กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 24 ส.ค. 2553, 10:53:36

หัวข้อ: รอยทางและรอยธรรม...๒๓ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 24 ส.ค. 2553, 10:53:36
ตถตาอาศรม ริมฝั่งโขง
 ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๓
........รอยทาง........
                           เมื่อวานที่ผ่านมา( ๒๓ สิงหา ) มีภาระกิจมากมาย ตั้งแต่เช้าจนถึงบ่าย
จึงจะมีเวลาว่างมานั่งเขียนบันทึก ตอนเช้าหลังจากฉันข้าวแล้ว รีบเข้าเมืองเพื่อซื้อวัสดุอุปกรณ์
เพื่อจะเอามาซ่อมเรือหางยาวที่ได้ไปประมูลมา เพราะเด็กๆฝีพายมารอช่วยงานกันตั้งแต่เช้าแล้ว
กลับจากซื้อวัสดุอุปกรณ์ ก็ต้องมานั่งคุมเด็กๆทำงาน แนะนำการทำงาน คอยเตือนสติไม่ให้ประมาท
ในเวลาทำงาน เริ่มลงมือทำงานตั้งแต่ช่วยกันขัดเรือ แกะชันเก่าที่ยาเรือไว้ ตอกหมันยึดเรือใหม่ให้แข็งแรง
ขัดเรือตอกหมันเสร็จ ก็ต้องช่วยกันยาเรือใหม่ อุดรอยรั่วรอยแตก โป๊ะสีตามหัวน๊อตหัวตะปู ลงสีกันสนิม
ทิ้งไว้จนสีโป๊ะและกาวยาเรือแห้ง จึงช่วยกันทาสีรองพื้นเรือด้านภายนอกเพื่อรักษาเนื้อไม้ มีเด็กๆมาช่วย
ทำงานประมาณสิบกว่าคน ประมาณบ่ายสี่โมงกว่าๆจึงเสร็จ กลับที่พักมาเขียนบันทึกธรรม แล้วเตรียมตัว
ทำกิจวัตรสงฆ์ในภาคค่ำในเวลาต่อไป ประมาณสี่ทุ่มกว่าๆมีญาติโยมเข้ามายืมเต้นท์และชุดเครื่องไฟฟ้า
เพราะว่ามีคนในหมู่บ้านได้ตาย เป็นผู้เฒ่าอายุ ๙๐กว่าปี ลงไปพูดคุยสนทนากับญาติโยมจนดึก จึงกลับที่พัก
ทำกิจของตนต่อ
.....รอยธรรม.....
                    ดั่งที่ได้กล่าวมาแล้วในวันก่อนๆเรื่อง " ปริสัญญุตา ความเป็นรู้จักชุมชน " เพราะการทำงาน
กับคนหมู่มากนั้น เราต้องรู้และเข้าใจอุปนิสัยและความชอบความต้องการของแต่ละคนและแต่ละวัยที่แตกต่างกัน
การทำงานกับวัยรุ่นเราก็ต้องเข้าใจกับวัยรุ่น ว่าพวกเขาชอบอะไร ทำงานกันไปพูดคุยกันไป ให้พวกเขาเพลิดเพลิน
สอดแทรกธรรมะลงไปบ้างตามโอกาศ ยกนิทานมาเล่าให้เด็กฟังสลับกันไปเฮอาไร้สาระบ้าง แฝงคติธรรมบ้าง
เพื่อไม่ให้เด็กเบื่อหน่าย ทำความคุ้นเคยใกล้ชิดกัน ทำให้เด็กไม่เกร็งจนไม่กล้าเข้าใกล้ เมื่อเด็กไว้ใจไปมาหาสู่
คุ้นเคยกับเราแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของเราที่จะสั่งสอนอบรมพวกเขาอย่างไร เป็นขั้นตอนต่อไป ซึ่งเราเป็นผู้ใหญ่
เป็นครูบาอาจารย์นั้นต้องไม่มี " อคติ "คือความลำเอียง ความเอนเอียงเข้าข้าง ความไม่ยุติธรรม ความไม่เป็นกลาง
ต้องวางตัวให้ความสำคัญเสมอกัน ไม่เอาใจใครมากเป็นพิเศษ พูดคุยกับทุกคนเท่าๆกัน ใช้งานให้ทั่วกันเท่าๆกัน
ไม่ให้พวกเขาเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ ว่าพระอาจารย์ให้ความสำคัญผู้ใดเป็นพิเศษ เราจึงจะปกครองและควบคุม
พวกเขาได้ ซึ่งความมี  " อคติ " นั้น เกิดจากสาเหตุ ๔ ประการคือ...
   ๑.ฉันทาคติ  ลำเอียงเพราะรักใคร่ชอบพอ
   ๒.โทสาคติ  ลำเอียงเพราะความไม่ชอบทั้งหลาย
   ๓.ภยาคติ    ลำเอียงเพราะความหวาดกลัว
   ๔. โมหาคติ ลำเอียงเพราะความหลง ความเชื่อและสำคัญผิด
การเป็นผู้นำนั้นเราต้องมีคุณธรรม รู้จักผูกมิตร ผูกจิตผูกใจผู้ร่วมงาน เพื่อให้องค์กรที่เราดูแลอยู่นั้น มีความเข้มแข็ง
รักใคร่สามัคคี ช่วยเหลือสงเคราะห์กันในสิ่งที่ดี คือการสอนให้เขามีคุณธรรม สิ่งนั้นคือหน้าที่ของผู้นำ...
......รอยกวี......
                    วันเวลา  ผ่านไป  ไม่หยุดนิ่ง
                    มีหลายสิ่ง  ที่ทำ  ตามสมัย
                    ให้เข้ากับ  เหตุการณ์ ที่เป็นไป
                    และทรงไว้  ซึ่งธรรม  แห่งสัมมา
                                   มรรคองค์แปด  คือทาง  ที่วางไว้
                                   ก้าวเดินไป   ตามทาง    เพื่อค้นหา
                                   ให้รู้จัก       ตัวตน        คืออัตตา
                                   รู้จักว่า      ตัวกู           และของกู
                   รู้อะไร   ไม่รู้เท่า   เข้าใจจิต
                   รู้ความคิด  น้อมธรรม นำมาสู่
                   ทำให้ดู     อยู่ให้เห็น  เอาเป็นครู
                   สอนให้รู้    สอนให้ทำ  ในกรรมดี
                                   ประสานใจ  ประสานชน  คนรุ่นใหม่
                                   ให้ร่วมมือ    ร่วมใจ      ในทุกที่
                                   ให้เกิดความ  รักใคร่     สามัคคี
                                   สอนให้มี     น้ำใจ      ช่วยเหลือกัน
                   ต้องเลือกธรรม  นำมาใช้   ให้เหมาะสม
                   กับสังคม      ที่อาศัย       ให้สร้างสรรค์
                   ให้มีความ    เอื้อเฟื้อ       และแบ่งปัน
                   ให้ร่วมกัน    ทำความดี     เพื่อสังคม
                                   เพราะร่วมมือ  ร่วมใจ  จึงสำเร็จ
                                   งานจึงเสร็จ    ทำไป   ได้เหมาะสม
                                   จึงทำให้       มีคนชอบ  และชื่นชม
                                   เพราะสังคม    เอื้อเฟื้อ   ช่วยเหลือกัน...
                                         .................................
                                     เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต
                                                รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๓ เวลา ๑๐.๕๓ น. ณ ศาลาน้อย ริมน้ำโขง ชายขอบประเทศไทย
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๒๓ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 24 ส.ค. 2553, 11:33:08
รู้อะไร   ไม่รู้เท่า   เข้าใจจิต
รู้ความคิด  น้อมธรรม นำมาสู่
ทำให้ดู     อยู่ให้เห็น  เอาเป็นครู
สอนให้รู้    สอนให้ทำ  ในกรรมดี

กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ  คงต้องใช้เวลาฝึกฝนจนชำนาญ จนเข้าใจและควบคุมจิตได้ครับ
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๒๓ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: ~@เสน่ห์เอ็ม@~ ที่ 24 ส.ค. 2553, 01:32:51
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ        :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน   :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป   :054:
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๒๓ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: NONGEAR44 ที่ 24 ส.ค. 2553, 03:28:21
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ขอบพระคุณครับ
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๒๓ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์ack01~ ที่ 24 ส.ค. 2553, 07:31:37
" อคติ " นั้น เกิดจากสาเหตุ ๔ ประการคือ...
   ๑.ฉันทาคติ  ลำเอียงเพราะรักใคร่ชอบพอ
   ๒.โทสาคติ  ลำเอียงเพราะความไม่ชอบทั้งหลาย
   ๓.ภยาคติ    ลำเอียงเพราะความหวาดกลัว
   ๔. โมหาคติ ลำเอียงเพราะความหลง ความเชื่อและสำคัญผิด
การเป็นผู้นำนั้นเราต้องมีคุณธรรม รู้จักผูกมิตร ผูกจิตผูกใจผู้ร่วมงาน เพื่อให้องค์กรที่เราดูแลอยู่นั้น มีความเข้มแข็ง
รักใคร่สามัคคี ช่วยเหลือสงเคราะห์กันในสิ่งที่ดี คือการสอนให้เขามีคุณธรรม สิ่งนั้นคือหน้าที่ของผู้นำ


กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ขอบพระคุณสำหรับคำสอนครับ