ไปเจอคำถามนี้ตอนสอบเข้าปริญญาโท
"อริยสัจ ๔ สามารถนำมาใช้แก้ปัญหาชีวิตในสังคมปัจจุบันได้อย่างไร?"
ก็ต้องขยายความกันก่อนในเบื้องต้นว่า อริยสัจ ๔ คืออะไร? ประกอบด้วยอะไรบ้าง? และสามารถนำไปใช้เพื่อประโยชน์อะไร,ได้อย่างไร?
อริยสัจ ๔ คือ ความจริงอันประเสริฐ ๔ ประการ ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงค้นพบ เป็นสัจธรรมความจริงอันประเสริฐ ประกอบด้วย
๑.ทุกข์ คือ ความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ เป็นสภาพที่ทนได้ยาก จึงเรียกว่า"ทุกข์"
๒.สมุทัย คือ เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์
สาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ก็คือ ตัณหาหรือความทะยานอยาก มี ๓ ประเภทคือ กามตัณหา(ความอยากในอารมณ์ที่น่าใคร่)๑ ภวตัณหา(ความอยากเป็นโน่นเป็นนี่)๑ วิภวตัณหา(ความไม่อยากมีไม่อยากเป็นโน่นนี่)๑ ตัณหาทั้ง ๓ กองนี้เอง ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์
๓.นิโรธ คือ ความดับทุกข์ หมายถึงความดับตัณหาได้อย่างสิ้นเชิง จนทำให้ทุกข์ดับหมดไป จึงได้ชื่อว่า"นิโรธ"
๔.มรรค คือ ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์
โดยการใช้ปัญญาอันเห็นชอบพิจารณาว่าสิ่งนี้เป็นทุกข์ สิ่งนี้เป็นเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ สิ่งนี้คือความดับทุกข์ นี้ชื่อว่า"มรรค" มี ๘ ประการคือ
สัมมาทิฏฐิ(เห็นชอบ),สัมมาสังกัปปะ(ดำริชอบ),สัมมาวาจา(เจรจาชอบ),สัมมากัมมันตะ(การงานชอบ),สัมมาอาชีวะ(เลี้ยงชีพชอบ),สัมมาวายามะ(เพียรชอบ),สัมมาสติ(ระลึกชอบ),สัมมาสมาธิ(ตั้งใจมั่นชอบ)
ซึ่งธรรมทั้ง ๘ ประการนี้ เป็นสามัคคีธรรมที่ต่างสนับสนุนซึ่งกันและกันทำให้มีกำลังมาก และสามารถยังใหผู้ปฏิบัติบรรลุผลอันเลิศ คือ อริยมรรค อริยพล และพระนิพพานในที่สุด ตามสมควรแก่การปฏิบัติ
เมื่อเข้าใจความหมายและหัวข้อธรรมต่างๆที่ประกอบรวมอยู่ในอริยสัจ ๔ ดังนี้แล้ว จึงมาสู่การวิเคราะห์เพื่อตอบคำถามในข้างต้นต่อไป
ํํํํํํํํํํํํัํํํํ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
คำตอบ - อริยสัจ ๔ ไม่สามารถนำไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้!!!
เหตุเพราะ อริยสัจ ๔ เป็นธรรมในโลกุตระ เป็นธรรมชั้นสูง เป้าประสงค์เพื่อให้หลุดพ้นจากวัฏฏะ สำเร็จเป็นพระอริยบุคคลตั้งแต่ โสดาบัน,สกิทาคามี,อนาคามี,อรหันต์ จึงไม่สามารถนำมาใช้กับทาง"โลกียะ"ได้ เหตุผลที่นำมาสนับสนุนได้เป็นอย่างดีมีมาในธรรมข้อ "โพธิปักขิยธรรม ๓๗" หมายถึงธรรมอันเป็นฝักฝ่ายแห่งการตรัสรู้ เรียกอีกอย่างว่า "อภิญญาเทสิตธรรม" หมายถึง ธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ด้วยพระปัญญาอันยิ่ง เพื่อให้บุคคลรู้แจ้งเห็นจริงใน"อริยสัจ" ประกอบด้วย
สติปัฏฐาน ๔,สัมมัปปธาน ๔,อิทธิบาท ๔,อินทรีย์ ๕,พละ ๕,โพชฌงค์ ๗,มรรคมีองค์ ๘ รวม ๓๗ ข้อ
จึงเป็นที่มาของข้อสรุปที่ว่า "อริยสัจ ๔ ไม่สามารถนำมาใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้ในที่สุด"
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
ย้อนกลับมาพิจารณา จะเปลี่ยนจากมิจฉาทิฏฐิมาเป็นสัมมาทิฏฐิ เปลี่ยนกันได้ยาก
ยิ่งนำศีลมาปฏิบัติเพื่อให้เกิดความขลังในเรื่องข้อปฏิบัติต่างๆ ,เพื่อนำความบริสุทธิ์ไปข่มผู้อื่น ,ประพฤติพรตเพื่อให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ไม่เสื่อม
ก็เท่ากับว่า รักษาศีลไปเพื่อเพิ่มพูนกิเลส ทำให้มีกิเลสเกิดมีมากขึ้น
กิเลสกองนี้ เป็นกิเลสเครื่องผูกมัดสัตว์ไว้ให้ติดอยู่ในภพเป็นกิเลสที่นอนเนื่องอยู่ในสันดาน
ที่เรียกว่า"สังโยชน์" จัดเข้าในข้อ "สีลลัพพตปรามาส" นั่นเอง
ทั้งที่จุดประสงค์ที่แท้จริงของศีลนั้น มีไว้เพื่อละเพื่อขัดเกลากิเลสให้เบาบางลง มิใช่นำศีลมาปฏิบัติเพื่อให้เกิดความขลังความศักดิ์สิทธิ์อย่างที่ปฏิบัติกันอยู่แต่อย่างใด.
ไม่ผิดศีล...แต่ผิดธรรม
"ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ" แปลว่า "ธรรมแลย่อมรักษาผู้ที่ประพฤติธรรม"
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
น้อมระลึกบูชาคุณอดีตพระอาจารย์ผู้สอนธรรมวิภาคและคิหิปฏิบัติทุกท่าน ด้วยควมเคารพยิ่ง