ผู้เขียน หัวข้อ: คาถาหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ 28 บท  (อ่าน 44011 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
คาถาหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ 28 บท
« เมื่อ: 10 เม.ย. 2554, 10:27:26 »
คาถาหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ

1 พระพุทธคาถา
2 คาถาพระปัจเจกพระพุทธเจ้า
3 คาถาอภิญญารวม
4 คาถารวมจิต
5 คาถาปราโมทย์
6 คาถาพระนิพพานนิมิต
7 คาถาขีณาสวานิตยา และนิพพานสุขัง
8 คาถาเรียกจิตคน
9 คาถาสนองกลับผู้กระทำไสยศาสตร์
10 คาถาป้องกันคุณไสย และกันยาพิษ ยาสั่ง
11 คาถากำบังตัว
12 คาถากันฟ้าผ่า
13 คาถาสมเด็จพระพุทธกัสสป
14 คาถาพระอินทร์
15 คาถาพระยายม
16 พุทธคาถา
17 คาถาเมตตา
18 คาถาสมเด็จประทาน
19 คาถาพระโมคคัลลานะ ประทาน
20 คาถาท่านท้าวเวสสุวัณ
21 คาถาป้องกันอันตราย
22 คาถานวด
23 เสกของขายภายในร้าน
24 คาถาให้สารภาพ
25 คาถาท่านท้าวมหาราชทั้ง 4
26 คาถาสมเด็จพระพุทธกัสสป
27 คาถาโรยทราย (นะจังงัง)
28 คาถาเสกขี้ผึ้งสีปาก เมตตามหานิยม

http://th.wikisource.org/wiki/%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A4%E0%B9%85%E0%B8%A9%E0%B8%B5%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B3#.E0.B8.84.E0.B8.B2.E0.B8.96.E0.B8.B2.E0.B8.9E.E0.B8.A3.E0.B8.B0.E0.B8.9B.E0.B8.B1.E0.B8.88.E0.B9.80.E0.B8.88.E0.B8.81.E0.B8.9E.E0.B8.A3.E0.B8.B0.E0.B8.9E.E0.B8.B8.E0.B8.97.E0.B8.98.E0.B9.80.E0.B8.88.E0.B9.89.E0.B8.B2
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว....ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา...สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา...กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คาถาหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ 28 บท
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 10 เม.ย. 2554, 10:34:05 »
พระพุทธคาถา

สัมมาสัมพุทธัสสะ พระอะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ
สวดทุกคืน คืนละ 7 จบ
อานุภาพคาถามีดังนี้
ศัตรูจะพินาศไปเองเมื่อคิดประทุษร้าย
จะเกิดผลในด้านมงคลทุกประการตามที่ปรารถนา
จะสามารถเห็นได้แจ่มแจ้งด้วยญาณ เห็นได้ชัดเจนทุกประการ และทุกขณะที่ประสงค์จะเห็น
เป่าให้ศิษย์ผู้เรียนทิพยจักขุญาณ และเรียนไปปรโลกได้ มีญาณเครื่องเห็นแจ่มใส


คาถาพระปัจเจกพระพุทธเจ้า

ตั้งนะโมฯ 3 จบก่อนแล้ว นมัสการสรณคมณ์ (พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆังสรณัง คัจฉามิ) แล้วให้สมาทานศีล 5 (ปาณา ฯลฯ สุราเมระยะฯ )แล้วจึงท่อง พุทธะ มะ อะ อุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม
สวดเช้าเย็น ครั้งละ 9 จบ จะทำให้มีความคล่องตัวในความเป็นอยู่ เงินไม่ขาดมือ.


คาถาอภิญญารวม

โสตัตตะภิญญา

คาถารวมจิต

อิติ สัมมาสัมพุทธัสสะ มะมะ จิตตัง

คาถาปราโมทย์

ปราโมทย์

คาถาพระนิพพานนิมิต

นิมิตจิตติ นิมิตจิตตา นิพพานจิตติ นิพพานจิตตา

คาถาขีณาสวานิตยา และนิพพานสุขัง

ขีณาสวานิตยา และนิพพานสุขัง

คาถาเรียกจิตคน

จิตตะ มหาจิตตัง ปิยัง มะมะ (เรียกจิตคนสำหรับเทศน์ อบรม สนทนา ทำให้ใจคนน้อมมาหา)

คาถาสนองกลับผู้กระทำไสยศาสตร์

สัมปจิตฉามิ

คาถาป้องกันคุณไสย และกันยาพิษ ยาสั่ง

เมสัมมุขา สัพพาหะระติ เตสัมมุขา

คาถากำบังตัว

สัมปะติจฉามิ

คาถากันฟ้าผ่า

อากาเสจะ พุทธทิปังกะโร นะโมพุทธามะ

คาถาสมเด็จพระพุทธกัสสป

๑ พุทธัง มัดจิต ธัมมัง มัดใจ ศัตรูทั้งหลาย วินาศสันติ
๒ พุทธัง มัดจิต ธัมมัง มัดใจ โรคภัยทั้งหลาย วินาศสันติ
๓ ฆะเตสิ ฆะเตสิ กิงกะระณัง ฆะเตสิ อะหังปิตัง ชานามิ ชานามิ

หลวงพ่อบอกคาถาบทนี้ เมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๒๐ คาถาบทนี้ ท้าวเวสสุวัณให้มา ท่านบอกว่าให้สวดมนต์ไว้ทุกคืน ก่อนอื่นให้ระลักถึงบารมีของพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ อันมีสมเด็จพระพุทธกัสสปทรงเป็นประธาน เพราะท่านเป็นเจ้าของถาถานี้
พุทธัง มัดจิต ธัมมัง มัดใจ ศัตรูทั้งหลาย วินาศสันติ
พุทธัง มัดจิต ธัมมัง มัดใจ โรคภัยทั้งหลาย วินาศสันติ
ในบรรทัดที่ ๒ นี้รักษาโรค ท่านบอกว่าเสกน้ำให้กิน เสกอะไรให้กิน เสกข้าวให้กินก็ได้นะ แม้แต่ยาพิษมันก็สลายตัว อีกบทหนึ่งเป็นของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน
ฆะเตสิ ฆะเตสิ กิงกะระณัง ฆะเตสิ อะหังปิตัง ชานามิ ชานา
ทั้งสามบทนี้ท่านให้สวดพร้อมกันเลย เวลาฉันข้าวก็เสก กลางคืนก็ให้ภาวนาไว้นะ ภาวนาไว้สักครู่ เช้าเย็นอะไรนี่นะ ท่านบอกว่าศัตรูจะพินาศไปเอง สำหรับบทหลังศัตรูทำอะไรไม่ได้ จะทำอะไรแล้วเราจะต้องรู้อยู่เสมอ บทกลางนะทำลายโรค ได้ทำลายโรคนี่ดีใช่ไหม เสกข้าวนะ ข้างที่เราจะฉัน เสกซะหมด และคนอื่นกินก็เป็นยาไปหมด ให้เป็นยาสำรับคนอื่นด้วยนะ ดีไหม ถ้าเห็นว่าดี ถ้าคุณจะให้รักษานี่นะ ถ้าจะใช้รักษาโรค คุณจะต้องหาดอกบัวมา ๓ ดอด ธูป ๕ ดอก เทียน ๑ เล่ม บูชาขอต่อพระพุทธรูป (ผมเข้าใจว่า ถ้าไม่นำสิ่งที่ให้นำมาผลกรรม โรค นั้นจะตกที่คนรักษา)
ถ้าใครต้องการจะให้เรารักษา ต้องบังคับให้เขาเอาดอกบัวมา ๓ ดอกนะ ธูป ๕ เทียน ๑ เสกน้ำมนต์ เสกอะไร อะไรให้กินได้ นั่งทำก็ได้ นอนก็ได้ ภาวนาให้เป็นฌานเป็นฌานในกรรมฐานภายในตัวเสร็จ อย่าลืมนะ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เกาก็ได้ผลเท่ากันเป็นฌาน


คาถาพระอินทร์

สหัสสเนตโต เทวินโท ทิพจักขุง วิโสทายิ
(ใช้กับการเรียน ให้อ่านหนังสือแล้วจำได้ ทำข้อสอบได้)

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คาถาหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ 28 บท
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 10 เม.ย. 2554, 10:37:18 »
คาถาพระยายม

นะโมพุทธายะ

พุทธคาถา

มหาวิชโย โหหิ อสังวาโส
(ภาวนากันอันตรายทุกอย่าง ผู้คิดร้าย จะย่อยยับไปเอง เป็นมหามงคลทุกอย่าง)

คาถาเมตตา

พระอรหัง สุคโต ภควา นะเมตตาจิต
(คาถาบทนี้ หลวงพ่อบอกว่าให้ใช้เวลาไปติดต่อผู้อื่น เพื่อขอความช่วยเหลือ โดยก่อนจะออกจากบ้าน ให้นึกใบหน้าของผู้ที่เราจะไปหาก่อน แล้วภาวนาคาถาบทนี้ไปด้วย เมื่อไปพบแล้วจะสำเร็จผลตามที่ต้องการ
คาถาบทนี้หลวงพ่อท่านบอกว่าเป็นคาถาของ หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง ภูเก็ต)
[แก้ไข]คาถาสมเด็จประทาน

มหาโคตมะ ปาทะเกหิ จะ อปาทะเกหิ เม เมตตัง เมตตัง
(เสกของต่างๆ ให้มนุษย์ จะได้มีจิตเมตตาต่อกัน เสกอะไรก็ได้)

คาถาพระโมคคัลลานะ ประทาน

1.อิติ สุกขติ สุกขโต
(ทำน้ำมนต์ให้คนอยู่ในบ้าน จะได้รับความเมตตาเป็นพิเศษ)
2.อิติ สุคติ สุคโต
(ทำน้ำมนต์ให้คนเดินทาง จะประสบผลสมประสงค์และปลอดภัยทุกประการ)

