กระดานสนทนาวัดบางพระ
หมวด มิตรไมตรี => รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) => ข้อความที่เริ่มโดย: ENG_telecom ที่ 20 ก.พ. 2554, 09:29:27
-
เรื่องของเรื่องคือ ผมเป็นชายโสด ที่ทำงานแบบว่าเป็น sale น่ะครับ มีต้องพาลูกค้าไป entertain และบางครั้งก็ไปด้วยความรู้สึกส่วนตัวน่ะครับพวก ผับ บาร์ อาบอบนวด ผมคิดว่าการไปมีอะไรกับสาวที่ขายบริการอย่างน้อยก็คือการซื้อขายความสุขด้วยความเต็มใจทั้งสองฝ่ายน่ะครับ ผมว่ามันดีกว่าการที่เรามีแฟน แล้วอยู่กินกัน พอเบื่อกันก็เลิก โดยที่ไม่ได้แต่งงานกัน อย่างนี้คือการผิดลูกใช่ไหมครับ รบกวนช่วยแสดงความคิดเห็นทีนะครับ แล้วรอยสักที่ผมสักไปล่ะครับ ครูบาอาจารย์ท่านจะเข้าใจในสิ่งที่ผมยังต้องการไหมครับ
ขออภัยหากไม่เหมาะสมนะครับ
-
ในความคิดของผม ผมว่าไม่น่าจะผิดนะครับ เพราะเค้ามาทำงานแบบนี้เป็นการสมยอม มิไำด้ไปข่มขืน นิครับ
-
อยู่ที่ใจหรือเปล่าน้ะ ของแบบนี้ หรือว่าอยู่ที่อะไร ... :095:
-
ผมว่าอยู่ที่ใจครับ
หากเราทำแล้วสบายใจโดยที่"ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน"
ก็ไม่น่าจะผิดนะครับ
-
ขอบคุณครับ
อยู่ที่ใจผม ผมก็ตามปกติแหละครับ แต่ถ้าหากผิดจะได้หาทางแก้ไข
อีกอย่างผมอยากจะสักให้เต็มหลังก็จะพอและครับ
ผมรักในศิลปะของไทย และศรัทธาในครูบาอาจารย์ครับ
-
ผมว่าไม่ผิดหรอกครับ ถ้า!! ผู้หญิงพวกนั้นไม่ได้หนี แฟนมา ทำนะครับ
-
ผมว่าไม่น่าผิดนะ ก็ไม่ได้ข่มขืน แต่เป็นการซื้อขาย ผิดตกขออภัย
-
ไม่ได้บังคับข่มขืนผิดลูกผิดเมียเป็นความสมยอมชึ่งกันและกันทำไมถึงจะผิดละครับสบายใจเถอะครับ
-
เรื่องของเรื่องคือ ผมเป็นชายโสด ที่ทำงานแบบว่าเป็น sale น่ะครับ มีต้องพาลูกค้าไป entertain และบางครั้งก็ไปด้วยความรู้สึกส่วนตัวน่ะครับพวก ผับ บาร์ อาบอบนวด ผมคิดว่าการไปมีอะไรกับสาวที่ขายบริการอย่างน้อยก็คือการซื้อขายความสุขด้วยความเต็มใจทั้งสองฝ่ายน่ะครับ ผมว่ามันดีกว่าการที่เรามีแฟน แล้วอยู่กินกัน พอเบื่อกันก็เลิก โดยที่ไม่ได้แต่งงานกัน อย่างนี้คือการผิดลูกใช่ไหมครับ รบกวนช่วยแสดงความคิดเห็นทีนะครับ แล้วรอยสักที่ผมสักไปล่ะครับ ครูบาอาจารย์ท่านจะเข้าใจในสิ่งที่ผมยังต้องการไหมครับ
ขออภัยหากไม่เหมาะสมนะครับ
ด้วยความเคารพครับ
ในเรื่องนี้ขออนุญาตคิดแตกต่างออกไปนะครับ
เวปนี้เป็นเวปของวัด
การที่จะสนับสนุนให้ไปเที่ยวแบบนั้นคงจะไม่ดี
จริงอยู่อาชีพนี้เป็นอาชีพที่มาตั้งแต่สมัยพุทธกาล
