ผู้เขียน หัวข้อ: กวีลำนำ...รำพันในค่ำคืนที่หนาวเหน็บ  (อ่าน 1431 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ รวี สัจจะ...

  • รองประธาน
  • *****
  • กระทู้: 1137
  • รวี สัจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
    • ดูรายละเอียด
    • รวี สัจจะ สมณะไร้นาม (เคลื่อนไหวดุจสายลม)
 :059:ว่างเว้นจากการเขียนบทกวีมาหลายเวลาแล้ว จึงต้องทบทวนในการเขียนบทกวี
ป้องกันสมองเสื่อม ความจำเลอะเลือน เพราะถ้าทิ้งไปนานๆมันจะนึกคำสัมผัสไม่ออก
นึกคำศัพย์ที่มีความหมายใช้แทนกันไม่ได้ เหมือนกับมีดดาบถ้าไม่ได้ใช้ ไม่ได้ลับ
ปล่อยทิ้งไว้สนิมก็จับ และความคมมันก็จะหายไปเพราะโดนสนิมมันเกาะกินมีแต่เสื่อม
สมองของเราก็เหมือนกัน ถ้าไม่หมั่นคิด หมั่นวิเคราะห์ มันก็ตื้อคิดอะไรไม่ออกเมื่อเราเจอปัญหา
สติและสัมปชัญญะก็เช่นกัน เราต้องเจริญสติและสัมปชัญญะอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้รู้เท่าทันอารมณ์ทั้งหลาย
ที่เกิดขึ้นและจรมา มีความรู้ตัวทั่วพร้อม เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกแห่งคุณธรรมหิริโอตัปปะให้ตื่นอยู่ตลอดเวลา
เพื่อคุ้มครองจิตของเราไม่ให้เผลอไผลไปกับกิเลสสิ่งยั่วยวนทั้งหลาย ดำรงค์กายและจิตของเราให้อยู่กับ
สิ่งอันเป็นกุศลทั้งหลาย ไม่ให้จิตเราตกต่ำถลำลงไปในทางชั่ว คุ้มครองกายและจิตโดยสติและสัมปชัญญะ
ที่เป็นสัมมาสติ มีองค์แห่งคุณธรรมคุ้มครองอยู่...
  :054:เขียนแล้วเพลินมันใหลไป เข้าเรื่องกันดีกว่า..บทกวีที่จะนำเสนอนั้นอาจจะหลายหลากอารมณ์
ไม่ได้เน้นแต่แนวธรรมะเพียงอย่างเดียว คำบางคำ ประโยคบางประโยคกลอนอาจจะพาไปเพื่อความลื่นใหล
และการสัมผัสในกาพย์กลอนนั้น เมื่อท่านอ่านแล้วก็อย่าไปจริงจังกับมันให้มากมาย อ่านไปแบบสบายๆ
แล้วท่านจะได้อรรถรสและอารมณ์...
         ...................................................................................................
                             :059:ปลิโพธของพระนักพัฒนา :059:
            มีเรื่องราว  หลายอย่าง  ที่ค้างคา       ไม่รู้ว่า  จะทำ    สำเร็จไม่
          เพราะมีเพียง  ความคิด  และจิตใจ       แต่ยังไม่  มีทุน  มาหนุนนำ
          รอกฐิน       ผ้าป่า    มาสมทบ           จึงจะครบ  ปัจจัย ให้น่าขำ
       ต้องปล่อยไป ตามบุญ และตามกรรม        อยากจะทำ เหตุปัจจัย  ไม่นำพา
       อยู่ชายแดน  แสนไกล  ไม่มีกิจ             ใช้ชีวิต   พอเพียง  ไม่เสาะหา
       บิณฑบาตร  กวาดวัด   ภาวนา                รอศรัทธา  สาธุชน  คนใจบุญ
       มาร่วมสร้่าง ร่วมเสริม  ช่วยเติมแต่ง          มาร่วมแรง  ร่วมใจ  ช่วยเกื้อหนุน
       สละทรัพย์   ปัจจัย    มาเป็นทุน             ตอบแทนคุณ  ศาสนา  ทั้วหน้ากัน
       ขอกุศล   ผลบุญ   จงหนุนส่ง                ให้มั่นคง    ไร้ทุกข์   พบสุขสรรค์
       สุขเกษม   เปรมปรีดิ์ ทุกคืนวัน               ขอให้ฝัน   นั้นสม    อารมณ์เทอญ..
                   ................................................................
                          :059:ในค่ำคืนที่เหน็บหนาว :059:
             เหน็บหนาว  ในคืน  ฟ้าหม่น       สิ้นฝน   ต้นหนาว   มาถึง
             ดวงจิต   ให้คิด    คำนึง            ครั้งหนึ่ง  ของกาล  เวลา
             ลมหนาว  พัดต้อง  ยอดไผ่        สั่นไหว   เอนไป  ซ้ายขวา
             ไผ่นั้น     ไม่ล้ม    ลงมา           เพราะว่า  อ่อนน้อม  ถ่อมตน
             สายลม   พัดโหม  กระหน่ำ        ซ้ำซ้ำ    ปะทะ    ต้นสน
             สั่นไหว   ไม่อาจ   คงทน           ร่วงหล่น  ล้มครืน  ลงมา
             จังหวะ    เวลา     โอกาศ          สามารถ   ที่จะ    ศึกษา
             จงใช้     สติ       ปัญญา           นำพา    ชีวิต    ปลอดภัย...
                   ........................................................
                            :059:ผ้าห่มกับลมหนาว :059:
                    ซุกกาย ใต้ผ้าห่ม     หลบสายลม ที่พัดผ่าน
                  คืนหนาว ที่ยาวนาน    รัตติกาล ที่ยาวไกล
                  ผ้าห่ม  กับลมหนาว    คือเรื่องราว ที่กล่าวไว้
               หนาวกาย ไม่หนาวใจ    เพราะไม่ไร้ คนศรัทธา
               จัดส่ง  เครื่องกันหนาว   และบอกกล่าว ช่วยจัดหา
               รวบรวม และส่งมา        ได้พึ่งพา ให้หนาวคลาย
               เอื้อเฟื้อ และแบ่งปัน     สายสัมพันธ์ ที่มุ่งหมาย
               แรงใจ และแรงกาย      ไม่เคยหาย  จากใจคน
                        ...............................
 :054:ที่นำเสนอมานั้น เป็นกลอนแปด กลอนหก และกาพย์ยานี ที่เขียนแบบสบายๆตามสไตล์หลวงโ่ด่ง
แล้วแต่สัมผัสจะพาไป คิดอะไรออกก็เขียนไป ไม่ได้จริงจังและตั้งใจ เขียนไปเพื่อฝึกสมองลองปัญญา
                 ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิตแด่มวลมิตรทุกผู้คน
                        รวี สัจจะ-วจีพเนจร-สมณะชายขอบ
๔ ธันวาคม ๒๕๕๒ เวลา ๑๙.๑๒ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายขอบประเทศไทย
                             
