ผู้เขียน หัวข้อ: ประสบการณ์ลี้ลับ…ภาค 1… ถ้ำคนธรรพ์  (อ่าน 7073 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ กระเบนท้องน้ำ

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 275
  • เพศ: ชาย
  • การให้ธรรมะ ชนะการให้ทั้งปวง
    • MSN Messenger - krabentongnam2511@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • บ้านกระเบนท้องน้ำ
ประสบการณ์ลี้ลับ…ภาค 1…ถ้ำคนธรรพ์
เรื่องนี้เป็นประสบการณ์จริงของผู้เขียน (กระเบนท้องน้ำ)
เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2554
ณ.บ้านวังหอน อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช


เริ่มต้นออกเดินทางจากอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช เวลาประมาณ 09.35
ด้วยพาหนะรถยนต์สามคัน สิบสี่ชีวิต ลัดเลาะวิ่งไปตามเส้นทางทุ่งสง-กะปาง
ก่อนถึงอำเภอกะปาง จังหวัดตรัง เพียงเล็กน้อย เราก็เลี้ยวซ้ายไปทางบ้านวังหอน
ตำบลวังอ่าง อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช

ได้ไปถึงที่วัดวังหอนเป็นที่แรก พวกเราหมู่คณะนำโดยท่านอาจารย์ชา
ได้ขึ้นไปกราบขอพร ตาหลวงแสง ธมมฺสโร อดีตเจ้าอาวาสองค์แรก
บนมณฑป ตาหลวงแสง ธมมฺสโร ท่านนอนอยู่ในโลงแก้ว
สรีระร่างกายตาหลวงไม่เน่าไม่เปื่อย แต่กับแข็งเสมือนหิน


สรีระสังขารตาหลวงแสง วัดวังหอน

เสร็จแล้วพวกเราหมู่คณะได้ออกเดินทางไปยังบ้านของอดีตผู้ใหญ่บ้านวังหอน
ซึ่งเป็นญาติๆ ของท่านอาจารย์ชา ได้นำรถยนต์มาจอดไว้ที่บ้านหลังนี้
และได้คุณสุนัยชาวบ้านละแวกนั้นเป็นคนนำทางสู่ถ้ำคนธรรพ์ ส่วนชาวบ้าน
คนอื่นๆในละแวกนั้นไม่ค่อยมีใครอยากจะไปถ้ำคนธรรพ์กัน เพราะแหยงๆ
กลัวความอาถรรพ์ของถ้ำ

แล้วเริ่มออกเดินทางโดยที่ยังไม่ต้องนำเต้นท์และสัมภาระต่างๆไป
ด้วยเพราะท่านอาจารย์ชา จะพาไปเที่ยวที่ถ้ำคนธรรพ์กันก่อน
แล้วค่อยย้อนกลับมาขนเสบียงเต้นท์และสัมภาระ เพื่อที่จะไปค้าง
ที่ถ้ำวังนายพุดหรือในป่าอาถรรพ์ ท่านอาจารย์ชาบอกว่าให้ลองไป
ดูสถานที่กันก่อนแล้ว ค่อยตกลงกันว่าจะพักค้างตรงไหนดี
เพราะถ้าพักค้างกางเต้นท์ภายในถ้ำวังนายพุดก็จะไกล
จากแหล่งน้ำและห้องน้ำที่มีหมื่นกว่าไร่

อีกทั้งยังต้องขึ้นลงเขาที่สูงชันทำให้ไม่สะดวก พวกเราจึงได้ตก
ลงกันที่จะพักค้างในป่าอาถรรพ์(โดยที่ตอนแรกไม่รู้ว่าเป็นป่าอาถรรพ์)
เพราะท่านอาจารย์ชายังไม่บอกและยังไม่ได้เล่ารายละเอียด


เริ่มออกเดินทางกัน….(คนที่หันหน้ามาคือน้องเก๋ สาวสวยประจำทริปนี้)