คาถาท่านท้าวเวสสุวัณ

พยัคฆา พยัคฆัง มานี่ให้หมด
(เป็นคาถาภาวนาให้คนมารวมกัน อธิษฐานเอาตามใจ ภาวนาเรียกเสกแป้ง สีผึ้งก็ได้)

คาถาป้องกันอันตราย

รูปพระพุธโธ โหหิ
(ภาวนาคาถานี้ เสกน้ำลายกลืนลงไปก่อนออกจากบ้าน ท่านกล่าวว่า แม้ปืนก็ยิงไม่ออก)

คาถานวด

อิมัสมิงมาเล อิมังเต มาสัง วัสสัง อุเปมิ
(นึกถึงพระรัตนตรัยก่อนว่าคาถา แล้วให้ภาวนาเรื่อยไปขณะนวด)

เสกของขายภายในร้าน

นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง อุมิอะมิ มหิสุตัง สุนะพุทธัง สุอะนะอะ

คาถาให้สารภาพ

กัณหัง อเสนโต อเทสยิ
(บอกความจริงให้หมด)

คาถาท่านท้าวมหาราชทั้ง 4

อิติ สัมมาสัมพุทธัสสะ พระอรหังรักษา
(ท่านบอกว่าท่องคาถาบทนี้แล้ว ไม่ต้องกลัวอันตราย)

คาถาสมเด็จพระพุทธกัสสป

จิเจตะสา มหามันตัง
(สอนให้ทำน้ำมนต์ ใช้การทุกอย่างสวัสดี เป็นมหาเมตตา และทำลายโชคร้ายทั้งหมด ให้กลายเป็นดี รักษาโรคทั้งหมด ตามแต่จะอธิษฐาน)

คาถาโรยทราย (นะจังงัง)

นะโม พุทธายะ (ว่า 1 จบ)
อิติ ศัตรู ยามาคะตา(โรยไปว่าไป)
(ป้องกันศัตรู)

คาถาเสกขี้ผึ้งสีปาก เมตตามหานิยม

(คาถาพระพุทธกัสสป)
นาสังสิโม ปาสุอุชา10รอบ

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คาถาหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ 28 บท
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 10 เม.ย. 2554, 10:54:06 »
เพิ่มเติมจากเวป
http://www.palungjit.com/smati/books/index.php?cat=288


                         คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า

         คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้านี้ หลวงพ่อปานได้เรียนมาจากครูผึ้ง อายุ ๙๙ ปี เป็นคาถา
ให้คุณทางลาภผล และเป็นฌานสมาบัติ มีคุณเป็นทิพยจักษุญาณด้วย และยกฐานะของผู้ปฏิบัติ
ไม่ให้ขัดสนยากจนด้วย ศิษย์ของหลวงพ่อปานได้ฝึกคาถานี้ มีฐานะมั่นคงหลายสิบอย่าง ที่รู้จัก
กันมากก็คือ นายประยงค์ ตั้งตรงจิต เจ้าของห้างขายยาตราใบโพธิ์ ท่าเตียน จังหวัด
พระนคร เคยสนทนากับนายประยงค์ ท่านนายห้างบอกถึงวิธีปฏิบัติเกิดผลมหาศาล ท่านเล่า
ให้ฟังดังต่อไปนี้

ปฏิปทาของนายประยงค์
         ๑. ทุกเช้าเย็น ท่านสวดมนต์และว่าคาถานี้ต่อหน้าพระพุทธรูปคราวละ ๙ จบทุก
เช้าเย็น
         ๒. เมื่อสวดคาถานี้แล้ว ท่านนั่งภาวนาคาถานี้จนสบายใจทุกวัน คือตั้งเวลาไว้
ประมาณครึ่งชั่วโมง ทำจนจิตเป็นสมาธิ พอสบายใจแล้วก็ไปทำงานตอนเช้า หรือพักผ่อน
ในตอนค่ำ
         ๓. ใส่บาตรทุกเช้า ก่อนใส่บาตรท่านว่าคาถานี้ ๙ จบ ก่อนใส่บาตร ถ้าวันใดไม่มี
พระมาบิณฑบาต ท่านใช้เก็บเงินไว้แทนการใส่บาตร ตามแบบที่หลวงพ่อปานสอน ท่านให้
เก็บข้าวสารหรือเงินก็ได้เอาไว้แทนการใส่บาตร ก่อนเก็บว่าคาถานี้ ๙ จบ เหมือนก่อนใส่
บาตรวันต่อไปให้เอาไปถวายพระเป็นค่าภัตตาหาร
         ๔. ก่อนเอาเงินเก็บตอนเย็น หรือก่อนเอาเงินออกใช้ตอนเช้า ท่านว่าคาถานี้ ๙ จบ
คือขณะที่เก็บเงินนั้น ให้จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยแล้วว่าคาถา ๙ จบ จึงเอาเงินเก็บในที่
เก็บตอนเช้าก่อนเอาเงินออกใช้ เมื่อจับเงินแล้ว ยังไม่นำออก ว่าคาถานี้ ๙ จบ แล้วนำเงิน
ออก
         ท่านบอกว่า ท่านทำอย่างนี้เป็นปกติ จนกลายเป็นคนมีเงินมีทองมากมาย ทำบุญด้วย
จำนวนเงินหลายสิบล้าน หายากนักที่จะมีผู้ศรัทธาเสมอท่าน คาถานี้ว่าดังนี้
         พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ (บทนี้ว่าเที่ยวเดียว)
         วิระธะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ
        มานี มามะ พุทธัสสะ สวาโหม ฯ
                            (คาถานี้มีเพียงเท่านี้)

