แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - ooo

หน้า: [1]
1
                               



                          ขอเชิญร่วมทำบุญในวันคล้ายวันเกิด หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นครปฐม
            ประจำปี 2557 ณ วัดบางพระ  นครปฐม
                          10.30 น. เจรืญพระพุทธมนต์
                          11.00 น. ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ ประมาณ 100 รูป
                 เสร็จแล้วพระสงฆ์ให้พร  เป็นเสร็จพิธี



             


ศิษย์ตลาดพลู   ก๋วยช่าย
คุณกลอยและครอบครัว   ลูกชิ้นทอด           

2
                               





                                                          ขอขอบคุณ คุณเอ นครลุง

3
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: ใหม่
« เมื่อ: 15 ก.ค. 2557, 10:06:46 »

4
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ใหม่
« เมื่อ: 15 ก.ค. 2557, 10:05:18 »
                                           

5
.........พระอาจารย์หนึ่ง มีกำหนดเดินทางเพื่อไปปฎิบัติในพรรษากาลนี้ ประมาณต้นเดือน กรกฎาคม
ส่วนจะเป็นภาคเหนือ หรือ ภาตอีสาน ยังไม่ได้แจ้งรายละเอียด..........
...............แจ้งให้ทราบทั่วกันดังนี้ครับ

6
คณะศิษย์หลวงพ่อเปิ่นได้ร่วมกันทำกิจการบุญกุศลร่วมกันในปีนี้ดังนี้
+สมทบสร้างโรงเจวัดบางพระ                    50,000.-
+สมทบสร้างอุโบสถวัดโพธิ์เผือก             142,500.-
+บ่านพักคนชราหลวงพ่อเปิ่น                    20.000.-
+สมทบสร้างเต๊นวัดบางแวก                     30.000.-
+ถวายหลวงพ่ออางค์(ก่อนและหลังไหว้ครู)  30,000.-
+สมทบกองทุนพระสังกัจจายน์               100,000.-  
+วัดมารวิชัย                                       20,000.-

7
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ...............
« เมื่อ: 21 ก.พ. 2556, 05:41:21 »



8
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / เจ้าภาพ
« เมื่อ: 07 ก.พ. 2556, 04:53:43 »
          

รายนามเจ้าภาพที่จะมาเลี้ยงเป็นโรงทานในปีนี้ ขณะนี้แจ้งความประสงค์มาแล้ว ดังนี้
 ๑ เจ๊แมวสุรินทร์ น้ำดื่ม น้ำแข็ง หอยทอด
 ๒ อาจารย์หวอ และศิษย์ชาวมาเลย์ สมทบอาหารน้ำ และร่วมเป็นเจ้าภาพโต๊ะจีนเลี้ยงพระในวันที่ ๒๔
๓ คุณตี้ คุณหมวย และผองเพื่อน น้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ เช้าวันที่ ๒๓
 ๔ อาจารย์เอ้ วัดดอกไม้ ไก่ตุ๋นเบตง คืนวันที่ ๒๒
 ๕ ไอศครีม โดยคณะศิษย์หลวงพ่อเปิ่น
๖ คุณโอ๊ค(ศิษย์ อ.หนวด)และครอบครัว ชา กาแฟ
 ๗คุณเล็กและเพื่อน ๆ ก๋วยจั๊บ

9
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / เร็ว ๆ นี้
« เมื่อ: 10 ธ.ค. 2555, 09:44:35 »






10
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ช่วยกัน
« เมื่อ: 27 พ.ย. 2555, 09:14:31 »









 :001: :001: :001: :001: :001: :001: :001: :001: :001: :001: :001: :001:

12
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ไหว้พระ
« เมื่อ: 06 ก.ย. 2555, 05:17:05 »



[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

13
กราบคารวะอาลัย ขอหลวงพ่อถึงซึ่งสุดแห่งทุกข์เป็นที่สุด
                                             กราบด้วยอาลัย

14
19พระอาจารย์วิจิตร วัดปรินายก      500.-
20คุณต้น(คุณแกละข้าวโพดศิริราช)           500.-
21คุณแพง                       500.-
22ผู้การเสือ                2,000.-
23ลูกศิษย์(มาเลย์)                               600.-
24คุณหวด                 1,500.-
25คุณประสิทธิ์  บุญผึ้ง            50.-
26คุณโต้ง หล่มสัก+เพื่อน ๆ                 4,500.-
27คุณยุ้ย พันธ์ทิพย์          1,500.-
28ต้อม สุทธิสาร           7,500.-
29ลูกศิษย์(พระอาจารย์ต้อย)           13,100.-
30ค่าครู(อ.หนวด)+ทำบุญ     59,000.-
31คุณจง+คุณบูรณ์                        3,000.-
32คุณไก่+คณะ และครอบครัว         4,000.-
33หลวงพี่นันท์                                 10,000.-
34คุณศรีอุบล  สุนทรศิริ       1,500.-
35nook 2009            1,500.-
36ผู้พัน ว ก พ    1,500.-
37คุณตี๋ใหญ่       3,300.-
38พระอาจารย์โบ วัดบางพระ  1,500.-
39อ.ต้อม วัดบางพระ     1,500.-
40หลวงพ่อติ่ง วัดบางพระ  10,000.-
41หนุ่ม  หนองแขม             1,500.-
42คุณบุญรักษ์ มีชูนึก คุณธิติชล ถาวรวงค์   600.-
43คุณยุทธพงษ์-คุณดวงแก้ว-ด.ช.ภัครพงษ์ ครอบครัวจิตตรี     3,000.-
44คุณแม่บุญมา ชูครุฑ-คุณณัฐกาญจน์ อรรจประเสริฐ    5,000-
45น้ารัตน์    500.-
46คุณสมคิด และครอบครัวรุ่งโรจน์เบญจพล      3,000.-
47ronaldo 2009 *  1,000.-
48คุณเอ๋(ศิษย์ อ.หนวด) 500.-
49คุณเชต ศรีราชา (ศิษย์ อ.หนวด)  1,000.-

15
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / อนุโมทน
« เมื่อ: 06 ส.ค. 2555, 05:55:59 »
01ผู้บริจาคทั่วไป       101,952.-
02พ.ต.อ.อดุลย์  รัตนภิรมย์   55,900.-
03ชาญและเพื่อน            30,000.-
04อาแว่น-อาซ้อ(ศิษย์ อ.ต้อย)     5,000.-
05คุณพรเพ็ญ  โพธิ์เจริญ         1,000.-
06คุณเอ+คุณกวาง                1,000.-
07คุณเผ่า  คลองเตย              15,000.-
08lan see maj                   3,000.-
09คุณริน  บางพระ             1,500.-
10ครอบครัวทองทับ            1,000.-
11ศิษย์ อ.ตั๊ก                    3,000.-
12ตุณตี้+คุณอุ้ม              1,500.-
13คุณจิราเดช    พลอยอร่าม        3,000.-
14คุณหมู(หนองแขม)              
 1,500.-15คุณสมพจน์  แพ่งประเสริฐ          500.-
16พระครูสรพาจน์โฆษิต              3,000.-
17คุณชู  คล้ายมงคล           1,500.-
18แม่จันทร์+คุณจุ๋ม+คุณเจน      1,500.-

(ยังมีต่อ)

16








                                         ขอบคุณ

17







18



ขอยืมรูปโชว์เหรียญ นิดนึง

19

20
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / นิดนึง
« เมื่อ: 04 ก.พ. 2555, 10:01:13 »

24
สำหรับท่านที่สั่งจองไว้ กำหนดรับสำหรับผู้จอง วันที่ ๒๘ มกราคม  ๒๕๕๕
แต่ยังไม่ให้บูชาทั่วไป

                                           





                                                                                     ขอบคุณ

25




อวิตถตา - ไม่ผิด ไปจากความเป็นอย่างนั้น
อนัญญถตา - ไม่เป็นไปโดยประการอื่นจากความเป็นอย่างนั้น
ธัมมัฏฐิตตา - เป็นความตั้งอยู่โดยความเป็นธรรมดาของธรรมชาติ
ธัมมนิยามตา - เป็นกฎตายตัวของธรรมดา
ทั้งหมดนี้มันยุ่งยากลำบากมากเรื่อง ไม่ต้องจำก็ได้จำคำว่า "ตถตา" ไว้คำเดียวพอ แปลว่า เป็นเช่นนั้น เป็นเช่นนั้นเอง การเห็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา คือเห็นเช่นนั้นเอง หรือจะแยกออกไปเป็นว่า มันปรุงแต่งกันออกไปเป็นสายยาว เป็นปฏิจจสมุปบาท กระทั่งว่ามีอายตนะ มีผัสสะ มีเวทนา มีตัณหา มีอุปาทาน มีทุกข์ มันก็คือเช่นนั้นเอง ที่ต้องทุกข์ก็เพราะว่าเป็นเช่นนั้นเองอย่างนั้น ขณะใดไม่ต้องทุกข์ เพราะว่า มันเป็นเช่นนั้นเองอย่างนั้น ฉะนั้น เรามีเช่นนั้นเองไว้เป็นเครื่องดับทุกข์เถอะ อะไรเกิดขึ้นมาก็เห็นเป็นเช่นนั้นเองไว้ก่อน แล้วก็จะไม่รัก จะไม่เกลียด จะไม่โกรธ จะไม่กลัว ไม่วิตกกังวลอะไรหมด เพราะมันเช่นนั้นเอง

ถ้ามันเกิดทุกข์ขึ้นมา เราก็เห็นเช่นนั้นเองของความทุกข์ แล้วก็หาเช่นนั้นเองของความดับทุกข์ที่มันเป็นคู่ปรปักษ์กัน เข้ามาซี่ "เช่นนั้นเอง" อย่างนี้มันเป็นทุกข์ "เช่นนั้นเอง" ที่มันดับทุกข์ก็เอาเข้ามา มาฟัดกันกับ "เช่นนั้นเอง" เช่นนั้นเองกับเช่นนั้นเองมันก็ฆ่ากันเอง ในที่สุดความทุกข์มันก็ดับไป เพราะเรามีเช่นนั้นเอง ฝ่ายดับทุกข์หรือฝ่ายพระนิพพาน พุทธศาสนาเรียนได้ในพริบตาเดียวก็ด้วยคำว่า "เช่นนั้นเอง" หัวใจของปฏิจจสมุปบาท สรุปอยู่ที่คำว่าเช่นนั้นเอง ปฏิจจสมุปบาทคือคำสอนทั้งหมดในพระพุทธศาสนา คือสอนว่าทุกข์เกิดขึ้นอย่างไรและดับไปอย่างไร สมตามที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า "ฉันไม่พูดเรื่องอื่น ฉันพูดแต่เรื่องความทุกข์ และความดับทุกข์เท่านั้น เดี๋ยวนี้ก็ดี ต่อไปข้างหน้าก็ดี" คือให้ความทุกข์และความดับทุกข์นี้ มันรวมอยู่ในคำว่า "เช่นนั้นเอง" เรียกว่า "ตถตา" ก็ได้ "ตถาตา" ก็ได้ "ตถา" เฉยๆ ก็ได้ หมายถึงสิ่งทั้งปวงเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ตามเหตุปัจจัย ไม่มีใครสร้าง ใครบันดาล ให้มีให้เกิดขึ้น แต่เป็นเช่นนั้นขึ้นมาเอง

ในพระไตรปิฎกมีอยู่ทั้ง 3 คำ : ทั้งตถา ทั้งตถตา ทั้งตถาตา ฉะนั้นใครถึงตถา คนนั้นคือตถาคต ตถา + คตะ, ตถา แปลว่า เช่นนั้นเอง, คตะแปลว่า ถึง ผู้ใดถึง ตถา ผู้นั้นชื่อว่า ตถาคต คือว่า ถึงความสูงสุดของสิ่งที่มนุษย์ควรจะได้จะถึง คือ ถึงเช่นนั้นเอง และ "เช่นนั้นเอง" ตัวใหญ่ที่สุด คือ พระนิพพาน"

[แก้] ข้อความอ้างอิงจาก ปัจจัยสูตร พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๖

พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ปฏิจจสมุปบาทเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะชาติเป็นปัจจัย จึงมีชราและมรณะ พระตถาคตทั้งหลายเสด็จอุบัติขึ้นก็ตาม ไม่เสด็จอุบัติขึ้นก็ตาม ธาตุอันนั้น คือ ธัมมฐิติ ธัมมนิยาม อิทัปปัจจัย ก็ยังดำรงอยู่ พระตถาคตย่อมตรัสรู้ ย่อมตรัสรู้ทั่วถึงซึ่งธาตุอันนั้น ครั้นแล้ว ย่อมตรัสบอก ทรงแสดง บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนก กระทำให้ตื้น และตรัสว่า ท่านทั้งหลายจงดู ดังนี้ เพราะชาติเป็นปัจจัย จึงมี ชราและมรณะ ... เพราะภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ ... เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ ... เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน ... เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา ... เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา ... เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ ... เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ ... เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป ... เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ ... เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขาร พระตถาคตทั้งหลายเสด็จอุบัติขึ้นก็ตาม ไม่เสด็จอุบัติขึ้นก็ตาม ธาตุอันนั้น คือ ธัมมฐิติ ธัมมนิยาม อิทัปปัจจัย ก็ยังดำรงอยู่ พระตถาคตย่อมตรัสรู้ ย่อมตรัสรู้ ทั่วถึงซึ่งธาตุอันนั้น ครั้นแล้วย่อมตรัสบอก ทรงแสดง บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนก กระทำให้ตื้น และตรัสว่า ท่านทั้งหลายจงดู ดังนี้ เพราะอวิชชาเป็นปัจจัยจึงมีสังขาร ภิกษุทั้งหลาย ความจริงแท้ ความไม่คลาดเคลื่อน ความไม่เป็นอย่างอื่น มูลเหตุอันแน่นอนในธาตุอันนั้น ดังพรรณนามาฉะนี้แล เราเรียกว่าปฏิจจสมุปบาท

(ภิกฺขเว ยา ตตฺร ตถตา อวิตถตา อนฺถตา อิทปฺปจฺจยตา อย วุจฺจติ ภิกฺขเว ปฏิจฺจสมุปฺปาโท)

(ถ้าเขียนทับศัพท์จะได้ว่า -ภิกษุทั้งหลาย ตถตา อวิตถตา อนัญญถตา หลักอิทัปปัจจยตา ดังพรรณนามาฉะนี้แล เรียกว่าปฏิจจสมุปบาท)

[แก้] อ้างอิง


ที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%95%E0%B8%96%E0%B8%95%E0%B8%B2



มาดีไปดี ชีวิตมีหนทางเสมอ.................

26
***พระอาจารย์ อนันต์ อภินนฺโท(วัดบางพระ)              10,000.-

27
เพิ่มเติม
**โยมน้อง(โชเฟอร์ประจำตัวหลวงพ่ออางค์)                2,000.-

28
เพิ่มเติม
**พระอาจารย์ติ่ง   วัดบางพระ      5,000.-
**คุณพิเชษฐ์ จันคนา(หนุ่ม ผมยาว)            500.-
**คุณจันทร์  ดีตามบาง                500.-
      **mr.sirichai-mr.raymono so-mr.seah wke kiat- mr.tan kim kiong     400.-  
**คุณอรศรี ทัพเพอราท(อ๋อย)        200.-    

29
เพิ่มเติม
**พระครูสุจิตราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดนก    5,000.-
           **  ขอกราบขอบพระคุณด้วยความเคารพยิ่ง **
*คุณเผือก  วัดนก   2,400.-
*คุเอ๋ สมชาย               100.-
*

30
*คุณพงษ์  ดิษฐกระจัน   2,000.-

31
**อาซัน+คณะศรัทธาชาวมาเลย์เซีย  21,133.13(อ.หวอ)

32
***เพิ่มเติม***
คุณชิตสุดา(ไก่)  ห้วยหงษ์ทอง (พรด.)        3,200.-
โยมต่อ                    1,500.-                       
คุณฉัตรชัย+อารยา+จิตภา  ปานประดิษฐ์  2,000.-(พระ อ.ตั๊ก)
    ครอบครัวผลศิริ              300.-   
กุ้ง+จิ๋ม                                             1,000.-                     

33
เพิ่มเติม
คุณเผ่า คลองเตย+ผู้มีจิตศรัทธา บริจาคโรงทานเป็นค่าน้ำ            5,000.-

34
รายนามพระมหาเถระเจริญพุทธมนต์   12 สิงหาคม 2554
*พระครูสุจิตราภรณ์                 วัดนก กรุงเทพฯ
*พระครูศรีสุตากร                   วัดกลางบางพระ  นครปฐม
*พระครูโกวิทสุตการ                วัดโคกเขมา   นครปฐม
*พระมหารัตนะ  สิทฺธิรตโน            วัดหนองกระโดน  นครปฐม
*พระครูสังฆรักษ์ชออม ขนฺติโก                  วัดบางพระ   นครปฐม 
*พระสมุห์ไพรวัน  คุณวนฺโต                วัดโคกเขมา   นครปฐม
*พระใบฎีกาวันชัย  วณฺณวุฑฺโฒ                      วัดเกาะวังไทร   นครปฐม
*พระอาจารย์สุรพจน์(หน่อย) ปาวจฺจโน                วัดนก  กรุงเทพฯ
*พระครูสังฆภาณวิจิตร(หม่อง)                      วัดพระขาว   อยุธยา
*พระครูใบฎีกาวิจิตร  ญาณโสภโณ         วัดปรินายกวรวิหาร   กรุงเทพฯ                             

35
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ วันที่ 12 ส.ค. 2554 หากพระอาจารย์มาวัดบางพระคงได้กราบคารวะนะครับ



ณ เวลานี้ กลับอาวาสแล้วหรือครับ

36
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / test com
« เมื่อ: 26 ก.ค. 2554, 05:44:46 »

37
เพิ่มเติม
 7อาจารย์เอ้ วัดดอกไม้      ข้าวต้มหมู ค่ำ ๆ วันที่ 18
 8ตี้กะหมวย และเพื่อน ๆ    น้ำเต้าหู้ ปาท่งโก๋   เช้าวันที่ 19
 9ปลัดบั๊พ            น้ำอัดลม
รายนามผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญวันไหว้ครู
 1 คุณแมว สุรินทร์  30,000.-สำหรับ ผลไม้/ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น/น้ำ-น้ำแข็ง
 2คุณเต้-คุณอัฐ หน้าวัด 5,000.-สำหรับ  ผลไม้
 3คุณทราย ลูกชิ้น    250 กก
 4คุณต้อม สุวรรณภูมิและเพื่อน ๆ กะเพาะปลา และลูกชิ้น
 5คณะศิษย์วัดนก  ลูกชิ้นปิ้ง
 6คุณเล็ก ฝั่งธน+คุณเผือก(บ้านนอก) ก๋วยเตี๋ยว)                  
              

10คุณฟู่ บางแค และเพื่อน ๆ            หอยทอด
11คุณฉัน บางแค และเพื่อน             น้ำลำใย
[/quot
12นายดาบบุญมี เจ๊นิด                                     ข้าวขาหมู

13พระครูสุจิตราภรณ์(หลวงพ่อเจตน์)วัดนก      5,000.- ขอกราบขอบพระคุณ
14คุณตือ ปากน้ำ                                     5,000.-

38
เพิ่มเติม
 7อาจารย์เอ้ วัดดอกไม้      ข้าวต้มหมู ค่ำ ๆ วันที่ 18
 8ตี้กะหมวย และเพื่อน ๆ    น้ำเต้าหู้ ปาท่งโก๋   เช้าวันที่ 19
 9ปลัดบั๊พ            น้ำอัดลม
รายนามผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญวันไหว้ครู
 1 คุณแมว สุรินทร์  30,000.-สำหรับ ผลไม้/ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น/น้ำ-น้ำแข็ง
 2คุณเต้-คุณอัฐ หน้าวัด 5,000.-สำหรับ  ผลไม้
 3คุณทราย ลูกชิ้น    250 กก
 4คุณต้อม สุวรรณภูมิและเพื่อน ๆ กะเพาะปลา และลูกชิ้น
 5คณะศิษย์วัดนก  ลูกชิ้นปิ้ง
 6คุณเล็ก ฝั่งธน+คุณเผือก(บ้านนอก) ก๋วยเตี๋ยว)                   
             

10คุณฟู่ บางแค และเพื่อน ๆ            หอยทอด
11คุณฉัน บางแค และเพื่อน             น้ำลำใย
[/quot
12นายดาบบุญมี เจ๊นิด                                     ข้าวขาหมู

13พระครูสุจติตราภรณ์(หลวงพ่อเจตน์)วัดนก      5,000.- ขอกราบขอบพระคุณ

39
เพิ่มเติม
 7อาจารย์เอ้ วัดดอกไม้      ข้าวต้มหมู ค่ำ ๆ วันที่ 18
 8ตี้กะหมวย และเพื่อน ๆ    น้ำเต้าหู้ ปาท่งโก๋   เช้าวันที่ 19
 9ปลัดบั๊พ            น้ำอัดลม
รายนามผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญวันไหว้ครู
 1 คุณแมว สุรินทร์  30,000.-สำหรับ ผลไม้/ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น/น้ำ-น้ำแข็ง
 2คุณเต้-คุณอัฐ หน้าวัด 5,000.-สำหรับ  ผลไม้
 3คุณทราย ลูกชิ้น    250 กก
 4คุณต้อม สุวรรณภูมิและเพื่อน ๆ กะเพาะปลา และลูกชิ้น
 5คณะศิษย์วัดนก  ลูกชิ้นปิ้ง
 6คุณเล็ก ฝั่งธน+คุณเผือก(บ้านนอก) ก๋วยเตี๋ยว)                   
             

10คุณฟู่ บางแค และเพื่อน ๆ            หอยทอด
11คุณฉัน บางแค และเพื่อน             น้ำลำใย
[/quot
12นายดาบบุญมี เจ๊นิด                                     ข้าวขาหมู

40
เพิ่มเติม
 7อาจารย์เอ้ วัดดอกไม้      ข้าวต้มหมู ค่ำ ๆ วันที่ 18
 8ตี้กะหมวย และเพื่อน ๆ    น้ำเต้าหู้ ปาท่งโก๋   เช้าวันที่ 19
 9ปลัดบั๊พ            น้ำอัดลม
รายนามผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญวันไหว้ครู
 1 คุณแมว สุรินทร์  30,000.-สำหรับ ผลไม้/ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น/น้ำ-น้ำแข็ง
 2คุณเต้-คุณอัฐ หน้าวัด 5,000.-สำหรับ  ผลไม้
 3คุณทราย ลูกชิ้น    250 กก
 4คุณต้อม สุวรรณภูมิและเพื่อน ๆ กะเพาะปลา และลูกชิ้น
 5คณะศิษย์วัดนก  ลูกชิ้นปิ้ง
 6คุณเล็ก ฝั่งธน+คุณเผือก(บ้านนอก) ก๋วยเตี๋ยว)                   
             

10คุณฟู่ บางแค และเพื่อน ๆ            หอยทอด
11คุณฉัน บางแค และเพื่อน             น้ำลำใย

41
เพิ่มเติม
 7อาจารย์เอ้ วัดดอกไม้      ข้าวต้มหมู ค่ำ ๆ วันที่ 18
 8ตี้กะหมวย และเพื่อน ๆ    น้ำเต้าหู้ ปาท่งโก๋   เช้าวันที่ 19
 9ปลัดบั๊พ            น้ำอัดลม

42
รายนามผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญวันไหว้ครู
 1 คุณแมว สุรินทร์  30,000.-สำหรับ ผลไม้/ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น/น้ำ-น้ำแข็ง
 2คุณเต้-คุณอัฐ หน้าวัด 5,000.-สำหรับ  ผลไม้
 3คุณทราย ลูกชิ้น    250 กก
 4คุณต้อม สุวรรณภูมิและเพื่อน ๆ กะเพาะปลา และลูกชิ้น
 5คณะศิษย์วัดนก  ลูกชิ้นปิ้ง
 6คุณเล็ก ฝั่งธน+คุณเผือก(บ้านนอก) ก๋วยเตี๋ยว)                   
             

43
ที่มาhttp://moviestom.com/forum/upload/viewthread.php?tid=8903


ที่เราควรรู้ให้มีในใจไว้ มีการเห็นแก่ตัวด้วยวัตถุ ก็เห็นได้อย่างนี้ ทีนี้
การเห็นแก่ตัวด้วยความเห็นอย่างพวกเรา ทุกๆคนนะใครจะเรียนมา
จากธิเบตก็ได้ มาจากเซนก็ได้ จากเถรวาทก็ได้ คริสต์ก็ได้ แล้วก็กลับ
มารวมกัน อันนี้ก็ให้ทานความเห็นเหมือนกัน ของฉันถูก ของคุณผิด
ของฉันดี ของคุณไม่ดี อย่าให้ทาน ใครดีก็ดีไป ใครถูกก็ถูกไป ให้ทาน
หมดปัญหาแล้ว...

นี้การให้ทานด้วยทิฏฐิมานะ คือความเห็นไม่มีเรื่อง ให้ได้ ไม่เห็นแก่ตัว
แล้ว นี่การให้ทานความเห็น ความมานะ ความยึดมั่นถือมั่น นี้ก็เป็นการ
ให้ทานไม่เห็นแก่ตัวอันหนึ่ง

อันนี้เป็นเรื่องแบ่งเบากิเลสเราออกไปเยอะเหมือนกัน อันนี้ก็เป็นเครื่อง
กันความตรัสรู้ของเราประการหนึ่ง นี้ก็เรียกว่าการให้ทาน...ฯ

~หลวงปู่ชา สุภทฺโท~

46
โลกธรรม ๘ ประการ

อนิจจัง ความไม่เที่ยง ยากเลี่ยงหลบ
ในโลกภพ มีเกิดดับ สลับหมุน
ใครยึดติด สำคัญผิด ปิดทางบุญ
มีแปดอย่าง ที่คอยหนุน ให้ขุ่นใจ

หนึ่งคือลาภ สองเสื่อมลาภ ควรทราบไว้
สามคือยศ ที่ใครๆ ล้วนอยากได้
สี่เสื่อมยศ เมื่อร่วงหล่น ทนทุกข์ใจ
ทั้งสี่อย่าง เกิดดับไว ใช่จีรัง

ข้อที่ห้า คำนินทา มีแน่ๆ
โดนทั้งเด็ก ทั้งคนแก่ แค่คล้อยหลัง
หกสรรเสริญ คนเยินยอ ชอบพอจัง
ข้อเจ็ดแปด สุข..ทุกขัง ใช่ยั่งยืน

โลกธรรม แปดประการ ควรอ่านไว้
เป็นธุลี เกาะที่ใจ ยากใครฝืน
คู่กับโลก ที่หมุนอยู่ ทุกวันคืน
มิมีทาง ให้เป็นอื่น จงตื่นมอง..เฟื่องฟ้า

พระไตรปิฎกเล่มที่ 23 พระสุตตันตปิฎก เล่ม 15
อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต ปัณณาสก์ เมตตาวรรค
โลกธรรมสูตร

โลกธรรมสูตร
[๙๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย โลกธรรม ๘ ประการนี้ ย่อมหมุนไปตามโลก
และโลกย่อมหมุนไปตามโลกธรรม ๘ ประการ ๘ ประการเป็นไฉน คือ ลาภ ๑
ความเสื่อมลาภ ๑ ยศ ๑ ความเสื่อมยศ ๑ นินทา ๑ สรรเสริญ ๑ สุข ๑
ทุกข์ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย โลกธรรม ๘ ประการนี้แล ย่อมหมุนไปตามโลก
และโลกย่อมหมุนไปตามโลกธรรม ๘ ประการนี้ ฯ
ธรรมในหมู่มนุษย์เหล่านี้ คือ ลาภ ๑ ความเสื่อมลาภ ๑
ยศ ๑ ความเสื่อมยศ ๑ นินทา ๑ สรรเสริญ ๑ สุข ๑
ทุกข์ ๑ เป็นสภาพไม่เที่ยง ไม่แน่นอน มีความแปรปรวน
เป็นธรรมดา แต่ท่านผู้เป็นนักปราชญ์ มีสติ ทราบธรรม
เหล่านั้นแล้ว พิจารณาเห็นว่ามีความแปรปรวนเป็นธรรมดา
ธรรมอันน่าปรารถนา ย่อมย่ำยีจิตของท่านไม่ได้ ท่านย่อม
ไม่ยินร้ายต่ออนิฏฐารมณ์ ท่านขจัดความยินดีและความยินร้าย
เสียได้จนไม่เหลืออยู่ อนึ่ง ท่านทราบทางนิพพานอัน
ปราศจากธุลี ไม่มีความเศร้าโศก เป็นผู้ถึงฝั่งแห่งภพ
ย่อมทราบได้อย่างถูกต้อง ฯ...

ขอบคุณhttp://www.tlcthai.com/club/view_topic.php?club=Budha_page&club_id=1078&table_id=1&cate_id=581&post_id=7669

47
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / `แจ้งข่าว
« เมื่อ: 26 ต.ค. 2553, 04:47:34 »
กำหนดเวลากลับจาก โรงพยาบาลมาพักฟื้นที่วัดบางพระ
ของพระอาจารย์ต้อย วันนี้ เวลาประมาณหลัง 12.00 น.

49
พระ อจ.ตั๊ก อาำพาธ
ด้วย โรคหัวใจ ไขมันในเส้นเลือด ฯลฯ
ขณะนี้กลับมาพักที่กุฎิแล้ว

50
เพื่อให้ญาติโยม และศิษยานุศิษย์ทราบและหายกังวลใจ
อาการอาพาธของพระอาจารย์ต้อย ดีขี้นมาก
อาการโดยรวม ยังอ่อนเพลียบ้างและคงยังไม่สะดวกที่จะรับญาติโยม
ขอให้ทุกท่านคลายกังวล และสบายใจได้

                             ขอบคุณ


ณ ขณะนี้ยังคงพักผ่อนอยู่ที่ รพ.หลวงพ่อเปิ่น
ถ้าจะไปกราบเยี่ยมเยียน ขอให้ดูเวลา และใช้ระยะเวลาที่เหมาะสม
                                                เจริญพร

52
รายนามพระเถราจารย์ที่รับอาราธนาเจริญพระพุทธมนต์
 1 พระครูสุจิตราภรณ์                                   เจ้าอาวาสวัดนก
 2 พระครูศรีสุตากร                                     เจ้าอาวาสวัดกลางบางพระ
 3 พระมหารัตนะ                                       เจ้าอาวาสวัดหนองกระโดน
 4 พระอาจารย์เขียด                                    วัดเกาะวังไทร
 5 พระมหาระพิน อภิชาโน                            เจ้าอาวาสวัดโคกเขมา
 6 พระฎีกาไพรวัน                                       วัดโคกเขมา
 7 พระครูสังฆรักษ์ชออม ขนฺติโก                      วัดบางพระ
 8 พระอาจารย์หน่อย                                    วัดนก
 9 พระอาจารย์ต้อม                                      วัดโพธิ์เผือก
10 พระสมุห์สุนทร(หม่อง) สุนฺทโร                   วัดพระขาว     

53
67คุณคมกริช เกษมปิยารมณ์(เจมส์)                                       500.-
68คุณประภัสสร คุณวินิจ  บัวพันตอง(เซ็นทรัลปิ่นเกล้า)(นำส่ง)       7,000.-
[quote author=joker link=topic=17595.msg157213#msg157213 date=1280932783
+++++++++++++++
รายนามผู้มีจิตศรัทธานำอาหารคาวหวาน ถวายพระและเลี้ยงญาติโยม ในวันที่ 12 สิงหาคม (ณ เวลานี้แจ้งมา)
1.คุณตี้ คุณอุ้ม คุณหนุ่ม และเพื่อน ๆ                น้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋         ในเวลาเช้า
2.คุณเอก และพี่น้องเพื่อน ๆ (ศิษย์หลวงพ่อเอ วัดตะโน)      น้ำส้ม
3.คุณเย็นจิต  บุญชัยศรี(เจ๊แดง วัดราชฯ)                        ทอดมัน  ลอดช่อง(วัดเจษน์ฯ)
4.เพื่อน ๆ และญาติ คุณลัดดา คุณอ๊อด                        หมูปิ้ง ไอศครีม ส้มตำ
5.คุณแดง คุณเก้ง ศิษย์วัดนก                                    น้ำตกหมู-ส้มตำทอด-......-ลูกชิ้นปิ้ง
6.คุณต้อม  สุวรรณภูิมิและครอบครัว                                 กะเพาะปลา
7.คณะศิษย์หลวงพ่อเปิ่น                                             ไอศครีม 
8.คุณทราย คุณยอด                                               ลุกชิ้นปลาทอด
         









*****รายชื่อท่านใดตกหล่น หรือผิดพลาดประการใด โปรดได้รับการขออภัย ณ ที่นี้ด้วย*****

9คุณสุรินทร์   ตรงต่อศักดิ์                                     ไอศรีม
10คณะศิษย์พระราม 3 โยมช่างฯ ตัวเล็ก                   ส้มตำ ไก่ทอด
[/quote]

11คุณฉัน บางแค                                             ต้มขาหมู
12คุณอ้อย(วัดไร่ขิง) ธนาคารแห่งประเทศไทย          น้ำมะพร้าวอ่อน



รายนามผู้ร่วมทำบุญท่านใดตกหล่นหรือพิมพ์ผิดก็ขอประทานโทษด้วย

54
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / แจ้งข่าว
« เมื่อ: 10 ส.ค. 2553, 09:17:32 »
อาจารย์บุญมี   ศิษย์ฆราวาสอาวุโส
ได้ถึงแก่อนิจกรรมแล้วเมื่อวานนี้ที่กาฬสิน
กำหนดงานประชุมเพลิง วันอาทิตย์ที่ 15    ที่กาฬสิน ณ วัดสว่างคงคา
๋๋๋๋๋๋๋๋๋๋๋๋๋๋๋๋๋๋๋+++++++++++++++-ขอแสดงความอาลัย และเสียใจ
กับครอบครัวของอาจารย์บุญมีมา ณ ที่นี้ด้วย





อาจารย์ บุญมี พุ่มทิพย์ (คุณตามี) ศิษย์เอกหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
ได้ถึงแก่ อนิจกรรมแล้ว
เมื่อ วัน จันทร์ ที่ 9 สิงหาคม 2553 เวลา 20.40 น.อายุ 78 ปี

ตั้งศพ บำเพ็ญกุศล ณ อาศรม อ.อ๊อด (บุตรชาย) หลังวัดกลาง จ.กาฬสินธุ์

ขอเชิญ ศิษยานุศิษย์ ทุกท่าน ร่วมฟังสวดพระอภิธรรม อาจารย์ บุญมี พุ่มทิพย์
ณ อาศรม อ.อ๊อด หลังวัดกลาง จ.กาฬสินธุ์
ประวัติ อาจารย์ บุญมี พุ่มทิพย์ (ตามี) โดยย่อ
อาจารย์บุญมีพุ่มทิพย์ บวชเป็นพระภิกษุ ณ.วัดบางพระ จ.นครปฐม ศึกษาวิชาการสักยันต์ต่าง จากหลวงพ่อเปิ่น หลังจากลาสิกขาบท ได้มาพำนักอยู่ จ.กาฬสินธุ์พร้อมครอบครัว
หลวงพ่อเปิ่นเดินทางธุดงมากาฬสินธุ์ในปี พ.ศ.2510 อ.บุญมี พุ่มทิพย์ ได้ฝากตัว เป็นลูกศิษย์กับหลวงพ่อเปิ่น หลังจากนั้นหลวงพ่อเปิ่นก็ธุดงกลับมาที่กาฬสินธุ์ทุกปี และได้มาพักที่บ้าน อ.บุญมี ในแต่ละครั้งที่มา ได้มาพักอาศัยอยู่กับ อ.บุญมีนานถึง 7 วัน มีการจัดพิธีไหว้ครู ที่จ.กาฬสินธุ์ เป็นประจำ ทุกๆ ปี จนเป็นที่ไว้วางใจของหลวงพ่อเปิ่นจึงได้มอบหมาย ให้อ.บุญมี จัดพิธีไหว้ครูด้วยตนเอง ในครั้งแรกนั้นคือ ปี พ.ศ.2524
ตั้งแต่นั้น เป็นต้นมา จนถึงปีพ.ศ. 2534 อ.บุญมี จีงมีลูกศิษย์สายภาคอีสาน ที่จังหวัดกาฬสินธ ุ์และจังหวัดใกล้เคียง ส่วนอาจารย์มนตรี พุ่มทิพย์ (อ. อ๊อด) ลูกชายอาจารย์บุญมี พุ่มทิพย์ ก็ได้มอบเป็นลูกบุญธรรม ให้กับหลวงพ่อเปิ่น ตั้งแต่อายุ 12 ขวบ ลูกศิษย์หลวงพ่อเปิ่นสายจังหวัดกาฬสินธุ์ และใกล้เคียง หลังจากนั้น ก็ได้ทำผ่าป่าไปวัดโคกเข่มา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ในทุกๆปี จนกระทั่ง ได้มาอยู่ที่วัดบางพระสื่อสัมพันธ์กัน ศรัทธาหลวงพ่อเปิ่น จนมาถึงปัจจุบัน
อาจารย์บุญมี พุ่มทิพย์ ได้ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว เมื่อ วัน จันทร์ ที่ 9 สิงหาคม 2553
เวลา 20:40 น. ศิริอายุรวม 78 ปี.
http://kataakom.pantown.com/

                                                                              +++++++++++++++++

57
ต่อ



                                                          

                                                       ขอบคุณ

58
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / อยุธยา
« เมื่อ: 20 พ.ค. 2553, 09:01:37 »
วันนี้



59
ขอกราบถวายมุทิตาจิต หลวงพ่อตื่ง
ความจริง วันเกิดหลวงพ่อเป็นวันที่ 14 นะครับ
(วันที่ 15 เป็นของหลวงพ่ออีกองค์ ขอถวายมุทิตาสักการะเช่นกัน)

60
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ส่าสุด
« เมื่อ: 03 พ.ค. 2553, 07:00:05 »
ผลงานล่าสุดของ อ.ตูน เมื่อวานนี้
ขอบคุณเจ้าของรอยสักด้วยครับ




61
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / เสาร์ ๕
« เมื่อ: 11 มี.ค. 2553, 08:42:00 »
+++++++++++++++กำหนดการพุทธภิเษก วัตถุมงคลชุด เสาร์ ๕
  ณ วัดบางพระ ในวันเสาร์ ที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๓ เวลาประมาณ ๐๖.๐๐ น.
                                โดย พระครูอนุกูลพิศาลกิจ

62
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: puhket
« เมื่อ: 14 ก.พ. 2553, 05:52:44 »



63
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: puhket
« เมื่อ: 14 ก.พ. 2553, 05:50:49 »



64
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / puhket
« เมื่อ: 14 ก.พ. 2553, 05:48:07 »
puhket



65
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: today
« เมื่อ: 11 ก.พ. 2553, 07:42:34 »
                 

                 

66
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / today
« เมื่อ: 11 ก.พ. 2553, 07:40:59 »
วันนี้อาจารย์หนวดทำบุญฉลองรูปหล่อหลวงพ่อเปิ่น
แล้วจะนำไปประดิษฐานที่ ตำหนักหนองปรือ กาญจนบุรี
ขออนุโมทนาผู้ร่วมบุญทุกท่านด้วยครับ

                   

                   

67
3 วัน เกือบเต็มแล้ว


68
happy new year 2010


                                               

69
เดินทางกลับจากมาเลย์เซีย วันที่ 11 มกราคม 2553
ไหว้ครูปีนี้ก็มา่ช่วยสัก
ประมาณ วันที่ 6 มีนาคม 2553 อ.หนวดไหว้ครูที่ตำหนักเมืองกาญฯ
พี่น้องสนใจก็ชวน ๆ กันไป
                          ขอบคุณ

70
ขอกราบคารวะและขอแสดงความอาลัย แด่หลวงปู่เจือ

71
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ยืนยัน
« เมื่อ: 20 ธ.ค. 2552, 09:00:12 »
ยืนยันสำหรับผู้รู้และเข้าใจ
แหล่งข่าวยืนยันว่า ลิงขาวไปแล้ว (จริง ๆ )

76
ยามเช้า


                           
                           


77
งานบุญ


                             


ความเป็นอยู่


                             

78
เด็ก ๆ เพื่อนบ้าน

                             


สามเณรน้อย ๆ

                               

79
ที่มา : หนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม 1 โดย..พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อพระมหาวีระ ถาวโร) วัดจันทาราม (ท่าซุง) อ.เมือง จ.อุทัยธานี
ผู้ถาม : หลวงพ่อคะ การสร้างพระพุทธรูป กับการถวายปัจจัย อย่างไหนมีอานิสงส์ดีกว่าคะ…?
หลวงพ่อ : การสร้างพระพุทธรูปจัดว่าเป็น พุทธบูชา ถ้าในเรื่องกรรมฐานจัดเป็น พุทธานุสสติกรรมฐาน ถ้าตายจากคนไปเกิดเป็นเทวดา มีรัศมีกายสว่างไสวมาก ถ้าถวายปัจจัยถวายเป็นของสงฆ์ จัดว่าเป็น พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา จัดเป็น จาคานุสสติกรรมฐาน เกิดมาชาติหน้าก็รวย

การสร้างพระถวาย ด้วยอำนาจพุทธบูชาทำให้มีรัศมีกายมาก เป็นคนสวย ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า
"พุทธบูชา มหาเตชะ วันโต"
"การบูชาพระพุทธเจ้ามีเดชอำนาจมาก"
แต่ถ้ามีอำนาจแต่ขาดสตางค์ก็อดตายนะ ใช่ไหม…แต่งตัวเป็นจอมพลแต่ไม่มีสตางค์ในกระเป๋า แย่นะ…
อีกแบบหนึ่ง มีสตางค์มากๆ แต่ขาดอำนาจราชศักดิ์ก็โดนโจรปล้นอีก ฉะนั้นทำมันเสีย 2 อย่างเลย ดีไหม…?

ผู้ถาม : ดีค่ะ…แต่ได้ยินเขาว่า ถ้าสร้างพระพุทธรูปนี่ควรสร้างพระประธานจึงมีบุญมาก
หลวงพ่อ : ก็เขียนไว้ซิ สร้างพระประธาน องค์เล็กองค์ใหญ่ก็เขียนไว้ ก็เป็นพระพุทธรูปเหมือนกัน เราสร้างแล้วก็ได้บุญแล้ว ใครไปโยนทิ้งก็ซวยเอง

ผู้ถาม : ถ้าหากว่าจะย้ายพระประธานไปบูชาเป็นพระประธานวัดอื่นจะได้ไหมคะ…?
หลวงพ่อ : เรื่องของบูชา สำหรับที่วัดนี้ถือว่าเขาถวายมาเพื่อบูชา ตั้งอยู่ที่ใดก็ตามถ้าพระย้ายไปที่อื่นนอกเขตถือว่าย้ายเจดีย์ ทางวินัยท่านปรับอาบัติ และถ้าของนั้นเขาถวายสงฆ์ เขามีเจตนาเฉพาะจุดนั้น ถ้าเราเอาไปถือว่าขโมยของสงฆ์ อันดับแรกเขาลงบัญชีอเวจี ไว้ก่อน ของสงฆ์นี่แม้แต่เศษกระเบื้องถ้านำไปก็ลงบัญชีอเวจีเลย

ผู้ถาม : หลวงพ่อเจ้าคะ การสร้างพระพุทธรูป ทำด้วยโลหะกับทำด้วยปูน อย่างไหนจะดีกว่ากัน เจ้าคะ..?
หลวงพ่อ : ถ้าเป็นเจตนาของฉันนะ ชอบให้ทำด้วยปูนมากกว่า ปั้นด้วยปูนแล้วก็ปิดทอง เพราะอะไรรู้ไหม…เพราะพระปูนไม่มีใครขโมย พระโลหะเผลอหน่อยเดียวคนตัดเศียรแล้ว ดีไม่ดีเอาไปทั้งองค์ ฉะนั้นปูนดีกว่า มีอานิสงส์เท่ากัน ราคาถูกกว่า ทนทานและรักษาง่ายกว่า

การสร้างพระพุทธรูปนี่เป็น พุทธบูชา เป็นพุทธานุสสติ ในกรรมฐาน 40 กอง ท่านบอกว่ากำลัง พุทธานุสสติ เป็นเหตุให้เข้าถึงนิพพานได้ง่ายที่สุด ง่ายกว่ากองอื่น ก็เห็นจะจริงเพราะว่าพระพุทธเจ้าท่านอยู่นิพพานนี่ และท่านก็เป็นต้นตระกูลของพระนิพพาน ใช่ไหม… ทีนี้ถ้าเราต้องการสร้างให้สวยตามที่เราชอบเห็นแล้วก็ทำให้จิตใจสดชื่น จิตมันก็นึกถึงพระอยู่เสมอ ถ้าจิตนึกถึงพระพุทธรูปองค์นั้นอยู่เสมอ ก็จัดเป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน ถ้าใจเราเกาะพระพุทธเจ้าเป็นปกติ ตายแล้วลงนรกไม่เป็น ฉะนั้นถ้าหากโยมเป็นว่าพระที่ทำด้วยโลหะสวยกว่า ชอบมากกว่า โยมก็สร้างแบบนั้น


ผู้ถาม : หลวงพ่อคะ ถ้าหากว่าเดินไปเช่าไปเช่าตามร้านกับการจ้างเขาหล่อให้แล้วเททองเอง อานิสงส์จะได้เท่ากันไหมคะ….?
หลวงพ่อ : กุศลน้อยกว่าที่เขาทำสำเร็จแล้ว เพราะว่าเราต้องเหน็ดเหนื่อย ดีไม่ดีหัวเสีย ที่เขาทำเสร็จแล้วน่ะเราก็เลือกดูเอาตามชอบใจใช่ไหมล่ะ วิธีการแบบนั้นไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรเลยนี่ ร้อนก็ร้อน เหนื่อยก็เหนื่อย บางทีได้ตัวร้อนตัวเหนื่อยนี่มันตัดเลย ทำบุญทุกอย่าง ทำให้จิตสบาย กายสบาย อันนี้ถือว่ามีผลสูง ถวายสังฆทานนี่มีค่าสูงมาก การที่นิมนต์พระมาเลี้ยงข้าวที่บ้าน 4-5 องค์ อานิสงส์เป็นสังฆทานเหมือนกัน แต่ดีไม่ดีมันน้อยกว่าอย่างนี้ เพราะยุ่งกว่า ดีไม่ดีคนแกงบ้าง ต้มบ้าง เราไม่ชอบใจก็โมโห ไอ้ตัวโมโหนี่แหละมันตัด ใช่ไหม..?

ผู้ถาม : หลวงพ่อคะ ถ้าเรามีพระบูชาเราควรจะหันหน้าไปทางทิศไหนคะ…?
หลวงพ่อ : พระบูชาที่นิยมกัน เขาหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ถ้าหันไปทาง ทิศใต้ กับทิศตะวันตก สตางค์ไม่เหลือใช้ ลองดูก็ได้

ผู้ถาม : เป็นเพราะเหตุใดคะ…?
หลวงพ่อ : อันนี้ฉันไม่รู้ละ รู้แต่ว่าสมัยหลวงพ่อปาน ถ้าลูกศิษย์ท่านหันหน้าพระพุทธไปทาง ทิศตะวันตกหรือทิศใต้ ท่านบอกว่าควรหันไปทาง ทิศตะวันออกหรือทิศเหนือ

ผู้ถาม : แล้วอย่างพระพุทธรูปที่บอกว่ายังไม่ เบิกพระเนตร หมายความว่าอย่างไรคะ…?
หลวงพ่อ : ถ้ายังไม่เบิกพระเนตร แสดงว่ายังไม่มีลูกตา พระองค์ไหนมีลูกตาแล้ว พระองค์นั้นเบิกพระเนตรแล้ว ใช่ไหม.." (ผู้ถามหัวเราะ)

หลวงพ่อ : ฉันว่ามันเป็นพิธีสมัยก่อนโน้นละมั้ง คือเขาปั้นเป็นพระพุทธรูปแล้ว ยังไม่ได้ทำลูกตา เลยหาช่างมาทำลูกตามากกว่าเวลานี้ก็เลยเอาวิธีการนั้น พระที่วันฉันไม่ต้องเบิกพระเนตร เห็นท่านมีตาทุกองค์ ใครเขาถามว่าเบิกพระเนตรหรือยัง..ฉันไม่ทำละ มีแล้วนี่..ควรจะเบิกเนตรเราให้ดีเท่าเนตรท่านดีกว่า ใช่ไหม…?

ผู้ถาม : แล้วถ้าหากว่าเรามีพระพุทธรูป แต่พระเนตรท่านปิดอย่างนี้ต้องเบิกพระเนตรไหมคะ…?
หลวงพ่อ : เอาละซิ ขืนไปเบิกเข้าตาท่านฉีกแน่ บาป ต่อไปชาติ หน้าตาเหลือก

ผู้ถาม : (หัวเราะ) คือท่านหลับตานั่งสมาธิค่ะ
หลวงพ่อ : เขาทำหลับตาก็ปล่อยให้หลับตา ทำสมาธิก็ต้องหลับตาใช่ไหม…?

ผู้ถาม : หลวงพ่อครับ การถวายพระพุทธรูปองค์เล็กๆ กับถวายพระประธานองค์ใหญ่ๆ พระประธานในโบสถ์นะครับ จะมีอานิสงส์เหมือนกันหรือเปล่าครับ..?

หลวงพ่อ : เหมือนกัน คือเขียนเหมือนกัน เขียนว่า "อานิสงส์ ถวายพระพุทธรูป" ….แต่ว่าเราไปเทียบกันไม่ได้นะ สุดแล้วแต่กำลังใจ ถ้าคนที่เขามีฐานะน้อยเขามีเงินจริงๆแค่สร้างพระพุทธรูปขนาด 3 นิ้ว ทำด้วยปูนปลาสเตอร์ แต่ว่ากำลังใจเขามั่นคงฐานะมันแค่นั้นก็มีอานิสงส์สูง ถือว่าเขาทำดีที่สุดของฐานะอยู่แล้วใช่ไหม….

สร้างพระประธานในโบสถ์ อานิสงส์ก็คือสร้างพระพุทธรูป ถ้าหากว่าเจ้าของคิดว่าสร้างเพื่ออวดชาวบ้าน ก็รู้สร้างองค์เล็กๆ ไม่ได้ เพราะคิดด้วยจิตบริสุทธิ์

ผู้ถาม : แล้วถวายพระประธานเพื่อแก้บนเล่าครับ คือว่าลูกชายง่องๆ แง่งๆ ใจไม่ค่อยดี ก็คิดว่าถ้าหากลูกชายแข็งแรงดี จะถวายพระประธานประจำอุโบสถสักองค์หนึ่ง จะแตกต่างกับถวายพระประธานเนื่องในการไม่แก้บนไหมครับ….?

หลวงพ่อ : ต้องดูเจตนาก่อน เราแก้บน แต่ตั้งเจตนาให้ถูกนะ ถือว่าสร้างพระพุทธรูปไว้ในพระพุทธศาสนา เพื่อสักการะของคนและพระ มันจะมีอานิสงส์เหมือนกัน แต่ถ้าคิดว่านี่เพราะลูกเราไม่ตาย เพราะการถวายพระพุทธรูปอย่างนี้อานิสงส์น้อยมาก เพราะเรามีการแลกเปลี่ยน

เราบนก็จริงแหละ แต่คิดว่าการสร้างพระพุทธรูปนี่ สร้างไว้เป็นที่สักการะของคนและพระเณร ก็ถือว่าเราสร้างไว้ในพระพุทธศาสนา ไม่ถือเป็นการแลกเปลี่ยน ถ้าคิดว่าการแก้บนมันเป็นการแลกเปลี่ยน แต่ว่าเราบนไว้จริง แต่ว่าเจตนาเราตั้งไว้อีกหน่อยหนึ่ง

ผู้ถาม : เรื่องพระประธานผ่านไป ทีนี้เรื่องพระแตก มีบางคนเขาบอกว่า ห้อยพระที่แตกหรือหัก ลูกเมียจะทะเลาะกัน พระศุกร์จะเข้าพระเสาร์จะแทรก บางคนถึงขนาดเอาเศียรพระหักๆแตกๆไปได้ตามต้นโพธิ์ ตามวัด ความจริงเป็นยังไงครับหลวงพ่อ…?

หลวงพ่อ : ถ้าจะให้แน่คุณก็ลองห้อยดูก่อน ใครได้พระสมเด็จแตกๆมาให้ฉันทีเหอะ ฉันเอาหมด…ความจริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นหรอก มันจะด่ากันเองน่ะ เลยไปโทษพระใช่ไหม…แต่ว่าที่เห็นเขาถือกันก็คือ พระพุทธรูปถ้าชำรุดเขาไม่บูชาไว้ที่บ้านอันนี้ไม่มีตำรา อาจจะมีประสบการณ์ก็ได้นะ

แต่พวกที่โบราณเขาเขียนบอกไว้ต้องระวังหน่อย บางทีมีประสบการณ์ แต่หาเหตุมาไม่ได้ก็ต้องเชื่อเหมือนกัน อย่างสมัยหลวงพ่อปาน ถ้าลูกศิษย์ท่านหันหน้าพระพุทธไปทางทิศตะวันตกหรือทิศใต้ อันนี้ไม่มีเรื่องทะเลาะกัน แต่สตางค์ไม่เหลือใช้ ท่านบอกว่าควรหันไปทางทิศตะวันออก หรือทิศเหนือ ทีนี้หากเราเห็นว่าชำรุด เราตกแต่งให้ดีก็คงจะดีมั้ง

ผู้ถาม : หลวงพ่อขอรับ ได้ทราบข่าวว่าหลวงพ่อจะ สร้างแท่นพระสำหรับพระพุทธรูปข้างพระอุโบสถวัดท่าซุงนั้น อยากจะทราบว่าการสร้างแท่นพระมีอานิสงส์อย่างไรขอรับ..?

หลวงพ่อ : สร้างแท่นก็เหมือนกับสร้างพระพุทธรูป คือแท่นพระพุทธรูปเขาบกพร่องอยู่ เราทำให้เต็มอย่างนางวิสาขา หรือพระสิวลี อานิสงส์ไม่ใช่เล็กน้อยนะ อานิสงส์ใหญ่มาก คนจะรวยแล้วนะ วาสนาบารมีจะสูง สร้างแท่นพระ หนุนพระให้สูงน่ะ แล้วพระพุทธเจ้าด้วยนะ เราฐานะก็จะดีขึ้น

ผู้ถาม : ดิฉันและน้องๆ ได้สร้างพระพุทธรูปปิดทองฝังเพชร ขนาด 30 นิ้ว ถวายเป็นพุทธบูชา ไปไว้ที่วัดท่าซุง พอถวายแล้ว หลวงพ่อให้พรว่า "ขอให้รวยทุกคน รวยเท่าพระพุทธเจ้านะลูก" กราบเรียนถามหลวงพ่อว่า รวยเท่าพระพุทธเจ้าเขารวยแบบไหนเจ้าคะ...?

หลวงพ่อ : จะเอาแบบไหนล่ะ จะเอาแบบทรัพย์มาก หรือจะเอาแบบกิเลสหมด..?

ผู้ถาม : ตอนนี้เอาทรัพย์ก่อนก็แล้วกันค่ะ เพราะเศรษฐกิจไม่ค่อยดี

หลวงพ่อ : พระพุทธเจ้านี่รวยมากเพราะกิเลสหมดนะ คือว่าพระพุทธเจ้าใครบอกไม่มีทรัพย์สินน่ะไม่ถูกหรอก ที่นั่งอยู่ที่นี่ทรัพย์ที่นำมาให้เป็นของพระพุทธเจ้าทั้งหมดนะ ฉันไม่คิดว่าเป็นของฉัน พระพุทธเจ้าเสด็จไปที่ไหนไม่เคยจน อย่างวิหารของนางวิสาขาเขาสร้างราคาเท่าไร ก็รวมความว่าพระพุทธเจ้ามีทรัพย์สินมากราคาเป็นล้านๆ โกฏิ เอารวยแบบนั้นก็แล้วกันนะ

หลวงพ่อมักจะให้พรอย่างนี้เสมอว่า "รวย รวย รวย"

80
ที่มาhttp://bbznet.pukpik.com/scripts2/view.php?user=watbansai&board=3&id=4&c=1&order=numtopic

  « เมื่อ 21/01/2009 , 13:00:56 »   Edit
--------------------------------------------------------------------------------

 


อานิสงส์การจัดสร้างพระพุทธรูป
หรือสิ่งพิมพ์อันเกี่ยวกับพระธรรมคำสอน

เป็นกุศลดังนี้

1. อกุศลกรรมในอดีตชาติแต่ปางก่อน จะเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นสูญ
2. สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง สรรพภยันตรายสลาย ปวงภัยไม่มี คนคิดร้ายไม่สำเร็จ
3. เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติแต่ปางก่อน เมื่อได้รับส่วนบุญไปแล้วก็จะเลิกจองเวรจองกรรม
4. เหล่ายักษ์ผีรากษส งูพิษเสือร้าย ไม่อาจเป็นภัยอยู่ในที่ใดก็แคล้วคลาดจากภัย
5. จิตใจสงบ ราศีผ่องใส สุขภาพแข็งแรง กิจการงานเป็นมงคล รุ่งเรืองก้าวหน้าผู้คนนับถือ
6. มั่นคงในคุณธรรม ความอุดมสมบูรณ์ปรากฏ (เกินความคาดฝัน) ครอบครัวสุขสันต์ วาสนายั่งยืน
7. คำกล่าวเป็นสัจจ์ ฟ้าดินปราณี ทวยเทพยินดี มิตรสหายปรีดา หนี้สินจะหมดไป
8. คนโง่สิ้นเขลา คนเจ็บหายได้ คนป่วยหายดี ความทุกข์หายเข็ญ สตรีจะได้เกิดเป็นชายเพื่อบวช
9. พ้นจากมวลอกุศล เกิดใหม่บุญเกื้อหนุน มีปัญญาล้ำเลิศ บุญกุศลเรืองรอง
10.สิ่งที่สร้างจะบังเกิดเป็นกุศลจิตแก่ทุกคนที่ได้พบเห็นเป็นเนื้อนาบุญ อย่างเอนกทุกชาติของ ผู้สร้างที่เกิดจะได้ฟังธรรมจากพระอริยเจ้าปัญญาในธรรมแก่กล้าสามารถได้ 




81
ก๋วยเตี๋ยว พระอาจารย์ตูน เปลี่ยนเจ้า มาจาก ศรีย่าน(เจ้านี้พระอาจารย์หนุ่มใช้บริการเป็นประจำ)

82
***************แด่น้อง  ด้วยรัก
*****ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่**************http://board.palungjit.com




ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่

--------------------------------------------------------------------------------

ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่


ตามที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่งที่เป็นอกุศล เป็นส่วนแห่งอกุศล เป็นฝ่ายแห่งอกุศล ธรรมเหล่านั้นทั้งหมด มีใจเป็นใหญ่ มีใจประเสริฐสุด สำเร็จได้ด้วยใจ ถ้าบุคคลมีใจชั่วแล้ว จะทำก็ตามจะพูดก็ตาม ย่อมเป็นทุจริต เพราะทุจริตนั้นทุกข์ย่อมติดตามเขาไป ดุจล้อหมุนไปตามรอยเท้าโค ฉะนั้น

ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่ มีใจประเสริฐสุดสำเร็จแล้วด้วยใจ ถ้าบุคคลมีใจผ่องใสแล้วจะทำก็ตามจะพูดก็ตาม ย่อมเป็นสุจริต เพราะสุจริตนั้น สุขย่อมติดตามเขาไป ดุจเงาติดตามตัวไปฉะนั้น สัตว์โลกทั้งหลายย่อมถูกจิตนำไป ย่อมกระเสือกกระสนเพราะจิต สัตว์ทุกจำพวกย่อมเป็นไปตามอำนาจของจิต

ที่ตรัสว่าธรรมทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่ เป็นต้นนั้น หมายถึงใหญ่กว่าเจตสิกธรรมที่ประกอบในจิต เพราะว่าเจตสิกทั้งหลายเมื่อเว้นจากจิตเสียแล้วย่อมไม่อาจเกิดขึ้นรับอารมณ์ได้ ส่วนจิตนั้นแม้จะเว้นจากเจตสิกบางดวงก็ยังเกิดขึ้นรับอารมณ์ได้ เพราะเหตุนั้นจิตจึงใหญ่กว่าเจตสิก ดังนี้


คำว่าจิตนี้มีชื่อ 10 ชื่อ

คือ จิต 1, มโน 1, มานัส 1, หทัย 1, ปัญฑร 1, มนายตนะ 1, มนินทรีย์ 1, วิญญาณ 1, วิญญาณขันธ์ 1, มโนวิญญาณธาตุ 1 ใน 10 ชื่อนั้น มีความหมายดังนี้คือ

1. ที่ชื่อว่า จิต เพราะเป็นธรรมชาติวิจิตร

2. ที่ชื่อว่า มโน เพราะกำหนดรู้อารมณ์

3. ที่ชื่อว่า มานัส ก็มีอรรถเหมือนกับมโนนั่นเอง

4. ที่ชื่อว่า หทัย เพราะอยู่ภายใน

5. ที่ชื่อว่า ปัณฑระ เพราะอรรถว่า บริสุทธิ์
คำนี้ตรัสหมายเอาภวังคจิต อนึ่งแม้กุศลจิตก็ตรัสว่า ปัณฑระเหมือนกัน

6. ที่ชื่อว่า มนายตนะ เพราะอรรถว่า เป็นบ่อเกิดเป็นที่ประชุมและเป็นเหตุ

7. ที่ชื่อว่า มนินทรีย์ เพราะอรรถว่า เป็นใหญ

8. ที่ชื่อว่า วิญญาณ เพราะอรรถว่ารู้แจ้งซึ่งอารมณ์

9. ที่ชื่อว่า วิญญาณขันธ์ เพราะวิญญาณนั้นเป็นส่วนหนึ่งแห่งขันธ์

10. ที่ชื่อว่า มโนวิญญาณธาตุ เพราะอรรถว่า เป็นสภาวะธรรม ไม่ใช่สัตว์ เป็นต้น

http://www.thaimisc.com/freewebboard...aew&topic=5577
__________________
::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::



83
ในวันที่ 8 คุณอู๊ด บางแค คุณอ๊อด(เทอร์โบ) บางแค เป็นเจ้าภาพ ของหวาน อาทิ ทองหยอด ฝอยทอง ฯลฯ
            คุณขวัญ คุณพจน์ ตลาดพลู (ลูกป๋า (คิดถึงป๋าเสมอแม้จะจากไปแล้ว)) ทับทิมกรอบ
            คุณชัย (ชอบเปอร์)    เต้าฮวยเย็น
            เ๊ฮียมง อาซ้อ   น้ำตะไคร้
           

           อาจารย์ตูน  วัดคณิกาผล  ก๋วยเตี๋ยว(น่าจะเยาวราช)


          ความดีงาม ความสามัคคี กุศลธรรม อันใดก็ตาม
         นอบน้อมถวายแด่  หลวงพ่อเปิ่น และครูอุปัชฌาย์อาจารย์ทั้งหลายทั้งปวงเป็นที่สุด
         ขอความสุขสงบ และสมาธิจิต แห่งกุศลกรรมบังเกิดมีแด่ทุกหมู่ทุกเหล่า โดยถ้วนทั่ว เทอญ

84
http://www.learntripitaka.com/History/Out.html

      
วันออกพรรษา
          ความสำคัญ วันออกพรรษา ได้แก่ วันที่สิ้นสุดระยะการจำพรรษา คือ วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ในวันนี้พระสงฆ์จะประกอบพิธีทำสังฆกรรม ซึ่งเรียกว่า วันมหาปวารณา คือ การเปิดโอกาสให้ภิกษุด้วยกันว่ากล่าวตักเตือนกันได้ ทั้งนี้เพราะในระหว่างพรรษานั้น พระสงฆ์บางองค์อาจมีข้อบกพร่องที่จำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุง การเปิดโอกาสให้ผู้อื่นว่ากล่าวตักเตือนได้ เป็นวิธีที่จะรู้ถึงข้อบกพร่องของตน ทั้งนี้กระทำโดยเปิดเผย ไม่ถือเป็นเรื่องที่จะมาโกรธเคืองกันภายหลัง หรือเปิดโอกาสให้ซักถามข้อสงสัยซึ่งกันและกัน
     การกระทำมหาปวารณา เป็นการสังฆกรรมอย่างหนึ่งแทนการสวดพระปาฏิโมกข์ (พระวินัย) ที่ได้กระทำกันทุกๆ ๑๕ วันในช่วงเข้าพรรษา
     การปฏิบัติตน
แม้การปวารณาจะเป็นเรื่องระหว่างพระสงฆ์ด้วยกัน แต่การออกพรรษาก็เป็นวาระสำคัญ
อีกวาระหนึ่งที่ชาวบ้านจะได้มีโอกาสทำบุญร่วมกัน โดยในวันรุ่งขึ้น คือ วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ มีประเพณีทำบุญ
ตักบาตร ที่เรียกกันว่า ทำบุญตักบาตรเทโว หรือเรียกเต็มๆ ว่า ตักบาตรเมโวโรหนะ
สืบเนื่องจากความเชื่อตามตำนานที่ว่าวันนี้เป็นวันคล้าย วันที่พระพุทธเจ้าได้เสด็จลงจากเทวโลกหลังจากที่ได้เสด็จกลับจากการไปโปรด พระพุทธมารดา ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์บางวัดอาจจัดพิธีทำบุญตักบาตรธรรมดา แต่บางวัดก็จัดเป็น
งานใหญ่โต เสร็จจากการทำบุญตักบาตร พุทธศาสนิกชนจะไปฟังธรรม และรักษาอุโบสถศีล
     กิจกรรมต่างๆ ที่ควรปฏิบัติในวันออกพรรษา
๑. ทำบุญตักบาตร อุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติผู้ที่ล่วงลับ
๒. ไปวัดเพื่อปฏิบัติธรรม ฟังพระธรรมเทศนา
๓. ร่วมกุศลกรรม "ตักบาตรเทโว"
๔. ปัดกวาดบ้านเรือนให้สะอาด ประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือนและสถานที่ราชการ และประดับธงชาติและธงธรรมจักตามวัดและสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา
     ประเพณีที่เกี่ยวข้องกับวันออกพรรษา
ประเพณีที่เกี่ยวข้องกับวันออกพรรษาที่นิยมปฏิบัติ คือ
๑. ประเพณีตักบาตรเทโว (วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ หลังจากออกพรรษาแล้ว ๑ วัน)
๒. พิธีทอดกฐิน (ตั้งแต่วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ถึงวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ กำหนด ๑ เดือนนับตั้งแต่วันออกพรรษา)
๓. พิธีทอดผ้าป่า (ไม่จำกัดกาล)
๔. ประเพณีเทศน์มหาชาติ (นิยมทำกันในวันขึ้น ๘ ค่ำ หรือ วันแรม ๘ ค่ำ กลางเดือน ๑๒ ในบางท้องถิ่นอาจนิยมทำกันในเดือน ๕ ต่อเดือน ๖ หรือในเดือน ๑๐)


      
ประเพณีที่เกี่ยวข้องกับวันออกพรรษา
     ประเพณีตักบาตรเทโว
การตักบาตรเทโว จะกระทำในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 คือหลังออกพรรษาแล้ว 1 วัน
ประวัติความเป็นมาของประเพณีการตักบาตรเทโว
ในสมัยพุทธกาล เมื่อ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมและเสด็จขึ้นไปโปรดพระพุทธมารดาโดยจำพรรษาอยู่ ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นเวลา 1 พรรษา และเมื่อออกพรรษาแล้ว พระองค์ได้เสด็จกลับยังโลกมนุษย์ ณ เมืองสังกัสสนคร
การที่พระพุทธองค์ทรงเสด็จลงมาจากชั้นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เรียกตามศัพท์ภาษาบาลีว่า "เทโวโรหณะ"ในครั้งนั้นบรรดาพุทธศาสนิกชนผู้มีความศรัทธาเลื่อมใส เมื่อทราบข่าวต่างพร้อมใจกันไปรอตักบาตรเพื่อรับเสด็จกันอย่างเนืองแน่น จนถือเป็นประเพณีตักบาตรเทโวปฏิบัติสืบทอดกันมาจนตราบเท่าทุกวันนี้
     พิธีทอดกฐิน
ประวัติการทอดกฐิน
ในสมัยพุทธกาล เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับ ณ พระเชตวนาราม ซึ่งเป็นพระอารามที่อนาถบิณฑิกเศรษฐีได้สร้างถวายเป็นพุทธนิวาส ได้มีภิกษุ 30 รูป ชาวเมืองปาฐา ซึ่งอยู่ด้านทิศตะวันตกในแคว้นโกศล เดินทางมาหมายจะเฝ้าพระพุทธองค์ที่เมืองสาวัตถี แต่มาไม่ทันเพราะใกล้ถึงวันเข้าพรรษา จึงเข้าพักจำพรรษา ณ เมืองสาเกต อันมีระยะทางห่างจากเมืองสาวัตถีราว 6 โยชน์
ภิกษุทั้ง 30 รูป ล้วนแต่เป็นผู้เคร่งครัดปฏิบัติธุดงค์และต่างมีความศรัทธาอย่างแรงกล้าที่จะได้เฝ้าพระบรมศาสดา เมื่อถึงวันออกพรรษาแล้ว ก็รีบเดินทางไปยังเมืองสาวัตถีโดยไม่มีการรั้งรอแม้ว่ายังเป็นช่วงที่ฝนยังตกหนักน้ำท่วมอยู่ทั่วไป แม้จะต้องฝ่าแดดกรำฝน ลุยฝน อย่างไรก็ไม่ย่อท้อ
เมื่อภิกษุทั้ง 30 รูป ได้เข้าเฝ้าพระบรมศาสดาสมความตั้งใจแล้ว ครั้นพระองค์ตรัสรู้ถามจึงได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ทรงทราบ พระพุทธองค์จึงตรัสธรรมมิกถา ภิกษุเหล่านั้นก็ได้สำเร็จพระอรหันต์ผลในลำดับนั้น พระบรมศาสดาดำริถึงความยากลำบากของภิกษุเหล่านั้น จึงเรียกประชุมภิกษุสงฆ์ แล้วตรัสอนุญาตให้ภิกษุรับผ้ากฐินได้ สำหรับในเมืองได้ผ่านวันออกพรรษาแล้ว นางวิสาขาได้ทราบพุทธานุญาตและได้เป็นผู้ถวายผ้ากฐินเป็นคนแรก
     พิธีทอดผ้าป่า
ประวัติความเป็นมา
ในสมัยพุทธกาล เมื่อครั้งที่พระบรมศาสดายังมิได้ทรงอนุญาตให้พระภิกษุทั้งหลายรับจีวรจาก ชาวบ้าน พระภิกษุเหล่านั้นจึงต้องเที่ยวเก็บผ้าที่เขาทิ้งแล้ว เช่นผ้าเปรอะเปื้อนที่ชาวบ้านไม่ต้องการนำมาทิ้งไว้ ผ้าที่ห่อศพ ฯลฯ เมื่อรวบรวมผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยพอแก่ความต้องการแล้ว จึงนำมาทำความสะอาด ตัดเย็บ ย้อม เพื่อทำเป็นจีวร สบง หรือสังฆาฏิ ผืนใดผืนหนึ่ง การทำจีวรของภิกษุในสมัยพุทธกาลจึงค่อนข้างยุ่งยากหรือเป็นงานใหญ่ ดังที่กล่าวไว้แล้วในเรื่องพิธีทอดกฐิน
ครั้นชาวบ้านทั้งหลายเห็นความยากลำบากของพระสงฆ์ต้องการนำผ้ามาถวาย แต่เมื่อยังไม่มีพุทธานุญาตโดยตรง จึงนำผ้าไปทอดทิ้งไว้ ณ ที่ต่างๆ เช่น ในป่า ตามป่าช้า หรือข้างทางเดิน เมื่อภิกษุสงฆ์มาพบ ก็นำเอามาทำเป็นสบง จีวร พิธีการทอดผ้าก็มีความเป็นมาด้วยประการฉะนี้
สำหรับในเมืองไทย พิธีทอดผ้าป่าได้รับรื้อฟื้นขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ด้วยทรงพระประสงค์จะรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีในทางพระศาสนา
     ประเพณีงานเทศน์มหาชาติ
ประเพณี การเทศน์มหาชาติจัดเป็นการทำบุญที่สำคัญและมีความหมายที่สุดในสังคมไทย เนื่องจากเป็นประเพณีของพุทธศาสนิกชนชาวไทยที่ทำสืบเนื่องมาแต่โบราณจนถึง ปัจจุบันเพราะความเชื่อว่าถ้าผู้ใดได้ฟังเทศน์มหาชาติแล้วจะได้กุศลแรง และหากใครตั้งใจฟังให้จบใน วันเดียวจะได้เกิดร่วมและพบพระศรีอริยเมตตรัยโพธิสัตว์ซึ่งจะมาตรัสรู้เป็น พระพุทธเจ้าในอนาคต
ในพระราชสำนัก ปรากฏเป็นราชพิธีในวังหลวงมาแต่สมัยสุโขทัยแล้ว ในสมัยอยุธยาพระมหากษัตริย์ถึงกับทรงโปรดฯ ให้สร้างพระที่นั่งทรงธรรม ด้วยพระราชประสงค์ให้เป็นที่ทรงธรรมในงานพระราชพิธีเทศน์มหาชาติ พระราชพิธีนี้สืบเนื่องมาจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงเกณฑ์พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ ทำกระจาดใหญ่บูชากัณฑ์เทศนาคราวหนึ่ง แม้พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ครั้งที่ทรงดำรงอยู่ในสมณเพศก็ทรงหัดเทศน์กัณฑ์มัทรี จนกลายเป็นธรรมเนียมให้พระราชโอรสถวายเทศน์มหาชาติในวังหลวง
ในท้องถิ่น โดยเฉพาะในเขตภาคอีสานถือเป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่สำคัญที่สุดของปีจะจัดขึ้นใน ราวเดือน 4 เรียกว่า บุญพระเวส ทั้งยังมีประเพณีเกี่ยวเนื่องกับเทศกาลนี้ด้วย เช่น พิธีแห่พระเวสเข้าเมืองและพิธีแห่ข้าวพันก้อนเพื่อบูชาคาถาพัน ทางภาคเหนือ ก็ให้ ความสำคัญกับการเทศน์มหาชาติมาก เห็นได้จากมีประเพณีสร้างหลาบเงินหรือแผ่นเงินแกะลาย แขวนห้อยรอบฉัตร ถวายเป็นเครื่องขันธ์ตั้งธรรมหลวงในงาน ทางภาคใต้นั้นประเพณีเทศน์มหาชาติได้ คลี่คลายไป เป็นประเพณีสวดด้านซึ่งคล้ายคลึงกับการสวดโอ้เอ้วิหารรายอย่างกรุงเทพฯ ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
     

















85
บทความ บทกวี / http://blog.eduzones.com/sanglam/7440
« เมื่อ: 02 ต.ค. 2552, 06:09:16 »
ที่มาhttp://blog.eduzones.com/sanglam/7440


ธรรมะสำหรับผู้ครองเรือน
ธรรมะสำหรับผู้ครองเรือน โดย พระมหาสุรศักดิ์ สุรเมธี นักศึกษาสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ........................................................ พระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กล่าวว่า “เป้าหมายแห่งการแต่งงานอยู่ที่การสร้างครอบครัวที่มีแต่ความรักใคร่กลมเกลียวโดยไม่มีการหย่าร้าง สามีภรรยาจะบรรลุถึงเป้าหมายดังกล่าวได้ก็ต่อเมื่อมีการปฏิบัติธรรมร่วมกัน การปฏิบัติธรรมจะช่วยให้ชีวิตคู่เข้มแข็งมั่นคงพอที่จะฝ่ามรสุมต่างๆไปได้ ดังนั้น คู่สามีภรรยาที่ต้องการมีชีวิตการแต่งงานที่ยั่งยืนตลอดไปต้องร่วมกันปฏิบัติธรรม คำว่า ธรรม ในที่นี้หมายถึงคุณธรรมและจริยธรรม คุณธรรม ได้แก่ คุณสมบัติที่ดีภายในจิตใจ เช่น ความรัก ความสงสาร ซึ่งช่วยให้คนเราทำหน้าที่ของสามีภรรยาได้โดยไม่ต้องฝืนใจ จริยธรรม ได้แก่ หลักแห่งความประพฤติที่ดีงามที่จะต้องปฏิบัติเพื่อประโยชน์สุขของตนเอง ครอบครัว และสังคม จริยธรรมเป็นข้อปฏิบัติซึ่งกำหนดไว้โดยศาสนา วัฒนธรรม ประเพณีและกฎหมายว่าอะไรเป็นหน้าที่ที่สามีภรรยาจะต้องทำเพื่อความผาสุกแห่งครอบครัว ” ๑ คำว่า ครอบครัว เป็นคำที่สำคัญและมีความหมายซ่อนปริศนาธรรมอยู่ภายใน แยกมาจากคำว่า ครอบ กับคำว่า ครัว คำว่า ครอบ มีความหมายว่า การเอาของที่มีลักษณะภายในโปร่งคล้ายๆ ขันคว่ำปิดเอาไว้ และ คำว่า ครัว มีความหมายว่า เรือนหรือโรงทำกับข้าว ในที่นี้คือ บ้านหรือเรือนนั่นเอง ดังนั้น ครอบครัว จึงหมายถึง การครอบคนสองคนไว้ในบ้านหรือเรือนเดียวกันไม่ให้จากกันไปไหน เมื่อทราบความหมายอย่างนี้แล้ว ก็จะทำให้เห็นภาพชัดว่า การมีครอบครัวก็คือการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันภายใต้หลังคาบ้านหรือเรือนเดียวกันไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ การที่คนสองคนใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันนั้น ย่อมเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร เพราะความคิดเห็นของคนทั้งสองอาจมีไม่เหมือนกัน จำเป็นต้องมีการปรับหรือจูนความคิดเห็นเข้าหากัน เพื่อลดความบาดหมางกัน หรือโกรธเคืองกัน หากสามารถสร้างความคิดเห็นให้เป็นอย่างเดียวกันได้ ก็จะนำไปสู่การสร้างครอบครัวให้มีความสุข ดังนั้น จึงควรทราบหลักธรรมที่ใช้สำหรับการดำเนินชีวิตครอบครัว เพื่อสร้างความรัก ความเข้าใจกันให้มากขึ้น หลักธรรมที่อยากจะนำมาเสนอไว้ในที่นี้คือ หลักฆราวาสธรรม (ธรรมะสำหรับผู้ครองเรือน) ประกอบด้วย ๑. สัจจะ หมายถึง ความซื่อสัตย์ต่อกัน ความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ไม่นอกใจกัน สามีรักภรรยา ภรรยาก็รักสามีตอบ ต่างฝ่ายต่างจริงใจและซื่อสัตย์ต่อกัน ไม่มีความลับต่อกัน พูดง่ายๆ คือ ให้รักเดียวใจเดียว อย่าเป็นคนหลายใจ อย่าหึงกันมากจนเกินเหตุ เพราะจะนำไปสู่การผิดใจกัน ทำให้เกิดการโกรธเคืองกันและอาจทำให้ชีวิตครอบครัวพังลงได้ ๒. ทมะ หมายถึง การรู้จักข่มใจ หักห้ามใจในเวลามีเรื่องราวที่ไม่สบายใจเกิดขึ้น เช่น เวลาโกรธ ก็ให้พยายามข่มใจไม่ให้โกรธ หรือแสดงความโกรธนั้นต่ออีกฝ่าย เพราะจะทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจหรืออาจโกรธตอบ อันจะนำไปสู่การทะเลาะกัน เป็นต้น ๓. ขันติ หมายถึง ความอดทน หมายความว่า ให้รู้จักอดทนต่อคำกล่าวติชินนินทาของอีกฝ่าย หรือคนอื่นๆ เขาจะว่าอะไรก็ให้พยายามอดทนเอาไว้ เก็บอารมณ์เอาไว้ อย่าแสดงออกตอบ เพราะหากแสดงออกตอบก็จะนำไปสู่การก่อวิวาทกัน โกรธเคืองกัน ผิดใจกัน เวลาที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโกรธ ก็ให้อีกฝ่ายพยายามอย่าโกรธตอบ หรือทางที่ดีที่สุดให้เดินหนีไปให้ไกล อย่าพูดด้วย รอให้อาการความโกรธสงบลงเสียก่อน จึงค่อยพูดด้วย เพราะในเวลาที่โกรธคนเรามักจะขาดสติ มักไม่ยอมรับฟังเหตุผลของอีกฝ่าย มักใช้กำลังในการแก้ปัญหา ขืนพูดด้วยก็จะเข้าสำนวนไทยที่ว่า “สีซอให้ควายฟัง” หรือ “เป่าปี่ให้ควายฟัง” ทำอย่างไรก็ไม่รู้เรื่องหรอก เสียเวลาเปล่า ดังนั้น จึงต้องอดทนเอาไว้ ๔. จาคะ หมายถึง การเสียสละ กล่าวคือ การรู้จักเสียสละประโยชน์ส่วนตนให้แก่อีกฝ่าย หรือการรู้จักเสียสละความสุขของตนเพื่ออีกฝ่าย พยายามยอมกันในบางเรื่องหรือทุกเรื่อง สามียอมภรรยา ภรรยายอมสามี สามีรู้จักเสียสละต่อภรรยา ภรรยารู้จักเสียสละต่อสามี ต่างฝ่ายต่างรู้จักเสียสละต่อกัน ก็จะทำให้ชีวิตครอบครัวมีความสุขได้ หลักธรรมที่ได้หยิบยกเอามาฝากในโอกาสนี้ ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการสร้างความเข้าใจในการมีชีวิตครอบครัวได้เป็นอย่างดี สามารถปฏิบัติต่อกันได้อย่างถูกต้อง และสามารถประคับประคองชีวิตครอบครัวให้ดำเนินไปตามแนวทางแห่งความสุขและความสงบร่มเย็นได้ ทั้งมี เพราะต่างฝ่ายต่างมีหลักปฏิบัติต่อกัน ทำให้เห็นอกเห็นใจกัน และเข้าใจกันมากขึ้น เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็จะทำให้ผู้ครองเรือนทุกคนมีชีวิตครอบครัวที่มีความสุข ความเจริญ ไม่มีเรื่องที่ต้องคิดให้ปวดหัว สามารถขจัดปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ ทำให้รักกันมากขึ้น และสามารถใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า ตลอดจนถึงวันตายได้อย่างมีความสุข ..... เอกสารอ้างอิง ๑ พระธรรมโกศาจารย์. ธรรมกับความรักและการแต่งงาน (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www.mcu.ac.th/site/articlecontent_desc.php?article_id=569&menutype=1&

86
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: 3 มุม
« เมื่อ: 01 ต.ค. 2552, 06:42:24 »
                         

                         

87
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / 25 ตุลาคม 2552
« เมื่อ: 01 ต.ค. 2552, 06:39:42 »
                   

88
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / 3 มุม
« เมื่อ: 28 ก.ย. 2552, 07:15:49 »
001                   

002                   

003                   


                                                                                           ขอบคุณ

89
พระอาจารย์มาร์ค


90
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ลายเส้น
« เมื่อ: 24 ก.ย. 2552, 04:45:22 »
เป็นของอาจารย์ตูน ในวาระต่าง ๆ
                                           

                                           

                                             

91
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / to lemon
« เมื่อ: 16 ก.ย. 2552, 06:48:51 »
ไม่ต้องสงสัย

                         ขาหมูอร่อยมาก ๆ (ไม่รู้มีอีกหรือเปล่า :001:)

93



ในภาพอาจารย์ตูนกับศิษย์ขณะรอเข้าพิธี
ฝีมือ...ลายเข็ม..พัฒนาต่อเนื่อง...สักอย่างนี้เขาเรียกว่า.....สักเข้าขั้นเทพ...มิเกินเลย... :058:
ถูกต้องแล้วครับ

94
ภาพนี้ก็ลายมืออาจารย์ตูน

                                       

95
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / เชิญชวน
« เมื่อ: 07 ก.ย. 2552, 07:42:32 »
ในวันที่ 8 ตุลาคม 2552
           ขอเชิญร่วมทำบุญทอดผ้าป่า และถวายพระเพล ณ วัดนก กทม.
ในเวลาประมาณ 10.30 น. โดย หลวงพ่อต้อย วัดบางพระ

และในเวลา 15.19 น. ร่วมเทพระพุทธรูปประจำปีเกิดถวายกุศลแด่หลวงพ่อเปิ่น
ณ โรงหล่อพระวิชัย สามพราน นครปฐม (เข้าทางวัดหลวงพ่อไสว จะสดวกกว่า)
                                                  ขอบคุณ
           

96
*ต่อ*
*คุณฟื้น  ผลพัวพัน                                                                       290.-
*คุณศิริศักดิ์    แซลี้                                                                      800.-
*คุณฐิตาพร  โนมิตัง                                                                     580.-
*คุณจรูญ  ไชยวัฒน์                                                                     290.-
*คุณสามสุข ตาบุญ                                                                   2,580.-
*คุณพัชรีย์                                                                             9,900.-
*คุณขวัญ(2)                                                                         4,340.-
*คุณรุ่งโรจน์  ภิรมย์ยา                                                               1,000.-
*ดต.สนาน  สอนศิริ                                                                     100.-
*ซ้อเล็ก+เถ้าแก่เขียว(บ.โฮเบิร์ดอุตสาหกรรม)                                   2,000.-
*ตี๋ใหญ่                                                                                 2,400.-
*จสต.ประมุข  หนูพัฒน์                                                                 100.-
*คุณพุทธิชัย  รอดรันต์                                                                    20.-
*คุณตนนท์  พวงพิกุล                                                                     20.-
*คุณแป๊ะ  ฟักเพ๊ชร                                                                        20.-
*คุณสุทัศน์  ธรรมรูป                                                                      20.-
*คุณสุวรรณี  ลพพันธ์ทอง                                                              100.-
*คุณพีระนันท์  จอกเงิน                                                                 100.-
*คุณสมทรง  คงสอน                                                                    100.-
*คุณหมี                                                                                     20.-
*ดต.ธนสันต์  โสลเพ๊ชร                                                                  60.-
*คุณสุกัญญา  เขานิลดี                                                                 100.-
*-------------                                                                       3,756.-
*พระอาจารย์ปื๊ด  วัดห้วยขวาง                                                       2,000.-


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


ในช่วงเช้า
**พระอาจารย์นันท์   มอบให้มา   10,000.-


***คุณกุ้ง  1,500.- คุณเดช(สมาชิกเวป) 1,500.-
++ต้องขออภัยท่านทั้งสองด้วย ล๊อกเก็ตที่ระลึกหมด
แต่ได้จัดเตรียมของทดแทนให้แล้ว คิดว่าคงถูกใจแน่นอน
(ถ้าไม่พบคุณเดช ก็จะฝากไว้กับคุณกุ้ง)

**ขอบคุณ**      
    

97
*ต่อ*
*คุณแสงเดือน  ศรีแสงยศ                                                         100.-
*คุณวรวุฒิ  บุญถนอม                                                              709.-
*ดต.วินัย   ใบโพธิ์ทอง                                                              40.-
*วิวัฒน์   กลิ่นหอมรื่น                                                              100.-
*คุณปราณี  ขีดเข็ม                                                                  40.-
*คุณวรรณี   ตรีอุดมโชค                                                            20.-
*คุณไพลาภ  เฮงประสาทพร                                                    5,000.-
*พี่ลี                                                                                   500.-
*คุณบุญเชิด  รอดรัต                                                                100.-
*คุณธงชัย  จอกเงิน                                                                100.-
*ครอบครัวสุวรรณวารี                                                               100.-
*คุณพริก ระเบียบ                                                                   100.-
*คุณสมยศ  กลิ่นจันทร์หอม                                                       100.-
*คุณเกศรินทร์   แดงสีผูร                                                          100.-
*คุณอมตเทพ  อริยกิจไพศาล                                                    100.-
*คุณอภิวัฒน์    สาศิริ                                                              100.-
*คุณสมจิตติ  นวมสำลี                                                             200.-
*คุณประสาน  อุทัย                                                                100.-
*คุณวลิต วัชรมน  รุ่งเจริญไพศาล                                                200.-
*คุณครูพัทธนันต์  ลาภยศ                                                        300.-
*คุณอนุชา  แซ่เฮี้ยว                                                             1,000.-
*คุณประกิต  ศรีพนากุล                                                            400.-
*คุณสมบัติ  ทศภชัย                                                                210.-
                                       

98
**พระเดชพระคุณ  พระครูสุภัทรคุณ(หลวงพ่อพวง)  วัดตะโน กรุงเทพฯ
    
   ละสังขารโดยสงบแล้วที่ โรงพยาลธนบุรี   เมื่อเช้าวานนี้
  กำหนดรดน้ำ วันนี้ จนถึงเวลา 17.00 น.
   ศิษย์ ศิษยานุศิษย์ ท่านที่เคารพ ขอเชิญร่วมแสดงความอาลัย โดยทั่วกัน
  
**  หลวงพ่อพวง เป็นศิษย์หลวงปู่โชติ เจ้าตำหรับ เชื่อกคาดเอว อันเลื่องชื่อ  **


 ขอกราบคารวะ และอาลัยรักยิ่งในฐานะ พระอาจารย์ มหาเถระที่น่ากราบไหว้บูชา
ขอให้ดวงวิญญาณสถิต ณ แดนนิพพาน เป็นที่สุด
                                                           กราบคารวะ
                                                            

                                                                          

*กำหนดบำเพ็ญกุศล ณ วัดตะโน  ซ.พณิชยการธนบุรี

99
**12  สิงคหาคม  2552***
*ตือ  ปากน้ำ                                                 3,000.-
*คุณสมชายลิ้มไชยวัฒน์                                  20,000.-
*คุณแมว แด็น อ้วน                                       17,000.-
*คุณไพจิตร-ประไพย์   มูลเหลา                            720.-
*คุณวันนา   สอนกล้า                                         100.-
*คุณกุ้ง-แซะ                                                3,500.-
**แฟนหนวด                                               2,500.-
*คุณสุรชัย-สุภรักาฺ  สุรวิโย                                    40.-
*คุณพรพรรณ  รัตภากุล                                   1,600.-
*คุณวารินีย์  ถวิลไพร(เอก)                               1,510.-
*คุณไพโรจน์  มงคลหลี                                      909.-
*ร้านลุงบิ                                                     1,000.-
*คุณอนุชา  มูลประเสริฐ                                    3,000.-
*คุณสมทรง   คงสอน                                      2,060.-
*ยังมีต่อ* 

100
*เพิ่มเติม***12 สิงหาคม2552**
*คุณวิรัช  -  ภัทริน (แอ๊ว)   เอกอ่อนแสง                                    2,000.-
*porvfc                                                                            560.-
*คุณเล็ก    ลูกเอ                                                                2,000.-
*ขอบคุณ*

101
*เพิ่มเติม*
*คุณชิตสุดา(ไก่)   หงษ์ภักดี(2)   + เพื่อน ๆ                                                                   2,150.-
*คุณสงกรานต์  บุตรวงศ์   รวบรวมสมทบ(2)                                                                     7,420.-
*ขอบคุณ*

102
*เพิ่มเติม*
*คุณจตุรงค์(jaturong)  ลำประดิษฐ์(3)     รวบรวมมา                                   4,986.-
++รายนามผู้ที่ร่วมบุญมากับคุณจตุรงค์++มีดังนี้
++86/รัชฎาพร อิรทศรี/นายประสิทธิ์-ด.ญ.พรนภา  บัวทอง/นายคาวี ตาพล/ด.ช.อดิศ/
น.ส.สุมาลี  พระมิ่ง/คุณฉัตรชัย เชี่ยวชาญ/ด.ช.ฉัตรณรงค์ เชี่ยวชาญ/
คุณสีทอง-ปราณี-ด.ญ.โชตินภา  เมืองแวง
คุณวุทธิชัย-คุณศริณยา  เจิมสันติกุลชัย และครอบครัว
สมศักดิ์-ผ่องใส-พิจิตรา-ยศกร-วิภา    สมบูรณ์ภัทรกิจ
คุณรัชภูมิ  สุริยนต์
คุณหนึ่ง  อินทร์ขลิบ
คุณกรณ์พงษ์-ปุญชรัสมิ์-เบญญาภา    ต่วนเพ๊ชร์
คุณณัฏฐนันท์-ประนอม   ต่วนเพ๊ชร์
คุณบุญพระ  พจน์ปฎิญญา
คุณญานิน  ปานรัศมี  และครอบครัว
คุณบุญเย็น-นางสม   ยศปัน  และครอบครัว
น.ส.วงเดือน ชัยสงครามและครอบครัว/คุณทรรศนีย์  สุวรรณรังษี และครอบครัว/คุณเกษรา หงษ์ทอง และครอบครัว
คุณลุงสมนึก
พนักงานบริษัท CARPETS INTER จำกัด


*ขอบคุณ*
 

103
*เพิ่มเติม*

*คุณสุรสิทธิ์   วิสุทธิแพทย์                                                                500.-
*คุณหนุ่ม-คุณจันทร์(ลูกศิษย์หลวงพ่อติ่ง)                                            1,000.-
*คุณโชติภัทร (มหาชัย(ลูกศิษย์พระอาจารย์ตั๊ก))                                   1,500.-
*คุณสิริชัย     ธนนันท์พันธ์(พระอาจารย์ตั๊ก)                                           500.-
*คณะศิษย์เซนต์หลุย์                                                                    5,912.-
*เจ๊อ้อย  บางรัก(3)  ฝากพระอาจารย์ตูนมา                                        11,210.-

*ขอบคุณ*

104
**หมายเหตุ**
                       *ถ้ามีรายชื่อผู้หนึ่งผู้ใด ตกหล่น ไม่ได้กล่าวถึง
                         พิมพ์ผิดพลาด  ก็กราบขออภัย ณ ที่นี้ด้วย
                      


                      *ด้วยญาณวิถีใด ๆ ก็ตาม หลวงปู่เปื่นได้รับทราบ
                        คงอนุโมทนา ที่รับรุ้ได้ถึง แรงศรัทธทา  และความ
                       สามัคคี ของศิษยานุศิษย์ ขอกูศลผลบุญในกาลนี้
                        ยังปิติ และสำเร็จประโยชน์ ในกุศลนี้เป็นที่สุด...

                                                                  " 8 " "000"

                                                                    :058:/???









105
*เพิ่มเติม*

*เจ๊อ้อย(2) คุณเก่ง                รวบรวมมา                                                        6,980.-
*พระมาร์ค   วัดกลางบางพระ                                                                         2,390.-

*ขอบคุณ*
 

106
*เพิ่มเติม*

*คณะศิษย์พระราม 3                                                                                  4,620.-
*คุณศรีอุบล    สุนทรศิริ                                                                               1,000.-
*จ.ส.ต.มาลา-นางพรพรหม-ด.ญ.มานิตา     สืบเสน                                                200.-
*นางมาลัย การสมบุตร/นางดาวเรือง ลียากาศ/คุณสุบรรณ-ฉวีวรรณ  ศรีสร้อย
  คุณวัลลภ-ดาวเรือง-อรุณ-ปภัสรา-ด.ช.กรวิชญ์     ลียากาศ
  จ.ส.อ.อภิรัตน์-นวรัตน์-ด.ช.ภูบดี โกมุติกานนท์
  คุณสุวิทย์-นางดาวเรือง-ด.ช.สิทธินนท์  การสมบุตร
  สอ.วัฒนา  แก้วมา                                                           ร่วมสมทบ               670.-

*ขอบคุณ*   

107
*เพิ่มเติม*

*คุณสมคิด และครอบครัวรุ่งโรจน์เบญจพล
  อุทิศให้ นายกวาง  รุ่งโรจน์เบญจพล                                                         2,000.-
*คุณเผ่า  คลองเตย                                                                              1,500.-
*คุณ job                                                                                            500.-

*ขอบคุณ*

108
บทความ บทกวี / ตอบ: ถวายสักการะ
« เมื่อ: 08 ส.ค. 2552, 07:09:26 »
                    นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส


นะมัตถุ รัตตะนัตตะยัสสะ                                 สัทธัมเม ฐิตะคุณาภิปะยุตตัง
        เสฎฐัง สิสสานัง คะรุฏฐานิยัง                    อุตตะมะปะชานาถะวิสสุตัญจะ
มะหาเถรัง                                                  นะมามิหัง
       ตัสสะ ตัสสานุภาเวนะ                              สัพพะโสตถี ภะวันตุ เมฯ





*คำแปล*

     ขอความนอบน้อมจงมี แก่พระรัตนตรัย ข้าพเจ้า ขอนบน้อมพระมหาเถระมีนามปรกฎดั่ง ผู้เป็นที่พึ่งของหมู่สัตว์อันสูงสุด
ผู้ควรดำรงอยู่ในฐานะแห่งครูของเหล่าศิษย์ทั้งหลาย ผู้ประเสริฐสุด ผู้ประกอบยิ่งด้วยพระคุณอันตั้งมั่นในพระสัทธรรม
     ด้วยอานุภาพแห่งความนอบน้อมในคุณพระรัตนตรัย และบารมีของหลวงพ่อเปิ่น ขอความสุขสวัสดิ์ทั้งมวล
จงบังเกิดมี  แก่ข้าพเจ้าเทอญฯ

**กราบขอบพระคุณ**
*พระครูธีรธรรมนันท์                     วัดบางแวก
*พระมหาสุรินทร์ (มจร.)                วัดประยูรฯ                       

109
ขอแสดงความยินดีกับบอร์ดใหม่ด้วย


สมัครสมาชิกแล้ว   :053: :053: :053: :053: :053:

110
*เพิ่มเติม*

*คุณสุธี  กลิ่นจำปา+น.ส.นวิยา   ตังคโณบล (ศิษย์หลวงพี่ตั๊ก)                                         1,500.-


*คุณชิตสุดา(ไก่)  หงษ์ภักดี+เพื่อน ๆ (...เพื่อน ๆ พ.ร.ด.(หงษ์ขาว))                                7,124.-  **ขอบคุณเพื่อน ๆ**

*ขอบคุณ*

111
บทความ บทกวี / ถวายสักการะ
« เมื่อ: 08 ส.ค. 2552, 04:52:09 »
                    นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส


นะมัตถุ รัตตะนัตตะยัสสะ                                 สัทธัมเม ฐิตะคุณาภิปะยุตตัง
        เสฎฐัง สิสสานัง คะรุฏฐานิยัง                    อุตตะมะปะชานาถะวิสสุตัญจะ
มะหาเถรัง                                                  นะมามิหัง
       ตัสสะ ตัสสานุภาเวนะ                              สัพพะโสตถี ภะวันตุ เมฯ



112
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / แนะนำ
« เมื่อ: 07 ส.ค. 2552, 07:25:52 »
วันนี้ ถ้าท่านใด ดูรายการ *บันทึกลึกลับ*  ไม่ทัน
ลองแวะดูย้อนหลังได้ที่http://www.thaifreetv.net/tv/replay_tv.php
ผิดพลาดประการใดขออภัย

113
*เพิ่มเติม*
*คุณอู๊ด  บางแค(ทาอ้าย)                                               3,000.-
*คุณขวัญ(ลูกป๋าตลาดพลู)+เพื่อน ๆ                                   4,766.-

*ขอบคุณ*

114
 :114: :114:
                   
                                     

                                                     

                                                     
                                           

                                                                                          :050: :050: :050:

115
 :114:
               
                                 
                                                 
               
                                 
                                                                                                                                      :050: :050:

116
this morning

       
                         
                                       


                                                                                                                        :050: :050: :050:

117
                                                **************ขอพระองค์ทรงพระเจริญ*************

118
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: test
« เมื่อ: 06 ส.ค. 2552, 07:28:21 »
**เป็นการแสดงธาตุประการหนึ่ง ฃึ่งสนับสนุนกันและกัน
ฯลฯ  กำลังศึกษาอยู่เหมือนกัน

ผิดพลาดขออภัย

119
*เพิ่มเติม*

*คุณกิตติชัย   ธรรมศิริพงษ์                                                2,000.-

*ขอบคุณ*

120
**ท่านปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์)

ได้มีเมตตาจิต มอบ++พระพุทธปาฏิหารย์++(ฝังตะกรุด+โรยแร่+ฝังพลอย+เศษพระ)
                         หลวงพ่อเอ็น วัดเขาราหู  จ.สุราษฎ์ธานี

จำนวนหนึ่ง เพื่อแจกจ่ายแด่สมาชิก และท่านที่มาร่วมงานบุญ ในวันที่ 12 สิงหาคม 2552
  จะมอบหมายให้ท่าน โองการฯ ช่วยเป็นธุระดำเนินการด้วย


ขอขอบคุณ และอนุโมทนา  ท่านเก่ง ณ ที่นี้อีกวาระหนึ่ง

                                             


                             

                         

121
                                 


                                            ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

122
*เพิ่มเติม*


*พระครูสุจิตตราภรณ์(หลวงพ่อเจตน์ วัดนก)                                          10,000.-

*ผญ.เชิด พุ่มกัมพล                                                                        1,500.-
*คุณบุญลือ  ปิ่นสมนาม                                                                    3,000.-


*กราบขอบพระคุณ**ขอบคุณ*

123
หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
.........เคยสอนไว้ว่า....มีเวลาหายใจ  ก็มีเวลาปฏิบัติ...


124
*เพิ่มเติม*

คุณสงกรานต์ บุตรวงศ์ พร้อมครอบครัว                                                         1,500.-

*ขอบคุณ*           

125
ตัวอย่าง

                               

126
*เพิ่มเติม*

*คุณเอ้  วัดดอกไม้                                                        300.-
*เจ๊อ้อย(1)                                                               3,020.-
*อ.ก๊อต  ศิษย์พระอาจารย์ต้อย                                        5,000.-

*ขอบคุณ*

127
ที่มาhttp://www.palapanyo.com/content/node/257



บันทึกธรรม เรื่อง "โมหะมันให้มา"
เขียนโดย dy เมื่อ จ, 2008-01-14 13:41 Tags:

    * การแสวงหาความสุขของมนุษย์

โดยพระชุมพล พลปญฺโ
๓๐ พ.ย. ๒๕๓๖

.....โมหะมันมากำหนดให้ว่า

รูปอย่างนี้น่าดู รูปอย่างนี้ไม่น่าดู

ความจริง รูปที่น่าดูก็ไม่มี รูปที่ไม่น่าดูก็ไม่มี

.....โมหะมันมากำหนดให้ว่า

เสียงอย่างนี้น่าฟัง เสียงอย่างนี้ไม่น่าฟัง

ความจริง เสียงที่น่าฟังก็ไม่มี เสียงที่ไม่น่าฟังก็ไม่มี

.....โมหะมันมากำหนดให้ว่า

กลิ่นอย่างนี้น่าดม กลิ่นอย่างนี้ไม่น่าดม

ความจริง กลิ่นที่น่าดมก็ไม่มี กลิ่นที่ไม่น่าดมก็ไม่มี

.....โมหะมันมากำหนดให้ว่า

รสอย่างนี้น่าลิ้ม รสอย่างนี้ไม่น่าลิ้ม

ความจริง รสที่น่าลิ้มก็ไม่มี รสที่ไม่น่าลิ้มก็ไม่มี

.....โมหะมันมากำหนดให้ว่า

โผฏฐัพพะอย่างนี้น่าถูก โผฏฐัพพะอย่างนี้ไม่น่าถูก

ความจริง โผฏฐัพพะที่น่าถูกก็ไม่มี โผฏฐัพพะที่ไม่น่าถูกก็ไม่มี

.....โมหะมันมากำหนดให้ว่า

ธัมมารมณ์อย่างนี้น่ารู้ ธัมมารมณ์อย่างนี้ไม่น่ารู้

ความจริง ธัมมารมณ์ที่น่ารู้ก็ไม่มี ธัมมารมณ์ที่ไม่น่ารู้ก็ไม่มี


ทุกสิ่งทุกอย่างทุกประการ ถูกโมหะมันหลอกให้หัวหมุนหัวปั่นไปเอง


พระชุมพล พลปญฺโ

๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๓๖



*เห็นว่าน่าจะมีประโยชน์สำหรับนักปฏิบัติ*

ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วย

128
ที่กุฏิพระอาจารย์ติ่ง มีให้บูชาครับ

129
*เพิ่มเติม*

*ร.อ.กฤษ โชติจิระมานนท์ และกำลังพลกองพลทหารราบที่ 6
*ร.อ.หญิง ชุติมา ขจรกลิ่น และกำลังพลกองการกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ กรมการทหารสื่อสาร
*ร.ร.กวดวิชาวรพลติวเตอร์
                                                    ร่วมสมทบ               5,800.-

**ขอบคุณ และอนุโมทนา**

130
หลวงพ่อทองกลึง วัดเจดีย์หอย เป็นพระเถระซึ่งคุ้นเคย
กับหลวงพ่อเปิ่นเป็นอย่างยิ่ง และปัจจุบันก็สนิทสนมคุ้นเคย
กับพระอาจารย์ในวัดบางพระหลายรูปด้วยกัน
เป็นพระเถระผู้ใหญ่ที่ใจดี และมีเมตตาธรรมสูงรูปหนึ่งในประเทศไทย
ไม่ทราบปัจจุบันหลวงพ่อยังชมชอบกีฬาแข่งเรือยาวอยู่หรือเปล่า
กราบคารวะหลวงพ่อทองกลึง ณ ที่นี้ด้วยครับ

131
เป็นบทความที่มีคุณค่ามาก
เครดิตนักเขียน คุณไตรเทพ ไกรงู นักเขียนบทความคุณภาพ
ขอบคุณครับ

132
หนุมาน กับปลาไหล
น่าจะใช้เครื่องสัก
ฝีมือ อาจารย์ตูน เยี่ยมยอดอยู่แล้ว คุณภาพระดับ 5 ดาว
ผิดพลาดขออภัยด้วย
ขอบคุณที่นำเสนอ

133
*เพิ่มเติม*

พระอาจารย์หมี  วัดบางพระ                                          5,000.-

*กราบขอบพระคุณ*

134
*เพิ่มเติม*

*พระอาจารย์ต้อย(+คณะศิษย์)                                         40,000.-

*กราบขอบพระคุณ*

135
*กำหนดการ*  (โดยสังเขป)
วันที่ 12 สิงหาคม 2552
เวลาประมาณ  10.30 น พระเถราจารย์เจริญพระพุทธมนต์
                  11.00 น.ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ทั้งหมดที่มา
                              เสร็จแล้วอนุโมทนา  เป็นเสร็จพิธี
                  ประธาน
                  พระครูอนุกูลพิศาลกิจ
















 

136
*เพิ่มเติม*

**พระวีระวัชร์  ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์)                                                                               1,500.-

*ขอบคุณ*

137
*เพิ่มเติม*

*puchong                                                              1,500.-

*ICELAND                                                              6,000.-

*ขอบคุณ*

138
เพิ่มเติม
*คุณวิสุทธิ์ ศรีรัตนา+ชลาพุชะ+รัตนวัลย์                                                                600.-
*คุณจตุรงคฺ์ ลำประดิษฐ์(jaturong) 2 ครั้ง                                                           1,486+435.50.-
*ร้านนกกะลิง(บางพระ)รวบรวมมา                                                                       1,500.-
**อาจารย์หนวด  อยู่คงและภรรยยาและ...                                                            3,000.-
*ขอบคุณ*

หมายเหตุของคุณภุชงค์ รับทราบจาก หลวงพี่เวป.. แล้ว
*ขอบคุณ*               

139
ขอแสดงความยินดีด้วยอีกครั้ง
ขอให้ประสบความสำเร็จดังใจทุกประการ
สาธุ สาธุ สาธุ
ขอบคุณ

140
**คณะศิษย์พระราม3 แจ้งว่าจะนำ ต้มแซ่บมาเลี้ยงเพิ่มเติมอีกอย่าง
                                                                  :114:ขอบคุณ :114:

141
*เพิ่มเติม*
*พระสน (วัดเวฯ(หลวงพ่อสำเนียง))                          1,500.-(ครั้งที่2)
*ครอบครัวจันเทียน                                               1,500.-
*ขอบคุณ*   

142
**เพิ่มเติม**
*พระอาจารย์ตูน วัดคณิกาผล + ศิษย์สายลาดกะบัง                      10,000.-
*คุณสุพรรณ  ด้วงเปียสกุล                                                     1,500.-(สมาชิกท่านนี้แจ้งคงามประสงค์จะมาร่วม-
ทำบุญกฐินที่วัดด้วย)
**ขอบคุณ**   

143
อาจารย์หนวด(บุญช่วย)
จะมาสักที่วัดบางพระ กุฏิพระอาจารย์ต้อย
จะมาวันเสาร์และจะกลับบ้านเมืองกาญฯวันจันทร์
เมื่อก่อน สาย ๆ วันจันทร์ก็กลับแล้ว
ระยะหลังลูกศิษย์มารอมากก็เลยสักจนเย็นวันจันทร์
หลัง 12 สิงหาคม 2552 ก็จะเดินทางไปต่างประเทศหลายวัน

144
เพิ่มเติม

*คุณประเสริฐ(โก๋)    สุวรรณศรี                                   1,500.-
*ครอบครัวทองไพฑูรย์                                             1,500.-
*คุณเผือก (วัดพลับ+วัดนก)รวบรวมมา                          3,550.-          (ราบชื่อรวมประกาศทีหลัง)
*คุณทำเนียบ เพ็ชรดี คุณศุภวรรณ  โสภาโชติ                  1,500.-


             ขอบคุณ

145
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: where3
« เมื่อ: 13 ก.ค. 2552, 07:05:57 »



                                         


รูปแรกเป็น พระนอน วัดขุนอินทประมูล

รูปที่สอง หลวงพ่อโต วัดป่าเลไลย์

สาธุครับ ....  :114:




ภาพด้านบนพระนอน ขอเดาว่า เป็นพระนอนวัดขุนอินทร์ประมูลแล้วกันครับ...

ภาพด้านล่างขอเดาว่า หลวงพ่อโต วัดป่าเลไลย์สุพรรณบุรีครับ...


...กราบนมัสการพระอาจารย์ และขอบพระคุณท่านooo มากครับ สำหรับกิจกรรมดีๆ...





you win

146
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / where3
« เมื่อ: 13 ก.ค. 2552, 04:21:22 »
part3

                           
                                               

147
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: where2
« เมื่อ: 13 ก.ค. 2552, 04:48:56 »
ขอบคุณท่าน ooo  สำหรับรูปภาพ ครับ 

มนัสการหลวงพ่อพระพุทธรูปหลวงพ่อพระขาวด้วย วัดพระขาว จ.อยุธยา ด้วย ครับ  :054:
กราบนมัสการหลวงพ่อพระขาว อันศักดิ์สิทธิ์ แห่ง วัดพระขาว อยุธยา


สำหรับทั้ง 2 ท่าน พระอาจารย์จะมอบ






พระผงหลวงพ่อเปิ่น รุ่นอาเสี่ย  ให้ท่านละ 10 องค์
และอาจจะมีของแถมให้เล็กน้อย
ขอบคุณ

 :054: กราบขอบพระคุณ ความเมตตาพระอาจารย์เป็นอย่างสูง ครับ  :054:

ขอบพระคุณท่าน 000 ด้วย ครับ  :054:

 



ในส่วนของท่านโองการ ได้รับไปแล้ว 

ทั้งพระผงรุ่นอาเสี่ย
แถมด้วยบัวบังใบอีกจำนวนหนึ่ง

148
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: where2
« เมื่อ: 10 ก.ค. 2552, 07:50:58 »
ขอบคุณท่าน ooo  สำหรับรูปภาพ ครับ 

มนัสการหลวงพ่อพระพุทธรูปหลวงพ่อพระขาวด้วย วัดพระขาว จ.อยุธยา ด้วย ครับ  :054:
กราบนมัสการหลวงพ่อพระขาว อันศักดิ์สิทธิ์ แห่ง วัดพระขาว อยุธยา


สำหรับทั้ง 2 ท่าน พระอาจารย์จะมอบ
พระผงหลวงพ่อเปิ่น รุ่นอาเสี่ย  ให้ท่านละ 10 องค์
และอาจจะมีของแถมให้เล็กน้อย
ขอบคุณ

149
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / where2
« เมื่อ: 09 ก.ค. 2552, 10:00:33 »






                                   



                                             :001: :001: :001:










150
สำหรับอาหารเลี้ยง มีผู้แจ้งความประสงค์เป็นเจ้าภาพบ้างแล้ว                              เพิ่มเติม
*เจ๊แดง   วัดราชฯ(คุณเย็นจิต  บุญชัยศรี)      ลอดช่อง(วัดเจตน์)  แกงส้ม     ทอดมัน
*สมาชิกWEB                                     ลูกชิ้นปิ้ง
*คุณอ๊อดบางแค+เพื่อน ๆ                     ข้าวมันไก่   หมู+เนื้อสะเต๊ะ
*คณะศิษย์วัดนก                                ยังไม่ทราบอาหาร
*คุณต้อม  สุวรรณภูมิ                           กะเพาะปลา
*คณะศิษย์พระราม 3                           ส้มตำ  ไก่ทอด
*คุณต่ายวัดระฆัง                                ขนมจีน  น้ำพริก น้ำยา

ขอบคุณ :114:                                                                   :114: :114:

151
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: w h e r e
« เมื่อ: 08 ก.ค. 2552, 07:55:35 »
พระมหาพุทธพิมพ์ประธาน วัดไชโยวรมหาวิหาร จ.อ่างทอง
หลวงพ่อโต วัดไชโยวรวิหาร อ่างทอง   

...ผมตอบถูกคร๊าบ....

...ขอรางวัลผมหน่อยคร๊าบ.... 15;























วันนี้พระอาจารย์ได้มอบรางวัลให้ไปแล้ว  ไม่รู้ถูกใจ 2 หนุ่มหรือเปล่า

152
สำหรับอาหารเลี้ยง มีผู้แจ้งความประสงค์เป็นเจ้าภาพบ้างแล้ว
*เจ๊แดง   วัดราชฯ(คุณเย็นจิต  บุญชัยศรี)      ลอดช่อง(วัดเจตน์)  แกงส้ม
*สมาชิกWEB                                     ลูกชิ้นปิ้ง
*คุณอ๊อดบางแค+เพื่อน ๆ                     ข้าวมันไก่   หมู+เนื้อสะเต๊ะ
*คณะศิษย์วัดนก                                ยังไม่ทราบอาหาร
*คุณต้อม  สุวรรณภูมิ                           กะเพาะปลา
*คณะศิษย์พระราม 3                           ส้มตำ  ไก่ทอด

ถ้ามีเพิ่มเติมจะมาแจ้งให้ทราบต่อไป
ขอบคุณ :114:

153
ต่อ
พระสน   วัดเวฯ(หลวงพ่อสำเนียง)                                        1,500.-
พีจ๋าย(ศิษย์ชาวมาเลย์)                                                      2,000.-      
คุณภัทธิ์พนธ์ นิลจินดาภูรีกุล                                                1,500.-
คุณอุไร   อภัยแสน                                                          1,500.-
คุณอภิรักษ์  เบญญโษณวนนท์                                             1,500.-
คุณเสงี่ยม  ศรีเกตุ                                                           1,500.-
ร้าน no doubt                                                              2,000.-
ศิษย์พระอาจารย์ต้อย 2 สาย รวม                                        7,000.-
คุณเผือก วัดพลับ(+วัดนก)                                               1,500.-
คุณบวรพร  วีระเชียรภิญโญ                                                1,500.-
คุณนรา  มังคล้าย (เอ  บางแค)                                          1,500.-
คุณเกรียงไกร   แซ่อึ้ง                                                     1,500.-
 :114: :114:    

154
**รายชื่อคณะศิษย์พระอาจารย์หนึ่ง
ส่วนใหญ่ได้แก่ศิษย์วัดห้วยขวาง อาจารย์ปื๊ด
จะประกาศรายชื่อภายหลัง

ขอบคุณ

ผ้าป่าของคุณนนท์(โองการ..) 2 ครั้ง และในงานไหว้ครูอาจารย์หนวด
2 ยอดนี้ ไม่ได้ลงรายการนี้
เพราะ พระอาจารย์ต้อย ให้จัดทำรายการอื่น
ยอดรวม ประมาณ 60,000.-

155
****
คุณไพลาภ   ภัทรเหล่าตระกูล                             1,000.-
คุณสิริวัฒน์  อำนาจสมบูรณ์                                1,000.-
คุณเบิร์ด  บางแค                                               500.-
ผู้การเสือ                                                     3,500.-
พ.ต.อ.อดุลย์ รัตนภิรมณ์+เพื่อน นพต.29            12,000.-
นายก อบตแม่สาย+คุณเอนก                             1,000.-
คุณตี้                                                          1,500.-
คุณที+คุณมล                                               3,000.-
คุณต้อม (สุวรรณภูมิ)                                      1,300.-
คุณฉันทิภา  พูลเกษม                                     2,000.-
คุณอิ๊ก  สายไหม                                          3,000.-
พระเบิร์ด วัดบางพระ                                      1,500.-
คุณตุ้ย                                                      2,000.-
พระอาจารย์หนึ่ง+คณะศิษย์ 40,000+16,500+1,500.-***
(ยังมีต่อ)     

156
ก็ขอแสดงความยินดีกับผู้การเสือ ที่ได้เผยแผ่บารมีหลวงพ่อเปิ่น จนเป็นที่รู้จักกันมากมาย
และในโอกาสดี วันที่12 สิงหาคม 2552
ผู้การเสือ ทนรบเร้าจากผู้ที่คุ้นเคยไม่ไหว
ยินดีจะเปิดวิชา ลงน้ำมัน มหานิยม โชคลาภ
ตามตำรับ หลวงพ่อเปิ่นและหลากหลายอาจารย์ที่
ได้สะสมประสบการณ์มา
โปรดคอยติดตามความคืบหน้าต่อไป

157
ยันต์แม่ทัพ (หรือ นะมหาทมึ่น)
ขอแนะนำให้สัก กับพระอาจารย์ต้อย หรือ พระอาจารย์แป๊ว
ผิดพลาดประการใดขออภัย

158
แท้ครับ   ดีใจด้วยได้ของดีไว้บูชา

159
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: w h e r e
« เมื่อ: 02 ก.ค. 2552, 08:30:32 »
พระมหาพุทธพิมพ์ประธาน วัดไชโยวรมหาวิหาร จ.อ่างทอง
หลวงพ่อโต วัดไชโยวรวิหาร อ่างทอง   

...ผมตอบถูกคร๊าบ....