นายพรานนำทางชื่อคุณสุนัย

ในระหว่างการเดินทางระยะแรกก็ผ่านลำห้วยที่หนึ่งมาก่อน ผ่านสวนยางพารา
และก็มาเจอลำห้วยที่สอง พอพ้นจากนั้นก็เริ่มขึ้นเขาบุกป่า ถางกิ่งไม้ใบหญ้า
ไปตลอดทางเพราะเป็นทางรกไม่มีผู้คนสัญจร เมื่อเดินได้สักระยะนึงนายพราน
นำทางก็พามาเจอทางตันไม่มีปากถ้ำมีแต่หน้าผาหิน
ท่านอาจารย์ชา เลยนำไปอีกทางโดยมีผู้เขียนตามไปเป็นคนที่สอง
และได้เดินไปพบปากทางเข้าถ้ำคนธรรพ์จนได้
พวกเราหมู่คณะก็เดินแบบเรียงหนึ่งตามๆกันไป จนครบสิบห้าชีวิต
(รวมทั้งนายพรานนำทางด้วย)


พวกเราเดินป่าแบบเรียงหนึ่งตามๆกันไป


พี่บัติกำลังนำกิ่งไม้มาให้เกาะยึดระหว่างที่จะลงสู่ลำห้วย


พี่ต๋อยกำลังช่วยพยุงท่านอ้วนลงสู่ลำห้วย


บริเวณปากทางเข้าถ้ำคนธรรพ์

เมื่อพักเหนื่อยและพักอิริยบทที่บริเวณปากทางเข้าถ้ำพอสมควรแล้ว
ท่านอาจารย์ชา ก็ได้จุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง เจ้าป่า เจ้าถ้ำ

หลังจากนั้นก็เริ่มเดินทางเข้าสู่ภายในถ้ำซึ่งมืดมาก ด่านแรกที่พบคือ
ค้างคาวจำนวนเป็นแสนๆตัว บินสวนออกมาเสียงดังสนั่นอย่างกับเฮลิ
คอปเตอร์ พร้อมทั้งกลิ่นเหม็นตลบอลอวล ของขี้ค้างคาว ทำให้รู้สึก
แสบจมูกแทบหายใจไม่ออก

ด่านที่สองเจองูเหลือมขนาดเท่าขา 3 ตัว บริเวณริมฝั่งซ้ายของถ้ำ
หัวบอลลูกชายท่านอาจารย์ชาคนที่สองได้ร้องบอก พวกเราหมู่คณะ
ให้พยายามเดินชิดทางด้านขวากัน

เมื่อผ่านพ้นด่านงูไปแล้วก็พบเจอด่านที่สาม กับทางที่ลื่นมากพากัน
ล้มลุกคลุกคลานกันไม่เป็นขบวน เพราะพื้นถ้ำเต็มไปด้วยดินโคลน
และหุบเหว หลุมบ่อมากมาย ต้องค่อยๆเดินกันไป อย่างมีสติ
และคอยระวังตัว จนกระทั่งนายพรานนำทางพามาถึงทางตัน
ไม่มีทางไปแล้ว (แต่ก่อนนี้เคยเป็นทางไปได้)
เลยเดินย้อนกลับมาหน่อยนึง จึงได้พบทางแยกด้านซ้าย
เมื่อเดินไปได้ซักระยะนึงก็พบกับบริเวณด่านที่สี่
ซึ่งบริเวณนี้เป็นคนละเรื่องกับด่านต่างๆที่ผ่านมา
พื้นถ้ำสะอาดสะอ้านมีน้ำใสขังอยู่เทียมตาตุ่ม บาง
ช่วงถึงหัวเข่า อากาศไม่อับชื้น รู้สึกสบายๆ