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คาถาหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ 28 บท
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 10 เม.ย. 2554, 10:55:08 »
เมฆจิต ของท่านอาจารย์เกษม

         เมฆจิต หรือ ทิพยจักษุญาณของท่านอาจารย์เกษมนี้ เป็นแบบปฏิบัติที่ให้ผลง่าย ๆ
มีมากรายที่ฝึกตามแบบนี้แล้วได้รับผลเบื้องต้นภายใน ๗ วัน บ้าง ๑๕ วันบ้าง แต่ที่ไม่ได้เรื่อง
ก็ไม่น้อยเหมือนกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่แก่ความฉลาดและความกล้าของแต่ละบุคคล ที่ท่านทำได้ง่าย ๆ
นั้น ท่านเหล่านั้นเล่าให้ฟังว่า ท่านทำดังนี้
         ท่านเริ่มทำสมาธิด้วยการกำหนดนิมิตอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น รูปพระพุทธเป็นต้น แล้ว
ภาวนาคาถาบริกรรมไปด้วย กำหนดรูปด้วย วันหนึ่ง หรือคราวหนึ่ง ท่านไม่เอามาก ใช้เวลา
คราวละ ๕ นาที บังคับว่าคาถาให้ครบถ้วน พร้อมด้วยกำหนดให้เห็นรูปไปด้วย ถ้าจิตพลาด
นิดหนึ่งท่านตั้งต้นเวลาใหม่ ท่านทำอย่างนี้เพื่อบังคับอารมณ์ตนเอง เพื่อไม่ให้จิตส่ายไปใน
อารมณ์ภายนอกแล้วทดลองความรู้จากอารมณ์ คือ กำหนดรู้ทางใจ โดยกำหนดรู้เรื่องราว
ต่าง ๆ ตามที่จะหาได้ เช่น เห็นรถแล่นมาแต่ไกลก็กำหนดจิตเพื่อรู้ว่า คนในรถมีกี่คน เป็น
ชายเท่าไร หญิงเท่าไร แล้วเชื่ออารมณ์ที่รู้อารมณ์แรกโดยจิตคิดว่า มีคนกี่คน หญิงกี่คน
ชายกี่คน ก็เชื่อตามอารมณ์แรก ความรู้นั้นจะถูกต้องตามความเป็นจริงเสมอเป็นวิชชาฝึก
ทิพยจักษุญาณระยะต้นดีมาก คาถาภาวนาว่าดังต่อไปนี้

                                คาถาเมฆจิต

                    พุทธัง เมฆะนิมิตต์ จิตตัง มะอะอุ
                  ธัมมัง เมฆะนิมิตต์ จิตตัง อุอะมะ
                  สังฆัง เมฆะนิมิตต์ จิตตัง อะมะอุ
                         (คาถาของท่านมีเท่านี้)
         
                     ฝึกทิพยจักษุญาณแบบโบราณ

         ท่านวางแบบของท่านไว้ว่า ให้จัดธูป ๗ ดอก เทียนหนัก ๑ บาท ๗ เล่ม ดอกไม้
๗ กระทง ข้าวตอก ๗ กระทง บาตรใส่น้ำเต็ม ๑ ใบ ท่านให้ภาวนาด้วยคาถานี้ตามแต่
จะสบาย

                                    คาถาภาวนา

         นะมะพะทะ พุทโธ โลกทีปัง อาโลกกสิณัง วิโสธายิ
                   ธัมโม โลกทีปัง อาโลกกสิณัง วิโสธายิ
                   สังโฆ โลกทีปัง อาโลกกสิณัง วิโสธายิ
         เมื่อภาวนาจนจุใจแล้ว ท่านให้เอาน้ำมนต์ในบาตรนั้นอาบทุก ๆ วัน ตามตำราท่านว่า
ทำอย่างนี้ ๗ วัน ของท่านได้ทิพยจักษุญาณ จงรักษาสมาธิให้ดี ดูของท่านแล้วก็อาโลกกสิณ
ดี ๆ นั่นเอง ถ้าว่าคาถาเป็นนกแก้วนกขุนทองไม่มีหวังแน่ ต้องตั้งอารมณ์ตามแบบกสิณ มี
หวังแน่ตามที่ท่านบอกไว้

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คาถาหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ 28 บท
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 10 เม.ย. 2554, 10:58:34 »
วิธีวางอารมณ์ใจในการท่องคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า

 
ถาม : อยากจะเล่าให้ฟังเรื่องคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า คือผมเริ่มท่องมาได้ประมาณเจ็ดแปดเดือนแล้ว แล้วตอนนี้รู้สึกว่าเงินในกระเป๋าไม่เคยขาดจะมีแต่เพิ่มขึ้น แต่รู้สึกว่ายังไม่ถึงขั้นที่ว่า....

