช่ว่าใครว่าที่นู่นดี ที่นี่ดี ก็ตามเขาไปกันหมด
แบบนี้ระวังของตีกันนะครับไม่ดีแน่นอน อีกอย่างเหมือนเป็นการไม่มั่นใจในครูบาอาจารย์ของเรา จิตใจโลเล
ศรัทธาและยึดมั่นในครูบาอาจารย์ยึดที่ไหนก็สักที่ ที่ที่เราศรัทธานับถือเชื่อมั่น แล้วบารมีครูบาอาจารย์ท่านจะเมตตาครับคุ้มครองเราแบบไม่ต้องกังวล
-
ขอเพิ่มเติมครับ วันนั้นพระอาจารย์พรสิทธิ์ ท่านก็อยู่ๆพูดขึ้นมาครับ พวกที่สักคงกระพันชาตรี พวกที่สักหนังเหนียว พวกนี้เวลาไปเกิดอุบัติเหตุขึ้น อาจารย์ที่เป็นคนสักจะได้รับบาดเจ็บไปด้วยครับ เช่น ลูกศิษย์ถูกยิงที่แขนแต่ไม่เข้าแค่เจ็บเฉลยๆ อาจารย์ผู้ที่สักให้ก็จะรู้สึกเจ็บตามด้วย
( อันนี้ผมคิดเองครับ คงแล้วแต่วิชาของครูบาอาจารย์ เพราะ ไม่อย่างนั้นอาจารย์ที่สักให้เจ็บตัวทุกวันแน่ๆครับ )
-
คุณPeachsama เขียนได้โดนใจครับ สักแล้วไปเป็นโจรลักขโมยปล้นชาวบ้านอย่างนี้ไม่ดีครับ อีกอย่างครับ พวกเด็กแว๊นด้วยครับ พอคุณตำมะหลวดมาจับแล้วถอดเสื้อออกเห็นมีแต่รอยสักกันเกือบทุกคนแบบนี้ไม่ไหวครับ ทำให้คนดีๆโดนมองในทางร้ายไปด้วยครับ :053: