กระดานสนทนาวัดบางพระ

งามดีครับ กระผมจะมีวาสนาไหมหนอ 

ขอบคุณข่าวครับผม ว่างจะไปนะครับ ตอนนี้งานเข้า ทำขนมๆๆๆ

นมัสการหลวงพ่อสุดครับ เรื่องราวปาฏิหาริย์ของท่านมากมายครับ 

หาที่ลงไม่ได้เช่นกันครับ 

อยากถามว่า เขี้ยวเสือกลวงดีกว่าเขี้ยวเสือทั่วไปยังไงเหรอครับ

คือผมไม่รู้นะ  ขอบคุณครับ   แล้วมีการดูเขี้ยวเสือกลวงดูเหมือนเขี้ยวเสือทั่วไปมั้ย

เขี้ยวเสือปกธรรมดาทั่วๆไปจะตันหน่ะครับ เขี้ยวเสือกลวงจึงเป็นของหายาก วิธีการดูกระผมก็ไม่ค่อยทราบเหมือนกันครับ 

รุ่นอำเภอสร้าง หลังจิ้งจก 2 หัว 2 หาง ผมมีเยอะเลยครับ ก็น่าจะดีนะครับ 

ดีครับ เขี้ยวเสือกลวง ถือว่าเป็นทนสิทธิ์ มีดีอยู่ในตัวอยู่แล้ว ของประเภทนี้ก็อาทิเช่น เขี้ยวหมูป่าตัน , งากำจัด , งากำจาย , งากระเด็น ฯลฯ สุดยอดครับท่าน 

อาจารย์ทองมาแรงมากๆครับตอนนี้ทางใต้ สุดยอดครับผม 

ตะกรุดหลวงพ่อจำลอง แน่นอนสุดๆครับผม ข่าวดัง  

ขอบคุณครับผม มีโอกาสคงได้ไปนะครับ 

แล้วแต่ท่านอาจารย์จะกรุณาครับ ลองขอท่านดูก่อนก็ได้ครับ 

งาม ฝีมือประณีตสุดๆ ครับท่านหอมชียง 3 ตา หรือ 4 ตาครับ  

     

            อำเภอกำแพงแสนมีห้องสมุดมานานแล้ว โดยอาศัยที่ว่าการอำเภอสโมสรข้าราชการ เช่าอาคารพาณิชย์อยู่บ้าง จนกระทั่งจังหวัดนครปฐม ขอสร้างห้องสมุดเฉลิมราชกุมารี ลำดับที่ 141 คณะทำงานประกอบด้วย นายยิ่ง กีรติบูรณะ ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดนครปฐมนายปัญจะ จงมีสุข ศึกษาธิการอำเภอกำแพงแสน นางชมพูนุท จารีบูรณกาน หัวหน้าศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียน อำเภอกำแพงแสน นำเรื่องไปกราบเรียนให้หลวงพ่อทราบ หลวงพ่อได้มอบเงินจำนวน 1 ล้านบาทให้สมทบทุนสร้างห้องสมุดพระเทพฯ

            ญาติโยม    : หลวงพ่อทูลเกล้าถวายเงิน 1 ล้านบาทให้พระเทพฯ เพื่อสร้างห้องสมุดเฉลิมราชกุมารี อำเภอกำแพงแสนใช่ไหม

            หลวงพ่อ    : อือ

            ญาติโยม    : ทูลเกล้า 1 ล้านจะพอหรือ

            หลวงพ่อ    : เงินนะเท่าไหร่ก็ไม่พอ พอสร้างเสร็จก็ซื้ออุปกรณ์พอซื้ออุปกรณ์หมดแล้ว ก็ตั้งกองทุนมูลนิธิเงินใช้เท่าไหร่ก็ไม่พอ

            ญาติโยม    :




     

            ลูกศิษย์      : " ผมเห็นสัญลักษณ์หลวงพ่อขี่เต่า อยากถามว่าหลวงพ่อทำไมหลวงพ่อต้องขี่เต่าด้วย "

            หลวงพ่อ     : " หลวงพ่อขี่เต่า ถึงมีรูปออกมาให้เห็น ถ้าเต่าขี่หลวงพ่อซิ จะไม่มีรูปหล่อให้เห็นหรอก

            ลูกศิษย์       : "........."?





            มีโยมแก่ๆคนหนึ่งไปกราบหลวงพ่อ หลวงพ่อก็อวยพรให้มีอายุมั่นขวัญยืน ความเจ็บอย่าให้ได้ ความไข้อย่าให้มี

            หลวงพ่อ       : ( อวยพร ) ให้โยมมีอายุมั่นขวัญยืนนะ

            โยม             : ( ตอบรับ ) จ้ะ

            หลวงพ่อ        : แล้วโยมตอนนี้อายุเท่าไหร่แล้วหล่ะ

            โยม              : อายุ 72 หรือ 74 ก็ไม่รู้จ๊ะ

            หลวงพ่อ        : หลวงพ่อก็ไม่รู้เหมือนกันว่าโยมอายุเท่าไหร่

            โยม              :





            ญาติโยม         : หลวงพ่อครับผมอุตส่าห์ มาจากชลบุรี ได้ยินกิตติศัพท์ของหลวงพ่อมานานแล้ว เห็นแต่รูปที่โฆษณา เพิ่งจะได้มาเห็นองค์จริงก็วันนี้ ดีใจมากครับ

            หลวงพ่อ         : เป็นอย่างไรหล่อไหม

                                  ( หลวงพ่อชี้ไปที่ตัวท่านเอง ) แล้วบอกว่าองค์นี้ยังหล่อไม่เสร็จ

                                  ( หลวงพ่อชี้ไปที่ตู้จำหน่ายวัตถุมงคล ) อยู่ในตู้นั้นหล่อเสร็จแล้ว

            ญาติโยม         : รูปเหมือนหลวงพ่อนี่

            หลวงพ่อ         : นั่นแหละ เช่าไปเถอะจะได้ช่วยหลวงพ่อสร้างวัด

            ญาติโยม         : ครับ






            หลังจากที่หลวงพ่อไปคุยกับญาติโยมที่มากราบแล้วลากลับไป แขกชุดใหม่ก็เข้ามา

            ญาติโยม         : เมื่อตะกี้นี้แขกมาจากไหน

            หลวงพ่อ         : อือ ( ยิ้ม ๆ ) แล้วถามว่า " อะไรนะ "

            ญาติโยม         : แขกมาจากไหน

            หลวงพ่อ         : แขกเขิกอะไรที่ไหน ลาวราชบุรี ต่างหาก






            หลังจากที่หลวงพ่อได้สร้างตึกผู่ป่วยใน ให้โรงพยาบาลกำแพงแสน ท่านก็ได้ไปจำพรรษาที่วัดไทรทองพัฒนา อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี หลวงพ่อก็อนุญาตให้สถานีอนามัยไทรทองพัฒนาได้สร้างเหรียญพญาเต่าเรือน รุ่นเจ้าสัว เพื่อนำรายได้ไปสร้างสถานีอนามัยไทรทองพัฒนาและหอประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อญาติโยมรู้ว่า หลวงพ่อสร้างรุ่นนี้ก็พากันไปกราบหลวงพ่อ

            ญาติโยม         : เหรียญรุ่นเจ้าสัวกับรุ่นปลดหนี้ มันเป็นอย่างไร

                                  ( ต้องการทราบว่ารุ่นไหนมีประสบการณ์และอภินิหาริย์อย่างไร )

            หลวงพ่อ         :   มันก็เป็นเต่าเหมือนกันนั่นแหละ





            ครั้งหนึ่งหลวงพ่อหลิวไปวัดไร่เกาะต้นสำโรง หลวงพ่อพูดกับพระที่มาคาราวะหลวงพ่อว่า

            หลวงพ่อ         : " หลวงพ่อแช่มก็ตายไปแล้ว "

                                  หลวงพ่อเต้าก็ตายไปแล้ว

                                  ผมหน่ะไม่ตายหรอก "

            พระ               : ( อุทาน ) หลวงพ่อไม่ตายหรือ !

            หลวงพ่อ         : " ใครบอกว่าหลวงพ่อไม่ตาย "

            พระ               : ( อุทานอีก ) อ้าว ! หลวงพ่อพูดเมื่อกี้ยังไง

            หลวงพ่อ         : หลวงพ่อพูดอย่างนั้นหรือ ?

            พระ               : ครับ

            หลวงพ่อ         : " ผม " ไม่ใช่ " หลวงพ่อ "




 

            ลูกศิษย์          : " หลวงพ่อ ทำไมมีคนมาถวายอาหารหลวงพ่อมากมายอย่างนี้ "

            หลวงพ่อ         : " เขารักหลวงพ่อมั้ง "

            ลูกศิษย์           :  " หลวงพ่อจะฉันหมดหรือ " ( ถามประสาซื่อ )

            หลวงพ่อ          : " ใครจะมาถวายแค่ไหน หลวงพ่อก็อิ่มเดียวเท่านั้น ขืนฉันหมดก็อดฉันซิ "

            ลูกศิษย์           : " จะอดอย่างไรครับ "

            หลวงพ่อ          : " อดมื้อต่อไป " เพราะเห็นว่า " กินมากเลี้ยงไม่ไหว "





           วันหนึ่งลูกศิษย์ได้เข้าไปถามหลวงพ่อหลิวเกี่ยวกับหลวงพ่อเต้าซึ่งมรณะภาพไปแล้ว

           ลูกศิษย์            : " หลวงพ่อรู้จักหลวงพ่อเต้าวัดเกาะวังไทรไหม? "

           หลวงพ่อ           : " เพื่อนกัน ให้เขาไปก่อน "

           ลูกศิษย์            : " ความตายนี่มันแปลกนะ เวลาตายลูกอาจจะตายก่อนพ่อแม่ ตายทีหลังพ่อแม่ หรือตายพร้อมกับพ่อแม่ก็ได้ แต่เวลาเกิด ลูกต้องเกิดทีหลังพ่อแม่ "

           หลวงพ่อ           : " อือ "

           ลูกศิษย์            : " มันแปลกนะ "

           หลวงพ่อ           : " ไม่เห็นแปลกเลย มันเป็นไปตามกรรม "





           หลวงพ่อหลิวพร้อมด้วยนายประสพ ชั้นอินทร์งาม ศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม นายยิ่ง กีรติบูรณะ ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดนครปฐม นายปัญจะ จงมีสุข ศึกษาธิการอำเภอกำแพงแสน ได้เดินทางไปยังวัดไร่ขิง เพื่อขออนุญาตสร้างหลวงพ่อวัดไร่ขิงไว้ที่วัดไทรทองพัฒนา อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี

           หลวงพ่อหลิวกราบหลวงพ่อวัดไร่ขิงซึ่งเป็นพระประธานในโบสถ์ แล้วพูดให้ได้ยินสองหูว่า

           หลวงพ่อ           : " ผมขออนุญาตสร้างรูปหล่อของท่าน เพื่อเอาไปไว้ที่วัดไทรทองพัฒนา เพื่อให้คนได้กราบไหว้บูชา ถ้าหลวงพ่อขัดข้องก็ขอให้บอกมา ถ้าหลวงพ่อนิ่งอยู่แสดงว่าอนุญาต "

           หลวงพ่อหลิวรออยู่ประมาณ 2 - 3 นาที ก็หันมาบอกกับคณะที่ไปด้วยว่า

           หลวงพ่อ           : " กลับเถอะ หลวงพ่อวัดไร่ขิงท่านอนุญาตแล้ว "

^^" ธรรมดาครับผม เป็นอารมณ์ในขณะนั้น จะว่ากันก็ไม่ได้หล่ะครับ แรงมาพยายามขันติแล้วแต่มันเกินเหตุไป ลองไปหากงดูครับท่านไม่น่าจะมีอะไรหรอกครับ อย่าคิดมากครับผม 

ของที่ไหนหรือครับท่านหอมเชียง  

พระเจ้านั่งดิน วัดศรีดอก จ.แพร่



"วัดศรีดอก" ตั้งอยู่ในท้องที่หมู่ที่ 3 ต.หัวฝาย อ.สูงเม่น จ.แพร่ ถือว่าเป็นวัดที่เก่าแก่อีกวัดหนึ่งของจังหวัดแพร่ ปัจจุบันนี้ มี พระอธิการสมบูรณ์ ประภากโร เป็นเจ้าอาวาส โดยเจ้าอาวาสวัดศรีดอก ได้เล่าถึงความเป็นมาของวัดศรีดอกและพระเจ้านั่งดิน ดังนี้

วัดศรีดอก ไม่ได้มีการบันทึกประวัติไว้แต่มีการเล่าสืบกันต่อมา จนถึงวันนี้ก็ไม่สามารถหาหลักฐานพบได้ แต่มีตำนานเล่ากันมาว่า ณ กาลครั้งหนึ่ง พระพุทธเจ้า ได้เสด็จมาทางทิศใต้ พระพุทธองค์ได้ทรงประทับใต้ต้นโพธิ์

ในขณะนั้นก็ได้มีพวกลัวะพวกแจ๊ะได้มาหาปลาตามหนองแห่งนี้ จึงได้มาพบพระพุทธเจ้า เข้าใจว่าและสงสัยว่าเป็นยักษ์เพราะไม่เคยเห็นพระพุทธเจ้ามาก่อน ก็พากันแตกตื่นวิ่งหนีกันไปคนละทิศละทาง พระพุทธเจ้าก็ตรัสเรียกให้กลับคืนมาว่า เราไม่ใช่ยักษ์เราเป็นพระตถาคต

พวกลัวะพวกแจ๊ะบางพวกก็เชื่อ บางพวกก็ไม่เชื่อ พวกที่เชื่อก็กลับมา พวกที่ไม่เชื่อก็ไม่กลับ บ้างก็กล้าๆ กลัวๆ พวกที่ยังไม่เชื่อพระพุทธเจ้าจึงได้แสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ให้ดูโดยทำให้ต้นโพธิ์ (ต้นศรี) บานดอกมีกลิ่นหอมตลบไปทั่ว มีสีที่สวยงามมาก พวกลัวะพวกแจ๊ะได้เห็นแล้วก็พากันไปบอกพวกที่ยังอยู่บ้านให้ทราบ ก็พากันมาดูพระพุทธเจ้าและดอกโพธิ์ (ดอกศรี) บานมากันหมดทั้งบ้านเลยละทิ้งฆ้อง (ละฆ้อง) ไว้ที่บ้าน สถานแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า ร่องละฆ้องจนตราบเท่าทุกวันนี้

พวกลัวะพวกแจ๊ะได้รู้ว่าเป็นพระพุทธเจ้าคนวิเศษก็เกิดศรัทธาเลื่อมใส พระพุทธองค์ก็ตรัสว่า สถานแห่งนี้ต่อไปในภาคหน้าจะมีผู้มาสร้างรูปพระตถาคตไว้ ณ ที่นี่ซึ่งเป็นป่าดงดิบหนาทึบ มีสัตว์ร้ายต่างๆ มากมาย

เวลาต่อมาก็มีพวกม่านพวกเงี้ยวได้มาสร้างพระพุทธรูปขึ้นมาองค์หนึ่งไว้ในป่าแห่งนี้และได้สร้างวิหารขึ้นหลังหนึ่งเล็กๆซึ่งทำด้วยไม้ซาง(ไม่ไผ่) ทำเป็นฝาและเพดานหลังคามุงด้วยหญ้าคาพออาศัยทำพิธีทางศาสนาในสมัยนั้นทิ้งไว้ในป่า

บางครั้งก็มีเสือได้มาอาศัยอยู่หลับนอนในวิหารหลังนี้เป็นประจำ ลำดับต่อมาก็มีผู้คนมาสร้างบ้านเรือนอยู่เป็นปึกแผ่นแน่นหนา จึงได้มีประเพณีจุดบ้องไฟ เพื่อบูชาพระพุทธเจ้า ขอน้ำฟ้าน้ำฝนในเดือน 9 เหนือแรม 14 ค่ำ (เดือน 9 ดับ)

ในครั้งหนึ่ง สมเด็จพระวันรัต ได้มีโอกาสเดินทางมาเยี่ยมเยือนวัดศรีดอก เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2514

สมเด็จพระวันรัต เห็นว่าพระพุทธรูปองค์นี้แปลกกว่าพระพุทธรูปองค์ใดในประเทศไทย เพราะว่าประดิษฐานต่ำนั่งกับพื้นดิน สมเด็จพระวันรัตน์ จึงให้นามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า "พระพุทธรูปนั่งดิน" ตั้งแต่บัดนั้นจนถึงปัจจุบัน

ทั้งนี้ สมเด็จพระวันรัตน์ ได้กำชับกับคณะศรัทธาวัดศรีดอก ห้ามโยกย้ายและยกฐานสูงกว่าเดิมเป็นอันขาด จนถึงปัจจุบันนี้ยังอยู่ในลักษณะเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง

พระเจ้านั่งดิน วัดศรีดอก เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปิดทองสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง 60 นิ้ว สูง 2 เมตร ปางสมาธิ ถือว่าเป็นพระพุทธรูปที่สวยงามมากอีกองค์หนึ่งในจังหวัดแพร่

ในบริเวณวัดศรีดอกยังมีของดีๆ และวิเศษอีกมายมาย อาทิ มีพระธาตุวิหารหลังปัจจุบัน ยังมีบ่อน้ำภายในมีฆ้องทองคำลูกหนึ่งเสียงไพเราะมาก มีลูกแก้ววิเศษอีกลูกหนึ่งวันดีคืนดี ยามดีจะออกมาปรากฏให้เห็น มีแสงสีคล้ายกับหลอดนีออนสวยงามมาก

นอกจากนี้ บริเวณรอบๆ วัดทั้ง 4 ด้าน มีต้นตาล โดยครูบามหาเถร วัดสูงเม่นได้นำมาปลูกไว้และมีต้นลั่นทม (จำปาลาว) พ่อเจ้าคำลือ พ่อของแม่เจ้าคำป้อ ได้นำใส่หลังช้างมาจากตัวเมืองแพร่ มาปลูกต้นไม้เหล่านี้ไม่มีใครที่จะกล้าตัด เนื่องจากผู้ปลูกได้สาปแช่งเอาไว้

จึงพบว่าภายในวัดศรีดอก มีต้นไม้ใหญ่ต้นโพธิ์ (ต้นศรี) และต้นไม้ใหญ่ ดำรงคงอยู่คู่กับวัดศรีดอก คอยให้ร่มเงาแก่ผู้มาเยี่ยมเยือนวัดไปตราบนานเท่านาน


ที่มา  -  ข่าวสด

แปลกตาดีครับ ตามท่านโจรนะครับ 

ไม่ทราบที่ครับผม หลายๆวัดก็นิยมออกครับ 

ท่าทางเก่านะครับ  ไม่ทราบทีเช่นกันครับผม 

http://www.bp.or.th/biography.html
 

ไม่เคยเห็นเหมือนกันครับ ถ้าใช่ของหลวงพ่อเปิ่นนี่ก็เจ๋งไปเลยครับ 

ไม่เคยนึกเล่นสายนี้เลยครับ ไม่กล้าเสี่ยง 

ท่าทางจะเก่าเอาความอยู่นะครับ แต่ไม่ทราบที่ครับผม 

ไม่น่าเป็นไปได้นะครับผม 

ยินดีด้วยครับผม ปิ่นเกล้าก็ไม่ใกล้ไม่ไกล วันงานไหว้ครูอย่าพลาดนะครับ 

นมัสการหลวงพ่อลำใยครับ ท่ากระดานของท่านี่น่าสนมากๆครับผม ขอบคุณข้อมูลครับ 

ขอบารมีพระรัตนตรัยดลบัลดาลให้หลวงปู่อั๊บหายอาพาธไวๆครับ

งานประจำปีหลวงพ่อวัดไร่ขิง ต้องไปทุกปีครับ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองนครปฐม ไม่พลาดแน่นอนครับ ขอบคุณข่าวครับผม 

ขอบคุณครับผม เป็นการเสริมบารมีไปในตัว 

สวยดีครับผม เข้มขลังน่าดู สรุปว่าเป็นหมีหรือครับ 

เห็นเหรียญเสมารุ่นแรกที่คุณสิบทัศ เอามาโชว์ สวยมากครับไม่ทราบว่าตอนนี้ยังพอหาได้มั้ยครับ

พาท่านนายตะกรุดไปหาหลวงพ่ออวยพรมาล่าสุดยังพอมีให้เห็นไม่น่าจะเกิน 5 เหรียญนะครับ จารมือทั้งด้านหน้าและด้านหลังครับ 

หนังสือเล่มนี้หายากมากๆครับ ใครมีก็เก็บรักษากันไว้ดีๆนะครับ เสริมให้นิดนึงนะครับ วัตถุมงคลของหลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว ยุคแรกๆนั้นที่เห็นอยู่ด้านบน คือ เหรียญสลึง ( 25 สตางค์ที่ใช้เป็นเงินตราแลกเปลี่ยนซื้อขายกันนี่เองครับ ) หลวงปู่เพิ่มท่านจะลงเหล็กจารที่ด้านหน้าของเหรียญ เป็นตัวเฑาะว์ 2 ตัว ระหว่างพระบรมฉายาลักษณ์ ลองนำเหรียญสลึงที่มีมาส่องดูกันก็ได้นะครับ เผื่อเจอของดี 

ขอบคุณข้อมูลมากครับผม นมัสการหลวงพ่อมาลัยครับ 

วิวทิวทัศน์สวยงามมากครับผม สงครามไม่ได้ทำให้มีอะไรดีขึ้น สันติภาพบังเกิด ทุกอย่างก็จะสงบสันติสุขครับ 

1.เวลาออกจากบ้านต้องทำใจให้สดชื่นไม่ขุ่นมัว หรือเป็นทุกข์
2.เวลาออกจากบ้านพยายามออกในยามที่ดีมาก หรือค่อนข้างดี
3.เวลายืนหรือนั่งเสี่ยงโชคควรยืนหรือนั่งในทิศที่ดี หันหน้าไปทิศที่ดีดูต่อไปนี้

ตะกรุดลูกอม ที่ตอนนี้ยังพอมีอยุ่ก็ของ หลวงพ่อพระมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่  อ.อัมพวา จ.สมุทสงคราม ครับ

http://www.oknation.net/blog/sitthi/2008/07/19/entry-1

น่าสนใจมากๆครับผม ไว้ต้องลองไปดูบ้างแล้วครับ ขอบคุณข้อมูลครับ 

โดนแอบถ่ายซะอย่างนั้น   สมเด็จไว้มาดูกันครับ        

พอๆกันครับท่านเอ็ม เพื่อชีวิตฮิตไม่เลิก ทรงผมก็ตามใจคุณแม่  ขอบคุณเจ๊โชว์ครับสำหรับแนวเทรนปีนี้ 

1.=วันอาทิตย์ 7.=วันเสาร์ ใช่ไหมเท่านสิบทัศน์   

ใช่ครับผม ส่วนมากตำราทุกๆตำราก็จะว่าไว้อย่างนี้ครับ 

ขอจองด้วยคนครับผม 

ปฏิบัติตามสิ่งที่เป็นหน้าที่ของพ่อบ้านควรทราบไว้
ดูตัดผม ทาน้ำมัน ตัดเล็บ เย็บผ้า หนูกัดผ้า ปลูกเรือน




  ท่านรู้สิ่งดีชั่วตามตารางนี้ เป็นการระวังตัว และให้ผลแก่ท่าน
  เท่ากับท่านเปิดตาแล้ว ไม่ใช่ปิดตาอยู่ ทุกคนควรดูประจำ

ควรตั้งชื่อเด็กตามตำรา ดังนี้, คือตั้งในจำพวกอักษร เดช , ศรี , มนตรี จึงจะดีเป็นมงคลแก่เด็ก อย่าตั้งชื่อตรงกับอักษรที่เป็นกาลกินีหรือบริวาร จะทำให้เด็กเสียมงคล



เด็กเกิดวันใดให้นับแต่วันเกิดนั้นเป็นบริวาร นับต่อไปว่า อายุ , เดช , ศรี , มูล อุษาห , มนตรี , กาลกินี นับแต่วันเกิดหมุนเวียนโดยรอบไปทางขวา แล้วเลือกอักษรที่ดีนั้นตั้งชื่อ ตามความประสงค์ว่าชื่อใดจะพอใจ ของผู้ที่จะตั้งและเป็นมงคลแก่เด็กด้วย

ดูฤกษ์ยาม..จะไปออกศึกที่ไหนกันจ๊ะพ่อรูปหล่อ 

^^" พอดีไปค้นหนังสือเก่าๆมาหน่ะครับ เป็นหนังสือของร้านขายยาแห่งหนึ่งที่พิมพ์แจกในช่วงเทศกาลปีใหม่ตั้งแต่ปี 2528 แหนะครับ
ประกาศสงกรานต์ พ.ศ.2528
   ปีฉลู จุลศักราช 1347 พุทธศักราช 2528 วันที่ 13 เมษายน เวลา 20 นาฬิกา 6 นาที 0 วินาที เป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์ชื่อ มโหธรเทวี ทรงพาหุรัตน์ทัดดอกสามหาว เครื่องประดับแก้ว นิลรัตน์ ภักษาหาร เนื่อทราย พระหัตถ์ขวาทรงจักร์ พระหัตถ์ซ้ายทรง ตรีศูร เสด็จไสยาศน์ลืมเนตร มาบนหลังนกยูง
   วันที่ 16 เมษายน เวลา 00 นาฬิกา 03 นาที 36 วินาที เปลี่ยนจุลศักราชใหม่เป็น 1347
  ปีนี้วันพฤหัสบดีเป็นวันธงไชย               วันอาทิตย์เป็นวันอธิบดี
  วันพุธเป็นอุบาทว์                             วันอังคารเป็นวันโลกาวินาศ
      เกณฑ์ฝนตกทั่วจักรวาล 400 ห่า ตกในจักรวาล 160 ห่า ตกในมหาสมุทร 80 ห่า ตกในหิมพานต์ 120 ห่า ตกในพื้นที่มนุษย์โลก 40 ห่า
      น้ำมีปริมาณมาก ฝนทราม นาคให้น้ำ 1 ตัว
      เกณฑ์น้ำชื่ออาโป เกณฑ์ธัญญาหารชื่อ ปัจฉิม ข้าวกล้าในภูมินาจะได้ผล 1 ส่วน เสีย 5 ส่วน


ยังพอมีฤกษ์ยามอื่นอีกพอสมควรครับ ไว้ว่างๆจะนำมาลงไว้ให้ได้ศึกษากันนะครับ 


 

หลวงพ่อโต วัดนาทวี จ.สงขลา



"หลวงพ่อโต" วัดนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา เป็นพระพุทธรูปโบราณศิลปะอยุธยา มีหน้าตักกว้าง 2.20 เมตร ทำจากปูนปั้นโดยช่างท้องถิ่นและชาวบ้าน ร่วมกันจัดสร้าง

ถือว่าเป็นปูชนียวัตถุ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ มีปาฏิหาริย์และปรากฏการณ์ที่เล่ากล่าวขานเป็นตำนาน หลายอายุคนเป็นที่พึ่งทางใจและเคารพนับถือ ของประชาชนทั้งพื้นที่ และนอกพื้นที่ ในประเทศต่างประเทศให้ความนับถือศรัทธาเป็นอย่างมาก

มีความเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์จริง และปาฏิหาริย์ที่ทุกคนประสบ มีเรื่องเล่ากันมาว่า แต่เดิมชาวบ้านแถวนาทวี และใกล้เคียง เมื่อมีของหายหรือถูกโจรลักวัวลักควาย ต่างก็เดินทางมากราบไหว้บนบาน อธิษฐานกับหลวงพ่อโต พระประธานของวัดนาทวี ขอให้ได้ของคืน เช่น วัวควายและของมีค่า ส่วนมากจะได้คืนกลับมาเป็นอัศจรรย์และความสมปรารถนา

แม้แต่ในปัจจุบันทุกคนมีความเชื่อว่าเมื่อแต่งงานกันแล้ว ไม่มีบุตรไม่มีธิดา โดยเฉพาะชายหญิง ทั้งๆ ที่ร่างกายไม่ได้บกพร่อง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน ทุกคนมีความเชื่อกันว่า เมื่อเดินทางไปจุดธูปจุดเทียนบูชาหลวงพ่อโต และอธิษฐานขอลูกกับหลวงพ่อโตแล้วทุกคน ก็จะได้สมปรารถนา และหลายคนก็มีความเชื่อกันอีกว่า ชีวิตนี้ ชาตินี้ได้เป็นพ่อแม่ ลูก และญาติสนิทคนที่รักปรารถนาดีให้ความรัก เกื้อหนุน จุนเจือ อุปถัมภ์ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

ชีวิตนี้ ชาตินี้มีอันต้องจากไป ถ้าชาติหน้ามีจริงขอให้เกิดมาประสบพบเจอและเป็นญาติพี่น้องคนที่เคารพนับถือ ซึ่งมีความห่วงใยซึ่งกันและกัน และขอให้สมความปรารถนาในคำอธิษฐานนั้น ทุกคนก็เดินทางมาเป็นจำนวนมากทั้งใกล้และไกล ในประเทศและต่างประเทศ หลายเชื้อชาติศาสนามาอธิษฐานขอพรกับหลวงพ่อโต พระประธานวัดนาทวี ขอให้สัมฤทธิผลในชาติหน้าและชาตินี้

สำหรับพระอุโบสถเป็นทรงโบราณ เก่าแก่ หลังคาทรงไทยแบบปักษ์ใต้ เปิดโล่งทั้ง 3 ด้าน มีความเชื่อกันว่ารับพลังจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 3 ภพ เช่น สวรรค์ มนุษย์ บาดาล ซึ่งมีหลวงพ่อโต พระประธานภายในโบสถ์ เป็นประธานของจักรวาล มีความกว้าง 10 เมตร ยาว 13 เมตร สันิษฐานจากคำบอกเล่าของคนเก่าคนแก่ว่า สร้างเมื่อปี พ.ศ.2442 โดยพระอธิการซ้าย ธัมมโชโต เจ้าอาวาสรูปที่ 2 รวมอายุประมาณ 109 ปี และศรัทธาจากชาวบ้านนาทวีและบ้านใกล้เคียงร่วมกันสร้าง เพื่อเป็นถาวรวัตถุ สืบทอดพระพุทธศาสนา

วัดนาทวี สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม บนที่ดินของนายยอดทอง ซึ่งมีตำแหน่งหัวเมือง หรือนายอำเภอ มีพระสัน สันตจิตโต จากวัดนาหว้า เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก และเนื่องจากพื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบริมคลองนาทวี เกิดน้ำท่วมทุกปี

แต่สิ่งที่สร้างความมหัศจรรย์ใจให้กับชาวบ้านและหมู่บ้านข้างเคียงมาตลอดคือ เมื่อเกิดน้ำท่วมถึงพื้นพระอุโบสถ แต่ไม่ถึงฐานพระประธานแม้แต่ครั้งเดียวและเมื่อดูน้ำในคลองก็พบว่าน้ำมีระดับสูงกว่าฐานองค์หลวงพ่อโต

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ประชาชนที่ได้ทราบได้รู้ได้เห็นจากคำบอกเล่าต่อๆกันมา ยิ่งเพิ่มความศรัทธากับหลวงพ่อโต พระประธานวัดนาทวี ทวีคูณยิ่งขึ้นเป็นอย่างมาก และยังเป็นที่พึ่งทางกายทางใจ กับบุคคลที่ตกทุกข์ได้ยาก และทำการสิ่งใดไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต เข้ามาภายในโบสถ์วัดนาทวีได้กราบไหว้พระประธานแล้วทุกคนกลับก็ประสบพบแต่สิ่งที่ดีๆ อุดมพรั่งพร้อมไปด้วย ลาภผลพูนทวี มั่งมีศรีสุข ตลอดกาล

ของศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดนาทวี มีอีกอย่างหนึ่งคือ แหวนพุทธดำรง เป็นกำไลหยกโบราณซึ่งขุดพบที่ท้องนา อำเภอนาทวี คนขุดพบก็ได้นำมาถวายให้กับวัดนาทวี

ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันวัดนาทวีได้นำแหวนพุทธดำรงมาประกอบพิธีกรรมแช่น้ำพุทธมนต์ แล้วนำมานาบตามส่วนของร่างกายที่เจ็บไข้ได้ป่วย เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาต และโรคภายในที่ไม่สามารถล่วงรู้ได้ ก็มีอภินิหารหลายจากโรคร้ายได้ ปัจจุบันมีประชาชนเดินทางไปที่วัดนาทวีเพื่ออธิษฐานขอให้แหวนพุทธดำรง มานาบตามร่างกายที่เจ็บไข้ได้ป่วยวันละหลายร้อยคน

พระครูสุวัฒนาภรณ์ (อาจารย์ภัตร อริโย) เจ้าอาวาสวัดนาทวี ต.นาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา เป็นพระนักพัฒนา ช่วยเหลือสังคมการศึกษามอบทุนกับโรงเรียนต่างๆ ทุกปีและยังเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ได้ศึกษาจากครูบาอาจารย์ตำราโบราณ ช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก และแนะนำวิธีการดำเนินชีวิตในด้านธุรกิจและสังคม

สำหรับท่านที่จะเดินทางไปวัดนาทวีจะไปไหว้พระประธานหรือกราบอาจารย์ภัตร ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น


ที่มา  -  ข่าวสด

ไม่เคยเห็นเลยครับเลยไม่มีข้อมูล แต่สวยดีครับ 

น่าจะเป็นพุทธซ้อนนะครับผม แคล้วคลาดปลอดภัย เมตตาก็ดีครับ 

แล้วแต่สะดวกครับ ไม่มีแน่นอนตายตัวครับสำหรับคำภาวนา ผมเองใช้ " สัมมาอะระหัง "ครับ ว่าแต่ใช้สุนะโมโล เลยหรอครับ หวังผลทางเสน่ห์หรือเปล่าครับเนี่ยะ 

รูปตามนี้นะครับ


รูปบนพยายามอ่านอยู่ครับ 
ส่วนรูปล่างเป็นคาถามงกุฏพระพุทธเจ้าครับ  มีเพิ่ม นะมะพะทะจะภะกะสะอิติ

ไม่มีรูปยันต์ครับผม 

ขอบคุณข่าวครับคุณลุงยันต์กลับ พระกริ่งออกแบบได้งามหยดมากครับ วัวมหามงคลก็งามสุดยอดครับ ร่วมอนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ 

ยอดเยี่ยมครับผม เท่าที่เคยสังเกตหลวงพี่แป๊วท่านลงมือขวาอ่ะครับ ดูจากในภาพก็อาจจะกลับก็เป็นได้ครับ ขอบคุณครับผม 

ครบเครื่องครับผม ขอบคุณครับ เหรียญ , ดิน , ชิน ,ผง ผมชอบเสน่ห์ของพระเนื้อชินมากที่สุดเลยครับ งามๆทั้งนั้น

รูปแรกนะครับ เป็นพระผงหลวงพ่อเปิ่นรุ่น 6 รอบครับ ออกปี 2537

ถัดลงมา ผมมองด้านหน้าแล้วน่าจะเป็นรุ่นที่ออกเสาร์ 5 ปี 2536 นะครับ แต่ด้านหลังเป็นตราฉลองราชสมบัติ อันนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกันนะครับ สรุปไม่ได้ครับ ( ภาพไม่ค่อยชัดด้วยครับ  )

พระกริ่งของหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อมนะครับ ตามพิมพ์ที่มองนะครับ น่าจะเข้าที่รุ่นแรก ปี 13 ครับ พิธีนี้มีหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม มาร่วมปลุกเสกด้วยครับ ผิดพลาดขออภัยครับผม 

รับทราบครับผม รู้สึกผิดขึ้นมาจั๊งจัง 

ขอร่วมไว้อาลัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ .

หนุมานเชิญธงขี่เมฆ ของท่านก็ใช้คาถานี้ครับ..

อ่อครับ ออกพร้อมกันกับรุ่นเจ้าคุณพูลครับ

ไม่รู้ว่าลูกอมทั้ง2รุ่นของท่านที่วัดยังมีมั้ยนะครับ

พอรู้มั้ย

ปี 44 รู้สึกจะหมดจากวัดนานแล้วครับ ส่วน 47 นี่น่าจะยังพอมีนะครับ น่าจะนะครับ  โชคดีครับผม

การสวดภาณยักษ์ นั้นก็คือ การสวดพระอาฏานาฏิยปริตร โดยพระปริตรนี้ แบ่งเป็น2ภาค คือภาคภาณพระ และภาคภาคยักษ์ โดยตามพระพุทธประวัติกล่าวว่า หลังจากพระมหาบุรุษตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วนั้น ท้าวจตูโลกบาลก็มาเข้าเผ้า พระพุทธเจ้าก็ตรัสกล่าวถึงพระพุทธวงศ์ คือพระนามพระพุทธเจ้าที่เคยตรัสรู้มาแล้ว (ภาณพระ) จากนั้นท้าวจตุโลกบาลก็มีดำริว่าบริวารของตนนั้นมีมากมาย ทั้งที่เป็นยักษ์ กุมภัณฑ์ นาค และคนธรรพ์ ซึ่งมีมายมากที่ไม่มีจิตเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา กลัวว่าจะมารบกวนพระสงฆ์สาวกที่ไม่มีฤทธิ์ ขณะจาริกและปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานให้ได้ความเดือดร้อน จึงถวายพระปริตรนามว่า อาฏานาฏิยปริตร แด่พระพุทธเจ้า เพื่อให้พระสงฆ์นำไปสวดกัน(ภาณยักษ์) โดยในพระปริตรดังกล่าวจะกล่าวถึงพระนามของท้าวจตุโลกบาล ทั้งนี้เมื่อบริวารของท้าวจตุโลกบาล เมื่อได้ยินพระนามท้าวเธอก็ย่อมจะเกรงกลัวและเร้นกายไปไม่มารบกวน ดังนั้นความเชื่อของชาวพุทธ เวลาเกิดเหตุการณ์ร้ายไม่มีในบ้านเมืองก็จะนิมนต์ให้พระสงฆ์สวดภาณยักษ์ อย่างเช่นในสมัยต้นกรุงฯได้เกิดโรค--ยุดนั้นก็มีการสวดภาณยักษ์กันมากมาย แต่จริงๆแล้ว พระอาฏานาฏิยปริตร นั้นเวลาเรานิมนต์พระมาเจริญพระพุทธมนต์เย็น พระท่านก็จะสวดอยู่แล้ว เพราะพระปริตรดังกล่าวนั้นได้รวมอยู่ทั้งใน จุลราชปริตร(สวด 7 ตำนาน) และมหาราชปริตร(สวด 12 ตำนาน) อยู่แล้ว