จนกระทั่งตุ่มแฟนพี่ตูนรู้สึกว่าได้เหยียบอะไรเข้าลื่นๆ ท่านอาจารย์ชา
ที่เดินตามหลังมาก็ช่วยส่องไฟฉายดูที่พื้นให้ เพราะเห็นแสงสีแดงๆ
สะท้อนขึ้นมาจะดูว่าคืออะไรเมื่อท่านอาจารย์ชาเห็นแล้วก็เลยไล่ตะครุบ
มันก็วิ่งหนีไป หนีมา เหมือนมีชีวิต จับได้แล้วก็กระโดดทะลุฝ่ามือออกมา
พี่บัติและเก๋ก็ได้เข้ามาช่วยกันจับ เมื่อเก๋ได้ยื่นมือจะช่วยเท่านั้นเอง
มันก็วิ่งเข้ามาอยู่บนฝ่ามือเก๋อย่างสงบนิ่ง ช่างน่าแปลก ท่านอาจารย์ชา
เลยบอกว่าคงอยากจะอยู่กับเก๋เป็นแน่…

จึงได้ส่องไฟดูปรากฏว่ามีรูปร่างกลมรีขนาดใหญ่เท่าหัวแม่มือของผู้เขียน
มีสีแดงเข้มสวยงามมาก (ตามรูป)


ธาตุกายสิทธิ์ที่ได้ชิ้นแรก

หลังจากนั้นท่านอ้วนก็ได้ชิ้นที่สองในน้ำอีก อยู่ใกล้ๆกับบริเวณที่พบ
กับชิ้นแรก ตอนแรกที่ได้มีลักษณะคล้ายสี่หลียมลูกเต๋า
มีสีดุจสีสังข์หรือน้ำนม ต่อมาค่อยๆเริ่มมีความโค้งมนขึ้นมาบ้าง

หลังจากนั้นพวกเราในหมู่คณะก็เริ่มมีกำลังใจและเริ่ม
ส่องไฟและกวาดสายตาไปรอบๆเพื่อเสาะหาของแปลกๆกันบ้าง
และทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงหัวบอลร้องเรียกขึ้นมาจาก
ด้านหน้าว่า “อาจารย์ๆมาดูเหล็กไหลเร็ว “ เร็วเข้า พวกเราจึงได้
กรูกันตามเข้าไปดู จึงได้เห็นเหล็กไหลเป็นครั้งแรก
ซึ่งโผล่ออกมาจากรังผนังถ้ำ ก้อนใหญ่เท่ากำปั้นได้ บริเวณโดย
รอบตัวเหล็กไหลมีลักษณะตะปุ่มตะป่ำและขี้เหล็กไหลเต็มไปหมด

พวกเราก็เลยทดลองดึงกันดูว่าจะหลุดออกมาจากรังมั้ย ลองกันหลาย
คนแต่ไม่สามารถดึงออกมาได้จึงได้หมดความสนใจลง
และเริ่มเดินทางกันต่อไป

จนกระทั่งพี่ตูนได้เดินไปพบชิ้นที่สามเข้าให้คราวนี้เป็นเหล็กไหลอีก
แต่ทีนี้ตัวเล็กอยู่ในรัง จึงได้ร้องเรียกท่านอาจารย์ชา
ให้ไปช่วยเอาออกให้หน่อย อาจารย์ชาจึงลองสะกิดดูเพียงเล็กน้อย
ก็หลุดออกมาจากรังอย่างง่ายดาย (อันนี้เค้าคงจะให้มั้ง)

หลังจากนั้นพี่ตูนกับตุ่มก็พบชิ้นที่สี่อีกเป็นเหล็กไหลเหมือนกันแต่โต
กว่าชิ้นแรกคงเป็นตัวผู้หลังจากได้ตัวเมียแล้ว

จากนั้นเมื่อเดินลึกเข้าถ้ำไปเรื่อยๆ ก็ไปพบกับรอยเท้าของคนธรรพ์
และผนังถ้ำที่ดูสวยงามแลดูเสมือนห้องหับห้องนอนอัน
วิจิตรงดงาม เสมือนมีใครบรรจงมาตบแต่งเอาไว้





