กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด มิตรไมตรี => บทความ บทกวี => ข้อความที่เริ่มโดย: อชิตะ ที่ 23 มี.ค. 2552, 01:01:21

หัวข้อ: ท่องนะโมฯ ตั้งใจแค่ไหน
เริ่มหัวข้อโดย: อชิตะ ที่ 23 มี.ค. 2552, 01:01:21
(http://img297.imageshack.us/img297/5026/490414monk018it.jpg)

เวลาที่พวกเราไปวัดบางพระ ขึ้นไปกราบหลวงปู่ที่กุฎิใหญ่

หรือขึ้นไปกุฎิต่างๆไหว้ก็ตาม สวดมนต์ไหว้พระที่บ้านก็ตาม จะท่องคาถาอาราธนาพระก็ตาม

เราต่างก็ต้องเริ่มต้นด้วยการท่องบท นะโมฯ ๓ จบก่อนทั้งนั้น เพราะอะไร ?? ในใจทุกคนคงมีคำตอบให้ตัวเองแล้วละครับ  :050:

เข้าใจว่าหลายๆ ท่านคงทราบที่มาของ บท นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุธธัสสะฯ

บทนนี้จริงๆ คนเราไม่ได้เป็นผู้กล่าวแต่แรก เอาง่ายๆ คนไม่ได้คิดประพันธ์ขึ้น แต่เป็นเหล่าเทพ อุทานขึ้นมา

เป็น ๓ เทพ และ ๑ ยักษ์  นั้นก็คือ


" นโม " อสุรินทราหู เป็นผู้กล่าว

" ตสฺส " พระยามาราธิราช เป็นผู้กล่าว

" ภควโต " พระอินทร์เป็นผู้กล่าว

" อรหโต สมฺมา สมฺพุทฺธสฺส " ท้าวมหาพรหมเป็นผู้กล่าว


ความหมายก็คือ "ข้าพระพุทธเจ้าขอนอบน้อมนมัสการกราบไหว้พระพุทธเจ้า ผู้ตรัสรู้เองโดยชอบพระองค์นั้น " 

และท่านแรกที่เป็นผู้เริ่มต้นกล่าวนะโม ๓ จบ คือ พระอินทร์  กษัตริย์แห่งสวรรค์ชั้นดาวดึงษ์

ก้อถือเป็นแบบกันมาตั้งแต่สองพันกว่าปีที่แล้ว


ในสมัยก่อนคนที่จะกล่าว นะโม  คือ ตั้งใจจะนึกถึงกันจริงๆ  ไม่ใช่ต้องมาบิ๊วอารมณ์หรือเฟคขึ้นมาก


ยกตัวอย่างง่ายๆแบบน้องหมากับเจ้าแมว ที่บ้านเราละครับ

หมา เวลาเห็นแมวชอบแหย่เล่น เห่าให้แมวตกใจ พอแมวตกใจ ขนพองฟู่ชูชัน พอได้ทีแมวก็วิ่งหนี

หมานึกสนุก ก็วิ่งไล่ วิ่งเท่าไหร่ก็ไม่เคยทันแมวสักที

ทั้งที่ หมาร่างกายสรีระได้เปรียบแมวทุกอย่าง ตัวใหญ่ พลังเยอะ แต่ไหงวิ่งไม่ทันแมวสักที

เจ้าแมวตัวน้อย ก็รอดตัวจากการถูกแกล้งไปได้ทุกครั้ง



หมามั่นวิ่งไล่ "เพื่อเล่นสนุก"

แมวมันวิ่งหนี "เพื่อชีวิตของมัน"


ความตั้งใจมันต่างกัน

การท่องนะโมก็แนวนั้น  ตั้งใจแค่ไหนผลแห่งอานุภาพจึงต่างกันมาก   แล้วถ้านะโม ศักดิ์สิทธิ์ คาถาก็ศักดิ์สิทธิ์ครับ

เคยได้ฟังเรื่อหนึ่ง เด็กเลี้ยววัวจะโดนผีหรือยักษ์ฆ่า แต่รอดมาด้วยด้วยการท่องแค่บท นะโมฯ

