กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => กฎแห่งกรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: ทรงกลด ที่ 11 พ.ค. 2554, 10:47:22

หัวข้อ: กรรม.......จากการฆ่าสัตว์
เริ่มหัวข้อโดย: ทรงกลด ที่ 11 พ.ค. 2554, 10:47:22
หมูป่าอาฆาต
    
หมูป่าอาฆาตฆ่าพรานพรุนทั้งตัว

พรานเฒ่าเสียท่าหมูป่า เจอเขี้ยวแทงเป็นแผลฉกรรจ์ทั้งตัว


ชาวบ้านรีบหามส่งร.พ.แต่ไปตายระหว่างทาง ชาวบ้านวิพากษ์วิจารณ์แซด พรานเฒ่าถูกพ่อหมูป่าตามมาอาฆาต

เพราะไม่น่าเป็นไปได้ที่จู่ๆ หมูป่าจะเข้ามาหมู่บ้านที่อยู่ห่างกันถึง 10 ก.ม. ระบุหลายวันก่อนพรานเฒ่าเข้าไปล่าหมูแม่ลูกอ่อนเอาเนื้อมาขาย

แล้วเอาลูกหมูป่าเข้ามาเลี้ยงไว้ในสวน

พอลูกหมูโตขึ้นก็จับฆ่าชำแหละแต่ยังเหลืออยู่ 1 ตัว วันเกิดเหตุพ่อหมูมาส่งเสียงเรียกลูก พรานเฒ่าได้ยินรีบคว้าปืนลั่นไก

แต่กระสุนด้าน เลยถูกพ่อหมูป่ากระโจนใช้เขี้ยวแทงจนตายสยอง

เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ร.ต.อ.รณชัย ธนวัฒน์ดำรง พงส.(สบ.1) สภอ.จุน จ.พะเยา รับแจ้งจากร.พ.จุน ว่า เมื่อคืนวันที่ 4 เม.ย.
มีชาวบ้านถูกหมูป่าทำร้ายมาเสียชีวิตที่ ร.พ.

รุดไปตรวจสอบทราบชื่อผู้ตายคือ นายหวัน สีสัน อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 268 ม.4 ต.ห้วยข้าวก่ำ อ.จุน

พรานล่าสัตว์ชื่อดังของห้วยข้าวก่ำ สภาพศพถูกเขี้ยวหมูป่าแทงเป็นแผลฉกรรจ์หลายแห่ง

จากการสอบสวนชาวบ้านที่ช่วยกันนำนายหวันส่งร.พ.


ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเย็นวันที่ 4 เม.ย. มีหมูป่าตัวผู้เข้ามาในสวนลำไย ลิ้นจี่ นายหวันจึงวิ่งไปเอาปืนแก๊ปมาไล่ยิงในระยะประชิด

แต่กระสุนยิงไม่ออก จึงถูกหมูป่ากระโจนใส่อย่างแรงจนเสียหลักล้มลงและเกิดต่อสู้กัน ก่อนนายพรานเฒ่าจะเสียท่าถูกหมูป่าใช้เขี้ยวยาวแทงเข้าหน้าอกทะลุปอด
ขาทั้งสองข้าง และสะโพกทั้งสองข้างเป็นแผลฉกรรจ์เลือดเต็มนองพื้น


ชาวบ้านต้องช่วยกันยิงหมูป่าจนตาย แล้วรีบนำนายหวันส่งร.พ.จุน แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตระหว่างทาง

โดยแพทย์ระบุว่าเสียชีวิตเนื่องจากเสียเลือดมากและมีเลือดคั่งในปอด

จากนั้นผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านผู้ตาย พบว่าชาวบ้านต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง

ระหว่างช่วยกันจัดงานศพให้นายหวันว่า


ไม่น่าเชื่อว่าหมูป่าจากป่าห้วยข้าวก่ำจะเข้ามาถึงหมู่บ้านเนื่องจากอยู่ห่างกันถึง 10 ก.ม.

