เล่าปี่ ( ลูกผู้ชาย จะเป็นใหญ่เป็นโตไม่ได้ ถ้าไม่เป็นคนฝืนดวง )
ทำไมถึง เกริ่นไว้แบบนี้ มาดูลักษณะ ของความเป็นผู้นำของเล่าปี่ ตามการบรรยาย ใน สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) กันดูก่อน นะคะ
ณ เมืองตุ้นกวน มีชายคนหนึ่ง ชื่อเล่าปี่ เมื่อน้อยชื่อ เหี้ยนเต็ก ไม่สู้รักเรียนหนังสือ ( ชอบทางบู้มากกว่าบุ๋น ) แต่มีปัญญา น้ำใจนั้นดี ( ฉลาดและมีคุณธรรม ) ความโกรธและความยินดีมิได้ปรากฏออกมาภายนอก ( เป็นคนสุขุม รู้จักควบคุมอารมณ์ ) ใจนั้นอารีนัก มีเพื่อนฝูงมาก ใจกว้างขวาง ( เป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี หรือที่เรียกว่า human relation skills สูง ) หมายจะเป็นใหญ่กว่าคนทั้งปวง ( มีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์สูง )
ลักษณะรูปร่างสมบูรณ์ สูงประมาณ 5 ศอกเศษ หูยานถึงบ่า ( ชอบรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น แต่ไม่หูเบา ) มือยาวถึงเข่า หน้าขาวดังหยก ฝีปากแดงดังชาดแต้ม (แสดงถึงสุขภาพที่ดีและสมบูรณ์ อย่าไปคิดถึงลิงนะคะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ) จักษุยาวรีชำเลืองไปเห็นถึงใบหู (อันนี้ ไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวนะคะ เค้าหมายถึงว่า เป็นคนมีสายตายาวไกลหรือมี วิสัยทัศน์ (vision) ในการบริหาร )
เห็นแซ่ ก็รู้ว่า เป็นพวก เชื้อสายราชวงศ์ฮั่น มีศักดิ์เป็นพระเจ้าอา ของพระเจ้า เฮี้ยนเต้ แต่ ตกอับยากจน เพราะ พ่อซึ่งเป็นถึง บันฑิตชั้นแนวหน้า มาเสียชีวิตลงก่อนเวลาอันควร เลยต้องมานั่ง ทอเสื่อขาย เลี้ยงแม่ไป
ตอนเล่าปี่ ยังเป็นเด็ก เวลาเล่น ชอบเล่นเป็นตัวนาย หรือ เป็นหัวหน้าเด็กคนอื่นๆ บางทีก็เล่นเป็น พระเจ้าแผ่นดิน ใครๆเห็น ก็ชื่นชอบ เพราะเป็นคนมีลักษณะดี ให้เงินกินขนมอยู่เรื่อยเลยค่ะ
พอโตขึ้น อายุประมาณ 28 ตรงกับตอนที่ สิบขันทีกำลังแผลงฤทธิ์ แล้วมีกบฎ มีโจรโพกผ้าเหลือง ทางเมืองตุ้นกวน ก็ประกาศรับสมัครคน ไปปราบโจร เล่าปี่ก็สนใจมาก แต่ว่า... เค้าไม่อยากไปเป็นทหารธรรมดาค่ะเค้าอยากเป็นหัวหน้า ก็ยืนซึมอยู่ วันนี้แหละค่ะ ที่ไปเจอเอา เตียวหุยกับ กวนอูเข้า ได้พูดคุยกันก็ ถูกคอ เตียวหุยนี่เป็นคนมีฐานะ นะคะก็ออกปากยกทรัพย์สินให้เป็นทุนจัดตั้งกองกำลังอิสระ แล้ว สาบานเป็นพี่น้องกัน เล่าปี่เป็นพี่ใหญ่ กวนอูเป็นพี่รอง และ น้องเล็กเตียวหุย รวบรวมคนได้ ประมาณ 500 คน
