ผู้เขียน หัวข้อ: ธรรมะหรรษา...............ทุกคนคือครู  (อ่าน 1932 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ธรรมะหรรษา...............ทุกคนคือครู
« เมื่อ: 15 มิ.ย. 2554, 03:55:14 »
ทุกคนคือครู

สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ติสโส อ้วน) วัดบรมนิวาส ได้กล่าวไว้ว่า " นักธรรมเห็นทุกสิ่งเป็นธรรม เหมือนหมอเห็นต้นไม้ทุกต้นเป็นยา "

ดังนั้น นักเรียนพึงเห็นทุกคนเป็นครู เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงทีเดียว คนทุกคนย่อมมีความรู้ ความคิดและประสบการณ์ของตนเอง แม้แต่คนที่เราเห็นว่าโง่ที่สุดก็อาจจะมีอะไรบางอย่างที่เขารู้ แต่เราไม่รู้ และควรเรียนรู้จากเขา

นานมาแล้ว ข้าพเจ้าไปประชุมที่กรุงเทพ ฯ และพักอยู่ที่โรงแรมเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง วันหนึ่งเวลาพลบค่ำ ข้าพเจ้าเดินออกจากโรงแรม และได้พบหญิงแก่คนหนึ่ง มือถือเทียนไข กำลังก้ม ๆ เงย ๆ ควานหาอะไรบางอย่างอยู่ในพงหญ้าข้างถนน ด้วยความสนใจข้าพเจ้าจึงตรงเข้าไปไต่ถามดู

" ยาย กำลังควานหาอะไรหรือ"
" กำลังหาเหรียญบาทที่ยายทำหลุดมือหล่นลงไปในพงหญ้านี้ ยายหามาตั้งชั่วโมงแล้ว หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ" หญิงชราตอบแสดงอาการอ่อนใจ

ด้วยความสงสารจับใจ ข้าพเจ้าจึงควักธนบัตรใบละ ๕๐ บาทออกมาจากกระเป๋า ยื่นให้หญิงแก่ พลางกล่าวว่า " เอาเงิน ๕๐ บาทนี้ไปก็แล้วกันนะยาย เหรียญบาทนั้นทิ้งมันไปเสียเถอะ " หญิงชราขอบใจข้าพเจ้าเป็นการใหญ่ ดับเทียนแล้วรีบเดินจากกไป

ตอนประมาณ ๓ ทุ่ม ข้าพเจ้าทำธุระเสร็จแล้วเดินกลับโรงแรมด้วยเส้นทางอีกสายหนึ่ง ข้าพเจ้าประหลาดใจที่ได้เห็นหญิงชราอีกคนหนึ่ง กำลังส่องไฟเทียนไขหาอะไรง่วนอยู่ในพงหญ้าข้างถนน ด้วยความสงสัย ข้าพเจ้าจึงเข้าไปดูใกล้ ๆ หญิงชราคนนั้นก็คือคนเดิมกับที่ข้าพเจ้าได้พบและให้เงิน ๕๐ บาทตอนหัวค่ำนั้นเอง

เมื่อความลับแตก หญิงชราก็เปิดเผยให้ข้าพเจ้าฟังว่า นั้นเป็นกลวิธีขอทานที่ได้ผลที่สุดวิธีหนึ่ง


สรุป จากเรื่องนี้ ท่านจะเห็นได้ว่า แม้แต่คนขอทานก็อาจเป็นครูของเราได้ อย่างน้อยที่สุดก็ในเรื่องศิลปะการขอทาน.


ที่มา
http://www.tamdee.net/sarakhun/data/read1630.html?No=580
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว....ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา...สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา...กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ธรรมะหรรษา...............ทุกคนคือครู
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 15 มิ.ย. 2554, 04:00:09 »
ศีลของยาย

มียายคนหนึ่งแกไปวัดรับศีลฟังเทศน์ทุกวัน

วันหนึ่งขากลับจากวัดมาเจอคนหาปลาแกก็ถามว่า “มาจากไหน”

คนหาปลาก็ตอบว่า “ มาจากหาปลา”

“แล้วเป็นไงวันนี้หาปลาได้ไหม”

“ก็พอได้ต้มได้แกง”

“แล้วยายวันนี้มาจากไหนละ”

“ไปวัดฟังเทศน์รับศีลมา”

คนหาปลาก็ถามยายว่า “ไหนละศีลของยาย”

ยายก็นึกขึ้นได้ว่า “เอหลวงพ่อบอกว่าให้ศีล ๆ แต่ไม่เคยได้สักที สงสัยหลวงพ่อโกหกละมั่ง เอาละวันนี้ยังไงถ้าไม่ได้ศีลจากหลวงพ่อเป็นไม่ยอมละ”
ว่าแล้วยายก็หันหลังกลับไปวัด พอดีไปเจอหลวงพ่อนั่งอยู่บนศาลา หลวงพ่อก็ถามขึ้นว่า “อ้าวโยมลืมอะไรหรือจึงกลับมาอีก”

“ไม่ได้ลืมอะไรหลอก แต่ว่าจะมาทวงเอาศีลจากหลวงพ่อ”

“อ้าวก็ให้ไปเมื่อเช้าแล้วไงโยม”

“ยังยังไม่ได้ให้สักที”

หลวงพ่อจะอธิบายอย่างไรโยมก็ไม่เข้าใจ จะเอาศีลให้ได้ “วันนี้ถ้าไม่ได้ศีลเป็นไม่ยอมละหลวงพ่อ” หลวงพ่อก็จนใจ เดินลงศาลาไปทางสระน้ำ พอดีไปเจอปูตัวหนึ่งก็จับกำมาไว้อย่างดี ขึ้นศาลาก็ถามหา

“ ไหนละเชี้ยนหมากของโยมเอามานี่จะใส่ศีลให้” โยมก็เอาเชี้ยนหมากให้หลวงพ่อ หลวงพ่อก็เอาปูแอบใส่ลงไปในเชี้ยนหมาก แล้วปิดฝาอย่างดี “อ้าวโยม หลวงพ่อให้ศีลแล้ว แต่ห้ามเปิดนะเดี๋ยวศีลมันจะออก”

ยายได้ศีลแล้วก็ดีใจรีบกราบลาหลวงพ่อกลับบ้าน เดินยิ้มไปตลอดทาง วันนี้ฉันโชคดีได้ศีลจากหลวงพ่อแล้ว แม้อุตส่าห์โง่มานาน ว่าแล้วยายก็เอาเชี้ยนหมาก มาแนบหู เสียงปูเดินดังแคว็ก ๆ ๆ อยู่ข้างใน ยายคิดว่า
“เออศีลนี่มันก็เดินเป็นนะ”

พอมาถึงบ้านหลานวิ่งมารับ ยายก็ตวาดทันที “มึงอย่าเปิดเชี้ยนหมากกูนะเดี๋ยวศีลกูจะออก” ยายวางเชี้ยนหมากแล้วเดินไปล้างเท้า ฝ่ายหลานก็สงสัยทุกวันยายไม่เคยห้าม ก็เลยหยิบเชี้ยนหมายขึ้นมาดู

“เอศีลอะไรของยายนะมันเดินดังแคว๊ก ๆ ๆ อยู่ข้างใน” ด้วยความสงสัยก็เลยเปิดเชี้ยนหมากเอามือแย่เข้าไปดู ปูมันก็หนีบมือเอา หลานก็ร้อนลั่น ยายตกใจก็วิ่งมาดู ถามว่า “เป็นอะไรวะมึง” “ยายศีลยายหนีบมือ”
ยายก็รีบแกะปูออก ทีแรกคิดว่าจะทุบให้ตาย แต่ก็เสียดายกว่าจะได้มาไม่ใช่ง่าย แกนั่งพิจารณาไปพิจารณามา “เอศีลมันก็ตัวเหมือนปูนี่เอง