...ขอรางวัลผมหน่อยคร๊าบ.... 15;






















ได้เลยจ้า  12 สิงหาคม มารับที่วัด :053: :053:

160
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: w h e r e
« เมื่อ: 02 ก.ค. 2552, 05:41:36 »
 พระมหาพุทธพิมพ์ประธาน วัดไชโยวรมหาวิหาร จ.อ่างทอง
หลวงพ่อโต วัดไชโยวรวิหาร อ่างทอง   

161
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / w h e r e
« เมื่อ: 02 ก.ค. 2552, 03:01:54 »
today





                                                                                                                    :114:

162
บรรยากาศวัดพระขาว

                                         

                                         

                                         

                                         


ไปวัดพระขาวครั้งใด ก็คิดถึง หลวงปู่ทิม ยิ่งขึ้น
ขอบนอบน้อมกราบคารวะถึงหลวงปู่เสมอยิ่งครูอาจารย์
ณ ที่นี้อีกครั้งหนึ่ง :114: :114: :114:






163
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / กรุงเก่า
« เมื่อ: 28 มิ.ย. 2552, 09:39:48 »
3 วัด ที่กรุงเก่า วันนี้
                         วัดตูม น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์

                         วัดโพธิ์เผือก พระเจ้าตาก

                         วัดพระขาว



                                                                                                                             :114: :114: :114: :114: :114:

164
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / new photo
« เมื่อ: 23 มิ.ย. 2552, 05:05:25 »
mr.rabbit show
                                                 
                                             

                                             

                                             

                                             ***********************************************************


167
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: มาแล้ว
« เมื่อ: 20 มิ.ย. 2552, 04:11:50 »
confirm



                                                        



                                                                                                 :089: :089: :089:

168
เห็นแล้ว น่าเลื่อมใสศรัทธา
ขอบคุณที่นำเสนอสิ่งดี ๆ

169
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / มาแล้ว
« เมื่อ: 19 มิ.ย. 2552, 09:41:57 »
ขณะนี้ พระอาจารย์หนึ่ง ได้มาอยู่ที่วัดบางพระแล้ว
ประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนที่จะไปปฏิบัติธรรม
ในฤดูเข้าพรรษา 2552 ที่โคราช
ลูกศิษย์ สหธรรมมิก อย่าลืมแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนบ้าง

170
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: yesterday
« เมื่อ: 16 มิ.ย. 2552, 07:36:28 »
เป็นงานปลุกเสกวัตถุมงคลและ สมเด็จฯพระนเรศวร
ที่วัดธรรมมิกราช อยุธยาฯ

171
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: yesterday
« เมื่อ: 14 มิ.ย. 2552, 11:31:38 »



thankyou  bye bye

172
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: yesterday
« เมื่อ: 14 มิ.ย. 2552, 11:26:48 »




173
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / yesterday
« เมื่อ: 14 มิ.ย. 2552, 11:21:03 »




174
รูปภาพและวีดีโอสายวัดบางพระ / [*]-[*]
« เมื่อ: 08 มิ.ย. 2552, 01:05:29 »
1




                                               a


jam

175
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: today moring
« เมื่อ: 05 มิ.ย. 2552, 10:32:03 »
report by....................

                                                   


*************************
*************************
                                                                           **************************************
                                                                           **************************************

176
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: today moring
« เมื่อ: 05 มิ.ย. 2552, 10:29:41 »
 :090: :090: :090:

                                                   

                                                   
                                                   

                                                   

                                                                                                                  :114: :114: :114: :114: :114:

177
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / today moring
« เมื่อ: 05 มิ.ย. 2552, 10:21:53 »
 :090: :090:

                                                     

                                                     

                                                     

                                                                                                                                   :114: :114: :114: :114:                     

178


                                                                                ** บอร์ดหลวงปู่ทิม**

179
congratulation



                                                                                                                 :114: :114: :114: :062:

180
คือ..

กวางอยากรู้ว่า

รูปภาพกับ หัวข้อกระทู้

มันสัมพันธ์กันตรงไหนอ่าคะ :062:

อันนี้สงสัยจริงๆค่ะ ไม่ได้กวนอะไร  :095:


...หมายถึงพระอาจารย์องค์ใหม่ ในวัดบางพระไงครับน้องกวาง.....

...วัดบางพระเปรียบเหมือนบาตรน้ำมนต์ ที่มีพระอาจารย์องค์ใหม่ๆ เปรียบเสมือนน้ำมนต์ใหม่ เพิ่มเติมมาเรื่อยๆน่ะครับ...



...ว่าแต่พระอาจารย์องค์นี้ ท่านชื่ออะไรครับ...




ขอบคุณค่ะพี่เอ็กซ์

คำตอบเป็นอะไรที่เข้าใจง่ายค่ะ

แห่ะๆ

ตอนแรกอ่านหัวข้อ กับ ภาพ ก็ไม่เข้าใจ :075:

แหม่เป็นพี่ที่แสนดีจัง

หาคำตอบให้น้องได้ทุกข้อสงสัยไป :002: :015:
ขอบคุณสำหรับ รูปภาพพระอาจารย์ท่านใหม่นะคะ

ไม่ทราบว่าพระอาจารย์ ท่านชื่ออะไรค่ะ


เจ้าของกระทู้ยังไม่มาให้คำตอบสักทีค่ะพี่เปรี้ยว

ข้องสงสัยกันไปโหม๊ดดดดด :095:

สงสัยพี่เปรี้ยวต้องสะพายเป้ไปสัมภาษเองถึงวัดซะแล้วม๊างง :002:
ไม่ทราบว่า หลวงพี่ในรูปท่านมีนามว่าอะไรหรอครับพี่ ๐๐๐ ครับ ...  :075:




พระอาจารย์ตั๊ก

181
*****

                                 


                                 

182
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ***/\***
« เมื่อ: 23 เม.ย. 2552, 02:21:38 »





                                 



thankyou   **google**

183
เพิ่งรับทราบ วันนี้เอง
ด้วยลูกศิษย์ลูกหาของพระอาจารย์ ได้เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก
และเพื่อความสดวกในการเดินทางของพระอาจารย์ ฯลฯ
พระอาจารย์ตูน ได้ไปทำการสักยันต์ ที่ วัดลุ่มฯ ยานนาวา
ส่วนเวลาสัก ลืมถาม
ส่วนที่วัดคณิกาผล ยังเหมือนเดิม
สำหรับที่วัดบางพระ ก็แล้วแต่เวลาสดวกของพระอาจารย์
ที่จะมาโปรดลูกศิษย์
ทราบแล้ว ช่วยบอกต่อด้วยนะครับ

184
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ปีที่ 7
« เมื่อ: 20 เม.ย. 2552, 07:09:03 »
เวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว

               

185
 HAPPY BIRTHDAY to A.... 4 APRIL



                 

188
**




189
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / วัดพระขาว
« เมื่อ: 01 เม.ย. 2552, 06:55:35 »
ไปมา 2 วันแล้ว


190
 :114:








                               


192
อาลัยยิ่งแด่หลวงปู่ผู้เมตตา***************************



 :114: :114: :114: :114: :114: :114:




 :114: :114: :114: :114: :114: :114: :114:







 :114: :114: :114: :114: :114: :114: :114: :114: :114:

193
จำนวนสร้าง 2 ขนาด
เล็ก กับ ใหญ่


194
ผู้การเสือ สุดยอด





                                 

                                         

195
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / happy birthday
« เมื่อ: 18 มี.ค. 2552, 10:27:49 »
ขอให้หลวงพ่ออางค์ สุขภาพ แข็งแรง ทนุบำรุงวัดบางพระ
สืบสานปณิธานหลวงพ่อเปิ่นสืบไป*****




พรุ่งนี้แจกครับ  เท่าที่ทราบมีไม่มาก


                                                 




196



สุดยอด สีผึ้ง แป้งเสก นะหน้าทอง พรหมสี่หน้า เกราะเพชร ฯลฯ

197
*********************************************** :095:







198
ภาพแห่งอดีต










ขอบคุณคุณยุทธเอื้อเฟื้อภาพ
(ยังมีต่อ**) :095:

199







******************************************** :095:


200
วันนี้บ้านอาจารย์หนวด









ที่เหลือให้ท่าน โองการฯ โพส ละกัน :027:

201
ไหว้ครูบูรพาจารย์ / ตอบ: **ไหว้ครู**
« เมื่อ: 08 มี.ค. 2552, 07:54:01 »



202
ไหว้ครูบูรพาจารย์ / ตอบ: **ไหว้ครู**
« เมื่อ: 08 มี.ค. 2552, 07:46:36 »
ต่อ ครับ




203
ไหว้ครูบูรพาจารย์ / ตอบ: **ไหว้ครู**
« เมื่อ: 08 มี.ค. 2552, 06:40:12 »
**เย็น ๆ มาโพสต่อ พอดีมีงานด่วน








ได้ยินพระอาจารย์บอกว่า ดีใจจะมีงานหมั้น ของจอมอาคม

204
ไหว้ครูบูรพาจารย์ / **ไหว้ครู**
« เมื่อ: 08 มี.ค. 2552, 06:34:12 »
ด้วยบารมี หลวงพ่อเปิ่น ที่ปกปักรักษา ศิษย์ ศิษยานุศิษย์








206
เหนื่อย หิว ง่วง อดนอน สำหรับงานวัดมาตลอด  ทุกพิธี

 :053: :053: :053: :053: :053: :053: :053: :053: :053: :053: :053: :053: :090: :090: :090:

207
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: this morning @ master
« เมื่อ: 04 มี.ค. 2552, 11:34:25 »



208
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / this morning
« เมื่อ: 04 มี.ค. 2552, 11:30:51 »

 :114: :114: :114: :114: :114: :114: :114: :114: :114: :114: :114: :114:

 :114: :114: :114: :114: :114: :114: :114: :114: :114: :114: :114: :114:

209
ุถ้าจะให้ดี
น่าจะไปก่อน 4 โมงเย็น

211
jam



214
อีกแห่งนะครับ อยู่ใกล้ ๆวัด ที่เรียกว่าทางแยกวัดละมุด
มีโรงแรมพอใช้ได้ครับ  ( ไม่ใช่โรงแรม 88 นะครับ)

216
ถูกต้องนะครับ น้ากล้วยของเรานั่นเอง



217
005



006




218
003



004


219
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / เท่าที่มี
« เมื่อ: 19 ก.พ. 2552, 05:55:35 »
001




002


220
 :008:









 :025: :025:

224



ขอลบรูปสุดท้ายออก นะครับ เพราะว่าทางผู้ดูแล ได้รับคำสั่งจาก เจ้าคณะปกครองว่า

ห้ามโพสรูปที่มีการครอบเศียรฤษีให้กับพระสงฆ์  เพราะว่าดูแล้วไม่เหมาะสมครับและมีหลายๆเว็ปบอร์ดที่ถูกสั่งปิดเพราะไม่เชื่อฟังครับ  :015:

231
ขอบพระคุณภาพมากๆเลยครับผม ขอทราบรายละเอียดการบูชาได้หรือเปล่าครับ ขอบคุณครับ  :054:


7/03/2552

:090: :090: :090: :090: :090: :090: :090: :090: :090: :090: :090: :090: :090: :090: :090: :090:


พิธีไหว้ครูบุรพาจารย์หลวงพ่อเปิ่น ประจำปี 2552

236
5 มีนาคม 2552 ไปแน่นอนครับผม ปีที่แล้วไม่ทราบค่าครู ตังค์เกือบไม่พอ  :075:

 :077:ประมาณ 225 ครับ ปีนี้


238
 :090: :090: :090: :090:


กราบขอบพระคุณตลอดชีวิต


 :090: :090:  :026:


242
 :090: :090: :090:




 :090: :090: :090:




 :090: :090: :090:



244
ใช่แล้วครับ รุ่นนี้อำเภอนครชัยศรีเป็นผู้สร้าง
มี 2 พิมพ์ พิมพ์เล็กหายากครับ
ของดีราคาเบา ดีใจด้วยครับที่ได้ของดีไว้ครอบครอง :077: :077:

245
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ขอแนะนำ
« เมื่อ: 18 ม.ค. 2552, 07:49:15 »
พระอาจารย์เชษฐ์ พระผู้ดูแลวัดถุมงคลของวัดบางพระทั้งหมด



246

เป็นรูปที่หลวงพ่อตรวจงานที่พิพิธภัณฑ์ แต่เสร็จแล้วทำไมไม่ย้ายสังขารหลวงพ่อสักที ตามเจนตนารมณ์ของท่าน จริงไหมครับ ง ง  :010: :010:

อีกรูปครับ
[/quote]




247
อ.โรจน์   ลูกศิษย์หลวงพ่อติ่ง ลงได้สวยมากมาย

เสร็จแล้วให้พ่อติ่งเสกอีกครั้ง







248
คือ อยากเข้าไปถ่ายภาพทำสารคดี เรื่อง   "การสักยันต์ตามความเชื่อของคนไทย"   ไม่ทราบว่าต้องติดต่อ ขอ อณุญาติ ใครที่ไหนบ้างคับ คืออยากจะเก็บรูป  คนที่เข้ามาสักยันต์ พิธีการสักยันต์  ในวันเสาร์หรืออาทิตย์ ไหนก็ได้อะคับ   และอีกที เมื่อวันไหว้ครูนะคับ
ขอบคุณคับ


ขอแนะนำให้ติดต่อขออนุญาติดจากเจ้าอาวาสก่อน

252
งานทำบุญอายุวัฒนะหลวงปู่ทิม มีงาน 2 วัน
ในรูปเป็นงานวันแรก

255


















ขอพระองค์ทรงพระเจริญ



256
มี่ที่วัดบางแวก
สมทบทุนสร้างสำนักปฏิบัติ ครับ

257
ยืนยัน ไม่ดีครับ เหรียญนี้

258
โอมเพี้ยง



พระรุ่นนี้ จัดสร้างโดย
พระครูดนัย
หลวงพ่อเปิ่นปลุกเสกครับ
พิธีใหญ่มาก

259
พระอาจารย์คราบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
...
ยังอยู่ครับ  พระอาจารย์เคยเมตตายังไง ขอเมตตาอย่างนั้นนะครับ
เปลี่ยนแปลง หลายอย่าง เวลาเราไม่ค่อยอำนวย เพราะสังขารไม่เกี้อ
แต่ ยังเป็นลูกบางพระเช่นเคยครับ

บุญเมตตา พระอาจารย์กรุณาครับ

ปล.ผมยังอยู่ดีครับ ไม่ได้หายไปไหนนะครับ



wellcome home

260


 :001:



 :001: :001:



 :001: :001: :001:




 :001: :001: :001: :001:





261
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: test
« เมื่อ: 16 ก.ย. 2551, 06:26:30 »
test




262
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / test
« เมื่อ: 16 ก.ย. 2551, 06:25:05 »
test





263
 :053: :053: :053: :053: :053: :053:
 :052: :052: :052: :052: :052:
 :005: :005: :005: :005:
 :001: :001: :001:
 :073: :073:
 :002:

265
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / test
« เมื่อ: 25 ส.ค. 2551, 06:19:27 »








266
http://funny.hunsa.com/detail.php?id=11005

http://blog.hunsa.com/papamama/blog/25242

271
ในงานวันนั้น
มีวัตถุมงคลเมตตามหานิยมน่าสนใจหลายรายการ อาทิ.................................
ตะกรุดมอญ
ตะโพนครู
จิ้งจกหล่อ สวยมาก
ฯลฯ

272
ถ้าต้องการส่วนตัวจริง ๆ ควรมานัดกับ อาจารย์ที่วัดตกลงกัน
แล้วไปสักที่บ้านอาจารย์ เพราะเสาว์ อาทิตย์อาจารย์มาช่วยที่วัด
ศิษย์อื่น ๆ จะไม่เสียโอกาส
เบอร์โทรศัพท์ของอาจารย์ควรขอด้วยตัวเอง 




273



 :011:อาจารย์หนวด



275


ด้านหลัง




ขอทราบรายละเอียดหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ



ใช่ครับ ของหลวงพ่อเปิ่น รุ่นนี้ศิษย์ทหารเรือสร้าง ประมาณปี 2527 มวลสารดีมาก

276
มาประเดิมเลยครับ สุขสันต์วันเกิดนะครับ "พรใดอันประเสริฐ ขอจงเกิดแก่ท่านต้นน้ำนะครับ" บารมีหลวงพ่อเปิ่นคุ้มครองครับท่าน? :100:


277
เพิ่มเติม
พระครูสมุห์ชออม  ผช.เจ้าอาวาส
แจ้งว่า   เจ้าถวายภัตตาหารเพล โต๊ะลั 1500 บาท
             เจ้าภาพถวายพระทักษิณาฯ รูปละ 3500 บาท
             เจ้าภ-พถวายพระเจริญพุทธมนต์  n/a
ติดต่อทำบุญโดยตรงได้ที่ หลวงพ่อสำอางค์
โทร.   034389333

279
นะหน้าทอง เกราะเพชร สิงห์ สีผึ้ง ฯลฯ
สุดยอด

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

280
ยินดีต้อนรับครับ

282
 :002:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

283
 :001: :001: :001: :001:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

284
 :001: :001: :001:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

285
 :001: :001:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

286
 :001:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

287
กุมารทอง

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

288
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) /
« เมื่อ: 20 ม.ค. 2551, 06:27:49 »
อ หนวด จะมาช่วยสักที่วัดทุก เสาว์ อาทิตย์
เวาลานี้สร้างชื่อเสียงให้กับครูบาอาจารย์มาก ที่ ต่างประเทศ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

289
ทุกปี ก็เย็น จนหมดคนละครับ

290
เมตตามหานิยม ต้อง อ.ติ่งครับ
เสร็จแล้วก็ไปกราบหลวงปู่เปิ่น อธิษฐานให้สิ่งดี ๆ มาอยู่กับเราครับ :016:

291
==จิ้งจก น่าจะไปทางเมตตา

==ยันต์   เมตตา แคล้วคลาด

==ลิงลม  กำลัง ว่องไป

292
 :001: :001: :001:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

293
happy newyear 2008

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

294
วัดนกครับ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

295
วัดนกครับ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

296
วัดนกครับ








297
วัดนกครับ





299
พระที่สร้าง คือหลวงพี่ตั๊ก (ผิดพลาดขออภัย) อยู่กุฏิ(ชั้นบน) เดียวกับ หลวงพี่อภิญญา ทำเพื่อการกุศลอะไรบางอย่าง จำไม่ได้ พิธีดีขลัง วัดพลังแบบ dragon balls? แล้ว :002: :002:
เพราะว่ากุฏิใหญ่ไม่ได้เปนคนจัดสร้างครับ? และหลวงพี่อภิญญาก็ไม่ได้เปนผู้จำหน่ายบูชา
อั๊บเดทปัจจุบันเลยครับ?? ขณะนี้ทางวัดได้อนุญาติให้เปิดบูชาตามปกติแล้วครับ? ?? แต่ให้เวลาเปิดบูชาอีกกี่วัน? ไม่ทราบครับ



วัตถุมงคลชุดนี้ พระชลอ (พระตั๊ก) เป็นผู้ดูแล
จะมีจำหน่าย ถึงวันที่ 15 มกราคม 2550


จำนวนสร้างไม่ทราบ 9 ตัวก็คงมากอยู่ครับ

อ้าว..แล้วทำไมไม่เปิดให้เช่าที่กุฎิใหญ่ล่ะคะ ทำไมถึงอยู่ที่กุฎิอาจารย์อภิญญา...? แล้วทำพิธีปลุกเสกที่ไหนค่ะ...?


ปลุกเสกที่วัดบางพระ ครับ
แต่ไม่มีที่กุฏิใหญ่  nocomment

300
สวนโมกฯ





301
สวนโมกฯ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

302
สวนโมกฯ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

303
 :027:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

304
http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y6094663/Y6094663.html

305
ลองพิมพ์

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

306
2541



9 พยัคฆ์ฯ



307
2541

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

308
มหามนต์









310
2518





312
คิดถึงหลวงปู่


314
 :001: :001:

 :001: :001: :001: :001: :001: :001: :001:

315
รูปภาพและวีดีโอสายวัดบางพระ / pic
« เมื่อ: 16 พ.ย. 2550, 10:46:34 »
 :001:

 :001:

 :001:



 :001: :001:

316
 :001:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

317
วัดห้วยมงคล


318
 :001: :001: :001:
อานิสงฆ์ เข็มทอง


[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

319
 :001: :001:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

320
รูปภาพและวีดีโอสายวัดบางพระ / test
« เมื่อ: 12 พ.ย. 2550, 06:25:22 »
 :001:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

321
อยู่ในชุดสร้างโรงพยาบาลประมาณปี ๒๕๓๖
มีทั้งโลหะ ปละเนื้อผง มี ๒ พิมพ์ ใหญ่ เล็ก

323
มีรูปมั้ยครับ

324
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ข่าว
« เมื่อ: 04 พ.ย. 2550, 04:37:23 »
http://www.komchadluek.net/


พระโลหิตเกณฑ์ปรกติ พระพี่นางเธอฯรับสั่งได้ชัดขึ้น
3 พฤศจิกายน 2550 19:07 น.
ทรงพระดำเนินโดยใช้เครื่องช่วยพยุงได้คล่องขึ้น ส่วนสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ รับสั่งได้ชัดขึ้น พร้อมทรงเคลื่อนไหวพระหัตถ์ขวาได้ดีขึ้น พสกนิกรลงนามถวายพระพรในหลวง-สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ไม่ขาดสาย ?สพรั่ง ?ร่วมถวายพระพร เผยโชคดีของพสกนิกรชาวไทย ที่มีในหลวงเป็นหลักชัยคอยบำบัดทุกข์บำรุงสุขปกป้องคุ้มครองไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้นแก่ชาติบ้านเมือง ด้านคุณยายวัย 96 ปี พร้อมชาวเขาร่วมลงนามถวายพระพรของให้ทั้งสองพระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวร




เมื่อเวลา 18.20 น. วันที่ 3 พฤศจิกายน สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ เรื่องพระอาการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฉบับที่ 22 ความว่า วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รายงานว่า ผลของการถวายตรวจพระโลหิต ด้านโลหิตวิทยาอยู่ในเกณฑ์ปรกติ ทรงพระดำเนินโดยใช้เครื่องช่วยพยุงได้คล่องขึ้น

พร้อมกันนี้สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์เรื่อง สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระประชวร ฉบับที่ 10 ความว่า วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ รายงานว่า เริ่มรับสั่งได้ชัดขึ้น ทรงเคลื่อนไหวพระหัตถ์ขวาได้ดีขึ้น คณะแพทย์ฯ ได้ถวายการรักษาทางกายภาพบำบัด และอาหารเสริมทางหลอดพระโลหิตเพิ่มขึ้น

บรรยากาศการลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ภายในห้องโถงศาลาศิริราช 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช คลื่นมหาชนยังคงแสดงพลังสวมเสื้อเหลืองทยอยลงนามถวายพระพรทั้งสองพระองค์อย่างต่อเนื่อง โดยสำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนลงนามถวายพระพรตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งประชาชนทุกหมู่เหล่าเดินทางมาลงนามถวายพระพรไม่ขาดสายเหมือนเช่นทุกวัน อีกทั้งเป็นช่วงวันหยุดทำให้ประชาชนพาครอบครัวมาลงนามถวายพระพรอย่างพร้อมเพรียงกัน

ทั้งนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าบรรยากาศการลงนามถวายพระพรเป็นไปอย่างคึกคัก โดยชนเผ่าเหย้า หรือชาวฮิวเมี่ยน จาก อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร พระภิกษุจากวัดป่าธรรมดา อ.บัวลาย จ.นครราชสีมา พร้อมชาวบ้าน รวม 66 คน ลงนามถวายพระพร ขณะที่พระมหาสุนทร สุนทโร เลขาฯ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ เดินทางมาถวายพระพร พร้อมทูลเกล้าฯ ถวายพระพุทธรูปปางห้ามญาติ 1 องค์

คุณยายวัย96ถวายพระพร

จากนั้นคณะครูจากพาณิชยการราชดำเนิน นำนักเรียนทุนของโรงเรียนจากเผ่าม้ง จำนวน 23 คน มาสีไวโอลินและร้องเพลงดอกไม้ และเพลงกำลังใจ หน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ที่ประดิษฐานอยู่ภายในศาลาศิริราช 100 ปี ต่อมาคณะครู-นักเรียนโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จ.เชียงใหม่ จำนวน 450 คน ร่วมลงนามถวายพระพร เช่นเดียวกับนายสมัคร สำเภารัตน์ คณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย นายอทึก อัศวนนท์ ที่ปรึกษากฎหมายบริษัท ทรูวิชั่น จำกัด ที่ต่างก็เดินทางมาถวายพระพรด้วยเช่นกัน

เช่นเดียวกับนางผ่อง อาพัดนอก หญิงชรา วัย 96 ปี เดินทางจากบัวใหญ่ จ.นครราชสีมา เพื่อมาถวายพระพรโดยเฉพาะ จากนั้น Mr.Alne Aspelin อายุ 63 ปี ได้บินตรงจากสวีเดน พร้อมภรรยาชาวไทย มาลงนามถวายพระพร พร้อมกล่าวว่า รู้ข่าวพระอาการประชวรจาก นสพ.ในประเทศสวีเดน จึงถือโอกาสพาภรรยากลับประเทศไทยเพื่อถวายพระพรและพักผ่อนด้วย นอกจากนี้ยังมีคณะครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านถ้ำโกบ นำนักเรียนมาแสดงรำมโนราห์ ถวายพระพร โดยคำร้องได้ประพันธ์ขึ้นใหม่เพื่อถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยเฉพาะ ซึ่งเมื่อแสดงเสร็จก็ได้รับเสียงปรบมือจากผู้ที่มาลงนามถวายพระพรในศาลาศิริราช 100 ปี

สมเด็จพระเทพฯเข้าเฝ้าในหลวง

ขณะเดียวกัน สำนักพระราชวังนำพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ และปฏิทินแบบพกพาซึ่งเป็นภาพพระบรมฉายาลักษณ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉายพระรูปร่วมกับสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ มาแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่มาลงนามถวายพระพรเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่าน

ส่วนที่บริเวณลานพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลศิริราชกางเต็นท์คอยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่ปักหลักติดตามพระอาการประชวรของทั้งสองพระองค์อย่างใกล้ชิดตลอดทั้งวัน

ขณะที่บรรยากาศการลงนามถวายพระพรในช่วงบ่ายยังคงมีประชาชน บุคคลสำคัญทยอยมาลงนามถวายพระพรทั้งสองพระองค์อย่างต่อเนื่อง เมื่อเวลา 14.50 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินยังอาคารเฉลิมพระเกียรติเพื่อเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเฝ้าติดตามพระอาการประชวรสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยมีประชาชนรอรับเสด็จอยู่เป็นจำนวนมาก และต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง

"สพรั่ง"เผยโชคดีของพสกนิกรไทย

จากนั้นในเวลา 15.20 น. พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม มาลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทั้งนี้ พล.อ.สพรั่ง ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นที่น่ายินดีหลังจากที่ได้ฟังแถลงการณ์ความคืบหน้าพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่าพระองค์ดีขึ้นแล้ว และนับเป็นโชคดีของพสกนิกรชาวไทยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระชนมายุยิ่งยืนนานเป็นหลักชัยให้ประเทศชาติ ทำให้ทุกคนสามารถมีความหวั ง เพราะไม่ว่าบ้านเมืองจะมีสถานการณ์อย่างไรก็สามารถผ่านพ้นไปได้ เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงคอยบำบัดทุกข์บำรุงสุขปกป้องคุ้มครองไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้นแก่ชาติบ้านเมือง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะทหารสามารถทำอะไรให้พระองค์ได้บ้าง พล.อ.สพรั่ง กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นข้าราชการทหารก็ยึดถือคติที่ยึดถือมาตลอด คือไม่ย่อท้อและแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด นอกจากนี้ในส่วนพระอาการประชวรของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ หลังจากที่ได้ทราบจากแถลงการณ์ก็รู้สึกเหมือนคนไทยทุกคนทั่วไป พระองค์ทรงเปรียบเสมือนยิ่งกว่าญาติผู้ใหญ่ พ่อแม่ เมื่อญาติผู้ใหญ่ไม่สบายก็รู้สึกเป็นทุกข์ ทั้งนี้หากสามารถเนรมิตได้ก็อยากให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวร มีพระสุขภาพที่แข็งแรง


พระบรมฯพระราชทานขนม

ต่อมาเมื่อเวลา 15.56 น. คุณหญิงจินตนา ภักดิ์ศรีวงศ์ ประธานโครงการเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ นำตัวแทนจากโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ มาขับร้องเพลงถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ พร้อมขับร้องเพลง "ร่มโพธิ์ทองแห่งไทย" ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นขับร้องเพลง "เจ้าฟ้าสุดบูชา" ถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายทั้งสองพระองค์

เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ลานพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก รพ.ศิริราช สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงให้ พล.อ.ต.ธีรพงษ์ วรรณสำเริง ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักงานราชเลขานุการในพระองค์ นำกะหรี่ปั๊บ จำนวน 4,000 กล่อง พระราชทานแก่ประชาชนที่มาถวายพระพร

ส่วนบรรยากาศในช่วงเย็นพสกนิกรชาวไทยมาลงนามถวายพระพรอย่างต่อเนื่อง โดยประชาชนจำนวนมากยังคงถวายความจงรักภักดีเฝ้าพระอาการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ อย่างเนืองแน่น พร้อมติดตามคำแถลงการณ์ของสำนักพระราชวังเกี่ยวกับพระอาการของทั้งสองพระองค์ ที่จะออกมาในช่วงค่ำด้วยใจจดใจจ่อเหมือนเช่นทุกวัน


 

 

 

326


327

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเอาไว้ว่า แม้วัตถุทานจะบริสุทธิ์ดี เจตนาในการทำทานจะบริสุทธิ์ดี จะทำให้ทานนั้นมีผลมากหรือน้อย ย่อมขึ้นอยู่กับเนื้อนาบุญเป็นลำดับต่อไปนี้ คือ

๑. ทำทานแก่สัตว์เดรัจฉานแม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ได้บุญน้อยกว่าให้ทานดังกล่าวแก่มนุษย์ แม้จะเป็นมนุษย์ที่ไม่มีศีล ไม่มีธรรมเลยก็ตาม ทั้งนี้เพราะสัตว์ย่อมมีวาสนาบารมีน้อยกว่ามนุษย์และสัตว์ไม่ใช่เนื้อนาบุญที่ดี

๒. ให้ทานแก่มนุษย์ที่ไม่มีศีล ไม่มีธรรมวินัยแม้จะให้มากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าให้ทานดังกล่าวแก่ผู้ที่มีศีล ๕ แม้จะให้เพียงครั้งเดียวก็ตาม

๓. ให้ทานแก่ผู้ที่มีศีล ๕แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าให้ทานดังกล่าวแก่ผู้มีศีล ๘ แม้จะให้เพียงครั้งเดียวก็ตาม

๔. ให้ทานแก่ผู้ที่มีศีล ๘ แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าถวายทานแก่ผู้มีศีล ๑๐ คือสามเณรในพุทธศาสนา แม้จะได้ถวายทานดังกล่าวเพียงครั้งเดียวก็ตาม

๕. ถวายทานแก่สามเณรซึ่งมีศีล ๑๐ แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าถวายทานดังกล่าวแก่พระสมมุติสงฆ์ ซึ่งมีศีลปาฏิโมกข์สังวร ๒๒๗ ข้อ
พระด้วยกันก็มีคุณธรรมแตกต่างกัน จึงเป็นเนื้อนาบุญที่ต่างกัน บุคคลที่บวชเข้ามาในพระพุทธศาสนามีศีลปาฏิโมกข์สังวร ๒๒๗ ข้อนั้น องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังไม่ตรัสเรียกว่าเป็น "พระ" แต่เป็นเพียงพระสมมุติเท่านั้น เรียกกันว่า "สมมุติสงฆ์" พระที่แท้จริงนั้น หมายถึงบุคคลที่บรรลุคุณธรรมตั้งแต่พระโสดาปัตติผลเป็นพระโสดาบันเป็นต้นไป ไม่ว่าท่านผู้นั้นจะได้บวชหรือเป็นฆราวาสก็ตาม นับว่าเป็น "พระ" ทั้งสิ้น และพระด้วยกันก็มีคุณธรรมต่างกันหลายระดับชั้น จากน้อยไปหามากดังนี้คือ "พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี พระอรหันต์ พระปัจเจกพุทธเจ้า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธมเจ้า" และย่อมเป็นเนื้อนาบุญที่แตกต่างกัน ดังต่อไปนี้

๖. ถวายทานแก่พระสมมุติสงฆ์แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการถวายทานแก่ - พระโสดาบัน แม้จะได้ถวายทานดังกล่าวแต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม (ความจริงยังมีการแยกเป็นพระโสดาปัตติมรรคและพระโสดาปัตติผล ฯลฯ เป็นลำดับไปจนถึงพระอรหัตผล แต่ในที่นี้จะกล่าวแต่เพียงย่นย่อพอให้ได้ความเท่านั้น)

๗. ถวายทานแก่พระโสดาบันแม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการถวายทานดังกล่าวแก่พระสกิทาคามี แม้จะถวายทานดังกล่าวเพียงครั้งเดียวก็ตาม

๘. ถวายทานแก่พระสกิทาคามี แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการถวายทานดังกล่าวแก่พระอนาคามี แม้จะถวายทานดังกล่าวเพียงครั้งเดียวก็ตาม

๙. ถวายทานแก่พระอนาคามี แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการถวายทานดังกล่าวแก่พระอรหันต์ แม้จะถวายทานดังกล่าวเพียงครั้งเดียวก็ตาม

๑๐. ถวายทานแก่พระอรหันต์ แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการถวายทานดังกล่าวแก่พระปัจเจกพุทธเจ้า แม้จะถวายทานดังกล่าวเพียงครั้งเดียวก็ตาม

๑๑. ถวายทานแก่พระปัจเจกพุทธเจ้า แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการถวายทานดังกล่าวแด่พระองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้จะถวายทานดังกล่าวเพียงครั้งเดียวก็ตาม

๑๒. ถวายทานแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการถวายสังฆทานที่มีองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน แม้จะถวายสังฆทานดังกล่าวเพียงครั้งเดียวก็ตาม

๑๓. การถวายสังฆทานที่มีองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่า "การถวายวิหารทาน" แม้จะได้กระทำแต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม "วิหารทาน ได้แก่การสร้างหรือร่วมสร้างโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ ศาลาโรงธรรม ศาลาท่าน้ำ ศาลาที่พักอาศัยคนเดินทางอันเป็นสาธารณะประโยชน์ที่ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน" อนึ่ง การสร้างสิ่งที่เป็นสาธารณประโยชน์หรือสิ่งที่ประชาชนใประโยชน์ร่วมกัน แม้จะไม่เกี่ยวเนื่องกับกิจในพระพุทธศาสนา เช่น "โรงพยาบาล โรงเรียน บ่อน้ำ แท็งก์น้ำ ศาลาป้ายรถยนต์โดยสารประจำทาง สุสาน เมรุเผาศพ" ก็ได้บุญมากในทำนองเดียวกัน

๑๔. การถวายวิหารทานแม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง (๑๐๐ หลัง ) ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการให้ "ธรรมทาน" แม้จะให้แต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม "การให้ธรรมทานก็คือการเทศน์ การสอนธรรมะแก่ผู้อื่นที่ยังไม่รู้ให้รู้ได้ ที่รู้อยู่แล้วให้รู้ยิ่งๆขึ้น ให้ได้เข้าใจมรรค ผล นิพพาน ให้ผู้ที่เป็นมิจฉาทิฐิได้กลับใจเป็นสัมมาทิฐิ ชักจูงผู้คนให้เข้าปฏิบัติธรรม รวมตลอดถึงการพิมพ์การแจกหนังสือธรรมะ"

๑๕. การให้ธรรมทานแม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการให้ "อภัยทาน" แม้จะให้แต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม การให้อภัยทานก็คือ "การไม่ผูกโกรธ ไม่อาฆาตจองเวร ไม่พยาบาทคิดร้ายผู้อื่นแม้แต่ศัตรู" ซึ่งได้บุญกุศลแรงและสูงมากในฝ่ายทาน เพราะเป็นการบำเพ็ญเพียรเพื่อ "ละโทสะกิเลส" และเป็นการเจริญ "เมตตาพรหมวิหารธรรม" อันเป็นพรหมวิหารข้อหนึ่งในพรหมวิหาร ๔ ให้เกิดขึ้น อันพรหมวิหาร ๔ นั้น เป็นคุณธรรมที่เป็นองค์ธรรมของโยคีบุคคลที่บำเพ็ญฌานและวิปัสสนา ผู้ที่ทรงพรหมวิหาร ๔ ได้ย่อมเป็นผู้ทรงฌาน ซึ่งเมื่อเมตตาพรหมวิหารธรรมได้เกิดขึ้นแล้วเมื่อใด ก็ย่อมละเสียได้ซึ่ง "พยาบาท" ผู้นั้นจึงจะสามารถให้อภัยทานได้ การให้อภัยทานจึงเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและยากเย็น จึงจัดเป็นทานที่สูงกว่าการให้ทานทั้งปวง
อย่างไรก็ดี การให้อภัยทานแม้จะมากเพียงใด แม้จะชนะการให้ทานอื่น ๆ ทั้งมวล ผลบุญนั้นก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า "ฝ่ายศีล" เพราะเป็นการบำเพ็ญบารมีคนละขั้นต่างกัน



ที่มา : บัวหลวง สุขสันต์ และ http://www.dhammathai.org/articles/view.php?No=309

จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า   - [ 27 ต.ค. 50 07:45:48 ] 
   
 
 
 

328
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ทาน ทาน
« เมื่อ: 30 ต.ค. 2550, 08:39:03 »
 ทำทานที่ให้กุศลแรงและสูง (สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ฯ)
โดย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