ตอบ : ค่อยๆ ทำไป ถ้าหากว่าเราทำโดยที่กำลังใจของเราคิดว่าเราทำเพื่อบูชาคุึณครูบาอาจารย์ เรามีหน้าที่ทำเพื่อรักษามรดกล้ำค่าที่หลวงพ่อให้เราไว้ แล้วก็ท่องบ่นภาวนาของเราไปโดยที่ไม่ได้คิดอยากได้ใคร่ดีอะไรกับผลตอบแทนอันนั้น เรามีหน้าที่ท่อง ผลตอบแทนจะเป็นยังไงช่างมัน ถ้าอย่างนั้นจะมาเยอะมาเร็วด้วย แต่ถ้าหากว่าเราท่องแล้วใจมันคิดอยากได้ตัวอยากมันจะตัดไปเยอะ อันนี้กล้ายืนยันเพราะอาตมาทำเอง แล้วก็ทำมาตลอด

ถาม : หลวงพ่อท่านบอกว่าหลวงปู่ปานท่านให้ทั้งมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติและนิพพานสมบัติ และท่านก็บอกว่าด้วยพระคาถานี้คนไปนิพพานกันเยอะแล้ว ก็เลยท่องมาเรื่อย

ตอบ : คือคาถานี้อย่างน้อยๆ เราก็ต้องคิดว่าเป็นหลวงปู่หลวงพ่อให้ เจ้าของคาถาก็คือพระปัจเจกพุทธเจ้า และถ้าเป็นคาถาในส่วนที่เป็นคาถาเงินล้านหลายบทที่พระัพุทธเจ้าท่านให้มา ถ้าใจของเราเกาะหลวงพ่อ ใจเกาะพระปัจเจกพุทธเจ้า ใจเกาะพระพุทธเจ้า คิดว่าท่านเองทรงความดีถึงขนาดนั้นเป็นผู้ให้คาถาเรามา ถ้าเราตายเราขอไปอยู่กับท่านอย่างนั้นโอกาสไปนิพพานก็สูง มันอยู่ที่ทำได้หรือทำเป็น ถ้าหากว่าทำเป็นนี่ประโยชน์เยอะ

ถาม : ถ้าเราท่องตามอย่างนี้ ....(ไม่ชัด)....

ตอบ : ไม่หรอกคือให้เราตั้งใจสิ เพราะส่วนใหญ่เหล่านั้นก็มักจะเป็นภาษิตหรือว่าการสั่งสอนซึ่งถือว่าเป็นธรรมอย่างหนึ่ง ถ้าเราท่องตามด้วยความเคารพในธรรมไม่มีปัญหาอะไร อย่างท่านบอกว่า อภิวา ทะนะสีลิสะนิจจัง บุคคลผู้ที่มีปกตินอบน้อมต่อผู้ทรงศีล วุฑฒาปะจายิโน จัตตาโรธัมมาวัตทันติ ย่อมเป็นปัจจัยให้ธรรมะทั้งสี่ประการเจริญขึ้น อายุวรรณโน สุขังพลังก็คืออายุ วรรณะ ความสุขและกำลัง คำสอนแท้ๆ เลยเพียงแต่เราแปลออกมั้ย ? อันนั้นก็ถือว่าคำสอนนี้เป็นธรรมะ ในเมื่อเป็นธรรมะเราตั้งใจว่าด้วยความเคารพในธรรมก็เป็นธัมมานุสสติ ยิ่งเราท่องได้ด้วยถ้าถึงเวลานึกออกหมดทุกบทยิ่งดีใหญ่เลย ถ้าหากว่าพระสวดเสียงเบาก็ช่วยสวดด้วย (หัวเราะ)

ถาม : แล้วถ้าก็อย่างหลวงพ่อเวลาท่านสวดบทปุริมัญจะ ทิสังราชาเราท่องตาม

ตอบ : ลักษณะเดียวกัน คือว่าเราตั้งใจน้อมอัญเชิญท้าวมหาราชด้วยความเคารพ ตั้งใจคิดว่าสิ่งใดที่ท่านเมตตาสงเคราะห์มาเราขอน้อมรับทั้งหมด แล้วจะเอาอะไรก็อธิษฐานว่าไป ได้เปรียบเขาเยอะเลย มันได้เปรียบตรงที่ว่าจิตเราเกาะหลวงพ่อ ท่องเมื่อไหร่นึกได้ทันทีและจำได้ด้วยว่าท่องยังไงแล้ว่าตามได้อนุสสติมันดีกว่าเขาเยอะ แต่อย่าลืมตรงจุดที่ด้วยความเคารพนะ




สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เดือนพฤศจิกายน ๒๕๔๔
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

ลอกจาก
http://board.palungjit.com/f61/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2-137160.html

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คาถาหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ 28 บท
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 11 เม.ย. 2554, 12:05:43 »
บวงสรวง
 
    
โดย คุณแม่ เกษร สุทธจิต จันทร์ประภาพ
 
    
ถาม : การบวงสรวงคืออะไร เป็นพิธีการของศาสนาพราหมณ์ใช่หรือไม่?

