ผู้เขียน หัวข้อ: ทดสอบ  (อ่าน 4018 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ HEA_WOY!

  • จตุตถะ
  • ****
  • กระทู้: 85
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ทดสอบ
« เมื่อ: 30 มี.ค. 2550, 01:17:22 »


หลวงปู่แผ้ว   วัดกำแพงแสน

ออฟไลน์ นรก

  • ฉัฏฐะ
  • *
  • กระทู้: 136
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: ทดสอบ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 30 มี.ค. 2550, 04:30:09 »
ช่วยลงประวัติของท่านหน่อยได้ไหมครับ
 :002:




งงๆ :057:

ออฟไลน์ HEA_WOY!

  • จตุตถะ
  • ****
  • กระทู้: 85
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ทดสอบ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 30 มี.ค. 2550, 05:19:43 »


หลวงปู่แผ้ว   วัดกำแพงแสน
ด้วย​ความ​เป็น​พระภิกษุสงฆ์ที่​เปี่ยมไป​ด้วย​ความ​เมตตา​ ​สุขุมตามวิถีของท่านไป​เป็น​แบบสมถะ​เรียบง่าย​ ​ไม่​สะสม​ ​เงินทอง​ ​ไม่​ยึดติด​กับ​วัตถุ​ ​หรือ​ลาภยศ​ใดๆ​ ​แม้​แต่​ ​ตำ​แหน่งเจ้าอาวาสวัดก็​ได้​ให้​ลูกศิษย์​ ​เป็น​ผู้​รับ​ ​ตำ​แหน่ง​ ​แทน​ เป็น​การละ​ใน​เรื่องของ​ความ​อยากออกไป​ ​ทำ​ให้​ หลวงปู่​แผ้ว​ ​ปวโร​ ​วัดกำ​แพงแสน​ ​เป็น​พระ​ผู้​ใหญ่​ ​ที่มีลูกศิษย์​ ​ให้​ความ​เคารพ​ ​ศรัทธา​เลื่อมใสจำ​นวนมาก​

​หลวงปู่​แผ้ว​ อาจ​ไม่​ได้​เป็น​พระนักเทศน์​ ​ไม่​ใช่​พระธรรมกถึก​ ​ที่​เรืองนาม​ ​แต่คำ​พูดตรงๆ​ ​ง่ายๆ​ ​ของท่าน​ ​ก็​ได้​แทรกหลักธรรม​ ​คำ​สอนของพระพุทธเจ้า​เสมอ​ ​เป็น​การเตือนสติ​ใน​การ​ ​ประพฤติปฏิบัติ​ ​เพื่อพัฒนาจิตใจของพุทธศาสนิกชน​ ​ให้​ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ​

​ขณะ​เดียว​กัน​ ​ท่านก็​เป็น​พระนักปฏิบัติ​ ​คำ​สอนหลักธรรม​ ​ที่​ให้​กับ​ศิษย์​ทั้ง​หลาย​ ​จึง​มัก​จะ​เป็น​ข้อคิด​หรือ​คติสอนใจ​ ​ธรรมะที่สอน​ ​อยู่​ใน​รูปของบท​ความ​ ​บทกลอน​ ​หรือ​สักวาต่างๆ​ ​ตามแต่ละสถานการณ์​ใน​ขณะ​นั้น​ ​หรือ​ตามภาวะของ​ความ​ทุกข์ของศิษย์​แต่ละคน​ ​ที่พออ่านก็​เกิดปัญญา​ ​สามารถ​ที่​จะ​นำ​มาวิ​เคราะห์พิจารณา​ ​ใน​การปฏิบัติ​...​หลวงปู่​แผ้ว​ได้​อนุญาต​ให้​สัมภาษณ์​แบบ​ "คม​ ​ชัด​ ​ลึก" ​ดังนี้​...

ศีลมี​ความ​สำ​คัญต่อการดำ​รงชีวิตอย่างไรครับ​ ?

-​ศีล​ ๕ ​ข้อ​ ​ห้ามฆ่าสัตว์​ ​ลักสมบัติ​ ​ผิดลูกเมียคน​อื่น​ ​ลวงโลก​ ​ดื่มสุรา​เมรัย​ ​ใครทำ​ได้​ชีวิตก็​จะ​เจริญรุ่งเรือง​ ​อาตมา​เคยอ่าน​ ​ประวัติของหลวงปู่ฤาษีลิงดำ​ ​ท่านว่า​ให้​ถือศีล​เป็น​ชั่วโมงก็​ได้​ ​หรือ​เอาข้อหนึ่งข้อ​ใด​ก็​ได้​ ​โบราณท่านว่าขาดศีล​ ​ก็​ยัง​ดีกว่า​ไม่​มีศีล​จะ​ขาด​ ​คือ​ไม่​ถืออะ​ไรสักอย่างเลย​

​นักวิชาการท่านว่า​ใน​ศีล​ ๕ ​ข้อ​นั้น​ ​มี​ความ​เป็น​มนุษย์ร้อยเปอร์​เซ็นต์​ ​ถ้า​ศีลขาด​ ๑ ​ข้อ​ ​ความ​เป็น​มนุษย์ก็ขาดไป​ ๒๐ ​เปอร์​เซ็นต์​ ​ถ้า​ขาด​ ๒ ​ข้อก็หมด​ความ​เป็น​มนุษย์​ไป​ ๔๐ ​เปอร์​เซ็นต์​ ​ก็​ยัง​นับว่าดี​อยู่​มาก​ ​ถ้า​ขาด​ ๓ ​ข้อก็หมด​ความ​เป็น​มนุษย์​ไป​ ๖๐ ​เปอร์​เซ็นต์​ ​ก็​ยัง​ใช้​ได้​

​ขาด​ ๔ ​ข้อก็หมด​ความ​เป็น​มนุษย์​ไป​ ๘๐ ​เปอร์​เซ็นต์​ ​ใกล้​เป็น​สัตว์​เดรัจฉาน​ ​ถ้า​ขาด​ทั้ง​ ๕ ​ข้อ​ ​ก็หมด​ความ​เป็น​มนุษย์​ ​เป็น​สัตว์​เดรัจฉานเต็มตัว​ ​เพราะ​ฉะ​นั้น​การเกิดมา​เป็น​มนุษย์​จึง​สมควรที่​จะ​รักษาศีล​ ๕ ​ให้​บริบูรณ์​ ​ถึง​แม้​จะ​รักษา​ไม่​ครบ​ทั้ง​ ๕ ​ข้อ​ ​รักษา​ได้​สัก​ ๒-๓ ​ข้อก็​ยัง​ดี​

วิชากรรมฐาน​ ​หลวงปู่​เรียนมา​จาก​ใครครับ​ ?

​วิชาวิปัสนากรรมฐาน​ ​อาตมา​ไม่​ได้​ไปเรียนมา​จาก​ที่​ไหนหรอก​ ​เนื่อง​จาก​อาตมามี​ความ​สนใจ​ใน​พระกรรมฐานของวัดมหาธาตุ​ ​แต่มา​เริ่มปฏิบัติอย่างจริงจังที่วัดกำ​แพงแสน​ ​เพราะ​ได้​ศึกษา​อยู่​กับ​หลวงพ่อหว่างท่านนี้นั่นแหละ​ ​อาตมา​เรียน​อยู่​กับ​ท่านจนกระทั่งท่านมรณภาพการฝึกกรรมฐาน​จะ​ดีต่อคนเราอย่างไรครับ​ ?

เพื่อ​ความ​เข้า​ใจของการนั่งสมาธิ​ ​นอก​จาก​จะ​ให้​ผล​เป็น​ฌานสมาบัติ​แล้ว​ ​ยัง​ให้​ผล​ใน​ความ​มั่นคงสมบูรณ์​ได้​อีก​ด้วย​ ​เป็น​ผล​ทั้ง​ใน​ชาตินี้​และ​ชาติหน้า​ ​คือชาตินี้​เป็น​คนรวย​ ​ชาติหน้าก็​เป็น​ปัจจัย​ใกล้​มรรคผล​ ​คือ​ให้​ผล​ใน​สุคติ​ ​มีสวรรค์​และ​พรหมโลก​เป็น​ที่​ไป​ ​หากคน​ใด​สนใจเอาสมาบัติที่​ได้​ไป​ ​เป็น​กำ​ลังของการวิปัสสนาญาณ​ด้วย​แล้ว​ ​ก็​จะ​ได้​รับผลสูงอย่างคาด​ไม่​ถึง​ ​ขณะ​เดียว​กัน​อาจผดุงผลทางลาภ​ให้​เกิดกลาย​เป็น​คนร่ำ​รวย​ ​สมาธิ​ยัง​ให้​ผล​ ​ใน​ทิพยจักขุญาณ​ ​เป็น​การ​ช่วย​ส่งเสริมศรัทธา​ ​ใน​การสร้าง​ความ​ดี​ให้​สูงยิ่งๆ​ ​ขึ้นไป​

​สมาธิ​เป็น​สิ่งที่ทำ​ให้​มีจิตอิ่มเอิบเบิกบาน​ ​หน้าตาชุ่มชื่นตลอดวัน​ ​อาตมาคิดว่า​ ​ใคร​ได้​ฝึกก็​จะ​ได้​ใน​เรื่องของ​ความ​สงบทางจิตใจ​ ​ไม่​เครียด​กับ​สิ่งแวดล้อม​ ​มี​ความ​อดทนต่ออารมณ์ที่​เข้า​มาย้ำ​เย้า​ได้​ดีมาก​ ​มี​เมตตาปรานี​เกิดขึ้นแก่​ใจ​ ​อย่างคาด​ไม่​ถึง​ด้วย​ ​ไม่​หลงใหล​ใน​ภาพที่​เห็น​ ​ยิ่งวันนี้​เรา​จะ​เห็น​กัน​ว่า​ ​โลกทุกวันนี้​ ​มี​แต่​ความ​วุ่นวาย​ไม่​สงบ​ ​ทำ​อะ​ไรก็​ต้อง​อยู่​กับ​การแข่งขัน​ ​เพื่อ​ความ​อยู่​รอด​กัน​ทั้ง​นั้น​ ​ใครก็ตามที่​เริ่มฝึกวิปัสสนากรรมฐาน​ ​จะ​เป็น​การเพิ่มพูนบารมี​ให้​กับ​ตัวเอง​ ​เพื่อ​จะ​ได้​ไปสู่​ใน​ภพหน้า​ ​หรือ​ไปสวรรค์นั่นเอง​

ปัจจุบันมีคนจำ​นวน​ไม่​น้อยที่​ยัง​ไม่​เชื่อว่านรกสวรรค์มีจริง​ ?

