แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - tuxky

หน้า: [1]
1
รบกวนผู้รู้ชี้แนะด้วยครับ









2




ตามหัวข้อเลยครับ รบกวนพี่ๆสายตรงทุกท่าน ให้คำแนะนำด้วยครับ ผมมือใหม่ยังไม่แม่น ขอบคุณล่วงหน้าครับ

3
อีกเหรียญที่มีประสบการณ์มากมาย สำหรับผมแล้วแล้วนี้เป็นเหรียญแรกที่ก่อประสบการณ์เรื่องคงกระพัน โดนฟันด้วยมีด และจ่อยิงด้วยปืน 11 มม. เมื่อครั้ง 18 ปีที่ผ่านมา เหตุการณ์เกิดขึ้นในงานวัดแถบภาคอีสาน ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จะมีการกระทบกระทั่งระหว่างวัยรุ่นเจ้าถิ่นกับคนต่างหมู่บ้าน ผลจบด้วยการเข้าตลุมบอลกัน ตัวผมเจอทั้งมีดและปืน แต่แคล้วคลาดปลอดภัยมาได้ ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากบารมีหลวงพ่อที่ช่วยคุ้มครอง ใครพบเจอเหรียญนี้ที่ไหน อย่าปล่อยให้หลุดเมื่อไป ซึ่งพุทธคุณไม่แพ้เหรียญยุคแรกๆเลย แต่ราคาต่างกันเยอะครับ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

4
องค์นี้ได้นานแล้ว แต่เสียตรงที่เจ้าของเดิมทำหล่น เลยทำให้ด้านหน้ากระเทาะนิดหนึ่ง แต่มวลสารและตะกรุดเงินด้านหลังยังอยู่ครบ องค์นี้หมายเลข 291 นำมาแบ่งปันกันชมเพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาและสะสมต่อไป ขอบารมีหลวงพ่อคุ้มครองศิษย์ทุกคนให้แคล้วคลาดปลอดภัย เจริญๆทุกๆคน

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

5
รบกวนพี่ทั้งหลายให้คำแนะนำด้สยครับผมมือใหม่ครับ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

6
พอดีเพิ่งได้มาใหม่ ไม่แน่ใจว่าแท้หรือเปล่า รบกวนสายตรงให้ความเห็นด้วยครับ






7
พอดีได้มาใหม่นำมาแบ่งปันให้พี่น้องได้ชมกัน ไม่แน่ใจว่าจำนวนการสร้างมากน้อยแค่ไหน เจ้าของเดิมบอกว่าสร้างแค่หลักร้อย เนื้อหามวลสารมีส่วนผสมทั้งเถ้ากระดูกผี เส้นเกศาหลวงพ่อ และผงต่างๆที่หลวงพ่อได้เคยปลุกเสกไว้




8
รูปเหมือนปั้มรุ่นแรกและรุ่นเดียวของหลวงพ่อทบ วัดชนแดน เพชรบูรณ์ ซึ่งวงการจะเรียกกันว่ารุ่นโดดร่ม ประสบการณ์สุดยอดครับ นำมาแบ่งปันให้พี่น้องชมเพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาและสะสมครับ







9
พอดีนำเหรียญที่ได้มาใหม่ไปใส่ตลับเงิน (ใบเก่า) แล้วใส่จีวร + เกศา + เล็บ หลวงพ่อ เพื่อเพิ่มความขลัง เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ และขอพึ่งบารมีหลวงพ่อ ให้ช่วยคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย




10
มาครั้งนี้มาทีเดียว 6 องค์ เป็นรูปหล่อรุ่นสร้างเขื่อนปี 2533 เนื้อเงิน 1 องค์ นวะโลหะ พิมพ์ใหญ่ 1 องค์ พิมพเล็ก 2 องค์ พระยอดธงเนื้อนวะ 1 องค์ สุดท้ายเป็นพระสมเด็จ 69 ปิดทอง 1 องค์ รบกวนผู้รู้ชี้แนะด้วยครับ :054: :054: :054:













11
มาพร้อมกัน 2 เหรียญ รบกวนพี่ๆให้คำชี้แนะด้วยครับ




12
รบกวนสายตรงด้วยครับ ไม่ทราบว่ารูปถ่ายรุ่นนี้สร้างในปี ทันหลวงพ่อหรือเปล่า ขอบคุณครับ :054: :054: :054:



13
องค์นี้สภาพแม้ผ่านการใช้มาบ้าง แต่ด้านหน้ายังสวยเดิมๆ ด้านหลังสึกนิดหน่อย เจ้าของเดิมแขวนแบบเปลือยๆ แต่ยังคงรายละเอียดต่างไว้ครบครัน เป็นพระแท้ที่ดูง่ายอีก 1 เหรียญ เป็นเหรียญที่ทรงคุณค่าแก่การบูชาและสะสม เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญที่มีประสบการณ์มากมาย ส่วนตัวเองเจอมาทั้งแคล้วคลาด โชคลาภ และเมตตาดีเยี่ยม บูชาติดตัวเป็นศิริมงคลอย่างยิ่ง นำมาแบ่งปันกันชมเพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาและสะสมต่อไป

14
พอดีได้มาใหม่แต่ไม่รู้เป็นของสำนักงาน รบกวนผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยครับ





15
เป็นพระบูชารูปหลวงพ่อสมาธิบนนุ่งหัวเสือ ด้านล่างเขียนว่า "หลวงพ่อเปิ่น" ด้านหลังเขียนว่า "วัดบางพระ" ใต้ฐานฝังเหรียญเสมาไว้ 1 เหรียญ รอบฐานมีรอยจารยันต์เต็มและที่สังฆาฏิก็มีจารยันต์ด้วยครับ หน้าตักขนาด 3 นิ้ว สวยคลาสิกมาก นำมาแบ่งให้พี่น้องได้ชื่นชมบารมีหลวงพ่อร่วมกัน ใบหน้าหลวงพ่อยิ้มอิ่มเอิบบ่งบอกความมีเมตตาจริงๆ แนะนำและติชมได้เต็มที่ครับ





16
วันนี้มีเหรียญหลวงพ่อเปิ่น รุ่นบูชาครู หรือที่เราเรียกกันจนติดปากว่า "เหรียญเสื้อเกราะ" ปี 2533 มาแบ่งปันให้พี่น้องได้ชมเพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาและสะสม เชิญวิจารย์และติชมได้เต็มที่ครับ



17
เหรียญนี้สร้างในปี 2541 เพื่อแจกเป็นที่ระลึกในงานไหว้ครู ซึ่งเป็นเหรียญอีกรุ่นที่น่าสะสมอย่างยิ่ง เนื้อเงินลงยาจำนวนการสร้างเพียง 575 องค์เท่านั้น ทุกองค์จะตอกโค๊ตและหมายเลขกำกับทุกองค์ องค์นี้หมายเลข 405 เป็นเหรียญที่ผมตามหาอยู่นานกว่าจะได้มาครอบครองต้องออกแรงทรัพย์พอควร แต่ก็เต็มใจจ่ายเพราะเหรียญสภาพสวยมากๆ เป็นเหรียญที่มีประสบการณ์ดี จึงไม่ค่อยเห็นหมุนเวียนมากนัก และเป็นอีกรุ่นที่มีการปลอมแปลงมากอีกรุ่น ผมเลยนำมาแบ่งปันกันชม เพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาและสะสมของพี่น้องศิษย์หลวงพ่อเปิ่นทุกท่าน ขอบารมีหลวงพ่อจงดลบันดาลให้ศิษย์ทุกคนจงอย่าอด อย่าจน อยู่ดีมีสุข แคล้วคลาดปลอดภัย ตลอดไปครับ



18
มาพร้อมเลี่ยมเงินชุบทองคำขาว สภาพถือว่ายังสวยสมบูรณ์ ผิวรมดำเดิมๆ ด้านหลังใส่จีวรหลวงพ่อเข้าไปด้วย แต่ถ่ายรูปไม่สวย เนื่องจากฝีมือยังอ่อนอยู่ครับ นำมาแบ่งกันชมเพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาและสะสม ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยม ณ ที่นี้ด้วยครับ



19
ต้องรบกวนพี่ใหญ่(พี่อเมซิ่ง พี่หอมเชียง) และสายตรงทุกท่าน รบกวนชี้แนะด้วยครับว่า พระสมเด็จองค์นี้ใช่พระสมเด็จหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ หรือไม่ สร้างในปี พ.ศ.อะไร ด้านหน้าตอกโค๊ตตัว "มิ" ด้านหลังตอกโค๊ต "1ป"  และหมายเลข 11 (เลขไทย) เป็นเนื้อทองระฆัง รบกวนทุกท่านให้ความกระจ่างด้วยครับ




20
เหรียญหลวงพ่อเปิ่น รุ่น 2 สร้างในปี 2520 จำนวนการสร้างว่ากันว่าประมาณ 5,000 เหรียญ มีเฉพาะเนื้อทองแดงอย่างเดียวครับ ผมเห็นแล้วอดใจไม่ไหว ต้องบึ่งรถข้ามไปฝั่งพระแดง ควักกระเป๋าจ่ายมาสุดๆร้อน ยังอุ่นๆอยู่เลยครับ นำมาแบ่งกันชมเพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาและสะสม ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ





21
เป็นลายเข็มพระอาจารย์แป๊ว + พระอาจารย์ญา + พระอาจารย์หนึ่งครับ + สำนักอื่น ทนเจ็บอยู่นานหลายปีกว่าจะได้ขนาดนี้ ซึ่งต้องยอมรับครับว่าตั้งแต่ฝากตัวเป็นศิษย์วัดบางพระ ทำให้ชีวิตผมดีขึ้นเป็นลำดับ บารมีหลวงพ่อเปิ่นนั้นสุดยอดจริงๆ ผมเรียนจบได้ทำงานมีกินมีใช้ทุกวันนี้เพราะได้รับฟังคำสอนดีๆจากท่าน ทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปในทางดีขึ้นเป็นคนมีศีลธรรม มีคุณธรรม กตัญญูรู้คุณพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ที่นำภาพมาลงมิได้โอ้อวดแต่ประการใด ต้องการเผยแพร่ลายสักยันต์สายวัดบางพระเป็นที่ยอมรับยิ่งๆขึ้นไป ขอบารมีหลวงพ่อเปิ่นจงคุ้มครองศิษย์ทุกคน





22
พอดีเมื่อวานไปเดินซื้อข้าวตอนเที่ยงไปเจอเหรียญหลวงพ่อเปิ่น รุ่นปี 2534 ด้วยความเคารพและศรัทธาเลยหอบนิมนต์หลวงพ่อมาทั้งหมดแผงเลย 45 องค์ พอมาถึงออฟฟิศ พักพวกขอแบ่งไป 15 องค์ ก็เหลือแค่นี้แหละครับ 30 องค์ เลยนำมาแบ่งปันกันชม ของดีราคาหลักร้อย พุทธคุณหลักล้าน ของดีที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหลวงพ่อเปิ่นท่านก็ปลุกเสกให้เหมือนกัน พุทธคุณจึงไม่แตกต่างจากรุ่นแรกครับพี่น้อง





23
พอดีวันนี้ที่ทำงานแม่บ้านที่ทำงานเอามาให้ ดีใจสุดๆเลย เพิ่งจะเคยเห็นและเคยตัวเป็นๆครั้งแรกครับ แม่บ้านเค้าบอกว่าเห็นเค้าตกลงมาตายตอนเช้าเลยเก็บใส่ถังขยะไว้ เค้ามาเล่าให้ผมฟังผมเลยบอกว่าให้ไปเอามาให้ผมเดี๋ยวผมให้เหรียญหลวงพ่อเปิ่น 1 เหรียญ เค้าก็ไปเอามาให้จริงๆ ตอนแรกนึกว่าเค้าพูดเล่น แต่พอเห็นแล้วตื่นเต้นสุดๆ จับดูที่ตัวเค้ายังอุ่นๆอยู่เลย ก็จะสต๊าปเก็บไว้ดูเพื่อเป็นศิริมงคลครับ เอามาแบ่งให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ในเว็ปได้ชมกัน อิๆ เลยเอาเหรียญหลวงพ่อเปิ่น ปี 2534 ให้เค้าไป 1 องค์แทนคำขอบคุณ




24
เป็นพระบูชาขนาดหน้าตัก 3.5 นิ้ว สูง 5.5 นิ้ว มีจารที่สังฆาฏิและรอบฐาน แต่ไม่ทราบว่าออกปีไหน เห็นเป็นหลวงพ่อเลยรีบคว้ามาบูชาครับ เพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาและสะสมต่อไปครับ





25
เหรียญบูชาครูรุ่นแรก ปี 33 หรือที่พวกเรารู้จักกันว่า "เหรียญเสื้อเกราะ" องค์นี้เป็นเนื้อนวะครับ เพิ่งได้มาใหม่แต่แรงน่าดูเลย นำมาให้ชมเพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาและสมต่อไปครับ



26
พอดีมีเวลาถ่ายภาพพระเครื่องของน้องที่ทำงานมาให้ชม หลวงพ่อเปิ่นล้วนๆครับ รุ่น 1 2 3 หน้าเสือ เสื้อเกราะ ปืนไขว้ ติ่งเสือ ครบครัน บรรยายด้วยภาพ เพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาและสะสม



27



เอามาแบ่งปันกันชม ให้ทายว่าเป็นของที่ไหนสร้าง คุ้นๆไหม

28
พอดีได้เข้ามาใหม่ เป็นพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ ที่สร้างในปี 2535 ชุดนี้เป็นเนื้อเงินหมายเลข 610 นำมาแบ่งปันกันชม เพื่อเป็นการระลึกหลวงพ่อเปิ่นของพวกเรา วิจารณ์และติชมได้เต้มที่ครับ

29
พอดีได้มานานแล้ว เป็นเหรียญสภาพใช้แต่เจ้าของเดิมนำไปรมดำใหม่ ทำให้พระดูไม่สวย ผมเลยจัดการล้างผิวเหรียญใหม่ แล้วบิ้วนิดหน่อยทำให้เหรียญออกมาสภาพอย่างที่เห็น ถึงไม่สวยกริ๊ปๆ แต่ได้เสน่ห์ไปอีกแบบ ติชมและวิจารย์ได้เต็มที่ครับ




30
พอดีเพิ่งได้เข้ามาใหม่ เลยนำมาแบ่งปันกันชม วิจารย์และติชมได้เต็มที่เลยครับ ไม่แน่ใจว่ารุ่นนี้สร้างในปีไหน




31
เพิ่งเข้ามาสดๆร้อนๆ เลยนำมาแบ่งปันกันชม บารมีหลวงพ่อนั้นสุดยอดทุกด้านครับ

เริ่มด้วยเหรียญพุทธมนต์ชินบัญชร




ตามด้วยล็อกเก็ตฝังตะกรุดอุดเทียนชัย+เส้นเกศา



ตามด้วยรูปหล่อเบ้าทุบ เนื้อทองแดง ปี 2541



สุดท้ายเป็นล็อกเก็ตอุดด้วยผงยา+เส้นเกศา ปี 2530 กว่า (องค์เดิม) เพิ่งนำไปเลี่ยมมาครับ



32


ด้วยบารมีหลวงพ่อแท้ๆ ทำให้ลูกได้ลาภครั้งนี้ ขอบารมีหลวงพ่อช่วยคุ้มครองปกป้องรักษาบรรดาศิษย์ทุกคนทุกท่านตลอดไปครับ




33




อีกหนึ่งสายที่ผมเคารพและศรัทธาอย่างยิ่ง รูปหล่อโบราณหลวงพ่อทบ วัดช้างเผือก  รุ่นนี้สร้างในปี 2517 โดยวัดช้างเผือก ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิดของท่าน หลวงพ่อทบท่านเป็นพระที่มีวัตรปฏิบัติที่งดงามยิ่ง ตลอดชีวิตของท่านได้สร้างแต่คุณประโยชน์ให้กับพุทธศาสนาอย่างมากมาย สร้างความเจริญให้แก่ท้องถิ่นไม่น้อย  รูปหล่อองค์นี้วงการเรียกรุ่นนี้ว่า "รูปหล่อรุ่นจิ๊กโก๋" สร้างโดยวิธีหล่อแบบโบราณ ซึ่งรุ่นมีประสบการณ์เรื่องคงกระพัน ใครเจออย่าให้ผ่านมือครับ  องค์นี้ได้มาเกือบ 2 เดือนแล้วครับ

34
พอดีผมได้รับปากกับพระอาจารย์แป๊วไว้ว่า จะถวายถังน้ำ PE ให้กับท่าน ตอนนี้ถังน้ำผมเตรียมไว้แล้ว และคาดว่าจะให้รถของบริษัท นำไปส่งและถวายให้กับท่านในวันเสาร์ที่ 4 กันยายน 2553 นี้ เป็นถังน้ำ ตรา(ยี่ห้อ) GREENTREE รุ่น SANSTONE ขนาด 1000 ลิตร สีครีม จำนวน 2 ใบ แต่เนื่องจากผมติดธุระไม่สามารถไปถวายด้วยตนเองได้  จึงอยากรบกวนเพื่อนๆสมาชิกในเว็ปช่วยเป็นธุระในการพาคนขับรถ นำถังน้ำไปถวายให้พระอาจารย์แป๊วด้วยครับ ใครที่จะไปวัดในวันเสาร์ช่วยเป็นธุระให้ด้วยครับ ผมขอแค่ไปรับคนขับรถที่หน้าวัด แล้วพาไปกุฏิพระอาจารย์แป๊ว แค่นั้นเองครับ รบกวนด้วยครับ (ส่งเบอร์ติดต่อเข้าเมลล์ได้เลยครับ) ขอบคุณล่วงหน้าครับ :054:

ตัวอย่างถังน้ำที่จะนำไปถวายท่านครับ


35
เหรียญนี้ผมเรียกว่าเหรียญบาตรน้ำมนต์ ด้านหน้ามีรอยจารของพระอาจารย์ญา จารอักขระ "อิติ นะชาลิติ" ด้านหลังบรรจุพระคาถา "มงกุฎพระเจ้า"(อิติปิโส เรือนเตี้ย) แถมมีจีรวรหลวงพ่อแปะไว้เป็นที่ระรึก  องค์นี้เป็นเนื้อเงินครับ หมายเลข 203 ตั้งใจจะนำไปใส่ตลับเงินลงยา ไว้ทำเรียบร้อยแล้วจะนำมาให้ชมอีกรอบครับ ด้านหน้าที่เห็นดำเป็นร่อยรอยที่เกิดจากขั้นตอนการปั้มเหรียญครับ



36
พอดีเด็กๆแถวบ้านหิ้วมาฝาก :004:











37
พอดีเห็นที่ห้องทำงานเจ้านาย เลยขออนุญาตถ่ายมาให้ชมกัน ไม่แน่ใจว่าออกปีไหน เข้าใจว่าน่าจะปีประมาณ 253...กว่าๆ หน้าตัก 9 นิ้ว ใต้ฐานฝังเหรียญ ตามภาพครับ :003:



38
อิๆไม่มีอะไรครับ คือ 24 สิงหาคม 2553 นี้เป็นวันหยุดของผม เลยจะถือโอกาสไปกราบสรีระหลวงพ่อ และครูบาอาจารย์ ที่วัดบางพระ หลังจากที่ห่างหายไปนาน ไม่ทราบว่ามีจะใครไปบ้าง ยังงัยเจอกันทักทายกันได้นะครับ   :004:

39
พอดีเพิ่งได้เข้ามาใหม่อีก 2 เหรียญ เลยนำภาพมาแบ่งปันกันชม ภาพนี้เป็นภาพถ่ายของเจ้าของเดิม  เพิ่งได้มาสดๆร้อนๆ เหรียญแรกเพิ่งบุกไปรับมาไม่ถึงชั่วโมงเลย เหรียญที่ 2 รับมาเมื่อวานนี้เองซึ่งเหรียญจริงสวยกว่าในภาพครับ พอดีมีเวลาเลยนำมาแบ่งปันกันชม เพื่อเป็นรำลึกถึงหลวงพ่อของพวกเรา เชิญวิจารย์และติชมได้เต็มที่ครับ