ใช่หวังจะดังเด่น  จึงมาเป็นสมณะ
เพียงหวังจะลดละ  ซึ่งมานะและอัตตา
เร่ร่อนและรอนแรม ไปแต่งแต้มแสวงหา
สัญจรร่อนเร่มา  ผ่านร้อยป่าและภูดอย
ลาภยศและสรรเสริญ  ถ้าหลงเพลินจิตเสื่อมถอย
พาใจให้เลื่อนลอย  จิตเสื่อมถอยคุณธรรม
       ปณิธานในการปฏิบัติธรรม

ออฟไลน์ ۞เณรน้อยเส้าหลิน۞

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 1560
  • เพศ: ชาย
  • ไม่สู้ ไม่หนี ทําดีเรื่อยไป
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: กวีลำนำ...รำพันในค่ำคืนที่หนาวเหน็บ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 04 ธ.ค. 2552, 08:09:36 »
กราบนมัสการหลวงอาครับ

อ่านบทกวีรู้สึกอินกับบรรยากาศความหนาวเลยครับ

ขอให้ปณิธานของหลวงอาบรรลุถึงจุดหมายโดยเร็วนะครับ

สาธุ สาธุ
  :054: :054: :054:
ครูผู้บริสุทธิ์ ครูผู้หมดกิเลสเครื่องเศร้าหมอง
ครูผู้มี"พระปัญญาธิคุณ พระมหากรุณาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ" อย่างประมาณมิได้
บรมครูผู้นั้นคือ "สมเด็จพระพุทธเจ้า"
ขอนอบน้อมกราบกรานพระบรมศาสดา