​เมื่อปัจจุบันบ้านเมืองเรามีคนจำ​นวนมากขึ้น​ ​ความ​เห็นแก่ตัวก็​จะ​มีมากขึ้นตามไป​ด้วย​ ​ความ​โลภ​ ​ความ​โกรธ​ ​ก็มีมากขึ้น​ ​ที่​เป็น​เช่นนี้​เพราะ​คนเหล่านี้​ไม่​มีอะ​ไรยึดเหนี่ยวจิตใจ​ใน​การประมาณตนเอง​ ​และ​ถ้า​คนเราคิดว่าสุขมันก็​ไปสวรรค์​ ​หากทุกข์ก็​เหมือนนรกนั่นเอง​

เห็นลูกศิษย์พูด​กัน​ว่าหลวงปู่​สามารถ​หยั่งรู้อนาคต​ได้​จริงไหมครับ​ ?

​โอ๊ย​ ! ​อาตมาหยั่งรู้​ไม่​ได้​หรอก​ (หัวเราะ) ​เพราะ​อาตมา​ยัง​ไม่​สามารถ​นั่งสมาธิ​ถึง​ฌานระดับ​นั้น​ได้​ ​มัน​เป็น​เรื่องยากเหมือน​กัน​ ​แต่ที่บางคนบอกว่าอาตมารู้​ใจใคร​ได้​นั้น​ ​ก็​เป็น​การถ่ายแบบรู้ตื่นๆ​ ​โยมบางคนมาหาที่วัด​ ​อาตมาก็​เห็นผอมโซแสดงว่า​เขา​หิวข้าว​ (หัวเราะ)

แล้ว​หากพูด​ถึง​เรื่องกฎแห่งกรรม​ ​มีอิทธิพลต่อมนุษย์​เราอย่างไร​ ?

​อาตมาอยาก​จะ​บอกว่าสิ่งเหล่านี้​ใคร​ไม่​เชื่อก็​ต้อง​พิจารณา​กัน​ให้​ดี​แล้ว​จะ​รู้ว่ามันมีจริงไหม​ ​กรรมก็​เป็น​กรรมบันดาล​ให้​เกิดสิ่ง​ใด​สิ่งหนึ่ง​นั้น​ ​ก็ขึ้น​อยู่​กับ​กรรมดีที่​ได้​ทำ​ไว้​นั่นเอง​ ​บางคนคิดฆ่าพ่อฆ่า​แม่​ ​นี่ก็​เป็น​วิบากของกรรม​ ​อย่าง​ ​พระสารีบุตร​ ​ท่านไปพบมารดาท่าน​ใน​สมัยที่ร้อยชาติผ่านมา​แล้ว​ ​เป็น​เปรตผอมโซ​ ​ซี่​โครงขึ้น​

​เมื่อท่านเดินผ่านไป​ ​เปรต​ผู้​หญิงก็มองหน้า​ ​ถามว่าท่านจำ​ฉัน​ได้​ไหม​ ​พระสารีบุตร​ ​ถามว่าท่าน​เป็น​ใคร​ ​เปรตตน​นั้น​บอกว่าสมัยหลัง​จาก​นี้​ไปร้อยชาติ​ ​ฉันเคย​เป็น​มารดาของท่าน​ ​แต่อาศัยที่​ไม่​ทำ​ความ​ดี​ ​จึง​มา​เกิด​เป็น​เปรต​ ​ต้อง​ทนทุกข์ทรมาน​อยู่​นาน​ ​พระสารีบุตร​ ​ก็ถามว่า​ ​โยม​ต้อง​การอะ​ไร​ ​จะ​ทำ​ให้​ ​เปรตตน​นั้น​ก็บอกว่า​จะ​ขอ​ให้​ถวายสังฆทาน​ ​แล้ว​ก็มีผ้าสักผืนหนึ่ง​เล็กๆ​ ​กว้างคืบยาวคืบก็​ได้​ ​ถวายสังฆทานคืออาหาร​แล้ว​ขอน้ำ​สักหน่อย​ ​เมื่อพระสารีบุตรกลับมา​จาก​บิณฑบาต​แล้ว​ก็​เอา​ใบไม้มา​ ​สมัย​นั้น​มันหาข้าวยาก​ ​เอา​ใบไม้มา​ ​เอาข้าว​ใส่​ไปสักหน่อยหนึ่ง​ ​แล้ว​เอา​ใบไม้มาอีกใบ​ ​ใส่​กับ​ข้าวไปหน่อยหนึ่ง​ ​แล้ว​เอาน้ำ​ใส่​บาตร​ ​มีผ้ากว้างคืบ​ ​ยาวคืบ​ ​ผ้า​เช็ดหน้าผ้า​เช็ดมือเรานี่นะ​ ​ถวาย​เข้า​ไป​ใน​หมู่สงฆ์ลูกศิษย์ของท่าน​เป็น​สังฆทาน​ ​อานิสงส์​เพียง​เท่า​นี้​ ​เมื่อท่านอุทิศ​ส่วน​กุศล​ให้​ ​ปรากฏว่ามารดาของท่านไปเกิด​เป็น​นางฟ้า​ ​อยู่​บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์​เทวโลก​ ​มีวิมานสวยงาม​ ​มีสระ​โบกขรณี​

บางคนบอกว่าทำ​ชั่ว​แล้ว​ยัง​ได้​ดี​ ​ตรงนี้​เกิด​จาก​อะ​ไรครับ​ ?