การสวดภาณยักษ์ได้เริ่มมีขึ้นในประเทศไทย เข้าใจว่ามีมาตั้งแต่สมัยของพ่อขุนรามคำแหง รับมาจาก พระสงฆ์ทางลังกาสายเถรวาท โดยเริ่มเข้ามาทางด้านจังหวัดนครศรีธรรมราช จนถึงสมัยของรัชกาลที่ ๕ เสด็จนครศรีธรรมราชจึงได้นำมาจัดเป็นพิธีประจำปี สำหรับพระนครเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่พระนคร และแก่พระเจ้าแผ่นดิน เพราะมีความเชื่อกันมาว่า บ้านเมืองหนึ่งๆ จะมีผีที่ดี และผีที่ไม่ดีอาศัยอยู่ ผีที่ไม่ดีเรียกว่า ภูติผีปิศาจ ส่วนผีที่ดีเรียกว่า เทพยดา และที่บ้านเมืองมีเหตุเพทภัยต่างๆเกิดขึ้น ก็เป็นเพราะเกิดจากภูติผีปิศาจ กลั่นแกล้งบันดาลให้เป็นไป ดังนั้นเมื่อสิ้นปีหนึ่งไป จึงได้ทำพิธีสวดภาณยักษ์ เพื่อเป็นการขับไล่ภูตผีกันสักครั้ง เพื่อความเป็นสิริมงคล และความร่มเย็นเป็นสุขของบ้านเมือง และแก่ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินทั้งปวง จึงเป็นสาเหตุ ที่มีการทำพิธีสวดภาณยักษ์กันขึ้นมานั่นเอง ภาณ หมายถึงการสวด สมัยก่อนการสวดภาณยักษ์มีอยู่สองแบบคือ สวดภาณวาร และสวดภาณยักษ์ ซึ่งการสวดทั้งสองอย่างนี้มีความแตกต่าง ภาณวาร เป็นการสวดแบบมีทำนองครุ ลหุ คือมีการเน้นเสียงหนักเบา ใช้น้ำเสียงสวดที่ไพเราะไม่ กระแทกกระทั้นดุดันเหมือนการสวดภาณยักษ์ ภาณยักษ์ เป็นการสวดที่มีน้ำเสียงกระแทกกระทั้นดุดันเกรี้ยวกราด และน่ากลัวจึงได้เรียกว่าสวดแบบภาณยักษ์นั่นเอง ใช้สวดเพื่อขับไล่ยักษ์หรือภูตผีต่างๆ การสวดทั้งสองแบบนี้ได้นำมาจาก อาฎานาฏิยสูตร ซึ่งเป็นพระสูตรที่อยู่ในพระไตรปิฎกว่าด้วยเรื่องของยักษ์ต่างๆ ที่พระพุทธเจ้าทรงปราบ มาดัดแปลงทำนองให้ดุดันและโหยหวน เพื่อเป็นการขับไล่สิ่งที่ไม่ดีให้ออกไป มีการจุดปืนใหญ่สมทบ เพื่อให้ภูตผีปิศาจเกิดความกลัวจะได้หนีไป แต่ในปัจจุบันใช้การจุดประทัดแทน บางตำนานก็บอกว่าการสวดภาณยักษ์นั้น เกิดจากเมื่อครั้งที่พระพุทธองค์ท่านได้ทรงโปรดเทศนาธรรม ให้กับพญายักษ์ที่มีชื่อว่า ท้าวเวสสุวัณ ซึ่งเป็นจ้าวแห่งภูตผีปิศาจทั้งหลาย แค่เอ่ยชื่อเพียงอย่างเดียว พวกภูตผี ปีศาจที่มีฤทธิ์เดชทั้งหลายยังต้องเกรงใจ ไม่กล้ายุ่งเกี่ยวต่อกรด้วย หลังจากที่ยักษ์ท้าวเวสสุวัณได้ฟังพระธรรม จากพระพุทธเจ้า ก็บังเกิดความซาบซึ้งในรสพระธรรมขึ้น จึงได้แต่งพระคาถาน้อมถวายแก่พระพุทธเจ้า ซึ่งก็คือคาถาสวดภาณยักษ์นั่นเอง เมื่อสวดคาถาบทนี้เมื่อใด เหล่าภูตผีปิศาจไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ก็ต้องยอมศิโรราบให้ เพราะเกรงกลัวในบารมีของท่านท้าวเวสสุวัณ พากันเผ่นหนีกันจ้าละหวั่นไปกันหมดท่านท้าวเวสสุวัณ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ท้าวกุเวร เป็นเทวาธิราชพระองค์หนึ่ง เป็นจอมเทพที่มีศักดาอานุภาพ และอิทธิฤทธิ์มาก ถึงแม้ว่าจะเป็นยักษ์(บางตำนานก็ว่าหน้าเป็นคน)ก็เป็นยักษ์ที่ใจดีมีเมตตาและมีศีลธรรมประจำใจ ด้วยฤทธิ์เดชอำนาจอันมากมายที่มีอยู่ จึงเป็นที่กลัวเกรงของเหล่าบรรดาภูตผีทั้งปวงและบรรดาเหล่ายักษ์มารทั้งหลาย รวมทั้งเทวดาชั้นผู้น้อย ทำหน้าที่ปกครองดูแลเทพเทวาในนครอันดับที่สี่ ซึ่งอยู่ในสวรรค์ชั้นที่หนึ่ง ในสวรรค์ชั้นนี้ก็มี เทพเทวดา อสูร นาค ราคสด คนธรรพ์ และพวกสัมพเวสีอาศัยอยู่ ดังที่ได้กล่าวมาดังนี้แล......

อย่างไรก็ได้ครับ 

ขอบพระคุณครับคุณลุงยันต์กลับ นมัสการหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ และหลวงปู่ทิม วัดพระขาวครับ สวัสดีปีใหม่ครับผม 

รบกวนถามพวกพี่ๆครับ...ผมอยากทราบว่าจำเป็นมั้ยครับที่เราต้องสักต์ยันต์เก้ายอดก่อนที่จะสักลายอื่นๆ
พอดีผมอยากสักยันต์แปดทิศน่ะครับ...แล้วไม่ทราบว่าที่วัดบางพระมีสักมั้ยครับช่วยแนะนำหน่อยครับ
......จากคนไม่เคยสักต์(แต่อยากครับ)

ที่วัดบางพระมีสักครับผม ยันต์แปดทิศ เรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่ที่พระอาจารย์ท่านนะครับว่าท่านจะเมตตาให้อะไรมา ถ้าสักน้ำมันที่หลวงพี่ติ่งนะครับ ลองขอท่านได้ครับ ผมเองก็ขึ้นยันต์แรกด้วยการสักน้ำมันยันต์แปดทิศที่หลวงพี่ติ่งครับ

ลืมถามอีกอย่างนึงครับ...เค้าระบุไว้มั้ยครับว่าควรจะสักต์วันไหนได้หรือวันไหนไม่ควรสักต์

ที่วัดบางพระรับสักทุกวันครับผม นอกเสียจากว่าพระอาจารย์ท่านติดกิจนิมนต์ที่อื่นครับ โชคดีครับผม 

ครับผม เป็นคาถากำกับลูกอมหนุมานครองเมืองของหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อมครับ ที่ท่านได้สร้างไว้มี 2 รุ่น ครับ รุ่นแรกออกในปี พ.ศ.2544 เนื่องในงานปิดทองฝังลูกนิมิตผูกพัทธสีมาวัดไผ่ล้อม ( ประสบการณ์จังๆเยอะครับ ) อีกรุ่นสร้างในโอกาสเลื่อนสมณศักดิ์ที่ พระมงคลสิทธิการ วิ. ( เจ้าคุณพูล ) ประมาณปี 2547 ครับ เรื่องหนุมานหลวงพ่อพูลท่านก็ไม่เป็นรองใครเลยครับ สุดยอดจริงๆ ขอบคุณคาถาครับผม 

ไม่ทราบประวัติเลยครับผม น่าจะไปออกให้วัดอื่นนะครับ 

ยินดีด้วยครับท่าน สาริกาตัวใหญ่ดีนะครับ  รักษาดีๆครับท่าน บารมีหลวงพ่อเปิ่นคุ้มครองครับ 

หมดเคราะห์หมดโศกครับท่าน  ไว้เจอกันวันที่ 10 นะครับ 

ท่าทางร่วมทำบุญไปเยอะเลยนะครับนี่ ของเพียบเลย เรื่องหลวงปู่หลิวก็คล้ายๆนะครับ 

พิมพ์ทรงงามดีครับ มีเส้นเกศาอีกต่างหาก เยี่ยมครับเยี่ยม 

งามดีครับ สวัสดีปีใหม่ครับท่าน 

กลับมาแล้วครับ " ผ่านผมไปได้คนนั้นแหละแชมป์ประเทศไทย " 

รอบแรกจับฉลากได้บายครับ นึกว่าโชคดีที่ไหนได้รอบ 2 ไปชนอาเฮีย ( พี่ๆผมอ่ะนะครับ ) แข่งกัน 2ใน3ยกครับ ซ้ายขวาเสร็จสรรพ ยังดีที่ผมได้แขนซ้ายมาข้างนึงครับ  แพ้ไป 2-1ยก เต็มที่แล้วครับ
 สรุปแชมป์รุ่นผมก็อาเฮียคนนี้แหละครับ ชนะ 2-0 ยกจนถึงรอบชิง ( เจอกันเร็วไปนิดส์ ) ขอบพระคุณทุกๆกำลังใจที่มีให้กันเสมอมานะครับ ปีหน้าฟ้าใหม่ไว้ไปแก้มือครับ 

ขอบคุณภาพข่าวครับ ถัดลงมาจากรูปเจ้าแม่กวนอิมที่มีหลายกรหลายเศียร น่าจะเรียกว่า พระอวโลกิเตศวรนะครับ 

ขอบคุณทุกๆท่านครับสำหรับกำลังใจไว้พรุ่งนี้มาแจ้งผลครับ ขอบคุณครับ 

กราบนมัสการพระอาจารย์ทุกๆรูปและขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วยนะครับผม สวัสดีปีใหม่ครับ 

น่าจะดีทั้ง3เหรียญครับท่านเอ็ม ส่วนประวัติผมไม่ค่อยทราบเท่าไหร่ครับ 

โอ้ว ไม่ทราบข่าวไม่อย่างนั้นไม่พลาดแน่ครับ ขอบคุณภาพครับผม สวัสดีปีใหม่ครับ  

หลวงปู่โสฬส วัดโคกอู่ทอง อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี พระเกจิเจ้าตำรับแร่มหามงคล

"ปีเก่าๆ เรื่องเก่าๆ อะไรที่ไม่ดีไม่งาม อาจจะด้วยความประมาทพลั้งเผลอก็ตาม อาจจะด้วยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ตาม ขอให้เป็นอโหสิกรรมซึ่งกันแลกันไปเสีย อย่าได้ผูกเจ็บเก็บมาข้ามปีข้ามวันให้เกาะกินหัวใจไปโดยเปล่าประโยชน์ อดีตเหมือนความฝัน ปัจจุบันนี่ความจริง เราไม่สามารถไปแก้ไขอะไรได้กับสิ่งที่ผ่านไปแล้ว ขอให้หันมาสนใจอย่างยิ่งกับปัจจุบันธรรม ในปัจจุบันขณะเท่านั้นที่เราท่านจะจัดการกับมันได้ ให้มองว่าทุกชีวิตจิตใจล้วนแต่รักสุข เกลียดทุกข์เสมอเหมือนกันด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้แต่ตัวเรา เมื่อดังนี้ได้เราจะมีเมตตาแก่กัน มีความรู้รักสามัคคีกัน เสมือนหนึ่งลูกท้องเดียวกันทั้งนั้น ทำไมจะต้องมาพยาบาทมาดร้ายแก่กัน ขอให้ลูกท้องเดียวกันจงมีความรัก สมัครสมาน นำบ้านพาเมืองไปสู่ความสันติสุข และเจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป เจริญพร"