บางศาสนาถือว่าเป็นอาชีพแรกในโลก
เสียด้วยซ้ำ
เท่าที่อ่านมาคิดว่าท่านเจ้าของกระทู้คงกำลังสร้างตัวอยู่
ถ้าท่านพาลูกค้าไปแล้วเที่ยวตามน้ำผมว่าเป็นเรื่องของการงาน
แต่การไปเที่ยวเองนี้ อยากนำเรียนว่าไปแบบนั้น
อย่างไรก็ต้องเสียเงินจะมากจะน้อยก็ตาม
สู้นำเงินเอาไว้ไปเป็นทุนหรือทำบุญดีกว่าไหมครับ
ส่วนในเรื่องของรอยสัก อยู่ที่ครูบาอาจารย์ท่านสั่งสอนไว้
บางครูบาอาจารย์อย่างของหลวงพ่อแล วัดพระทรง
ท่านบอกไว้ชัดเจน ว่าอย่าเข้าบ้านคนชั่ว ทั้งในกระดาษใบฝอยที่ทางวัดให้(ลองหาดูได้ในเวปบางพระนี้ครับ
ผมเคยถ่ายเอามาลง)
และอ.จวง ท่านก็สั่งอย่างชัดเจน แต่ก็มีทางเลี่ยงว่าไม่ไหวจริง
ให้เรียกเด็กออกมาข้างนอกแล้วไปที่อื่น ที่อโคจร ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าไม่ควร
เห็นครูบาอาจารย์เค้าเรียกว่า บ้านคนชั่ว อันนี้เห็นว่าจริง นอกจากเรื่องโรคภัยแล้ว
จากประสบการณ์ที่เคยช่วยราชการที่ทำการปกครองจังหวัดหนึ่งริมชายแดนกรุงเทพ ตามสถานบริการส่วนมากเวลาที่
ไปตรวจจะพบว่า ตรงปากทางเข้าเหนือประตู ที่ต้องผ่านเข้ามามักมีวัตถุไม่รู้จักเรียกว่ามงคลหรือเปล่า?
พวกอิ้น เป๋อ ปลัด อยู่เหนือหัวเรา คิดดูว่าเวลาเราเดินเข้าไปต้องลอดอะไรบ้าง
อันนี้ยกมาจาก http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=5785
และขอให้เชื่อบางที่มีของสกปรกกว่านี้ก็มี
แต่ทุกอย่างอยู่ที่ใจถ้าครูบาอาจารย์เจ้าของกระทู้ไม่ห้ามก็แล้วแต่ครับ
ผมว่าไม่ผิดหรอกครับ ถ้า!! ผู้หญิงพวกนั้นไม่ได้หนี แฟนมา ทำนะครับ
กล้าไหมครับ
ก่อนประกอบกิจ กล้าถามไหมว่า "น้องผัวน้องไม่ว่าหรอมาทำแบบนี้"
ถ้าเค้าตอบว่าไม่ว่า หรือมันอยู่บ้าน ถามจริงๆ ว่ากล้าเที่ยวไหมครับ
ถึงแม้นจะเป็นการซื้อกิน การสมยอมก็ตาม ถ้ารู้แก่ใจ
บางที่ครูบาอาจารย์ท่านว่าให้ซื้อกินไปก็ตาม แต่ท่านให้ถามก่อนเรื่องการมีเจ้าของ
ถ้าไม่รู้ไม่เป็นไร ให้ตังล์ซื้อกินเอา
แต่อย่างที่นำเรียนข้างต้น
เงินที่ซื้อความพอใจตัวนั้นนำไปทำอย่างอื่นดีกว่า
ไม่เสี่ยงกับความผิดทั้งทางโลกทางธรรมและโรคภัยที่จะมาถึง
รู้สึกว่าพิมพ์มามากไปแล้วเดี้ยวจะพาลไม่อ่านกัน
เอวังก็มีด้วยประการละฉะนี้
ขอแสดงความนับถือ
Gearmour
-
นาๆจิตตัง แล้วแต่จะคิด คิดสิ่งที่ดีก็ไม่ควรทำครับ สถานที่ที่ไม่ควรไปก็อย่าไป
อยู่ที่ว่าควรทำแบบไหนจึงจะรักษาของที่ครูบาอาจารย์ท่านประสิทธิให้ท่านเป็นอย่างดี
ของเสื่อมก็อย่าไปโทษใครว่าไม่เตือน ใกล้ไหว้ครูแล้วครับ!
