ปาฏิหาริย์ท่านเจ้านรฯ (ธัมมะวิตักโกภิขุ)ที่คุณหญิงสุรีพันธุ์ มณีวัต ได้พบ

[อชิตะ]

ตอนนั้น ท่านเจ้าคุณนรฯ มรณภาพแล้ว ก็ยังไม่ค่อยรู้จักท่าน ทั้ง ๆ ที่ญาติพี่น้องก็รู้จักท่านกันอย่างดิบดี

เพราะญาติผู้ใหญ่ของดิฉันท่านหนึ่งที่ดิฉันเรียกท่านว่า“หลวงอา”

ท่านบวชอยู่ที่วัดเทพศิรินทร์ฯ ท่านเป็นนักเรียนนอกมาก่อน เป็นนักเรียนอังกฤษ แล้วท่านก็มาบวช

ท่านมีความเคารพท่านเจ้าคุณนรฯ มาก ก็บอกให้หลาน ๆ ทุกคนไปกราบ พี่น้องเขาก็ไปกราบหมด

มีดิฉันคนเดียวที่ไม่ยอมไปกราบท่าน เมื่อไหร่ไปกราบก็ได้

จนกระทั่งท่านมรณภาพไป คนเขาก็ตื่นเต้นฮือฮาท่าน ก็มีเหรียญมีอะไรของท่านที่เขานับถือ

อยู่มาวันหนึ่ง ก็ไปอ่านประวัติท่าน ตอนนั้นอยู่สภานิติบัญญัติค่ะ เสร็จจากงาน หลังจากที่ทำงานมาอย่างหนักแล้ว ดิฉันเป็นกรรมาธิการพิจารณางบประมาณด้วย อยู่ดึก ๆ ดื่น ๆ กันตลอด แล้วก็ต้องอ่านงานมาก

เช้าวันนั้น จำได้ว่าเป็นวันอาทิตย์ ขอตื่นสายสักวันเถอะ แต่ตอนนั้นตื่นแล้ว ยังไม่อยากลุกขึ้น ก็คว้าหนังสือจากหัวเตียงมา จะเป็นหนังสืออะไรได้ขออ่านก่อน

กลายเป็นหนังสือเจ้าคุณนรฯ ซึ่งไม่เคยได้อ่านเลยวันนั้นก็อ่านไปพลิกอ่านอยู่ตอนหนึ่งว่า ท่านนั่งภาวนาตั้งแต่๖ โมงเย็นถึง ๖ โมงเช้าโดยไม่หลับ

ดิฉันก็นึกว่า เอ๊ะ ! นั่งได้อย่างไรคนเรา ? เพราะตอนนั้นไม่รู้ว่ามีพระอย่างนี้ทำได้

พระองค์นี้ท่านต้องมีศีลบริสุทธิ์ซี ! ตอนนั้นเราไม่ค่อยศรัทธานะ เพราะเคยเห็นพระพูดเล่น บางทีล้อสีกา หรือบางครั้งเคยเห็นพระหัดเต้นรำ


แต่เมื่อมาอ่านประวัติเจ้าคุณนรฯ ก็นึกว่าพระท่านอย่างนี้มีนะ !...

ท่านมีศีลบริสุทธิ์น่าเคารพนะ แหม ! ทำอย่างไรเราจะได้พระของท่านสักองค์

แต่นึกในใจว่าป่านนี้คงไม่ได้แล้ว คงหมดแล้ว ใคร ๆ คงแย่งกันตาย เพราะตอนที่เราคิดนี่มันปี ๑๗ แล้วนะคะ.

เสร็จแล้วก็นึกตัดใจว่าไม่เอาแล้ว เลิกกัน

ไปล้างหน้า พอล้างหน้าออกมา แต่งตัวหน้ากระจก มองเห็นโถแก้วที่ใส่สำลีสำหรับเช็ดเครื่องสำอาง จะหยิบขึ้นมาเช็ดมองเห็น

เอ๊ะ ! ในนั้นมีอะไร ?

มีพระอยู่ตั้งหลายองค์ แต่ที่ประหลาดอยู่ที่องค์หนึ่ง ที่แปลกใจเพราะเป็นเหรียญ ก็หยิบขึ้นมาดู มองดูหน้าไปมา

อ๊ะ ! นี่เหมือนกับที่เรานึกเมื่อกี้นี้นี่ ดูลักษณะหน้าตาเหมือนหมด ! เขียนว่า พ.ฆ.อ.

ดิฉันก็วิ่งไปถามลูกว่า ใครเอาอะไรมาไว้ที่นี่ ดิฉันหลุดมาคำว่า เอ! ทำไมเหมือนในหนังสือนี่ เหมือนอย่างที่ท่านเจ้าคุณนรฯ ท่านเสก ที่เราอยากได้สักองค์แต่นึกว่าคงไม่ได้

เอ๊ะ ! นี่เหมือนที่แม่นึกอยากจะได้นี่ แต่ตัดไปแล้ว เราไม่เอาแล้ว พระอื่นก็มี มีพระสมเด็จ พระอะไร ๆ มาหลายองค์เลย

ตอนนั้นไม่รู้ว่าเป็นของแปลก นึกว่าเรามีกันอยู่เสมอ ถ้าใครอยากได้ ก็คงจะตกลงมาให้อย่างนั้น

แต่ตอนนั้นยังสงสัยว่าปลอมหรือเปล่า ยังสงสัย ก็วิ่งไปทาบรุ่นกับเขา จนต้องไปกราบหลวงอาให้ท่านดู ท่านก็บอกว่าใช่

แล้วหลวงอาบอกว่า ที่ท่านเสกอย่างนี้มีพระกริ่งอีกนะ เราก็บ่นว่า แล้วทำไมเราไม่ได้พระกริ่งอีกล่ะ แล้วพระกริ่งก็มาอีก !

ขอบคุณที่มาครับ http://www.dharma-gateway.com/misc/pra-tart/sureepun-02-01.htm

[บูรพาไร้พ่าย]

พี่อชิ เก่งจางครับ   

[อชิตะ]

ท่านเจ้าคุณนรฯ หรือ ท่านธมฺมวิตกฺโกภิกขุ เป็นพระสุปฎิปันโน ที่ได้รับการยกย่องว่าถึงขั้น อริยสงฆ์  ประวัติของท่านน่าสนใจมากครับ

สมัยเป็นเรียนหนังสือจบชั้นประถมที่วัดโสมนัส เข้าเรียนต่อต่อชั้นมัธยมที่โรงเรียนวัดเบญจมบพิตร

เมื่อตอนจะจบชั้นมัธยม ท่านสอบได้ที่ ๑ ของสนามสอบ ก็ประมาณว่า สอบได้ที่ ๑ ของประเทศ

ในระดับอุดมศึกษา ท่านเป็นบัณฑิตรุ่นแรกของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ในอาชีพการงาน กล่าวได้ว่า ท่านเป็นข้าราชการที่มีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานอย่างมาก

เริ่มต้นชีวิตราชการ

เมื่อ พ.ศ.๒๔๕๗ โปรดเกล้าฯ ให้รับราชการในกรมมหาดเล็ก แผนกตั้งเครื่อง ยศ มหาดเล็กวิเศษ ในขณะนั้นท่านอายุ ๑๗ ปี

อายุ ๒๕ คือ เมื่อ ๑ ธันวาคม ๒๔๖ ได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ เป็นเจ้ากรมห้องที่พระบรรทม

ในปีเดียวกัน ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ เป็น พระยานรรัตนราชมานิต

อายุ ๒๗ ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็น องคมนตรีใน ร.๖

ชีิวตราชการประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วครับ

พระเครื่องของท่านจึงมีประสบการณ์เรื่องเมตตา เจ้านายรัก และเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน อย่างชัดเจนมากๆ ครับ

[ขุนส่อง]

สิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอครับ

         

[อชิตะ]

ในตลอดชีวิตการรับราชการในราชสำนัก จากคำบันทึกของน้องชายท่าน (ตริ จินตยานนท์ )ได้บอกเล่าไว้ว่า

"ตั้งแต่เริ่มรับราชการจนกระทั่งล้นเกล้า ฯ สวรรคต ไม่เคยถูกกริ้วเลย ทั้งที่ล้นเกล้า ฯ กริ้วผู้อื่นบ่อยที่สุด"


ในด้านความรัก ท่านเจ้าคุณนรฯมีคนรักในสมัยที่ยังรับราชการอยู่ คือ คุณครูชุบ เมนะเศวต ขนาดหมั้นกันแล้ว

แต่เมื่อ บวชอุทิศเป็นพระราชกุศลให้ ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖  และต่อจากนั้นตัดสินใจจะไม่ลาสิกขา

ท่านก็ได้บอกกับคุณครูชุบ เมนะเศวต ซึ่งเป็นคู่หมั้นว่า ท่านคงไม่ลาสิกขาแล้ว อนุญาตให้มีความรักกับคนอื่นได้  ที่รักกันจริง

แต่คุณครูชุบ เมนะเศวต ก็ไม่ได้มีคนรักใหม่และไม่ได้แต่งงาน ครองชีวิตโสดจนถึงแก่กรรม

เป็นหญิงที่เด็ดเดี่ยวและมั่นคงต่อความรักที่มีให้อดีตชายที่รักอย่างแท้จริง

[nutagul]

ท่านเจ้าคุณนรฯหรือ พระอรหันต์กลางกรุง เป็นพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ผมคนหนึ่งครับที่ให้ความเคารพเลื่อมใสในตัวองค์ท่านครับ

[TTTUTTT]

เป็นพระที่ผมกราบได้สนิทใจอีกองค์หนึ่งครับ...{^_^}...

[tum72]

ขอบคุณพี่อชิตะมากๆครับ มีเรื่องราวดีๆมาเล่าสู่กันฟังเสมอๆเลย

[ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์)]

นมัสการเจ้าคุณนรครับผม วัตรปฏิบัติท่านน่าศรัทธามากครับ แค่รูปท่านก็ศักดิสิทธิ์แล้วครับ แคล้วคลาดมาหลายราย 

[~เสน่ห์ต้นน้ำ~]

ขอบคุนคับ

[۞เณรน้อยเส้าหลิน۞]

ถ้าใครอ่านประวัติท่านจะทราบว่าช่วงสุดท้ายของชีวิตท่านเป็นฝีก้อนใหญ่มากที่คอ  พอฝีแตกมีน้ำหนอง เลือดออกมา  แต่ท่านก็ไม่แสดงอาการให้เห็นทุกเวทนาออกมาแต่อย่างใด    แสดงว่าท่านแยกกายกับจิตออกจากกันได้แล้ว  น่านับถือยิ่งนักครับ

[chinjung]

ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆที่พี่ๆให้มาครับ

[prathomsak]

เป็นอีกหนึ่งกระทู้ที่ดีมากๆครับ ขอบคุณครับ

[ชลาพุชะ]

ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ

[JoeBS]

ดีจังเลยครับ อยากได้พระอะไรก็มาหาเอง สุดยอดจริงๆ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลเจ้าคุณนรครัรบ สาระดีๆทั้งนั้นครับพี่อชิ