ผู้เขียน หัวข้อ: ปาฏิหาริย์แห่ง ยาวิเศษอนันตคุณ พระพุทธวิถีนายก(บุญ ขันธโชติ)วัดกลางบางแก้ว  (อ่าน 3868 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Noname

  • อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
  • ปัญจมะ
  • *****
  • กระทู้: 166
  • เพศ: ชาย
  • อะไรอะไรก็พระไตรลักษณ์
    • ดูรายละเอียด


ปาฏิหาริย์แห่ง ยาวิเศษอนันตคุณ พระพุทธวิถีนายก(บุญ ขันธโชติ)วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
   ยาจินดามณี เป็นยาที่มีคุณวิเศษมีชื่อเสียงโด่งดังของวัดกลางบางแก้ว  มาอย่างยาวนาน  ขณะเดียวกันตำรับยาของวัดกลางบางแก้วก็มีอีก2ขนาน  คือยาวิเศาอนันตคุณ  และรัตนวาโย
   แต่2ขนานหลังนี้ไม่เป็นที่รูจักเท่ายาจินดามณีด้วยไม่ได้ทำขึ้นต่อเนื่องและแพร่หลายอย่างยาจินดามณี
   คุณวิเศษแห่ง  ยาวิเศษอนันตคุณของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว  เป็นเช่นใดในหนังสือ  พิพิธภัณฑ์พระพุทธวิถีนายก  ที่อาจารย์สุธน  ศรีหิรัญ  ได้เรียบเรียงเรื่องราวของหลวงปู่บุญไว้  มีกล่าวถึง
   โปรดอ่าน
   อีกเรื่องหนึ่งในเรื่องการบำบัดรักษาคนป่วยของหลวงปู่บุญที่เล่าสืบต่อกันมาและยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้ใหญ่บางคนในย่านแม่น้ำนครชัยศรี  คือ  เรื่อง  ของแป๊ะซุ้น
   แป๊ะซุ้นเป็นคนจีนคนหนึ่งอายุกว่า50ปี  กับลูกชายของแกวัยหนุ่ม  สองคนพ่อลูกมีอาชีพเป็นช่างไม้พเนจร  รับจ้างทั่วไปเกี่ยวกับงานช่างไม้  ระเหเร่ร่อนมาจากไหนไม่มีใครทราบ  ก็เมื่อแป๊ะซุ้นกับลูกชายของแกมาถึงวัดกลางบางแก้วในลักษณะที่แป๊ะซุ้นเป็นโรคพุพอง  น้ำเหลืองไหลเต็มตัวเป็นปุ่มเป็นปมไปทั่วร่างกาย  คนเรียกว่า  หูหนาตาเล่อ  หรือ  ไทกอ  อะไรเทือกนั้นไปไหนมาไหนมีแต่คนรังเกียจงานรับจ้างงานช่างไม้ของแกก็คงไม่มีใครจ้าง
   เมื่อมาถึงวัดกลางบางแก้ว  ลูกชายก็มานอนพักอยู่ที่ใต้ถุนศาลาการเปรียญ  พาเตี่ยมานอนอยู่ที่นั่น  แล้วตัวเองก็ออกไปรับจ้างทำงานหาเงินมาเลี้ยงเตี่ยหลังจากมาอยู่ได้ไม่กี่วันก็รู้ไปถึงหลวงปู่บุญ
   หลวงปู่บุญก็บอกกับครูหลอมว่าจะทำยา  วิเศษอนันตคุณ  ให้ตาแป๊ะนอนเป็นไทกอใต้ถุนศาลา  จึงพากันไปหาเครื่องยามาจนครบ  หลวงปู่ก็ปรุงยาจนเสร็จสรรพให้คนไปเรียกลูกชายของแป๊ะซุ้นมาพบ  แล้วมอบยาให้กำชับให้เตี่ยกินให้ครบตามที่สั่ง  แล้วบอกลูกชายแป๊ะซุ้นว่าไม่ต้องไปหางานทำท่านจ้างทำกุฏิพระที่วัด  ข้าวปลาอาหารให้มาเอาที่กุฏิท่านไปให้เตี่ยกินและกินอยู่กับท่าน  ทั้งให้พาแป๊ะซุ้นไปพักอยู่ที่ห้องข้างล่างหอฉันที่
ว่างอยู่
   แป๊ะซุ้นกินยาวิเศษอนันตคุณของหลวงปู่อยู่ไม่นาน  อาการก็ขึ้นเป็นลำดับ  จนกระทั่งหายเป็นปกติสามาถทำงานได้  ก็ช่วยลูกชายทำงานสร้างกุฏิพระที่วัดกลสงบางแก้ว  หลวงปู่จ่ายค่าแรงให้ทั้งแป๊ะซุ้นและลูกชายไม่ยอมรับ  บอกว่าบุญคุณของหลวงปู่มีมากกว่าขุนเขาเกินกว่าค่าแรงที่หลวงปู่มอบให้ไม่สามารถรับค่าแรงได้  จะทำกุฏิพระถวายเป็นสิ่งตอบแทน  หลวงปู่ก็ไม่ขัดศรัทธา
   ระหว่างนั้นแป๊ะซุ้นมักจะบอกใครๆอยู่เสมอว่า  ยาวิเศษอนันตคุณ  ของหลวงปู่บุญเป็นยาวิเศษ  แม้แกเป็นไทกอไม่มียาอะไรรักษาหายก็ยังกินแล้วหายได้  คนที่ได้ยินแป๊ะซุ้นเล่าก็นึกว่า  หลวงปู่มียาวิเศษจริงๆใครๆป็นอะไรก็มาหาหลวงปู่และมักจะมาบอกกับหลวงปู่ว่ามาขอ ยาวิเศษอนันตคุณแหลวงปู่ต้องเรียกแป๊ะซุ้นไพบแล้วบอกว่า  บาอั๊วไม่ใช่ยาวิเศษแต่ชื่อว่าวิเศษอนันตคุณ  เป็นชื่อยาไม่ใช่วิเศษ  รักษาอะไรก็หายหมดทุกอย่าง  คนตายแล้วก็ฟื้นได้ไม่ใช่แบบนั้น