ที่มา - ข่าสด

หลวงพ่อวงศ์ วัดประชาวงศาราม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี พระเกจิเจ้าตำรับจารหลังลงคาถาน้ำมันมนต์

"ขอเจริญพรพี่น้องพุทธศาสนิกชนทั้งหลายที่อยู่ในประเทศไทย เป็นข้าใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอให้ท่านทั้งหลายจงได้รับความสุขความเจริญ ปราศจากทุกข์ภัยพิบัติต่างๆ ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2552 นี้ ขอให้มีความอดทนและมีความขยันหมั่นเพียร อุตสาหะเก็บหอมรอมริบเอาไว้ เพื่อจะได้ใช้เมื่อมีความจำเป็น ขอจงจำคำสั่งสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ท่านตรัสไว้ ให้ทำอะไรให้พอมีพอกิน อย่าหลงระเริงในสิ่งที่ไม่ดี และให้ทุกท่านจงมีอายุ วรรณะ สุขะ พละ ธนสารสมบัติ พิพัฒนมงคล มีความสามัคคีทั่วถึงกันทุกท่านทุกคนเทอญ"

ที่มา - ข่าวสด

หลวงพ่อบุญเกิด วัดเขาดิน จ.ชัยนาท พระเกจิเจ้าตำรับเหรียญรักชาติแผนที่ประเทศไทย

"ปีเก่ากำลังจะผ่านไป ปีใหม่กำลังมาเยือน อาตมาขอให้ข้อคิดแก่ท่านสาธุชนทุกท่านตลอดจน หนังสือพิมพ์ข่าวสด ขอให้ข้อคิดกับทุกท่านในเรื่องของสามัญสำนึกจิตใจ อยากให้มีสามัญสำนึกใน ความเป็นมนุษย์ ในแผ่นดินเกิด มีสามัญสำนึกในครอบครัว มีสามัญสำนึกในหน้าที่การงาน และสามัญสำนึกในตัวเราเอง ทุกท่านมีโอกาสได้เรียนรู้ทุกสรรพศาสตร์เท่าเทียมกัน แต่สิ่งหนึ่งที่คนเรามีไม่เท่าเทียมกัน จึงขอฝากข้อคิดนี้ไว้แก่ทุกท่านด้วย ตลอดจนขออ้างอิงคุณพระศรีรัตนตรัย ให้ช่วยอภิบาลรักษาทุกท่านให้มีความสุขความเจริญ คิดสิ่งใดไม่ผิดทำนองคลองธรรม ขอให้สิ่งนั้นจงสำเร็จเทอญ เจริญพร"ที่มา - ข่าวสด

หลวงพ่อทองดำ วัดถ้ำตะเพียนทอง จ.ลพบุรี พระเกจิเจ้าตำรับขุนแผนเจ้าทรัพย์เจ้าเสน่ห์

"ส่งท้ายปีเก่าเป็นนิมิตหมายให้เราทบทวน กาย วาจา ใจ ว่าอะไรควรปรับปรุงแก้ไข อะไรควรรักษา อะไรควรพัฒนาให้ยิ่งๆ ขึ้นไป และเมื่อถึงวันขึ้นปีใหม่ก็ให้ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่จะเริ่มต้นพัฒนาแก้ไขอย่างที่ตั้งใจไว้ เริ่มที่ใจเรา แล้วตัวเรา ครอบครัว สังคม ประเทศชาติ ตลอดจนสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ล้วนเป็นเพื่อนแก่ เจ็บ ตาย เวียนว่ายในวัฏจักรนี้ก็จักได้รับอานิสงส์แห่งความสุขความเจริญโดยทั่วหน้ากัน เจริญพร"ที่มา - ข่าวสด

หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม พระเกจิเจ้าแห่งเบี้ยแก้ลุ่มน้ำท่าจีน

"พรดีอันใดทั่วในโลกาขออัญเชิญมาดลใจให้ท่านสุขตลอดปี 2552 เจริญพร"

ที่มา - ข่าวสด

ครูบาน้อย วัดศรีดอนมูล ต.ชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่ พระเกจิชื่อดังแห่งล้านนา

"เจริญพรญาติโยมทั้งหลาย เนื่องในโอกาสพุทธศักราช 2552 นี้ อาตมาขอเมตตา ทุกข์ท่าน จงมีสติ ศีล สมาธิ ปัญญาให้ถึงพร้อม จงคิดก่อนทำ อย่าทำแล้วคิด คิดก่อนพูด อย่าพูดแล้วคิด คิดดีเพื่อดี คิดดีสู่ดี ของจริงทำจริง เห็นจริง ของดีทำดี เห็นดี ทำดี เพื่อดี ทำดี สู่ดี เพื่อความสามัคคีในตนตัว ในครอบครัว และหมู่คณะจงมีความสุขกาย สบายใจ อายุมั่นยืนยาวมีโชคมีชัยทั่วถึงเทอญ เจริญพร"

ที่มา - ข่าวสด

หลวงปู่ทิม วัดพระขาว จ.พระนครศรีอยุธยา พระเกจิกรุงเก่า

"เนื่องในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ขอส่งความปรารถนาดี ขอเจริญพรแก่ศิษย์เป็นมงคลแก่ชีวิต ให้โชดีมีสุข เดินทางปลอดภัย ค้าขายร่ำรวย มีกินมีใช้ ปลดหนี้ ทวีทรัพย์ ขอให้เจริญร่ำรวยเงินทอง มายังท่านและครอบครัวให้ประสบสุขสมหวัง และเจริญก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไป เจริญพร"


ที่มา - ข่าวสด

ไม่ได้เข้าไปวัดกำแพงแสนนานแล้วครับ ได้ข่าวมาว่าท่านย้ายไปจำพรรษาที่วัดประชาราษฎร์บำรุง ( รางหมัน ) ลองไปดูครับผมที่วัดรางหมัน ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ  แนะนำอีกที่ครับ ละแวกเดียวกัน หลวงพ่อสมพงษ์ วัดใหม่ปิ่นเกลียว เจ้าตำรับชูชกครับ 

สวัสดีปีใหม่ครับทุกๆท่าน ขออำนาจบารมีพระเดชพระคุณหลวงพ่อเปิ่น คุ้มครองทุกๆท่านให้โชคดีมีชัยตลอดปีและตลอดไปครับ  

พระท่ากระดาน ของที่ใดเอ่ย 

กราบนมัสการหลวงปู่หิ่ม , หลวงพ่อทองอยู่ , หลวงพ่อเปิ่น และพระอาจารย์ทุกๆรูปครับ ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยดลบันดาลให้พระอาจารย์ทุกรูปมีสุขภาพแข็งแรงในปีใหม่นี้และทุกๆปีครับ   

ได้บูชาชิน-เงิน มาเหมือนกันค่ะ ดีใจกะคนที่โชคดีรางวัลหลวงปู่นั่งเสือ ((แอบอิจฉาเล็กๆ)) ได้กราบหลวงปู่กะทำบุญก็เป็นพรปีใหม่ที่ดีละค่ะ^-^

โชคดีจังครับ ไม่ใช้ก็หันมามองทางนี้ได้นะครับ  อนุโมทนาบุญด้วยครับ 

หน้าเสือน่าสนใจมากครับ พอทราบราคาเช่าบูชาหรือเปล่าครับ

อยู่ใกล ยังไม่เคยเข้าร่วมงาน ปีนี้ตั้งใจจะไป จึงต้องการทราบหมายกำหนดการแบบละเอียดหน่อยครับ
1.ต้องไปถึงวัดกี่โมงครับ
2.สถานที่จอดรถ (เห็นจากภาพปีก่อนๆคนเยอะมากไม่เห็นที่จอดรถ)
3.พิธิการจบที่กี่โมง
4.มีกิจกรรมพิเศษของกลุ่มสมาชิกใน www.bp.or.th หรือไม่

1.ไปก่อนเริ่มพิธีประมาณ1-2ชั่วโมงก็ดีครับ เดินทางมาเหนื่อยๆก็ไปที่โรงทาน เดินเที่ยวชมวัดก่อน ถ้ามาช้ากว่านี้รถติดยาวแน่นอนครับผม
2.ที่จอดรถก็แล้วแต่ครับผม ถ้ามาเช้าหน่อยก็อาจจะได้จอดบริเวณในวัดหรือบริเวณโรงเรียน ถ้าเต็มแล้วก็ข้ามสะพานไปจอดอีกฝั่งนึงก็ได้ครับกว้างขวางดี
3.10โมงกว่าๆได้ครับ คร่าวๆโดยประมาณนะครับ เพราะบางท่านอาจจะแวะไปหาพระอาจารย์ที่สักให้ท่านครอบให้อีกทีนึง
4.เรื่องกิจกรรมไม่ทราบเหมือนกันครับ รอพี่ๆในบอร์ดมาแจ้งครับ 

จะเสียเวลาทำตาสูตรทำไมนั่น  เฮฮาดีครับ 

ไปเจอตำรามาแล้วครับ คลาดเคลื่นจากที่บอกไว้ครับ ( สับสนกับภูทวาราวดีปี 06 หน้าใกล้ๆกัน ) พระพุทธนรเชษฐ์ ( ศิลาขาว ) ขนาดบูชาสร้างครั้งแรกในสมัยของพระธรรมสิริชัย ( ชิต ชิตวิปุโล ) เมื่อ พ.ศ. 2510 ครับ
ของท่าน 123pla ก็อาจจะสร้างออกมาทีหลังนะครับ แต่ผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันครับว่าออกในช่วงปีใด ขอเล่าประวัติเสริมนิดนึงนะครับ พระปางประทานพรนี้ ได้มีการขุดพบที่บริเวณทุ่งพระเมรุ จังหวัดนครปฐม ค้นพบด้วยกันทั้งหมด 4 องค์ ดังนี้ องค์ที่ 1 ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร องค์ที่ 2 ประดิษฐานเป็นพระประธานประจำทิศใต้ ขององค์พระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร ที่เรียกกันว่า พระศิลาขาว องค์นี้ชำรุดบริเวณพระกรด้านขวาขององค์พระ ได้มีการบูรณะแล้ว ท่านที่เคยไปกราบนมัสการก็สังเกตดูได้ครับ องค์ที่ 3 ประดิษฐานอยู่ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ องค์ที่ 4 ประดิษฐานอยู่ที่พิพิธภัณฑ์เจ้าสามพระยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
 องค์ในภาพผมสังเกตพระพักตร์หลวงพ่อคล้ายกับองค์ในพระอุโบสถวัดพระปฐมเจดีย์เลยครับ 

พระพิฆเณศวร เส้นสายพริ้วมากๆครับผม ชอบจั๊งจัง 

พรุ่งนี้วันที่ 27/12/2008อย่าลืมไปวัดตะเคียน จ.นนทบุรี หลวงพี่สงบแจกเสือทองแดงรุ่น3เนื่องในโอกาสฉลองพระครู  เดี๋ยวจะอดเสือทองแดงนะคับฟรี ทั้งอาหารเครื่องดื่ม

ขอบคุณข่าวครับผม คงจะไม่ได้ไปอีกตามเคย 

ครับผม เรื่องโล่ห์ของหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ที่ท่านสร้างไว้นั้นสร้างจากเนื้อโลหะ โดยได้โลหะมาจากหางเสือเรือรบหลวงศรีอยุธยา จำนวนการสร้างที่ได้ยินมา ไม่น่าจะเกิน 100 โลห์ครับ หายากมากๆครับผม โล่ห์หลวงพ่อเงินแบบนี้ก็มีสร้างออกมาเรื่อยๆนะครับในสมัยหลวงพ่อแช่ม , หลวงพ่ออวยพร ก็มีสร้างครับ แต่ที่อาจจะสร้างความสับสนหน่อยก็คือของหลวงพ่อแช่มที่เป็นเนื้อโลหะเหมือนกัน จุดสังเกตอยู่ที่สีพื้นหลังของโล่ห์ด้านหน้าครับ ที่ทันหลวงพ่อเงิน สีจะออกไปทางสีโอ๊คครับ ประมาณแดงแต่หนักไปทางดำอ่ะนะครับ อธิบายไม่ค่อยถูก  ที่หลวงพ่อแช่มสร้างนั้นสีจะแดงดูสดใสกว่าครับ ของท่านเอ็มนี้ผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ สอบถามนิดนึงครับว่าของท่านเอ็มเป็นเนื้ออะไรหรอครับ ไว้ประกอบการพิจจารณาครับ 
ส่วนของท่านเด็กนอกวัด พอเห็นรอยจารนะทรหดสองข้าง ก็ตีเข้าที่หลวงพ่ออวยพรท่านสร้างไว้ครับ เท่าที่ผมเคยเห็นมาจะมีแต่เนื้อปูนนะครับ แต่ก็ใช้แทนได้ครับผม ผมสังเกตเวลาที่หลวงพ่ออวยพรท่านจะปลุกเสกวัตถุมงคลของหลวงพ่อเงิน หรือหลวงพ่อแช่ม หลวงพ่ออวยพรท่านก็จะอัญเชิญบารมีหลวงพ่อมาประสิทธิด้วยทุกครั้งไปครับ อีกอย่างครับ หลวงพ่ออวยพรท่านเรียนวิชามาจากหลวงพ่อเงิน และหลวงพ่อแช่ม ฉะนั้นจึงเชื่อได้อย่างสนิทใจครับ
ของผมเองก็มีของหลวงพ่อเงินอยู่ครับ เนื้อใบพัดเรือ เคยลงไว้ทีแล้วครับ http://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,4215.0.html ไว้ลองเข้าไปชมครับ หลวงพ่อเงินเจิมแป้งเดิมๆ บูชาไว้อยู่บนหิ้งครับ ลองเอาไว้เปรียบเทียบดูครับ

นมัสการหลวงพ่อมาลัยครับผม ตะกรุดท่านก็ใช่ย่อยนะครับ  ขอบคุณข้อมูลมากครับท่านเอ็ม 

เกี่ยวกับคาถาที่ใช้เรียกยันต์อะคับ คือว่า ยกตัวอย่างว่า ผมลงนายขนมต้มมาจากสำนักนึง และต่อมาได้คาถานายขนมต้มมาจากพี่ที่สักมาอีกสำนักนึง(หมายถึงคาถากับยันต์คนละสำนักกันคับ) ผมอยากจะรู้ว่าผมจะใช้คาถาร่วมกันกับพี่ได้มั้ยคับ

อาจารย์แต่ละที่ก็เรียนมาจากอาจารย์ที่ต่างๆกันออกไป ตำราก็น่าจะไม่ใช่เล่มเดียวกันนะครับ เพราะต่างสำนักต่างก็สืบทอดตำราตามสายของตน ถ้าอยากได้คาถานั้นก็ต้องลองไปหาอาจารย์ที่ลงให้นะครับ น่าจะสมบูรณ์ที่สุดครับ 

ไม่ค่อยเข้าใจคำถามอ่ะครับ หมายถึงว่าจะไปบูชาตะกรุด พระอาจารย์แดงที่วัดไร่ ปัตตานี หรือเปล่าครับ 

ขอบคุณมากๆครับท่านเอ็ม อีก 1 เกจิอาจารย์แห่งเมืองนครปฐม พระกริ่งโปร่งฟ้า พระในฝันผมเลยครับ 

งามมากครับท่าน มีรอยจารมืออีกด้วย 

ขอบคุณภาพข่าวมากครับผม หลวงพ่อกวยสุดยอดมากครับผม กราบนมัสการสังขารหลวงพ่อกวยครับ 

ขอบคุณภาพข่าวครับผม เห็นแล้วบอกได้คำเดียวว่าสุดยอดครับ นมัสการหลวงปู่ด้วยครับผม 

ด้วยความเคารพ
ความอยากรู้จึงต้องค้นครับท่าน

เบี้ยวาจำลองวัดชลอ เป็นของดีหายาก เป็นเครื่องรางพลิกร้าย กลายเป็นดี พกพาไว้ติดตัวป้องกันภัย เป็นเมตตามหานิยมชั้นสูง พกพาเสี่ยงโชคได้ หากนำมาแช่น้ำพรมสินค้า ท่านว่าจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ให้เสกคาถาแล้วอธิษฐาน หรือหากทำน้ำมนต์ให้เอาเหรียญแช่ แล้วบริกรรมคาถา จากนั้นเอาน้ำมนต์มาประพรมสินค้า หรือล้างหน้าเพื่อเสริมสิริมงคลใบหน้าดีครับ

***ที่วัดชลอนี่เค้าเก่งทำเบื้ยวามาก เหรียญพวกนี้ไม่มีออกวางตามศูนย์ครับ ส่วนใหญ่ได้มาจะเก็บให้ลูกให้หลานกัน เวลาช่วยผู้ใหญ่ขายของ ทำให้เสริมพลังกันครับ ลองไปใช้ดูนะครับ ต้องแสดงความยินดีกับท่านโจรด้วยที่ได้ของดีมาใช้




ส่วนอันนี้เป็นเบี้ยชวาของโบราญแท้แต่ได้เคลือบทองคำเอาไว้ราคาค่านิยมอยู่ที่ 5 หมื่นอ่ะครับ




ถ้าข้อมูลผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับท่าน

ข้อมูลสุดยอดมากครับผม น่าหาเก็บบ้างจัง 

สักน้ำมันลองเข้าไปที่หลวงพี่ติ่งดูครับ ขอท่านได้ครับผม ส่วนหมึกก็ไม่แน่นอนตายตัวครับ 

ของที่ระลึกยังมีแจกไหมครับ หรือว่าต้องบูชาเอาครับ และเท่าไรครับ

หลังเหรียญที่ระลึก มีระบุไว้ว่า ไหว้ครู ๒๕๕๒ นะครับ น่าจะทำแจกในงานไหว้ครูปีหน้าครับ ผิดพลาดขออภัยด้วยครับ 

ขอบคุณข่าวครับผม คุณแม่ผมสนใจอยู่ครับ ชอบตอนพากษ์ มันได้อารมณ์จริงๆ 

ของที่ไหนหล่ะครับ  มาอย่างนี้หาที่ลงให้ไม่ได้เลยครับ .

สมเด็จหลวงพ่อแพสุดยอดครับผม เก็บรักษาดีๆนะครับ .

พ่อท่านคลิ้งสุดยอดครับผม ท่านเคยมาปลุกเสกพระที่วัดกลางบางแก้ว หลวงปู่เพิ่มท่านว่าเก่งมากครับ นับถือๆๆ

ยินดีด้วยครับท่าน รักษาดีๆนะครับ 

เข้ามาชมครับ ไม่ทราบเช่นกันครับผม รอท่านอื่นมาช่วยๆกันดูอีกทีนะครับ 

อยากทราบว่าที่วัดบางพระรับสักยันต์ให้ผู้หญิงหรือป่าวคะ

รับสักอยู่ครับ เมื่อวานไปให้หลวงพี่แป๊วเป่ากระหม่อมก็ยังเห็นมีสองสาวใจกล้าไปรอสักอยู่ครับ 

เพิ่งกลับมาจากวัดบางพระซักครู่นี้เองครับ ได้รับแจกหนังสือกับเหรียญเสมา คนก็เยอะพอสมควรครับ นมัสการหลวงพ่อสำอางค์มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ขอบคุณภาพข่าวด้วยครับผม รีบกลับมาก่อนไม่งั้นกะว่าจะนั่งดูองค์บาก2 แหะๆ 

ครับ น่าจะอยู่ครับ วัดห้วยจระเข้ยุคหลังๆหรือเปล่าครับ 

จัดไปครับอิอิ 

รุ่นแรกครับรุ่นแรก เอาของผมมาเทียบละครับ งามครับท่าน สุดยอดครับ 

สุดยอดมากครับผม งามๆทั้งนั้นครับ ขอบคุณครับ 

เพิ่งเคยเห็นครับ ขอบคุณที่แบ่งมาให้ชมนะครับ 

สุดยอดครับ คำคมมากครับผม ขอบคุณครับ 

สุดยอดทั้งนั้นครับผม เยี่ยมๆๆ

งามดีครับผม ยั่วน้ำลายเจ๊หนึ่งอีกแล้ว อิอิ 

ขอบคุณภาพข่าวครับผม ตรงข้ามกับเกาะเกร็ดมีของดีอยู่ครับ ที่วัดบางจาก 

ภาพหลวงพ่อปาน กับลอคเกตหลวงพ่อฤาษีลิงดำสุดยอดมากๆครับท่าน มีจีวรท่านด้วย สุดยอดจริงๆครับ 

ขอร่วมแสดงความอาลัยด้วยครับ .

นมัสการครูบาครับผม ได้ยินชื่อเสียงเกียรติคุณท่านมานานละครับ น่าศรัทธามากๆครับผม ขอบคุณมากครับ 

ครับ ลองเข้าไปปรึกษาพระอาจารย์ท่านดูก่อนเลยครับ จะได้ปรึกษาถึงเรื่องราวต่างๆที่จะเป็นส่วนประกอบ เนื้อหา ของสารคดีที่จะทำด้วยครับ 

หลวงพ่อสัมฤทธิ์ วัดไผ่เงินโชตนาราม กรุงเทพฯ



หลวงพ่อสัมฤทธิ์ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย วัสดุสำริด ลง รักปิดทอง หน้าตักกว้าง 2.2 เมตร ศิลปะสมัยสุโขทัย เดิมประดิษฐานอยู่ที่วัดพระยาไกร เช่นเดียวกับพระสุโขทัยไตรมิตร

หลวงพ่อสัมฤทธิ์ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ ส่วนพระสุโขทัยไตรมิตร ประดิษฐานอยู่ในพระวิหาร เชื่อกันว่าเป็นพระพุทธรูปที่อัญเชิญมาจากสุโขทัยทั้งสององค์

หลวงบริบาลบุรีภัณฑ์ หัวหน้ากองพิพิธภัณฑ์และโบราณวัตถุ กระทรวงธรรมการในขณะนั้น ได้ทำการสืบประวัติหลวงพ่อสัมฤทธิ์ ทราบแต่เพียงว่าเป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยตอนปลายต่ออยุธยา

ในสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 พระยาโชฏิกราช (เจ้าสัวบุญมา) ข้าหลวงเดิมของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นผู้ปฏิสัง ขรณ์วัดพระยาไกร เสร็จแล้วจึงน้อมฯ ถวายเป็นพระอารามหลวง สถาปนาขึ้นเป็นพระอารามหลวงนามว่า "วัดโชตนาราม" ได้อัญเชิญหลวงพ่อสัมฤทธิ์ มาประดิษฐานไว้ในอุโบสถ

ต่อมา เมื่อพุทธศักราช 2482 บ้านเมืองในตอนนั้นได้มีการเวนคืนที่ดินบริเวณคลองเตย เพื่อสร้างท่าเรือคลองเตย ในการนั้น มีวัดที่จะต้องถูกรื้อถอนยุบไปหลายวัด หนึ่งในนั้นคือวัดเงินที่ต้องถูกรื้อถอน โดยทางการได้ให้วัดเงินกับวัดไผ่ล้อมเดิม มารวมกันเป็นวัดไผ่เงินโชตนาราม ท่านพระมงคลสุธีได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอา วาสในพุทธศักราช 2483 ประจวบกับมีเหตุการณ์ที่กรมการศาสนามีนโยบายแจกจ่ายพระพุทธรูปที่ตกค้างอยู่ที่วัดพระยาไกร ซึ่งเป็นวัดร้างอยู่เป็นพุทธบรรณาการ

เมื่อ สมเด็จพระวันรัตน์ (เฮง เขมจารี) อดีตเจ้าคณะแขวงล่างและสมเด็จพระวันรัตน์ องค์สังฆนายก มีเถระบัญชาให้คณะกรรมการวัดสามจีนไปอัญเชิญพระพุทธปฏิมาปูนปั้นที่วัดไผ่เงินโชตนาราม (พระยาไกร) ซึ่งขณะนั้นเป็นวัดร้าง มีพระพุทธปฏิมาปูนปั้นสององค์ ซึ่งประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถองค์หนึ่งและอยู่ในพระวิหารอีกองค์หนึ่ง เชื่อกันว่าเป็นพระพุทธปฏิมาที่อัญเชิญมาจากอยุธยาทั้งสององค์

พระมงคลสุธี (สี ยโสธโร) เจ้าอาวาสวัดไผ่เงินโชตนาราม กรุงเทพฯ ได้อัญเชิญพระพุทธปฏิมาในพระอุโบสถมาประดิษฐานที่วัดไผ่เงินโชตนาราม

พระมงคลสุธี ได้เลือกองค์หลวงพ่อสัมฤทธิ์ด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่ชำรุด ขณะที่องค์พระพุทธปฏิมาหลวงพ่อสุโขทัยไตรมิตรที่ถูกปูนหุ้มอยู่มีรอยร้าวจากไหล่ถึงเอวไปถึงรากฐานเป็นร่องเล็กๆ มองเห็นเนื้อสัมฤทธิ์สีเขียวๆ ที่ยังประดิษฐานอยู่

เมื่อพระพุทธปฏิมาหลวงพ่อสัมฤทธิ์ได้มาประดิษฐานที่วัดไผ่เงินโชตนารามแล้ว กองพิพิธภัณฑ์และโบราณวัตถุ กระทรวงธรรมการได้สืบประวัติของพระพุทธรูปองค์นี้ ทราบเพียงแต่ว่าเป็นพระพุทธรูปศิลปะสมัยสุโขทัยตอนปลายต่อสมัยอยุธยาและได้ขนานนามให้ว่า "หลวงพ่อสัมฤทธิ์" ด้วยเป็นพระพุทธปฏิมาที่หล่อด้วยสำริดและเป็นสำริดแก่เงินจัด ปางมารวิชัย มีขนาดหน้าตักกว้าง 4 ศอกเศษ

มีการปิดทองหลวงพ่อสัมฤทธิ์ทั้งองค์อีกครั้งในช่วงฉลองกรุงรัตนโกสินทร์สองร้อยปี พ.ศ.2525 หลวงพ่อสัมฤทธิ์เป็นที่เคารพกราบไหว้ของประชาชนในย่านนั้น เจ้าอาวาสกล่าวว่า ท่านสามารถสร้างวัดไผ่เงินฯ ขึ้นมาได้ก็ด้วยบารมีของหลวงพ่อสัมฤทธิ์

ด้วยเหตุนี้จึงประดิษฐานไว้ในพระวิหารแทนที่จะเป็นพระอุโบสถ เพื่อสะดวกแก่ประชาชนที่ต้องการเข้ามากราบไหว้บูชา

และในวันขึ้นปีใหม่ของทุกปีจะมีงิ้วแสดงตลอด 3 วัน 3 คืน จนกลายเป็นประเพณีที่ถือปฏิบัติต่อกันมา


ที่มา  -  ข่าวสด

ถ้าจะตั้งกระทู้ใหม่ถาม  ต้องทำอย่างไร ครับ

จะตั้งในประเด็นหัวข้ออะไรก็ลองเลือกหมวดให้เหมาะสมคลิกเข้าไปครับ แล้วก็เลือกที่ เริ่มหัวข้อใหม่ครับ ให้ตรงหใวดก็จะดีมากเลยครับ 

สุดยอดมากครับผม พักนี้ผมไม่ค่อยได้ไป จะไปอีกทีก็คงจะงานปิดทองฝังลูกนิมิต นมัสการหลวงปู่ครับ 

คิออยากทราบว่าแต่ละสำนักที่สักกัน มีการจำกัดเรื่องอายุไหมคับ

น่าจะมีอยู่ครับผม ของทางวัดบางพระก็มีครับ 

สุดยอดครับพี่โชว์ อิอิ มีตั้งเยอะไม่แบ่งกันบ้างหรอครับ 

ครับ พระกำแพงซุ้มกอ  1 ในเบญจภาคี หาชมของแท้ยากครับ 

นะโม 3 จบ
จันทะสุวัณโณ มะหาเถโร ปูริตะปาระมี
 โพธิสัตโต ปะฐะมะนะคะระเทโว
หิตะสุขะชะนะโก เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
 ภะวะตุเม สัพพะมังคะลัง
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อุชุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สามีจิปฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสสะ ยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา
เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย
อัญชะลีกะระนีโย อะนุตตะรัง ปุญญะเขตตัง โลกัสสาติ .

แจ่มๆทั้งนั้นเลยครับ สุดยอดกันทั้งนั้น 

ยอดเยี่ยมครับผม อ.ทองทางใต้ขณะนี้นิยมกันมากเลยครับ ขอบคุณครับ 

สีผึ้ง พ่อท่านเอ็น วัดเขาราหู


ที่มาของภาพ : http://wat-khaorahu.com/webboard/index.php?topic=53.0

พ่อท่านเป็นผู้ควบคุมการหุงเองทุกขั้นตอนทำตามตำราทุกอย่างครับ พิถีพิถันมากครับ ลองคลิกเข้าไปอ่านบทความของพี่อำพลดูครับว่าสุดยอดขนาดไหน 

ตีปียากอ่ะครับ เพราะหลายตำราไม่เหมือนกันซักที่ ส่วนมากจะตีแบ่งเป็นยุคกันอ่ะครับ ในภาพนี่ยุคกลางได้ครับ ราวๆ 2500 นิดๆได้ครับ ประมาณนี้ครับ 

ดีครับดี พิมพ์ผ่านอยู่ครับ 

อัพโหลดภาพที่ต้องการ ก๊อปเอาไปวางใน ข้อมูลส่วนตัว ( ช่องลายเซ็นต์ ) นะครับ ลองดู 

พระหลวงปู่ทวด ผมไม่ทราบปีสร้างเหมือนกันครับ แต่น่าจะออกใหม่ครับ ไม่ 3 กว่า ก็ 4กว่าหล่ะครับ ประมาณนี้ครับ
ส่วนพระผงสุพรรณ 558 ปี ก็น่าจะ 4 กว่าเช่นกันครับ ประมาณ 44-45 ประมาณนี้ครับ ผมเคยผ่านตาอยู่พักนึง ราคาบูชาแรกเริ่มเดิมทีอยู่ที่ 19 บาทเองครับ พิธีก็ดีครับผม 

ขอให้หลวงปู่หายจากอาการอาพาธไวๆนะครับผม 

ยินดีด้วยครับผม บารมีหลวงปู่คุ้มครองครับ 

น่าจะครับท่านโจร หลวงพี่ติ่งแหงๆเลยครับแบบนี้ อนุโมทนาบุญด้วยครับผม 

คือว่าผมได้มีโอกาศไปกราบหลวงพี่แป๊วมาครับ และหลวงพี่ให้ยันต์นี้มา เพื่อนผมบอกว่าเป็นยันตืแม่ทัพ แต่ผมว่ามันเหมือนกับเจ็ดยอดนะครับ และถ้าหากว่าใช่เจ็ดยอด อยากทราบว่าหลวงพี่เข้าให้เก้ายอดมาแล้ว ทำไมจึงให้เจ๊ดยอดมาอีกครับ
                     
                        รบกวนผู้รู้ตอบด้วยครับ ขอบคุณครับ

ปกติครับผม เป็นพระคนละยันต์กันครับ พระอาจารย์ท่านจะจัดให้ตามความเหมาะสมครับ ถ้าท่านให้ซ้ำกันค่อยว่าไปอีกเรื่องครับ  อ่าครับผม สบายใจได้ครับ 

อ้างจาก: สิบทัศน์ ที่ 01 ธ.ค. 2551, 11:48:59

วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม 2552 นี้ อย่าพลาดชมรายการเดอะโชว์แมจิค ทางช่อง 5 นะครับผม พอดีได้ดูตัวอย่างของสัปดาห์หน้า มีภาพเหตุการณ์จริงของพิธีเผาสังขารของหลวงพ่อสุด วัดกาหลง เจ้าตำรับยันต์เสือเผ่น,ยันต์ตะกร้อ ที่น่าติดตามก็คือ เผาไม่ไหม้  เลยมาบอกพี่น้องชาวบางพระล่วงหน้าไว้ครับ ไว้รอชมกันนะครับ 

มาตอนกี่โมงอะ  บอกหน่อยดิ  ยังไงก็ขอบคุนนะครับที่มาบอกคับ

มาแจ้งเวลาที่แน่นอนครับผม ออกอากาศวันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม 2551 เวลา 22.20 น. ครับผม ทางช่อง 5 ครับ พรุ่งนี้แล้วนะครับ อย่าลืมชมกันนะครับผม 

พระรุ่นนี้พิธีดีมากๆครับ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอมดับเทียนชัยด้วย สุดยอดครับผม 

หลวงพ่อทิพย์เกษร วัดท่าพระ กรุงเทพมหานคร



หลวงพ่อเกษร หรือหลวงพ่อทิพย์เกษร เป็นพระพุทธรูปปลายสมัยอยุธยา ปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบ ประดิษฐานบนฐานสิงห์ 3 ชั้น บัวหงาย 5 ชั้น วัสดุโลหะลงรักปิดทอง ขนาดหน้าตักกว้าง 100 เซนติเมตร สูงจากพระบาทถึงพระเกตุมาลา 156 เซนติเมตร ลงรักปิดทอง

วงพักตร์กลมมน มีเค้าที่เรียกว่า หน้าเจ้าพรหม พระเมาลีเป็นแบบโอคว่ำ พระรัศมีเปลว แบบสุโขทัย มีพระอุณาโลม ที่หน้าพระรัศมี พระขนงโค้งคม พระเนตรแบบเนตรเนื้อ เม็ดพระศกแบบหนามขนุน พระกรรณทั้งสองข้าง ห้อยยาวเกือบจดพระอังสา ลำพระศอกลมมน ปรากฏสร้อยพระศอชัดเจน พระอุระนูนถัน ปรากฏชัด

พระอังสาทั้งสองข้างกว้างสมส่วน พระองสกุล ทั้งสองข้างตั้งตรงไม่ลู่ลง รูปองค์สะสวยโปร่งงาม ซึ่งเป็นพระปฏิมากรศักดิ์สิทธิ์ ศิลปะสมัยอยุธยา ตอนปลายผสมศิลปะตอนต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นมิ่งขวัญ และเป็นที่เคารพ สักการระนับถือยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวท่าพระ ฝั่งธนบุรีและใกล้เคียง

ชาวบ้านทั่วไป เรียกว่า หลวงพ่อเกษร บางกลุ่มเรียกว่า หลวงพ่อทิพย์เกษร

หลวงพ่อเกษรมีความศักดิ์สิทธิ์มาก ได้มีการหล่อเหรียญออกมาเผยแพร่เป็นที่นับถือ มีจารึกอยู่ที่องค์พระซึ่งได้ลอกเนื้อทองที่ปิดองค์พระออก เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พุทธศักราช 2544

พบข้อความว่า "หลวงมหานากวัดปราสาด ศักราชได้ 2269 พระวะ สาปีมะเมีย อัฎ 3 เดือน 4 วัน 5"

จึงสันนิษฐานว่าหลวงพ่อเกษรสร้างขึ้นในสมัยอยุธยา รัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ประดิษฐานอยู่ที่วัดนี้นานแล้ว

มีตำนานเรื่องเล่าถึงประวัติหลวงพ่อเกษร 2 ประการ คือ

1.เล่าสืบกันมาว่า เป็นพระพี่พระน้องกับหลวงพ่อโสธร และหลวงพ่อบ้านแหลม เรียงลำดับดังนี้ 1.หลวงพ่อวัดบ้านแหลม 2.หลวงพ่อเกษร และ 3.หลวงพ่อโสธร เล่าสืบต่อกันว่า เดิมที่บริเวณวัดท่าพระนี้ เป็นเกาะใหญ่ทางด้านทิศตะวันตกและทิศใต้เป็นลำคลองใหญ่มาก ปัจจุบันเรียกคลองวัดท่าพระ หลวงพ่อเกษรได้ลอยน้ำมาขึ้นที่ท่าน้ำ (ปัจจุบันที่บริเวณนี้ถมแล้วอยู่ตรงกุฏิสามัคคี 1)

ชาวบ้านได้ช่วยกันอาราธนาขึ้นจากน้ำแล้วแห่ไปประดิษฐานที่วิหาร เมื่อวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 5 พ.ศ.ใดไม่ปรากฏ ซึ่งถือเป็นประเพณีแห่ผ้าไตรแห่พระมาจนถึงปัจจุบันนี้ แล้วสร้างวิหารถวายไว้เป็นที่ประดิษฐาน

2.เล่ากันมาอีกนัยหนึ่งว่า บริเวณนี้เดิมเป็นเกาะใหญ่ มีน้ำล้อมรอบ เป็นที่พักร้อน พักเหนื่อยของชาวบ้าน ชาวเรือทั้งหลาย ต่อมีชาวพุทธเห็นว่าเป็นที่พักรวมของชาวบ้าน จึงมีศรัทธาเกิดขึ้น จึงได้ชักชวนกันร่วมกันสร้างวัดขึ้นและหล่อรูปหลวงพ่อเกษรขึ้นเป็นพระประธาน ณ สถานที่นี้เพื่อเป็นการสักการบูชา และบำเพ็ญศาสนกิจของชาวพุทธทั้งหลาย ตามคตินิยมของคนในสมัยนั้น "คตินิยมของคนโบราณคือนิยมในการสร้างวัดสร้างพระกันมาก เพราะถือเป็นการบำเพ็ญกุศลอันยิ่งใหญ่ สืบต่ออายุพระพุทธศาสนา ฯลฯ"

ครั้นเมื่อการหล่อรูปตกแต่งขัดเกลาเรียบร้อยแล้ว ได้ช่วยกันจัดสร้างวิหาร (เข้าใจว่าเป็นพระอุโบสถ) ประดิษฐานรูปหลวงพ่อเกษรไว้เป็นที่เคารพสักการะ เป็นมิ่งมงคลในถิ่นนี้มาจนถึงปัจจุบัน