40
พอดีเพิ่งได้เข้ามาใหม่ เลยนำมาแบ่งปันกันชม แม้สภาพจะสึกไปเยอะเพราะผ่านการใช้มาอย่างโชกโชน แต่ก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบ แววตายังมีอำนาจและดูดุดันเหมือนเสือเช่นเดิม เชิญติชมและวิจารณ์ได้เต็มที่ครับ รูปถ่ายอาจไม่ค่อยชัด ทนดูกันหน่อนนะครับ





41
พอดีเพิ่งได้มาใหม่ สดๆร้อน สภาพสวยกริ๊ปๆ ครับ ว่างๆเลยนำมาแบ่งปันกันชมครับ วิจารณ์และติชมได้เต็มที่ครับ






42
เหรียญนี้น่าจะจัดสร้างในปี 2520 โดยทางวัดโคกเขมา เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้างถวาย เพิ่งได้มาใหม่ เชิญวิจารณ์และติชมได้เต็มที่ครับ ฝีมือถ่ายภาพยังไม่ได้เรื่องเท่าไหร่ เดี๋ยวไว้มีงบซื้อกล้องและอุปกรณ์ใหม่ก่อน จะได้ถ่ายภาพได้สวยๆเหมือนคนอื่นเค้าบ้าง







43
พอดีเพิ่งได้เข้ามาใหม่ 3 รายการครับ เลยนำมาแบ่งปันกันชม

1.เหรียญฉลองพัดยศ (ท่านเจ้าคุณฯ)ปี 2537 ผิวไฟ




2.เหรียญสร้างหอสวดมนต์ ปี 2533



3.สมเด็จรุ่นสร้างสะพาน




เชิญวิจารณ์ และติชมได้เต็มที่ครับ


44
พอดีได้มาใหม่ เลยนำมาแบ่งปัน เป็นรูปหล่อเต็มองค์ นั่งขัดสมาธิ สร้างในปี 2530





45
ต้องรบกวนพี่หอมเชียง พี่อเมซซิ่ง และพี่ท่านอื่นๆที่มีความชำนาญฟังธงให้ด้วยครับ ไม่ต้องเกรงใจ








46
พอดีเพิ่งได้มาใหม่ เห็นเป็นรูปหลวงพ่อ ก็เก็บเข้ารังไว้ก่อน ไม่ทราบว่าออกปีไหน ใครทราบข้อมูลรบกวนด้วยครับ





47
พอดีได้มาใหม่ เลยนำมาแบ่งปันกันชม ลองมาทายกันซิว่า เป็นเสือจากที่ไหนครับ



48
พอดีเห็นเป็นรูปหลวงพ่อ เลยเก็บไว้บูชา แต่ไม่รู้ออกปีไหน ใครทราบข้อมูลช่วยให้ความกระจ่างด้วยครับ
ด้านหน้าครับ


49
พอดีเพิ่งรับเหรียญมาวันนี้เองครับ ต้องรบกวนสมาชิกทุกท่านช่วยฟันธงหน่อยครับ โดยเฉพาะพี่หอมเชียง และพี่อเมซซิ่ง ฟันธงให้หน่อยครับ   เพิ่งถ่ายรูปใหม่



Uploaded with ImageShack.us


Uploaded with ImageShack.us


Uploaded with ImageShack.us
[IMG=http://img139.imageshack.us/img139/8673/p1080661.jpg]http://[/img]

Uploaded with ImageShack.us


Uploaded with ImageShack.us

50
ไม่ทราบว่า รุ่นนี้ออกปีไหน เห็นรูปแบบเหรียญสวยงามดี เลยนำเข้าคลังไว้ เชิญติชมและวิจารณ์ได้เต็มที่ครับ



Uploaded with ImageShack.us


Uploaded with ImageShack.us

51


Uploaded with ImageShack.us


Uploaded with ImageShack.us


Uploaded with ImageShack.us

พอดีเพิ่งเก็บเข้ารังสดๆร้อนๆเมื่อวานนี้ เป็นอีกสายที่ผมศรัทธามากๆ เช่นกันครับ  คือรูปหล่อโบราณ(แต่วิธีสร้างโดยหล่อฉีดจากโรงงาน) หลวงพ่อทบวัดชนแดน รูปหล่อชุดเสาร์ห้า ปี 2516 ครั้งที่2 ของวัดชนแดนปี พ.ศ. 2516 รูปหล่อ 94 ปีรุ่นนี้ เป็นพระหล่อจากโรงงานโดยการฉีดหรือเทน้ำโลหะลงแม่พิมพ์พร้อมๆกันหลายๆองค์ มีนัดเล่นบางกลุ่มเรียกพระรุ่นนี้ว่าเป็นหล่อโบราณแต่จริงๆสร้างแบบหล่อฉีดจากโรงงาน เพราะว่าพระที่หล่อโบราณจริงๆต้องเทกันที่วัดทำด้วยฝีมือช่างชาวบ้านแท้ๆ....พระชุดนี้เมื่อเทเสร็จจากโรงงานก็จะมีการขัดด้วยผ้าขัดไฟฟ้าและยาขัดเพื่อตกแตกผิวพระให้เรียบลบมุมลบคมตามส่วนต่างๆเวลารูปพระชุดนี้จะลื่นมือไม่สดุดคมและบางองค์จะมีคราบยาแดงจับตามองค์พระยิ่งทำให้พระดูง่าย จากนั้นก็มีการเจาะรูที่ใต้ฐานเพื่อบรรจุเม็ดกริ่งแล้วก็อุดรูด้าวทองแดงแล้วขัดบัดให้เรียบอีที พระชุดนี้จะมีกาไหล่ทองด้วยและบางส่วนจะมีการบรรจุกล่องตราเพชรด้วยแต่หายากมาก บางส่วนก็ไม่ได้บรรจุกล่อง แล้วนำมาให้หลวงพ่อปลุกเสกที่วัดชนแดนเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2516
พระชุดนี้สร้างจริงจากโรงงานจะนวน 5000 องค์ นำเข้าพิธีจริงๆ 2500 องค์และทุกองค์จะตอกเลข 94 ใต้ฐานทุกองค์ หลวงพ่อปลุกเสกนาน2วัน แล้วนำพระชุดนี้ให้ประชาชนได้บูชาในวันที่ 7 เมษายน 2516 พระชุดที่บรรจุกล่องจะบรรจุกล่องกำมะหยีสีแดงที่กล่องจะมีอักษรเขีนยว่า พิธีเสาร์5 รูปหล่อกริ่งหลวงพ่อทบ วัดพระพุทธบาทชนแดน เพชรบูรณ์ 7 เมษายน 2516 และมีรูปเพชรประดับอยู่บนกล่อง ออกจากวัดราคา 150 บาท ขนาดองค์พระฐานกว้าง 1.5 เซนติเมตร สูง 2.5 เซนติเมตร เนื้อทองผสม....พระที่เหลืออีก 2500 องค์ ส่วนที่เหลือ 2500 องค์ยังอยู่ที่โรงานและทางวัดไม่ได้ดำเนินการใดๆจนกระทั้งมีคนกลุ่มหนึ่งไปเอาพระชุดนี้ออกมาจากโรงงานมาไว้เป็นสมบัติส่วนตัวและได้นำพระชุดนี้ออกวางแผงและออกจำหน่ายให้กับนักเล่นในพื้นที่จนหมดลงและพระชุดนี้ไม่ได้เข้าพิธีแต่อย่างใด  ฉะนั้นใครจะเล่นหรือสะสมพระชุดนี้ให้เลือกเฉพาะในองค์ที่ตอกโค้ต 94 เท่านั้นและหลีกเหลี่ยงพระที่ห่อหุ้มมาโดยเด็ดขาด  ปัจุบันมีพระชุดนี้เอาไปตอกโค้ตก็มีครับแต่ไม่เหมือน...โค้ต 94 แท้ๆต้องอยู่ในแป้นเดียวกันต้วเลขทั้งสองตัวจะอยู่ในระดับเดียวกันและดูแล้วจำเลข 94 ให้แม่นนะครับ
พระเสาร์ห้าชุดที่ 2 นี้ประกอบด้วนพระชุด 94 ปี  ของหลวงพ่อทบทั้งหมดทั้งเนื้อผง และแหวนลงยาธงชาติด้วย และพระชุดนี้จะมีการสร้างพิมพ์ฐานสูงเสาร์ห้าปี 2516 ด้วยครับพิธีเดียวกัน รวมทั้งเหรียญเสมาเนื้อทองเหลืองด้วยครับ.............สร้างในปี 2516 องค์ที่ผมได้มานี้อาจหย่อนความงามไปนิดนึ่ง แต่แท้ดูง่ายครับ เชิญวิจารย์และติชมได้เต็มที่ครับ


52
เหรียญที่ระลึกเปิดโรงพยาบาล (เนื้อเงิน) เชิญติชมได้เต็มที่ครับ




53
วันนี้มีของดีของขลังแห่งเมืองปทุมธานี มาฝากครับ เป็นลิงปิดตาของอาจารย์เฮง วัดบางขัน พุทธคุณเรื่องมหาอุด คงกระพัน แคล้วคลาดเป็นเยี่ยม




54
พอดีเพิ่งได้มาใหม่ สดๆร้อนๆ เลยนำมาแบ่งปันกันชม เชิญวิจารย์ติชมได้เต็มที่เลยครับ




55
พอดีเพิ่งไปรับตลับเงินลงยา (แบบสามห่วง) มาใหม่  สำหรับใส่หน้าเสือหลวงพ่อเปิ่น รุ่นแรกปี 2523 เลยนำมาแบ่งปันกันชม แต่เนื่องจากกล้องมันเป็นรุ่นเก่า ภาพออกมาเลยไม่ค่อยชัดเท่าที่ควร ติชมวิจารย์ได้เต็มที่ครับ  :005:


56
พอดีวันนี้มีเวลาว่าง ก็เลยหยิบกล้องมาถ่ายภาพมาให้ชมกัน เป็นเหรียญปืนไขว้ ปี 30 เนื้อทองแดง เหรียญได้รับความเมตตาจากพระอาจารย์ญา ท่านจารให้ ผมเพิ่งนำไปใส่ตลับเงินลงยามาใหม่ เพิ่งไปรับมาก่อนวันงานไหว้ครู เหรียญนี้ติดตัวผมตลอดตั้งแต่ปี 2537 และเป็นเหรียญที่เกิดประสบการณ์กับตัวเอง ทำให้ผมรอดพ้นจากคมมีด และกระสุนปืนมาได้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ผมเคารพศรัทธาและเลื่อมใสหลวงพ่อเปิ่นเป็นอย่างยิ่งครับ และผมก็เริ่มเก็บสะสมพระเครื่องและวัตถุมงคลของท่านเรื่อยมา ตามแต่กำลังที่ตัวผมจะหาเช่าได้ ติชมได้ตามสบายครับ

57
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ลองของ
« เมื่อ: 03 มี.ค. 2553, 12:45:58 »




พระ หนุ่มอ้างได้ว่าน "ไพลดำ" ช่วยให้หนังเหนียว ชวนเพื่อนพระลองของมีดกรีดแขนไม่เข้า เกิดแย่งมีดกันแล้วเสียหลัก มีดพลาดปักเข้าลิ้นปี่เกือบมิดด้าม หามส่ง รพ.ก่อนจะมรณภาพ คุมตัวพระมือมีดสึกดำเนินคดี..

เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 2 มี.ค. พ.ต.ท.ก้องพิทยา อภิรมย์ชวาล พงส.สบ.2 ปฏิบัติหน้าที่สารวัตรเวร สภ.เทพารักษ์ จ.นครราชสีมา รับแจ้งจากโรงพยาบาลด่านขุนทด ว่ามีพระสงฆ์จากวัดสำนักตะคร้อ ถูกแทงด้วยของมีคม ไปรักษาตัวตั้งแต่ช่วงดึกวันที่ 1 มี.ค. และมรณภาพในเวลาต่อมา จึงรุดไปตรวจสอบ

เบื้องต้นทราบว่าผู้ตายคือ พระภิกษุสุนันทา พงษ์สุวรรณ อายุ 44 ปี พระลูกวัดสำนักตะคร้อ เลขที่ 1 หมู่ 11 ต.สำนักตะคร้อ อ.เทพารักษ์ มีบาดแผลถูกแทงบริเวณเหนือราวนมซ้าย 1 แผล และร่องรอยของมีคมกรีดท่อนแขนซ้าย แต่ไม่มีบาดแผล จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ เวลาประมาณ 21.30 น. วันที่ 1 มี.ค. พระสุนันทา กับพระภิกษุเสถียร คำภีระ อายุ 55 ปี พระลูกวัดเดียวกัน และเป็นพระสหธรรมิกที่สนิทสนมกันมาก ได้คุยกันเรื่องของขลัง และอยู่ยงคงกระพัน

โดยพระสุนันทา อ้างว่ามีว่านไพลดำ ไว้ในครอบครอง มีสรรพคุณชวยให้หนังเหนียว อยู่ยงคงกระพัน จากนั้นได้ท้ากรีดแขนกัน โดยพระเสถียร เป็นคนกรีด ปรากฏว่าไม่เข้า แต่หลังจากนั้นมีการยื้อแย่งมีดกัน จนพระเสถียร เสียหลักล้ม ปลายมีดพลาดท่าไปเสียบเข้าที่หน้าอกพระสุนันทา จนเป็นแผลลึก พระสุนันทายังรู้สึกตัวดี ไม่โกรธเคืองพระเสถียร แถมบอกด้วยว่าของดีออกจากตัวแล้ว จากนั้นจึงช่วยกันนำตัว พระสุนันทา ส่งโรงพยาบาล แต่บาดแผลฉกรรจ์จึงมรณภาพในเวลาต่อมา

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นิมนต์พระเสถียร ไปให้พระพิพัฒน์ธรรมสาร เจ้าคณะอำเภอเทพารักษ์ เจ้าอาวาสวัดสำนักตะคร้อ ทำการสึก พร้อมกับแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงควบคุมตัวไว้เพื่อสอบสวนดำเนินคดีต่อไป.

****ที่มา หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ***

58
เป็นเหรียญที่สร้างแจกงานงานไหว้ครู ปี 33 เหรียญนี้เป็นเนื้อทองแดงครับ สุดยอดเหรียญประสบการณ์จนเป็นที่มาของรุ่น เสื้อเกราะครับ ติชมได้เต็มที่ครับ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วย เพิ่งได้มาใหม่



59
รบกวนสอบถามนิดหนึ่งครับ พ่อแก่ฤาษี รุ่นนี้สร้างปีไหนครับ

60
พอดีเพิ่งได้มาใหม่ สดๆร้อนๆ วันนี้ครับ เป็นผ้ายันต์ที่ทำด้วยผ้าขาวดิบ ขนาด 16 x 16 นิ้ว ดูแล้วน่าจะเป็นผ้ายันต์เขียนมือหรือเปล่าไม่แน่ใจครับ เห็นสภาพสวย เก่า แถมมีรูปหลวงพ่อขี่เสือ มีหนุมานแบกขาท่านไว้ทั้งสองข้าง เห็นแล้วชอบมากๆก็เลยคว้ามาเลยครับ ติชมวิจารย์ได้ตามสบายครับ[URL

=http://img715.imageshack.us/i/p1070728.jpg/][/URL]







[IMG=http://img33.imageshack.us/img33/3954/p1070727h.jpg][/IMG]

61
ต้องรบกวนท่านพี่หอมเชียง พี่อเมซซิ่ง และสายตรงทุกท่าน ที่วัดมีสร้างตะกรุดทองแดงแบบในรูปบ้างหรือป่าวครับ ชุดนี้เจ้าของเดิมบอกว่าเป็นปี 23 ไม่ทราบว่าจริงเท็จประการใดครับ รบกวนด้วยครับ


62
รบกวนพี่หอมเชียง พี่อเมซซิ่ง และสายตรงทุกท่าน บอกข้อมูลหน่อยครับ เหรียญรุ่นนี้สร้างปีไหนกันแน่ หนังสือบางเล่มบอกสร้างปี 2520 บางเล่มบอกสร้างปี 2532 เลยไม่แน่ใจว่าจริงๆแล้วเหรียญรุ่นนี้สร้างในปีใด และเนื่องในโอกาสอันใด ขอบคุณล่วงหน้าครับ


63
รบกวนศิษย์พี่ทุกท่าน อยากสอบถามว่าทางวัดบางพระได้จัดงานพิธีไหว้ครูครั้งแรกขึ้นในปีใดครับ เพื่อเป็นความรู้แก่ศิษย์รุ่นน้องๆอย่างผม และเป็นความรู้ของชาวบางพระต่อไปครับ ส่วนตัวเองไม่มีข้อมูลเลยแต่สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นปี 2533 เพราะผมไหว้ครูครั้งแรกในปี 2540 ได้ยินโฆษกประกาศว่าจัดงานพิธีไวห้ครูมาแล้วเป็นเวลา 7 ปี เลยไม่แน่ใจว่าถูกต้องหรือเปล่า รบกวนศิษย์พี่ทุกท่านและผู้ที่มีข้อมูลบอกกล่าวกันด้วยครับ

64
รบกวนพี่หอมเชียง พี่อเมซซิ่ง และสายตรงทุกท่าน ช่วยฟันธงหน่อย เหรียญนี้แท้หรือป่าวครับ



URL=http://img145.imageshack.us/i/37598892.jpg/][/URL]

65
พอดีเพิ่งได้มาใหม่ เลยนำมาแบ่งกันชมครับ สภาพผ่านการใช้มาบ้างจึงทำให้หย่อนงามไปบ้าง
เหรียญนี้เป็นอีกรุ่นที่มีประสบการณ์มาก ส่วนตัวผมเองรอดเจ็บ รอดตาย  เพราะนี้นี้มาหลายครั้ง
จึงยืนในความศักดิ์สิทธิ์ครับ  ใครยังไม่มีรีบหามาบูชาได้ เหรียญรุ่นนี้รับประกันแคล้วคลาด คงกระพัน เป็นเยี่ยม แขวนเดี่ยวได้สบายครับ





66
หลวงปู่สี ฉันทสิริ วัดเขาถ้ำบุญนาค อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์
 
          ประวัติหลวงปู่สี ฉันทสิริ ชาติภูมิ หลวงปู่สี ท่านเป็นชาวอำเภอรัตนะ จังหวัดสุรินทร์ ท่านเกิดเมื่อปีจอ พ.ศ.๒๓๙๒ ตรงกับสมัยของรัชกาลที่๔ ส่วนเกิด วัน เดือน ใด ท่านไม่เคยบอก เมื่ออายุ ๒๑ ปี ท่านถูกเกณฑ์เข้ารับราชการทหาร เมื่อปลดจากการเป็นทหารแล้วท่านก็มายึดอาชีพค้าวัว ค้าควาย และเป็นพรานอยู่แถว ช่องแค-ตาคลี ซึ่งแต่เดิมมีสภาพเป็นป่าดงดิบ และยังไม่ได้ตั้งเป็นอำเภอตาคลี เมื่อมีการใช้นามสกุลขึ้น ตระกูลของท่านก็ใช้นามสกุลว่า “ดำริ” ชีวิตตอนเป็นหนุ่ม ท่านเป็นคนจริงไม่เคยเกรงกลัวใคร

           หลวงปู่สี ท่านใช้ชีวิตความเป็นหนุ่มอยู่นานหลายปี จนกระทั่งบังเกิดความเบื่อหน่ายทางโลก จึงได้อุปสมบท โดยท่านบอกว่า ท่านบวชที่วัดบ้านเส้า อำเภอบ้านเส้า (อำเภอบ้านหมี่ ในปัจจุบัน) โดยมีพระครูธรรมขันธ์สุนทร เป็นพระอุปัชฌาย์ ส่วนคู่สวดท่านไม่ได้บอกว่ามีพระอาจารย์รูปใดบ้าง เมื่อบวชได้ระยะหนึ่งท่านได้เดินทางมาจำพรรษาอยู่ที่ ถ้ำเขาเสียบ เขตตำบลช่องแค อำเภอตาคลี เพราะว่าก่อนบวชท่านเคยอยู่ในเขตนี้มาก่อน

