กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7 8 9 10
41
ไหว้ครูบูรพาจารย์ / ไหว้ครูปี 2565
« กระทู้ล่าสุด โดย โยคี เมื่อ 05 มี.ค. 2565, 12:58:23 »
เหรียญพิธีไหว้ครูประจำปี                                                   
วันเสาร์ ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565
เนื้อทองคำ                      สร้าง 1 เหรียญ
เนื้อเงินหลังหลวงพ่อเปิ่น สร้าง 38 เหรียญ
เนื้อเงินหลังจาร               สร้าง 19 เหรียญ
เนื้อนวะ                           สร้าง  19 เหรียญ
เนื้อทองแดงลงสี             สร้าง  1000 เหรียญ
เนื้อทองแดงชุบทอง        สร้าง  2000 เหรียญ
เนื้อทองแดงรมดำ           สร้าง   20000 เหรียญ
42


...เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๔...

...ถ้าอยากให้สิ่งที่ดีๆเกิดขึ้นกับตัวเรา
เราก็ต้องมาทำเครื่องรับของเราให้มันดี
คือมาปรับจิตปรับใจของเราให้มันดี
คือทำจิตทำใจให้เป็นบุญกุศลเสียก่อน
เมื่อกายและใจของเรานั้นอยู่กับบุญ
กุศลแล้ว สิ่งที่ดีย่อมบังเกิดขึ้นแก่เรา
เพราะใจเรานั้นเป็นสื่อที่จะดึงดูด
สิ่งที่ดีให้มาสู่กายและจิตของเรา
ในทางตรงข้ามกัน ถ้าจิตใจของเรา
ไม่ดีเป็นอกุศลจิต มันก็จะดูดเอา
สิ่งที่ไม่ดีสิ่งที่เป็นอกุศลนั้น เข้ามา
สู่ตัวเราเพราะคลื่นที่เราส่งออกไปนั้น
มันไม่ดีและเครื่องรับของเรามันไม่ดี
มันจึงรับเอาคลื่นที่ไม่ดี ทุกอย่างจึง
เริ่มที่จิตของเรา คิดดี พูดดี ทำดี

แล้วสิ่งที่ดีก็จะเกิดขึ้นแก่เรา...
...ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต...
...รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม...
...๕ มีนาคม ๒๕๖๕...
43
บทความ บทกวี / ...รำพึงธรรมตามรายทาง บทที ๔...
« กระทู้ล่าสุด โดย เว็บมาสเตอร์... เมื่อ 05 มี.ค. 2565, 06:32:11 »


...รำพึงธรรมตามรายทาง บทที ๔...

...บทบาทและหน้าที่ของชีวิต...
...ความสำเสร็จของชีวิต
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับทรัพย์สินเงินทอง
เป็นตัวชี้วัดความรวยหรือความจน
แต่มันอยู่ที่ความสุขความพอใจ
ในสิ่งที่มีและสิ่งที่เป็นว่าใครนั้น
จะมีมากน้อยกว่ากันเพียงใด
ความสำเร็จนั้นเกิดได้เมื่อใจนั้นพอ...
...แต่สิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิต
คือการรู้จักใช้ชีวิตให้อยู่กับความพอดี
ต้องใช้ให้น้อยกว่ารายรับที่ได้มา
ชีวิตนี้จึงจะมีเหลือมากกว่าขาด
คนที่จนนั้นจะยิ่งจนเพราะทำตัวรวย
คนที่รวยนั้นยิ่งรวยเพราะทำตัวจน.....
...ดำเนินชีวิตให้เป็นปกติในความพอดี
รู้จักบทบาทและทำตามหน้าที่ของตน
อย่าได้สับสนในบทบาทของชีวิต
พึงพอใจในสิ่งที่มีและในสิ่งที่เป็น
มีความเพียรพยายามทำในสิ่งที่ถูกต้อง
ดำเนินชีวิตไปตามทำนองคลองธรรม
แล้วความสำเร็จนั้นจะเกิดกับคุณเอง...

...ดอกบัวบาน งามเด่น เป็นสง่า
เสียงนกกา ขับขาน กังวานใส
วันเวลา แห่งชีวิต ล่วงเลยไป
เช้าวันใหม่ ตื่นขึ้นมา รับอรุณ
...อรุณรุ่ง เรืองรอง แสงทองส่อง
นั่งเหม่อมอง พาใจ ให้อบอุ่น
ธรรมชาติ สรรค์สร้าง อย่างสมดุลย์
ธรรมชาติ มีคุณ เกินบรรยาย
...สายลมพัด โชยมา จากชายเขา
ลมแผ่วเบา พัดมา เมื่อยามสาย
สายลมเย็น พัดผ่าน ให้สบาย
ลมต้องกาย สบายใจ ไร้กังวล
...นั่งทบทวน ชีวิต ที่ผ่านมา
มองหาค่า ควรคู่ ซึ่งเหตุผล
นับเป็นบุญ ที่ได้เกิด มาเป็นคน
เป็นกุศล ได้สร้าง เส้นทางดี
...ชีวิตนี้ ไม่ยืนยาว อย่างที่คิด
ควรจะใช้ ชีวิต ให้ถูกที่
ทำชีวิต ให้พอเพียง และพอดี
ทุกอย่างมี เหตุและผล ค้นให้เจอ
...ช่วงเวลา ของชีวิต ที่เหลืออยู่
ควรเรียนรู้ สร้างสรรค์ อยู่เสมอ
อย่าประมาท ปล่อยใจ ให้พลั้งเผลอ
สิ่งที่เจอ ควรคิด พิจารณา
...ทุกสิ่งอย่าง อยู่ใน พระไตรลักษณ์
ไปตามหลัก ที่ได้เห็น และศึกษา
มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วจากลา
อนิจจา ทุกขัง อนัตตา
...อย่าประมาท ในวัย ที่เหลืออยู่
เร่งกอบกู้ ให้ชีวิต มีเนื้อหา
อย่ามัวรอ โอกาส และเวลา
วันข้างหน้า อาจไม่มี ให้ได้เจอ....

...ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต...
...รวี สัจจะ - สมณะไร้นาม...
...๕ มีนาคม ๒๕๖๕...
44


...เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๓...

...มองย้อนกลับไป หลายปีที่ผ่านไป
เราได้เห็นอะไรมากมาย ได้จดบันทึกไว้
และเมื่อเราได้นำบันทึกเก่าๆกลับมาอ่าน
ได้เห็นถึงพัฒนาการของจิต ความรู้สึก
นึกคิดที่แปรเปลี่ยนไป ซึ่งเกิดจากการ
สั่งสมอบรมจิตอย่างต่อเนื่องไม่ทิ้งธุระ
ไม่ละศรัทธา พิจารณาอยู่เนืองนิจ จิตจึง
ได้พัฒนา ความเจริญก้าวหน้านั้น
ต้องประกอบด้วยปัจจัย ๔ ที่เรียกว่า
อิทธิบาท ๔ อันประกอบด้วย...
๑.ฉันทะ ความยินดีพึงพอใจในสิ่ง
ที่กระทำ(ทำในสิ่งที่ชอบและสิ่งที่ใช่)
๒.วิริยะ ความเพียรพยายามทำใน
สิ่งนั้น (คือสิ่งที่ชอบและสิ่งที่ใช่)
๓.จิตตะ ไม่ละความเพียรพยายาม
ทำอยู่สม่ำเสมอไป(ในสิ่งที่ชอบและ
สิ่งที่ใช่)
๔.วิมังสา พิจารณา ใคร่ครวญ ทบทวน
ในสิ่งที่ทำ ว่ามันเป็นเช่นไร (ในสิ่งที่ชอบ
และสิ่งที่ใช่) แล้วเราจะเห็นความแปร
เปลี่ยนไปทั้งในความเสื่อมและความ
เจริญ ด้วยองค์แห่งอิทธิบาท ๔ ซึ่งถ้า
มีความพอดีก็จะนำไปสู่ความเจริญ
แต่ถ้าตัวใดขาดหรือตัวใดเกิน จนเกิด
ความไม่พอดี ก็จะไม่มีการพัฒนา
ก้าวหน้าเจริญขึ้นได้ และเมื่อไหร่ที่
ความเจริญในธรรมนั้นไม่ก้าวหน้า
ให้กลับมาพิจารณาที่ " อิทธิบาท ๔ "
เพราะคำนี้แปลว่าทางสู่ความสำเร็จ....

...ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต...
...รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม...
...๔ มีนาคม ๒๕๖๕...
45
บทความ บทกวี / ...รำพึงธรรมตามรายทาง บทที่ ๓...
« กระทู้ล่าสุด โดย เว็บมาสเตอร์... เมื่อ 04 มี.ค. 2565, 06:26:17 »


...รำพึงธรรมตามรายทาง บทที่ ๓...

...บทบาทและหน้าที่ของชีวิต...
...ความสำเสร็จของชีวิต
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับทรัพย์สินเงินทอง
เป็นตัวชี้วัดความรวยหรือความจน
แต่มันอยู่ที่ความสุขความพอใจ
ในสิ่งที่มีและสิ่งที่เป็นว่าใครนั้น
จะมีมากน้อยกว่ากันเพียงใด
ความสำเร็จนั้นเกิดได้เมื่อใจนั้นพอ...
...แต่สิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิต
คือการรู้จักใช้ชีวิตให้อยู่กับความพอดี
ต้องใช้ให้น้อยกว่ารายรับที่ได้มา
ชีวิตนี้จึงจะมีเหลือมากกว่าขาด
คนที่จนนั้นจะยิ่งจนเพราะทำตัวรวย
คนที่รวยนั้นยิ่งรวยเพราะทำตัวจน.....
...ดำเนินชีวิตให้เป็นปกติในความพอดี
รู้จักบทบาทและทำตามหน้าที่ของตน
อย่าได้สับสนในบทบาทของชีวิต
พึงพอใจในสิ่งที่มีและในสิ่งที่เป็น
มีความเพียรพยายามทำในสิ่งที่ถูกต้อง
ดำเนินชีวิตไปตามทำนองคลองธรรม
แล้วความสำเร็จนั้นจะเกิดกับคุณเอง...

...ดอกบัวบาน งามเด่น เป็นสง่า
เสียงนกกา ขับขาน กังวานใส
วันเวลา แห่งชีวิต ล่วงเลยไป
เช้าวันใหม่ ตื่นขึ้นมา รับอรุณ
...อรุณรุ่ง เรืองรอง แสงทองส่อง
นั่งเหม่อมอง พาใจ ให้อบอุ่น
ธรรมชาติ สรรค์สร้าง อย่างสมดุลย์
ธรรมชาติ มีคุณ เกินบรรยาย
...สายลมพัด โชยมา จากชายเขา
ลมแผ่วเบา พัดมา เมื่อยามสาย
สายลมเย็น พัดผ่าน ให้สบาย
ลมต้องกาย สบายใจ ไร้กังวล
...นั่งทบทวน ชีวิต ที่ผ่านมา
มองหาค่า ควรคู่ ซึ่งเหตุผล
นับเป็นบุญ ที่ได้เกิด มาเป็นคน
เป็นกุศล ได้สร้าง เส้นทางดี
...ชีวิตนี้ ไม่ยืนยาว อย่างที่คิด
ควรจะใช้ ชีวิต ให้ถูกที่
ทำชีวิต ให้พอเพียง และพอดี
ทุกอย่างมี เหตุและผล ค้นให้เจอ
...ช่วงเวลา ของชีวิต ที่เหลืออยู่
ควรเรียนรู้ สร้างสรรค์ อยู่เสมอ
อย่าประมาท ปล่อยใจ ให้พลั้งเผลอ
สิ่งที่เจอ ควรคิด พิจารณา
...ทุกสิ่งอย่าง อยู่ใน พระไตรลักษณ์
ไปตามหลัก ที่ได้เห็น และศึกษา
มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วจากลา
อนิจจา ทุกขัง อนัตตา
...อย่าประมาท ในวัย ที่เหลืออยู่
เร่งกอบกู้ ให้ชีวิต มีเนื้อหา
อย่ามัวรอ โอกาส และเวลา
วันข้างหน้า อาจไม่มี ให้ได้เจอ....

...ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต...
...รวี สัจจะ - สมณะไร้นาม...
...๔ มีนาคม ๒๕๖๕...
46


...เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๒...

...บนวิถีแห่งเส้นทางสายธรรม
อุปสรรคปัญหา คือบททดสอบ
ของผู้ปฏิบัติธรรม ว่าจะข้ามผ่าน
เพื่อไปสู่สภาวะที่สูงยิ่งขึ้นไป
...ดั่งคำโบราณที่กล่าวไว้ว่า “ มารไม่มี
บารมีไม่เกิด “ ในยามที่ชีวิตนั้น
ต้องเผชิญกับอุปสรรคหรือในสภาวะ
ที่คับขัน มันคือบทพิสูจน์ขวัญและ
กำลังใจของคนผู้นั้น ว่าเข้มแข็ง
มั่นคงสักเพียงใด จะก้าวพ้นผ่าน
ไปได้หรือไม่
...ชีวิตนั้นมันต้องเจอกับของจริง
ไม่ใช่สิ่งที่จินตนาการไป อุปสรรค
ปัญหาทั้งหลายคือบททดสอบขวัญ
และกำลังใจของผู้ปฏิบัติธรรม...

...ห้วงหนึ่งแห่งกาลเวลา...

...เก็บมา ใคร่ครวญ ขบคิด
ตั้งจิต สนใจ ใฝ่หา
เรียนรู้ กับโลก มายา
ค้นหา ให้เห็น ตัวตน

...ค้นหา ให้เห็น พื้นฐาน
คือการ เรียนรู้ เบื้องต้น
รู้จิต รู้ใจ ของคน
เริ่มต้น ที่ตัว ของเรา

...รู้กาย รู้จิต ของตัว
รู้ทั่ว รู้พร้อม ไม่เขลา
ตามดู รู้เห็น จิตเรา
ขัดเกลา ฝึกจิต คิดดี

...เมื่อไหร่ ที่เห็น จิตเรา
ก็เข้า ใจซึ่ง จิตนี้
จิตเรา จิตเขา ที่มี
จิตนี้ ก็คล้าย คลึงกัน

...ล้วนมี กิเลส ตัณหา
อัตตา ตัวตน ทั้งนั้น
ตามดู ตามรู้ ให้ทัน
จิตนั้น เคลื่อนไหว ไปมา

...เคลื่อนตาม สิ่งที่ กระทบ
เมื่อพบ เจอกับ ปัญหา
ผัสสะ ที่ผ่าน เข้ามา
ทางตา ทางลิ้น กายใจ

...จิตนั้น เข้าไป รับรู้
ติดอยู่ จึงให้ หวั่นไหว
ปรุงแตก คล้อยตาม มันไป
หวั่นไหว เพราะจิต คิดตาม

...หยุดคิด หยุดจิต ที่ปรุง
เรื่องยุ่ง ก็จะ ก้าวข้าม
วางสิ่ง รู้เห็น ไม่ตาม
เห็นความ สงบ พบจริง

...สยบ ซึ่งความ เคลื่อนไหว
ทำใจ ของเรา ให้นิ่ง
รู้เห็น ตามที่ เป็นจริง
ทุกสิ่ง สมมุติ ขึ้นมา

...เข้าใจ ในพระ ไตรลักษณ์
รู้หลัก ต้นเหตุ ปัญหา
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ จากลา
อัตตา ก็จะ ลดลง...

...ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต...
...รวี สัจจะ - สมณะไร้นาม...
...๓ มีนาคม ๒๕๖๕...
47
บทความ บทกวี / ...เรียงร้อยธรรมไปตามกาล ปฐมบท...
« กระทู้ล่าสุด โดย เว็บมาสเตอร์... เมื่อ 03 มี.ค. 2565, 06:53:49 »


...เรียงร้อยธรรมไปตามกาล ปฐมบท...

...ธรรมะทั้งหลายเป็นเรื่องใกล้ตัว
และทุกท่านก็ได้ปฏิบัติอยู่ในกิจวัตร
ประจำวันอยู่แล้ว เพราะว่าการ
ปฏิบัติธรรมนั้น คือการทำหน้าที่
ของตนให้สมบูรณ์ ตามหลักของ
มรรคองค์ ๘ มีสติระลึกรู้อยู่ในสิ่ง
ที่คิดและกิจที่ทำ มีองค์แห่งคุณธรรม
คือความละอายและเกรงกลัวต่อ
บาปกรรมคุ้มครองจิตอยู่ ก็ได้ชื่อว่า
ผู้นั้นกำลังปฏิบัติธรรมอยู่...

...บนเส้นทาง ของชีวิต ที่ผิดพลาด
เพราะประมาท มัวเมา และลุ่มหลง
สิ่งไม่ดี ทั้งหลาย ให้มึนงง
มันจึงส่ง ผลมา หาร่างกาย

...เพราะมัวเมา เหล้ายา สารพัด
จิตอ่อนหัด ไม่รู้เห็น ในความหมาย
ว่าที่ทำ นั้นเป็นภัย ต่อร่างกาย
เกือบจะสาย ก่อนที่จิต คิดได้ทัน

...คิดว่าเป็น ทางสุข กลับทุกข์หนัก
ไม่รู้จัก ความดีชั่ว เพราะโมหัน
หลงในกิน กามเกียรติ ทุกคืนวัน
สารพัน สารพัด ที่จัดมา

...ไม่รู้จัก บาปบุญ คุณและโทษ
ถือประโยชน์ ส่วนตน เป็นเนื้อหา
ทำอย่างไร ให้ได้มี และได้มา
สนองตอบ ตัณหา ของตัวตน

...จนวันหนึ่ง ได้รู้ซึ้ง ถึงทางจิต
มีความคิด และเข้าใจ ในเหตุผล
จึงถอนตัว ออกห่าง ทางมืดมน
ไปสู่หน ทางใหม่ ไม่กลับมา

...ละทางโลก สู่ทางธรรม น้อมนำจิต
เปลี่ยนความคิด มุมมอง และเนื้อหา
เข้าสู่การ ลดละ ซึ่งอัตตา
ใช้ปัญญา มองสิ่งเห็น ให้เป็นธรรม

...ทุกอย่างนั้น เกิดจาก จิตสำนึก
ความรู้สึก ส่วนใน ไม่ใฝ่ต่ำ
กระตุ้นเตือน ความคิด และชี้นำ
คิดแล้วทำ ตามจิต ที่คิดดี

...ความคิดนั้น เป็นเพียง นามธรรม
จึงต้องนำ มาทำ ให้เต็มที่
รูปธรรม ทำให้เห็น และให้มี
ทำให้ดี ตามที่จิต นั้นคิดมา....

...ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต...
...รวี สัจจะ - สมณะไร้นาม...
...๒ มีนาคม ๒๕๖๕...
48
บทความ บทกวี / ...รำพึงธรรมตามรายทาง บทที่ ๒...
« กระทู้ล่าสุด โดย เว็บมาสเตอร์... เมื่อ 03 มี.ค. 2565, 06:41:39 »


...รำพึงธรรมตามรายทาง บทที่ ๒...

...การปฏิบัติธรรม เป็นการกระทำที่
เริ่มจากจิต จากความคิด แล้วแสดง
ออกมาซึ่งทางกาย การปฏิบัติธรรมนั้น
มิใช่เป็นไปเพื่อความโอ้อวด เพื่อให้
ผู้อื่นเขายกย่องสรรเสริญชื่นชม
แต่เป็นการอบรมกายและจิตของเรา
โดยมีสติและสัมปชัญญะควบคุมอยู่
มีความระลึกรู้และมีความรู้ตัวทั่วพร้อม
ในกายในจิตในความคิดและการกระทำ
เพิ่มพูนคุณธรรมให้แก่จิต ปรับเปลี่ยน
ความคิดเพื่อให้จิตเป็นบุญกุศล
ไม่เอาแต่ความคิดตนมาเป็นใหญ่
เปิดจิตเปิดใจ ให้เปิดกว้าง พิจารณา
ทุกอย่างโดยเหตุและผล ไม่เห็นแก่
ประโยชน์ตนจนเกินไป รู้จักการให้
และการแบ่งปัน สิ่งที่กล่าวมานั้นคือ
การปฏิบัติธรรม...
๐ มีคำถาม มากมาย ให้ขบคิด
ถามเรื่องจิต เรื่องกาย เพราะอยากรู้
จงบอกว่า ถ้าสงสัย ให้ทำดู
แล้วจะรู้ กายจิต คิดอย่างไร
๐ อจินไตย คิดไป ก็ปวดหัว
มาดูตัว ดูจิต แล้วคิดใหม่
ดูให้รู้ ดูให้เห็น เป็นอย่างไร
ให้รู้ใจ รู้กาย รู้จิตตัว
๐ จิตส่งออก สมุทัย ให้เกิดทุกข์
จิตเป็นสุข เพราะรู้พร้อม น้อมไปทั่ว
มีสติ ระลึกรู้ อยู่กับตัว
รู้ดีชั่ว สิ่งที่จิต ควรคิดทำ
๐ อันกายนี้ อยู่ไม่นาน ก็ต้องดับ
เหมือนอาทิตย์ ลาลับ ในยามค่ำ
ต้องเวียนว่าย ตายเกิด อยู่ประจำ
สิ่งที่นำ ติดตัวไป ใช่เงินทอง
๐ สิ่งที่ตาม ติดไป ในดวงจิต
คือนิมิต แห่งกรรม นำสนอง
ถ้าจิตดี ก็มีสุข อยู่คุ้มครอง
จิตเศร้าหมอง ก็ต้องทุกข์ ไม่สุขใจ
๐ รู้อะไร ก็ไม่สู้ เท่ารู้จิต
รู้ถูกผิด ดีและชั่ว แล้วแก้ไข
เจริญจิต ภาวนา พาสุขใจ
ทำจิตไร้ อกุศล เป็นต้นทุน
๐ คือต้นทุน ชีวิต นิมิตหมาย
เมื่อยามตาย ความดี มีเกื้อหนุน
มีกรรมดี คือกุศล เป็นผลบุญ
ช่วยค้ำจุน ส่งจิต นิมิตดี
๐ อย่าสงสัย ในสิ่ง ไร้สาระ
ควรลดละ ความคิด ชนิดนี้
ความสงสัย คือนิวรณ์ ถอนความดี
จิตไม่มี สมาธิ เพราะนิวรณ์
๐ เมื่อสงสัย ก็ต้องทำ นำพิสูจน์
อย่าเพียงพูด เพียงคิด จิตสังหรณ์
ต้องลองทำ ศึกษา ตามขั้นตอน
เพื่อจะถอน ความสงสัย ให้มันคลาย
๐ ไม่มีใคร รู้ซึ้ง เท่าหนึ่งจิต
สิ่งที่คิด จิตใจ ในเป้าหมาย
คิดอะไร ก็ให้รู้ อยู่กับกาย
ไม่วุ่นวาย ควบคุมจิต ให้คิดดี
๐ คิดให้ดี คิดให้เห็น เช่นที่คิด
ไม่เป็นพิษ เป็นภัย ในทุกที่
ควบคุมจิต ให้คิด แต่สิ่งดี
ทำอย่างนี้ แล้วจิต จะสบาย
๐ สบายใจ คือสบาย ทั้งกายจิต
นั่นคือกิจ ที่ทำ ตามเป้าหมาย
เพราะคิดดี มีสติ อยู่กับกาย
ไม่วุ่นวาย เพราะจิต นั้นคิดดี...

...ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต...
...รวี สัจจะ - สมณะไร้นาม...
...๓ มีนาคม ๒๕๖๕...
49
บทความ บทกวี / ...รำพึงธรรมตามรายทาง ปฐมบท...
« กระทู้ล่าสุด โดย เว็บมาสเตอร์... เมื่อ 02 มี.ค. 2565, 08:16:40 »


...รำพึงธรรมตามรายทาง ปฐมบท...

...การปฏิบัติธรรม เป็นการกระทำที่
เริ่มจากจิต จากความคิด แล้วแสดง
ออกมาซึ่งทางกาย การปฏิบัติธรรมนั้น
มิใช่เป็นไปเพื่อความโอ้อวด เพื่อให้
ผู้อื่นเขายกย่องสรรเสริญชื่นชม
แต่เป็นการอบรมกายและจิตของเรา
โดยมีสติและสัมปชัญญะควบคุมอยู่
มีความระลึกรู้และมีความรู้ตัวทั่วพร้อม
ในกายในจิตในความคิดและการกระทำ
เพิ่มพูนคุณธรรมให้แก่จิต ปรับเปลี่ยน
ความคิดเพื่อให้จิตเป็นบุญกุศล
ไม่เอาแต่ความคิดตนมาเป็นใหญ่
เปิดจิตเปิดใจ ให้เปิดกว้าง พิจารณา
ทุกอย่างโดยเหตุและผล ไม่เห็นแก่
ประโยชน์ตนจนเกินไป รู้จักการให้
และการแบ่งปัน สิ่งที่กล่าวมานั้นคือ
การปฏิบัติธรรม...
๐ มีคำถาม มากมาย ให้ขบคิด
ถามเรื่องจิต เรื่องกาย เพราะอยากรู้
จงบอกว่า ถ้าสงสัย ให้ทำดู
แล้วจะรู้ กายจิต คิดอย่างไร
๐ อจินไตย คิดไป ก็ปวดหัว
มาดูตัว ดูจิต แล้วคิดใหม่
ดูให้รู้ ดูให้เห็น เป็นอย่างไร
ให้รู้ใจ รู้กาย รู้จิตตัว
๐ จิตส่งออก สมุทัย ให้เกิดทุกข์
จิตเป็นสุข เพราะรู้พร้อม น้อมไปทั่ว
มีสติ ระลึกรู้ อยู่กับตัว
รู้ดีชั่ว สิ่งที่จิต ควรคิดทำ
๐ อันกายนี้ อยู่ไม่นาน ก็ต้องดับ
เหมือนอาทิตย์ ลาลับ ในยามค่ำ
ต้องเวียนว่าย ตายเกิด อยู่ประจำ
สิ่งที่นำ ติดตัวไป ใช่เงินทอง
๐ สิ่งที่ตาม ติดไป ในดวงจิต
คือนิมิต แห่งกรรม นำสนอง
ถ้าจิตดี ก็มีสุข อยู่คุ้มครอง
จิตเศร้าหมอง ก็ต้องทุกข์ ไม่สุขใจ
๐ รู้อะไร ก็ไม่สู้ เท่ารู้จิต
รู้ถูกผิด ดีและชั่ว แล้วแก้ไข
เจริญจิต ภาวนา พาสุขใจ
ทำจิตไร้ อกุศล เป็นต้นทุน
๐ คือต้นทุน ชีวิต นิมิตหมาย
เมื่อยามตาย ความดี มีเกื้อหนุน
มีกรรมดี คือกุศล เป็นผลบุญ
ช่วยค้ำจุน ส่งจิต นิมิตดี
๐ อย่าสงสัย ในสิ่ง ไร้สาระ
ควรลดละ ความคิด ชนิดนี้
ความสงสัย คือนิวรณ์ ถอนความดี
จิตไม่มี สมาธิ เพราะนิวรณ์
๐ เมื่อสงสัย ก็ต้องทำ นำพิสูจน์
อย่าเพียงพูด เพียงคิด จิตสังหรณ์
ต้องลองทำ ศึกษา ตามขั้นตอน
เพื่อจะถอน ความสงสัย ให้มันคลาย
๐ ไม่มีใคร รู้ซึ้ง เท่าหนึ่งจิต
สิ่งที่คิด จิตใจ ในเป้าหมาย
คิดอะไร ก็ให้รู้ อยู่กับกาย
ไม่วุ่นวาย ควบคุมจิต ให้คิดดี
๐ คิดให้ดี คิดให้เห็น เช่นที่คิด
ไม่เป็นพิษ เป็นภัย ในทุกที่
ควบคุมจิต ให้คิด แต่สิ่งดี
ทำอย่างนี้ แล้วจิต จะสบาย
๐ สบายใจ คือสบาย ทั้งกายจิต
นั่นคือกิจ ที่ทำ ตามเป้าหมาย
เพราะคิดดี มีสติ อยู่กับกาย
ไม่วุ่นวาย เพราะจิต นั้นคิดดี...

...ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต...
...รวี สัจจะ - สมณะไร้นาม...
...๒ มีนาคม ๒๕๖๕...
50


...บันทึกเส้นทางบนสายธรรม บทที่ ๑๐๐...

...นรกหรือสวรรค์ นั้นเป็นสิ่งที่
ยังไม่เห็นในวันนี้ แต่สิ่งที่เห็นและ
เป็นอยู่คือความสุขและความทุกข์
ทั้งหลาย ที่เราสัมผัสได้ในปัจจุบัน
ทำอย่างไรที่เราจะอยู่กับมันให้ได้
และต้องอยู่เหนือมัน ทำอย่างไร
ให้ใจของเรานั้น จะไม่สับสนและ
วุ่นวาย นั้นคือสิ่งที่เราต้องทำ
ในวันนี้ เป็นสิ่งที่เห็นและสัมผัสได้
ถ้าคุณคิดที่จะทำ...

...ลำนำคำกวีชี้บาปบุญ...
..."สวรรค์ อยู่ในอก
และนรก อยู่ในใจ "
เราทำ สิ่งใดไว้
รู้แก่ใจ ของเราเอง
...ดีชั่ว ตัวกำหนด
จะละลด ควรรีบเร่ง
ความชั่ว จงกลัวเกรง
อย่าอวดเบ่ง เพราะถือดี
...บาปกรรม อันน้อยนิด
จะตามติด ไปทุกที่
ส่งผล ทางไม่ดี
ให้เรามี ความทุกข์ใจ
...ความดี ควรรีบทำ
เพื่อจะนำ จิตสดใส
ความดี ที่ทำไป
ส่งผลให้ ได้เจริญ
...เมื่อใจ ไม่คิดชั่ว
และทำตัว น่าสรรเสริญ
พาใจ ให้เพลิดเพลิน
จิตเจริญ ในทางธรรม
...มองโลก ในแง่ดี
ก็จะมี ความสุขล้ำ
ความชั่ว ไม่ครอบงำ
ก็จะทำ แต่สิ่งดี
...สิ่งดี เริ่มที่จิต
อยู่ที่คิด ไม่ผิดที่
คิดดี และทำดี
เพียงเท่านี้ ดีก็มา
...ใจดี ก็มีสุข
เพราะว่าทุกข์ ไม่มาหา
ใจสุข ภาวนา
เกิดปัญญา เห็นความจริง
...ความจริง ของชีวิต
เห็นเมื่อจิต นั้นอยู่นิ่ง
มองเห็น สรรพสิ่ง
เห็นความจริง คือเห็นธรรม...

...ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต...
...รวี สัจจะ - สมณะไร้นาม...
...๑ มีนาคม ๒๕๖๕...
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7 8 9 10