   คนที่ได้ยินได้ฟังแป๊ะซุ้นไปแล้ว  ก็ยังเชื่อกันว่าหลวงปู่มียาวิเศษจริงๆกันมาก  จนกระทั่งวันหนึ่งมีคนมาหาหลวงปู่ที่กุฏิปลูกใหม่  ขณะที่ท่านกำลังดูแป๊ะซุ้นและลูกชายสร้างกุฏิอยู่  ก้มลงกราบหลวงปู่กับพื้น  เขาเป็นชายวัยกลางคนมีท่าทางตื่นตระหนก  ละลำละลักกลาวกับกลวงปู่บุญว่า
   หลวงปู่ช่วยผมด้วย  ขอยาวิเศษให้แม่ผมเถอะครับ  แม่ผมเพิ่งสิ้นลมไปเมื่อสักครู่เดี๋ยวนี้เอง
   หลวงปู่ได้ยินดังนั้นก็ตกใจ  หันไปมองแป๊ะซุ้นซึ่งได้ยินเรื่องราวที่ชายคนนั้นพูดกับหลวงปู่โดยตลอด  แป๊ะซุ้นเห็นหลวงปู่หันมามองถึงกับก้มหน้าหลบ  สำนึกได้ว่าเพราะแกเที่ยวไปพูดกับคนว่า  หลวงปู่มียาวิเศษ  คนจึงเข้าใจผิด  ขนาดคนตายแล้วลูกชายยังมาขอรับยาวิเศษจากหลวงปู่  หวังให้แม่ฟื้น
   หลวงปู่ถอนหายใจไม่รู้จะทำประการใดดี  จึงนั่งหลับตานิ่งอยู่พักใหญ่ชายที่มาหาหลวงปู่ก็นั่งกระสับกระส่ายได้แต่ซ้ำซี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกว่า
ขอยาวิเศษให้แม่เถอะ
   ระหว่างที่หลวงปู่นั่งหลับตาอยู่นั้น  ท่านพิจารณาอะไรไม่มีใครทราบได้
แต่พอท่านลืมตาขึ้นมาแล้ว  ท่านบอกกับชายผู้นั้นว่า
ตามฉันมา
   ท่านเดินนำหน้าชายผู้นั้นซึ่งชื่อแฉล้มเป็นลูกชายแม่ชื่น  คนไทยาวาสตำบลใกล้กับวัดกลางบางแก้วนั่นเอง  มิวายแป๊ะซุ้นจะเสียโอกาสจึงเดินตามไปด้วย  หลวงปู่เดินไปที่กุฏิของท่าน  เมื่อขึ้นไปบนกุฏิแล้ว  ท่านก็ให้ชายที่ชื่อแฉล้มนั่งคอย  แล้วหันเหลือบไปเห็นแป๊ะซุ้นตามขึ้นมาด้วย  ท่านก็ไม่ว่ากะไร  เข้าไปในห้องสักครู่  ท่านออกมาพร้อมด้วยยาสีดำอยู่ในฝ่ามือหนึ่งเม็ด  ท่านนั่งภาวนาคาถาอยู่พักใหญ่ก็ส่งยาเม็ดนั้นให้นายแฉล้มแล้วกล่าวว่า
   ยานี้เป็นยาจินดามณี  ไม่ใช่ยาวิเศษอะไรนั่น  ฉันไม่มี  แม่เธอยังไม่ถึงชะตาตาย  เขชาเพียงเป็นลมแน่นิ่งไปตัวยังอุ่นอยู่  เอายานี่ฝนกับน้ำมะนาวให้กินเดี๋ยวก็ฟื้น  ยานี้ไม่ใช่ยาวิเศษนะ
   ชายผู้ชื่อแฉล้มรีบลาจากไปพร้อมยาจินดามณีที่หลวงปู่มอบให้  หลวงปู่รีบเรียกแป๊ะซุ้นซึ่งนั่งอยู่ในที่นั่นด้วยไปบอกว่า
   ยานั่นไม่ใช่ยาวิเศษนะ  ไม่ใช่คนตายกินแล้วฟื้นได้  แป็นยาจินดามณี  แม่ของเขาเป็นลมไป  ถึงไม่กินยาก็ฟื้นเอง  แต่ฉันให้ยาไปเพราะกินแล้วจะฟื้นเร็วขึ้นเท่านั้นเอง  คนเราไม่มียาอะไรกินแล้วฟื้นได้ถ้าถึงเวลาก็ต้องตาย  แป๊ะซุ้นเองถ้ากรรมยังไม่หมด  ถึงกินยาวิเศษอนันตคุณของฉันไปแล้วก็ไม่หาย  นี่แป๊ะซุ้นมาอยู่วัดกับลูกชาย  ช่วยทำบุญสร้างกุฏิ  บุญกุศลช่วยให้แป๊ะซุ้นหายเร็วขึ้น  ถ้าแป๊ะซุ้นอยากสบายก็ทำบุญมากมาก  ทำบาปน้อยน้อย  ก็จะมีแต่กรรมดี  ชีวิตก็จะดี
   แป๊ะซุ้นได้ฟังหลวงปู่กล่าว  ได้แต่กาบปลกๆแล้วลาจากไปสร้างกุฏิกับลูกชายของแกต่อไป
   หลังจากนั้นอีกไม่กี่วัน  นายแฉล้มได้พาแม่ชื่นของเขาซึ่งฟื้นคืนสติดีแล้วมาถวายสังฆทานกับหลวงปู่ที่วัดกลางบางแก้ว  และได้พบกับแป๊ะซุ้น  แป๊ะซุ้นได้กล่าวกับนายแฉล้มว่า
   หลวงปู่ไม่ได้ให้ยาวิเศษลื้อไปหรอกนะ  ท่านว่าชื่อยาจินดามณี  กินแก้ลม  แม่ลื้อเป็นลม  แต่อั๊วว่า  หลวงปู่เป็นผู้วิเศษ  เพราะท่านรู้ว่าแม่ลื้อจะตายหรือไม่ตาย  ถ้าท่านไม่ใช่ผู้วิเศษ  ท่านไม่รู้หรอกว่า  แม่ลื้อจะฟื้นเอง  ลื้อเชื่ออั๊วมั้ย
   หลวงปู่บุญเป็นผู้วิเศษ  ในใจของแป๊ะซุ้นอยู่นานเท่านาน  ตลอดชีวิตของแป๊ะซุ้นก็ว่าได้  เพาะแกอยู่รับใช้หลวงปู่ที่วัดกลางบางแก้วตลอดมา  งานสร้างไม้ฉลุตามกุฏิต่างๆในวัดกลางบางแก้ว  บางชิ้นเป็นฝีมือของแป๊ะซุ้นกับลูกชายของแก  ยังปรากฎอยู่ทุกวันนี้
      