           หลวงปู่สี ท่านถือปฏิบัติในการออกธุดงค์ ตลอดเวลาที่ท่านยังมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง หลวงปู่สี ท่านบอกว่าท่านธุดงค์ไปทั่วประเทศไทย จากเหนือถึงใต้ ตะวันออกถึงตะวันตก ท่านไปมาทั้งหมดเคยธุดงค์ไปฝั่งประเทศลาว จำพรรษาอยู่ในประเทศลาวหลายปี ธุดงค์เข้าประเทศพม่าเลยไปประเทศอินเดีย ไปนมัสการสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา ท่านยังเล่าว่ามีอยู่ครั้งหนึ่ง ท่านธุดงค์ไปภาคเหนือ เพื่อจะไปนมัสการพระบาทสี่รอย เมืองเชียงตุง ประเทศพม่า ท่านเดินหลงป่าไม่ได้ฉันอะไรเลยเป็นเวลา ๗ วัน จนรุ่งเช้าของวันที่ ๘ มีช้างป่านำหัวบัว และอ้อยมาถวายท่าน (ไม่ทราบว่าเป็นเทวดา หรือว่าเทวานุภาพดลใจให้ช้างนำมาถวาย ?) ท่านจึงนำหัวบัวต้มกับน้ำอ้อยฉัน และช้างยังเดินนำทางท่านไปจนพบกับบ้านของชาวบ้านป่า ท่านเล่าว่า ท่านเดินธุดงค์อยู่ในป่าแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ พบชายหญิงกำลังกินอะไรกันอยู่ ท่านจึงเดินไปถามว่า ทำอะไรกันอยู่หรือ ทั้งสองก็ตอบหลวงปู่สีว่ากำลังกินยาอายุวัฒนะกันอยู่แต่หลวงพ่อมาช้าไป ยาหมดเสียแล้วจะมีเหลืออยู่ก็ตามใบไม้เท่านั้นเอง และทั้งสองคนก็เก็บยาที่ติดอยู่ตามใบไม้ให้ท่านฉัน ซึ่งมีอยู่เล็กน้อยเท่านั้น ท่านบอกว่าที่ท่านมีอายุยืนก็เพราะยานี้แหละ และยานี้ยังทำให้ท่านมีร่างกายแข็งแรง ไม่หลงลืมเหมือนคนแก่ทั่วๆไป

           ในการออกธุดงค์ของหลวงปู่สีนั้น หลานชายของท่านคนหนึ่งเคยติดตามไปด้วย ได้เล่าให้ฟังว่า ขณะนั้นยังเป็นสามเณรได้ติดตามหลวงปู่สีไปนมัสการพระพุทธบาทจังหวัดสระบุรี ค้างคืนที่พระพุทธบาท รุ่งเช้าพอฉันอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลวงปู่สีก็พาออกเดินทางกลับตาคลีทันที โดยหลวงปู่สีบังคับให้ผู้เล่าเดินออกหน้าตลอดเวลา หลวงปู่สีจะเป็นคนเดินท้ายปรากฏว่ามาถึงตาคลีเป็นเวลาฉันอาหารเพลพอดี ซึ่งระยะทางจากพระพุทธบาทมาถึงตาคลีให้เดินเก่งอย่างไร ก็ไม่สามารถที่จะเดินถึงได้ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งวัน แต่หลวงปู่สีพาเดินได้

           ในระหว่างที่เดินธุดงค์อยู่ทางภาคเหนือภาคอีสานนั้น หลวงปู่สี ท่านได้รู้จักกับพระเกจิอาจารย์ดังมากมาย อาทิเช่น หลวงปู่แหวน แห่งดอยแม่ปั๋ง เพราะมีคนจากตาคลีขึ้นไปกราบหลวงปู่แหวน แล้วหลวงปู่แหวนพูดถึงหลวงปู่สีให้เขาเหล่านั้นฟัง พ่อค้าในตลาดตาคลีชวนพวกรวม ๔ คนขึ้นไปกราบหลวงปู่แหวน เพื่อขอวัตถุมงคล แต่หลวงปู่แหวนไม่ยอมให้ โดยหลวงปู่แหวนบอกกับคนทั้งสี่ว่า ที่มากันนั้นดีๆ ไม่เอากัน มาเอากันถึงที่นี่ ทั้งหมดจึงถามหลวงปู่แหวนว่า ที่หลวงปู่พูดถึงน่ะหลวงพ่ออะไรครับ หลวงปู่แหวนจึงตอบว่าในคอพวกเอ็งก็ยังคล้องกันมาเลย ปรากฏว่าทั้ง ๔ คนที่ไปมีคล้องพระไปเพียงคนเดียว และพระที่คล้องไปคือเหรียญหลวงปู่สี เมื่อทั้งหมดกลับมาถึงตาคลีก็รีบพากันมาที่วัด เช่าเหรียญหลวงปู่สีกันเป็นการใหญ่ ทั้ง ๔ คนนี้ข้าพเจ้ารู้จักดี จะเขียนชื่อ นามสกุลลง แต่ก็ได้รับการขอร้องไว้

           ก่อนที่จะมาอยู่ที่วัดเขาถ้ำบุญนาค อำเภอตาคลีนั้น หลวงปู่สีท่านอยู่ที่วัดหนองลมพุก อำเภอโนนสังข์ จังหวัดอุดรธานี ในปีพ.ศ.๒๕๑๒ พระครูนิวิฐปริยัติคุณ พร้อมด้วยชาวบ้าน ได้พากันไปนิมนต์หลวงปู่สีให้มาอยู่ที่วัดเขาถ้ำบุญนาค เพื่อช่วยสร้างวัดให้เจริญ ซึ่งขณะนั้นมีเพียงกุฏิเก่าๆเพียงสองสามหลังเท่านั้น หลวงปู่สีท่านก็เต็มใจมา เนื่องด้วยเพราะท่านเคยอยู่ในแถบนี้มาก่อน ในวันที่คณะผู้จะไปนิมนต์หลวงปู่สีจะไปถึงนั้น หลวงปู่สีท่านทราบล่วงหน้าแล้วว่าจะมีคนไปนิมนต์ท่าน ท่านเก็บของเครื่องใช้จำเป็นรอเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว และสั่งที่วัดหนองลมพุกว่า วันนี้จะมีคนมารับให้ไปอยู่ที่ตาคลีเพื่อช่วยสร้างวัด ซึ่งก็เป็นไปตามที่ท่านบอกไว้ทุกประการ

           ในระยะแรกที่หลวงปู่สีมาอยู่ที่วัดเขาถ้ำบุญนาคนั้น ท่านจำพรรษาอยู่ที่กุฏิไม้ หลังเล็กๆหน้าปากทางขึ้นถ้ำ (ปัจจุบันรื้อไปแล้ว) ในขณะนั้นคนในตลาดตาคลียังไม่ค่อยมีใครรู้จักหลวงปู่สี และท่านก็ไม่ได้แสดงอิทธิฤทธิ์อันใดให้ใครรู้ วันหนึ่งๆท่านจะนั่งตะบันหมากฉัน การฉันหมากของท่านก็ไม่เหมือนใคร เพราะท่านไม่ได้ฉันเปลือกไม้ที่มีขายตามท้องตลาดเหมือนที่คนกินหมากทั่วไปซื้อมากิน หลวงปู่สี ท่านจะฉันแก่นไม้คูนแดงซึ่งจะมีคนตัดมาถวายตลอด ท่านจะนำมาฟันเป็นชิ้นๆ แล้วนำลงตำให้ละเอียดแล้วจึงฉันกับหมากแทนเปลือกไม้

           ในราวปลายปี พ.ศ.๒๕๑๓ ข้าพเจ้าได้ทราบจากเพื่อนว่า มีพระเป็นหลวงปู่แก่ๆ มาอยู่ที่วัดเขาถ้ำบุญนาค ข้าพเจ้าจึงชวนเพื่อนๆมาหา จุดประสงค์ที่มาหามิใช่ที่จะต้องการเครื่องรางของขลังแต่ประการใด แต่เพราะต้องการจะมาหาเลขเด็ด เพราะเพื่อนบอกว่าท่านบอกหวยได้แม่นยำมาก ในวันแรกที่มาหาท่านก็ไม่ได้แจกอะไรให้ แต่บอกใบ้หวยให้ ซึ่งหวยก็ออกตามที่ท่านบอก นับตั้งแต่นั้นมาข้าพเจ้าก็จะไปหาหลวงปู่สีเป็นประจำ อยู่มาวันหนึ่งข้าพเจ้าเห็นหลวงปู่สีมีอารมณ์ดี ข้าพเจ้าจึงถามหลวงปู่สีว่ามีของดีอะไรบ้าง ผมอยากจะได้เอาไว้ป้องกันตัว หลวงปู่สี ท่านขณะนั้นกำลังกินหมากอยู่ ก็คายชานหมากออกมาใส่ผ้าเหลืองที่ท่านใช้ทำเป็นผ้าขี้ริ้ว แล้วผูกส่งให้ข้าพเจ้าพร้อมทั้งบอกว่า”ห้ามแก้ออกนะ” หลวงปู่สี ท่านยังบอกอีกว่าหากใครเขาอยากยิงมึง มึงก็ถ่างก้นให้มันยิงเลย สามวันสามคืนก็ไม่ถูกมึง

           (คำพูดอันนี้มีนัยยะ คือคนที่เขามีของขลัง หรือสักยันต์กินว่าน ที่ว่าหนังเหนียวตีไม่แตกนั้น ถ้าจะฆ่าเอาชีวิตกันก็จะต้อง ใช้ไม้รวกทะลวงก้น เหมือนในเรื่องขุนช้าง-ขุนแผน ที่แสนตรีเพชรกล้า แม่ทัพเชียงใหม่ ฆ่าฟันเท่าไรก็ไม่ตายจนขุนแผนต้องเอาหลาวทะลวงก้นจึงถึงแก่ความตาย... หลวงปู่สี ท่านมีความมั่นใจมากในการอธิษฐานจิตของท่าน ถึงแม้คนที่ใช้ของๆท่านจะโดนยิงที่จุดตายจุดสำคัญก็ตาม ท่านรับรองว่าปลอดภัย)