​มันก็มี​ความ​เป็น​ไป​ได้​ (หัวเราะ) ​บุญเก่าของ​เขา​อาจมีมาก​อยู่​ ​ผลกรรมชั่วก็​เลย​ยัง​มา​ไม่​ถึง​ ​บาปที่​เป็น​กรรม​ไม่​ดี​นั้น​ ​ขึ้น​อยู่​กับ​มี​เจตนาทำ​แล้ว​แบบไหน​ ​หากทำ​ไปแบบอาตมา​ ​สมัย​เป็น​เด็กก็ฆ่าสัตว์มา​เยอะ​เหมือน​กัน​ ​นั่นก็​เป็น​บาปที่​ไม่​ทัน​ ​แต่ก็​เป็น​บาป​เป็น​กรรมที่​จะ​ต้อง​ชด​ใช้​เหมือน​กัน​

หลวงปู่​ได้​เริ่มสร้างวัตถุมงคลออกมา​เมื่อไรครับ​ ?

​เมื่อประมาณปี​ ๒๕๓๘ ​จริงๆ​ ​อาตมาก็​ไม่​ได้​สร้างวัตถุมงคลเองหรอก​ ​มีลูกศิษย์นั่นแหละสร้างมาถวาย​ ​อาตมา​จะ​ทำ​พิธีปลุกเสก​ด้วย​ตัวเอง​ ​ปลุกเสกไปตามตำ​ราที่หลวงพ่อหว่าง​เขา​ว่า​เอา​ไว้​นั่นแหละ​ ​ไม่​มีคาถาอะ​ไรที่มากไปกว่านี้​

บางคนบอกว่า​เอาพระของหลวงปู่​ไป​ใช้​แล้ว​ ​รอดตายจริงไหมครับ​ ?

​เฮ้ย​ ! ​ไม่​ใช่​ (หัวเราะ) ​สิ่งเหล่านี้มันเกิด​จาก​อะ​ไรอาตมาก็​ไม่​รู้​ ​แต่การรอดตาย​นั้น​มันก็ขึ้น​อยู่​กับ​คนที่​เอา​ไป​ใช้​ด้วย​ว่า​ ​เป็น​คนดี​แค่​ไหน​ ​พวกนี้ก็มี​ส่วน​ทำ​ให้​คนเรารอดตาย​ได้​ ​แต่​จะ​ให้​อาตมาบอกว่ารอดตาย​จาก​พระ​เครื่อง​ ​มันบอก​ไม่​ได้​

อ้าว​ ! ​แล้ว​บางคนบอกว่ามีพระของหลวงปู่​แล้ว​ใครก็ยิง​ไม่​เข้า​ ?

​อาตมาว่ายิง​ไม่​ออก​หรือ​ยิง​ไม่​เข้า​ ​กระสุนมันอาจ​ไม่​ดีก็​ได้​นะ​ (หัวเราะ) ​แต่ที่ยิง​ไม่​ออก​ ​ยิง​เข้า​บ้าง​ไม่​เข้า​บ้างก็​เพราะ​มันยิง​ไม่​ถูกก็​ได้​ (หัวเราะ)

จริงๆ​ ​วัตถุมงคลมี​ความ​จำ​เป็น​ต่อคนเรามากน้อยแค่​ไหนครับ​ ?

​จะ​ว่าจำ​เป็น​หรือ​ไม่​จำ​เป็น​มันขึ้น​อยู่​กับ​ตัวบุคคลมากกว่า​ ​เพราะ​วัตถุมงคลเหล่านี้มันก็​เป็น​การบำ​รุงจิตใจ​ ​กระตุ้นจิตใจ​ให้​กับ​คนเรา​ได้​ยึดมั่น​ใน​คุณงาม​ความ​ดี​ ​หรือ​บางครั้งบ้านเมืองเรา​อยู่​ใน​ยามคับขัน​ ​ขับรถกลัวเกิดอุบัติ​เหตุ​ ​พระ​เครื่องก็​เป็น​สิ่งย้ำ​เตือน​ไม่​ให้​คนเราประมาท​ ​ทำ​อะ​ไรก็​ต้อง​มีสติตลอดเวลา​ ​เมื่อจิตใจเราดี​ ​มันก็ทำ​ให้​คนเราฝ่าฟันอุปสรรคไป​ได้​

มีญาติ​โยมมาขอหวยบ้างไหมครับ​ ?

​ก็มี​เยอะ​เหมือน​กัน​ ​แต่อาตมา​ไม่​รู้​ ​พอมา​แล้ว​เขา​ไปซื้อ​กัน​ไม่​ถูกเลยหลายงวด​ ​คนพวกนี้ก็​จะ​เลิกขอไปเอง​ ​ถ้า​อาตมารู้ก็​แสดงว่า​เทวดาบอกซิ​ (หัวเราะ) ​ถ้า​เขา​ไม่​บอกอาตมาก็​ไม่​รู้​

บางคนมาถ่ายภาพหลวงปู่​แล้ว​ ​ปรากฏว่าภาพ​ไม่​ติด​นั้น​ ​เกิด​จาก​อะ​ไร​ ?

​กล้องมันเสีย​หรือ​เปล่า​ ​ต้อง​ไปถามคนถ่ายว่าถ่ายอย่างไร​ ​อาตมา​ไม่​รู้​เพราะ​ไม่​ใช่​คนถ่าย​

แล้ว​หลวงปู่​ไม่​ได้​เป่ามนต์คาถาห้ามถ่าย​ไม่​ติด​หรือ​ครับ​ ?