ในที่สุด เล่าปี่ ก็ได้เป็นหัวหน้าคนสมใจแล้วค่ะ งานนี้ แล้วไปอาสาปราบพวกโจรผ้าเหลือง ที่มีกำลังพลประมาณ 50,000 คน และชนะกลับมา ก็รู้ๆอยู่ ฝีมือ กวนอูกับเตียวหุยน่ะค่ะ เลยได้ คนเพิ่มมาอีก 500 เป็นพันคน ออกตระเวณปราบพวกโจรที่เหลืออยู่ เคยช่วยตั๋งโต๊ะไว้ด้วยนะคะ ตอนนั้นกำลังหนีพวกโจรอยู่ ช่วยเสร็จ แทนที่จะได้ความชอบ กลับโดนดูถูกซะอีก ไปเมืองหลวงหาครูที่เป็นแม่ทัพอยู่ คุณครูก็โดนพวกขันทีแกล้ง จับขังลืมซะอีก ( ครูคนนี้ เคยสอนเพลงกระบี่ให้เล่าปี่ค่ะ ชื่อ โลติด พวกสิบขันที มารีดไถ ไม่มีให้เลยโดนปลด จับไปขัง แล้วให้ ตั๋งโต๊ะ ขึ้นมาเป็นแทนค่ะ )
เจอเข้าแบบนี้ เล่าปี่ฮึดขึ้นมาเลยค่ะ หนอยๆๆๆ ไม่มียศถาบรรดาศักดิ์ ไหงคนดูถูกจัง ก็พยายามหาทาง ไปหาคนรู้จักคนนึง ออกปราบพวกโจรอีกไม่น้อยกว่า 30 ครั้ง จนแทบไม่เหลือพวกโจรมาก่อกวนชาวบ้านอีกเลย แต่.... ค่ะ ใช่ ไม่ได้รับความชอบอยู่ดี เคว้งคว้างอยู่ในเมืองหลวงเป็นเดือนๆ จนมีผู้ใหญ่ที่ดีคนนึง สงสาร ช่วยร้องเรียนให้ ก็เลยได้รับการแต่งตั้งให้เป็น เจ้าเมืองเล็กๆเมืองนึง ( ก็ได้แค่นี้แหล่ะค่ะ no name ) แต่ ก็ยังถือว่า ได้ก้าวขึ้นมาอีกขั้นนึงแล้วนะคะ และในอีกหลายๆปีต่อมา เราก็รู้ๆกันอยู่ คนนี้ ได้เป็นถึง พระเจ้ายวนเต้ปี่ ครอบครองแผ่นดิน หนึ่งในสามของจีน จนได้
ทั้งหมดนี้ เป็นเพราะความคิดเดียวค่ะ คือ หมายจะเป็นใหญ่กว่าคนทั้งปวง{{{{{{{ THINK BIG, YOU WILL BE BIG }}}}}}
มาดูคติบริหาร ของตอนนี้กันนะคะ
1. THINK BIG, YOU WILL BE BIG. IF YOU THINK SO YOU BE COME.
คิดจะเป็นใหญ่ คุณก็จะได้เป็นใหญ
ถ้าคุณคิดเช่นไร คุณก็จะได้เป็นอย่างนั้น
2. ลูกคนจนข้นแค้นแสนจริต อาจแผลงฤทธิ์กลายเพศเป็นเศรษฐี
ลูกคนโง่อาจโผล่เป็นเมธี เหตุดังนี้ ไม่ควรหลู่ดูแคลนกัน
3. เพราะแสวงหา ไม่ใช่เพราะรอคอย
เพราะเชี่ยวชาญ ไม่ใช่เพราะโอกาส
เพราะสามารถ ไม่ใช่เพราะโชคช่วย
ลิขิตฟ้า หรือจะสู้ มานะตน >>>>>
ทีมา
http://www.reocities.com/song25031975/trickmanage8.html