ข้าพเจ้ารับมาแบบไม่ค่อยเชื่อถือเมื่อกลับถึงบ้านแล้วก็นั่งคุยกับเพื่อนๆถึงเรื่องนี้ ขณะนั้นมีพ่อค้าวัว-ควาย เป็นชาวปาทานอยู่ในตาคลีนั่งฟังอยู่ด้วย ซึ่งเขาบอกว่าเขาอยากลองยิงดู ข้าพเจ้ามอบชานหมากของหลวงปู่สีให้เขาไป เขานำไปคล้องคอไก่แล้วยิงปืนรีวอลเวอร์ ขนาด .๓๘ ระยะห่างประมาณ ๑ วาเศษเท่านั้น เขายิงหมดไป ๖ นัดไม่เคยถูกไก่เลย สักนัดเดียว ทั้งๆที่เขาเป็นคนที่ยิงปืนได้แม่นยำมากคนหนึ่ง นับแต่นั้นมาข้าพเจ้าจึงเชื่อถือใน ชานหมากหลวงปู่สี

           หลังจากที่ชาวป่าทานยิงไก่ได้ประมาณสัก ๑ อาทิตย์ ได้มีนายทหารอากาศกองบิน ๔ ชื่อ เรืออากาศโทครรชิต บัวอำไพ (ปัจจุบันยศนาวาอากาศเอก ข้าพเจ้าขอกราบประทานอภัยที่ต้องเอ่ยนามของท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วย) ได้มาคุยกับข้าพเจ้าเรื่องชานหมากของหลวงปู่สี ในลักษณะที่ท่านไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ที่จะยิงไม่ถูก ข้าพเจ้าจึงมอบชานหมากที่มีอยู่ให้ไป ๑ ก้อนเพื่อให้ไปทดลอง เที่ยงวันรุ่งขึ้น เรืออากาศโทครรชิตฯ ได้มาหาข้าพเจ้าที่บ้านพร้อมกับเพื่อนนายทหารอากาศอีก ๕-๖ คนโดยขอให้ข้าพเจ้าช่วยพาไปวัดหน่อย ต้องการจะได้ชานหมากอีก พร้อมทั้งเล่าให้ฟังว่า เมื่อได้รับชานหมากไปจากข้าพเจ้าแล้วจึงได้นำไปทดลอง โดยนำไปคล้องคอเป็ดแล้วยิง แต่ยิงเท่าไรก็ไม่ถูก ใช้ปืนถึง ๔ กระบอก และคนยิงก็เป็นมือปืนของกองบินทั้งนั้น ครั้นนำเป็ดออกเอาก้อนหินไปวางแทน ยิงก้อนหินกระเด็นเลย แต่ยิงเป็ดยิงเท่าไรก็ไม่ถูกเป็นที่มหัศจรรย์ใจมาก จึงพาเพื่อนทหารที่อยู่ในเหตุการณ์มาหาข้าพเจ้า เพื่อให้ช่วยพาไปพบหลวงปู่สี ซึ่งข้าพเจ้าก็พาไปพบ และก็ได้ชานหมากกันมาทุกคน ส่วนก้อนที่นำไปทดลองยิงเป็ดนั้น เรืออากาศโทครรชิตได้นำไปเลี่ยมทองคล้องอยู่จนทุกวันนี้

           หลังจากนั้นมาทหารอากาศกองบิน ๔ ตาคลี ต่างก็หลั่งไหลมาฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่สีอย่างมากมาย สถานีวิทยุกระจายเสียงทหารอากาศกองบิน ๔ ก็ออกอากาศเรื่องของหลวงปู่สีทุกวัน ทำให้หลวงปู่สีเป็นที่รู้จักกันทั่วไป และใครๆ ก็อยากได้ชานหมาก และวัตถุมงคลของหลวงปู่สี ทำให้หลวงปู่สีต้องเคี้ยวหมากแจกทั้งวัน ...... (ท่านสามารถอ่านเรื่องของหลวงปู่สี ฉันทสิริ วัดเขาถ้ำบุญนาค เพิ่มเติมได้ จากหนังสือ ”สู่แสงธรรม” ของท่าน พลอากาศตรี มนูญ ชมพูทีป (ยศเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๕) ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยงข้องกับหลวงพ่อฤาษีฯ ของเราด้วย ซึ่งที่ซอยสายลมยังมีวางจำหน่ายอยู่ครับ)

           กระผมขอกราบนมัสการ แทบเท้าหลวงปู่สี ฉันทสิริ ด้วยความเคารพอย่างสูง ธรรมใดที่ท่านบรรลุแล้ว ขอให้กระผมได้เข้าถึงธรรมนั้น โดยเร็วพลันด้วยเทอญ .....

           และกระผมขอกราบอาราธนาบารมี ของหลวงปู่สี ฉันทสิริ วัดเขาถ้ำบุญนาค หลวงพ่อฯ รวมทั้งครูบาอาจารย์ที่เคารพอย่างสูงทุกๆท่าน ได้โปรดคุ้มครอง ปกปักรักษาให้ทุกๆ ท่านโชคดี มีความสุข และได้บรรลุธรรมตามที่ท่านปรารถนาทุกประการ...ครับ

           ขออภัยครับ กระผมมีข้อมูลมาเพิ่มเติมอีกครับ เนื่องจากประวัติของหลวงปู่สี มีนักเขียนหลายท่านที่เขียนไว้ และแต่ละท่านก็อ้างว่าได้รับฟังมาจากหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค หรือศิษย์ที่รับใช้ใกล้ชิด มีทั้งส่วนที่คล้ายคลึงกัน และแตกต่างกันบ้าง เพื่อให้เรื่องของท่านมีความสมบูรณ์ กระผมก็ขอนำเรียนเสนอเท่าที่พบ หากข้อความใดไม่เป็นความจริง กระผมขอกราบแทบเท้าหลวงปู่สี ฉันทสิริ วัดเขาถ้ำบุญนาค กรุณาอดโทษให้แก่กระผมผู้รู้เท่าไม่ถึงการณ์ด้วยเถิดครับ...

           ท่านนักเขียนที่ใช้นามว่า เต๋อ บางตัน เล่าว่า

           หลวงปู่สี ท่านเกิดเมื่อ พ.ศ.๒๔๙๒ ในปลายสมัยรัชกาลที่๔ ที่ อ.รัตนะ จังหวัดสุรินทร์ ท่านใช้ชีวิตในวัยหนุ่มอย่างโชกโชน จนอายุ ๒๙ ปีจึงเข้ารับราชการเป็นทหารเรือ อยู่ในกรุงเทพฯหลายปี แล้วออกจากราชการ ไปมีอาชีพค้าวัวค้าควายอยู่ระยะหนึ่ง จวบจนอายุได้ ๓๙ ปี ก็เกิดความเบื่อหน่ายในโลกีย์วิสัย เห็นว่าชีวิตที่ผ่านมาไม่มีอะไรเป็นแก่นสาร ท่านจึงตัดสินใจทำการอุปสมบทที่วัดบ้านเส้า ซึ่งอยู่ใน อ.บ้านหมี่ในปัจจุบัน โดยมีพระครูธรรมขันธ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อบวชได้ประมาณ ๕ วันได้เดินธุดงค์มาจำพรรษาที่ถ้ำเขาไม้เสียบ ต.ช่องแค จ.นครสวรรค์ เป็นเวลา ๓ ปี

           ขณะที่อยู่ถ้ำเขาไม้เสียบนั้น ท่านพยายามฝึกฝนสมาธิจิต จนมีความกล้าแข็งพอสมควรแล้ว(แสดงว่าท่านพอมีพื้นฐานทางด้าน คาถาอาคม และการฝึกจิตมาตั้งแต่สมัยเป็นฆราวาส) ท่านก็ได้เริ่มออกเดินธุดงค์สู่สถานที่ต่างๆ พร้อมทั้งเสาะหาอาจารย์ที่เก่งกล้าในเวทย์วิทยาคมเพื่อขอศึกษาเล่าเรียน โดยเดินขึ้นเหนือบ้าง อีสานบ้าง บางครั้งก็เข้าประเทศลาว ท่านเคยเดินธุดงค์จากพม่าเข้าไปประเทศอินเดีย ถึง ๒ ครั้ง ท่านเคยหลงอยู่ในป่าดงดิบแถบประเทศพม่าหลายวัน โดยไม่ได้ฉันอาหารเลย จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่ด้วยสมาธิจิตที่กล้าแข็ง วันหนึ่งหลวงปู่สีก็เดินไปพบกับชาวบ้าน ๒ คนผัวเมียกลางป่า...