รอยเท้าคนธรรพ์…สังเกตุดูจะมีนิ้วเท้าสี่นิ้ว

ต่อมานายพรานนำทาง บอกว่าเห็นทีคงจะพอแค่นี้ เพราะเดินทางอยู่
ภายในถ้ำก็สามชั่วโมงแล้ว เดินต่อไปถ่านไฟฉายคงไม่พอเป็นแน่
พวกเราหมู่คณะจึงเห็นพ้องกันว่าควรเดินกลับ จึงเริ่มหันหลังเดินทาง
กลับและเดินไปได้สักระยะนึง

คราวนี้!พี่นวลเป็นคนได้ชิ้นที่ห้า ท่านอาจารย์ชาก็เดินอยู่ใกล้ๆกันพอดี
พี่นวลได้พูดอยู่กับตุ่มว่าพี่ไปแล้วนะ… ตุ่มถามว่าพี่จะไปไหน พี่นวล
บอกว่าพี่จะไปเอาดวงตา…ดวงตา…

จึงได้เห็นอะไรแววๆอยู่ในน้ำ เมื่อได้หยิบขึ้นมาพอแบมือให้ท่านอาจารย์ชา
ดูปรากฏว่าชิ้นเล็กเท่าเมล็ดถั่วเขียวได้สีขาวใส แล้วค่อยๆโตขึ้น โตขึ้น
เป็นกลมใสเหมือนดวงตาจริงๆ ต่อหน้าต่อตาท่านอาจารย์ชา
จึงเป็นอะไรที่แปลกประหลาดมาก


บริเวณใกล้ๆที่พบธาตุกายสิทธิ์….ลักษณะเหมือนดวงตาของปลา ใสเหมือนแก้ว



หลังจากนั้นข้าพเจ้าผู้เขียนก็ลองตริตรองดูว่า…เอ๊ เห็นทีต้องลองอธิษฐาน
ขอดูบ้างถ้าอยู่เฉยๆคงไม่ได้เป็นแน่ เพราะใจนึงก็อยากจะได้กับเขาบ้าง
เห็นได้กันหลายคนแล้ว อีกใจนึงก็รู้สึกเฉยๆเพราะไม่อยากได้อะไรอยู่แล้ว

จึงลองเสี่ยงอธิษฐานว่า
“ถ้ามีสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ณ.สถานที่นี้จะมาเป็นคู่บารมีเพื่อบำเพ็ญประโยชน์สร้าง
บารมีและสืบทอดพระพุทธศาสนากับข้าพเจ้าละก้อขอให้ปรากฏและข้าพเจ้า
ได้พบเจอด้วยเถิด”

หลังจากนั้นก็เดินทยอยออกตามกันมาจนพ้นเขตด่านที่สี่ ซึ่งหมดพื้นที่ที่น้ำขัง
อยู่ ข้าพเจ้าก็ทำใจแล้วว่าคงจะไม่พบ หรือได้อะไรเป็นแน่แล้ว !

..……………..แต่เดชะบุญ!!! จู่ๆท่านอาจารย์ชาที่กำลังเดินอยู่หน้าข้าพเจ้า
ก็พูดออกมาว่ามีเทวดาสื่อมาบอกว่า “ยังมีอีกหนึ่งชิ้น”
ให้ไปล้วงหาในแอ่งน้ำสุดท้าย ก่อนที่จะหมดเขตแดนที่มีน้ำขังอยู่
ท่านอาจารย์ชาจึงเดินย้อนกลับไปล้วงหาในแอ่งน้ำนั้น โดยนึกว่า
คงบอกให้แกแน่แล้ว แต่หาเท่าไรๆก็ไม่พบ
พวกเราหมู่คณะได้ตามไปช่วยหา จึงได้ตกลงกันว่า
ให้ผลัดกันล้วงถ้าผู้ใดล้วงพบก็ให้เป็นของคนนั้น

ก็มีท่านอาจารย์ชาล้วงคนแรกไม่พบ คนที่สองเก๋ ก็ไม่พบ
คนที่สามพี่ต๋อยไม่พบ คนที่สี่ปังปอนลูกชายท่าน
อาจารย์ชาคนโต ไม่พบ คนที่ห้าพี่นวลก็ไม่พบ
คนที่หกมุกภรรยาท่านอาจารย์ชาไม่พบ คนสุดท้ายข้าพเจ้า
ก็ลองล้วงควานหากับเค้าบ้างเพราะว่าในแอ่งน้ำนั้นขุ่น
จนมองไม่เห็นอะไรแล้ว
ล้วงหาสักพักจนทั่วแล้วก็ไม่พบ แอ่งน้ำนั้นก็ใช่ว่าใหญ่
มากมายอะไรนัก จึงขอลองล้วงดูใหม่อีกสักครั้ง
คราวนี้ทำจิตนิ่งเป็นสมาธิ ก็ดูเหมือนไม่น่าจะมี
แต่จู่ๆก็มีอะไรไม่รู้ลื่นๆนิ่มๆเหมือนน้ำมันตับปลา
มาลอยอยู่ในฝ่ามือจึงกำและหยิบขึ้นมาดูและให้ท่านอา
จารย์ชาดู มันจึงค่อยๆแข็งขึ้นๆ ลักษณะกลมรีมีสีม่วงสดใส


บริเวณน้ำแอ่งสุดท้ายที่กำลังล้วงหาของกัน


ธาตุกายสิทธิ์ชิ้นสุดท้ายที่ได้จากในถ้ำคนธรรพ์


รวมธาตุกายสิทธ์ที่ได้จากในถ้ำคนธรรพ์


เป็นภาพที่กำลังวัดร่องรอยที่ธาตุกายสิทธิ์หลุดหล่นจากมือของผู้ที่มาขอชมบารมี


เป็นภาพที่หล่นกระแทกกับมีดพร้าของนายพรานผู้นำทางเข้าพอดี……ผลปรากฏว่ามีดพร้าบิ่น
ตามร่องรอยที่เห็นดังกล่าว


หลังจากนั้นเมื่อเดินทางออกมาถึงหน้าถ้ำแล้ว ท่านอาจารย์ชา
ได้นำกล่าวคำอธิษฐาน ขออนุญาตนำสิ่งที่ได้ทั้งหมด ออกจากสถาน
ที่แห่งนั้น และได้เล่าให้ฟังว่าแต่ก่อนนั้นมีพวกหมอที่มีวิชาอาคม
มาทำพิธีเรียกของหาของ ได้ของแล้ว…ของนั้น
กับวิ่งเข้าตัวแล้วกระโดดลงเหวลงรูภายในถ้ำแห่งนี้ตายไปจำนวน
สามศพแล้ว แต่พวกเราที่ได้นี้ไม่ได้ใช้วิชาอาคมบังคับหรือ
ลองดีอะไรแล้วแต่เขาจะให้ และยังบอกอีกว่าอาจารย์ได้เข้าไปในถ้ำ
แห่งนี้สี่ครั้ง ลักษณะภายในถ้ำจะไม่เหมือนกันสักครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่
ห้าแล้วที่เข้าไป สี่ครั้งที่เข้าไปจะเข้าไปได้ไม่นานก็จะ
ได้ยินเสียงระฆังตี เพื่อเป็นสัญญาณว่าเขาไม่ให้เข้าไปแล้ว แปลกครั้งนี้
ไม่ยักกะมีเสียงระฆังเลย

หลังจากนั้นพวกเราหมู่คณะ ก็เดินทางกลับไปยังบ้านจุดที่จอดรถไว้
เพื่อกลับไปเอาเต้นท์เสบียงและสัมภาระต่างๆ เพื่อที่จะไปพักค้างที่ถ้ำวัง
นายพุดและป่าอาถรรพ์ต่อไป

รวมระยะเวลาที่เดินทางไปกลับ…..
ทั้งสิ้น 5 ชั่วโมงกว่า ระยะทางไปกลับประมาณ 3 กิโลเมตรกว่าๆ



โปรดคอยติดตามอ่านกันต่อไป ภาค 2 ถ้ำวังนายพุดและป่าอาถรรพ์

ออฟไลน์ yout

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 1742
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ประสบการณ์ลี้ลับ…ภาค 1… ถ้ำคนธรรพ์
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 14 ก.ย. 2554, 09:59:28 »
ขอบคุณครับที่นำมาเล่าสู๋กันฟัง เป็นบุญแล้วครับที่ได้ของดีมาครับโชคดีจริงๆครับ......... :090: :090: :114: :090: :090:........