​อาตมา​ไม่​ได้​สั่ง​ ​เพราะ​จริงๆ​ ​อาตมาตั้งใจ​ให้​มันติด​ ​แต่ทำ​ไมคนถ่ายออกไป​แล้ว​ภาพที่ถ่ายกลับ​ไม่​ติด​ ​ก็​ไม่​รู้​เหมือน​กัน​

หลวงปู่มี​โรคประจำ​ตัวไหมครับ​ ?

​สุขภาพอาตมาก็​เรื่อยๆ​ ​แข็งแรงบ้าง​ไม่​แข็งแรงบ้าง​ ​มี​โรคประจำ​ตัว​อยู่​เหมือน​กัน​ ​อาตมา​เป็น​โรคหัวใจ​ ​เมื่อ​ไม่​สบายก็​ต้อง​รักษา​กัน​ไป​ ​พออาตมาหยุดหายใจมันก็ตาย​อยู่​แล้ว​ (หัวเราะ)

มีอะ​ไรที่หลวงปู่​ยัง​ไม่​ได้​ทำ​บ้างครับ​ ?

​อาตมาคง​ไม่​คิดทำ​อะ​ไร​แล้ว​ ​อายุก็มาก​แล้ว​ ​อยากทำ​อยู่​อย่างเดียว​ ​คือการมรรคผลนิพพาน​ ​เท่า​นี้อาตมาก็พอใจ​แล้ว​ ​ถ้า​ได้​ก็ดี​ ​แต่มันคงลำ​บาก​และ​ยาก​อยู่​เหมือน​กัน​ ​จะ​ตายเสียก่อนล่ะมั้ง​ (หัวเราะ) ​คิดว่า​อยู่​อีกสองปีครบ​ ๗ ​รอบ​ ​อายุก็​ ๘๔ ​ปีพอดี​ ​ชีวิตนี้​เอา​แค่นี้ก็พอ​ ​เกิดก็​เกิดมานาน​แล้ว​ ​และ​ที่สำ​คัญ​ความ​เป็น​พระสงฆ์​จึง​ไม่​ควร​อยู่​ใน​ที่​โอ่​โถง​

หลวงปู่มีธรรมะข้อไหนที่​จะ​ฝาก​ให้​กับ​ผู้​อ่านหนังสือพิมพ์​ "คม​ ​ชัด​ ​ลึก" ​ครับ​ ?

​เมื่อ​ถึง​วัยทำ​งาน​แล้ว​ ​ปล่อยเวลา​ให้​ผ่านไป​ไม่​ยอมทำ​งาน​ให้​เป็น​มรรคผล​ ​ปล่อยใจ​ให้​เป็น​ไปตามอารมณ์ก็​ไม่​ก้าวหน้า​เท่า​ที่ควร​ ​ชีวิตก็​จะ​รวนเร​ไม่​เป็น​แก่นสาร​ ​เมื่อ​ถึง​คราวชรามีมา​ถึง​ก็​ไม่​มีทรัพย์สมบัติมา​เลี้ยงตัวก็​จะ​อดอยาก​ ​จะ​พึ่งลูกหลานก็​ไม่​ให้​พึ่ง​ ​ตัวเองก็​จะ​ถึง​ความ​เสื่อม​ทั้ง​กาย​และ​ทรัพย์สิน​ ​คล้าย​เป็น​คนอนาถา​ ​หาที่พึ่ง​ไม่​ได้​ ​ฉะ​นั้น​ ​ก่อน​จะ​ถึง​วัยชราควรขยันทำ​มาหากิน​ ​หาสมบัติ​เป็น​หลักฐานเอา​ไว้​สำ​หรับเลี้ยงตัว​และ​ลูกหลาน​ ​ความ​ทุกข์​จะ​ได้​ไม่​เบียดเบียน​ด้วย​ยามชรา​

​เมื่อวัยชรามีมา​ถึง​เริ่มทำ​บาป​ไม่​ไหว​แล้ว​ ​หมั่น​อยู่​ใน​ศีลธรรมภาวนา​ไม่​เป็น​คนเจ้าสำ​ราญดื่มสุรา​เป็น​อาจิณ​ ​ไม่​เอา​ใจ​ใส่​ต่อบุญทานการกุศล​ ​แม้​แต่​จะ​หยุดใจเพื่อเจริญกรรมฐาน​ ​พุทโธ​ ​ธัมโม​ ​สังโฆ​ ​สัมมาอะระหัง​ ​ซ้ายย่างหนอ​ ​ขวาย่างหนอ​ ​นะมะพะทะ​ ​จิตก็​จะ​ไม่​มีอะ​ไรยึดเหนี่ยว​ ​มันก็​จะ​ไกล​จาก​บุญกุศล​จะ​พาตน​ให้​เดือดร้อน​ ​มีทุคติ​เป็น​ที่​ไปเบื้องหน้า​ ​คราว​ใกล้​ตายจิตก็​จะ​เศร้าหมอง​ไม่​ผ่องใส​ ​จิตไปสู่ทุคติ​ ​มีนรก​ ​อสุรกาย​ ​สัตว์​เดรัจฉาน​ ​จะ​ไม่​สม​กับ​ที่​เกิดมาพบเจอพระพุทธศาสนา​และ​เป็น​ชาวพุทธ​ ​อาตมาอยาก​จะ​บอกว่า​ ​เกิดมา​เป็น​มนุษย์จงทำ​ความ​ดี​ให้​ถึง​ที่สุด​ ​ทำ​ความ​ดี​ให้​สุดกำ​ลังนั่นเอง​