สาเหตุน่าจะมาจากพ่อหมูป่าตามมาเล่นงานนายหวัน เพราะเมื่อเร็วๆ นี้พรานเฒ่าเพิ่งเข้าป่าไปฆ่าหมูป่าแม่ลูกอ่อนและเอาทั้งแม่ทั้งลูกมาชำแหละขาย

ชาวบ้านรายหนึ่งเล่าว่า เมื่อประมาณ 10 วันที่ผ่านมา

นายหวันพรานเฒ่าเข้าป่าห้วยหลวง-ห้วยข้าวก่ำ และล่าหมูป่าแม่ลูกอ่อนมาได้ตัวหนึ่งนำเนื้อชำแหละขายให้ชาวบ้าน

พร้อมกันนั้นยังนำลูกหมูป่า 4 ตัวมาเลี้ยงไว้ ก่อนชำแหละขายเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ยังเหลืออยู่ 1 ตัว

จนกระทั่งวันเกิดเหตุคาดว่าพ่อหมูป่า

ลัดเลาะมาตามลำห้วยจนถึงหมู่บ้าน และตามกลิ่นลูกมาถึงสวนข้างบ้านนายหวัน จากนั้นส่งเสียงเรียกหาลูกที่นายหวันเลี้ยงไว้ในสวน

ซึ่งลูกหมูก็ส่งเสียงร้องตอบ เมื่อนายหวันเห็นจึงคว้าปืนวิ่งลงจากบ้านเล็งยิงใส่พ่อหมู 1 นัดแต่กระสุนด้านเลยถูกพ่อหมูป่ากระโจนใช้เขี้ยวแทงใส่จนตายสยองดังกล่าว


ขอบคุณที่มา
http://happy.teenee.com/xfile/kod/1240.html (http://happy.teenee.com/xfile/kod/1240.html)
หัวข้อ: ตอบ: กรรม.......จากการฆ่าสัตว์
เริ่มหัวข้อโดย: ทรงกลด ที่ 11 พ.ค. 2554, 10:51:38
กรรมของเพชฌฆาตโรงฆ่าสัตว์

"เพชรฆาต"

ชีวิตของคนเรานั้น เกิดมาเพื่อรอวาระสุดท้ายหรือวันตายนั่นเอง เพียงแต่ไม่มีใครหยั่งรู้วันตายของตัวเองได้ว่าจะจบสิ้นเมื่อใด

คนเราล้วนหลายอาชีพ บางคนก็สามารถเลือกทำงานได้ แต่บางคนก็ไม่สามารถเลือกทำงานได้ ความจำเป็นในการดำรงชีวิตนั้นบีบบังคับให้ต้องทำในสิ่งที่ตัวเองไม่อยากทำ แต่ไม่มีทางเลือกจึงต้องทำด้วยภาวะจำยอมเพื่อปากท้องของตัวเองและครอบครัว

นายเบิ้มเป็นคนรูปร่างใหญ่ แต่การศึกษาไม่ค่อยสูงนัก เคยเข้าไปทำงานในกรุงเทพฯมาแล้วแต่ไปไม่ไหว จึงมาประกอบอาชีพเก่าคือ เป็นมือเพชฌฆาตฆ่าหมูเถื่อนเพื่อป้อนให้กับเขียงหมูในตลาด กระทั่งวันหนึ่ง ข้างบ้านจัดงานแต่งงาน ทางเจ้าภาพจะล้มหมูล้มวัว จึงได้ไปบอกกล่าวกับนายเบิ้มเป็นเพชฌฆาตให้ นายเบิ้มไม่ปฏิเสธเพราะเขากับเจ้าภาพคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี และที่รับงานนี้ก็ไม่หวังตอบแทนอะไร ปกติแล้วนายเบิ้มจะไปโรงฆ่าสัตว์ตอนตีสอง

"เกือบชั่วโมง กับ หมูเจ็ดชีวิต"