ไว้มาเล่าต่อครับ  เิริ่มจะยาวแล้วครับ เบื่อกันแย่เลย
หัวข้อ: ตอบ: ท่องนะโมฯ ตั้งใจแค่ไหน
เริ่มหัวข้อโดย: อชิตะ ที่ 23 มี.ค. 2552, 01:15:55
เรื่องนี้เกิดมาตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้ากำลัง อินเทรนด์ในอินเดีย

เรื่องมันเป็นอย่างนั้นจริงๆครับ คนแขกสมัยนั้นเทรนด์ของเขาคือ ต้องมีแนวคิดที่  เลิศ แหวกแนว  ไม่ซ้ำใคร

ในขณะที่คนทั้งบ้านทั้งเมือง ไหว้วัว กราบเทพเจ้า เชือดแพะบูชายัน มีเจ้าชายหนุ่มขี่ม้าหนีออกจากเมือง ทิ้งสมบัติ ลูก เมีย ออกบวช

เป็นข่าวใหญ่ ลง หน้า ๑ ทั่วอินเดียแน่ๆ  คุยกันสนั่นเมืองยังไม่ทันหายคันปาก

ข่าวใหม่ก็ตามมา ๖ ปีจากนั้น เจ้าขชายพระองค์นั้นสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า  โอ้วว  ดังซิครับ อะไรจะเหลือในยุคที่คนหาความสุขทางใจ

 ว่ากันว่า คำว่าพระพุทธเจ้าในสมัยนั้น ประมาณว่า ยิ่งกว่าเทพเจ้าหรือผู้วิเศษ 

ใครได้ยินชื่อ พระพุทธเจ้าถึงกับ น้ำตาคลอ  อ่อนไหวใจระรั่วกันง่ายๆ เลยละครับ  คนอินเีดียเนี๊ย

ยิ่งแนวคิดเรียก สุข ทุกข์ ไม่มีใครเสกเป่าให้ใครได้ เราต้องทำเอง    ขอบอกว่าโดนใจคนหัวสมัยใหม่ไฟแรงของยุคนั้น จี๊ดใจมากๆ

อ่ะมาแบบนี้ได้เลย  ขอนับถือหมดใจละกัน   จากนั้นคนสมัยนั้นก็เริ่มหันมานับถือพระพุทธเจ้ากันมากขึ้นๆ

คนอินเีดียสมัยนั้นเวลาเขาเทใจให้ใคร เขาให้หมดใจจริงๆ นอนเป็นนึกถึง ตื่นเป็นเรียกหา

ทุ่มเทให้กันมากๆ ครับ   เวลาที่เขาจะนึกถึงพระพุทธเจ้าเขาก็นึกจากใจหมดทั้งดวงจริงๆครับ:048: :048:

เดี๋ยมาต่อใหม่ ละกัน ยาวอีกแล้วครับผม :005: :005: :010: :010:

หัวข้อ: ตอบ: ท่องนะโมฯ ตั้งใจแค่ไหน
เริ่มหัวข้อโดย: อชิตะ ที่ 23 มี.ค. 2552, 01:25:54
เข้าเรื่องเลยละกันครับ

ในสมันพุทธกาล มีเด็กสองคน  คนหนึ่งเป็นเด็กชาวพุทธ   อีกคนเป็นเด็กที่นับถือพวกเดียรถีร์  สองคนนี่เป็นเพื่อนกัน ชอบเล่น ขลุบ

ขลุบ คืออะไร เอาง่ายๆว่า มันคงเป็นเกมสนุกในสมัยนั้น ประมาณว่า เล่น sf โยกัง แบบนั้นละครับ


เด็กชาวพุทธก่อนจะทอดขลุบ ก็จะ ระลึกถึงพระพุทเจ้าก่อนทุกครั้ง ด้วยการ  ท่อง นะโมฯ ขอนอบน้อม..ฯ  เด็กเขานึกถึงจริงๆ

แบบนักกีฬาจะลงชิงเหรียญทอง  ใจนิ่งดิ่งไปหาพระพุทธเจ้าแล้วจึงทอดขลุบ


อ๊ะ เด็กอีกคนก็ไม่ยอม แกนึกถึงครูของแก  ข้าก็มีเหมือนกัน  เด็กที่นับถือเดียรถีร์ ท่องบ้างแต่ ท่องว่า "นโม อรหนฺตานํ"  แล้วก็ทอดตาม

ผลออกมาคือ เด็กชาวพุทธชนะ  เด็กอีกคนแพ้ตลอด   เซ็งเลย  ครับ  ดีนะที่ไม่มีพนันกัน  หุหุ

เด็กที่นับถือเดียรถีร์ก็เลยขอเรียน คาถาดีจากเด็กชาวพุทธไป เรียกว่าเรียน พุทธานุสติ ครับ


อีกตอน จบแน่ๆ  ครับ  สัญญา
  :016: :016:
หัวข้อ: ตอบ: ท่องนะโมฯ ตั้งใจแค่ไหน
เริ่มหัวข้อโดย: อชิตะ ที่ 23 มี.ค. 2552, 01:35:23
อ้อ ลืมไป เด็กคนนี้เป็นลูกชายของคนเลี้ยงวัวครับ  เวลาไปเลี้ยงวัวก็พาวัวไปนอกเมืองกับพ่อ

พอดีวันที่เกิดเรื่อง  มีวัวหายไป พ่อก็เลยออกตามวัว ปล่อยให้ลูกชายหลับอยู่นอกเมือง  พ่อไปตามเจอวัวในเมือง 

พอดีเย็นแล้วประตูเมืองปิด  ทำให้ลูกชายต้องนอนคนเดียว 

นอกเมืองราชคฤห์ สมัยนั้นผีดุครับ แถมเจ้าหนูไปนอนใกล้ป่าช้าอีก   งานเข้าแน่นอน

อมนุษย์  โดยอรรถ อาจจะเป็นยักษ์หรือผี ก็ตาม  เอาว่า ไม่ซีเรียส ขออนุมานว่าเป็น ยักษ์ละกันครับ

ยักษ์สองตน ตนหนึ่งเป็นยักษ์ดีนับถือพระพุทธเจ้า  อีกตนเป็นยักษ์ชั่วๆ

พอมาเห็นเด็ก ยักษ์ชั่ว ก็จะจับเด็กกิน พอดึงขา เด็กตกใจตื่น พอตกใจ แน่นอนครับ  นะโมฯ มาเลย  นะโม ตัสสะ ภควโต..ฯ

ยักษ์ตกใจ อ้าว งานเข้าแล้ว เด็กนี้มีครูดีเป็นพระพุทธเจ้า  ถึงกับผงะ   ไม่กล้าจับกิน

เด็กรอดมาได้เพราะ ความตั้งใจท่อง นะโมครับ

พวกเราละครับ ตั้งใจแค่ไหน ถ้าตั้งใจดีอยู่แล้วก็อนุโมทนาครับ  ขอให้ใจส่งไปถึงพระพุทธเจ้า  พุทธานุภาพย่อมคุ้มครอง

บางอารมณ์จิตเราไปจดจ่อที่คาถา จบวางใจแผ่วไปตอนตั้งนะโม จริงๆ ท่องนะโม ต้องเน้นครับ  สำคัญทีเดียว

จบแบบรีบๆ ครับผม
:005: :005:  :089:  :089:

ที่มาของเรื่องครับ อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ปกิณณกวรรคที่ ๒๑
หัวข้อ: ตอบ: ท่องนะโมฯ ตั้งใจแค่ไหน
เริ่มหัวข้อโดย: kaitip ที่ 23 มี.ค. 2552, 02:17:30
 36;เรื่องยาวได้ใจจริงๆ นะค่ะพี่..อ่านตั้งนาน..เด่วจะเอาเล่าให้หลานฟังซะหน่อย(ก่อนนอนนะ)
จิตเป็นใหญ่จริง ๆ นะค่ะ..ไม่ว่าจะทำอะไรหากเราใส่ใจ ตั้งใจทำอย่างแน่วแน่..ย่อมเกิดผลดีแน่นอนค่ะ 21;
หัวข้อ: ตอบ: ท่องนะโมฯ ตั้งใจแค่ไหน
เริ่มหัวข้อโดย: ~@เสน่ห์เอ็ม@~ ที่ 23 มี.ค. 2552, 03:29:15
สาธุ ขอบคุณพี่เมฆ ด้วย ครับ  โอโหยาวเลย เยี่ยม ครับ  :015:
หัวข้อ: ตอบ: ท่องนะโมฯ ตั้งใจแค่ไหน
เริ่มหัวข้อโดย: TUM ที่ 23 มี.ค. 2552, 04:31:18
พี่ครับผมได้ความรู้มาผิดหรือปะว่า นะโมตะสะ พะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุททะสะ
เป็นคำบูชา พระศรีอริยเมตไตร(พระอชิตเถระ)พระพุทธเจ้าองค์ต่อไป ใช่ไมละครับ
หัวข้อ: ตอบ: ท่องนะโมฯ ตั้งใจแค่ไหน
เริ่มหัวข้อโดย: cho presley ที่ 23 มี.ค. 2552, 04:45:35
ชีต้า ยาวจริงๆ ด้วย... อ่านแร้ว....

commentator ทำงานให้... อะแฮ่ม...มมม  

จะว่านะโมขึ้นใจแค่ไหนไม่รู้ฮ่ะ แต่ชีต้า .. rewrite ได้ใจ พี่โชวฮับ.....มีพระพุทธเจ้ากำลังอินเทรนด์ในอินโดเสียด้วย.....   :009:
หัวข้อ: ตอบ: ท่องนะโมฯ ตั้งใจแค่ไหน
เริ่มหัวข้อโดย: Chotipat ที่ 23 มี.ค. 2552, 06:35:06
ขอบคุณท่าน อชิตะ เขียนบทความดีๆมาให้อ่าน ชอบครับ เอาอีก......
หัวข้อ: ตอบ: ท่องนะโมฯ ตั้งใจแค่ไหน
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์ack01~ ที่ 23 มี.ค. 2552, 06:54:12
ตามอ่านจนจบเรื่องเลย.. หุหุ

..สนุกและได้แง่คิดมากๆเลยครับท่าน ให้100คะแนนเต็มเลย.. :016:
หัวข้อ: ตอบ: ท่องนะโมฯ ตั้งใจแค่ไหน
เริ่มหัวข้อโดย: ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์) ที่ 23 มี.ค. 2552, 08:58:15
ติดตามอ่าน สมกับการรอคอยหลายกระทู้  :002: อนุโมทนาด้วยนะครับผม สาธุครับ  :054:
หัวข้อ: ตอบ: ท่องนะโมฯ ตั้งใจแค่ไหน
เริ่มหัวข้อโดย: JoeBS ที่ 24 มี.ค. 2552, 10:20:03
ขอบคุณพี่อชิตะมากๆครับ นำสาระดีๆ ข้อคิดดีๆ มาถ่ายทอดเป็นวิทยาทาน สมาชิก
ต่อไปนี้จะได้ท่องพระคาถา พร้อมระลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: ตอบ: ท่องนะโมฯ ตั้งใจแค่ไหน
เริ่มหัวข้อโดย: porpar ที่ 24 มี.ค. 2552, 01:58:34
สนุกและได้แง่คิดดีๆมากเลยครับท่าน ขอขอบคุณอีกครังนะครับผม...... :002:
หัวข้อ: ตอบ: ท่องนะโมฯ ตั้งใจแค่ไหน
เริ่มหัวข้อโดย: น้องลิงน้อย ที่ 24 มี.ค. 2552, 02:33:55
17;ท่านเมฆสีทอง  02; ท่านบรรลุได้มากถึงขนาดนี้เชียวนะ ยาว..ยาว...ยาว มากมาย...มากมาย
 11; 07;
แต่อัดแน่นๆ ๆ ๆ ๆ ๆ  25; 25; ไปด้วยสาระจริงๆ ค่ะ บทความแต่ละอย่างที่ท่านได้นำมาให้พวกเราอ่านนะ 25; 30;

เป็นสิ่งที่ดีจริง ๆ อนุโมทนา สาธุค่ะ  :054:
หัวข้อ: ตอบ: ท่องนะโมฯ ตั้งใจแค่ไหน
เริ่มหัวข้อโดย: nutagul ที่ 24 มี.ค. 2552, 04:48:55
ขอบคุณเรื่องราวดีๆ มากเลยครับ :054:
หัวข้อ: ตอบ: ท่องนะโมฯ ตั้งใจแค่ไหน
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 24 มี.ค. 2552, 08:47:01
ขอบคุณที่เตือนสติน่ะครับ
หัวข้อ: ตอบ: ท่องนะโมฯ ตั้งใจแค่ไหน
เริ่มหัวข้อโดย: chinjung ที่ 24 มี.ค. 2552, 09:59:28
สุดยอดเลย