หมวด ผู้ทรงวิทยาคุณ (เกจิอาจารย์) > เกจิอาจารย์ภาคกลางและภาคตะวันตก

หลวงพ่อ สง่า อนุปุพโพ วัดบ้านหม้อ ราชบุรี

(1/10) > >>

หอมเชียง:
   
หลวงพ่อสง่า อนุปุพโพ วัดบ้านหม้อ ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

หอมเชียง:
จังหวัดราชบุรี มีพื้นที่อุดมสมบรูณ์ประชาชนมีอาชีพเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ ทำนา ทำไร่ เลี้ยงวัวและเลี้ยงควาย ที่เชิดหน้าชูตานี้คือการปั้นโอ่ง ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศไทย ตลาดน้ำดำเนินสะดวกก็เป็นอีกแห่งหนึ่งที่ชาวต่างชาตินิยมมาเที่ยวชม มีโบราณสถานต่างๆอีกมากมาย ด้านวัดวาอารามต่างๆของจังหวัดมีวัดที่สำคัญและเก่าแก่อีกหลายสิบแห่ง
               ในช่วงนี้จะนำเพื่อนๆไปรู้จักกับพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ท่านก็คือ หลวงพ่อสง่า อนุปุพโพ หรือถ้าจะเรียกตามสมณศักดิ์ของท่านก็คือ พระครูอนุรักษ์วรคุณ ท่านเป็นเกจิอาจารย์ที่แก่กล้าในด้านวิทยาคม เวทย์มนต์คาถาภาษาขอมอาคมขลัง ตัวท่านชอบอยู่อย่างเรียบง่าย ชอบความสงบถือสันโดษไม่ชอบคุยโอ้อวดสรรพคุณ มีความเมตตากรุณาเป็นที่ตั้ง
                ญาติโยมที่มากราบนมัสการท่านจะให้การต้อนรับเหมือนกันหมด ไม่ว่ายากดีมีจนมีความทุกข์ยากขนาดไหน เมื่อเขามานมัสการหลวงปู่จะให้คำแนะนำปรึกษาอย่างลูกอย่างหลานทุกคน ท่านเป็นพระอาจารย์ที่นั่งอยู่ในใจของญาติโยมโดยแท้จริง

หอมเชียง:
          หลวงพ่อสง่า อนุปุพโพ นามเดิม สง่า  เวสสุวรรณ ถือกำเนิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2459 เป็นบุตรของนาย เขี้ยม นาง เม้า เวสสุวรรณ ที่หมู่บ้านคลองตาคต อ. โพธาราม จ.ราชบุรี 
          ชีวิตในวัยหนุ่ม เมือเติบใหญ่ ในวัยหนุ่มฉกรรจ์ ท่านก็ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าตามวิสัยของชายชาตรีทั่วไปเหมือนชาวชนบททั้งหลายเมื่อเลร็จหน้านาแล้วก็เที่ยวสนุกสนานไปตามหมู่บ้านต่างๆแบบของชายวัยรุ่นคึกคนองบางครั้งอาจจะไปพบครูอาจารย์ที่มีความรู้ความสามารถด้านวิชาอาคมก็จะขอศึกษาวิชาอาคมไปด้วย แต่ท่านก็ไม่ประสพความสำเร็จเท่าไรนัก และครั้งหนึ่งมีชายในหมู่บ้านถูกทำร้ายเกือบเอาชีวิตไม่รอด และตัวท่านก็เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างโดยตลอด ท่านก็มาคิดดูว่าถ้าตัวของเรามีวิชาอาคมก็อาจจะช่วยชีวิตเขาได้   
          นับแต่นั้นเป็นต้นมา ท่านก็เดินทางไปในที่ต่างๆ เพื่อศึกษาวิชาหาความรู้จากพระเกจิชื่อดังแต่ก็ไม่เคยเลยที่จะได้สมกับความตั้งใจ ที่เรียนมาแต่ละอาจารย์ก็ได้มาเพียงนิดหน่อย         
          ครั้นเวลาต่อมาท่านได้เดินทางไปขอเรียนวิชากับพระเกจิอาจารย์ชื่อดังท่านหนึ่งที่บอกให้ท่านรู้ว่าท่านเป็นหลานของหลวงพ่อเกลี้ยง เจ้าอาวาสวัดบ้านหม้อ ซึ่งเป็นพระอาจารย์ที่แก่กล้าวิชาอาคมขลังมากที่สุด แต่เป็นพระอาจารย์ที่ชอบเก็บตัว มีวิชาอะไรดีก็ไม่เคยพูดคุยอะไร แต่ท่านชอบช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยากเดือดร้อนเสมอ แม้กระทั่งการรักษาคนที่ถูกคุณไสยต่างๆ พระอาจารย์รูปนั้นยังบอกอีกว่า ท่านนี่ลืมดูของดีใกล้ตัวไปเสียแล้ว เปรียบเสมือนโค-กระบือที่ออกจากคอกได้มุ่งหน้าหาหญ้ากินที่ไกลๆ ลืมมองไปว่าบริเวณหน้าคอกของเรานั้น มีหญ้าที่อุดมสมบรูณ์ที่ดีมีคุณภาพให้รับประทานมากมาย
          เมื่อท่านได้รับคำแนะนำอย่างนี้แล้วจึงรู้ว่า หลวงลุงของท่านนี้ก็แน่กว่าใครๆอีกมากนัก แม้แต่พระอาจารย์รูปนั้นที่ว่าเก่งว่าแน่ ก็ยังเป็นศิษย์ของหลวงลุงของหลวงพ่อสง่า

หอมเชียง:
                     หลวงพ่อสง่าพออายุครบบวชแล้วท่านก็บวชที่วัดบ้านหม้อ เมื่อปี พ.ศ. 2481อุปัชฌาย์กลิ่น วัดคงคา เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อแป๊ะ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พร้อมด้วยหลวงพ่อเกลี้ยง สมัยนั้นมีพระกรรมวาจาจารย์สองรูป หลวงพ่อเช็ง เป็นอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า " อนุปุพโพ " หลวงลุงของท่านก็ส่งท่านเดินทางไปอยู่ที่วัดหนองม่วง ซึ่งสมัยนั้นแทบจะเป็นวัดร้างเพราะขาดพระสงฆ์ที่จะเป็นผู้นำดูแล ท่านจึงได้ส่งพระหลานชายมาดูแล หลวงพ่อสง่าท่านก็ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสจนกระทั่งได้รับพระราชทานสมณสักดิ์ที่ " พระครูอนุรักษ์วรคุณ[/size
                     หลวงพ่อสง่า เริ่มศึกษาวิชา อักขระเสก เลขยันต์ คาถาอาคมตั้งแต่ตอนเป็นหนุ่มสมัยยังอยู่ที่วัดบ้านหม้อ ทั้งวิชาสักหมึก ลงน้ำมัน ตามความเชื่อถือของคนหนุ่มในสมัยนั้นเมื่อท่านบวชเรียนแล้ว ท่านก็ให้ความสนใจใฝ่ศึกษาอย่างต่อเนื่อง หลวงพ่อสง่าท่านยังกล่าวให้ฟังอีกว่า แม้ไม่ใช่กิจของสงฆ์ แต่เป็นความนิยมของชาวบ้านคนสมัยนั้น เพื่อให้เกิดความศรัทธายึดเหนี่ยวทางจิตใจ เราก็อนุเคราะห์ตามที่เราจะทำได้]
                     หลวงพ่อสง่า เป็นอาจารย์สักยันต์อยู่หลายปีทีเดียว ทั้งนี้เพื่อให้ชาวบ้านมีโอกาสใกล้วัดมากขึ้น ทางที่จะมุ่งเข้าสู่อบายธรรมอบรมสั่งสอนได้ง่ายยิ่งขึ้น คนที่สักยันต์จากหลวงพ่อสง่าไปแล้วเป็นคนดีก็มาก ป็นนักเลงหัวไม้ก็มี และหลังจากนั้นหลวงพ่อสง่าท่านก็เลิกพิธีกรรมทั้งหมด เพราะเห็นว่าไม่เกิดแก่นสารที่แท้จริง เป็นสิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืน       
                     สำหรับการศึกษาวิชาจากครูบาอาจารย์ต่างๆนั้น หลวงพ่อสง่าท่านกรุณาเล่าให้ฟังต่ออีกว่า อาจารย์แต่ก่อนเขาให้เราศึกษาวิธีก่อน " วิชานั้นหาง่ายแต่วิธีนี่สิหายาก " วิชาเขียนอยู่ในตำหรับตำรานั้นมีมาก แต่วิธีใช้วิธีปฏิบัติจริงต้องใช้เป็น ครูบาอาจารย์สมัยก่อนท่านจึงสอนให้รู้จักวิธีใช้วิธีทำกันก่อน  วิชาอาคมที่หลวงพ่อสง่าได้เดินทางไปขอศึกษาวิชาอาคมเพิ่มเติม มีพระเกจิอาจารย์หลายรูปด้วยกัน อาทิเช่น หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ เมืองกาญจนบุรี หลวงพ่อ แช่ม วัดตาก้อง นครปฐม พระอาจารย์เช็ง หลวงพ่อดี วัดบ้านยาง นครปฐม และครูอาจารย์อีกหลายรูป ที่ท่านได้รับการถ่ายทอดสรรพเวทวิทยาคมให้ท่านอย่างเอกอุจนสามารถมีวิชาความรู้วิธีปฏิบัติได่อย่างเชี่ยวชาญในพระเวทไม่ว่าท่านจะทำวัตถุมงคล ตะกรุด ผ้ายันต์ พระเครื่อง ล้วนมีอภินิหารประสบการณ์ทั้งสิ้น[/colo

หอมเชียง:
                      หลวงพ่อสง่าท่านได่มรณภาพ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2547 รวมสิริอายุได้ 88 ปี 18 วัน   
                      ส่วนของวัตถุมงคลจะขอเสนอในคราวต่อไป




                      เนื้อหาโดยส่วนใหญ่ได้คัดลอกมาจากหนังสือ"พระเครื่องอภินิหาร" ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2543

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version