เพียงแค่ชั่วโมงเดียวก็เสร็จแล้ว จากนั้นก็ช่วยลูกมือชำแหละแยกชิ้นส่วนอวัยวะต่างๆ และจะกลับบ้านไม่เกินหกโมงเช้า พร้อมกับเนื้อหมูไปให้ลูกเมียประกอบอาหาร เพื่อนบ้านเขาจะล้มวัวล้มหมูประมาณตีสามตีสี่เพื่อจะให้ทันปรุงอาหารเลี้ยงแขกที่จะมาร่วมงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบสิบกว่าปีก็ว่าได้ เพราะเจ้าสาวเป็นลูกกำนัน ส่วนเจ้าบ่าวเป็นนักการเมืองที่มีชื่อเสียงระดับจังหวัด และพ่อของเจ้าบ่าวก็เป็นนักการเมืองระดับประเทศเป็นส.ส.ติดต่อกันมาแล้วหลายสมัย

การล้มหมูล้มวัวก็เพื่อเลี้ยงคนที่มาร่วมงานในตอนเช้าเท่านั้น เพราะในช่วงเย็นจะมีการจัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีนที่หอประชุมในตัวจังหวัด โดยมีบุคคลสำคัญๆมาร่วมงานมากมาย จะว่าเป็นงานแต่งครั้งประวัติศาสตร์ของจังหวัดก็คงไม่ผิดนัก แล้ววันสำคัญก็มาถึง นายเบิ้มออกจากบ้านตีหนึ่งกว่า ซึ่งเร็วกว่าปกติเกือบชั่วโมง ตอนนั้นทางโรงฆ่าสัตว์เปิดแล้ว นายเบิ้มก็ลงมือเชือดหมูเคราะห์ร้ายตัวแรกทันที จากนั้นหันไปจัดการตัวอื่นๆ รวมทั้งสิ้นเจ็ดตัว โดยใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง เพราะไม่มีลูกมือช่วยจับโน่นจับนี่ใส่มือให้เหมือนทุกวัน

"กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด"

ระหว่างนั้นลูกมือที่มีเกือบสิบคนก็เริ่มทยอยมากันบ้างแล้ว และคนของกำนันก็มารอรับที่โรงฆ่าหมูรออยู่แล้วด้วย นายเบิ้มสั่งงานลูกมือเสร็จก็ขึ้นรถจักรยานยนต์ไปที่บ้านกำนันแม้นทันที ที่นั่นจะครึกครื้นพอสมควรเพราะมีวงเหล้า รวมทั้งเครื่องเสียงที่เปิดเพลงมาตลอดคืน ลูกมือที่กำนันแม้นจัดหาให้ก็นั่งดื่มเหล้ารอมาทั้งคืน นายเบิ้มเริ่มลงมือเชือดหมูเป็นตัวแรกก่อนจะลงมือเชือดวัวสลับกันไป จากนั้นก็บอกลูกมือที่พอจะเป็นอยู่บ้าง ชำแหละแยกชิ้นส่วนอวัยวะต่างๆโดยแบ่งหน้าที่กันไป ส่วนตัวเองนั่งพักดื่มเหล้าไปพลางๆ

เพราะยังมีหมูกับวัวอย่างละตัวให้เชือดอีก นายเบิ้มดื่มเหล้าได้สองสามแก้วก็ลงมือต่อโดยเริ่มฆ่าหมูเช่นเคยเพราะตัวเองถนัด หมูตัวที่สองใช้เวลานานพอสมควร เพราะมันทั้งดิ้นทั้งวิ่งเหมือนจะรู้ตัวว่าถึงวาระสุดท้ายของมันแล้ว กว่าจะจับได้ก็เสียเวลาไปเยอะ แถมยังใช้คนจับมากขึ้นกว่าจะเชือดได้ จนนายเบิ้มเองยังส่ายหน้า เพราะตั้งแต่เป็นมือเพชฌฆาตมาไม่เคยใช้เวลานานถึงนี้เลย หมูเคราะห์ร้ายตัวนั้นกรีดเสียงด้วยความเจ็บปวดอย่างโหยหวน จนบางครั้งถึงกับขนลุก และเสียงร้องของหมูตัวนั้นเองที่ปลุกชาวบ้านให้ลุกก่อนที่ขบวนขันหมากของฝ่ายเจ้าบ่าวจะมาถึงในเวลาเจ็ดโมงเช้า

"สะดุดม้านั่งตัวเล็ก มีดได้เสียบทะลุคอ"

นายเบิ้มผละจากหมูแล้วเดินไปหาเจ้าวัวหนุ่มเหยื่อสังเวยงานแต่งตัวต่อไปอย่างใจเย็นพร้อมกับมีดแหลมคมกริบอาวุธคู่มือ แต่ด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบได้ เมื่อนายเบิ้มเดินไปสะดุดเอาม้านั่งตัวเล็กๆ ที่ใช้นั่งชำแหละเนื้อจนตัวเองเสียหลักล้ม ตัวนายเบิ้มเองถลาเป็นนกปีกหักก่อนที่จะล้มคว่ำลงกับพื้นอย่างไม่เป็นท่า และจังหวะนั้นเองที่ปลายมีดได้เสียบทะลุเข้าที่คออย่างจัง “โอ๊ยยยย…” นายเบิ้มร้องเสียงลั่นด้วยความเจ็บปวด มือกำมีดแน่น เพื่อนบ้านที่เป็นลูกมือกว่าสิบคนก็รีบกรูกันเข้าไปหา พอเห็นมีดปักคอของนายเบิ้มเช่นนั้น จึงร้องเอะอะโวยวายจนแตกตื่นไปทั้งคุ้ม
นายเบิ้มถูกหามขึ้นท้ายรถกระบะทั้งที่ยังมีมีดปักคออยู่

ระหว่างที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลนั้น นายเบิ้มทั้งดิ้นทั้งร้องด้วยความเจ็บปวดไปตลอดทาง บางครั้งก็กรีดเสียงร้องเสียงแหลมๆเหมือนหมูที่ถูกเชือดคอยังไงยังนั้น สุดท้ายแล้วนายเบิ้มก็ปิดฉากชีวิตของการเป็นมือเพชฌฆาตอย่างน่าสังเวชก่อนจะถึงโรงพยาบาล
คุณละ…คิดยังไงกับเรื่องนี้


ขอบคุณที่มา
http://happy.teenee.com/xfile/kod/413.html
หัวข้อ: ตอบ: กรรม.......จากการฆ่าสัตว์
เริ่มหัวข้อโดย: saken6009 ที่ 12 พ.ค. 2554, 02:19:05
กรรมใดใครก่อ คนนั้นรับกรรมไป 01; 01;
                                       
ข้าพเจ้าคิดว่า ชีวิตใครๆก็รัก ถึงเกิดเป็นสัตว์ แต่ก็รับรู้ได้ช่วงสุดท้ายของชีวิต มีทั้งน้ำตา และ ความกลัวครับ
                                                                                                                                           
ขอขอบคุณท่าน ทรงกลด ที่นำบทความดีๆ มาให้พี่น้องศิษย์วัดบางพระได้อ่านครับ :053: :053: 
 
ติดตามอยู่ครับ อ่านแล้วเพลินดีมากๆครับ และ ได้ความรู้ดีมากๆครับผม :016: :053: :015:
   
(ขออนุญาตเข้ามาอ่าน ขอบคุณครับผม) :054: :054: 

 
   
หัวข้อ: ตอบ: กรรม.......จากการฆ่าสัตว์
เริ่มหัวข้อโดย: โบตั๋นสีขาว ที่ 12 พ.ค. 2554, 07:26:47
ขอบคุณมากคะ สำหรับเรื่องราวดีๆ ปรกติชอบอ่านอยู่แล้วคะ เรื่องกฏแห่งกรรม  :090: :050: :090:
หัวข้อ: ตอบ: กรรม.......จากการฆ่าสัตว์
เริ่มหัวข้อโดย: ทรงกลด ที่ 12 พ.ค. 2554, 08:42:12
ชื่นชมยินดีที่ท่านชอบ :015: ขอบคุณที่ติดตามและให้กำลังใจ :054:

เป็นอุทาหรณ์ให้เราหมั่นทำความดีสร้างกุศลกรรม ละความชั่วอกุศล มุ่งนิพพานกันทุกท่านครับ :054:
หัวข้อ: ตอบ: กรรม.......จากการฆ่าสัตว์
เริ่มหัวข้อโดย: tonbangpra ที่ 13 พ.ค. 2554, 06:44:58
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ อ่านเเล้วได้ข้อคิดดี ๆครับ ^_^