-
อยู่ที่ใจครับผม จะดีจะชั่วอยู่ที่ตัวเราครับผม
-
ข้อห้าม มีไว้ให้ปฏิบัติ มิใช่ให้ไว้เลี่ยงบาลี
ผมทำงาน ในสถานที่แบบนั้นมาก่อน จะเล่าให้ฟัง
บางคนเป็นเมนส์ ก็มีวิธีแก้ให้ให้ทำงานหาเงินได้
บางคน มีสามี แฟน กิ๊ก อยู่ที่บ้านก็หาวิธีโกหกหลอก เพื่อมาทำงาน
แบบนี้ จะดี สมควร เหมาะสม ไหมหล่ะครับ
-
อนุโมทนา สำหรับคำชี้ทางสว่าง...
.... บางคนมืดมา ก็สว่างไป
.... บางคนมืดมา ก็มืดไป
-
ตอนพระอาจารย์ เมตตาสักยันต์ให้ เจ็บแทบใจจะขาด คงไม่อยากเที่ยวซ่องโสเภณี ให้ของเสื่อม และ จิตใจให้ตกต่ำ ซื้อขายบริการ คิดดีแล้วหรือ เป็นการสนับสนุนให้มีการค้าประเวณี บางคนขายลูกกิน นักศึกษาเดียวนี้ก็ไร้ซึ่งความอาย ถ้าเป็นญาติพวกคุณ น้องสาวคุณโดนบังคับ หรือ โดนหลอกลวงให้ขายบริการ คุณยังจะตอบได้อีกมัยครับว่าไม่ผิด ไม่แค้น ตอนคุณเที่ยวคุณสนุก ตอนคุณติดเอดด์คุณโทษนั้นโทษนี้ โทษคนนั้นคนนี้เอาโรคมามาติด และสุดท้ายคุณก็เป็นภาระทางบ้าน หรือ หนักหน่อยก็ภาระสังคมละครับท่าน พิมพ์ยาวกว่านี้ก็กลัวจะเลยสมองคนอ่าน หรือ ไม่เข้าใจ จึงขอฝากเท่านี้ คำพูดอาจจะไม่ไพเราะ แต่มีความจริงใจอยู่เต็มร้อย
-
นานๆเห็นท่าน Gearmour พิมพ์ยาวๆให้อ่านซักที ตรงใจครับ ตรงประเด็น การที่เราจะได้มาในสิ่งที่เป็นมงคลกับชีวิต สิ่งที่ครูบาอาจารย์ท่านมอบให้ เรื่องไหนก็ตามที่จะทำให้ใจตัวเองเสื่อมเลี่ยงได้ก็เลี่ยงเถอะครับ แต่ถ้าชอบหรือเลี่ยงไม่ได้ก็แล้วแต่ท่านนะครับ ไม่ฟันธงว่าดีหรือไม่ดี เป็นสิทธิของท่านครับผม :002:
-
หากใจคิดว่าไม่ดี หลีกเลี่ยงได้ก็หลีกเลี่ยงครับ
เพราะทำให้เกิดการกังวล และจิตไม่เป็นสุข
-
ผมว่าจะดีจะเลว อยู่ที่การกระทำครับ
-
เคยมีคนแขวน หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง เข้าสถานที่อโคจร ออกมาเหลือแต่ตลับ :069:
เมื่อประมาณปี 50-51 (จำ พ.ศ.แน่นอนไม่ได้) พ่อผมพาไปฉลองปีใหม่ที่บ้านพี่ชาย วันนั้นพ่อผมเช่าพระหลวงพ่อทวด วัดดีหลวง ปี 36 ไปแจกปีใหม่หลายสิบองค์ มีผู้มารับ คนหนึ่งเป็นน้องชายของพี่สะใภ้ อีตาคนนี้มีนิสัยค่อนข้างเกเร ชอบเข้าสถานที่อโคจร มารับพระกับพ่อผมด้วย เขาเล่าให้พ่อผมฟังว่า เมื่อก่อนเคยแขวนหลวงพ่อทวด อยู่ 1 องค์ ขอมาจากพี่ชายผม แขวนอยู่ดี ๆ พระหายไปเลย สร้อยอยู่ ตลับอยู่ แต่พระหาย สงสัยซนเกิน ! เรื่องของเรื่องคือ อีตาคนนี้แขวนพระหลวงพ่อทวด เข้าไปในสถานที่อโคจร กลับออกมาพระในตลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย ... :069:
-
ตามความเห็นส่วนตันน่ะครับ ผมก็เป็นคนโสดน่ะครับขอห้ามมีไว้ให่ปฏิบัติส่วนตัวผมก็อายุ34ปีแล้วเรื่องเที่ยวก็มีบ้างครั้งหลังสุดไม่เกิน1เดือนเจอมากับตัวเองอยู่ในห้อง2ต่อสองกับผู้หญิงมีโทรศัพท์เข้ามา ผมเลยถามเธอคนนั้นไม่ว่าใครโทรมา คำตอบที่ได้คือแฟนโทรมาเท่านั้นแหละผมให้เธอคนนั้นกลับไปและให้ค่าเสียเวลา ถ้าขืนดำเนินการต่อไปอะไรจะเกิดเราไม่รู้หลอก แต่ที่แน่ๆจิตตกครับ อย่างไรก็ขอให้มีสติน่ะครับขอห้ามก็คือขอห้าม
-
ผมว่าไม่ผิดหรอกครับ ถ้า!! ผู้หญิงพวกนั้นไม่ได้หนี แฟนมา ทำนะครับ
บางคนน่ะ เค้าก็มาทำเพราะต้องหาเลี้ยงผู้ชายนะคะ ส่วนมากที่มาทำ ก็หลบสามีมาทำทั้งนั้นแหละค่ะ
-
อยู่ที่ใจมากกว่าครับ แค่เราคิดว่าเป็นงานบริการ
-
ตามความเห็นส่วนตันน่ะครับ ผมก็เป็นคนโสดน่ะครับขอห้ามมีไว้ให่ปฏิบัติส่วนตัวผมก็อายุ34ปีแล้วเรื่องเที่ยวก็มีบ้างครั้งหลังสุดไม่เกิน1เดือนเจอมากับตัวเองอยู่ในห้อง2ต่อสองกับผู้หญิงมีโทรศัพท์เข้ามา ผมเลยถามเธอคนนั้นไม่ว่าใครโทรมา คำตอบที่ได้คือแฟนโทรมาเท่านั้นแหละผมให้เธอคนนั้นกลับไปและให้ค่าเสียเวลา ถ้าขืนดำเนินการต่อไปอะไรจะเกิดเราไม่รู้หลอก แต่ที่แน่ๆจิตตกครับ อย่างไรก็ขอให้มีสติน่ะครับขอห้ามก็คือขอห้าม
:065:อืมมม..ได้ข้อมูลความรู้ขึ้นอีก...ว่าความจริงในสังคมเราทุกวันนี้ผู้หญิง(ไม่ได้เหมานะครับบางส่วน)เขาทำกันขนาดนี้เลย :075:...ต้องทำใจละกันครับ...ระมัดระวังให้มากก็แล้วกัน...ถ้าไม้รู้ก็คงไม่เป็นไร...แต่รู้แล้วก็ต้องรีบถอยด่วนครับ... :069:เพราะบางคนเขาคงไม่บอกหรือไม่ยอมรับว่ามีแฟนแล้วหรอกครับ :058:...ขอให้โชคดีทุกท่านครับ :075:
-
02;เรื่องราวดังกล่าวประสบการณ์อย่างนี้ก็มักจะเกิดขึ้นกับผมอยู่บ้าง...
กรณีที่ 1...หน้าที่การงานที่จะต้องทำด้วยหน้าที่ก็คือหน้าที่...ที่จะต้องทำ (ขอให้เรารู้ว่าเราทำเพราะหน้าที่ของเรา)...แยกเรา...แยกผู้ร่วมงาน
กรณีที่ 2...ตัวเราเองเป็นผู้กำหนดการกระทำของตัวเราเองไม่มีใครที่จะมาสั่งตัวเราให้ทำอะไรอะไรได้ทุกอย่าง
11; ดังนั้น..ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ การชนะตัวเองคือชนะใจตัวเองห้ามใจตัวเองไม่ให้หลงไปกับอบายมุกต่างๆนาๆที่ตัวเองจะลุมหลง
และในทุกๆครั้งกระผมก็จะนึกถึง "ครูบาอาจารย์และสิ่งที่ครูบาอาจารย์ท่านได้เมตตามอบไว้ให้"
จึงทำให้ทุกครั้งกระผมก็จะผ่านเรื่องราวเหล่านั้นมาได้อย่างไม่มีปัญหาคาใจ
16;ทบทวน..หาสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและผูกจิตใจไว้กับสิ่งสิ่งนั้น...แล้วท่านก็จะผ่านพ้นภาวะอย่างนั้นไปได้อย่างสบายใจ