ถ้าอย่างนี้ฉันก็เคยกินแกงกินยำผัดเผ็ดศีลมาแล้วนี่ ทีนี้วันหลังอยากได้ศีลไม่ต้องไปวัดแล้ว ไปหาตามชายหาดเลยศีลแบบนี้มีเยอะแยะสบายมาก”

นี่แหละคนไม่รู้จักศีลก็เป็นอย่างนี้ ศีลนี่ที่แท้จริงมันไม่มีตัวไม่มีตน แต่มันเป็นข้อปฏิบัติทางกายวาจา ใครทำกายวาจาให้เรียบร้อยเป็นปกติคนนั้นก็มีศีล และจะทำให้จิตใจสงบเย็น


ที่มา
http://www.tamdee.net/sarakhun/data/reada061.html?No=578

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ธรรมะหรรษา...............ทุกคนคือครู
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 15 มิ.ย. 2554, 04:09:35 »
ภาษาพระ

ทุกครั้ง ก่อนจะทำการสนทนากัน สิ่งหนึ่งคือต้องใช้ภาษาเขา ในขณะเดียวกันก็ให้คนสนทนาด้วยเข้าใจภาษาเราด้วย เพื่อเปลี่ยนถ่ายข้อมูลกันได้อย่างถูกต้อง

มีหลายครั้งที่คนไม่เข้าใจภาษาพระ และใช้ตามที่เคยปฏิบัติเป็นประจำ ก็ไม่ผิดอะไรบางครั้งน่ารักดีไปอีกแบบ

มีครั้งหนึ่งมีโยมมาถวายอาหาร ด้วยความที่เป็นเจ้าหน้าที่ทำงานในวังมาโดยตลอด จึงไม่คุ้นเคยกับคำพูดที่ใช้กับพระนัก พอประเคนเสร็จ เธอก็เชิญชวนให้ลองลิ้มรสอาหารทันที
“ลองเสวยดูสิเพคะ”
พระเณรก็ได้แต่อมยิ้ม ไม่รู้มีเชื้อเจ้ากันตั้งแต่เมื่อไร
ที่จริงถ้าจะใช้ให้ถูก คือคำว่า “ฉัน” หมายถึง รับประทานอาหาร

และยังมีอีกครั้งหนึ่งพระอาจารย์แก้วไปสอนสามเณรที่เข้ามาบวชใหม่ๆ ให้รู้จักภาษาที่พระนิยมใช้กัน ก็เลยถามไป
“ใครรู้บ้างพระอาบน้ำใช้คำว่าอะไร”

สามเณรหลายคนพยายามทำท่าคิดแต่ก็ยังไม่รู้จะตอบอะไร
“เรียกว่า สรงน้ำ” เพื่อไม่ให้สามเณรเครียดเกินจำเป็นจึงตอบแทนให้ก่อนจะถามต่อไป

“แล้วพระนอนละใช้อะไร”
สามเณรน้อยรีบยกมือขึ้นก่อนจะลุกขึ้นตอบด้วยความมั่นใจเต็ม ๑๐๐
“หมอนครับ”

พระอาจารย์ถึงกับอมยิ้มก่อนจะถามใหม่ .
“ไม่ใช่ ที่พระอาจารย์ถามหมายถึงพระนอนใช้คำว่าอะไร”
“อ้อ...ครับ แล้วใช้คำว่าอะไรครับ”
“พระนอน เรียกว่า จำวัด”
“กลัวลืมหรือครับ” สามเณรน้อยเริ่มสงสัยกับการใช้คำพระ

...พระอาจารย์เลยต้องอธิบายอีกยาวเลยทีนี้...