ทาน

การทำทาน ได้แก่การสละทรัพย์สิ่งของสมบัติของตนที่มีอยู่ให้แก่ผู้อื่น โดยมุ่งหวังจะจุนเจือให้ผู้อื่นได้รับประโยชน์และความสุขด้วยความเมตตาจิตของตน ทานที่ได้ทำไปนั้น จะทำให้ผู้ทำทานได้บุญมากหรือน้อยเพียงใด ย่อมสุดแล้วแต่องค์ประกอบ ๓ ประการ ถ้าประกอบถึงพร้อมด้วยองค์ประกอบทั้ง ๓ ประการต่อไปนี้แล้ว ทานนั้นย่อมมีผลมาก ได้บุญบารมีมาก กล่าวคือ

องค์ประกอบข้อที่ ๑. "วัตถุทานที่ให้ต้องบริสุทธิ์"
วัตถุทานที่ให้ ได้แก่สิ่งของทรัพย์สมบัติที่ตนได้สละให้เป็นทานนั้นเอง จะต้องเป็นของที่บริสุทธิ์ ที่จะเป็นของบริสุทธิ์ได้จะต้องเป็นสิ่งของที่ตนเองได้แสวงหา ได้มาด้วยความบริสุทธิ์ในการประกอบอาชีพ ไม่ใช่ของที่ได้มาเพราะการเบียดเบียนผู้อื่น เช่น ได้มาโดยยักยอก ทุจริต ลักทรัพย์ ฉ้อโกง ปล้นทรัพย์ ชิงทรัพย์ ฯลฯ

ตัวอย่าง ๑ ได้มาโดยการเบียดเบียนชีวิตและเลือดเนื้อสัตว์ เช่นฆ่าสัตว์ต่าง ๆ เป็นต้นว่า ปลา โค กระบือ สุกร โดยประสงค์จะเอาเลือดเนื้อของเขามาทำอาหารถวายพระเพื่อเอาบุญ ย่อมเป็นการสร้างบาปเอามาทำบุญ วัตถุทานคือเนื้อสัตว์นั้นเป็นของที่ไม่บริสุทธิ์ แม้ทำบุญให้ทานไป ก็ย่อมได้บุญน้อย จนเกือบไม่ได้อะไรเลย ทั้งอาจจะได้บาปเสียอีก หากว่าทำทานด้วยจิตที่เศร้าหมอง แต่การที่จะได้เนื้อสัตว์มาโดยการซื้อหามาจากผู้อื่นที่ฆ่าสัตว์นั้น โดยที่ตนมิได้มีส่วนร่วมรู้เห็นเป็นใจในการฆ่าสัตว์นั้นก็ดี เนื้อสัตว์นั้นตายเองก็ดี เนื้อสัตว์นั้นย่อมเป็นวัตถุทานที่บริสุทธิ์ เมื่อนำมาทำทานย่อมได้บุญมากหากถึงพร้อมด้วยองค์ประกอบข้ออื่น ๆ ด้วย

ตัวอย่าง ๒ ลักทรัพย์ ยักยอก ฉ้อโกง ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ รวมตลอดถึงการทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง อันเป็นการได้ทรัพย์มาในลักษณะที่ไม่ชอบธรรม หรือโดยเจ้าของเดิมไม่เต็มใจให้ทรัพย์นั้น ย่อมเป็นของที่ไม่บริสุทธิ์ เป็นของร้อน แม้จะผลิดอกออกผลมาเพิ่มเติม ดอกผลนั้นก็ย่อมเป็นของไม่บริสุทธิ์ ด้วยนำเอาไปกินไปใช้ย่อมเกิดโทษ เรียกว่า "บริโภคโดยความเป็นหนี้" แม้จะนำเอาไปทำบุญ ให้ทาน สร้างโบสถ์วิหารก็ตาม ก็ไม่ทำให้ได้บุญแต่อย่างไร สมัยหนึ่งในรัชการที่ ๕ มีหัวหน้าสำนักนางโลมชื่อ "ยายแฟง" ได้เรียกเก็บเงินจากหญิงโสเภณีในสำนักของตนจากอัตราที่ได้มาครั้งหนึ่ง ๒๕ สตางค์ แกจะชักเอาไว้ ๕ สตางค์ สะสมเอาไว้เช่นนี้จนได้ประมาณ ๒,๐๐๐ บาท แล้วจึงจัดสร้างวัดขึ้นวัดหนึ่งด้วยเงินนั้นทั้งหมด เมื่อสร้างเสร็จแล้วแกก็ปลื้มปีติ นำไปนมัสการถามหลวงพ่อโตวัดระฆังว่าการที่แกสร้างวัดทั้งวัดด้วยเงินของแกทั้งหมดจะได้บุญบารมีอย่างไร หลวงพ่อโตตอบว่า ได้แค่ ๑ สลึง แกก็เสียใจ เหตุที่ได้บุญน้อยก็เพราะทรัพย์อันเป็นวัตถุทานที่ตนนำมาสร้างวัดอันเป็นวิหารทานนั้น เป็นของที่แสวงหาได้มาโดยไม่บริสุทธิ์ เพราะว่าเบียดเบียนมาจากเจ้าของที่ไม่เต็มใจจะให้ ฉะนั้น บรรดาพ่อค้าแม่ขายทั้งหลายที่ซื้อของถูก ๆ แต่มาขายแพงจนเกินส่วนนั้น ย่อมเป็นสิ่งของที่ไม่บริสุทธิ์โดยนัยเดียวกัน

วัตถุทานที่บริสุทธิ์เพราะการแสวงหาได้มาโดยชอบธรรมดังกล่าว ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นของดีหรือเลว ไม่จำกัดว่าเป็นของมากหรือน้อย น้อยค่าหรือมีค่ามาก จะเป็นของดี เลว ประณีต มากหรือน้อยไม่สำคัญ ความสำคัญขึ้นอยู่กับเจตนาในการให้ทานนั้น ตามกำลังทรัพย์และกำลังศรัทธาที่ตนมีอยู่


องค์ประกอบข้อที่ ๒. "เจตนาในการสร้างทานต้องบริสุทธิ์"
การให้ทานนั้น โดยจุดมุ่งหมายที่แท้จริงก็เพื่อเป็นการขจัดความโลภ ความตระหนี่เหนียวแน่นความหวงแหนหลงใหลในทรัพย์สมบัติของตน อันเป็นกิเลสหยาบ คือ "โลภกิเลส" และเพื่อเป็นการสงเคราะห์ผู้อื่นให้ได้รับความสุขด้วย เมตตาธรรมของตน อันเป็นบันไดก้าวแรกในการเจริญเมตตา พรหมวิหารธรรมในพรหมวิหาร ๔ ให้เกิดขึ้น ถ้าได้ให้ทานด้วยเจตนาดังกล่าวแล้ว เรียกว่าเจตนาในการทำทานบริสุทธิ์ แต่เจตนาที่ว่าบริสุทธิ์นั้น

ถ้าจะบริสุทธิ์จริงจะต้องสมบูรณ์พร้อมกัน ๓ ระยะ คือ

(๑) ระยะก่อนที่จะให้ทาน ก่อนที่จะทานก็จะมีจิตที่โสมนัสร่าเริงเบิกบานยินดีที่จะให้ทาน เพื่อสงเคราะห์ผู้อื่นให้ได้รับความสุขเพราะทรัพย์สิ่งของของตน

(๒) ระยะที่กำลังลงมือให้ทาน ระยะที่กำลังมือให้ทานอยู่นั้นเอง ก็ทำด้วยจิตใจโสมนัสร่าเริงยินดีและเบิกบานในทานที่ตนกำลังให้ผู้อื่น

(๓) ระยะหลังจากที่ได้ให้ทานไปแล้ว ครั้นเมื่อได้ให้ทานไปแล้วเสร็จ หลังจากนั้นก็ดี นานมาก็ดี เมื่อหวนคิดถึงทานที่ตนได้กระทำไปแล้วครั้งใด ก็มีจิตใจโสมนัสร่าเริงเบิกบาน ยินดีในทานนั้น ๆ
เจตนาบริสุทธิ์ในการทำทานนั้น อยู่ที่จิตใจโสมนัสร่าเริงเบิกบานยินดีในทานที่ทำนั้นเป็นสำคัญ และเนื่องจากเมตตาจิต ที่มุ่งสงเคราะห์ผู้อื่นให้พ้นความทุกข์ และให้ได้รับความสุขเพราะทานของตน นับว่าเป็นเจตนาบริสุทธิ์ในเบื้องต้น แต่เจตนาที่บริสุทธิ์เพราะเหตุดังกล่าวมาแล้วนี้ จะทำให้ยิ่ง ๆ บริสุทธิ์มากขึ้นไปอีก หากผู้ใดให้ทานนั้นได้ทำทานด้วยการวิปัสสนาปัญญา กล่าวคือ ไม่ใช่ทำทานอย่างเดียว แต่ทำทานพร้อมกับมีวิปัสสนาปัญญา โดยใคร่ครวญถึงวัตถุทานที่ให้ทานนั้นว่า อันบรรดาทรัพย์สิ่งของทั้งที่ชาวโลกนิยมยกย่องหวงแหนเป็นสมบัติกันด้วยความโลภนั้น แท้ที่จริงแล้วก็เป็นเพียงวัตถุธาตุประจำโลก เป็นสมบัติกลาง ไม่ใช่ของผู้ใดโดยเฉพาะ เป็นของที่มีมาตั้งแต่ก่อนเราเกิดขึ้นมา และไม่ว่าเราจะเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม วัตถุธาตุดังกล่าวก็มีอยู่เช่นนั้น และได้ผ่านการเป็นเจ้าของมาแล้วหลายชั่วคน ซึ่งท่านตั้งแต่ก่อนนั้น ได้ล้มหายตายจากไปแล้วทั้งสิ้น ไม่สามารถนำวัตถุธาตุดังกล่าวนี้ติดตัวไปได้เลยจนในที่สุดก็ได้ตกทอดมาถึงเรา ให้เราได้กินได้ใช้ไดยึดถือเพียงชั่วคราว แล้วก็ตกทอดสืบเนื่องไปเป็นของคนอื่น ๆ ต่อ ๆ ไปเช่นนี้ แม้เราเองก็ไม่สามารถจะนำวัตถุธาตุดังกล่าวนี้ติดตัวไปได้เลย จึงนับว่าเป็นสมบัติผลัดกันชมเท่านั้น ไม่จากไปในวันนี้ก็ต้องจากไปในวันหน้า อย่างน้อยเราก็ต้องจากต้องทิ้งเมื่อเราได้ตายลงนับว่าเป็นอนิจจัง คือไม่เที่ยงแท้แน่นอน จึงไม่อาจจะยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นของเราได้ถาวรได้ตลอดไป แม้ตัววัตถุธาตุดังกล่าวนี้เอง เมื่อมีเกิดขึ้นเป็นตัวตนแล้ว ก็ต้องอยูในสภาพนั้นให้ตลอดไปไม่ได้ จะต้องเก่าแก่ ผุพัง บุบสลายไป ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนแต่อย่างไร แม้แต่เนื้อตัวร่างกายของเราเองก็มีสภาพเช่นเดียวกับวัตถุธาตุเหล่านั้น ซึ่งไม่อาจจะตั้งมั่นให้ยั่งยืนอยู่ได้ เมื่อมีเกิดขึ้นแล้วก็จะต้องเจริญวัยเป็นหนุ่มสาวแล้วก็แก่เฒ่าและตายไปในที่สุด เราจะต้องพลัดพรากจากของอันเป็นที่รัก ที่หวงแหน คือทรัพย์สมบัติทั้งปวง

เมื่อเจตนาในการให้ทานบริสุทธิ์ผุดผ่องดีพร้อมทั้งสามระยะดังกล่าวมาแล้ว ทั้งยังประกอบไปด้วยวิปัสสนาปัญญาดังกล่าวมาแล้วด้วย เจตนานั้นย่อมบริสุทธิ์อย่างยิ่ง ทานที่ได้ทำไปนั้นย่อมมีผลมาก ได้บุญมากหากวัตถุทานที่ได้ทำเป็นของบริสุทธิ์ตามองค์ประกอบข้อ ๑ ด้วย ก็ย่อมทำให้ได้บุญมากยิ่ง ๆ ขึ้นไปอีก วัตถุทานจะมากหรือน้อย เป็นของเลวหรือประณีตไม่สำคัญ เมื่อเราได้ให้ทานไปตามกำลังทรัพย์ที่เรามีอยู่ย่อมใช้ได้ แต่ก็ยังมีข้ออันควรระวังอยู่ก็คือ "การทำทานนั้นอย่าได้เบียดเบียนตนเอง" เช่นมีน้อย แต่ฝืนทำให้มาก ๆ จนเกินกำลังของตนที่จะให้ได้ เมื่อได้ทำไปแล้วตนเองและสามี ภริยา รวมทั้งบุตรต้องลำบาก ขาดแคลน เพราะว่าไม่มีจะกินจะใช้ เช่นนี้ย่อมทำให้จิตเศร้าหมอง เจตนานั้นย่อมไม่บริสุทธิ์ ทานที่ได้ทำไปแล้วนั้น แม้วัตถุทานจะมากหรือทำมาก ก็ย่อมได้บุญน้อย

จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า   - [ 27 ต.ค. 50 07:44:59 ]   




329
แถม ครับ




331
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / จีวรพระ
« เมื่อ: 23 ต.ค. 2550, 05:40:23 »
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?p=43428&sid=c6ae39ebf1d9b97501a2bd6d6189379f


--------------------------------------------------------------------------------
 
 
 

จะเลือกถวายจีวรสีใด
โดย อาจารย์ธรรมจักร สิงห์ทอง


จีวร ถือว่าเป็นธงชัย หรือเครื่องหมายของพระอรหันต์ มีหลักฐานปรากฏในพระคัมภีร์อุบาลีเถราปทาน ว่า

"บุคคลเห็นผ้ากาสาวพัสตร์ที่ (แม้) เปื้อนอุจจาระที่ถูกทิ้งไว้ตามถนนหนทาง ก็ควรประนมมือไหว้ผ้านั้น อันเป็นธงชัยของพระอริยเจ้า ด้วยเศียรเกล้า"

ในฉัททันตชาดก ติงสนิบาต กล่าวว่า "พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพญาช้างฉัททันต์ กำลังจะเดินตรงเข้าไปทำร้ายนายพรานป่าใจบาป ผู้คิดจะฆ่าตน แต่พอมองเห็นจีวรที่นายพรานชูให้เห็นกลับคิดได้ว่า ผู้มีธงชัยหรือเครื่องหมายแห่งพระอรหันต์ ไม่ควรถูกฆ่า จึงไม่ได้ทำร้าย และให้อภัยแก่นายพรานปล่อยให้รอดไป..."

ในคัมภีร์สมันตปาสาทิกา กล่าวว่า "สมัยที่พระพุทธองค์ยังดำรงพระชนม์ชีพอยู่ พระธนิยะได้ตัดไม้เป็นสมบัติของหลวงจำนวนมาก มีความผิดตามกฎหมายบ้านเมืองโทษฐานถึงขั้นประหารชีวิต แต่พระเจ้าพิมพิสาร กษัตริย์ผู้ครองกรุงราชคฤห์ ก็ทรงมีรับสั่งให้พระราชทานอภัยโทษ เพราะทรงเห็นแก่จีวร (ผ้าเหลือง) ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องหมายของพระอรหันต์นั่นเอง"


๏ กำเนิดแบบตัด-เย็บจีวร

วันหนึ่ง พระพุทธเจ้าเสด็จถึงทักขิณาคิรีชนบท พร้อมด้วยพระภิกษุจำนวนหนึ่ง ได้ทอดพระเนตรเห็นท้องนาของชาวมคธแล้ว มีรับสั่งกับพระอานนท์ว่า "อานนท์ เธอสามารถออกแบบตัดเย็บจีวรให้มีรูปร่างอย่างนี้ได้หรือไม่"

พระอานนท์กราบทูลว่า "สามารถทำได้พระเจ้าข้า" หลังจากนั้นพระอานนท์ได้ออกแบบทำจีวรให้มีรูปร่างตามพุทธประสงค์ถวาย คือมีลักษณะคล้ายผืนนาที่มีคันนาคั่นเป็นระยะๆ พระพุทธองค์ตรัสสรรเสริญว่า "พระอานนท์เป็นผู้ที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด สามารถเข้าใจคำสั่งของเราได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ถูกต้อง และชัดเจน"

ที่พระพุทธองค์มีรับสั่งให้ออกแบบจีวรเช่นนั้น เพราะมีพระประสงค์ ๓ ประการ คือ

๑. ผ้าที่มีราคาแพงๆ หากตัดเป็นชิ้นๆ จะทำให้ผ้าราคาตก แทบไม่มีใครต้องการ

๒. เมื่อนำเศษผ้าที่ตัดแล้วมาเย็บติดกัน จะทำให้เกิดรอยตะเข็บ มีตำหนิขาดความสวยงาม

๓. ยิ่งนำไปย้อมเปลี่ยนสีพร้อมทั้งทำเครื่องหมาย (ทำพินทุ ใช้ปากกาหรือดินสอทำเป็นจุดที่ผ้าจีวร) ทำให้สีของผ้าเศร้าหมอง ไม่มีค่าไม่มีราคา ไม่เป็นที่ต้องการของใคร ไม่น่าปรารถนา ไม่น่าสนใจ ไม่มีประโยชน์สำหรับใครๆ โจรผู้ร้ายไม่แย่งชิง แบบจีวรที่ถูกกำหนดตัดเย็บมาแต่โบราณ จึงถือเป็นแบบอย่างใช้มาจนถึงปัจจุบัน

สีของจีวร แต่เดิมพระภิกษุใช้มูลโค (โคมัย) หรือดินแดงย้อมจีวร ทำให้สีของจีวรเป็นสีคล้ำไม่เหมาะสม มีการทักท้วงกันขึ้น จึงนำความกราบบังคมทูลให้พระองค์ทรงทราบ พระพุทธเจ้ามีดำรัสว่า

"ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตน้ำย้อม ๖ ชนิดสำหรับย้อมจีวร คือ น้ำย้อมจากรากไม้ น้ำย้อมจากต้นไม้ น้ำย้อมจากเปลือกไม้ น้ำย้อมจากใบไม้ น้ำย้อมจากดอกไม้ และน้ำย้อมจากผลไม้"

เมื่อย้อมเสร็จแล้วจีวรจะออกมาเป็นสีกรัก สีเหลืองหม่น หรือสีเหลืองเจือแดงเข้มเหมือนย้อมด้วยแก่นขนุน แต่ทรงห้ามไม่ให้ภิกษุย้อมจีวรด้วย ขมิ้น ฝาง แกแล มะหาด เปลือกโลท เปลือกคล้า ใบมะเกลือ คราม ดอกทองกวาว ฯลฯ

สีจีวรที่ต้องห้าม คือ

๑. สีเขียวคราม สีเหมือนดอกผักตบชวา

๒. สีเหลือง สีเหมือนดอกกรรณิการ์

๓. สีแดง สีเหมือนชบา

๔. สีหงสบาท (สีเหมือนเท้าหงส์) สีแดงกับเหลืองปนกัน

๕. สีดำ สีเหมือนลูกประคำดีควาย

๖. สีแดงเข้ม สีเหมือนหลังตะขาบ

๗. สีแดงกลายๆ แดงผสมคล้ายใบไม้แก่ๆ ใกล้ร่วง (เหมือนสีดอกบัว)

มีบางแห่งระบุว่าสีต้องห้าม คือ สีดำ สีคราม สีเหลือง สีแดง สีบานเย็น สีแสด และ สีชมพู ถ้าจีวรมีสีตรงตามนี้ ให้ภิกษุย้อมใหม่ ถ้าทำลายสีเดิมไม่ออกก็ให้นำไปใช้เป็นผ้าปูลาดสำหรับรองนั่ง หรือใช้งานอื่นๆ หรือใช้ซับในระหว่างจีวรสองชั้นก็ได้


๏ สีจีวรที่พระพุทธเจ้าและพระอัครสาวกใช้

การที่จะยืนยันว่าพระพุทธเจ้าทรงใช้จีวรสีใดย่อมเป็นการยากที่จะระบุให้ชัดเจนได้ เนื่องจากไม่เคยมีใครได้พบเห็นพระพุทธองค์ด้วยตัวเอง แต่สามารถประเมินได้จากหลักฐานพระคัมภีร์ในหลายแห่งที่พอเปรียบเทียบได้ คือ

๑. พระผู้มีพระภาคเจ้า (พระพุทธเจ้า) ทรงเหยียดพระหัตถ์เบื้องขวาซึ่งมีสีดุจทอง ออกจากระหว่างบังสุกุลจีวรอันมีสีแดง

๒. พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงนุ่งผ้าสองชั้นที่ย้อมดีแล้ว ทรงห่มจีวรมหาบังสุกุล ได้ขนาดสุตตประมาณ ปานผ้ารัตตกัมพล (ผ้าสีแดง)

๓. พระผู้มีพระภาค ทรงห่มบังสุกุลจีวรอันประเสริฐสีแดง มีสีคล้ายสียอดอ่อนของต้นไทร

สีจีวรของพระอัครสาวกมีหลักฐานปรากฏว่า ๑. แม้พระมหาเถระทั้งหลาย มีพระสารีบุตรและพระมหาโมคคัลลานะ เป็นต้น ห่มบังสุกุลจีวร มีสีแดงเหมือนเมฆ ๒. พระมหาเถระทั้งหลาย มีพระมหากัสสปะ เป็นต้น ห่มบังสุกุลจีวรมีสีแดงเหมือนเมฆ

สีจีวรของพระเถระผู้ใหญ่ในสมัยพุทธกาล ก็เหมือนกับสีจีวรของพระพุทธเจ้า คือ สีแดง ตรงตามพระบรมพุทธานุญาต คือ สีเหลืองเจือแดงเข้ม ที่ใช้ย้อมด้วยแก่นขนุน คือสีกรักนั่นเอง

สีจีวรของพระสงฆ์ไทยปัจจุบัน ในสมัยพุทธกาล แม้พระภิกษุสงฆ์จะย้อมจีวรด้วยสีธรรมชาติแท้ๆ แต่ก็เชื่อว่าสีคงจะไม่ออกมาเป็นมาตรฐานเดียวกันหมดแน่นอน คงจะมีผิดเพี้ยนแตกต่างกันไปบ้าง แม้ในยุคปัจจุบันก็มีการใช้สีจีวรต่างๆ แต่พอแยกออกได้ ๒ สี คือ สีเหลืองเจือแดงเข้ม และ สีกรักสีเหลืองหม่น

วัดใดจะใช้จีวรสีไหนก็ได้ ไม่มีข้อห้าม เพราะถือว่าถูกต้องตรงตามพระบรมพุทธานุญาตทั้ง ๒ สี แต่ถ้าเป็นพระภิกษุสามเณรที่ยู่ในวัดเดียวกัน ก็น่าจะใช้จีวรสีเดียวกัน ส่วนสีที่นิยมในพระราชพิธีในพระบรมมหาราชวัง (วัดพระแก้ว) นิยมใช้สีกรัก หรือสีเหลืองหม่น เป็นมาตรฐานเดียวกัน ตลอดจนผ้าไตรที่ทางฝ่ายพระราชพิธีจัดเตรียมไว้ถวายพระด้วย ทั้งนี้ เพื่อความสวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อย และปฏิบัติมาจนถึงปัจจุบัน

ผู้มีจิตศรัทธาต้องการถวายผ้าจีวรแก่พระสงฆ์ควรทราบ

๑. ข้อควรปฏิบัติ คือ จะเลือกซื้อจีวรแบบไหนสีใดไปถวายพระวัดใด ต้องคำนึงถึงคุณภาพของผ้า ที่พระท่านสามารถใช้สอยได้อย่างเหมาะสม อีกอย่างหนึ่งคือ ต้องเลือกสีให้ถูกต้องตรงตามความนิยมของแต่ละวัด เช่น วัดบวรนิเวศ ใช้สีกรักหรือเหลืองหม่น วัดสระเกศ ใช้สีเหลืองเจือแดงเข้ม เป็นต้น

๒. จุดประสงค์การถวายผ้าจีวร เพื่อให้พระภิกษุหมดภาระในการแสวงหาผ้านุ่งห่ม ไม่ต้องกังวลใจ มีเวลาปฏิบัติธรรมอย่างเพียงพอ และเป็นการช่วยให้พระภิกษุมีผ้านุ่งห่ม ป้องกันเหลือบยุง บำบัดความหนาว ป้องกันความร้อน ป้องกันไม่ให้ป่วยไข้เพราะร้อนและหนาวเกินไป และรักษาสุขภาพอนามัยคือใช้ชายจีวรกรองน้ำดื่มเมื่อถึงคราวจำเป็น

๓. อานิสงส์การถวายจีวร ผู้ถวายต้องตั้งเจตนาบริจาคให้เป็นทานบารมีที่บริสุทธิ์จริงๆ ไม่ให้เกิดการเสียดาย จึงบังเกิดเป็นบุญมหาศาล แยกได้ดังนี้

(๑) สามารถตัดบาปออกไปจากจิตใจได้เด็ดขาด

(๒) กำจัดกิเลสขวางโลก คือ ความโลภ ความตระหนี่ถี่เหนียว ให้บรรเทาเบาบางจนจางหายไปในที่สุด

(๓) ยืน เดิน นั่ง นอน เป็นสุขสดใสใจเบิกบาน

(๔) เกิดความภาคภูมิใจที่มั่นคงอยู่ในบุญกุศล

(๕) พ้นจากความยากจน ความลำบากขัดสนทุกภพทุกชาติ

(๖) มีความอุดมสมบูรณ์ด้วยปัจจัย ๔ ทุกภพทุกชาติ

(๗) เกิดชาติใดภพใดจะเป็นคนที่มีรูปร่างหน้าตาสวยงาม ผิวพรรณผุดผ่องแจ่มใส

(๘) ทำให้บังเกิดความอิ่มบุญ เย็นใจตลอดเวลาทุกครั้งที่นึกถึง


๏ คำถวายจีวร

อิมานิ มะยัง ภันเต จีวะรานิ สะปะริวารานิ ภิกขุสังฆัสสะ โอโณชะยามะ สาธุ โน ภันเต ภิกขุสังโฆ อิมานิ จีวะรานิ สะปะริวารานิ ปฏิคคัณหาตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ

หรือจะกล่าวเฉพาะคำแปลก็ได้ คือ ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวายจีวร พร้อมทั้งของบริวารเหล่านี้ แก่พระภิกษุสงฆ์ ขอพระภิกษุสงฆ์ โปรดรับจีวร พร้อมทั้งของบริวารเหล่านี้ ของข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ตลอดกาลนานเทอญ

 


[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

334
สวยดีครับ
สักที่ไหนหรอ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

335
http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROd01ERTJNREl4TVRBMU1BPT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBd055MHhNQzB5TVE9PQ==



 
"พระธรรมรัตนากร" เป็นพระเถระอีกรูปหนึ่ง ที่สร้างคุณูปการต่อวงการสงฆ์แห่งแดนใต้อย่างอเนกอนันต์ เป็นที่โจษขานเลื่องลือไปไกล ทุ่มแรงกายแรงใจให้งานแบบถวายชีวิต กอปรด้วยศีลาจารวัตรอันงดงาม ตั้งอยู่ในศีล ดำรงตนตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด

เปรียบประดุจสะพานบุญ เชื่อมต่อศรัทธาแห่งชาวบ้านในชุมชนกับวัด มิให้ห่างเหินไปไกลกัน

ปัจจุบันพระธรรมรัตนากร สิริอายุ 79 พรรษา 59 ดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าคณะใหญ่หนใต้ เจ้าคณะภาค 18 และเจ้าอาวาสวัดกะพังสุรินทร์ ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง

อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า สงัด ลิ่มไทย เกิดเมื่อปี พ.ศ.2471 ที่บ้านหนองไทร ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายเปลี่ยน และนางทองอ่อน ลิ่มไทย

ในช่วงวัยเยาว์ จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 จากโรงเรียนเพาะปัญญา

พ.ศ.2483 บรรพชาเป็นสามเณร ที่อุโบสถวัดมงคลสถาน อ.นาโยง จ.ตรัง โดยมีพระครูวิบูลย์ศีลวัตร (แดง) วัดนิคมประทีป อ.เมือง จ.ตรัง เป็นพระอุปัชฌาย์

ก่อนย้ายมาอยู่ที่วัดจอมไตร อ.นาโยง จ.ตรัง เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2486 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี

พ.ศ.2487 สอบนักธรรมชั้นโท-เอก ตามลำดับ ที่สำนักเรียนวัดควนวิเศษ อ.เมือง จ.ตรัง

ด้วยความมุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลี จึงย้ายไปที่วัดคูหาสวรรค์ จ.พัทลุง จนสอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค

พ.ศ.2491 เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดจอมไตร อ.นาโยง จ.ตรัง โดยมีพระครูสังวรโกวิท เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูพิบูลธรรมสาร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระผุด มหาวีโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์

พ.ศ.2492-2494 สอบได้เปรียญธรรม 4-5-6 ตามลำดับ ก่อนย้ายมาอยู่ที่วัดกะพังสุรินทร์ พ.ศ.2504 สามารถสอบเปรียญธรรม 7 ประโยค

ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดกะพังสุรินทร์ พ.ศ.2514 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลบ้านโพธิ์

พ.ศ.2527 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดตรัง พ.ศ.2541 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะภาค 18

ล่าสุด พ.ศ.2550 ได้รับการแต่งตั้งเป็นรักษาการเจ้าคณะใหญ่หนใต้

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2516 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระปิฎกคุณาภรณ์

พ.ศ.2527 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชปริยัติยาภรณ์

พ.ศ.2536 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพวิมลเมธี

พ.ศ.2541 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมรัตนากร

พระธรรมรัตนากรเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดตรังและภาคใต้ ที่พุทธศาสนิกชนให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง

แม้จะล่วงวัย 79 ปีแล้วก็ตาม แต่ท่านยังให้ความสนใจในการหาความรู้ใหม่ๆ เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลานอกเหนือไปจากการศึกษาความรู้ด้านหลักธรรมคำสอนแห่งพุทธองค์พระพุทธเจ้าเพียงอย่างเดียว อาทิ ท่านสามารถใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการทำงานจัดระบบสารบัญได้อย่างคล่องแคล่ว และสามารถใช้งานอื่นได้ในระดับหนึ่ง

พระธรรมรัตนากรให้ความสำคัญในเรื่องการศึกษาพระปริยัติธรรมยิ่งนัก โดยท่านเป็นผู้รับผิดชอบในการสอนหนังสือด้วยตนเองมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2498 มาจนถึงปัจจุบัน มีพระภิกษุ-สามเณรที่สนใจศึกษาบาลีและนักธรรมเป็นจำนวนมาก

แต่เดิมที่ดินวัดกะพังสุรินทร์มีจำนวน 16 ไร่ ท่านได้ขอซื้อที่ดินด้านหลังขยายออกไปเพิ่มขึ้นเป็น 24 ไร่ และได้อนุญาตให้โรงเรียนเทศบาลมาใช้พื้นที่ด้วย ปัจจุบันคือ โรงเรียนเทศบาล 2 วัดกะพังสุรินทร์

นอกจากนี้ วัดกะพังสุรินทร์ยังให้การสนับสนุนทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่เรียนดีอย่างต่อเนื่องกันมาในทุกปีอีกด้วย รวมไปถึงการช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนในโอกาสต่างๆ เช่น เมื่อครั้งที่เกิดน้ำท่วมหนักในพื้นที่ อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช ท่านได้รวบรวมทุนทรัพย์จำนวนกว่า 100,000 บาท ช่วยเหลือผู้ประสบภัย

พระธรรมรัตนากรได้ยึดหลักควรยกย่องผู้ที่สมควรยกย่อง และตักเตือนผู้ที่สมควรตักเตือน ดังนั้น หากพระสังฆาธิการรูปใดที่ประพฤติดีต้องยกย่อง และต้องให้ได้รับเกียรติมีสมณศักดิ์

พร้อมกันนั้น พระธรรมรัตนากรยังได้อบรมพระในปกครองอยู่เสมอว่า ในการทำงานจะต้องไม่กลัวผิดพลาด แต่จะต้องตั้งใจทำงานนั้นให้ดีที่สุด และจะต้องไม่ตื่นเต้นเมื่อเกิดการผิดพลาด โดยพร้อมที่จะแก้ไขอยู่ตลอดเวลา

ปัจจุบันศาสนกิจของท่านต้องข้ามเขตพื้นที่การปกครองไปยังประเทศมาเลเซียด้วย การทำงานจะเน้นไปในการในการสนับสนุนส่งเสริมพระพุทธศาสนา และได้มีการตั้งคณะกรรมการที่เรียกว่า "คณะกรรมการส่งเสริมพระพุทธศาสนา ไทย-มาเลเซีย" (กศทม.) โดยมีเจ้าคณะภาค 18 เป็นประธาน และมีรองเจ้าคณะรัฐมาเลเซีย เป็นรองประธาน

พระธรรมรัตนากรกล่าวถึงวัดในประเทศมาเลเซียว่า มีประมาณ 33 วัด มีพระสงฆ์กว่า 200 รูป โดยรัฐที่มีวัดมากที่สุดคือ รัฐเคดาร์ รัฐปะลิศ และรัฐกลันตัน รองลงมาคือ รัฐปีนัง และรัฐกัวลาลัมเปอร์ ที่น่าสนใจคือ พระที่นั่นสามารถพูดภาษาไทยได้อย่างชัดเจน อาจมาจากวัฒนธรรมดั้งเดิม ที่ก่อนหน้านี้รัฐดังกล่าวคือประเทศไทยนั่นเอง ก่อนที่จะมีการแบ่งแยกประเทศออกไป นอกเหนือจากพระที่โน่นจะทำหน้าที่สอนสั่งคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว ยังทำหน้าที่สอนภาษาไทยให้ชาวมาเลเซียที่สนใจอีกด้วย

"อาตมามีโอกาสเดินทางไปด้วยครั้งหนึ่ง สังเกตเห็นว่าสถานที่ที่ไปแสดงธรรมยังมีเพียงพระพุทธรูปขนาดเล็กๆ เท่านั้น ครั้นเดินทางกลับมาเมืองไทย จึงได้จัดส่งพระพุทธรูปขนาดใหญ่ จำนวน 7 องค์ เพื่อไปตั้งประดิษฐานในอุโบสถ สร้างความยินดีให้กับพระและชาวบ้านเป็นอย่างยิ่ง"

หากเปรียบต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาแก่มวลสรรพสัตว์ฉันใด พระธรรมรัตนากรคงเปรียบได้กับต้นโพธิ์ใหญ่ แผ่ปกคลุมร่มเงาธรรม ปกปักคุ้มภัยอันตรายแก่มวลประชาฉันนั้น

เส้นทางสายธรรมพระราชอุทัยกวี แม้จะไม่ได้โลดโผนพิสดาร มากด้วยอภินิหารแต่ประการใด แต่ด้วยความเป็นพระแท้ ผู้มีจิตยึดมั่นในคำสอนแห่งองค์พระศาสดา เอาใจใส่หน้าที่ปกครองคณะสงฆ์ด้วยดี ทำให้เกิดความเรียบร้อย นำมาซึ่งความสงบร่มเย็นแก่หมู่คณะสงฆ์ ตลอดถึงฆราวาสญาติโยมพี่น้องชาวปักษ์ใต้กันถ้วนหน้า

ยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนพระพุทธศาสนาและเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ทุกคน

รับภาระเป็นแม่ทัพธรรมหนใต้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย

หน้า 1

 

 
 
   
     
   
 
   
   
 


[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

336
http://www.thairath.co.th/offline.php?section=hotnews&content=6การลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้หายจากพระอาการประชวร ที่สำนักพระราชวังเปิดให้พสกนิกรได้ร่วมถวายความจงรักภักดี ที่บริเวณศาลา 100 ปีศิริราช จนถึงวันที่ 19 ต.ค. ต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 แล้วและมียอดประชาชนมาร่วมลงนามถวายพระพรแล้วกว่า 2 แสนคน แต่ก็ยังมีประชาชนจากทั่วสารทิศหลั่งไหลมาถวายพระพรอย่างไม่ขาดสาย ทั้งนี้เพราะหัวใจไทยทุกดวง ล้วนมีความห่วงใยในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยากให้หายประชวรโดยเร็ววันเพื่อเป็นมิ่งขวัญของพสกนิกรต่อไปตราบนานเท่านาน

คลื่นพสกนิกรล้นทะลักศาลา 100 ปี

เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 19 ต.ค.ที่ศาลาศิริราช 100 ปี คลื่นมหาชนคนเสื้อเหลืองนับหมื่นคน ยังคงทยอยหลั่งไหลมาร่วมลงนามถวายพระพรและติดตามพระอาการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างไม่ขาดสาย ส่งผลให้ศาลาศิริราช 100 ปี แน่นขนัดจนแทบไม่มีที่จะยืน โดยตั้งแต่ช่วงเช้า บุคคลสำคัญในแวดวงต่างๆ สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมา เช่น พ.ท.ธนดล สุธารัตน์ รองเจ้ากรมยุทธ โยธาทหารบก นอกจากนี้ยังมีคณะนักเรียน อาทิ ร.ร.สตรี-จุลนาค ร.ร.ชาลีสมุทร โดยต่างร่วมกันร้องเพลง ?พ่อของแผ่นดิน? ถวายพระพรด้วย ขณะที่เหล่านักกีฬา โปรโมเตอร์ หัวหน้าคณะนักมวย คณะนักมวยโอลิมปิก ตบเท้ากันเข้าถวายพระพรต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่นายสุระ แสนคำ หรือเขาทราย แกแล็กซี่ สมรักษ์ คำสิงห์ แชมป์เหรียญทองโอลิมปิก วิชัย ราชานนท์ อดีตนักมวยโอลิมปิก เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง อดีตแชมป์นักมวยไทยและดนัย อุดมโชค นักเทนนิสทีมชาติไทย

เลขาอาเซียนชี้ทุกชาติห่วงในหลวง 

นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน ให้สัมภาษณ์หลังมาร่วมลงนามถวายพระพรว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระผู้นำที่ได้รับความเคารพ และชื่นชมจากประชาชนทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในกลุ่มประชาคมอาเซียนด้วยกัน ทุกครั้งที่ตนเดินทางไปเข้าร่วมประชุมยังประเทศต่างๆ ผู้เข้าร่วมประชุมต่างถามถึงพระอาการประชวร ด้วยความเป็นห่วงอย่างยิ่ง ทั้งยังเฝ้าติดตามพระอาการจากแถลงการณ์สำนักพระราชวังตลอดเวลา เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะประเทศไทยเป็นประเทศหลักในอาเซียน พระมหากษัตริย์ของเราทรงเป็นพระผู้นำ ที่ทุกประเทศต่างชื่นชม สังเกตได้จากการมาเยือนเมืองไทยของผู้นำประเทศต่างๆ ต้องขอให้มีการบรรจุวาระ การเข้าเฝ้าในหลวงอยู่ด้วย ดังนั้นการประชวรของพระองค์ จึงเป็นที่ห่วงใยจากทุกผู้นำของประเทศต่าง ๆ และได้ฝากถวายพระพรให้หายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว เพื่อเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของประชาชนและแผ่นดินไทยต่อไป 

ทูตนานาประเทศติดตามพระอาการ

นอกจากนี้ตลอดทั้งวัน บรรดาทูตานุทูตจากนานาประเทศ ยังคงปฏิบัติหน้าที่ในนามตัวแทนของรัฐบาลและประชาชน ในการเข้าถวายพระพรและติดตามพระอาการประชวรของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อาทิ นายลาร์ แบคสตอร์ม เอกอัครราชทูตฟินแลนด์ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ในนามรัฐบาลและประชาชนชาวฟินแลนด์ มุ่งหวังอย่างสูงให้ในหลวงทรงหายจากประชวรเร็ว และขอให้มีพระพลานามัยสมบูรณ์ รู้สึกอบอุ่นใจที่เห็นประชาชนชาวไทยจำนวนมาก มาติดตามพระอาการประชวร ด้วยใจที่จงรักภักดี นอกจากนี้ยังมีนางฟอร่า ไอยีดัน เอกอัครราชทูตไนจีเรีย ประจำประเทศไทย นายโรรอง บีลี่ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย 

?เสี่ยตา?นำข้าวกล่อง-น้ำมนต์มาแจก 

เวลา 10.30 น. นายปัญญา นิรันดร์กุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) พร้อมคณะผู้บริหาร พนักงานและศิลปินดารา เดินทางมาสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ พระบรมราชชนก และลงนามถวายพระพร ทั้งนี้ นายปัญญายังได้นำพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง และน้ำมนต์ ศักดิ์สิทธิ์จากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พร้อมอาหารกล่อง คือข้าวผัดกะเพรา ฝีมือนางอำพัน นิรันดร์กุล มารดา มาแจกประชาชนที่มาถวายพระพรด้วย นายปัญญา กล่าวว่า มาร่วมถวายพระพรในหลวง อยากให้พระองค์ทรงหายจากประชวร ติดตามข่าวล่าสุดทราบว่าทรงมีพระอาการดีขึ้นแล้ว ทุกคนก็สบายใจ โดยเฉพาะมารดาของตนสวดมนต์ให้ในหลวงทุกวัน คนที่ไม่ได้มาที่นี่ ก็รักในหลวง และคิดเหมือนกัน คืออยากให้ในหลวงหายจากประชวร ภาพความรักที่ประชาชนมีต่อในหลวงมีต่อแผ่นดิน ไม่ได้หาได้ง่ายๆ

ฝรั่งเป่าทรัมเป็ตเพลงสดุดีมหาราชา

เวลาไล่เลี่ยกัน นายคนู ครูทเซท์ ชาวเยอรมัน วัย 51 ปี พร้อมด้วยนางหทัย ครูทเซท์ ภรรยาชาวไทย มาร่วมลงนามถวายพระพร โดยนายครูทเซท์ได้นำเป่าทรัมเป็ต มาเป่าเพลงสดุดีมหาราชา เพื่อเป็นการถวายพระพรด้วย สร้างความสนใจให้กับผู้ที่มาร่วมลงนามอย่างมาก นายคนูกล่าวว่า ตนรักเมืองไทย ชื่นชมในหลวงและพระราชินี อยากให้พระองค์มีพระพลานามัยที่แข็งแรง รู้สึกประทับใจต่อพระองค์ เนื่องจากท่านทรงเป็นกษัตริย์ ที่ดี รักพสกนิกร และทำทุกอย่างเพื่อให้ประชาชนชาวไทยอยู่อย่างเป็นสุข 

ชาวฮินดูน้อมใจสวดมนต์ถวายพ่อหลวง

ส่วนนายอโศก มาจาจ นายกสมาคมฮินดูสมาช วัดเทพมณเฑียร เสาชิงช้า นำชาวฮินดูกว่า 50 คน มาประกอบพิธีสวดบท ?มหามริตยูมจา มหาตรี? นอกจากนี้ ยังเปิดเผยว่า บทที่สวดเพื่อให้ในหลวงทรงหายจากพระอาการประชวร ตลอดปี 50 วัดฮินดูในประเทศไทยต่างร่วมกันสวดมนต์ให้ในหลวง ในโอกาสทรงเจริญพระชนม พรรษา 80 ปี ยิ่งช่วงที่พระองค์ทรงพระประชวรนั้น ก็ยิ่งเพิ่มการสวดมนต์มากขึ้นเพราะอยากให้ทรงหายโดยไว 

?โต๋ว? โชว์เดี่ยวเพลงพระราชนิพนธ์

ขณะเดียวกัน นักร้องชื่อดังเจ้าของเพลง ?รักเธอ? โต๋ว ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาภรณ์ เดินทางเข้าร่วมลงนามถวายพระพร ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังอาคาร 100  สมเด็จพระศรีนครินทร์ เพื่อโชว์เดี่ยวเปียโน เพลงพระราชนิพนธ์ ภายในงานนิทรรศการศิริราชรวมใจศิลปินเฉลิมพระเกียรติ เพื่อขับกล่อมประชาชนที่มาเข้าเฝ้าถวายพระพร โต๋วกล่าวว่า ตั้งใจจะเดินทางมาถวายพระพร และได้รับเกียรติให้เล่นเพลงพระราชนิพนธ์ มีเพลงใกล้รุ่ง ยามเย็น และความฝันอันสูงสุด วันนี้ทำให้ เห็นว่าคนไทยทุกคนรักในหลวงเหมือนกัน ทำให้คนในชาติเราสามัคคีกัน ดังนั้น คนที่ไม่สามารถเดินทางมาที่ศิริราชได้ ก็ขอให้ช่วยส่งกำลังใจมา ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม

เตือน ปชช.ระวังมิจฉาชีพแฝงตัว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองอำนวยการร่วมถวายความอารักขาและรักษาความปลอดภัย รพ.ศิริราช ได้เดินประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่เดินทางมาลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ระมัดระวังแก๊งมิจฉาชีพมากรีดและล้วงกระเป๋า ขณะที่เข้าคิวรับของแจกต่างๆ ที่ภาคเอกชนนำแจกจ่ายให้ผู้ลงนามถวายพระพร พร้อมระบุว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายหลายรายแล้ว อย่างไรก็ตาม ระหว่างการแจ้งประชาสัมพันธ์อยู่นั้น ได้มีนางเอื้อน เกตุแก้ว อายุ 84 ปี สะพายกระเป๋าเสื้อผ้าสีดำใบใหญ่ เดินร้องไห้ตาแดงมาร้องทุกข์ว่า เดินทางมาจากหนองแขม เพื่อมาลงนามถวายพระพร และรอติดตามพระอาการประชวรของในหลวง แต่ถูกล้วงกระเป๋าสูญเงินไปประมาณ 1,500 บาท พร้อมโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง 

หลายหน่วยงานระดมข้าว-น้ำแจกจ่าย

ส่วนที่ลานพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก หลายหน่วยงานจับมือกันระดมอาหารและน้ำดื่มมาแจกจ่ายผู้มาเฝ้าพระอาการในหลวง เช่น นายสิรวิชญ์ สงวนสันติสุข ผช.ผอ.ธนาคารออมสิน ธนาคารออมสิน นำอาหารกล่องและน้ำดื่ม 1 พันชุดมาแจก มีทั้งข้าวหมูแดง ข้าวผัดอเมริกัน และข้าวมันไก่ นายเกริกไกร จีระแพทย์ รมว. พาณิชย์ นำข้าวกล่องจำนวน 2 พันกล่อง น้ำดื่ม 2 พันขวด และน้ำผลไม้มาแจก ฯลฯ นอกจากนี้ ตลอดทั้งวันประชาชนนับพันมาต่อคิวรับอาหารกันจนไม่มีที่จะเดิน ขณะเดียวกันที่เต็นท์ 4 หลัง ซึ่งทาง กทม.จัดให้ผู้ที่มาเฝ้าพระอาการได้หลบฝนกันแดดนั้น ก็มีการจัดกิจกรรมกันตั้งแต่สวดมนต์ ร้องเพลง ทั้งนี้ ประชาชนหลายคน ยังนั่งจับจ้องเพ่งมองไปยังชั้น 16 สถานที่ประทับรักษาพระอาการประชวร แล้วพนมมือสวดมนต์พึมพำ ทั้งนี้ยังมีศิลปินตาบอดชื่อนายเรวัติ ผ่องแผ้ว นำแซ็กโซโฟนมาเป่าเพลงพระราชนิพนธ์ขับกล่อมประชาชนด้วย

คนแห่ขอภาพในหลวงไปบูชา 

สำหรับบรรยากาศการลงนามถวายพระพร ในช่วงบ่าย ที่ศาลาศิริราช 100 ปี คึกคักขึ้นถนัดตาเมื่อประชาชนจำนวนมากแห่กันมาเข้าคิวลงนามถวายพระพร เพื่อรอรับภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระราชทานจากในหลวงกันอย่างเนืองแน่น หลายคนลงนามซ้ำหลายครั้ง เพื่อหวังได้ภาพไปบูชา ทั้งนี้ นอกจากจะเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ ในชุดฉลองพระองค์สูทสีฟ้าแล้ว ยังมีภาพที่พระราชทาน ซึ่งภาคเอกชน โดยนายบรรพต โรจน์รุ่งสัตย์ นำมาถวาย เป็นโปสเตอร์ในพระอิริยาบถต่างๆ กัน จำนวน 13 แบบ กว่า 2 หมื่นใบ พร้อมพระบรมฉายาลักษณ์ ขนาดเท่ากระดาษ A4 จำนวน 5 พันใบ มามอบให้เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังแจกประชาชนที่มาลงนาม อย่างไรก็ตาม ได้มีเหล่าพุทธศาสนิกชนกลุ่มต่างๆ มากหน้าหลายตา สลับกันหมุนเวียนมาสวดมนต์ถวายในหลวง หน้าอนุสาวรีย์ สมเด็จย่า ในศาลาศิริราช 100 ปี เพื่อขอให้ทรงหายประชวร เช่น กลุ่มยุวทูตก้าวหน้า หรือเยาวชนที่ชนะเลิศการตอบปัญหาธรรมะ ซึ่งจัดขึ้นโดยชมรมพุทธศาสตร์ สากล นำเทียนมาจุดก่อนสวดบททำนองสรภัญญะ ถวายในหลวงด้วย 

ศิลปินตลกนับร้อยร่วมร้องเพลงสดุดี   

เวลา 15.20 น.นายศรสุทธา กลั่นมาลี หรือถั่วแระ เชิญยิ้ม นายกสมาคมศิลปินตลกแห่งประเทศไทย พร้อมศิลปินตลกทั่วเมืองไทยกว่า 100 ชีวิต เข้าร่วมกันลงนามถวายพระพร ก่อนตั้งแถวร้องเพลงสดุดีมหาราชา ที่หน้าลานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ตลกถั่วแระกล่าวว่า ทั้งประเทศและทั่วโลกต่างรู้ว่าวันนี้เป็นวันอะไรและจะต้องทำอะไรบ้าง ทุกอย่างที่อยากได้คือขอให้พระอาการประชวรของในหลวงหายโดยเร็วที่สุด 

ราชินีพระราชทานส้ม 4 พันลูก 

ด้านบรรยากาศที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ ยังคงมีประชาชนเดินทางมาจับจองพื้นที่เพื่อคอยติดตามพระอาการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บริเวณทางขึ้นลงของอาคาร โดยมี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เดินทางมาทักทายและบอกให้ทุกคนรักษาสุขภาพ ขณะเดียว กัน ท่านผู้หญิงเพ็ญศรี วัชโรทัย ได้นำส้มเขียวหวานจำนวน 4,000 ลูก ซึ่งเป็นส้มพระ ราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มาแจกจ่ายให้กับประชาชนในบริเวณดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ นางเฉลิมสิริ หลิมยิ่ง เจ้าของร้านนวดแผนไทยจากจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ได้ปิดร้านมาติดตามพระอาการประชวรของในหลวงที่ รพ.ศิริราช ตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค. เพราะอยากฟังข่าวอย่างใกล้ชิดที่สุด โดยหวังให้พระองค์ ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว เพื่อเป็นมิ่งขวัญของชาวไทยต่อไปนานๆ 

วิจารณ์หึ่งนาตาลีใส่สายเดี่ยวโชว์หวาม

ขณะเดียวกันได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ ประชาชนที่มาร่วมลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และประชาชนทั่วไปที่เห็นภาพจากหน้าหนังสือพิมพ์ถึงความไม่เหมาะสมในการแต่งกายของ ฟ้า-นาตาลี เกลโบวา อดีตนางงามจักรวาล และว่าที่ภรรยาของบอล-ภราดร ศรีชาพันธุ์ ขณะเดินทางมากราบสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบรมราชชนกฯ และลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมกับเจ้าบอลเมื่อวันที่ 18 ต.ค. โดยฟ้า-นาตาลีได้สวมเสื้อยืดสายเดี่ยวสีเหลืองรัดรูป แลเห็นเนินเนื้อหน้าอกชัดเจน เหมือนเป็นการไม่ให้เกียรติและไม่เคารพสถานที่

?เจ๊เบียบ? ติงแต่งตัวให้รู้กาลเทศะ

เกี่ยวกับเรื่องนี้นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข กล่าวถึงกรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ การแต่งกายไม่เหมาะสมของฟ้า-นาตาลี ขณะควงคู่ภราดร ศรีชาพันธุ์ คู่หมั้นหนุ่มไปถวายพระพรที่โรงพยาบาลศิริราชว่า เห็นภาพแล้วไม่สบายใจ เพราะชุดที่ใส่เป็นเสื้อสายเดี่ยวรัดรูป สวมกางเกงยีนเน้นสรีระ ต้องยอมรับว่านาตาลีเป็นคนรูปร่างงามอยู่แล้ว แต่การเป็นบุคคลสาธารณะเข้าไปในสถานที่แบบนี้ ต้องเข้าใจว่าสื่อมวลชนจะต้องให้ความสนใจ ถ่ายภาพทำข่าวจำนวนมาก สมควรแต่งกายมิดชิดมากกว่านี้อย่างน้อยให้มีเสื้อแจ็กเกตตัวหนึ่งคลุมก็ยังดี  ตรงจุดนี้คงไม่โทษนาตาลี  เพราะเจ้าตัวพยายามอย่างเต็มที่ที่จะแสดงออกถึงความเป็นไทย ร่วมจงรักภักดีตามแบบคนไทย แต่คนใกล้ชิดอย่างภราดรต้องแนะนำ การเป็นบุคคลสาธารณะต้องระมัดระวัง รู้กาลเทศะ ไม่ใช่แต่งกายตามสบายเหมือนอยู่บ้าน หรือไปเดินเที่ยวห้าง นอกจากนี้อยากฝากเตือนดารานักร้องนักแสดงที่จะไปร่วมถวายพระพร หรือไปในสถานที่เป็นทางการ ช่วยแต่งกายให้เหมาะสมและให้เกียรติสถานที่ด้วย 

ปาฏิหาริย์ภาพในหลวงไม่ไหม้ไฟ

วันเดียวกัน มีนายชินกร เทียนสี อายุ 66 ปี ชาว กทม. นำภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว มาทูลเกล้าฯถวาย พร้อมกล่าวว่า เป็นพระบรมฉายาลักษณ์กฤษดาอภินิหาร เนื่องจากครั้งหนึ่งเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้อาคารวอดวาย แต่ปรากฏว่าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกลับไม่ได้รับความเสียหาย ถือเป็นปาฏิหาริย์ที่ยังอยู่ในความทรงจำของตนจนทุกวันนี้ 

พสกนิกรปลื้มรับข้าวกล่องพระราชทาน 

ช่วงเย็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานข้าวผัดไข่ดาวจำนวน 600 กล่อง ให้กับประชาชนที่มาคอยติดตามพระอาการ บริเวณลานพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร  อดุลยเดชวิกรม  พระบรมราชชนก โดยเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังและเจ้าหน้าที่เทศกิจต้องมาตั้งแถวแจกจ่าย เพราะมีประชาชนจำนวนมากเข้ามาต่อคิว รับอาหารด้วยความปลาบปลื้ม สำหรับอาหาร พระราชทานชุดนี้ทางหลวงปู่บุญฤทธิ์ได้ถวายแก่ในหลวง จากนั้นก็พระราชทานมาให้ประชาชนอีกต่อหนึ่ง 

ในหลวงเสวยอาหารได้มากขึ้นแล้ว

เวลา 18.00 น. สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 7 ความว่า วันนี้คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้รายงานพระอาการว่า อุณหภูมิพระวรกายเป็นปกติเหมือนเมื่อวานนี้ ผลของการตรวจพระโลหิตแสดงว่า การอักเสบของพระอันตะ (ลำไส้ใหญ่) ลดน้อยลงอีก ทรงบริหารพระวรกาย เพื่อเพิ่มพระกำลังกล้ามเนื้อและเสวยได้มากขึ้น พระอาการทั่วไปดี จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน สำนักพระราชวัง 19 ตุลาคม พุทธศักราช 2550

 
 
 
 ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
 ในหลวง พระอาการไข้ เป็นปกติ [19 ต.ค. 50 - 04:27]
 
   
     
 

 
 
 
   

337
ต่อ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

338
ต่อครับ

341
 :009:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

343
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: ศิลป
« เมื่อ: 13 ต.ค. 2550, 11:24:25 »
 :059:










345
ขอร่วมแสดงความอาลัย

http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5903293/Y5903293.html


  ปูชนียบุคคลของประเทศไทย 

วัดชลประทานฯ จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ากราบศพหลวงพ่อปัญญาฯ วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. และประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ เวลา 17.00 น. วันเดียวกัน ขณะที่พระลูกวัดทำความสะอาดโดยรอบวัดและศาลาฯ สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศล ด้านอธิบดีกรมการศาสนา ระบุหลวงพ่อปัญญาฯ เป็นปูชนียบุคคลของประเทศ เป็นพระนักเทศน์นักปฏิบัติ เป็นดวงประทีปทางปัญญาของชาวพุทธดวงหนึ่งที่มีแสงสว่างมานาน
     
     บรรยากาศที่วัดชลประทานรังสฤษฏ์ พระสงฆ์ได้ช่วยกันทำความสะอาดโดยรอบวัด ศาลาขจรประศาสน์ ซึ่งจะเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศล พระพรหมมังคลาจารย์ หรือหลวงพ่อปัญญานันทัตเถระภิกขุ ขณะเดียวกัน มีประชาชนทยอยมาที่วัดด้วยความโศกเศร้า
     
     พระเทพปริยัติเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ กล่าวว่า ในวันนี้ทางวัดได้เตรียมการเรื่องงานที่อย่างเดียว เนื่องจากกระทันหัน หลวงพ่อปัญญาฯ เพิ่งเข้าโรงพยาบาลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่าน โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ของวัดทุกฝ่ายได้เตรียมตกแต่งศาลาขจรประศาสน์ ประสานที่จอดรถภายในวัดทั้งหมด และประสานสำนักพระราชวัง เพื่อขอพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ ตามที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช ทรงมีบัญชามาให้ประสานไปยังสำนักพระราชวังเพื่อประกอบพีธีถวายน้ำหลวบสรงศพในวันที่ 12 ตุลาคม เวลา 17.00 น. และอาจจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ากราบศพตั้งแต่เวลา 09.00 น. วันที่ 12 ตุลาคมนี้
     
     ?ตอนนี้ต้องขอโอกาสให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่จัดเตรียมสถานที่ เพราะหลวงพ่อฯ ไม่ใช่พระของวัดแต่เป็นพระของประเทศ และขอแจ้งไปยังญาติโยมยังไม่ต้องรีบร้อนมา หลังจากเสร็จสิ้นพิธีการในพระบรมราชานุเคราะห์อย่างน้อยศพของท่านต้องอยู่อีกเป็นปี เพราะลูกศิษย์มาก และต้องฟังทางมหาเถรสมาคมและฝ่ายราชการด้วย? พระผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดชลประทานฯ กล่าวและว่า หลวงพ่อปัญญาฯ ไม่เคยสั่งการเรื่องการจัดงานศพของท่าน แต่ทางวัดจะสืบสานปณิธานของหลวงพ่อ ในการดูแลวัด ตามที่วางแนวทางไว้ตั้งแต่เป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่ปี 2503 จนถึงปัจจุบัน
     
     ผู้สื่อข่าวถามว่า หลวงพ่อปัญญาฯ ท่านมีของสะสมอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ พระเทพปริยัติเมธี กล่าวว่า หลวงพ่อปัญญาฯ ไม่มีของสะสมอะไรเลย ยกเว้นหนังสือมีมากที่สุด และท่านไม่มีแม้กระทั่งเงินฝากในบัญชีที่เป็นชื่อของท่าน ถ้ามีก็เป็นชื่อของวัด ทางวัดเตรียมทำเรื่องการทำซีดีเทศนาธรรม ซึ่งหลวงพ่อปัญญาฯ มีมากกว่า 5,000 กัณฑ์ รวมถึงเอกสารงานพิมพ์งานเขียนต่าง ๆ ด้วย
     
     ด้านนางจุฬารัตน์ บุณยากร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวถึงการมรณภาพของหลวงพ่อปัญญาฯ ว่า ถือเป็นการสูญเสียพระผู้ใหญ่ในวงการพระสงฆ์ ซึ่งเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ แม้จะอายุมาก แต่โดยสติปัญญายังให้หลักธรรมได้ตลอดเวลาและคำสอนยังเป็นหลักดำเนินชีวติได้เป็นอย่างดี
     
     นายสด แดงเอียด อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า หลวงพ่อปัญญาฯ เป็นปูชนียบุคคลของประเทศ เป็นพระนักเทศน์นักปฏิบัติเป็นดวงประทีปทางปัญญาของชาวพุทธดวงหนึ่งที่มีแสงสว่างมานานมาก จากประวัติท่านอุทิศตน เพื่อพระพุทธศาสนามาแต่เยาว์วัย และมุ่งมั่นเป็นทายาทของพระพุทธองค์มาโดยตลอด เป็นครูพระที่เทศน์ไม่หยุด แม้จะเจ็บป่วยก็ไม่หวั่นไหว

ที่มา Manager Online

จากคุณ : DragonV  - [ 10 ต.ค. 50 15:00:51 ]   




--------------------------------------------------------------------------------
***************************************************************************************************************************************************************************************************




 ชีวประวัติ พระธรรมโกศาจารย์  ( ปัญญานันทภิกขุ )

พระธรรมโกศาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ) เดิมชื่อ ปั่น นามสกุล เสน่ห์เจริญ
เกิดเมื่อวันวันพฤหัสบดีที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๔๕๔ ตรงกับวันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๖ ปีกุน ที่ตำบลคูหาสวรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เป็นบุตรของนายวัน-นางคล้าย เสน่ห์เจริญ มีพี่ชาย ๑ คน พี่สาว ๒ คน และน้องสาว ๑ คน
วัยเด็ก เริ่มเข้าเรียนที่โรงเรียนประจำอำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง จากนั้นย้ายไปศึกษาต่อที่โรงเรียนประจำจังหวัดพัทลุง จนจบชั้น ม.๓ ในสมัยนั้น แล้วไม่ได้ศึกษาต่อเพราะมีอุปสรรคทางบ้าน บิดาป่วย ต้องลาออกเพื่อช่วยเหลือครอบครัว
วัยหนุ่ม ติดตามหลวงลุงไปประเทศมาเลเซีย แล้วกลับมาทำงานเหมืองแร่และสวนยางที่ภูเก็ต
อายุ ๑๘ ปี บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดอุปนันทาราม ตำบลเขานิเวศน์ จังหวัดระนอง ได้เป็นครูใหญ่ในโรงเรียนประชาบาล เงินเดือนๆ ละ ๒๕ บาท และได้เรียนนักธรรมไปด้วย
สอบนักธรรมตรีได้ที่ ๑ ทั้งมณฑลภูเก็ต หัวข้อกระทู้ธรรมในการสอบครั้งนั้น คือ "น สิยา โลกวฑฺฒโน-ไม่ควรเป็นคนรกโลก"
อายุ ๒๐ ปี อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดนางลาด ตำบลเขาเจียก อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง โดยมี พระครูจรูญกรณีย์ เป็นพระอุปัชฌาย์
เทศน์ครั้งแรกที่วัดปากนคร จังหวัดนครศรีธรรมราช
ร่วมธุดงค์ไปเผยแพร่พระพุทธศาสนา ที่ประเทศพม่ากับพระภิกษุชาวอิตาเลี่ยนชื่อ "พระโลกนาถ"
ไปจำพรรษาที่สวนโมกขพลาราม ตำบลพุมเรียง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมกับท่านพุทธทาส (พระธรรมโกศาจารย์) ปัจจุบันมรณภาพแล้ว) และท่าน บ.ช.เขมาภิรัต (พระราชญาณกวี อดีตเจ้าคณะจังหวัดชุมพร ปัจจุบันมรณภาพแล้ว) เป็น "สามสหายธรรม" ร่วมงานเผยแพร่พระพุทธศาสนากันมาตั้งแต่บัดนั้น
ศึกษาภาษาบาลีที่วัดสามพระยา กรุงเทพมหานคร จนสอบได้ประโยค ๔ แล้วเกิดสงคราม มหาเอเซียบูรพา จึงไม่ได้เรียนต่อประโยค ๕
ไปจังหวัดเชียงใหม่เมื่อ ๑๓ เมษายน ๒๔๙๒ เริ่มเผยแพร่พระพุทธศาสนาด้วยการปาฐกถาธรรม โดยสร้างโรงมุงใบตองตึงขึ้นในที่ของชาวบ้าน เทศน์ทุกวันอาทิตย์และวันพระ
ออกเทศน์ตามหมู่บ้านโดยรถยนต์ติดเครื่องขยายเสียงและเขียนเรื่องลงหนังสือพิมพ์ชาวเหนือ จนมีชื่อขึ้นที่เชียงใหม่ในนาม ("ภิกขุ ปัญญานันทะ") ผู้สนับสนุนคนสำคัญคือ เจ้าชื่น สิโรรส ท่านเผยแพร่ธรรมะอยู่ที่เชียงใหม่ โดยจำพรรษาอยู่ที่วัดอุโมงค์ นานถึง ๑๑ พรรษา (พ.ศ.๒๔๙๒-๒๕๐๒)
เดินทางไปเผยแพร่ธรรมยังทวีปยุโรป และร่วมประชุมกับขบวนการศีลธรรมโลก (M.R.A.) ที่เมืองโคช์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นที่ "พระปัญญานันทมุนี" เมื่อ ๕ ธันวาคม ๒๔๙๙
กรมชลประทานอาราธนานิมนต์มาเป็นเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ ที่อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
๒๓ พฤษภาคม ๒๕๐๓ - ทำพิธีเปิดวัด อัญเชิญพระประธานขึ้นประดิษฐานบนแท่นใน พระอุโบสถ และเจ้าคณะจังหวัดนนทบุรีประกาศแต่งตั้ง "พระปัญญานันทมุนี" เป็นเจ้าอาวาส วัดชลประทานรังสฤษฏ์
เริ่มปฏิรูปพิธีกรรมทางศาสนาให้เป็นไปเพื่อส่งเสริมสติปัญญา ตามหลักการที่ว่า "เป็นระเบียบ เรียบง่าย ประหยัด และได้ประโยชน์"
๓ สิงหา ๒๕๐๓ แสดงพระธรรมเทศนา ถวายแด่สมเด็จพระราชชนนีศรีสงวาลย์ ณ พระตำหนักจิตรลดารโรฐาน
ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัฌาย์ และได้บวช ม.ล.ชอบ อิศรศักดิ์ เป็นคนแรก เมื่อ ๖ พฤษภาคม ๒๕๐๖
๑๒ สิงหาคม ๒๕๑๒ -เริ่มเปิดสอน พุทธศาสนาวันอาทิตย์แก่เยาวชน โดยอาศัยสถานที่ของโรงเรียนชลประทานสงเคราะห์ จนกระทั่งปี พ.ศ.๒๕๒๗ เมื่ออาคารโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์สร้างเสร็จแล้ว จึงได้ย้ายมาเรียนมาสอนกันภายใน วัดชลประทานรังสฤษฏ์
ได้รับพระราบทานสมณศักดิ์ เป็นที่ "พระราชนันทมุนี" เมื่อ ๕ ธันวาคม ๒๕๑๔
ได้แสดงธรรมเทศนาถวายแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ ๒ เมษายน ๒๕๑๘ ณ วัดชลประทานรังสฤษฏ์
๑๙ ธันวาคม ๒๕๑๘ -ได้แสดงพระธรรมเทศนา ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชนีนาถ, องคมนตรี และรัฐมนตรีทุกท่าน ในพระราชพิธี พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ รามาธิบดีอันมีศักดิ์ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
ได้รับรางวัล "สังข์เงิน" เป็นเกียรติในฐานะพระภิกษุผู้เผยแพร่ธรรมะยอดเยี่ยมประจำปี ๒๕๒๐ จากสมาคมนักประชาสัมพันธ์แห่งประเทศไทย
ได้รับรางวัล "นักพูดดีเด่น" ประจำปี ๒๕๒๐ ประเภทเผยแพร่ธรรม จากสมาคมฝึกการพูด แห่งประเทศไทย เมื่อ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๒๑
เริ่มแสดงปาฐกถาธรรม ทุกวันอาทิตย์ต้นเดือน เวลา ๘.๐๐ - ๘.๓๐ น. สถานีวิทยุกระจายเสียง แห่งประเทศไทย ถ่ายทอดทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ๒๕๒๑
ได้รับปริญญาพุทธศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาครุศาสตร์) จากมหาจุฬาลงกรณ์ ราชวิทยาลัย เมื่อ ๙ มกราคม ๒๕๒๔
เริ่มโครงการ "พระธรรมทายาท" อบรมพระภิกษุให้เป็นนักเผยแผ่ธรรมะที่ดี เป็น "ธรรมทายาท" มิใช่ "อามิสทายาท" ของพระบรมศาสดา
ได้รับถวายปริญญาสังคมศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาครุศาสตร์) จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๓๐
ได้รับปริญญาคุรุศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาครุศาสตร์) จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทรวิโรฒ
เมื่อ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๓๒
และ มหาวิทยาลัยอื่น ๆ อาทิ จุฬาฯ, ธรรมศาสตร์ ฯลฯ.
ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นที่ "พระธรรมโกศาจารย์" เมื่อ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๗
เป็นเจ้าคณะภาค ๑๘ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๐.

ที่มา http://www.panya.iirt.net/read/all-html/panya00.html

จากคุณ : DragonV  - [ 10 ต.ค. 50 15:15:16 ]












346
http://www.phrathai.net/node/194



องค์กรพุทธจี้นายกฯ ยุติการแสดงภาพเขียน "หมา-นุษย์สันดานกา"
By psp - Posted on ตุลาคม 9th, 2007
Tagged: ศาสนาวัฒนธรรม  ?  หมา-นุษย์สันดานกา
(9 ตค.) พระเทพวิสุทธิกวี เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย นำสมาชิกองค์กรพระพุทธศาสนา 9 องค์กร ประมาณ 50 คน ประกอบด้วยพระสงฆ์ สามเณร และประชาชน เดินทางมายังประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือผ่านเจ้าหน้าที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ประชาชนไปยัง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี โดยข้อร้องเรียนในหนังสือระบุว่าในฐานะที่นายกรัฐมนตรีเป็นพุทธศาสนิกชน ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแล ส่งเสริมคุ้มครองพระพุทธสาสนาตามมาตรา 79 ตามรัฐธรรมนูญ 2550 จึงขอให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการยุติการแสดงภาพเขียนที่ชื่อว่า "ภิกษุสันดานกา" , "หมา-นุษย์" และภาพอื่นๆของนายอนุพงษ์ จันทร ที่มีลักษณะลบหลู่เหยียดหยามพระพุทธศาสนา และขอให้ตักเตือนดำเนินการทางวินัยผู้ที่เกี่ยวข้องกับภาพทุกส่วน และนอกจากนี้ก็ขอให้ดำเนินการกับเว็บไซต์ขายบริการทางเพศ เช่น พัฒพงศ์ดอทคอม ฯ และโปสเตอร์ภาพยนตร์ เช่น องค์บาก ที่นำดึงพระพุทธศาสนาไปสู่ความเสื่อมเสียอย่างเด็ดขาดด้วย

"ครั้งนี้เป็นการยื่นหนังสือครั้งที่ 5 หลังจากยื่นมาทั้งกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงศึกษาธิการ มหาวิทยาลัยศิลปากร และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม เพื่อขอให้หยุดการแสดงภาพนี้ เพราะถ้าหากไม่มีการแก้ไขจะนำไปสู่ความขัดแย้งของชาวพุทธอย่างแน่นอน รวมทั้งถ้าไม่ได้รับการแก้ไขจากนายกฯ ก็เท่ากับว่านายกไม่ได้สนใจปัญหาของบ้านเมืองจริง ดังนั้นพวกเราจะกลับมาประสานขอพบนายกอีกครั้งในภายหลัง" พระเทพวิสุทธิกวี กล่าว

ที่มา:คมชัดลึก

347
http://www.siamha.com/issue/data/5/00000042-1.html
หลังจากที่ตัวแทนสมัชชาชาวพุทธแห่งชาติทั้งพระสงฆ์และฆราวาสได้ออกมาเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยศิลปากรระงับการจัดแสดงและถอดรางวัลภาพ ?ภิกษุสันดานกา? ของนายอนุพงษ์ จันทร ที่ชนะเลิศการประกวดผลงานศิลป กรรมแห่งชาติครั้งที่ 53
 
เพราะดูเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามพระสงฆ์ไทย แต่ทาง ม.ศิลปากรก็ยังยืนยันจะจัดแสดงต่อไปนั้น เมื่อวันที่ 1 ต.ค. นายเสถียร วิพรมหา ประธานชมรมพุทธศาสนาและวัฒนธรรมไทยพิทักษ์ชาติ ศาสนา กษัตริย์ เปิดเผยว่า
 
ทางเครือข่ายชาวพุทธจะยังเดินหน้าต่อสู้เรื่องนี้ต่อไป โดยในวันที่ 5 ต.ค. จะยื่นหนังสือต่อ ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน รมว.ศึกษา ธิการ (ศธ.) เพื่อขอให้ตรวจสอบเรื่องนี้โดยด่วน รวมทั้งจะประสานงานไปยังเครือข่ายชาวพุทธในทุกจังหวัดที่จะมีการนำภาพไปจัดแสดงให้ออกมาชุมนุมประท้วงด้วย

นายเสถียร กล่าวต่อไปว่า นอกจากภาพภิกษุสันดานกาแล้วตนยังได้ตรวจสอบพบว่ามีภาพที่วาดโดยนายอนุพงษ์อีก 1 ภาพใช้ชื่อภาพว่า ?หมา-นุษย์? เป็นภาพสีอะคริลิกซึ่งเป็นภาพของสุนัขห่มจีวรนอนหมอบอยู่และมีอีกามาเกาะอยู่บนหลัง ซึ่งตนและชาวพุทธหลายคนดูแล้วรู้สึกรับไม่ได้เช่นกัน
 
เนื่องจากเป็นการลบหลู่ และสร้างความเสื่อมเสียให้แก่พระพุทธศาสนาอย่างมาก และเมื่อดูในพระไตรปิฎกก็ไม่ได้มีส่วนใดเกี่ยวข้องกับภาพในลักษณะดังกล่าว ซึ่งตนได้นำภาพดังกล่าวไปให้พระผู้ใหญ่หลายรูปดูแล้วต่างก็ไม่เห็นด้วย และดูจะมีความรุนแรงมาก กว่าภาพภิกษุสันดานกา ทั้งนี้ตนจะนำภาพดังกล่าวไปมอบให้กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ได้พิจารณาด้วย

?ภาพดังกล่าวมีการจัดพิมพ์ขายรวมอยู่ในงานเขียนของนายอนุพงษ์เล่มละ 300 บาท ดังนั้นผมจึงอยากเรียกร้องให้ทาง ม.ศิลปากร และผู้วาดภาพออกมาแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่ได้กระทำและควรจะต้องขอโทษต่อคณะสงฆ์ด้วย? นายเสถียร กล่าว.



348
http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5893463/Y5893463.html


นสพ.มติชนด่าพระสงฆ์อีกแล้วครับ.....ความไม่รู้ของพระในเรื่องศิลปะ

รายละเอียด
คอลัมน์ เที่ยวชมศิลปะ

โดย นิวัต กองเพียร


ข่าวที่พระออกมาต่อต้านเรียกร้องให้ถอดถอนภาพเขียนออกจากงานแสดงศิลปกรรมแห่งชาติครั้งที่ 53
ที่แสดงอยู่ที่หอศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตนครปฐม ซึ่งเป็นงานที่ได้รับรางวัลเหรียญทอง
สาขาจิตรกรรม ถือเป็นรางวัลสูงสุด

ภาพเขียนชิ้นนี้ชื่อ ภิกษุสันดานกา เป็นฝีมือของนายอนุพงษ์ จันทร
ซึ่งเขียนรูปนี้ด้วยเจตนาที่จะแสดงให้เห็นความเป็นไปของพระสงฆ์ไทยบางกลุ่มบางพวก
โดยศึกษาหาข้อมูลอย่างรอบด้านกว้างขวาง เป็นวิทยานิพนธ์เล่มโต มิใช่เขียนขึ้นด้วยความคึกคะนอง

พระที่มาต่อต้านก็มิได้รู้เรื่องศิลปะ
มิได้ศึกษาหาความรู้ว่างานที่ได้รางวัลระดับเหรียญทองนั้นต้องผ่านขั้นตอนที่ยากเข็ญเพียงไหน
ต้องสั่งสมทั้งฝีมือและความคิดเพียงใด เพราะคณะกรรมการตัดสินรางวัลศิลปกรรมแห่งชาติ
ล้วนแล้วแต่เป็นศิลปินระดับชาติทั้งสิ้น และมีความรู้ความเข้าใจ รู้เท่าทันและทำงานกันอย่างรอบคอบ
กว่าจะให้รางวัลใครสักคน


ศิลปะเป็นเรื่องของการนำเสนอความคิดผ่านสื่อหลายรูปแบบทั้งจิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ ฯลฯ
ศิลปะมิใช่เพียงการวาดเขียนรูปภาพให้คนดู หากแต่ต้องใส่เนื้อหาเรื่องราวที่สามารถสร้างความประทับใจ
สร้างจินตนาการ สร้างความคิดให้กับคนดู
ศิลปะเป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกของศิลปินที่ได้รับผลกระทบมาจากเรื่องราวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคน
พระ สัตว์ สิ่งของ

พระเองอยู่ในวัดซึ่งมีงานจิตรกรรมในโบสถ์วิหาร ก็ไม่เคยสนใจไยดีที่จะเรียนรู้
เข้าไปสวดมนต์ก็ไม่ดูรูปเขียนจิตรกรรมฝาผนังที่เขียนเรื่องราวของพระศาสนาไว้เต็มสี่ผนัง
ซึ่งมีทั้งเรื่องราวของพระพุทธเจ้าว่าทรงสั่งสอนอะไร เรื่องของคนทั่วไปที่ทำผิดศีลผิดธรรมมากมาย
เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจพระ นรกสวรรค์ก็เขียนไว้หมด แต่พระก็ไม่รู้ไม่เห็นเรื่องเหล่านี้
โดยเฉพาะพระสมัยใหม่ที่ไปเดินเล่นอยู่แถวศูนย์การค้า


จิตรกรรมไทยที่เขียนบนฝาผนังมีเรื่องรุนแรงมากกว่ารูปที่ ภิกษุสันดานกา เป็นไหนๆ เคยรู้บ้างหรือเปล่า
รูปเชิงสังวาสก็มีออกดาษดื่น ทำไมไม่ไปประท้วงให้ลบทิ้งเสียเล่า หรือเพราะไม่รู้ไม่เห็น ตุ๊กแก
กบเสพสังวาสกันนะยังน้อย มีรูปคนสังวาสกันด้วยรู้บ้างหรือเปล่า

เจตนาเขาก็สอนพระนั่นแหละ แต่พระไม่รู้ไม่เรียน เอาแต่เรื่องทางโลก ไม่สนใจทางธรรม
วัดตัวเองมีศิลปะที่งดงามและขัดเกลาจิตใจให้เบิกบานกลับไม่ดูแลไม่เห็น
แต่ออกมายุ่งกับทางโลกที่เขามีเจตนาดีจะช่วยให้คนเข้าใจพระมากขึ้น ด้วยงานศิลปะที่ล้ำเลิศ
เขาไม่ได้เขียนให้พระดู เขาเขียนให้คนทั่วไปได้ดูได้รู้ว่าพระก็ไม่ใช่ผู้วิเศษ
ขาดหิริโอตตัปปะดังที่พระพุทธเจ้าท่านทรงยกเรื่องหมาขี้เรื้อนมาสอนเอาไว้
ขอให้พระกลับไปที่วัดและศึกษาเรื่องตัวเองให้ถ่องแท้ ก่อนที่จะออกมาคัดค้านหรือต่อต้านคนอื่น

ผมขอให้ทางมหาวิทยาลัยศิลปากร จัดการแสดงภาพนี้ต่อไปอย่าเอาลง และนำไปแสดงให้คนไทยได้เห็นทั้งประเทศ
ว่าศิลปะนั้นมีความสำคัญต่อชีวิตอย่างไร


มติชน.....วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10795

ความไม่รู้ของพระในเรื่องศิลปะ (2)

คอลัมน์ เที่ยวชมศิลปะ

โดย นิวัติ กองเพียร





ผมเทศนาให้พระฟังเรื่องความไม่เข้าใจเรื่องศิลปะของพระไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
นึกว่าพระท่านจะฟังคนอื่นบ้าง ท่านกลับรุกลามไปถอดถอนรูปเขียนของศิลปินคนเดียวกันนี้อีกรูปหนึ่งชื่อ
"หมา-นุษย์" ซึ่งก็เป็นรูปเขียนที่ศิลปินเขาทำออกมาเป็นชุด
อยู่ในเรื่องของพระพุทธศาสนาที่เขาศึกษาหาความรู้อย่างดีก่อนเขียนรูป
เป็นการถ่ายทอดความรู้สึกและเนื้อหาที่เขาได้รับรู้จากสังคมของพระบางตนที่ทำให้ศาสนามัวหมอง
มิใช่ว่ากราดด่าพระไปหมดทั้งประเทศ

ศิลปินเป็นกระจกส่องสังคมที่สำคัญ และแตกต่างจากกระจกบานอื่นๆ
ที่ส่องสังคมด้วยสื่อหลากหลายตามแนวที่ถนัด ศิลปินที่ส่องสังคมด้วยศิลปะเขาจะศึกษาเรียนรู้
ตั้งคำถามเสนอรูปลักษณ์อันเลวร้ายด้วยภาพที่มีแรงกระทบต่อสังคมให้รู้สึก พระก็เหมือนปุถุชนอยู่ส่วนหนึ่ง
เพราะพระมิได้อรหันต์ทุกองค์ ยังติดยึดอยู่ในลาภยศสรรเสริญก็มาก

ยิ่งออกมาประท้วงยิ่งแสดงความติดยึดที่ยากจะขัดเกลาเสียแล้ว ผ้าเหลืองหรือพระไตรปิฎกก็ช่วยไม่ได้
ถ้าพระยังไม่รู้จักหิริโอตตัปปะที่เป็นคำของตนเอง แล้วพระจะมีศีลสมาธิปัญญาได้อย่างไร
อย่าให้ต้องพุดถึงนิพพานเลย

เอาเถอะโยม พระท่านก็รักและศรัทธาในพระศาสนามากอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นท่านคงไม่มาอยู่ในสมณเพศ
แต่ถ้าท่านหลับหูหลับตาทำไปโดยไม่มีโยนิโสมนสิการแล้วไซร้ เราจะยังศรัทธาพระได้ละหรือ
นี่ผมใช้ศัพท์พระมาด้วยความเคารพกลัวท่านจะไม่เข้าใจ

ถ้าสมาคมชาวพุทธทั้งหลายที่รวมตัวกันแล้วเอาพระมาร่วมประท้วงอย่างนี้ พระท่านไม่ถามก่อนหรือ
หรือท่านถือว่าตักบาตรอย่าถามพระ ต่างจากพระพม่านะครับที่ท่านออกมาเดินขบวนกันนั้นนะ
โปรดลองใช้ปัญญาตรองดูเถิด ว่าพระท่านเป็นเครื่องมือของคนบางกลุ่มที่เอาศาสนามาบังหน้าหรือเปล่า

ในวันเดียวกันที่เกิดเรื่องรูปเขียน พระองค์หนึ่งก็เพิ่งถูกจับสึกไป
เพราะไปใช้เดรัจฉานวิชากับญาติโยมเข้า ด้วยการให้ถอดเนื้อผ้าแล้วลูบโลมนมต้มของสีกา
ลงคาถาอาคมจี้นมจี้ท้องนี่มันเลวร้ายกว่ารูป "ภิกษุสันดานกา" กับ "หมา-นุษย์"
เป็นไหนๆ ไม่มีเอ่ยไว้ในตอนไหนของพระไตรปิฎกเลย พระคิดเองทั้งนั้น

พระควรจะเป็นที่พึ่งของคนในสังคมหรือไม่ ท่านพิจารณาตัวเองก่อนเถิด
ว่าพระที่ดีกับพระไม่ดีนั้นอันไหนมาน้อยกว่ากัน ใช้ปัญญาบารมีที่อุตสาหะบวชเรียนมาตรองดูเถิด
ว่าท่านให้เขาพึ่งพาทางธรรมได้ไหม มีใครอยากเข้าไปวัดหาท่านเพื่อศึกษาธรรมหรือเปล่า
หรือเขามาเอาเครื่องรางของขลังที่ท่านปลุกเสกอยู่ทุกวัน หรือเพียงมาขอให้ดูดวงดูตัว

มหาวิทยาลัยศิลปากรเขามั่นคงและสร้างสรรค์ศิลปะให้แก่บ้านเมืองมายาวนาน เขามีสติมีศีลธรรมจรรยา
และใจกว้างที่จะรับฟังจากทุกด้านอยู่แล้ว ลองเข้าไปคุยกับเขาก่อนซิครับ อย่าวู่วามขาดสติ
ท่านอาจจะได้รับมรณานุสติถึงนิพพานได้ตามที่ปรารถนา

หน้า 21




--------------------------------------------------------------------------------
http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5892414/Y5892414.html
http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5892414/Y5892414.html






350
บทความ บทกวี / ตอบ: news
« เมื่อ: 27 ก.ย. 2550, 06:54:52 »
http://news.sanook.com/social/social_187129.php



 





 



 
 
 
 

 
 

   
 

 
  เจ้าของภาพ'ภิกษุสันดานกา'ยัน เขียนภาพจากข้อเท็จจริง 
 
 
โดย มติชน วัน พุธ ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2550 00:00 น.
 
 ม.ศิลปากร หารือกรณีภาพ'ภิกษุสันดานกา'ถูกประท้วง ด้านเจ้าของภาพฉาวของระบุ กระแสต่อต้านเป็นเรื่องธรรมดา ยันไม่มีเจตนาลบหลู่พระพุทธศาสนา แต่วาดจากข้อเท็จจริงของสังคม หวังกระตุ้นสังคมช่วยกันปกป้องศาสนาไม่ให้เป็นเหยื่อของผู้แสวงประโยชน์ ด้านสธ.รอฟังผลของศิลปากร

จากกรณีที่กลุ่มตัวแทนสมัชชาชาวพุทธแห่งชาติทั้งพระสงฆ์และฆราวาสเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยศิลปากรระงับการจัดแสดงภาพ'ภิกษุสันดานกา'ของนายอนุพงษ์ จันทร ที่ได้รับรางวัลเหรียญทองจากการชนะเลิศการประกวดผลงานศิลปกรรมแห่งชาติครั้งที่ 53 ประจำปี 2550 ประเภทจิตรกรรม ซึ่งจะนำไปจัดแสดงในมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2550 ถึงวันที่ 29 มีนาคม 2551 และขอให้ถอนรางวัลเหรียญทองด้วย เพราะเป็นการดูหมิ่นและเหยียดหยามพระสงฆ์ไทยนั้น

เมื่อวันที่ 26 กันยายน นายญาณวิทย์ กุญแจทอง รักษาการรองอธิการบดีฝ่ายศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่า วันที่ 28 กันยายน เวลา 13.00 น. จะประชุมหารือร่วมกับคณะกรรมการพิจารณาผลงานศิลปินแห่งชาติดังกล่าวกว่า 10 คน ประกอบด้วยศิลปินแห่งชาติ นักวิชาการ และผู้ทรงคุณวุฒิด้านศิลปวัฒนธรรม เพื่อหารือถึงความเหมาะสมในการจัดแสดงภาพภิกษุสันดานกา และการถอนรางวัลเหรียญทองของนายอนุพงษ์ว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ส่วนตัวมองว่าการถอนรางวัลเหรียญทองคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นมติเอกฉันท์ของคณะกรรมการพิจารณาตัดสินแล้ว และที่ผ่านมาไม่เคยมีการถอนรางวัลเกิดขึ้น

นายญาณวิทย์กล่าวว่า นอกจากนี้จะจัดสัมมนาเกี่ยวกับการจัดแสดงผลงานศิลปกรรมแห่งชาติที่จัดขึ้นครั้งนี้ด้วย เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจด้านงานศิลปะให้กับประชาชน นักเรียน นักศึกษา อันจะส่งผลให้สังคมเห็นคุณค่าของภาพศิลปะลึกซึ้งมากขึ้น โดยเฉพาะผลงานศิลปะที่สะท้อนสังคมอย่างภาพภิกษุสันดานกา และภาพล้อเลียนสังคม รวมทั้งภาพล้อเลียนบุคคลสำคัญอีกจำนวนมากที่ศิลปินสร้างสรรค์ขึ้น แต่กลับถูกสังคมต่อต้านว่าไม่เหมาะสม

'ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากความไม่เข้าใจกันระหว่างศิลปินและกลุ่มสมัชชาชาวพุทธดังกล่าว เนื่องจากมองกันคนละมุม ดังนั้นจึงต้องพูดคุยกันให้เข้าใจทั้งสองฝ่าย ในฐานะที่ผมเป็นศิลปินคนหนึ่ง เชื่อว่าเจ้าของผลงานไม่มีเจตนาลบหลู่พระสงฆ์ไทยแต่อย่างใด เพียงแค่ต้องการทำหน้าที่เป็นกระจกสะท้อนปัญหาสังคมในปัจจุบันเท่านั้น อย่างไรก็ตามการจัดแสดงผลงานครั้งนี้เป็นการให้เกียรติเจ้าของผลงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ซึ่งปฏิบัติกันมาทุกปี หากต้องการระงับการแสดงภาพดังกล่าวก็สามารถดำเนินการได้ แต่ต้องปรึกษากันกับผู้ที่เกี่ยวข้องก่อน' นายญาณวิทย์กล่าว

ด้านนายอนุพงษ์กล่าวว่า ขณะนี้เป็นอาจารย์ประจำอยู่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง คณะสถาปัตยกรรม สาขาวิจิตรศิลป์ หลังจากมีกระแสต่อต้านภาพดังกล่าว ถือเป็นเรื่องธรรมดา ที่การนำเสนอภาพหมิ่นเหม่ทางศาสนาจะมีพุทธศาสนิกชนออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย ในฐานะที่เป็นพุทธศาสนิกชนคนหนึ่งขอยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะลบหลู่ดูหมิ่นพุทธศาสนาและพระสงฆ์ไทยแต่อย่างไร

นายอนุพงษ์กล่าวว่า ภาพที่วาดขึ้นเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในสังคม ได้แนวคิดจากนิทานทางพุทธศาสนาเรื่องเปรตภูมิ โดยต้องการนำเสนอภาพดังกล่าว เพื่อกระตุ้นให้สังคมช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนาไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของผู้แสวงหาประโยชน์จากพุทธศาสนา เช่นเดียวกับคนโบราณที่มักสอนลูกหลานไม่ให้พูดโกหก เพราะจะมีปากเท่ารูเข็ม หรือไม่ให้ตบตีพ่อแม่ เพราะทำให้มือโต ซึ่งเป็นกุศโลบายที่ได้รับการสั่งสอนจากผู้ปกครองมาในวัยเด็ก

'สาเหตุที่ผมนำจีวรของพระมาขึงในการเขียนภาพ เพื่อให้สอดคล้องกับงานเขียนเท่านั้น ไม่ได้เหยียบย่ำผ้าจีวร แต่กลับบูชาไว้อย่างดี นอกจากนี้ภาพที่ผมวาดไม่ได้ระบุสถานที่ จึงไม่ได้เหมารวมว่าเป็นพระสงฆ์ไทย ดังนั้นผมถือว่างานที่สร้างสรรค์ออกมาเป็นการปกป้องพุทธศาสนามากกว่าทำให้ศาสนาเสื่อม เพราะต้องการปลูกจิตสำนึกที่ดีให้สังคม จึงอยากให้มองที่เจตนาของผมด้วย ซึ่งผมพร้อมจะชี้แจงทุกเรื่อง' นายอนุพงษ์กล่าว

ขณะที่นายวิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องแยกกันระหว่างการประกวดภาพ และการเผยแพร่ เพราะไม่ใช่ว่าพระไม่เห็นด้วยกับภาพนั้นในเชิงของการวาดภาพ และการให้รางวัล แต่เข้าใจว่าออกมาประท้วงเพราะภาพนั้นสื่อความหมายไปในทางที่ทำให้เสียหายต่อวงการสงฆ์ ภาพนั้นมันเกิดผลกระทบ กลุ่มที่ได้รับผลกระทบก็มีสิทธิที่จะร้องเรียน ซึ่งพระก็ออกมาร้องเรียนเพียงเพื่อไม่ให้แสดงภาพนี้เท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องของมหาวิทยาลัยศิลปากรที่จะต้องพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งรอฟังอยู่เช่นกัน

นายสมชาย สุรชาตรี โฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้ส่งหนังสือถึง กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) และมหาวิทยาลัยศิลปากรให้พิจารณาความเหมาะสมการนำภาพดังกล่าวมาจัดแสดง แม้ว่าจะเป็นภาพศิลปะ แต่ก็ทำร้ายจิตใจผู้ที่พบเห็นที่เป็นพุทธศาสนิกชน   
 
หน้านี้ถูกเปิดอ่านแล้ว 1833ครั้ง
อ่านข่าวทั้งหมดของ มติชน ได้ที่นี่
 
   
สนุก!รวมสุดยอดโหรพยากรณ์
ศาสตร์แห่งการทำนายดวงชะตา กับนักพยากรณ์ชื่อดัง
คลิกที่นี่
http://1900.sanook.com  ซื้อขายแลกเปลี่ยนรถยนต์
จักรยานยนต์ ประดับยนต์ อะไหล่ มีขายอยู่เพียบ
รวมสินค้าทุกชนิดที่นี่
http://classified.sanook.com/   
 
 ข่าวอื่นๆ คลิปข่าวเด็ด 
 เว็บเสื่อม! ขายสินค้าพิมพ์รูป "พระพุทธเจ้าหน้าสุนัข"
 สช.เรียกร.ร.อาชีวะถกล้อมคอกไทยวิจิตร28 ก.ย.นี้
 เอ็มเคียวใจดีขาย โคลพิโดเกรล แถมส่งคนสอนเทคโนโลยีในไทย
 สนามบินภูเก็ต
 ช้างป่าบุกกินพืชผลชาวแก่งกระจาน
 ชี้ภัยมอเตอร์ไซค์ทำตาย-เจ็บพุ่งไม่หลุด เตือนแม่อุ้มลูก-สาวนุ่งยาว-พระอย่านั่งซ้อน
 เปิดฐานทรัพยากรชีวภาพ ไทยอุดมอันดับต้นของโลก
 สปท.ขู่โฆษณายืดอกพกถุง ไม่เปลี่ยนเวลา ฟ้องศาลแน่
 คนไทย 57% เบื่อเซ็กซ์
 ของฝากบัณฑิตใหม่ เทคนิคง่ายๆ ทำยังไงให้ได้งาน
 
 ASTV1
DMC 
MVTV1 
MVTV2 
MVTV3 
Nation 
สทท.11 
Interactive TV 
 
 
 
 
 





รำคาญข้อความโฆษณา หรือพบข้อความไม่เหมาะสม กรุณาช่วยกันคลิกเพื่อช่วยให้ทีมงานดำเนินการลบข้อความดังกล่าวได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ขอบคุณมากค่ะ





 หน้า 1/4  หน้าแรก: [1] 2 3 4 :หน้าสุดท้าย

ความคิดเห็นที่ 74คนดีมีความรู้ก็เข้าใจดี คนไม่ค่อยเข้าใจอวิชาครอบงำ
ยังตะโกนให้เขารู้ว่าข้ามีอวิชา มองเตือนสติก็คิดดีมองว่าด่าก็คงคิดได้แต่เรื่องด่า เมื่อไรสงฆ์ที่คิดไม่ได้จะคิดได้
คุณ: คิดให้หลุดพ้น[27 ก.ย. 50 06:54:27] [203.113.67.xxx]

ความคิดเห็นที่ 72พระแย่ๆก็มี
ใช้ผ้าเหลืองหากิน
เค้าจะทำแบบนี้ก็ไม่ผิด
รับไม่ได้กันเองอ่ะ
ปันยาอ่อน
คุณ: โธ่เอ๊ย[27 ก.ย. 50 06:39:24] [203.150.141.xxx]

ความคิดเห็นที่ 71อุเบกขา งัยจ๊ะ
คุณ: คนไม่เคย[27 ก.ย. 50 06:17:48] [125.26.229.xxx]

ความคิดเห็นที่ 70การกระทำบ่งบอกถึงเจตนา น่ะครับ ควรออกมายอมรับความจริงมากกว่า
คุณ: ประชาชน[27 ก.ย. 50 06:07:34] [58.9.184.xxx]

ความคิดเห็นที่ 69ถ้าภรรยาหรือสามีคุณ..ประพฤตินอกใจคุณ..ซึ่งเป็นความจริง..คุณยินดีที่จะให้..ช่างภาพเขียนภาพ..ภรรยาหรือสามี..คุณ..เส พสังวาส..กับชู้..ไหม
คุณ: ชวนทะเลาะกับความเห็นที่ 50[27 ก.ย. 50 05:53:53] [125.26.32.xxx]

ความคิดเห็นที่ 68ข้อคิด คนเราถ้าไม่ได้เป็นตามที่คนเขาพูด เขาว่า ก็จะไม่เดือดร้อนใดๆ เพราะเรารู้อยู่แก่ใจของเราดี และการที่มีคนพูดถึงเราว่าดี หรือไม่ดี ก็ไม่สามารถทำให้เราเป็นไปตามคำพูดนั้นได้ เรื่องบางเรื่องถ้าไม่พูดถึงได้ก็ดี
คุณ: potdym121@yahoo.com[27 ก.ย. 50 05:44:54] [203.209.127.xxx]

ความคิดเห็นที่ 67นำเสนอเชิงลบ..ไม่สร้างสรรค์เลย..ส่อถึงสันดานภายใน..เหตุการณ์ในสังคมอาจมีบ้าง..เป็นจุดดำเล็กๆ..หรืออาจเทา..ส ่วนดีมีมากมาย..ไม่นำเสนอ..ถามว่า..ถ้าเหตการณ์..มารดาเจ้าของภาพ..สำส่อนทางเพศ..มีชู..บีดา..เป็นอัมพาต..มันเจ ้าของภาพ..มีชู้..มันจะนำเสนอต่อสังคมไหม..ถามจริงๆ..
คุณ: ขอถาม[27 ก.ย. 50 05:39:09] [125.26.32.xxx]

ความคิดเห็นที่ 66ไม่ควรวาดภาพแบบนี้ออกมาเลย

หมิ่นศาสนาชัดๆ

ไม่เห็นด้วยอย่างร้ายแรง
คุณ: akemi[27 ก.ย. 50 04:47:24] [58.64.59.xxx]

ความคิดเห็นที่ 65คุณสุดโต้ง ค.ห 35 อย่าแสดงความคิดเป็นวิชาการเลย อ่านหนังสือมาทั้งนั้นละ และมาบอกคนอื่นให้รูจักธรรมะ กากเอ้อ พระพุทธเจ้าท่านสอนให้คนเราอยู่ด้วความไม่ประมาท ไม่ได้สอนให้อยู่กับการอ่านท่องจำ ท่านให้ใช้สติ และปัญญา เป็นเครื่องนำทางจ้า อวดความคิดตัวเองได้กากจัง
คุณ: ลิขิต[27 ก.ย. 50 04:41:29] [117.47.116.xxx]

ความคิดเห็นที่ 64อ้ายเด็กวัด ค.ห.61 นายอย่าอวดรู้ข้อบัญญัติสงฆ์เลยว่ามี 227 ข้อ นายกับไปถามพ่อนายว่าพ่อถือศีล 5 ได้กี่ข้อ และอย่าลืมถามตัวนายเองด้วยละ ว่านายมีศีล ที่พึ่งจะรับไปปฏิบัติได้กี่ข้อ สงสัย ได้บวชมา 3 วัน 7 วัน มัง หรือแก้บนละ เด็กวัด
คุณ: จากคนวัด[27 ก.ย. 50 04:23:26] [117.47.116.xxx]

ความคิดเห็นที่ 62ผมคิดว่าไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะพูดถึงหรือวาดถึง เพราะที่วัดบ้านผมก็เรียกภิกษุ ที่ไหนๆก็เรียกภิกษุ สมมติว่ามีคนมาพูดถึงหรืวาดถึง เกี่ยวกับว่า ศิลปินสันดานหมา บ้างคนเป็นศิลปินจะรู้สึกอย่างไร คิดก่อนค่อยทำ ขอบคุณครับ
คุณ: ตู่[27 ก.ย. 50 04:03:41] [222.123.218.xxx]

ความคิดเห็นที่ 61ให้เค้าวิจารณ์บ้างเถอะจะได้รู้จักตัวเอง สังคมตัวเอง ได้ดีขึ้น พระเยอะแต่ศีลธรรมเสื่อม พระเทศน์สอนพระได้หรือไม่ พระที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ ถือศีลได้ครบ 10 ข้อทุกวันหรือเปล่า ไม่ต้องถึง 227 ข้อหรอก จริงหรือไม่ที่เค้าวิจารณ์ ถ้ามีส่วนจริงก็แก้ไข ไม่เห็นหมิ่นอะไรตรงไหน (กรุณาเปิดกฎหมายดูให้ชัดก่อน)
คุณ: เด็กวัด[27 ก.ย. 50 04:02:21] [125.24.220.xxx]

ความคิดเห็นที่ 59คห.40 ผมว่าคุณคิดใหม่ได้นะคุณไปว่าศาสนาอื่นเค้า สมมุติว่าศาสนาเค้าโดนบ้าง แล้วเค้าหาว่าศาสนาพุทธเปนคนทำละคุณจะรู้สึกยังไง ผมว่าเปลี่ยนความคิดแล้วมองอีกแง่นึง
คุณ: แฟนผีพันธุ์แท้[27 ก.ย. 50 03:43:25] [125.24.43.xxx]

ความคิดเห็นที่ 58ไม่เข้าใจทำไมต้องประท้วงด้วย คนไทยหัดยอมรับความเป็นจริงในสังคมบ้างเพราะที่ศิลปินถ่ายทอดออกมาได้ก็เพราะมาจากมูลความจริง ทำไมต้องหลอกตัวเองด้วย พระภิกษุทั้งหลาย
คุณ: Thai in Europe[27 ก.ย. 50 03:37:23] [83.202.39.xxx]

ความคิดเห็นที่ 57การแสดงศิลปกรรม เป็นโอกาสให้นักศิลปกรรมได้แสดง ซึ่งเขาได้เห็น ได้ยินมา แต่เขาไม่มีสิทธิที่จะไปบอกกล่าวให้กับผู้ที่เป็นนักบวช และไม่กล้าที่จะบอกกับนักบวชผู้นั้นว่า **ทำไมท่านจึงทำอย่างนี้ มันไม่สมควรในสถาณภาพของท่าน ถ้าท่านอยากจะทำอย่างนี้จริงๆ ทำไมไม่สึกออกมาครับ**
ใครที่กล้าไปบอก-ตักเตือน-อบรม-สั่งสอน-(นักบวชที่ท่านเหล่านั้น ยังนุ่งเหลือง ห่มเหลือง ครับ) ไม่มี
**การขอร้องที่สุดแสนจะยากคือ**
-ขอร้อง-คนเช้าชู้หยุดเช้าชู้
-ขอร้อง-โจร หยุดปล้น
-ขอร้อง-ขี้เหล้า ขี้ยา ให้หเลิกดึ่ม
-ขอร้อง-ขโมย หยุดลักของ
-ขอร้อง-คนขี้โม้ หยุดคุย
-ขอร้อง-นักเลงการพนัน เลิกเล่นพนัน
-ขอร้อง-นักเที่ยวกลางคืน
-ขอร้อง-นักบวช ให้อยู่ในศีล*ธรรม
-ขอร้อง-ให้ผู้ใหญ่ มีจาริยธรรม
-ขอร้อง-ให้ผู้มีอำนาจ เห็นใจผู้น้อย
โลกนี้ มันเป็นอย่างนี้ มันเป็นของธรรมดา ไม่มีมครขัดขวางหรือหยุดมันได้ ตราบใดที่โลกของเรายังมีพระอาทิตย์ ยังมีพระจันทร์
ทำใจให้ยอมรับว่ามันจะยังเป็นอยู่อย่างนี้ และจะมีมากขึ้นไป และจะหนักมากขึ้นไป จนเราจะเห็นแค่**เศษผ้าเหลืองที่ห้อยติดอยู่กับคอชิ้นเล็กๆเท่าหัวแม่มือเท่านั้นครับ
คุณ: NORTHERN[27 ก.ย. 50 03:35:23] [4.166.156.xxx]

ความคิดเห็นที่ 56จินตนาการมันเกิดจากจิตใต้สำนึก ภาพถึงออกมาอย่างนี้ซึ่งมันคือความจริง !
แต่ก็ทำใจรับลำบาก มองในแง่บวกก็เผื่อผู้อาศัยผ้าเหลืองจะได้ฉุกคิด
ถ้ามองในแง่ลบพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบจะถูกคนศาสนาอื่นที่ไม่เข้าใจเหมารวมไปหรือเปล่า ?
คุณ: พระราม 4[27 ก.ย. 50 03:23:47] [203.113.35.xxx]

ความคิดเห็นที่ 55สวยดี ฝีมือดี ไอเดียดี บางทีอาจทำให้คนบางคนที่อาศัยจีวรนุ่งได้คิดบ้าง ส่วนพระสงฆ์รูปใดที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ก็คงไม่คิดอะไรเพราะท่านไม่ได้เป็นแบบนี้ ดูแล้วได้ปลงดีค่ะ
คุณ: ddd[27 ก.ย. 50 03:13:57] [124.121.94.xxx]

ความคิดเห็นที่ 54ติ๊ด ตะลิ๊ด ติ๊ด ฉึง
กอ อา กา
พอ อะ รอ พระ
บอ อา บาท
สอ อี สี สีเหลือง สีดำ สีน้ำตาล หลายสี
คอ โอ๊ะ นอ คน
ดอ อา ดา ไม้เอก ด่า
กะ กะ กัน
จอ โจ๊ะ บอ จบ เห ไม้ เอก เห่

ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ ที่ใดมีคน ที่นั่นวุ่นวาย

สักกาวาหวานอื่นมีหมื่นแสน
ไม่เหมือนแม้พจมารที่หวานหอม
กลิ่มประเทียบเปรียบดวงพวงพยอม
อาจจะน้อมจิตรโน ้มให้โลม..งิงิ

ศิลป์ทาง สีสันบรรยายด้วยลายเส้น คนดูวิเคราะห์ตามความคิดความเชื่อ ประสบการณ์ รสนิยม อารมณ์

พระพุทธองค์ตรัสว่า เมื่อเราตายไป ธรรมะ จะเป็นตัวแทนพระพุทธองค์
สาธุ..
คุณ: ตุ๊กแก ตุ๊กแก ตุดแก่ อ้าว เอริ๊กๆๆ[27 ก.ย. 50 03:13:50] [64.62.138.xxx]

ความคิดเห็นที่ 53คนไทยไม่ยอมรับความจริง ประเทศไทยถึงเจริญช้า
คนชั่วหากินกับความเบาปัญญานี้ได้หลายรูปแบบ
คุณ: คนสยาม[27 ก.ย. 50 03:07:02] [203.150.139.xxx]

ความคิดเห็นที่ 52คนที่เค้าวาดอาจจะจิดใจดีกว่าพระสงฆ์บางท่าน ถ้าเราเปิดใจมองมันก้อแค่ด้านนึงที่สะท้อนสังคมของเราว่าจิงๆแล้วทุกวันนี้พระบางท่านก้อเป็นแบบนี้จิงๆ เราก้อคนพุทธเหมือนกัน นับถือศาสนาพุทธเหมือนกัน แต่คนบางคนใช้ศาสนาเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ติดยาก้อมี มั่วสีกาก้อมี อ่านข่าวก้อเห็นกันอยู่นี่
คุณ: เบื่อสังคม[27 ก.ย. 50 02:57:35] [124.120.34.xxx]


 หน้า 1/4  หน้าแรก: [1] 2 3 4 :หน้าสุดท้าย






   
   

   


 

 


[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

351
ธรรมะ / ตอบ: http://www.larnbuddhism.com/grammathan/
« เมื่อ: 24 ก.ย. 2550, 07:05:16 »
ธรรม
http://www.larnbuddhism.com/botsoud/anapana.html

http://www.oknation.net/blog/buddhamantra/video/7280

352
ธรรมะ / ตอบ: http://www.larnbuddhism.com/grammathan/
« เมื่อ: 21 ก.ย. 2550, 08:32:34 »
สีของจิต
? ? ? สีของจิตนี้ บางแห่งก็เรียกว่า "น้ำเลี้ยงของจิต" ปรากฏเป็นสีออกมาโดยอาศัยอารมณ์ของจิตเป็นตัวเหตุ การที่จะรู้อารมณ์จิตนั้นต้องมี เจโตปริยญาณ ก่อนจึงจะรู้อารมณ์ของจิต สีนั้นบอกถึงจิตเป็นสุข เป็นทุกข์ อารมณ์ขัดข้องขุ่นมัวหรือผ่องใส ท่านกล่าวไว้ดังนี้

จิตที่มีความยินดีด้วยการหวังผลอย่างใดอย่างหนึ่ง กระแสจิตมีสีแดง
จิตที่มีอารมณ์โกรธ หรือมีความอาฆาตจองล้างจองผลาญ กระแสจิตมีสีดำ
จิตที่มีความผูกพันด้วยความลุ่มหลง เสียดายห่วงใยในทรัพย์สิน และสิ่งมีชีวิต กระแสจิตมีสีคล้ายน้ำล้างเนื้อ
จิตที่มีกังวล ตัดสินใจอะไรไม่ได้เด็ดขาด มีความวิตกกังวลอยู่เสมอ กระแสจิตมีสีเหมือนน้ำต้มตั่วหรือน้ำซาวข้าว
จิตที่มีอารมณ์น้อมไปในความเชื่อง่าย เชื่อโดยไม่ใคร่ครวญทบทวนหาเหตุผล คนประเภทนี้ที่ถูกต้มตุ๋นอยู่เสมอ ๆ จิตของคนประเภทนี้กระแสมีสีเหมือนดอกกรรณิการ์ คือ สีขาว
คนที่มีความเฉลียวฉลาด รู้เท่าทันเหตุการณ์เสมอ เข้าใจอะไรก็ง่าย เล่าเรียนก็เก่ง จดจำดี มีไหวพริบ คนประเภทนี้ กระแสจิตมีสีผ่องใสคล้ายแก้วประกายพรึก หรือคล้ายน้ำกลิ้งอยู่ในใบบัว คือมีสีใสคล้ายเพชร
สีของจิตโดยย่อ

? ? ? เพื่อให้เห็นกันง่าย ๆ ยิ่งขึ้น โดยแบ่งสีของจิตออกเป็นสามอย่างคือ

จิตมีความดีใจ เพราะผลอย่างใดอย่างหนึ่ง กระแสจิตมีสีแดง
จิตมีทุกข์เพราะความปรารถนาไม่สมหวัง กระแสจิตมีสีดำ
จิตบริสุทธิ์ผ่องใสไม่มีกังวล คือสุขไม่กวน ทุกข์ไม่เบียดเบียน จิตมีสีผ่องใส
? ? ? กายในกาย สำหรับนักปฏิบัติขั้นต้น ถือเอาอวัยวะภายในเป็นกายในกาย ส่วนท่านที่ได้จุตูปปาตญาณแล้ว ก็ถือเอากายที่ซ้อนกายอยู่นี้เป็นกายในกาย กายในกายนั้น เป็นกายประเภทอทิสมานกาย คือดูด้วยตาเนื้อไม่เห็น ต้องดูด้วยญาณจึงเห็น ตามปกติกายในกาย หรือกายซ้อนกายนี้ปรากฏตัวให้เจ้าของกายรู้อยู่เสมอในเวลาหลับ ในขณะหลับนั้น ฝันว่าไปไหนทำอะไรที่อื่น จากสถานที่เรานอนอยู่ ตอนนั้นเราว่าเราไปและทำอะไรต่ออะไรอยู่ ความจริงเรานอนและเมื่อไปก็ไปจริง จำเรื่องราวที่ไปทำได้ กายนั้นแหละที่เป็นกายซ้อนกาย หรือกายในกาย ตามที่มีอยู่ในมหาสติปัฏฐาน กายในกายนี้แบ่งออกเป็น 5 ขั้น คือ

กายอบายภูมิ มีรูปร่างลักษณะ คล้ายกับคนขอทานที่มีแต่กายเศร้าหมองอิดโรย หน้าตาซูบซีด ไม่ผ่องใส พวกนี้ตายแล้วไปอบายภูมิ
กายมนุษย์ มีรูปร่างลักษณะค่อนข้างผ่องใส เป็นมนุษย์เต็มอัตรา จะต่างกันตรงที่ผิวพรรณ สัดส่วน ขาวดำ งดงามต่างกัน แต่ลักษณะบอกความเป็นมนุษย์ชัดเจน พวกนี้ตายแล้วไปเกิดเป็นมนุษย์อีก
กายทิพย์ คือกายเทวดาชั้นกามาวจร มีลักษณะผ่องใส ละเอียดอ่อน ถ้าเป็นเทพชั้นอากาศเทวดา หรือรุกขเทวดาขึ้นไป ก็จะเห็นสวมมงกุฎแพรวพราว เครื่องประดับสวยสดงดงามมาก ท่านพวกนี้ตายแล้วไปเกิดเป็นเทวดาชั้นกามาวจรสวรรค์
กายพรหม มีลักษณะคล้ายเทวดา แต่ผิวกายละเอียดกว่า ใสคล้ายแก้ว มีเครื่องประดับสีทองล้วน แลดูเหลืองแพรวพราวไปหมด ตลอดจนมงกุฎที่สวมใส่ ท่านพวกนี้ตายไปแล้ว ไปเกิดเป็นพรหม
กายแก้ว หรือกายธรรม ที่เรียกว่าธรรมกายก็เรียก กายของท่านประเภทนี้ เป็นกายของพระอรหันต์ จะเห็นเป็นประกายพรึกทั้งองค์ ใสสะอาดยิ่งกว่ากายพรหม และเป็นประกายทั้งองค์ ท่านพวกนี้ตายแล้วไปนิพพาน การที่จะรู้กายพระอรหันต์ได้ ต้องเป็นพระอรหันต์เองด้วย มิฉะนั้นจะดูท่านไม่รู้เลย
? ? ? ตั้งแต่ข้อหนึ่งถึงข้อสี่นั้น กล่าวว่า ท่านพวกนี้ตายแล้วไปเกิดที่นั้น ๆ หมายถึงว่า ท่านพวกนั้นไม่สร้างกรรมดีหรือกรรมชั่วที่มีกำลังแรงกว่าที่เห็น พวกที่ไปสร้างกรรมดีหรือกรรมชั่วที่แรงกว่า ก็ย่อมไปเสวยผลตามกรรมที่ให้ผลแรงกว่า

? ? ? การรู้อารมณ์จิตนั้นมีประโยชน์มาก โดยเฉพาะการรู้อารมณ์จิตของตนเองสำคัญมาก คอยสกัดกั้นอารมณ์ชั่วร้ายที่เป็นกิเลสและอุปกิเลสไม่ให้มาพัวพันกับจิต ด้วยการคอยตรวจสอบกระแสจิตว่า ขณะนี้เราจะมีสีอะไร ควรรังเกียจสีทุกประเภท เพราะสีทุกอย่างที่ปรากฎนั้น เป็นอาการของกิเลสทั้งสิ้น สีที่ต้องการคือสีใสคล้ายแก้ว ต้องเป็นแก้วทั้งแท่ง อย่าให้มีแกนที่เป็นสีปนแม้แต่นิดหนึ่ง สีที่เป็นแก้วนี้ เป็นอาการของจิตที่ทรงฌาน 4

ท่านผู้ทรงฌานหนึ่ง หรือที่เรียกว่า ปฐมฌาน จะมีกระแสจิตเหมือนเนื้อที่ถูกแก้วบาง ๆ เคลือบไว้ภายนอก
ท่านที่ทรงฌานสอง หรือที่เรียกว่าทุติยฌานมีเสมือนแก้วเคลือบหนาลงไปครึ่งหนึ่ง
ท่านที่ทรงฌานสาม หรือที่เรียกว่า ตติยฌาน มีภาพเหมือนแก้วเคลือบหนามาก เห็นแกนในสั้นไม่เต็มดวง และเป็นแกนนิดหน่อย
ท่านที่ทรงฌานสี่ หรือที่เรียกว่า จตุตถฌาน กระแสจิตจะดูเป็นแก้วทั้งดวง เป็นเสมือนแก้วลอยอยู่ในอก
จิตของพระอริยะ

ท่านที่มีอารมณ์วิปัสสนาญาณเล็กน้อย เรียกว่าได้เจริญวิปัสสนาญาณพอมีผลบ้าง จะเห็นจิตเริ่มมีประกายออกเล็กน้อย เป็นลักษณะบอกชัดว่า ท่านผู้นั้นเจริญวิปัสสนาญาณได้ผลบ้างแล้ว
พระโสดาบัน กระแสจิตจะเกิดเป็นประกายคลุมจิตเข้ามา ประมาณหนึ่งในสี่
พระสกิทาคามี กระแสจิตจะมีประกายออกประมาณครึ่งหนึ่ง
พระอนาคามี กระแสจิตจะเป็นประกายเกือบหมดดวง จะเหลือส่วนที่ไม่เป็นประกายนิดหน่อย
ท่านที่บรรลุอรหันต์ กระแสจิตจะเป็นประกายหมดทั้งดวง คล้ายดาวประกายพรึกลอยอยู่ในอก กระแสจิตที่เป็นประกายทั้งดวงนี้ ควรเป็นกระแสจิตที่นักปฏิบัติสนใจแสวงหาให้ได้ เอาชีวิตเข้าแลกประกายจิตไว้ เพราะถ้าได้จิตเป็นประกายก็จะหมดทุกข์สิ้นกรรมกันเสียที มีพระนิพพานเป็นที่ไป จะพบแต่สุขอย่างประเสริฐ
 






การสร้างบุญบารมี
    ทาน     ศีล     ภาวนา


โดย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
        บุญ เครื่องชำระสันดาน, ความดี, กุศล, ความสุข, ความประพฤติชอบทางกายวาจาและใจ, กุศลธรรม

        บารมี คุณความดีที่บำเพ็ญอย่างยิ่งยวด เพื่อบรรลุจุดหมายอันสูงยิ่ง มี ๑๐ คือ ทาน, ศีล เนกขัมมะ, ปัญญา, วิริยะ, ขันติ, สัจจะ, อธิษฐาน, เมตตา, อุเบกขา

        วิธีสร้างบุญบารมีในพระพุทธศาสนามีอยู่ ๓ ขั้นตอนคือการให้ทาน การถือศีล และการเจริญภาวนา ที่นิยมเรียกกันว่า "ทาน ศีล ภาวนา"

        ซึ่งการให้ทานหรือการทำทานนั้น เป็นการสร้างบุญที่ต่ำที่สุด ได้บุญน้อยที่สุด ไม่ว่าจะทำมากอย่างไรก็ไม่มีทางที่จะได้บุญมากไปกว่าการถือศีลไปได้ การถือศีลนั้นแม้จะมากอย่างไร ก็ไม่มีทางที่จะได้บุญมากเกินไปกว่าการภาวนาไปได้ ฉะนั้น การเจริญภาวนานั้น จึงเป็นการสร้างบุญบารมีที่สูงที่สุด ได้มากที่สุด ในทุกวันนี้เรารู้จักกันแต่การให้ทานอย่างเดียว เช่นการทำบุญตักบาตร ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า สละทรัพย์สร้างโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ ส่วนการถือศีล แม้จะได้บุญมากกว่าการทำทาน ก็ยังมีการทำเป็นส่วนน้อย เพื่อความเข้าใจอันดี จึงขอชี้แจงการสร้างบุญบารมีอย่างไรจึงจะเป็นการลงทุนน้อยที่สุด แต่ได้บุญบารมีมากที่สุด ดังนี้คือ "ทาน ศีล ภาวนา"



353
ธรรมะ / http://www.larnbuddhism.com/grammathan/
« เมื่อ: 21 ก.ย. 2550, 08:31:06 »
 
คำบูชาพระรัตนตรัย   คำขอขมาพระรัตนตรัย   คำสมาทานพระกรรมฐาน




คำบูชาพระรัตนตรัย

โยโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ สวากขาโต เยนะ ภะคะวะตา ธัมโม สุปะฏิปันโน ยัสสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ตัมมะยัง ภะคะวันตัง สะธัมมัง สะสังฆัง อิเมเหิ สักกาเรหิ ยะถาระหัง อาโรปิเตหิ อะภิปูชะยามะ สาธุโน ภันเต ภะคะวา สุจิระปะรินิพพุโตปิ ปัจฉิมาชะนะตานุกัมปะมานะสา อิเม สักกาเร ทุคคะตะปัณณาการะภูเต ปะฏิคคัณหาตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ ฯ

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ)
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ (กราบ)

คำขอขมาพระรัตนตรัย
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะฯ (ว่า 3 จบ)
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต ฯ หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยทางกายหรือวาจาก็ดี และด้วยเจตนาหรือไม่มีเจตนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดอดโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ

คำสมาทานพระกรรมฐาน
ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ศิษย์หลวงพ่อปาน
(นำ) หันทะ มะยัง พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปุพพะภาคะนะมะการัง กะโรมะ เส ฯ
(รับ) นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ( 3 จบ)
อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปริจัจชามิ
ข้าแต่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ ข้าพระพุทธเจ้า(ทั้งหลาย) ขอมอบกาย ถวายชีวิต แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ข้าพระพุทธเจ้า(ทั้งหลาย) ขออาราธนาบารมี พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย สืบ ๆ กันมา มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคเป็นที่สุด ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะพระกรรมฐานทั้ง 40 ทัศ พระปิติทั้ง 5 และวิปัสสนาญาณทั้ง 9 ขอพระกรรมฐานทั้ง 40 ทัศ พระปีติทั้ง 5 และวิปัสสนาญาณทั้ง 9 จงมาบังเกิดปรากฎ ในกายทวาร ในวจีทวาร ในมโนทวาร ของข้าพระพุทธเจ้า ณ กาลบัดนี้เถิด

ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะแห่งเมฆจิต สามารถกำหนดจิตรู้ภาวการณ์ต่าง ๆ ทั้งเหตุ ผล อดีต อนาคต และปัจจุบันได้ทุกขณะจิต ที่ปรารถนาจะรู้ เมื่อรู้แล้ว ขอให้เห็นภาพนั้นได้ชัดเจนแจ่มใส และพยากรณ์ได้ ตามความเป็นจริงทุกประการ เหตุใดที่จะพึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้าได้รู้เหตุนั้น ได้โดยมิต้องกำหนดจิต แม้แต่ประการใด ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด





กฎการปฏิบัติกรรมฐาน


       การปฏิบัติพระกรรมฐานในพระพุทธศาสนา มีกฎของการปฏิบัติเพื่อผลของการบรรลุเป็นระดับไป ดังจะยกมาโดยย่อดังนี้

อธิศีลสิกขา

      อธิ แปลว่า ยิ่ง เกิน หรือล่วง ซึ่งมีความหมายอย่างเดียวกัน คำว่า ยิ่ง หมายถึง การปฏิบัติยิ่งกว่า หมายถึง การปฏิบัติเคร่งครัดกว่าปกติ หรือรักษาศีลยิ่งกว่าชีวิตนั่นเอง เกิน ก็หมายถึงปฏิบัติกเกินกว่าที่ปฏิบัติกันตามปกติ ล่วง ก็หมายถึงการปฏิบัติล่วง คือ เกินที่กระทำกันตามปกติ การปฏิบัติตามนี้จัดเป็นอธิศีล การปฏิบัติเป็นอธิศีล ท่านได้แนะนำไว้ดังนี้ จะรักษาศีลไว้ด้วยดี มิให้ขาด มิให้ทำลาย แม้แต่ศีลจะมัวหมอง ก็มิยอมให้เป็น คือ ไม่แนะนำให้คนอื่นทำลายศีล และไม่ยินดีต่อเมื่อเห็นผู้อื่นทำลายศีล การปฏิบัติพระกรรมฐาน ก่อนที่จะหวังให้ฌาณสมาบัติอุบัติแก่จิตใจนั้น ต้องมีศีลบริสุทธิ์เสียก่อน เมื่อรักษาศีลได้แล้ว จนถึงขั้นไม่ต้องระวัง หมายความว่า ละเสียได้จนชินไม่มีการพลั้งเผลอแล้ว ขั้นต่อไปปฏิบัติดังนี้

ระงับนิวรณ์ 5


เห็นโทษของกามฉันทะ
เห็นโทษของการจองล้างจองผลาญ
คอยกำจัดความง่วงเหงาหาวนอน
คอยควบคุมอารมณ์ไม่ให้ฟุ้งซ่าน
ตัดความสงสัยในมรรคผลเสีย
เจริญพรหมวิหาร 4
แผ่เมตตา แผ่ไปทั่วทุกทิศโดยคิดไว้ด้วยความบริสุทธิ์ใจว่าเราจะเป็นมิตรแก่คนและสัตว์ทั่วโลก
กรุณา จะสงสารหวังสงเคราะห์สัตว์และมนุษย์ทั้งปวง
มุทิตา จะไม่อิจฉาริษยาคนและสัตว์ทั้งหลาย จะส่งเสริมและรู้สึกเมื่อผู้อื่นได้ดีมีโชค
อุเบกขา วางเฉยเมื่อผู้อื่นพลาดพลั้ง ไม่ซ้ำเติม และตั้งใจหวังสงเคราะห์เมื่อมีโอกาส
      การรักษาศีลบริสุทธิ์ ด้วยการไม่ล่วงเอง ไม่ใช้ให้ผู้อื่นล่วง และไม่ยินดีเมื่อผู้อื่นล่วง และตัดความพอใจในนิวรณ์ 5 โดยระงับนิวรณ์ได้ เมื่อขณะปฏิบัติ และทรงพรหมวิหาร 4 ได้อย่างครบถ้วนอย่างนี้ อารมณ์จิตเป็นฌาน และฌานจะไม่รู้จักเสื่อมเพราะพรหมวิหาร 4 อุ้มชู สมาธิตั้งมั่น วิปัสสนาผ่องใส เรียกว่า พรหมวิหาร 4 เป็นกำลังใหญ่ในการปฏิบัติสมณธรรมทุกระดับ

      การรักษาศีลบริสุทธิ์ เป็นอธิศีลสิกขา การกำจัดนิวรณ์ และทรงพรหมวิหาร เป็นอธิจิตตสิกขา คือทรงฌานสมาบัติไว้ได้ เรียกว่า มีความดีในระดับเปลือกของความดีในพระพุทธศาสนาเท่านั้น

ความดีระดับกระพี้

      ท่านมีศีลบริสุทธิ์ กำจัดนิวรณ์ 5 ได้ ทรงพรหมวิหาร 4 แล้ว สร้างฌานพิเศษ มีปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ระลึกชาติที่ล่วงมาแล้วได้โดยไม่จำกัดชาติ ทำได้อย่างนี้ท่านเรียกว่า มีความดีระดับกระพี้ของความดีในพระพุทธศาสนา

ความดีระดับแก่น

      เมื่อท่านรักษาศีลบริสุทธิ์ กำจัดนิวรณ์ 5 ได้ ทรงพรหมวิหาร 4 ได้ปุพเพนิวาสสานุสสติญาณ และบรรลุทิพยจักษุญาณ สามารถรู้ว่าสัตว์ตายแล้วไปเกิดที่ไหน สัตว์ที่มาเกิดนี้มาจากไหน อาศัยกรรมอะไรเป็นเหตุ นี้พระพุทธองค์ตรัสว่า เป็นความดีที่ทรงความเป็นสาระแก่นสาร ความดีระดับนี้เป็นความดีระดับวิชชาสาม ผู้ใดทรงความดีตามที่กล่าวมาแล้วนั้นได้ครบถ้วนแล้ว ถ้าจะปฏิบัติเพื่อธรรมเบื้องสูงเพื่อพรหมจรรย์แล้ว อย่างช้าไม่เกิน 7 ปี อย่างกลางไม่เกิน 7 เดือน อย่างเร็วไม่เกิน 7 วัน ก็จะเข้าถึงอรหัตตผล เป็นพระอริยบุคคลระดับยอด ถ้าจะปฏิบัติเพื่อมรรคผลและพระนิพพาน มีการปฏิบัติดังต่อไปนี้

บารมี 10
      บารมี แปลว่า ทำให้เต็มไม่บกพร่อง ไม่ละเลยเหินห่่างและบกพร่อง ประคับประคองไว้เป็นปกติ

ทาน ทาน แปลว่า การให้ ต้องมีจิตใจจดจ่อเพื่อการให้ด้วยจิตใจที่หวังการสงเคราะห์อยู่เป็นปกติ การมีให้ด้วยการสงเคราะห์มีแก่เราเมื่อใด เมื่อความความสบายสุขใจ การให้นี้ต้องไม่พิจารณาบุคคลถึงสุขภาพและฐานะ ถือเอาเพียงว่าเขาต้องการความช่วยเหลือจากเรา ก็ช่วยตามต้องการ และไม่หวังการตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้น
ศีล ศีลแปลว่า ปกติ การรักษาอาการตามความพอใจของปกติชนที่มีความปรารถนาอยู่เป็นสุข เราก็ไม่ทำลายปกติความปรารถนาความพอใจของชาวโลก ฉะนั้น ศีลท่านจึงแปลว่า ปกติ คือรักษาอารมณ์ปกติของจิตใจของคนและสัตว์ไม่ต้องการให้ได้รับความเดือดร้อน ไม่ทำให้ศีลขาด ไม่แนะนำให้คนอื่นทำ และไม่ยินดีเมื่อผู้อื่นทำผิด รักษาได้ระดับนี้จึงจะเป็นศีลเพื่อมรรคผล
สัจจะ สัจจะแปลว่า ความตั้งใจจริง เราจะไม่ยอมเลิกละความตั้งใจเดิม แม้แต่จะต้องตายก็ตาม
วิริยะ วิริยะแปลว่า ความเพียร ถ้ามรรคผลนิพพานที่เราปรารถนานี้ยังไม่ปรากฎเพียงใด เราจะไม่ละความพยายามประพฤติปฏิบัติไป โดยไม่คำนึงถึงอุปสรรค
เนกขัมมะ เนกขัมมะแปลว่า การถือบวช หมายถึงการอดในกามารมณ์ โดยตัดใจไม่ไยดีในอารมณ์ยั่วเย้าด้วยอำนาจกามฉันทะ คือความพอใจในกามารมณ์
ปัญญา ปัญญาแปลว่า ความรู้ ที่เกิดขึ้นจากการพินิจพิจารณา แปลว่า ความเฉลียวฉลาดก็ได้ ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นโทษของ ความเกิด แก่ เจ็บ พลัดพราก ว่าเป็นทุกข์ จนเกิดนิพพิทา ความเบื่อหน่ายต่อการเกิดในชาติภพ จนกระทั่งได้สังขารุเปกขาญาณ คือไม่มีความหวั่นไหวในเมื่อความทุกข์ใด ๆ เกิดขึ้นแก่สังขาร
ขันติ ขันติแปลว่า ความอดทนหรืออดกลั้น ไม่ยอมให้อารมณ์ฝ่ายชั่วเข้ามาล้างอารมณ์วิปัสสนาญาณได้
เมตตา เมตตาแปลว่า ความรักที่ปราศจากความใคร่ด้วยอำนาจกิเลส หมายถึง รักด้วยความปรานี ไม่มีอารมณ์ในส่วนของกิเลสเจือปน
อธิษฐาน อธิษฐานแปลว่า ความตั้งใจมั่น ทั้งนี้หมายถึงตั้งใจไว้ถูกต้อง
อุเบกขา อุเบกขาแปลว่า ความวางเฉย มายถึงเฉยต่ออารมณ์ที่เป็นทุกข์และสุขอันเป็นวิสัยของโลกีย์

      บารมีทั้ง 10 อย่างนี้ นักวิปัสสนาญาณต้องมีครบถ้วน แล้วต้องปฏิบัติได้เป็นปกติ ตามความพอใจเป็นปกติ 


 

355
ตรงข้างบนหนุมาน อะ
ยันต์นี้ อ,พันธ์ ท่านเป็นผู้สัก ประมาณว่า ดำดื้อขนาดย่อแล้วกัน
ในหมู่ศิษย์ท่านเรียกเป็นภาษาอังกฤษด้วย จำไม่ได้แล้ว -------------ว่าอะไร

356

อยากทราบว่า ยันต์รูปแรก กระดาษด้านขวา อันที่สอง ที่เป็นตัวเลข คือยันต์อะไรหรือครับ?  ::)
เป็นยันต์ลงไว้สำหรับแช่น้ำมนต์

357
 :001:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

358
น่าจะ เป็น หลวงพ่อประโยชน์ วัดเขานางแล จังหวัดอุตรดิษย์ [/size
หลวงพ่อประโยชน์ วัดนาลับแลง ต.ทองแสนขัน จ.อุตรดิษฐ์
ครับ

359
และร่วมกฐินวัดนก กรุงเทพฯในวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๐
เพื่อสมทบทุนสร้างพระมหาเจดีย์
และขอเชิญร่วมพุทธา เทวาภิเศก จตุคามรามเทพ พระพิคเณศร์ วัดนก
ในวันที่ ๒๑ - ๒๒ - ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๐


360
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: past times
« เมื่อ: 14 ก.ย. 2550, 01:18:44 »
 :114: :114: :114:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

361
พ้ม ชื่อ โด้ ฮับ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

362
พ้ม ชื่อ อ๊อด

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

363
น้ำมัน ขอแนะนำ พระอาจารย์ติ่งครับ :053: :053: :053:

364
ผมชื่อ บู๊ท

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

365
ผมชื่อ โด่ง  กิโลเดียว              ครับ













เพราะเราคู่กัน

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

366
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ผมชื่อ oof
« เมื่อ: 05 ก.ย. 2550, 09:11:20 »
 :002:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

369
 :057:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

370
 :002: :002:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

371
 :002:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

372
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: past times
« เมื่อ: 01 ก.ย. 2550, 06:33:56 »
**03**

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

373
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: donation
« เมื่อ: 31 ส.ค. 2550, 06:34:43 »
 :062: :062: :062: :062: :062: :062: :062: :062:

374
 :059: :059: :059: :059: :059:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

375
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: past times
« เมื่อ: 31 ส.ค. 2550, 06:25:50 »
 :001: :001: :001:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

376
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: past times
« เมื่อ: 31 ส.ค. 2550, 06:21:55 »
ยามเย็น สัก 2-3 รูป

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

377
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: past times
« เมื่อ: 31 ส.ค. 2550, 06:40:21 »
 :058: :058: :058: :058:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

378
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: past times
« เมื่อ: 31 ส.ค. 2550, 06:31:57 »
 :057: :057: :057: :057: :057:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

379
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: past times
« เมื่อ: 31 ส.ค. 2550, 06:30:08 »
 :057: :057: :057: :057:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

380
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: past times
« เมื่อ: 31 ส.ค. 2550, 06:26:52 »
ต่อครับ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

381
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: past times
« เมื่อ: 30 ส.ค. 2550, 05:53:15 »
พอก่อนวันนี้

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

382
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: past times
« เมื่อ: 30 ส.ค. 2550, 05:50:13 »
 :057: :057: :057:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

383
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: past times
« เมื่อ: 30 ส.ค. 2550, 05:48:10 »
 :057: :057:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

384
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / past times
« เมื่อ: 30 ส.ค. 2550, 05:44:20 »
ถ้า post ซ้ำ ก็ขออภัย :057:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

385
ขอนมัสการ และแสดงความเสียใจมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

386
ในงานนี้หลังพิธีแล้ว
รับวัตถุมงคลโชคอนันต์ได้เลย

387
แล้วจะรู้มั้ยนี่ใครเป็นไคร? ;D
เออจิง.. ใครเปนใครอ่ะ? :007:
เดี๋ยวก็รู้จักกันเองละครับ

389
รอยสัก อ.ตูนที่ขา ครับ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

390
องค์นี้ฝีมือดีสักสวย
เดินเส้นได้งดงามยิ่งนัก ครับ :053: :053:

391
พรรคพวกแจ้งมาว่า
มีแจกจตุคาม/หลวงพ่อเสือด้วยครับ

392
ปีนี้มีฝังตะกรุด เหมือนปีที่แล้ว หรือป่าวครับ



มีทั้งฝังตะกรุด และฝังเข็มครับ

393
ช่วงเช้า ปลุกเสก
หลังจากนั้นบูชาครู
ต่อด้วยครอบครู

395
เป็นบทเจริญพุทธคุณ
น่าจะเป็นบางส่วน ของพระคาถายอดพระกัณฑ์

396
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / intro
« เมื่อ: 14 ส.ค. 2550, 10:47:00 »
ผู้การเสือ ศิษย์หลวงพ่อเปิ่น ผู้ใจบุญ
และเต็มไปด้วยไมตรีจิต

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

397
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ขอเชิญ
« เมื่อ: 14 ส.ค. 2550, 10:42:01 »
ขอเชิญร่วมพิธีไหว้ครูบูรพาจารย์สายเข็มทอง
ตำหรับหลวงพ่อพิมมาลัย หลวงพ่อสวัสดิ์
และครูบาอาจารย์สายตุกรุดมอญมหาเสน่ห์
ณ วัดบางแวก ซ.จรัลสนิทวงศ์ 13
ในวันที่ 2 กันยายน 2550
ตั้งแต่เวลา 07.00 น.
โดย พระอาจารย์หนุ่ม

398
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / tomorrow
« เมื่อ: 11 ส.ค. 2550, 05:58:01 »
พิธีเริ่มในเวลาเช้า
มีแจกผ้ายันต์
ธงหลวงพ่อเปิ่นจตุคาม สวยมาก

399
เสือ ก็คือ เสือ ครับ
ดุ ไม่ดุ ดีไม่ดี
สวยไม่สวย
อยู่ที่คนคิด
และ คนเป็นครับ
เสือยังงัยก็ยังเป็นเสืออยู่วันยังค่ำแหละคับ ไม่มีทางเป็นลูกแมวไปได้ ยกเว้นใจคนสักจะเป็นแมวอะคับ 55 ล้อเล่งนะ? สักกี่ตัวกี่ตัวก็เสือคับ 1 ยันต์ สรุปจบ งง ปัยละ
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง

400
ยอดผ้าป่า วันที่ 12 สิงหาคม2550ได้รับมาแล้วบางคณะ บางเจ้าภาพ
**จากคณะลูกศิษย์ หลวงพ่อต้อย     216,147.00บาท
**คุณกิตติและเพื่อน สิงคโปร์           50,000.00บาท
**พระอาจารย์ตูน วัดคณิกาผล         40,000.00บาท
**พระเต้ พระอัฐ  พระหมี คุณโทน
และเพื่อน ๆ และบุคคลทั่วไป       133,980 บทา
ณ วันที่ 4 สิงหาคม 2550ไ   

401
 :002:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

402
 :002:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

403
สาธู สาธุ สาธุ :054:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

404
 :114:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

405
:058:ต้นแบบ หลวงพ่อเปิ่น ทรัพย์ไหลมา
สร้างเพื่อสืบสานงานต่อหลวงพ่อเปิ่น
เพื่อ รพ.หลวงพ่อเปิ่น  บ้านพักคนชราหลวงพ่อเปิ่น พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อเปิ่น
สมทบกวนอิมปางเสวยสุข
ฯลฯ


[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

407
พระหลวงพ่อเปิ่น จตุคาม รุ่น ทรัพย์ไหลมา
เปิดพิมพ์นำฤกษ์ วันที่ 12 สิงหาคม 2550
โดยพระเกจิอาจารย์
นำโดย หลวงปู่ทิม วัดพระขาว หลวงพ่อสำอางค์ วัดบางพระฯลฯ
ทำบุญบูชา องค์ละ1000 บาท
สมทบทุนพัฒนา โรงพยาบาลหลวงพ่อเปิ่นฯลฯ
ประสงค์จะจับจองได้ที่
**หลวงพ่อต้อย****หลวงพ่อติ่ง**
034239070

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

408
004

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

409
003

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

410
นำฤกษ์

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

411
002

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

412
001

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

413
เป็นเหรียญ หลวงพ่อแฉ่ง วัดพิกุลเงิน รุ่นแรก ด้านหลังเหรียญ เป็นยันต์ คล้ายยันต์แม่ทัพ (มหาทะมึน) ของวัดบางพระ
ถูกต้องแล้วครับ เป็นยันต์เดียวกัน
ยันต์แม่ทัพนี้ หลวงพี่แป๊ว สักสร้างชื่อเสียงใว้มากมายยิ่งครับ

414
0000000

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

415
ถ่ายภาพได้สวยงามมาก

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

416
:114: :114: :114: :114: :114: :114: :114:
[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

417
log in ก็ช้า
log out สุดยอด
ช้าด้วย ไม่ out
ด้วย?  คุณแวป------- คุณแอ---------คุณโอมกาน....
ช่วยดูแลด้วยเจ้า ข้า
เหมียน กาน เลย

418
สาธุ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

419
ขุนกระบี่หลวงพ่อเปิ่น องค์เดียว

420
ขออนุโมทนา สาธุ ขออำนาจบุญญาบารมีของหลวงพ่อเปิ่นช่วยคุ้มครอง ทหาร/ตำรวจ/ครู 3 จังหวัดชายแดนใต้

 :'( :'(

421
พวกพี่ๆแน่ใจได้ยังไงครับว่าเข็มที่สักปลอดเชื่อเอดส์
พี่สักมา 10 กว่าปีแล้ว
ปรกติดี
น้องไม่มั่นใจ แขวนพระดีกว่านะ

422
พระอาจารย์นันต์ สักช้างสวยมาก
และก็อ.หนวด สักช้างได้งดงามมาก

423
แผงน้าดม มีราคาไม่แพงด้วย

424
ใครครับอาจารย์เณร

เก่งมั๊ยครับ
ค่าครูแพงมั๊ย
ผมอญุ ซ35 จะพได้ไปบ้างครับ

425
คิดถึง พระเดชพระคุณ 000000000000000000000000 gs]nv8Ikoy[
หาจตุคามห้อยดีกกว่า
ดีครับ แต่ไอ้คนบรรจุมันไม่ยอมนะซิ
พระพุทธศาสนาคือศาสนาประจำชาติไทย :)
ให้ประเทศไทยเป็นประเทศประจำ ศาสนาพุทธง่ายกว่ามั๊ยคับ แบบว่า ไม่เคยเห็นพระพุทธเจ้าต้องการให้เป็นแบบนั้นเลยผมว่านะ พระพุทธเจ้าท่านไม่เคยสอนให้ยึดติดนะคับ ผมคนนึงที่คิดว่าไม่ควรที่จะทำอย่างนั้น

426
มาร่วมรณรงค์ให้บรรจุคำว่า ?พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาเป็นประจำชาติ...? ไว้ในรัฐธรรมนูญ
http://www.bpct.org/index.php?option=com_content&task=view&id=599&Itemid=49
http://www.phrathai.net/forum/index.php?topic=49.msg61;topicseen#msg61

427
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / http://www.mbu.ac.th/
« เมื่อ: 14 มิ.ย. 2550, 08:19:03 »
ท่าน  โองการ..................
เพื่อน เวป.............ยังร่วมอดข้าวประท้วงเลย   เมื่อหัวค่ำก็สัมภาษณ์ tv  ไม่ใช่การเมืองอย่างที่คุณคิด
แต่เป็นเรื่องของชาวพุทธ 

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

428
ขอเชิญร่วมพิธีพุทธา-เทวาภิเษก  ในวันที่ 7 สิงหาคม 2550
เวลา 16.00 น. ณ วัดบางแวก
จุดเทียนชัย โดยหลวงปู่ทิม วัดพระขาว
กดนำฤกษ์ในพิธี

429
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / อ.ห น ว ด
« เมื่อ: 01 มิ.ย. 2550, 05:36:05 »
อ.หนวด ไป มาเลย์ กลับวันที่ ๔ มิ.ย.


[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

430
ในการสักยันต์นั้น เราไม่สามารถ วัดความแรงของยันต์รูปต่างๆได้นะครับ และก็ไม่มียันต์ไหนดีที่สุดนะครับ เพราะทุกยันต์ดีเหมือนกันหมด? แต่พุทธคุณแต่ต่างกัน?

ส่วนสิ่งที่สำคัญที่สุดของการสักยันต์นั้น คือการประพฤติ ตนให้อยู่ในศีลธรรม? นี่คือเรื่องสำคัญที่เราต้องทำครับ

ไม่ต้องมานั่งกังวล ของจะขึ้นหรือไม่ ของจะอยู่ไม๊ ของแรงไม๊? เราควรมา กังวล ว่า เราได้ถือศ๊ลได้หรือเปล่า ทำตัวอยู่ในศีลธรรมหรือเปล่า ผมว่า จำเป็นมากกว่าครับ


? :016: แหมอาจจะโดนใจใครหลายคนเนอะ? :015:
:095: :095:โดนใจเต็ม ๆ  :095: :095:

432
น่าจะประมาณ ปี 2537-2540
หลวงปู่มอบใหศิษย์สำเพ็งสร้างเพื่อหารายได้สมทบ
สร้างโรงพยาบาล มีทั้งโลหะและผง
พระชุดนี้สวยมาก และประวัติการสร้างดี
เจตนาชัดเจน น่าสะสมและบูชา
ใครครอบครองไว้ย่อมเป็นวาสนาของผู้นั้นแล :016:

433
วันนี้ไปมา ได้ชุดละ 600 ราคาบวกแต่ก็คุ้ม
 ใครจองไว้โชคดี ที่กรุงเทพฯชุดละ 1000 -1200
ที่สมุย มีตรายาง 1500-2000
โชดดีแท้เด้อ ได้ทำบุญด้วย ได้ของดีด้วย
ขายต่อก็กำไร จิงมั้ยจ๊ะ พี่ขายดอกไม้ :004:

434
วันนี้ไปวัดมา เห็นรูปแล้วสวยมาก กำลังดีเลี่ยมแล้วจะสวย
เห็นหลวงพ่อสั่งให้ปิดจีวรหลวงปู่ด้านหลังรูป
ไม่กล้าถามแจกเมื่อไหร่
กลัวโดนด่า อิ อิ อิ  :052: :052: :052:

435
อยากได้ อิ อิ อิ

ช่ายครับ เงินที่ได้จาก ศิษยานุศิษย์ หลวงพ่อ ท่านจะนำไปบริจาคให้โรงพยาบาลหลวงพ่อเปิ่น? ที่หลวงพ่อท่านอุปถัมภ์ เพื่อซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ครับ? :075: :075:

ถูกต้องนะคร๊าบ ผมก็ได้ยินมาเช่นนั้น เหนที่วัดพูดกันอ่ะครับ

437
บนกุฏิหลังใหญ่มีให้บูชาหรือเปล่าครับ :062:

438
:002:
พรุ่งนี้เช้า 06.00 น.
มีกะเพาะปลาเลี้ยงจ้า

439
สุขสันต์วันเกิด ขอให้มีความสุขนะจ๊ะ

440
แล้วอย่าลืมบูชาเทพฤาษีเทพกุมารทอง
องค์จตุคามของเรามาบูชานะจ๊ะ

441
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / 1 มีนาคม 2550
« เมื่อ: 28 ก.พ. 2550, 12:46:01 »
วันที่ 1 มีนาคม 2550
หลวงพ่อติ่งครอบครูแต่เช้าอเลย
หลวงพ่อบอกว่าปีนี้ จะครอบครูไปทางเมตตามหานิยม
ลูกศิษย์หลวงปู่ หลวงพ่อ จะได้มีเงินมีทองมาก ๆ
ไปไหนมาไหน มีแต่คนรัก คนเมตตา
สาธุ สาธุ

442
เดินผ่านไปเจอพอดี

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

443
เนื้อแดง  ราคา 200 - 500
ลงสีราคา          600-1000
เนื้อลาย  ราคา     1000 ขึ้น
เนื้อดำ    ราคา       300
 

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

445
ธรรมะ / ตอบ: แจ้งข่าว ผู้มีศัทธา
« เมื่อ: 08 ก.พ. 2550, 06:24:19 »
และ..............
ในวันที่ 11 กพ. 2550 ท่านจะไปทำพิธีสืบชะตาแบบชาวเหนือ
ที่วัดนก เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป
สนใจ โทร.สอบถามได้ที่ 02-410-4849/02-410-7755

446
องค์จริง

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

447
คิดถึงหลวงพ่อ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

448
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ทำบุญมา
« เมื่อ: 02 ก.พ. 2550, 09:10:58 »
show

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

449
สวยจัง

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

450
เกิดการผิดพลาดอีกแล้วคราบ............ผู้ดูแล ระบบ.............ตอนนี้ผมอยู่ที่ห้องใครก็ไม่รู้เช่นกัน..........เข้าระบบ ?ก็เข้ามาที่ห้อง นี้เลย.........(ผมเปียกปูน)........ไงรองช่วยตรวจสอบให้ด้วยน่ะคราบปัญหานี้เป็นบ่อยคราบ.....

451
ขอรูป
หลวงพ่อเปิ่น- จตุคาม
วัดบางพระ

453
ขอให้มีความสุขปีใหม่ครับ@@@@@@

454
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง

455
 :053: :053: :053: :053: :053:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

457
 นานาจิตตัง
หากะทู้เก่า ๆอ่านดู ละกัน

458
วันที่  11 กันยายน 2549
มีการทอดผ้าป่าที่กุฏิ หลวงพี่แป๊ว เวลา 12.00 น.
มาร่วมกันทำบุญกับหลวงพี่แป๊วกันนะครับ
/\/\
*/\*
 ----

462
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ในวัด
« เมื่อ: 20 ก.ค. 2549, 05:09:04 »
ในวัด

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

463
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: 30 /06/49
« เมื่อ: 02 ก.ค. 2549, 06:07:37 »
 :001: :001:

464
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: 30 /06/49
« เมื่อ: 02 ก.ค. 2549, 06:03:24 »
 :001:

465
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: รูปครับ
« เมื่อ: 27 มิ.ย. 2549, 09:49:54 »
:001: :001: :001: :001: :001: :001: :001: :001: :001:
[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

466
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: รูปครับ
« เมื่อ: 27 มิ.ย. 2549, 09:41:12 »
 :001: :001: :001: :001: :001:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

467
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / รูปครับ
« เมื่อ: 27 มิ.ย. 2549, 09:37:42 »
 :001: :001: :001: :001: :001: :001:

470
 :001:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

471
ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

472
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / see u
« เมื่อ: 17 มิ.ย. 2549, 03:11:21 »
 :001:

473
ผมว่าทุกยันต์ที่เพื่อนสมาชิกบอกมากันผีได้หมดครับ โดยเฉพาะท้าวเวสสุวรรณ
แต่ถ้าจิตใจยังกังวล/กลัวอยู่ก็คงช่วยได้ไม่มาก ดังนั้นน่าจะสวดมนต์และทำสมาธิด้วย จิตใจก็จะดีขึ้น
ลองทำบ่อย ๆ ดู  :092:

474
กระผมอยากจะขอเสนอแนะซักหน่อยนะครับ ? การที่คิดจะปลุกของสักนั้นกระผมคิดว่าอย่าทำเลยครับ ? เพราะว่าเสมือนเป็นการลบหลู่ครูบาอาจารย์ ? คนเราถ้าของจะขึ้น ?เขาจะขึ้นเอง ?ทั้งนี้และทั้งนั้นก็ต้องอยู่ที่ตัวของเราด้วยว่า ?ประพฤติปฎิบัติตัวของเราดีพอหรือยัง ?ศีล 5 ครบมั๊ย ?ฟัก แฟง ?นำเต้า กินหรือเปล่า ?ไหว้พระสวดมนต์หรือเปล่า ? ?และที่สำคัญที่สุดที่กระผมอยากจะเสนอแนะ คือ ?คุณต้องนั่งสมาธิกรรมฐานทุกๆวัน ?แล้วเอาดวงจิตน้อมระลึกถึงครูบาอาจารย์ ? และต้องปฎิบัติอย่างจริงจังด้วยถึงจะเห็นเร็ว ? ? ?ลองปฎิบัติดูแล้วจะรู้เอง ?ของอย่างนี้ใครทำ ?คนนั้นได้ :073: :073: :079: :077 สิ่งที่ผมนำเสนอมานี้ ?หวังว่าพี่ๆและเพื่อนๆคงจะได้รับความรู้ไปบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ :002: :002: : :016: :015: :053: ? ? ทอม? มักกะสัน?
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง  ครับ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

475
ไปครับ--------------------------- :001:

476
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: ขอเชิญ
« เมื่อ: 03 มิ.ย. 2549, 08:11:56 »
 :108: :) ;) :D >:( :( :109: :104: :102: :103: :112: :108: :107: :106: :094: :105: :082: :083: :084: :096: :089: :090: :091: :097: :098: :099: :101: :088: :087: :078: :076: :085: :081: :072: :071: :056: :055: :046: :001: :002: :004: :027: :017: :092: :057: :009: :053: :052:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

479
*****^ . . ^*****




480
o _ o
  :001:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

485
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: วัดนก
« เมื่อ: 17 พ.ค. 2549, 09:04:39 »
หลวงพ่อเปิ่นพุทธาภิเศกครั้งสุดท้ายที่วัดนก

486
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / วัดนก
« เมื่อ: 17 พ.ค. 2549, 07:34:09 »
หลวงพ่อเปิ่นพุทธาภิเศกครั้งสุดท้ายที่วัดนก

487
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: เสือ
« เมื่อ: 11 พ.ค. 2549, 09:33:37 »
 :002:

488
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: เสือ
« เมื่อ: 11 พ.ค. 2549, 09:25:04 »
jam

489
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: เสือ
« เมื่อ: 11 พ.ค. 2549, 09:06:18 »
jam

490
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ปัจจุบัน
« เมื่อ: 10 พ.ค. 2549, 06:13:01 »
//////หลวงพ่อรวย? วัดตะโก? จ.อยุธยา





////หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก็ว จ.อยุธยา





491
 :053: :053: :053:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

492
 :002: :002: :002:

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

493
:001: :002: :004: :027: :005: :052: :052: :007: :095: :095: :073: :073: :005: :005:
[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

494
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / พิพิธภัณฑ์
« เมื่อ: 25 เม.ย. 2549, 05:13:21 »
บางส่วนกำลังตกแต่ง

496
ผมอยากเห็นรูปพระอาจารย์ที่สักที่วัดบางพระทุกท่านเลยครับ? :045: ใครมีช่วยเอามาลงให้ทีน่ะครับ




499
 :008: มีผู้ถาม ฝากถาม ว่าไหว้ครูปีนี้ board ของพวกเรา มีของแจกสมาชิก และผู้เยี่ยมชมหรือเปล่าครับ :025:

502
แถม

503
ลายสัก

505
 :005: :005: :005: :005: :005:

507
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / สอบถาม
« เมื่อ: 21 ม.ค. 2549, 05:30:07 »
ในวันไหว้ครูมีเสื้อยันต์ออกให้บูชามั๊ยครับ  ถ้ามีราคาเท่าไหร่ดรับ

508
สวนจตุจักร เคยมีนานแล้ว แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้ไปจะมีอยู่ หรือไม่ ไม่แน่ใจ บริเวณที่ขายของจำพวกงาแกะ อะไรนั่นละครับ
หรือไม่ก็ให้ช่างกลึงทำ ดู ๆ ทำไม่น่าจะยาก

509
ถูกทํงสองละครับ
แต่อันที่ 2 อักขระจะถูกต้องกว่า
ถ้าเคยไปที่วัดและบูชาธูปที่วัดมาจะได้รับคาถาในห่อธูปมาด้วย
พระคาถานั้นเป็นของเก่าที่จารึกอยูในใบลานที่วัด และได้นำมาเขียนเป็นภาษาไทย
และหลวงพ่อ ได้อนุญาติให้เผยแพร่ได้ (พระองค์ดำ ๆ ที่วัดเล่าให้ฟัง นานแล้ว) :095:

511
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / 7777777
« เมื่อ: 08 ม.ค. 2549, 11:53:17 »
7777777อย่าลืมมาครอบครู วันที่ 9 มีนาคม นาคราบ............................

512
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / Re: happy newyear to you
« เมื่อ: 04 ม.ค. 2549, 06:31:53 »
happy newyear :002: :002: :002:[move][/move]

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

518
:057: ไว้เจอกันวันนั้นนะครับ

519
 :053: :053: :053:
ขอบคุณมากครับ เวบ :080:

หน้า: [1]