ออฟไลน์ saken6009

  • อย่ากลัวคนจะมาตำหนิ แต่จงกลัวว่าตัวเองจะทำผิด อย่ากลัวที่จะรับรู้ความบกพร่องของตน แต่จงกลัวว่าตนจะเป็นคนที่ดีได้ไม่จริง
  • ก้นบาตร
  • *****
  • กระทู้: 893
  • เพศ: ชาย
  • ชีวิตของข้า เชื่อมั่นศรัทธา หลวงพ่อเปิ่น องค์เดียว
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ประสบการณ์ลี้ลับ…ภาค 1… ถ้ำคนธรรพ์
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 14 ก.ย. 2554, 11:34:52 »
ประสบการณ์ลี้ลับ ถ้ำคนธรรพ์ ภาค1
                                             
ขอบคุณท่าน กระเบนท้องน้ำ ที่นำบทความที่ดีมากๆ มาให้พี่น้องศิษย์วัดบางพระได้อ่านครับ
                                                                                                                 
(ขออนุญาตเข้ามาอ่าน ขอบคุณมากครับ) :033: :033:

กราบขอบารมีหลวงพ่อเปิ่น คุ้มครองศิษย์ทุกๆท่าน ให้แคล้วคลาด ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง สาธุ สาธุ

ออฟไลน์ watana...wit

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 148
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: ประสบการณ์ลี้ลับ…ภาค 1… ถ้ำคนธรรพ์
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 15 ก.ย. 2554, 08:58:35 »
ขอบคุณครับที่นำประสบการณืดีๆมาเล่าสู่กันฟัง

ออฟไลน์ danucha0710

  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 60
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - dmeaungun@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ประสบการณ์ลี้ลับ…ภาค 1… ถ้ำคนธรรพ์
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 15 ก.ย. 2554, 08:59:43 »
สุดยอดครับ อยากไป ทัว ยังงี้บ้างครับ

ออฟไลน์ berm

  • สิ่งที่ควรทำคือความดี..สิ่งที่ควรมีคือคุณธรรม..สิ่งที่ควรจำคือ...บุญคุณ
  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 1008
  • เพศ: ชาย
  • อยู่คนเดียวระวังความคิด อยู่กับมิตรระวังวาจา
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: ประสบการณ์ลี้ลับ…ภาค 1… ถ้ำคนธรรพ์
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 15 ก.ย. 2554, 09:30:56 »
อนุโมทนาด้วยครับ...ได้ของดีมาแล้วหมั่นบูชาและเก็บรักษาดีๆนะครับ
ทุกคนย่อมมีปัญหาของตัวเองเกิดขึ้นตลอดเวลา  อยู่ที่ใครเลือกที่จะเดินหนีปัญหา...หรือเลือกที่จะแก้ไขปัญหา

ออฟไลน์ danucha0710

  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 60
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - dmeaungun@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ประสบการณ์ลี้ลับ…ภาค 1… ถ้ำคนธรรพ์
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 16 ก.ย. 2554, 09:30:17 »
อยากไปเที่ยวยังงี้บ้างครับ  ถ้าเที่ยวในถ้ำจะรู้สึกดีเป็นพิเศษเดินดูไม่เบื่อเลยครับ
ไม่ทราบว่าที่ไหนครับ  แล้วถ้าไปจะติดต่อใคร   ค่าเดินทางอะไรยังงี้ครับ

ออฟไลน์ art_198

  • ทุติยะ
  • **
  • กระทู้: 1
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ประสบการณ์ลี้ลับ…ภาค 1… ถ้ำคนธรรพ์
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 21 ก.ย. 2554, 10:36:54 »
อยากไปมั่งจัง