อันประวัติของหลวงพ่อเกษร เท่าที่ทราบมี 2 ประการเท่านั้น ส่วนหลักฐานการสร้างไม่มีปรากฏ แต่หลวงพ่อเกษร เป็นพระพุทธปฏิมากรที่คนแถบถิ่นนี้เคารพนับถือมาช้านาน จนมีงานประเพณีแห่ผ้าไตรถวายทุกปีตรงกับวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 5 ชาวบ้านจะรู้กันแทบทุกคน

สำหรับวัดท่าพระ ตั้งอยู่ซอยจรัญสนิทวงศ์ 4 ริมถนนจรัญสนิทวงศ์ ใกล้สามแยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ

วัดท่าพระ สร้างในยุคใดไม่มีหลักฐานปรากฏแต่เป็นวัดราษฎร์เก่ามากวัดหนึ่ง เดิมชื่อ วัดเกาะ และต่อมาเอกสารทางราชการกรมที่ดิน เรียกว่า วัดเกาะท่าพระ ปัจจุบันชาวบ้าน หน่วยงานราชการ และคณะสงฆ์เรียกว่า "วัดท่าพระ" คำว่า "เกาะ" ได้หายไป

ด้วยความเป็นวัดเก่าวัดหนึ่งนั้น แม้ว่าถาวรวัตถุส่วนใหญ่จะถูกรื้อทำลายหมดสภาพไปแล้วเป็นส่วนใหญ่ก็ตาม แต่ยังเหลือถาวรวัตถุที่สำคัญชิ้นหนึ่ง คือ "วิหารหลวงพ่อเกษรและองค์หลวงพ่อเกษร"

เป็นเครื่องยืนยันถึงความเก่าแก่ของวัดท่าพระ และความเลื่อมใสศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนไปตลอดกาลนาน



ที่มา  -  ข่าวสด

สักน้ำมันลงทับตำแหน่งกันได้ครับผม 

น่าจะเป็นพระปิดตาแน่นอนครับ เหมือนผมเคยเห็นด้วยนะครับ แต่นึกไม่ออกครับ รอผู้รู้อีกทีครับผม 

ตรงกลางเหมือนพิสมรเลยนะครับ ไม่ทราบที่เช่นกันครับ 

ขอบคุณภาพข่าวมากครับผม ไปร่วมบุญกันครับพี่น้อง  

ขอบคุณข้อมูลครับท่านเอ็ม เคยได้อ่านอยู่เหมือนกันครับ มีงานหล่อพระอยู่วัดนึง มีผู้ศรัทธาจะร่วมหล่อพระด้วย เลยนำตะกรุดหลวงพ่อเพิ่ม ไปหย่อนใส่ในเบ้าหลอม ปรากฏว่าตะกรุดไม่ละลายครับ สุดยอดจริงๆ 

สุดยอดครับท่าน shin พระศรีผ้าห่อศพท่าจะแรงน่าดูชมเลยนะครับ ขอบคุณที่แบ่งมาให้ชมกันครับ 

ผมกะว่าต้นปีหน้าจะไปสักที่วัดบางพระอ่ะครับ

ผมคิดว่าจะไปสักกับพระอาจารย์ญา แล้วต่อไปที่พระอาจารย์นัน

แล้วถ้าผมจะไปสักต่อที่กุฎิพระมหาสมชายกับฆารวาสที่กุฏินั้น เค้าจะสักให้ผมหรือปล่าวครับ

เห็นในกระทู้เก่าๆ บอกว่าท่านไม่ยอมสักให้ ยังข้องใจอ่ะครับ

ยังไงๆก้อขอบคุณทุกท่านนะครับ^^

ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะครับ ได้อย่างแน่นอนครับผม 

ไม่น่าจะมีปัญหานะครับ สภาพอาจจะโชกโชนไปหน่อย แต่พระบารมีปกเกล้าชาวไทยอยู่แล้วครับ 

ส่วนตัวไม่เคยพบเห็นเลยครับ รอท่านอื่นมาช่วยๆกันอีกทีครับ 

ไม่ทราบปีที่สร้างเหมือนกันครับ แต่น่าจะประมาณปี 3 กว่าๆได้ครับ 

ครับ ตามนั้นครับท่านก๊อต พระกรุหลวงพ่อเต๋นี่สิครับ 88 องค์ มาร่วมบุญกับหลวงปู่แย้มท่านกันครับ อนุโมทนาสาธุด้วยครับผม 

เดือนธันวา ปี 52 เลยเหรอครับ โหอีกนานเลยนะครับ นั่น   อิอิ

แก้ไข ให้ ครับ ปี 2551 ตรงกับจันทร์ หน้านะครับ  อย่าลืมชม

ป.ล. ขอบคุณ พี่ สิบทัศมากเลย ครับ ไม่ผลาดแน่ ครับ

ขอบคุณท่านเอ็มครับที่ช่วยแก้ข่าวให้  ช่วงนี้ยุ่งๆอยู่กับการจัดของเตรียมตัวรับปีใหม่อยู่ครับ เบลอไปนิดส์ ขอโทษทีครับผม 
เวลาประมาณนั้นครับท่านเทพสายขาว ไว้ชมกันครับ 

วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม 2552 นี้ อย่าพลาดชมรายการเดอะโชว์แมจิค ทางช่อง 5 นะครับผม พอดีได้ดูตัวอย่างของสัปดาห์หน้า มีภาพเหตุการณ์จริงของพิธีเผาสังขารของหลวงพ่อสุด วัดกาหลง เจ้าตำรับยันต์เสือเผ่น,ยันต์ตะกร้อ ที่น่าติดตามก็คือ เผาไม่ไหม้  เลยมาบอกพี่น้องชาวบางพระล่วงหน้าไว้ครับ ไว้รอชมกันนะครับ 

ขอทราบกำหนดการหน่อยนะครับท่าน shin  รายละเอียดวัตถุมงคลด้วยยิ่งดีครับ เผื่อว่างๆอาจจะแวะไปครับ ขอบคุณครับผม 
 
 

วัวธนูวัดไผ่ล้อม ลพ.น้ำฝนสร้าง  บูชาตนละ 400 ทุกเนื้อครับ

มีพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมด้วยครับ   

ลองดูครับ  ผิดถูกขออภัยด้วย

อ่าครับผม วัวธนูมีสัมฤทธิ์ , โลหะชุบเงิน , โลหะชุบทอง , โลหะชุบนาค เจ้าแม่กวนอิมมีขนาบูชากับขนาดห้อยคอ ขนาดบูชาแพ๊งแพง .

ก็น่าจะได้อยู่ครับผม ไม่น่ามีปัญหาอะไรมากครับ ^^ 

มาขอบคุณทุกๆท่านอีกสักครั้งครับผม 20 ปีนี้ มีอะไรๆเข้ามาใหม่ในชีวิตเยอะมากครับ ท่าทางจะไปได้ด้วยดีครับ  ขอบคุณมากครับผม

ครับ เคยได้ยินข้อห้ามว่า ห้ามถ่มน้ำลายลงโถส้วมครับ 

ที่มาของภาพ : http://www.uamulet.com/AuctionUClubDetail.aspx?bid=75&qid=108412

ไปขอยืมเค้ามาลงครับ ด้านหน้าพิมพ์แบบนี้เลยครับท่านหอมเชียง ขอความรู้หน่อยครับผม พอดีช่วงนั้นได้รับจากเฮียปฐมพงศ์มาพอสมควรครับ ขอบคุณมากครับผม 

เอาที่พอหาได้นะครับผม ( สายนครปฐมนะครับ )
1. วัวธนู หลวงพ่อพุฒ วัดกลางบางพระ ท่านสร้างตามตำราของหลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง ต้นตำรับดั้งเดิม
2. วัวธนู หลวงพ่อจืด สำนักสงฆ์โพธิเศรษฐี ของหลวงพ่อจืดก็สร้างตามตำราของหลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทองเช่นกันครับ
3. วัวธนู หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม ของสำนักนี้ก็สุดยอดเช่นกันครับ ประสบการณ์ดีเยี่ยมครับผม แต่ของจะหาได้ยากนิดหน่อยครับ
4. วัวธนู หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม ท่านเป็นหลานแท้ๆของหลวงพ่อแช่มครับ วิชาของหลวงพ่อแช่มจึงตกทอดมาอยู่กับท่านทั้งสิ้นครับ ล่าสุดผมเข้าไปที่วัดดอนยายหอมมา วัวธนูขนาดบูชารุ่นแรกของหลวงพ่ออวยพรนั้นหมดไปแล้วครับ เหลือขนาดห้อยคออยู่ครับ หรือไม่ก็มาตักทรายในโอ่งหน้ากุฏิหลวงพ่ออวยพร ไปไว้โรยรอบบ้านเรือนก็ดีครับ เพราะหลวงพ่ออวยพรท่านลงวัวธนูไว้ เอาไว้เฝ้าบ้านป้องกันอันตรายครับ
5. วัวธนู หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม นามนี้ย่อมเป็นที่ประจักษ์ถึงอานุภาพความศักสิทธิ์อยู่แล้วครับ เพราะท่านเป็ฯศิษย์อาวุโสของหลวงพ่อเงินวัด ดอนยายหอม , หลวงปู่จ้อย วัดบางช้างเหนือ ฯลฯ ประสบการ์ก็มากมายครับผม ปัจจุบันก็หาค่อนข้างยากอยู่ครับ หรือไม่ก็ที่จะออกเร็วๆนี้ก็ได้ครับ หลวงพี่น้ำฝนสร้าง เพิ่งทำพิธีปลุกเสกไปในวันนี้เองครับ ตอนที่ผมนั่งพิมพ์รายละเอียดอยู่นี้พิธีก็คงจะดำเนินอยู่ครับ เกจิคณาจารย์มากันเพียบครับ อาทิ หลวงปู่ทิม วัดพระขาว , หลวงปู่นะ วัดหนองบัว , หลวงปู่อั๊บ วัดท้องไทร , หลวงพ่อสำอางค์ วัดบางพระ , หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม ฯลฯ

งดงามอลังการมากๆครับคุณลุงยันต์กลับ บารมีหลวงปู่ทิมสุดยอดจริงๆครับผม กราบนมัสการหลวงปู่ด้วยครับผม 

หลวงพี่ติ่งก็ดีครับ ความจริงสักได้กับทุกๆพระอาจารย์เลยครับ
แต่เท่าที่ผมสังเกตุหลวงพี่ติ่งท่านจะขอได้ง่ายหน่อยครับ

เห็นด้วยครับผม หลวงพี่ติ่งท่านเมตตามากครับ อยากได้อะไรก็ลองบอกท่านดูครับ สักเฉพาะน้ำมันอีกต่างหาก เข้าไปหาท่านดูครับ ไม่ผิดหวัง 

ขอบคุณมากครับผมพี่สายัน ประสบการณ์ดี น่าไปครับ 

ท่าทางจะมีเค้าครับพี่สายัน ขอบคุณครับผม 

รับทราบครับผม    

ชอบจังครับ มหามานต์ จนไม่เป็น   

ไม่ทราบเหมือนกันครับ อาจจะเป็นอุลกะมณีดำ ไว้ลองเอามาเทียบกันครับ ผมเองมีอยู่ก้อนนึง 

งามทั้งนั้นเลยครับผม 

ของหลวงพ่อไสวหรอครับ โอ้ว สุดยอดจริงๆครับผม อภินิหารมากมายครับ 

งามบาดตาบาดใจ ด้านหลังจารแถมมีเกศาด้วยสุดยอดจริงๆครับผม 

อ่านสนุกมากๆเลยครับผม บารมีหลวงพ่อเงินท่านโดยแท้ครับ ขอบคุณครับผม 

สรุปเป็นของพระเกจิท่านใดหรอครับ ขอเดาเล่นบ้างดีกว่า ^^" ว่า หลวงปู่จ้อย วัดบางช้างเหนือ 

มีรุ่นสมบูรณ์ทรัพย์ด้วยหรอครับ สุดยอดจริงๆครับ ใช้แทนพระเก่าได้สบายๆเลยครับแบบนี้ 

อยู่ที่เจตนาหล่ะครับแบบนี้ ไม่ได้ตั้งใจก็ตามที่บอกๆกันนะครับ ขอขมาลาโทษท่าน ไม่น่าจะมีปัญหาครับผม 

โอ้โห บุญตาอีกแล้วครับ เพิ่งได้เคยเห็นนี่แหละครับ งดงามมากๆครับผม 

ไม่ทราบว่าทันหลวงพ่อหรือเปล่านะครับ แต่อย่างที่ท่านโจรบอกครับ น่าจะเป็นกระดูกช้างครับ 

เร็วจังนะครับเมื่อก่อนยังเห็นโล่งๆอยู่เลย เผลอไปแป๊ปเดียวไปได้ถึงขนาดนี้ สุดยอดครับ 

ไม่ทราบเหมือนกันครับ พอมองดูครั้งแรกคิดไปถึงพระบุเรงนองหลังกบของทางพม่าเลย