การเกิดนั่นแหล่ะเป็นทุกข์อย่างยิ่ง
การบริหารขันธ์นั่นแหล่ะทุกข์
พระนิพพานนั่นแหล่ะคือทางดับทุกข์

ออฟไลน์ ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์)

  • *โปรดระวัง - สีลัพพตปรามาส, ๗ เดือน ๑๙ วันจะเก็บแต่ความทรงจำที่ดีๆไว้, ตถตา (เช่นนั้นเอง).
  • ...
  • *****
  • กระทู้: 6436
  • เพศ: ชาย
  • ผู้สอนคือผู้ลวง? ผู้เรียนคือผู้หัดที่จะลวง?
    • ดูรายละเอียด
    • เฟสบุ๊ควัดบางพระ (หลวงพ่อเปิ่น)
อ่านเพลินเลยครับ ขอบคุณครับผม สายวัดกลางบางแก้วแต่ละรูปไม่ธรรมดาจริงๆครับ  :054:

ออฟไลน์ tum72

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 2246
  • ณ ตลาดพลู
    • ดูรายละเอียด
ขอบคุณท่านที่นำเรื่องราวดีมาเผยแพร่สู่กันครับ
โอม ราศีกูเอ๋ย  จงมาเป็นอาสน์  สีธาวาส  มาเป็นเกียรติ  ศรีชายมาเป็นช่วง
หญิงชายทั้งปวง รักกูมิรู้วาย  ด้วยราศีกูงามคือฟ้า  หน้ากูงามคือพรหม
หญิงเห็นหญิงรัก  ชายเห็นชายทัก  กูอยู่ทุกเมื่อ  ไม่เบื่อแต่สักวัน
โอม หญิงชายทั้งหลายเอ๋ย  มา