ตอบ : การบวงสรวงคือ พิธีการทางพุทธศาสนา ที่ท่านโบราณคณาจารย์ได้กระทำ เพื่อเป็นการยอมรับนับถือท่านผู้มีพระคุณยิ่งใหญ่ในชีวิต มีพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอริยสงฆ์สาวก เทพไท้เทวา คุณบิดามารดา อาจารย์ทุกๆพระองค์ ทุกๆชาติ รวมทั้งพระภูมิเจ้าที่ ท่านท้าวจาตุรมหาราชทั้ง ๔ ท่านพระยายมราช เคารพท่านผู้เป็นใหญ่ในทั้ง ๓ โลก ชื่อว่าบวงสรวง คนส่วนมากเข้าใจผิดคิดว่าเป็นพิธีการของพราหมณ์ บวงสรวงเป็นภาษาพราหมณ์สมัยพุทธกาลก็เป็นภาษาบาลี ส่วนภาษาไทยแปลว่ายอมรับนับถือท่านผู้มีพระคุณ คือพระรัตนตรัย พรหม เทวา ผู้เป็นใหญ่ดูแลโลก ดูแลคุ้มครองผู้ที่มีบุญบารมี ไม่ให้ได้รับอันตรายจากอุบัติเหตุ จากผู้ร้าย จากภัยธรรมชาติ เป็นพิธีการบูชาพระคุณความดีของท่านที่มีคุณงามความดีต่อสรรพสัตว์ทั้ง ๓ โลก
จุดประสงค์ของการบวงสรวงมีมากมายหลายข้อ แล้วแต่จุดประสงค์ของแต่ละท่านที่จะบวงสรวงเพื่ออะไร ก็ตั้งจิตอธิษฐาน อัญเชิญท่านผู้เป็นใหญ่ ท่านผู้มีพระคุณ ถ้าศาสนาพราหมณ์ก็บูชา พระพรหม เทวาอารักษ์ ถ้าเป็นชาวพุทธก็อัญเชิญท่านผู้เป็นใหญ่สูงสุด คือองค์พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เจ้า พระอริยสาวกทุกๆพระองค์เบื้องบนพระนิพพาน คุณบิดามารดาทุกๆชาติ เทพเจ้าพระพรหมเทวดาที่ดูแลคุ้มครองป้องกันทั้ง ๓ โลก เมื่อพระองค์ท่านเสด็จมาแล้วตามที่เราตั้งใจอัญเชิญด้วยความเคารพนับถือด้วยใจจริง ขอให้ท่านช่วยเหลืองานใหญ่ๆ ที่เราจะทำ เช่นสร้างวัด สร้างบ้าน สร้างตึก เป็นต้น ก็ทำให้ ผีวิญญาณ คนสัตว์ ได้เห็นพระท่านมา ได้โมทนา ยินดี เมื่อได้เห็นแสงสว่างจากท่านผู้บริสุทธิ์ มีปัญญาบารมี มีความสุขสดชื่น โลกก็ไม่วุ่นวายเดือดร้อนจนเกินไป สรรพสัตว์ จะอยู่ร่วมกันอย่างร่มเย็น

ถาม : คุณประโยชน์ของการบวงสรวงมีอะไรบ้าง?

ตอบ : คุณประโยชน์ของการบวงสรวงมีมากมาย หลายข้อ สรุปเป็นข้อใหญ่ๆได้ดังนี้
1. เป็นการปฏิบัติบูชา ด้วย กาย วาจาใจ เป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน เป็นการบูชาแบบพิธีการเทิดพระเกียรติของท่านผู้มีพระคุณยิ่งใหญ่ ไพศาล คือองค์พระบรมโลกนาถศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระโพธิสัตว์เจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์สาวกทุกๆพระองค์ คุณพ่อ คุณแม่ทุกๆชาติ คุณครูอาจารย์ทุกๆชาติ เทพเทวาอารักษ์ผู้รักษาโลกนี้ทุกๆพระองค์
2. เป็นการมอบกายถวายชีวิต เป็นลูกศิษย์ขององค์พระตถาคตเจ้าอย่างเป็นพิธีการ
3. เพื่อสงเคราะห์สรรพสัตว์ทุกดวงจิตในโลกมนุษย์ ตั้งแต่ เปรต ผี วิญญาณพเนจร คน ให้พ้นทุกข์ พ้นอันตราย และให้โลกอยู่ร่มเย็นเป็นสุข จากอานิสงส์ผลบุญของการบวงสรวงที่สรรพสัตว์ได้โมทนากับกุศลผลบุญ
4. สรรพสัตว์ทั้งหมดทุกดวงจิตวิญญาณ ทั้งผีและคนได้เห็นพระฉัพพรรณรังสี รัศมี ๖ ประการขององค์สมเด็จพระทรงสวัสดิ์โสภาคย์ที่ได้โปรดเมตตาทรงเสด็จมาเป็นองค์พระประธานของการบวงสรวง ก็มีจิตปีติ ยินดี สดชื่น เบิกบาน มีความสุข พ้นจากทุกข์บาปกรรม
5. เป็นการสะเดาะเคราะห์ของโลกมนุษย์ซึ่งมีแต่ความเดือดร้อนวุ่นวาย จากภัยสงคราม ภัยธรรมชาติ โรคภัยไข้เจ็บ อุบัติเหตุต่าง ๆ ภัยเศรษฐกิจ ฯลฯ เนื่องจากบาปกรรมของ คน สัตว์ รวมทั้งภูต ผีวิญญาณมากมายหลายล้านที่คนมองไม่เห็น ผี คือจิตวิญญาณของคนที่ตายแล้ว แต่ไม่ไปไหนยังคงเวียนวนอยู่ในโลก เพราะความลุ่มหลงในร่างกายตนเอง ร่างกายคนรัก ทรัพย์สมบัติของตน จึงไม่พ้นจากการเป็นผี
6. เป็นงานพุทธาภิเษก ด้วยการขอพระบารมี พระผู้มีพระภาคเจ้าได้เมตตาให้วัตถุมงคล ทุกชนิดมีพลังพระพุทธานุภาพ พระธรรมานุภาพ พระสังฆานุภาพ เพื่อปกปักรักษา ป้องกันอันตราย และช่วยให้ผู้ได้วัตถุมงคลไปบูชา มีจิตก้าวหน้า เข้าถึงพระธรรม ได้รวดเร็ว