 ชาติภูมิหลวงปู่​แผ้ว

หลวงปู่​แผ้ว​ ​ปวโร​ ​อายุ​ ๘๒ ​ปี​ ​พรรษา​ ๖๒ ​ชื่อเดิม​ ​แผ้ว​ ​บุญวัตร​ ​ชื่อเล่น​ ​แกละ​ ​เกิด​ ​เมื่อวันที่​ ๗ ​ตุลาคม​ ๒๔๖๖ ​ตรง​กับ​วันพุธ​ ​แรม​ ๑๔ ​ค่ำ​ ​เดือน​ ๑๑ ​ปีกุน​ ​ณ​ ​หมู่บ้านหลักเมตร​ ​ต​.​ทุ่งขวาง​ ​อ​.​กำ​แพงแสน​ ​จ​.​นครปฐม​ ​บิดาชื่อพาน​ ​มารดาชื่อ​ ​จุ้ย​ ​จบการศึกษาชั้นประถมปีที่​ ๓

จาก​โรงเรียนวัดหนองม่วง​ ​ต​.​เตาอิฐ​ ​อ​.​บางแพ​ ​จ​.​ราชบุรี​

​อายุ​ได้​ ๒ ​ขวบ​ ​ครอบครัว​ได้​ย้ายไป​อยู่​ ​ต​.​ทุ่งขวาง​ ​อ​.​กำ​แพงแสน​ ​ยึดอาชีพทำ​นา​เป็น​หลัก​ ​พ่อแม่​ ​ถือ​เป็น​คนใจบุญ​ ​สนทนาธรรมะ​กับ​พระมิ​ได้​ขาด​ ​กระทั่งปี​ ๒๔๗๕ ​โยมพ่อ​ ​ได้​ฝากเด็กชายแกละ​ไป​เป็น​ศิษย์​ ​ณ​ ​วัดหนองม่วง​ ​ต​.​เตาอิฐ​ ​เพื่อ​ให้​ได้​ ​เรียนหนังสือ​กับ​พระสงฆ์​ ​โรงเรียนสมัย​นั้น​ ​จะ​อยู่​ใน​วัด​ ​และ​พระ​เป็น​ครูสอน​ ​เด็กชายแกละ​ ​จึง​อยู่​ใน​ความ​ดู​แล​จาก​หลวงพ่อหงส์​ ​เจ้าอาวาสวัดหนองม่วง​ ​แต่ก็​ต้อง​ ​ออก​จาก​โรงเรียนกลางคัน​ ​เพราะ​ต้อง​ออกมา​ช่วย​งานทางบ้าน​

​อายุ​ ๒๐ ​ปี​ ​ได้​อุปสมบท​เป็น​พระภิกษุ​ ​เมื่อวันที่​ ๒๗ ​มิถุนายน​ ๒๔๘๖ ​ณ​ ​วัดหนองปลา​ไหล​ ​อ​.​กำ​แพงแสน​ ​จ​.​นครปฐม​ ​โดย​มี​ ​พระครูสุกิจธรรมสร​(พระอธิการหว่าง​ ​ธมมสโร) ​วัดกำ​แพงแสน​ ​เป็น​พระอุปัชฌาย์​ ​พระอธิการปาน​ ​อารกฺ​โฆ​ ​วัดหนองปลา​ไหล​ ​เป็น​พระกรรมวาจาจารย์​ ​พระสนั่น​ ​วัดหนองปลา​ไหล​ ​เป็น​พระอนุสาวนาจารย์​

​ต่อมา​ใน​ปี​ ๒๔๙๗ ​จำ​พรรษา​อยู่​ที่วัดสว่างชาติประชาบำ​รุง​ ​ต​.​กำ​แพงแสน​ ​มีอาจารย์สุนทร​ ​ชิตะมา​โร​ ​เป็น​เจ้าอาวาส​ ​หลวงปู่​ได้​ตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัยอย่างมุ่งมั่น​ ​จนสอบ​ได้​ถึง​นักธรรมเอก​ ​หน้าที่รับผิดชอบ​ยัง​คง​เป็น​ครูสอน​ ​พระนักธรรมแก่พระภิกษุ​และ​สามเณร​ ​ต่อมา​เจ้าอาวาสวัด​ได้​ลาสิกขา​ ​ตำ​แหน่งเจ้าอาวาสว่างลง​ ๑-๒ ​ปี​ ​ชาวบ้านรวม​ทั้ง​พระภิกษุ​และ​สามเณร​ต้อง​การ​ให้​หลวงปู่ดำ​รงตำ​แหน่งเจ้าอาวาส​ ​แม้หลวงปู่​จะ​ไม่​ยินดี​เท่า​ใด​นัก​

​ปี​ ๒๕๐๒ ​จำ​พรรษาที่วัดกำ​แพงแสน​ ​จ​.​นครปฐม​ ​จน​ถึง​ปัจจุบัน​ ​โดย​เบื้องต้นมี​ความ​สนใจ​ใน​พระกรรมฐาน​ ​ของวัดมหาธาตุ​เป็น​ทุนเดิม​อยู่​แล้ว​ ​แต่มา​เริ่มปฏิบัติอย่างจริงจังที่วัดกำ​แพงแสน​ ​เพราะ​มีพระที่วัด​ได้​ไปศึกษากรรมฐาน​ ​ที่สำ​นักกรรมฐาน​ ​ตรงพระนอนภาย​ใน​องค์พระปฐมเจดีย์​ ​จึง​ได้​ยึด​เป็น​หลักการปฏิบัติ​เรื่อยมา​