“การ จะรู้จักหรือพูดคุยกับใครจำเป็นอย่างยิ่งที่เราควรจะรู้ว่าเขาใช้ภาษาอะไร และชอบพูดกันอย่างไร เพื่อพูดคุยและสอนเขาได้มากขึ้น” เป็นคำที่พระอาจารย์บอกสามเณรไม่ให้ดูถูกภาษา

จากหนังสือ ผ้าเหลืองเปื้อนยิ้ม โดย: กิตติเมธี


ที่มา
http://www.tamdee.net/sarakhun/data/read8f4f.html?No=571
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 มิ.ย. 2554, 04:10:13 โดย ทรงกลด »

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ธรรมะหรรษา...............ทุกคนคือครู
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 15 มิ.ย. 2554, 04:15:37 »
เปลือก หรือ แก่นแท้

หลายปีก่อน ที่อ่าวกวนตานาโม ที่เป็นสถานที่กักกัน ผู้ก่อการร้าย ที่ทหารอเมริกาจับตัวมา มีข่าวลือ ออกมาว่า ทหารอเมริกันได้เอา พระคำภีร์อัลกุลอ่าน ของมุสลิม ทิ้งลงชักโครก มีผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ มาถามพระอาจารย์ว่า

“ในฐานะที่คุณเป็นผู้นำพระในทางพุทธศานา ถ้ามีคนเอา พระไตรปิฎก ของคุณทิ้งลงชักโครก คุณจะทำยังไง ? ”

พระอาจารย์ตอบโดยไม่ลังเลว่า “ คุณ.. อาตมาจะตามช่างประปา !!"
"คือว่า อาตมาอยู่กับความจริงของชีวิต เรายังต้องเข้าห้องน้ำและใช้ชักโครก!!” ผู้สื่อข่าวชอบคำตอบนี้ของพระอาจารย์ (อิอิ)

พระอาจารย์ อธิบายต่อว่า สำหรับ ศาสนาพุทธ เราจะไม่ใช้ความรุนแรง คุณจะระเบิด พระพุทธรูป เผาวัด ฆ่าพระ เอาพระไตรปิฎก ลงทิ้งชักโครก ฯลฯ แต่คนพุทธจะไม่เอาความเมตตา กรุณาทิ้งลงชักโครกไปด้วย!!!!


ท่านเน้นจุดนี้เพราะว่า ไม่ว่า วัด พระไตรปิฎก พุทธรูป ล้วนแล้วก็คือ เปลือก แต่สิ่งที่สำคัญจริงๆ หรือ แก่นแท้ของพุทธศาสนา คือ ความเมตตา กรุณา ความดีงาม และการให้อภัย!!! ซึ่งเราให้พระพุทธรูป เป็นสัญลักษณ์ เราต้องรักษาแก่นสาระที่แท้จริง แทนที่จะรักษาแค่เปลือก!!!

หลายศาสนา เข้าใจผิด ไปคิดว่า เปลือก คือ แก่นแท้พอมีคนมาทำลาย พระคัมภีร์ หรือ วัดฯลฯก็ทำให้เกิดความโกรธแค้น และแก้แค้น ด้วยการฆ่ากัน!! เพื่อรักษาเปลือก!!

สาระ ของศาสนาไม่ใช่แค่หนังสือแต่น่าจะเป้นเนื้อหาที่อยุ่ในหนังสือมากกว่า ว่าจริงๆแล้ว พระคัมภีร์ หรือ พระไตรปิฎก สอนอะไรเรากันแน่? ไม่ใช่ ความเมตตากรุณา ความสงบสุขและ อยู่กันอย่าง สันติ หรอกหรือ?

แล้ว ดูซิ!!! สงครามหรือความขัดแย้งทางศาสนา บนโลกใบนี้ล้วนแล้วมาจาก การมองแต่ความสำคัญของเปลือก แห่งศาสนา นั้นๆ โดยลืมนึกถึง ตัวคำสอนจริงๆ!!!