ขั้นตอนพิธี


1. ควรทำปีละครั้ง นิยมทำตอนเช้า ไหว้พระกล่าวอัญเชิญพระผู้มีพระภาคเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระโพธิสัตว์เจ้าทุกๆพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า คุณบิดามารดา คุณครูอาจารย์ เทพพรหมผู้เป็นใหญ่ดูแลโลก รวมทั้งท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ พระภูมิเจ้าที่ แม่พระธรณี แม่พระคงคา แม่พระโภสพ รุกขเทวดา ทั่วชั้นฟ้า ชั้นดินทุกๆพระองค์ ขออันเชิญมาทั้งหมด
2. กล่าวคำบูชาพระรัตนตรัย
3. กล่าวขอขมาต่อพระรัตนตรัย
4. ตั้งจิตอธิษฐานปฏิญาณตนเป็นพุทธมามะกะ
5. กล่าวขอพรในสิ่งที่ปรารถนา แล้วแต่ท่านตั้งใจจะทำอะไร ถวายสังฆทาน ทำบุญวิหารทาน ธรรมทาน
6. ทำสมาธิ ๕ นาที
7. ถวายสังฆทาน ทำบุญ
8. แผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลขอฝากไปกับพระฉัพพรรณรังสีรัศมี ๖ ประการขององค์สมเด็จพระพิชิตมารบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าไปยัง นรกโลก มนุษย์โลก เทวโลก พรหมโลก ขอให้สรรพสัตว์ ทุกดวงจิตหลุดพ้นจากภัยอันตราย มีความสุขสดชื่น และหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดโดยสิ้นเชิง

http://www.sangthipnipparn.com/muad%20sarateekuanroo/buang%20suang.html

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คาถาหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ 28 บท
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 11 เม.ย. 2554, 12:08:12 »
บทบวงสรวงท่านท้าวมหาราชทั้ง 4

ปุริมัญจะ ทิสัง ราชา ท้าวธตรฐ ผู้อยู่ด้านทิศบูรพา
ธะตะรัฏโฐ ปะสาสติ ปกครองอยู่ซึ่งทิศนั้น
คันธัพพานัง อาธิปะติ เป็นอธิบดีของพวกคนธรรพ์
มหาราชา ยะสัสสิ โส เธอเป็นมหาราชา มียศ
ปุตตาปิ ตัสสะ พะหะโว แม้บุตรทั้งหลายของเธอเป็นอันมาก
อินทะนามา มหัพพะลา มีนามว่าอินทร์ มีกำลังมาก
อิทธิมันโต ชุติมันโต มีฤทธิ์ มีอานุภาพ
วัณณะวันโต ยะสัสสิโน มีรัศมี มียศ
โมทะมานา อัฏฐังสุ ยินดีมุ่งมา...ประทับอยู่

ทักขินัญจะ ทิสัง ราชา ท้าววิรุฬหก ผู้อยู่ด้านทิศทักษิณ
วิรุฬโห ตัปปะสาสะติ ปกครองอยู่ซึ่งทิศนั้น
กุมภัณฑานัง อาธิปะติ เป็นอธิบดีของพวกกุมภัณฑ์
มหาราชา ยะสัสสิ โส เธอเป็นมหาราชา มียศ
ปุตตาปิ ตัสสะ พะหะโว แม้บุตรทั้งหลายของเธอเป็นอันมาก
อินทะนามา มหัพพะลา มีนามว่าอินทร์ มีกำลังมาก
อิทธิมันโต ชุติมันโต มีฤทธิ์ มีอานุภาพ
วัณณะวันโต ยะสัสสิโน มีรัศมี มียศ
โมทะมานา อัฏฐังสุ ยินดีมุ่งมา...ประทับอยู่