​สาธุชนที่​ต้อง​การ​จะ​ไปกราบไหว้หลวงปู่​แผ้ว​ ​สอบถามรายละ​เอียดเส้นทางไปที่วัดกำ​แพงแสน​ ​อ​.​กำ​แพงแสน​ ​จ​.​นครปฐม​ ​ได้​ที่​โทรศัพท์​ ๐-๙๔๔๕-๕๙๐๘, ๐-๑๗๒๒-๒๕๖๘
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 มี.ค. 2550, 05:21:50 โดย HEA_WOY! »

ออฟไลน์ cvet04

  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 54
  • เพศ: ชาย
  • ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ก่อนมาวัดด้วยนะจ๊ะ
    • MSN Messenger - aom_cc35@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ทดสอบ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 30 มี.ค. 2550, 05:46:53 »
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ   

อ่านประวัติของ พระท่านแล้วรู้สึกดีนะคับ  อ่านแล้วสนุก แล้วเตือนสติ
ออมเอง

ออฟไลน์ HEA_WOY!

  • จตุตถะ
  • ****
  • กระทู้: 85
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ทดสอบ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 30 มี.ค. 2550, 06:06:20 »
0 ​หลวงปู่​แผ้ว​ ​ปวโร​ ​วัดกำ​แพงแสน​ ​ต​.​ห้วยหมอนทอง​ ​อ​.​กำ​แพงแสน​ ​จ​.​นครปฐม​ ​จะ​มีอายุครบรอบ​ ๘๔ ​ปี​ ​ใน​วันอังคารที่​ ๗ ​พฤศจิกายน​ ๒๕๔๙ ​คณะศิษยานุศิษย์​จึง​ร่วม​กัน​จัดงานทำ​บุญฉลองอายุขึ้น​ใน​วันดังกล่าว​

 ​พร้อม​กัน​นี้หลวงปู่​จะ​เป็น​ประธาน​ใน​พิธี​เบิกเนตรพระสังกัจจายน์​ ​และ​พระสิวลี​ ​ซึ่ง​แกะสลัก​จาก​หิน​ (หินทำ​ครก) ​โดย​คณะศิษย์​จาก​โคราช​ ​และ​หมู่บ้านกระทิงแดง​ ​ร่วมสร้างถวาย​ ๘ ​ท่าน​ด้วย​กัน​

 ​สำ​หรับ​ ​พระสิวลี​ ​แกะสลัก​ ​องค์นี้มีขนาดรอบฐาน​ ๑๖๐ ​ซม​. ​สูง​ ๑๙๕ ​ซม​. ​น้ำ​หนักประมาณ​ ๑ ​ตัน​ ​ส่วน​พระสังกัจจายน์​ ​มีขนาดรอบฐาน​ ๓๕๐ ​ซม​. ​สูง​ ๑๒๕ ​ซม​. ​น้ำ​หนักประมาณ​ ๒ ​ตันเศษ​ นอก​จาก​นี้​ ​ใน​งานทำ​บุญฉลองอายุ​ ๘๔ ​ปี​ ​หลวงปู่​แผ้ว​ ​ใน​วันอังคารที่​ ๗ ​พฤศจิกายนนี้​  ​ทางวัด​ได้​จัดสร้างวัตถุมงคล​ ​เป็น​ที่ระลึกขึ้น​ด้วย​ ​ประกอบ​ด้วย​ ​พระพุทธรูปบูชา​ ​ขนาดหน้าตักกว้าง​ ๙ ​นิ้ว​ ​ใต้​ฐานบรรจุ​เกศา​และ​ปิดจีวร​ ๑ ​ไตรมาส​ ​จำ​นวนสร้าง​ ๘๔ ​องค์​ ​สำ​หรับสมนาคุณแก่​ผู้​ร่วมบริจาคปัจจัย​ ๒,๙๘๔ ​บาท​

 ​รูปหล่อหลวงปู่​แผ้ว​ ​ขนาดหน้าตักกว้าง​ ๙ ​นิ้ว​ ​ใต้​ฐานบรรจุ​เกศา​และ​ปิดจีวร​ ๑ ​ไตรมาส​ ​จำ​นวนสร้าง​ ๘๔ ​องค์​ ​สมนาคุณแก่​ผู้​ร่วมบริจาคปัจจัย​ ๔,๙๘๔ ​บาท​ ​ส่วน​ท่านที่ร่วมทำ​บุญ​ ๑๐๐ ​บาทขึ้นไป​ ​จะ​ได้​รับเหรียญที่ระลึกฉลองอายุ​ ๘๔ ​ปี​ ​หลวงปู่​แผ้ว​ ๑ ​เหรียญ​

 ​สาธุชนที่​ต้อง​การ​จะ​ไปร่วมทำ​บุญอายุ​และ​กราบไหว้หลวงปู่​แผ้ว​ ​สอบถามเส้นทางไปที่วัด​ได้​ที่​โทร​.๐๘๙-๒๐๗-๗๐๓๙, ๐-๙๔๔๕-๕๙๐๘, ๐๘๑-๗๒๒-๒๕๖๘ชาติภูมิหลวงปู่​แผ้ว​ ​ปวโร​ ​ปัจจุบันอายุ​ ๘๔ ​ปี​ ​พรรษา​ ๖๔ ​ชื่อเดิม​ ​แผ้ว​ ​บุญวัตร​ ​ชื่อเล่น​ "​แกละ​" ​เกิดเมื่อวันที่​ ๗ ​ตุลาคม​ ๒๔๖๖ ​ตรง​กับ​วันพุธ​ ​แรม​ ๑๔ ​ค่ำ​ ​เดือน​ ๑๑ ​ปีกุน​ ​ณ​ ​หมู่บ้านหลักเมตร​ ​ต​.​ทุ่งขวาง​ ​อ​.​กำ​แพงแสน​ ​จ​.​นครปฐม​ ​บิดาชื่อ​ "พาน" ​มารดาชื่อ​ "จุ้ย"