ถ้าเราเข้าใจถึง แก่นแท้ของศาสนาจริงๆ เราจะก่อสงครามกันไม่ได้ เพราะการรบราฆ่ากัน ก็ย่อมผิดต่อหลักการ ทางศาสนาที่ว่าให้อยู่กันอย่างสงบสุข มีเมตตาต่อกัน และให้อภัยกันอยู่แล้ว!!


เพราะฉะนั้นท่านจึงพูดว่า การทำลายพระพุทธศานา จะเกิดขึ้นได้ ต่อเมื่อ ชาวพุทธ ลุกขึ้นมาแล้วพูดว่า

“มันระเบิดพระพุทธรูปของเรา เราจะระเบิดของมันบ้าง!!!”

“มันเผาวัดเรา เราจะเผาวัดมันบ้าง!!!”

“มันฆ่าพระเรา เราจะฆ่าพระของมันบ้าง!!!!”

น่านแหละ!! ศาสนาพุทธโดนทำลายแล้ว !!!!

หลัก คำสอนของศาสนาพุทธคือ ความรัก หรือที่เรียกว่าความมีเมตตา กรุณา การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข การทำความดีต่อกัน การให้อภัย และเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร

ถ้าตราบใดชาวพุทธยังรักษา สิ่งเหล่านี้ไว้ได้ ศาสนาพุทธก็จะยังคงอยู่ตลอดไป ...... สาธุ


จากเรื่อง take ( out) of the fundamentalism ทาง http://www.bswa.org.com

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ธรรมะหรรษา...............ทุกคนคือครู
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 15 มิ.ย. 2554, 05:42:07 »
เกาะชายผ้าเหลือง
พระพยอมเล่าว่า.....

ตอนอาตมาเป็นพระหนุ่มนะ....เนื้อหอมมาก
เดินไปไหน....มีแต่คนชมว่าดี
แหม...มันภูมิใจ

เขาชมเราอยู่ 2 เรื่อง
เรื่องแรกคือ...ขยัน...ช่วยพ่อแม่หาเงินตั้งแต่เด็ก ๆ
รับจ้างขึ้นมะพร้าว...ขึ้นหมาก...ตั้งแต่อยู่ ป.3
พออายุ 16-17 เก็บเงินได้ 50,000 บาท ซื้อที่ได้ 2 แปลง
แหม....คนชมใหญ่เลย
ไอ้ยอมเอ๊ย...มึงนี่ดีจริง ๆ....ลูกกูนี่...ไม่ได้ขึ้นตีนมึงเลย
ใครมีลูกสาว...ก็พยายามจะยกให้
สาว ๆ นี่...ไม่ต้องจีบ...ทอดสะพานให้เลย

ก่อนบวช...มีผู้หญิงชวนให้พาหนีตั้ง 5-6 คน
แต่เราก็ไม่ทำ...เพราะ
แม่ขอร้องไว้ว่า...ไอ้ยอม...ยังไงมึงโตขึ้น
บวชเรียนให้แม่ได้เกาะชายผ้าเหลือง
ได้พึ่งใบบุญมึงหน่อย
อย่าไปติดเหล้า...ติดยา...ติดการพนัน
ติดผู้หญิงยิงเรือ...อย่าคิดคุกติดตะราง
อย่าทำให้แม่ผิดหวังนะลูกนะ


ไม่ว่าอาตมาจะทำอะไร
จำคำของแม่ไว้ตลอด
ต้องทดแทนคุณแม่...ด้วยการบวชเสียก่อน
ค่อยทำอย่างอื่น
วันอาตมาบวช...โยมแม่ดีใจมาก
นั่งยิ้มทั้งวัน
อาตมาเห็นแล้ว...อิ่มใจ...ภูมิใจ  :002: :077:

อ่านแล้วคิดถึงแม่ :054:

ที่มา
http://www.tamdee.net/sarakhun/data/read8def.html?No=567
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 มิ.ย. 2554, 05:45:11 โดย ทรงกลด »

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ธรรมะหรรษา...............ทุกคนคือครู
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 15 มิ.ย. 2554, 05:50:21 »
ลิงเปิดแผล

มีลิงอยู่ฝูงหนึ่งอาศัยอยู่ในป่าข้างเขาใหญ่ พวกมันกระโดดโลดเต้นสนุกสนานไปตามประสาลิง
มีลิงน้อยตัวหนึ่ง กระโดดไปตามกิ่งไม้
แต่วิทยายุทธคงจะอ่อนไปหน่อยจึงคว้ากิ่งไม้พลาดพลัดตกลงมากระทบตอไม้ข้างล่าง
มีแผลแตกที่ ท้องประมาณนิ้วแศษและมีเลือดไหลออกมา
เหล่าเพื่อนลิงเห็นเข้าจึงลงมาจากต้นไม้มายืนมุงดูรอบข้าง
มีตัวหนึ่งคล้ายกับเป็นหัวหน้าฝูงเข้าไปใกล้ร้องเจี๊ยกๆ ซึ่งอาจแปลได้ว่า
"เป็นไงพวก"

ร้องไม่ร้องเปล่าใช้มือทั้งสองแหวกแผลดูเหมือนเป็นหมอตรวจไข้
แต่เป็นหมอที่ใช้ไม่ได้เพราะไม่ได้ล้างมือให้สะอาดก่อน
แผลที่แตกอยู่แล้วก็เลยฉีกกว้างขึ้น เจ้าจ๋อน้อยร้องจ๊ากด้วยความเจ็บ

เหล่าวงศ์วานของหนุมานทั้งฝูงก็แตกฮือด้วยความตกใจ
สักพักก็กลับมามุงใหม่ อีกตัวหนึ่งก็เข้ามาดูแผล
แต่ไม่ดูเปล่ากลับแหวกแผลดีอีก ตัวแล้วตัวเล่าก็ทำแบบเดียวกัน
แผลก็ยิ่งเหวอะหวะมากขึ้น เจ้าลิงน้อยสุดจะทนถึงกับหมดแรงร้องไม่ออกนอนแน่นิ่งไป
เมื่อเห็นเพื่อนนอนนิ่งฝูงลิงต่างแยกย้ายกันไป

วันรุ่งขึ้น แผลเริ่มระบม ลิงน้อยได้แต่นอนหายใจระทวย
เพื่องฝูงเห็นว่ายังไม่ตายก็ทะยอยเข้ามาใหม่ มาถึงก็แหวกแผลดูอีก
หลายตัวเข้าแผลจึงฉีกกว้างจนเห็นไส้ เลือดไหลนอง
แต่วิบากกรรมของเจ้าจ๋อน้อยยังไม่หมด มีตัวหนึ่งเข้าไปดึงไส้ออกมาดู
อีกตัวหนึ่งดึงจนไส้ออกทั้งหมด

ไม่ถึงเย็นเจ้าลิงน้อยผู้โชคร้ายก็ถึงกาลอวสาน
จบชีวิตลงอย่างทรมานและน่าเวทนา
ด้วยความหวังดีและความอยากรู้อยากเห็นของเพื่อนพ้องน้องพี่มันเอง.

เรื่องนี้สื่อความให้เห็นว่า
ความหวังดีและความอยากรู้อยากเห็นแม้จะเป็นเรื่องธรรมดาของสัตว์โลก
แต่ถ้าเป็นไปโดยไร้ขอบเขตก็มีโทษได้

และเรื่องบางเรื่องเป็นเรื่องเล็กน้อย สามารถแก้ไขได้โดยไม่ยากนัก
แต่ถ้าไม่ฉลาดในการแก้ไข ก็บานปลายลุกลามใหญ่โต
ก่อความเสียหายอย่างไม่คาดคิดก็ได้ ก็อยู่ที่วิธีการบริหารจัดการ
โดยเฉพาะในการใช้คนไปแก้ไขต้องใช้ให้ถูกคนและถูกเรื่อง
หากใช้คนไม่ถูกก็อาจไปสร้างปัญหาหรือเพิ่มปัญหาให้มากขึ้นจนยากที่จะแก้ไข
หรือบางเรื่องไม่ใช้เรื่องใหญ่โตอะไร แต่พูดกันไปปากต่อปาก
ทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่โตน่ากลัวขึ้นไปเรื่อยๆ
เช่นสามีภรรยาทะเลาะกันแต่เสียงดังออกไปนอกบ้าน
คนที่ได้ยินก็นำไปบอกต่อๆ กันไป ผ่านไปไม่ถึงสิบปาก
ก็จะบานปลายไปถึงว่าคู่นั้นทะเลาะกันหนักจนถึงลงไม้ลงมือกันและต้องเข้าโรงพยาบาล
พูดกันไป เพิ่มความเร้าใจเข้าไปเพื่อความน่าเชื่อถือ

คนที่ชอบพูดจาขยายผลขยายข้อเท็จจริง
เพื่อให้มีน้ำหนักน่าเชื่อถือประเภทลิงเปิดแผลนั้นมีมาก
ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อปากของคนเช่นนี้จนได้รับความเสียหายหรือเสียคน
ไปก็มีให้เห็นกันอยู่เสมอ.


นิทานโดย...พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี)

ที่มา
http://www.tamdee.net/sarakhun/data/read622b.html?No=575

ออฟไลน์ saken6009

  • อย่ากลัวคนจะมาตำหนิ แต่จงกลัวว่าตัวเองจะทำผิด อย่ากลัวที่จะรับรู้ความบกพร่องของตน แต่จงกลัวว่าตนจะเป็นคนที่ดีได้ไม่จริง
  • ก้นบาตร
  • *****
  • กระทู้: 893
  • เพศ: ชาย
  • ชีวิตของข้า เชื่อมั่นศรัทธา หลวงพ่อเปิ่น องค์เดียว
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ธรรมะหรรษา...............ทุกคนคือครู
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 15 มิ.ย. 2554, 11:28:02 »
ธรรมะหรรษา..ทุกคนคือครู 36; 36;
                                                 
ขอบคุณท่าน ทรงกลด ที่นำบทความดีมากๆมาให้พี่น้องศิษย์วัดบางพระได้อ่านครับ :053: :053:
 
ติดตามอยู่ครับ อ่านแล้วเพลินดีมากๆครับ และ ได้สาระความรู้มากๆครับผม :016: :015:
   
(ขออนุญาตเข้ามาอ่าน เพื่อเป็นความรู้ ขอบคุณครับผม) :033: :033:

กราบขอบารมีหลวงพ่อเปิ่น คุ้มครองศิษย์ทุกๆท่าน ให้แคล้วคลาด ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง สาธุ สาธุ

ออฟไลน์ boomee

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 339
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: ธรรมะหรรษา...............ทุกคนคือครู
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 17 มิ.ย. 2554, 03:57:12 »
อ่านแล้วเยี่ยมเลย :002:
หากตัวท่านไรซึ่งความหวัง  กายท่านจะคงอยู่เพื่อสิ่งใด

ออฟไลน์ โบตั๋นสีขาว

  • ไม้คดใช้ทำขอ เหล็กงอใช้ทำเคียว แต่คนคดเคี้ยวใช้ทำอะไรไม่ได้เลย
  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 146
  • เพศ: หญิง
  • จะสูงจะต่ำอยู่ที่เราทำตัวจะดีจะชั่วอยู่ที่ตัวเราทำ
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ธรรมะหรรษา...............ทุกคนคือครู
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: 17 มิ.ย. 2554, 04:43:48 »
ขอบคุณมากคะ สำหรับบทความดีๆ อ่านแล้วได้ความรู้มากคะ :090: :050: :090:
เคารพ กตัญญู บูชา หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ ทั้งครอบครัวคะ