ปัจฉิมัญจะ ทิสัง ราชา ท้าววิรูปักษ์ ผู้อยู่ด้านทิศปัจฉิม
วิรูปักโข ปะสาสะติ ปกครองอยู่ซึ่งทิศนั้น
นาคานัง อาธิปะติ เป็นอธิบดีของพวกคนนาค
มหาราชา ยะสัสสิ โส เธอเป็นมหาราชา มียศ
ปุตตาปิ ตัสสะ พะหะโว แม้บุตรทั้งหลายของเธอเป็นอันมาก
อินทะนามา มหัพพะลา มีนามว่าอินทร์ มีกำลังมาก
อิทธิมันโต ชุติมันโต มีฤทธิ์ มีอานุภาพ
วัณณะวันโต ยะสัสสิโน มีรัศมี มียศ
โมทะมานา อัฏฐังสุ ยินดีมุ่งมา...ประทับอยู่


อุตตะรัญจะ ทิสัง ราชา ท้าวกุเวร ผู้อยู่ด้านทิศอุดร
กุเวโร ตัปปะสาสะติ ปกครองอยู่ซึ่งทิศนั้น
ยักขานัง อาธิปะติ เป็นอธิบดีของพวกคนยักษ์
มหาราชา ยะสัสสิ โส เธอเป็นมหาราชา มียศ
ปุตตาปิ ตัสสะ พะหะโว แม้บุตรทั้งหลายของเธอเป็นอันมาก
อินทะนามา มหัพพะลา มีนามว่าอินทร์ มีกำลังมาก
อิทธิมันโต ชุติมันโต มีฤทธิ์ มีอานุภาพ
วัณณะวันโต ยะสัสสิโน มีรัศมี มียศ
โมทะมานา อัฏฐังสุ ยินดีมุ่งมา...ประทับอยู่

ปุริมะทิสัง ธะตะรัฏโฐ ท้าวธตรฐเป็นใหญ่ทิศบูรพา
ทักขิเณนะ วิรุฬหะโก ท้าววิรุฬหกเป็นใหญ่ทิศทักษิณ
ปัจฉิเมนะ วิรูปักโข ท้าววิรูปักษ์เป็นใหญ่ทิศปัจฉิม
กุเวโร อุตตะรัง ทิสัง ท้าวกุเวรเป็นใหญ่ทิศอุดร
จัตตาโร เต มหาราชา มหาราชทั้ง ๔ นั้น
สะมันตา จตุโร ทิสา ยังทิศทั้ง ๔ โดยรอบ
ทัททัลละมานา อัฏฐังสุ ให้รุ่งเรืองประทับอยู่


บทชุมนุมเทวดา

สัคเค กาเม จะ รูเป ขอเชิญเหล่าเทพเจ้า ซึ่งสถิตอยู่ในสวรรค์
คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน ชั้นกามภพก็ดี รูปภพก็ดี และภุมเทวดา
ทีเป รัฏเฐ จะ คาเม ซึ่งสถิตอยู่ในวิมานยอดภูเขา และหุบผา
ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิเขตเต ในอากาศ ในเกาะ ในแว่นแคว้น ในบ้าน
ภุมมา จายันตุ เทวา ในต้นพฤกษา และ ป่าชัฎในบ้านเรือน และในไร่นาก็ดี
ชะละถะละวิสะเม ยักขะคันธัพพะนาคา และยักษ์ คนธรรพ์ นาค ซึ่งสถิตอยู่ในน้ำบนบก
ติฏฐันตา สันติเก ยัง มุนิวะระวะจะนัง และที่อื่นไม่เรียบราบก็ดีอันอยู่ที่ใกล้เคียง
สาธะโว เม สุณันตุ จงมาประชุมพร้อมกันในที่นี้คำใดเป็นของพระมุนี ท่านสาธุชนทั้งหลาย จงสดับคำของข้าพเจ้านั้น
ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา ดูก่อนท่านผู้เจริญทั้งหลาย กาลนี้เป็นกาลฟังธรรม
ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา ดูก่อนท่านผู้เจริญทั้งหลาย กาลนี้เป็นกาลฟังธรรม
ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา ดูก่อนท่านผู้เจริญทั้งหลาย กาลนี้เป็นกาลฟังธรรม
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11 เม.ย. 2554, 12:09:18 โดย ทรงกลด »

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คาถาหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ 28 บท
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: 11 เม.ย. 2554, 12:13:27 »
ชุมนุมเทวดา

ออฟไลน์ ออฟชัง

  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 29
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: คาถาหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ 28 บท
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: 28 เม.ย. 2554, 06:26:27 »
นะโม3จบก่อนคับ         นะปะภังกะโร   เวลาไปไหนมาให้ท่องเป็นประจำ     เป็นคาถาป้องอันตรายคับ : :001:

ออฟไลน์ an4condra

  • ทุติยะ
  • **
  • กระทู้: 18
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: คาถาหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ 28 บท
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: 31 ธ.ค. 2559, 02:28:25 »
ขอบคุณคร้าบบบ  :054: