ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมจึงเปลี่ยนศาสนาจากอิสลามมาเป็นพุทธ :ดร.ดาราวรรณ  (อ่าน 53515 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ۞เณรน้อยเส้าหลิน۞

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 1560
  • เพศ: ชาย
  • ไม่สู้ ไม่หนี ทําดีเรื่อยไป
    • ดูรายละเอียด
ประวัติ ดร.ดาราวรรณ ครูอิสลามที่เคร่งครัดแต่เปลี่ยนมานับถือพุทธศาสนาและสอนปฏิบัติธรรม (ที่เพิ่งออกรายการคลับเซเว่นของไตรภพ)





ครูดาราวรรณ เด่นอุดม เกิดเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2494 ที่กรุงเทพมหานคร สนใจฝึกสมาธิภาวนาตามหลักพระพุทธศาสนา เนื่องจากอ่านหนังสือเกี่ยวกับการปฏิบัติสมาธิภาวนาแบบเซ็น คือ เรื่องกุญแจเซ็น และปาฏิหาริย์แห่งการตื่นอยู่เสมอ เกิดความประทับใจว่าการฝึกสมาธิและการอยู่อย่างมีสติสามารถทำให ้พ้นทุกข์ได้ จึงศึกษาค้นคว้าและปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังจากพระราชวุฒาจารย์ (หลวงปู่ดูลย์อตุโล) และพระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย) ค้นพบองค์ความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของจิตหลักการฝึกจิตและผลของการฝึกจิต แล้วนำมาเผยแพร่ โดยการพิมพ์และแปลหนังสือธรรมะของครูบาอาจารย์ แ ละถ่ายทอดความรู้โดยการอบรมให้แก่ครู ? อาจารย์ นักเรียน นักศึกษา ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นแนวทางแก้ปัญหาสังคมไทย ให้พ้นภัยวิกฤติด้านต่าง ๆ ที่เผชิญอยู่ในปัจจุบัน

ครูดาราวรรณ ถือกำเนิดในครอบครัวที่นับถือศาสนาอิสลาม ประพฤติ ปฏิบัติตามหลักของศาสนาอย่างเคร่งครัด เป็นครอบครัวที่อบอุ่นมีบิดามารดาเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องควา มซื่อสัตย์ และความขยันหมั่นเพียร มีคุณปู่เป็นผู้นำศาสนาอิสลาม (อิหม่าม) อุปนิสัยส่วนตัวชอบความสงบ ชอบพิธีกรรมทางศาสนา โดยเฉพาะการสวดมนต์ภาวนาทางบ้านได้ส่งให้เรียนในโรงเรียนศาสนา ใ นระดับชั้นประถมศึกษาและเรียนพิเศษด้านศาสนาตอนเย็นหลังเลิกเรียน จึงมีความรู้ศาสนาอิสลามแตกฉานได้รับคัดเลือกเป็นตัว แทนโรงเรีย นเข้าแข่งขันตอบปัญหาและปาฐกถาธรรมทางศาสนาได้รับรางวัลชนะเลิศ และรองชนะเลิศ

แม้จะมีความรู้และศรัทธาในศาสนาอิสลาม แต่ก็เก็บความสงสัยในคำสอนหลายเรื่องที่หาเหตุผลไม่ได้และไม่สา มารถถามผู้รู้ได้ เนื่องจากเป็นข้อห้ามของศาสนา ต่อมาได้อ่านหนังสือ เกี่ยวกับการปฏิบัติสมาธิภาวนาแบบเซ็นอยู่ ๒ เล่ม คือเรื่องกุญแจเซ็น และปาฏิหาริย์แห่งการตื่นอยู่เสมอของท่านติช นัท ฮันท์ พระภิกษุชาวเวียตนาม แล้วเกิดความประทับใจว่า การปฏิบัติสมาธิและการอยู่อย่างมีสติสามารถทำให้พันทุกข์ เมื่อศึกษาและปฏิบัติแล้วพบว่า ถูกกับอุปนิสัย จึงมีความเลื่อมใสศรัทธาที่พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่เป็นวิทยาศาสต ร์ มีเหตุผลและเน้นสอนให้เราพึ่งตนเองและเชื่อหลักธรรม


ครูดาราวรรณ ได้เริ่มการศึกษาและปฏิบัติธรรมตามหลักพระพุทธศาสนาอย่างจริงจั งเมื่อปี พ.ศ. 2523 โดยเริ่มจากการปฏิบัติจิตภาวนา ได้ฝึกฝนกับอุบาสิกาสะอาด เกษมสันต์ ที่วัดน้อยนพคุณ กรุงเทพฯ จากนั้นเมื่อย้ายมารับตำแหน่งศึกษาสิเทศก์ กรมสามัญศึกษาเขตการศึกษา 11 ที่จังหวัดนครราชสีมา ได้เข้าอบรมกรรมฐานกับคุณ
แม่สิริ กรินไชย 2 ครั้ง ๆ ละ 7 วัน


ใน ปี พ.ศ. 2523 ? 2526 ได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม จังหวัดสุรินทร์ โดยไปรายงานผลการปฏิบัติ และซักถามปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ แนวทางที่หลวงปู่อบรมให้เน้นจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน คือการตามดูจิต ซึ่งเป็นแนวทางที่ถูกจริตมากที่สุด ปี พ.ศ. 2526 ก่อนหลวงปู่มรณภาพประมาณ 2 เดือน ท่านสั่งให้ไปสอนผู้อื่นเพราะจิตชำนาญแล้ว นอกจากการสอนอบรมแล้วยังได้แปลธรรมะของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล เรื่อง ?จิตคือพุทธะ? เป็นภาษาอังกฤษเผยแพร่ให้นักปฏิบัติต่างชาติ โดยได้พิมพ์แจกทันง านพระราชทานเพลิงศพของปู่ดูลย์ อตุโล ในปี พ.ศ. 2527
ช่วงปี พ.ศ. 2523 ? 2542 ได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมอย่างใกล้ชิดกับพระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย) วัดป่าสาลวัน จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งท่านได้ให้คำสอนทั้งด้านปริยัติและปฏิบัติอย่างละเอียดมาก ได้รับการไว้วางใจให้จัดทำหนังสือธรรมะเผยแพร่มาตลอด ปีละ 1 ? 2 ครั้ง ๆ ละ 10,000 ? 50,000 เล่ม ได้แก่ ธรรมวิสัชนาหลวงพ่อสอนธรรม ฐานิยปูชา มอบธรรม นำพร เป็นต้น

การศึกษาจิต : องค์ความรู้แห่งการดับทุกข์
สิ่งที่ครูดาราวรรณ ได้ค้นพบความจริงแห่งการดังทุกข์ คือ?จิต? ซึ่งเป็นพลังแฝงอยู่ในกาย มีหน้า ที่สั่งกาย และบันทึกผลงาน การทำ พูด คิด ไว้เป็นประจุกรรม (พลังกุศลกรรม และอกุศลกรรม)ซึ่งเป็นข้อมูล หรือหน่วยความจำที่มีปริมาณมหาศาล จิตเป็นอมตธาตุ เป็นธาตุที่ไม่ตาย เมื่อกายตาย จิตจะทิ้งกายไปหาที่อยู่ใหม่ (ภพภูมิ) ตามพลังขับเคลื่อนของจิตว่าจะไปทางฝ่ายกุศลหรืออกุศล จะทำให้จิตมีสิ่งรู้ ทำสติให้มีสิ่งระลึกต้องฝึกจิตหรือการทำสมาธิภาวนา ครูดาราวรรณได้ศึกษาและปฏิบัติตามหลวงพ่อพุทธ ฐานิโย ซึ่งแยก


สมาธิเป็น ๒ แบบ คือ
๑. สมาธิในวิธีการ หมายถึง การปฏิบัติสมาธิที่มีรูปแบบ เช่น การนั่งกำหนดลมหายใจบริกรรมภาวนา การเดินจงกรม เป็นต้น ซึ่งเป็นการปฏิบัติอยู่วงจำกัด เมื่อมีเวลาเป็นส่วนตัว
๒. สมาธิในชีวิตประจำวัน หรือ สมาธิสาธารณะ เป็นการปฏิบัติสมาธิในชีวิตประจำวันด้วยการกำหนดสติอยู่กับปัจจ ุบัน ไม่ว่าจะเป็นการยืน เดิน นั่ง นอน รับประทาน ดื่ม ทำ พูด คิด ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่ทำได้ทุกสถานการณ์ ทุกกาลเวลา และทุกสถานที่ เมื่อฝึกจิตได้แล้ว จิตจะมีพลังสติสัปชัญญะมากจะก่อให้เกิดปัญหาในระดับต่าง ๆ กล่าวคือ
- ปัญญาระดับสูง การรู้เท่าทันกิเลส ตัณหา อุปาทาน จนสามารถตัด อาสวกิเลสได้
- ปัญญาระดับกลางการรู้เท่าทันจิต มีภูมิต้านทานต่อสิ่งยั่วยุ สิ่งกระทบต่าง ๆ เมื่อมีสิ่งยั่วยุ (จากภายในหรือภายนอกก็ตาม) ให้ทำ
- ปัญญาระดับต้น เป็นความชาญฉลาดทางสติปัญญาที่ใช้ในการเรียนการงานต่าง ๆ ทำให้ประสบผลสำเร็จสูง มีความผิดพลาดน้อย

การที่ ครูดาราวรรณ เด่นอุดม เป็นบุคคลผู้ทรงภูมิปัญญาด้านปรัชญา ศาสนา และประเพณี เป็นผู้สร้างสรรค์และสืบสานภูมิปัญญาดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง จนเป็นที่ยอมรับของสังคมและชุมชน จึงได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ให้เป็นครูภูมิปัญญาไทย เพื่อทำหน้าที่ถ่ายทอดภูมิปัญญาในการจัดการศึกษา ทั้งการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย ตามนัยพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542


ครูดาราวรรณ เด่นอุดม อายุ๕๑ ปี เกิดเมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๔ที่กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรของ ร.ต.มุขและนาง
เกยูร เด่นอุดม สถานภาพโสด ที่อยู่ปัจจุบันบ้านเลขที่ 256 ถนนมิตรภาพ ซอย 15 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา 30000

การศึกษา
- ปริญญาตรี อักษรศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (2512 - 2515)
- ปริญญาโท อักษรศาสตร์มหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (251 - 2521)
- ปริญญาเอก Ph.D ภาษาศาสตร์ มหาวิทยาลัย Grenoble ประเทศฝรั่งเศส (252 - 2529)

เกียรติคุณที่ได้รับ
- พ.ศ. 2540 ได้รับรางวัล ?เสมาธรรมจักร? ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาสาขาส่งเสริมผู้ปฏิบัติธรรม จากกรมการศาสนากระทรวงศึกษาธิการ
- พ.ศ. 2545 ครูภูมิปัญญาไทยรุ่นที่ 2 ด้านปรัชญา ศาสนา และประเพณี จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี


นางสาวดาราวรรณ เด่นอุดม 256 ถนนมิตรภาพ ซอย 15 ถ.มิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จังหวัดนครราชสีมา 30000



แหล่งที่มาของข้อมูลครูภูมิปัญญาไทย รุ่นที่ 2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=254311


แล้ววันนี้คุณปฏิบัติธรรม เป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีแล้วหรือยัง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 มี.ค. 2552, 11:00:17 โดย ۞เณรน้อยเส้าหลิน۞ »
ครูผู้บริสุทธิ์ ครูผู้หมดกิเลสเครื่องเศร้าหมอง
ครูผู้มี"พระปัญญาธิคุณ พระมหากรุณาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ" อย่างประมาณมิได้
บรมครูผู้นั้นคือ "สมเด็จพระพุทธเจ้า"
ขอนอบน้อมกราบกรานพระบรมศาสดา

ออฟไลน์ ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์)

  • *โปรดระวัง - สีลัพพตปรามาส, ๗ เดือน ๑๙ วันจะเก็บแต่ความทรงจำที่ดีๆไว้, ตถตา (เช่นนั้นเอง).
  • ...
  • *****
  • กระทู้: 6436
  • เพศ: ชาย
  • ผู้สอนคือผู้ลวง? ผู้เรียนคือผู้หัดที่จะลวง?
    • ดูรายละเอียด
    • เฟสบุ๊ควัดบางพระ (หลวงพ่อเปิ่น)
อนุโมทนาด้วยครับผม ขอบคุณมากครับ  :054:

ออฟไลน์ อชิตะ

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 3218
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - aston_25@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
สาธุ ช่างอัศจรรย์ จริงๆ ครับ  อัปปะมาโณ พุทโธ   :054: :054:

กล้ายืนยันได้เลยว่า ถ้าใครได้ลองเปิดใจหันมาศึกษาและปฎิบัติ จะต้องยอมรับนับถือพระพุทธศาสนาอย่างแน่นอน :089: :089:


ออฟไลน์ ชลาพุชะ

  • เราอาจไม่รู้มากนัก แต่เรารู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร
  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 1526
  • เพศ: ชาย
  • ที่นี่คือเว็บวัดบางพระ เราก็ศิษย์วัดบางพระ
    • ดูรายละเอียด
อนุโมทนาสาธุด้วยนะครับ

ออฟไลน์ N!c

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 582
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
อนุโมทนาครับ...ศาสนาพุทธ เป็นศาสนาที่สามารถพิสูจน์ได้ ซึ่ง อัลเบิร์ต ไอสไตน์ บิดาแห่งวิทยาศาสตร์ ยังกล่าวถึงศาสนาพุทธว่า

“The religion of the future will be a cosmic religion. It should transcend a personal God and avoid dogmas and theology. Covering both the natural and the spiritual, it should be based on a religious sense arising from the experience of all things, natural and spiritual, as a meaningful unity. Buddhism answers this description. If there is any religion that would cope with modern scientific needs, it would be Buddhism.”

(May 19th, 1939, Albert Einstein’s speech on “Science and Religion” in Princeton, New Jersey, U.S.A.)”

เพิ่มเติม  ศาสนาอิสลามเค้าให้นับถือพระเจ้าองค์เดียวและห้ามกราบสิ่งใดนอกเหนือพระเจ้า ซึ่งพระเยซู ชาวอิสลามถือเป็นว่าศาสนทูต
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 มี.ค. 2552, 12:00:10 โดย nic.du »

ออฟไลน์ [= Jo_o* =]

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 862
  • เพศ: ชาย
  • =ลูกศิษย์วัดบางพระคนหนึ่ง=
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ครับ เราโชคดีครับที่เกิดมาเป็นชาวพุทธ ก็ขอให้ประพฤติปฏิบัติตนเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีกันด้วยนะครับ


ไอน์สไตน์รู้  แต่ พระพุทธเจ้าเห็นครับ  :054: :114:
[shake]หากอยากจะเป็นผู้รับ ท่านต้องเริ่มจากการเป็นผู้ให้เสียก่อน[/shake]

ออฟไลน์ tum72

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 2246
  • ณ ตลาดพลู
    • ดูรายละเอียด
ใช่ครับ คำสอนของพระพุทธเจ้า ไม่ว่าจะยุคใดสมัยใดก็ยังนำมาใช้ได้ไม่มีข้องผิดพลาดพกบร่องแต่ประการใด
โอม ราศีกูเอ๋ย  จงมาเป็นอาสน์  สีธาวาส  มาเป็นเกียรติ  ศรีชายมาเป็นช่วง
หญิงชายทั้งปวง รักกูมิรู้วาย  ด้วยราศีกูงามคือฟ้า  หน้ากูงามคือพรหม
หญิงเห็นหญิงรัก  ชายเห็นชายทัก  กูอยู่ทุกเมื่อ  ไม่เบื่อแต่สักวัน
โอม หญิงชายทั้งหลายเอ๋ย  มา

ออฟไลน์ แหวกบาดาล

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 369
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์วัดบางพระ
    • ดูรายละเอียด
[shake]โย่วๆๆๆๆ เวลาที่อยู่ในระบบ: ๑๐ วันแล้ว อยากเป็น ก้นบาตร จัง 555+[/shake]

ออฟไลน์ yout

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 1742
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ครับทุกๆศาสนาสอนให้เราเป็นคนดีครับถ้ารักษาได้ก็ทำให้เราพบแต่ความสุขไม่มากก็น้อยครับ.......สาธุ 17;

ออฟไลน์ ~@เสน่ห์เอ็ม@~

  • ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย พระคุณบิดามารดาผู้มีพระคุณ แล ครูบาอาจารย์ผู้เกื้อหนุน สาธุ..
  • เด็กวัด
  • *****
  • กระทู้: 5894
  • เพศ: ชาย
  • ศิษวัดบางพระ
    • ดูรายละเอียด
สาธุด้วย ครับ บุญหนุนนำนะครับ  :054:

ออฟไลน์ nutagul

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 573
    • ดูรายละเอียด
ธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นวิทยาศาสตร์ ชึ่งไม่เคยล้าสมัยเลยครับ สามารถเข้ากับทุกสังคมและทุกสมัยทุกเชื้อชาติสามารถนำไปใช้ได้
อิติสุคโตอะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ฐิตคุโณอาจาริโย จะมหาเถโร มหาลาโภ สัพพะสุขขัง จะมหาลาภัง สัพพะโภคัง สัพพะธะณัง ภะวัณตุเม

ออฟไลน์ TTTUTTT

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 834
  • เพศ: ชาย
  • สร้างสรรค์แต่สิ่งดี
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ผมเดาว่าทุกศาสนามีจุดเริ่มต้นจากที่เดียวกัน...
แต่เหตุที่ทำให้แตกต่างกันก็น่าจะมาจาก...
สภาพแวดล้อมและการดำรงค์ชีวิตเป็นสาเหตุหลักครับ...
แต่ที่ทุกศาสนาสอนเหมือนกันก็คือ ทำความดีละเว้นสิ่งเลว...
ดังนั้นใครที่นำศาสนามาเกี่ยวข้องกับการทำความเลว...
ผมพูดได้เลยครับว่า "นรกจะกินหัว ในอนาคตอันใกล้นี้" 555...

ส่วนตัวก็นับถือพุทธมาตั้งแต่เด็กครับ...
จนทุกวันนี้ก็ไม่คิดจะเปลี่ยน...
ส่วนเหตุผลนั้นมันมากมายเหลือเกินครับ...
และเหตุผลหลักก็คือ ผมเชื่อว่า ถ้าทำดีจะต้องได้ดี...
ส่วนจะได้เมื่อไหร่หรือได้เป็นอะไรนั้นผมตอบไม่ได้...
แต่ทุกครั้งที่ทำ สิ่งที่ผมได้คือ"ความสุขใจ"ครับ...
แค่นี้ก็พอแล้วสำหรับผม...{^_^}...

ออฟไลน์ น้องลิงน้อย

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 1127
  • เพศ: หญิง
    • ดูรายละเอียด
น้องลิงน้อยก็มีแม่ชีท่านหนึ่งที่ลิงน้อยนับถือนะ ลิงน้อยไปสะเดาะเคราะห์กับท่านด้วย
มีพี่ที่สนินทเค้าแนะนำมา ก็เลยเดินทางไปหา ท่านอยู่สำนักแม่ชีที่ลพบุรี
ก่อนที่ท่านจะมาบวชชีท่านก็เป็นมุสลิมที่เคร่งครัดเช่นกัน มีครอบครัวเหมือนกัน
ท่านเล่าให้ฟังว่า ท่านเคยฝันเห็นยายของท่านที่เสียชีวิตไปแล้ว มาเข้าฝันท่าน
แล้วคุณยายได้บอกท่านว่ายายหิวข้าว หน้าตาของยายมองดูไม่ดีเลย หลังจากนั้น แม่ชีท่านก็ไม่สบายใจ
จนไปพบกับพระสงฆ์รูปหนึ่ง พระสงฆ์ท่านจึงได้บอกว่าให้ไปทำบุญ ตักบาตร กรวดให้กับคุณยายซะ
หลังจากที่ท่านไปทำบุญตามที่พระสงฆ์ท่านแนะนำ คุณยายก็มาเข้าฝันท่านอีก ด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้ม
เหมือนท่านได้รับผลบุญกุศล นับตั้งแต่นั้นมาก็เลยเกิดความสนใจในศานาพุทธมากขึ้น
ท่านได้เปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธเช่นกัน และ ณ ปัจจุบันนี้ ท่านได้บวชชีตลอดชีวิต
อุทิศตนให้กับพุทธศาสนาและสืบทอดเจตนารมณ์ของแม่ชีองค์ก่อนที่สิ้นไปแล้ว
ครอบครัวของแม่ชีท่านคัดค้าน บอกว่าท่านมีความสุขและทำให้ท่านพ้นทุกข์
และมีความสุขที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น แม่ชีท่านนี้อาศัยอยู่ในถ้ำนะ รับประทานอาหารวันละ 1 มื้อ
รับประทานอาหารเจค่ะ ท่านจะออกมาจากถ้ำก็ช่วงสายๆ น่ะ ลิงน้อยไม่ได้ไปหาท่าน 2 ปีละ
ก็ยังคิดถึงและนับถือท่านเสมอค่ะ  :054: :054:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 มี.ค. 2552, 05:03:27 โดย น้องลิงน้อย »