:059:ศาสตร์ต่างๆในโลกนี้มีมากมายหลายศาสตร์หลายวิชาและมีแหล่งที่มาที่แตกต่างกัน
แต่ทุกศาสตร์นั้นล้วนแล้วมีครูผู้สืบทอดวิชา การที่เราจะเข้าศึกษาศาสตร์วิชาแต่ละสำนักนั้น
เราต้องมอบตัวเป็นศิษย์ต่อครูบาอาจารย์ การไหว้ครูหรือการครอบเศียรนั้นเป็นการแสดงตน
ว่ายอมตัวเป็นศิษย์และแสดงถึงความเคารพต่อครูบาอาจารย์ที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้แก่เรา
แต่การที่เราจะไปครอบเศียรในศาสตร์วิชาที่เราได้เคยครอบจากครูบาอาจารย์มาแล้วนั้น
เป็นการไม่เหมาะสมอย่างเช่นเราครอบเศียรครอบครูวิชาสักยันต์จากสำนักวัดบางพระแล้ว
ก็ไม่ควรที่จะไปครอบเศียรครอบครูวิชาสักยันต์จากสำนักอื่นอีกเพราะเคล็ดวิชาแต่ละสำนักนั้น
แตกต่างกัน ถ้าเราไปครอบเศียรครอบครูที่อื่นอีก ก็เหมือนเราไม่มั่นใจไม่ศรัทธาในครูบาอาจารย์ของเรา
ที่เคยได้ครอบครูครอบเศียรมาแล้ว แต่ถ้าเราไปครอบครูครอบเศียรในศาสตร์วิชาอื่นเป็นสิ่งที่ดี
เพราะจะเป็นการเพิ่มความรู้ในหลายศาสตร์หลายวิชาหลายแขนงและมีครูบาอาจารย์เพิ่มขึ้น
:059:ส่วนการไหว้ครูนั้นเราสามารถที่จะไปร่วมได้ทุกสำนัก เพราะเป็นการแสดงออกซึ่งความ
เคารพต่อผู้มีวิชาและความรู้ผู้เป็นครูทั้งหลาย และแสดงถึงความมีน้ำใจต่อผู้จัดงานไหว้ครูนั้น
การไหว้ครูและครอบเศียรนั้น มันแตกต่างกันที่เจตนา การไหว้ครูคือการแสดงถึงความเคารพ
ระลึกถึงพระคุณของครูบาอาจารย์ ไม่ลบหลู่ดูหมิ่นต่อครูบาอาจารย์ แต่การครอบครูครอบเศียรนั้น
เป็นการยอมตนยอมรับที่จะเป็นศิษย์ศึกษาศาสตร์วิชาของสำนักครูบาอาจารย์ท่านนั้นและการเป็นศิษย์
ที่ดีนั้น ไม่ควรจะนอกครู ไม่ลบหลู่ต่อครูบาอาจารย์ มีความศรัทธาเคารพยึดมั่นในครูบาอาจารย์
สืบสานวิชารักษาไว้ซึ่งศาสตร์วิชาที่ครูบาอาจารย์ท่านได้สั่งสอนมา
:059:ในศาสตร์วิชาเดียวกันนั้น ถ้าเราเรียนมาหลายสำนัก มันจะทำให้ไม่มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน
ว่าวิชานี้ศาสตร์นี้เป็นของสำนักครูบาอาจารย์ท่านใด มันจะทำให้ความมั่นใจศรัทธาของเราไม่มั่นคง
เพราะหลักวิชาเคล็ดวิชาและคาถาของแต่ละสำนักนั้นอาจจะแตกต่างกันไม่เหมือนกัน