           สองผัวเมียนั้นบอกท่านว่า แถบนี้ไม่มีบ้านผู้คนอยู่เลยสักหลังเดียว อีกทั้งเสือ สาง ช้างป่า ก็ชุกชุม มีคนหลงป่าตายในป่าแถบนี้หลายรายแล้ว พร้อมทั้งมอบยาให้ท่าน ๑ เม็ด บอกว่าเป็นยาสมุนไพร ปรุงจากรากไม้หลายชนิด เมื่อฉันแล้วจะทำให้อายุยืน ร่างกายแข็งแรง และทำให้ไม่หิวข้าว หิวน้ำ เมื่อท่านลองฉันดูก็เป็นจริงดังที่ชาวบ้าน สองผัวเมียบอก จึงคิดจะขอบใจแต่ปรากฏว่าหายไปแล้ว จึงรู้ว่าที่แท้แล้วเป็นเทวดามามอบยาทิพย์ให้ท่านนั่นเอง เพราะแถบนั้นไม่มีบ้านคน ซึ่งจากยาที่ท่านฉันนี่เองกระมัง ท่านจึงมีอายุยืนยาวถึง ๑๒๘ ปี

           เมื่อพบกับเทวดาแล้ว ท่านก็เดินหาทางออกจากป่าลึก ไม่นานก็พบกับช้างป่าโขลงใหญ่ ท่าทางดุร้าย แต่แปลกที่ช้างทั้งหมดคุกเข่าลงชูงวงแสดงความเคารพหลวงปู่สี เป็นที่อัศจรรย์ ท่านจึงขึ้นขี่คอช้างจ่าฝูง ให้มันพาออกจากป่าไปส่งที่ชายแดนพม่า ชาวบ้านป่าเห็นเข้าก็ตกอกตกใจกันใหญ่ ถามว่าเพราะเหตุใดช้างป่าจึงไม่ทำร้าย เพราะช้างป่าโขลงนี้ ปกติหากพบคน ไม่ว่าชาวบ้านหรือพระธุดงค์ มักจะเหยียบจนตาย แต่มันไม่ทำอะไรหลวงปู่สีทั้งยังพากันมาส่งถึงชายป่า ท่านก็ไม่ว่ากระไร หัวเราะหึๆ แล้วเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรเลย

           คราวหนึ่งมีชาวบ้านตาคลีเดินทางไปกราบนมัสการหลวงปู่แหวนที่วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ พอหลวงปู่แหวนรู้ว่ามาจากตาคลี ท่านก็ไล่ให้กลับ บอกว่า “มีเพชรอยู่ในบ้าน ยังไม่รู้จักอีก หลวงปู่สีน่ะ เป็นอาจารย์ของฉันเอง ฉันจะเก่งกว่าท่านได้อย่างไร” ชาวบ้านกลุ่มนั้นก็เดินทางกลับตาคลี มากราบหลวงปู่สีถามถึงเรื่องนี้ว่า จริงเท็จประการใด หลวงปู่ฯเล่าว่าหลวงปู่แหวนมาฝากตัวเป็นศิษย์ของท่านนานแล้ว ก่อนที่จะเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์มั่น โดยท่านพบกับหลวงปู่แหวนที่จังหวัดเลย ขณะนั้นหลวงปู่แหวนยังเป็นพระหนุ่มๆ อยู่

           หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า กับหลวงปู่สีมีความสนิทสนมกันมาก บางครั้งหลวงปู่สีจะมาจำพรรษาที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า และแลกเปลี่ยนวิชาบางอย่างกัน วิชาของทั้งสองท่านจะมีลักษณะคล้ายๆ กัน เช่น การย่นระยะทาง การเสกใบไม้ เป็นต้น หลวงปู่ศุขมีอายุมากกว่าหลวงปู่สีประมาณ ๒ ปี ฉะนั้นหลวงปู่สีจึงมักเรียกหลวงปู่ศุขว่า หลวงพี่

           หลวงปู่สี เล่าให้ศิษย์ฟังว่า ในวันออกพรรษาท่านมักจะออกจากวัดที่ท่านจำพรรษา เพื่อธุดงค์ต่อไปที่อื่นๆ ในคราวที่จำพรรษาอยู่ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่านั้น หลังจากออกพรรษาแล้วหลายวัน ท่านก็คิดว่าจะเดินธุดงค์ต่อไป แต่หลวงปู่ศุขขอให้ท่านรั้งอยู่ที่วัดก่อนรอให้ท่านกลับมาแล้วค่อยไป แต่ท่านอาจจะเห็นว่าเลยกำหนดมาหลายวันแล้ว พอหลวงปู่ศุขออกบิณฑบาต ท่านก็เก็บของ แล้วออกเดินทางทันทีไม่ยอมอยู่ตามคำขอ เมื่อหลวงปู่ศุขกลับจากบิณฑบาต ถามพระเณรในวัดก็รู้ว่าหลวงปู่สีไปแล้ว ท่านจึงสั่งให้พระเณรฉันข้าวไปก่อน แต่ให้ฉันรอท่านด้วย แล้วหลวงปู่ศุขก็เข้ากุฏิหอบเอาคัมภีร์ไสยศาสตร์ ๓ เล่มตามหลวงปู่สีไป ปรากฏว่าไปทันกันที่อ.ตาคลี จึงมอบคัมภีร์ทั้ง ๓ เล่มให้หลวงปู่สี แล้วจึงกลับมาที่วัด ปรากฏว่าพระเณรที่วัดเพิ่งฉันข้าวได้ไม่กี่คำเท่านั้น ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะระยะทางจากวัดปากคลองมะขามเฒ่า ไปอ.ตาคลี ประมาณ ๔๐-๕๐ กิโลเมตร นั่งรถยนต์ยังต้องใช้เวลาเกือบชั่วโมง แสดงว่าหลวงปู่ศุขใช้วิชาย่นระยะทาง พวกลูกศิษย์ก็ถามหลวงปู่สีว่า ชั่วเวลาที่หลวงปู่ศุขไปบิณฑบาต หลวงปู่สีเดินจากวัดปากคลองมะขามเฒ่ามาถึงตาคลีได้อย่างไร ท่านนิ่งไม่ตอบ แล้วล้มตัวลงนอนทันที ลูกศิษย์เลยไม่กล้าซักต่อ

           หลวงปู่สีท่านเดินธุดงค์ไปหลายจังหวัด หลายประเทศเกือบตลอดระยะเวลาที่ท่านบวช จนท่านอายุได้ประมาณ ๙๐ ปี ครั้งสุดท้ายท่านไปสร้างวัดหนองลมพุก อ.โนนสังข์ จ.อุดรธานี ท่านพระครูนิวิฐปริยัติคุณ (สมบูรณ์) จึงไปนิมนต์ท่านลงมาช่วยสร้างวัดเขาถ้ำบุญนาค ซึ่งตอนนั้นยังเป็นสำนักสงฆ์ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๒

           หลวงปู่สี ท่านเป็นพระที่ไม่สะสม ไม่ยึดติดในความสะดวกสบาย ท่านอยู่กุฏิไม้เก่าๆ หลังเล็กๆ ท่านพระครูฯเจ้าอาวาสจะสร้างกุฏิหลังใหม่ให้ แต่ท่านไม่ชอบ บอกว่าจะไม่ไปอยู่ พอช่างก่ออิฐเสร็จจะฉาบปูน ปรากฏว่าตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงฉาบไม่ติด จนต้องเลิก พระรักษ์ซึ่งเป็นพระอุปัฏฐากของหลวงปู่สีจึงไปเรียนถามหลวงปู่สีว่า ทำไมไปแกล้งช่างปูน หลวงปู่สีว่าท่านไม่ได้แกล้งเพียงแต่ท่านไม่อยากอยู่กุฏิใหม่ พระรักษ์จึงบอกว่า หากหลวงปู่ไม่อยากอยู่ก็ไม่เป็นไร ให้ช่างปูนเขาสร้างให้เสร็จเถิด หลวงปู่สี จึงบอกให้ช่างมาทำใหม่ และทำเสร็จในวันนั้น แต่ท่านก็ไม่เคยใช้เลย จนท่านมรณภาพแล้ว จึงนำร่างของท่านบรรจุในโลงแก้ว แล้วประดิษฐานไว้ที่กุฏิ

         ประวัติ ชานหมาก หลวงปู่สี  วัดถ้ำเขาบุญนาค
URL=http://img132.imageshack.us/i/p1060762.jpg/][/URL]

   ในยุคแรกที่หลวงปู่สีท่านมาอยู่ที่วัดเขาถ้ำบุญนาคนั้น (พ.ศ.๒๕๑๒) ทางวัดยังขาดแคลนปัจจัย เรื่องเงินในการสร้างวัดเขาถ้ำบุญนาคเป็นจำนวนมาก ในช่วงปี พ.ศ.๒๕๑๓ คุณณัฐพันธุ์ เหลืองบำรุง ได้เข้ามากราบและขอของวิเศษจากหลวงปู่สี ท่านจึงคายหมากออกมาให้ หลังจากที่ได้รับก็ในไปทดลองยิงกัน จนเป็นที่โจทย์ขานในพุทธคุณด้านคงกระพันชาตรี และคลาดแคล้ว ยิงไม่โดน ยิงไม่เข้า ข่าวแพร่กระจายในวงกว้าง สืบเนื่องจากมีการถ่ายทอดกระจายเสียง ออกทางวิทยุตาคลี กองบิน๔ ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาที่วัดเขาถ้ำบุญนาค เพื่อขอชานหมากหลวงปู่กันอย่างหนาแน่น ทางคณะกรรมการวัดจึงมีมติเห็นตรงกันว่า จะใช้ชานหมากที่ท่านเคี้ยวและแจกแก่คนทั่วๆ ไปที่มากราบไหว้ท่านนั้น ตั้งเป็นทุนค่าเช่าบูชา โดยเขียนด้วยชอล์กไว้ที่กระดาน ข้างฝาข้างห้องหลวงปู่สี ข้อความว่า

  
ชานหมากหลวงปู่
แบบอัดกรอบรูปละ ๒๕ บาท
ไม่อัดกรอบคำละ ๑๕ บาท
สมทบทุนสร้างพระอุโบสถร่วมกันกับหลวงปู่
นายสง่า สุขผล กรรมการ
(ที่มา:หนังสือหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค ฉบับสมบูรณ์ โดยคุณวิษณุ บุญธรรม และ คุณตะวัน ศุภกรวิวรรธน์ ภาคผนวก หน้า ๓๓๗)

ชานหมากห่อจีวร หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค เลี่ยมพลาสติก ขนาดประมาณ 2.5 ซม.