 ​จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่​ ๓ ​จาก​โรงเรียนวัดหนองม่วง​ ​ต​.​เตาอิฐ​ ​อ​.​บางแพ​ ​จ​.​ราชบุรี​ ​อายุ​ ๓ ​ขวบ​ ​ครอบครัวย้ายไป​อยู่​ ​ต​.​ทุ่งขวาง​ ​อ​.​กำ​แพงแสน​ ​จ​.​นครปฐม​ ​ยึดอาชีพทำ​นา​เป็น​หลัก​ ​พ่อแม่​ถึง​เป็น​คนใจบุญ​ ​สนทนาธรรมะ​กับ​พระมิ​ได้​ขาด​

 ​กระทั่งปี​ ๒๔๗๕ ​โยมพ่อฝากเด็กชายแกละ​ไป​เป็น​ศิษย์​ ​ณ​ ​วัดหนองม่วง​ ​ต​.​เตาอิฐ​ ​เพื่อ​ให้​เรียนหนังสือ​กับ​พระสงฆ์​ ​เพราะ​สมัย​นั้น​โรงเรียน​จะ​อยู่​ใน​วัด​ ​และ​พระ​เป็น​ครูสอน​ ​เด็กชายแกละ​จึง​อยู่​ใน​ความ​ดู​แลของหลวงพ่อหงส์​ ​เจ้าอาวาสวัดหนองม่วง​ ​ต่อมา​เด็กชายแกละ​ต้อง​ออก​จาก​โรงเรียนเพื่อ​ช่วย​ที่บ้านทำ​งาน​

 ​พออายุ​ ๒๐ ​ปี​ ​ท่าน​ได้​อุปสมบท​เป็น​พระภิกษุ​ ​เมื่อวันที่​ ๒๗ ​มิถุนายน​ ๒๔๘๖ ​ณ​ ​วัดหนองปลา​ไหล​ ​อ​.​กำ​แพงแสน​ ​จ​.​นครปฐม​ ​โดย​มี​ ​พระครูสุกิจธรรมสร​ (พระอธิการหว่าง​ ​ธมมสโร) ​วัดกำ​แพงแสน​ ​เป็น​พระอุปัชฌาย์​ ​พระอธิการปาน​ ​อารกฺ​โฆ​ ​วัดหนองปลา​ไหล​ ​เป็น​พระกรรมวาจาจารย์​ ​พระสนั่น​ ​วัดหนองปลา​ไหล​ ​เป็น​พระอนุสาวนาจารย์​

 ​ต่อมา​ใน​ปี​ ๒๔๗๙ ​ท่าน​ได้​จำ​พรรษา​อยู่​ที่วัดสว่างชาติประชาบำ​รุง​ ​ต​.​กำ​แพงแสน​ ​มีอาจารย์สุนทร​ ​ชิตะมา​โร​ ​เป็น​เจ้าอาวาส​ ​ท่าน​ได้​ตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัยอย่างมุ่งมั่น​ ​จนสอบ​ได้​ถึง​นักธรรมเอก​

 ​ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบ​เป็น​ครูสอนพระนักธรรมแก่พระภิกษุสามเณร​ ​ต่อมา​เจ้าอาวาสวัด​ได้​ลาสิกขา​ ​ตำ​แหน่งเจ้าอาวาส​ได้​ว่างลง​ ๑-๒ ​ปี​ ​ชาวบ้านรวม​ทั้ง​พระภิกษุ​และ​สามเณร​ ​ต้อง​การ​ให้​ท่านดำ​รงตำ​แหน่งเจ้าอาวาส​ ​แม้ว่าท่าน​จะ​ไม่​ยินดี​เท่า​ใด​นักก็ตาม​

 ​หลวงปู่​แผ้ว​ได้​จำ​พรรษาที่วัดกำ​แพงแสน​ ​มาตั้งแต่ปี​ ๒๕๐๒ ​จน​ถึง​ปัจจุบัน​ ​โดย​เบื้องต้นมี​ความ​สนใจ​ใน​พระกรรมฐานของวัดมหาธาตุ​เป็น​ทุนเดิม​อยู่​แล้ว​ ​แต่มา​เริ่มปฏิบัติอย่างจริงจังที่วัดกำ​แพงแสน​ ​เมื่อปี​ ๒๕๒๔ ​ช่วงหลวงปู่ดุลย์​ ​อตุ​โร​ ​จ​.​สุรินทร์​ ​พระป่ากรรมฐานศิษย์พระอาจารย์มั่น​ ​ภูริทัตโต​  ​ได้​เดินทางมาพักที่วัดกำ​แพงแสน​ ​และ​ได้​สนทนาธรรมเพื่อ​เป็น​แนวทางปฏิบัติพระกรรมฐาน​ ​ซึ่ง​หลวงปู่​แผ้ว​ได้​ยึดถือปฏิบัติมาจน​ถึง​ทุกวันน

ออฟไลน์ oz

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 151
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: ทดสอบ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 31 มี.ค. 2551, 11:21:57 »
ท่านม่รับสักเเล้วหรือครับ