67
พอดีผมประสบการณ์เกี่ยวกับความศักดิ์ของหลวงพ่อเปิ่น มาเล่าสู่กันฟัง เรื่องนี้เกิดขึ้นกับผมเอง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม 2552 ที่ผ่านมา เนื่องจากในวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม 2552 ทาง LENSO ได้จัดงานแข่งขันฟุตบอลระหว่างชมรมผู้ใช้รถยนต์ขึ้น โดยมี 8 ชมรมส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขัน มี วีออส แลนด์เซอร์มาเนีย ฮอนด้าแจ๊ส ยาลีส มาสด้า3 นิววีออส ฯ ในงานครั้งนี้มีการจับฉลากแจมของรางวัลมากมาย ซึ่งรางวัลใหญ่จะเป็นแม็กซ์รถยนต์ 1 ชุด จำนวน 4 ล้อ ในงานมีเข้าร่วมลงทะเบียนประมาณ 200 กว่าคน เริ่มจับรางวัลประมาณ 1 ทุ่ม ซึ่งผมไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย ก็มีแจกของรางวัลเล็กๆน้อยๆ เช่น ร่ม เสื้อยืด ผ้าเบรก นาฬิกา จนกระทั่งมาถึงรางวัลใหญ่ เมื่อพิธีกรประกาศจะจับรางวัลใหญ่ ผมซึ่งนั่งอยู่กับเพื่อนๆในคลับ พอได้ยินเสียงพิธีกรจะจับรางวัลผมก็เอามือกุมพระเครื่องที่ผมแขวนติดตัวเป็นประจำ คือเหรียญหน้าเสือ รุ่นแรก ของหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ ผมอธิฐานโดยพูดออกมาดังๆให้เพื่อนๆได้ยินว่า ขอให้ลูกได้รางวัลด้วยเถอะ ซึ่งพอพิธีกรจับรางวัลและประกาศว่าผู้ที่ได้รางวัลอยู่ใน แลนด์เซอร์มาเนีย ผมและเพื่อๆที่นั่งอยู่ก็ลุกขึ้นเพื่อลุ้น และพอพิธีกรบอกว่า คนที่ได้รางวัลมีบ้านอยู่บางเขน ผมมั่นใจว่าต้องเป็นผมแน่นอน ผมจึงชูมือเดินตรงเข้าไปตรงจุดที่จับรางวัล และเมื่อพิธีกรบอกเลขท้ายเบอร์โทรศัพท์มือถือ 1885 ผมยิ่งมั่นใจว่าเป็นผมชัวร์ๆเลย จึงเฮด้วยความดีใจ พิธีกรจึงถามชื่อซึ่งผมก็บอกชื่อตัวเองไป ปรากฏว่าเป็นผมจริงๆ ซึ่งได้รางวัลล้อแม็กซ์ LENSO ขนาด 17 นิ้ว 1 ชุด 4 วง โดยให้เลือกลายได้ตามใจชอบ ซึ่งโดยส่วนตัวผมเชื่อว่านี่คือบารมีและความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อเปิ่น จึงทำให้ผมได้รางวัลนี้
 

คนที่ใส่เสื้อดำนั่นแหละครับ คือผมที่ได้รางวัล

68
พอดีได้มาใหม่ เห็นศิลป์สวยดี ฝีมือแกะเยี่ยม ไม้ก็เก่าได้อายุ แถมมีรอยจารยันต์รอบตัวรวมทั้งใต้ฐาน จึงเก็บมาไว้ศึกษา ท่านใดทราบที่รบกวนบอกด้วยครับ ติชมและวิจารย์ได้เต็มที่ครับ :002:






69
พอดีเพิ่งได้มาใหม่ครับ เป็นตะกรุด 9 ชั้นหลวงพ่อประเทือง วัดหนองยางทอย เพชรบูรณ์ ขนาดยาว 5 นิ้ว ข้างในเป็นเนื้อตะกั่ว+ทองแดง+ทองเหลือง (สามกษัรติย์) เมื่อส่องด้วยกล้องขยายจะเห็นรอยจารด้านในครับ เลยนำมาแบ่งเป็นกันชม





70
พอดีเพิ่งได้มาใหม่ เลยนำมาแบ่งปันกันชมครับ รูปเหมือนรุ่นแรก พิมพ์พุทธกวัก เป็นเนื้อกะหลั่ยทองสร้างเมื่อปี 2524 ซึ่งตอนนั้นหลวงพ่อประเทืองท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดเทพประทานพร  ซึ่งที่ก้นขององค์พระจะอุดด้วยเทียนชัย ผงพุทธคุณและเส้นเกศาของหลวงพ่อ เป็นพระเครื่องอีกรุ่นที่มีประสบการณืมาก ซึ่งตอนนี้เริ่มหายากแล้วครับใครที่พบเห็นแล้วอย่าให้หลุดมือไปครับเก็บไว้ต่อไปจะหายาก
ด้านหน้า

ด้านหลัง



71
พอดีเพิ่งได้มาใหม่ ต้องรบกวนท่านพี่อเมซิ่ง ท่านพี่หอมเชียง และสายตรงทุกท่านช่วยฟันธงด้วยครับ ว่าผ่านหรือเปล่าครับ เอาแบบไม่ต้องเกรงใจนะครับ ผมยอมรับได้ทุกความเห็นครับ
ด้านหน้า

ด้านหลัง

ซูม





72
พอดีเพิ่งได้มาใหม่ เลยเอามาแบ่งกันชมครับ เป็นเนื้อเงินลงยาครับ สร้างเมื่อปี 2543 ด้านหน้าตอกโค๊ตตัว ส (ภาษาขอม)




73
เหรียญรุ่นแรก ปี 2508 หลวงพ่อเก๊า วัดเกาะแรต อ.ดอนตูม ซึ่งท่านเป็นพระยุคเดียวกับ หลวงพ่อเต๋ คงทอง หลวงพ่อเก๊า ท่านเก่งเรื่องคงกระพัน พระของท่านราคาไม่แรง แต่พุทธคุณสุดยอดครับ ถ้าเจออย่าให้หลุดมือไป องค์นี้ผ่านการใช้มาบ้าง พระจึงสึกๆไปนิด และผมได้แช่ครีมเพื่อล้างคราบสนิมออกนิดหน่อย


และสุดท้ายเป็นตะกรุดหนังเสือ ของวัดบางพระครับ ขนาดยาว 2 นิ้วพอดี มีจารที่สแตนเลส ดูแล้วน่าจะเป็นรอยมือจารของอาจารย์ญาครับ


74
พอดีเพิ่งได้เหรียญหลวงพ่อประเทืองมาใหม่ เป็นเหรียญกงจักร รุ่น 1 ซึ่งเป็นอีกรุ่นที่มีประสบการณ์ด้านคงกระพัน



75
เพิ่งได้มาใหม่ ไม่แน่ใจว่าเป็นรุ่นไหนเห็นว่าสวยแท้และไม่แพงเลยจับมาครับ



76
ถามพี่หอมเชียง ลุงอเมซิ่ง ล็อกเก็ตรุ่นนี้ทันหลวงพ่อหรือป่าว



77
พอดีได้เหรียญหลวงพ่อ รุ่นแรกปี 19 มาแต่ไม่แน่ใจว่าแท้หรือเปล่า  โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่าน่าจะดี
แต่ไม่มั่นใจ เพราะได้จับของแท้มาไม่มาก  จึงต้องมารบกวนสมาชิกผู้เชี่ยวชาญเหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อเปิ่น
โดยเฉพาะลุงอเมชซิ่งครับ รบกวนด้วยครับ
ด้านหน้าครับ

ด้านหลังครับ

ขอบเหรียญครับ




79
เพิ่งได้มาใหม่ครับ เหรียญเสมา 8 รอบ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
องค์นี้พิเศษ ตรงที่ ตอก 2 โค๊ต คือ 1.โค๊ตตัวนะ 2.โค๊ตศาลา  ซึ่งแจกเฉพาะกรรมการ
สภาพสวยแชมป์  ว่างๆเลยเอาแบ่งกันชมครับ


81
เขี้ยวเสือครับ อันนี้เคยเอามาโชวร์แล้วครั้งนึง ตอนนี้ไปใส่กระเช้าเงินมาใหม่
เลยเอามาแบ่งกันชมครับ เลยมือจารของพระอาจารย์ชิน วัดบางสมัคร


82
ถ้าเคยมีใครลงไว้แล้ว ต้องขออภัยด้วยครับ
คาถานะโมตาบอด ของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ชัยนาทครับ
พุทธคุณ ดีทางมหาอุด แคล้วคลาดปลอดภัยครับ
 ตั้งนะโม 3 จบก่อน แล้วว่า
"นะตันโต นะโมตันติ
 ตันติตันโต  นะโมตันตัน"

83
เป็นเขี้ยวหมีแกะเป็นเสือ สร้างโดยหลวงพ่อนก วัดสังกะสี ศิษญืหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย
เพิ่งได้มาใหม่ สดๆร้อนๆ สวยจารยันตืทั้งตัว มียันต์ตุ๊กตา หรือยันต์พระพุทธ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ ของหลวงพ่อนกครับ
สภาพผ่านการใช้มาบ้าง ขนาดยาวประมาณ 3 นิ้วครับ


84
เสือเนื้องาแกะ หลวงปู่จ้อย วัดศรีอุทุมพร นครสวรรค์ครับ

85
ว่างๆ เลยนำพระเครื่องของหลวงพ่อเปิ่น มาแบ่งให้คนอื่นชมบ้าง

86
รูปหล่อโบราณ หลวงพ่อทบ วัดชนแดน ปี 2505 พิมพ์หัวไม้ขีด
องค์นี้ได้มาใหม่ สภาพถือว่าพอสวย เนื้อทองผสม ผิวหิ้ง
เก่า แท้ดูง่าย สบายตา ครับ
**ติชมและวิจารย์ได้ครับ** :004:
ด้านหน้า[



87
มีดหมอหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ด้ามงา ฟักงา เล่มนี้ได้มานานแล้วครับ
เก็บไว้กับตัวตลอดเวลา สภาพพอสวย แหนบเหน็บกระเป๋า หักไปแล้ว
ที่ด้ามงาจารยันต์ "พระเจ้าอมโลก" (นะโมพุทธายะ) ยันต์มหาอุด "อุดธัง อัดโธ" แล้วก็ "นะมะพะทะ"
ที่ด้ามจารยันต์ "นะอิสวาสุ"
ดูกันเอาเอง




88
สิงห์สาริกา หลวงพ่อเดิมวัดหนองโพ พิมพ์ปากนกแก้ว
เพิ่งได้มาใหม่ สภาพผ่านการใช้มาบ้าง งาดูแห้ง ฉ่ำ ดูง่าย
ธรรมชาติของงา เมื่อเก่าจะมองเห็นเป็นเสี้ยน หรือเป็นเส้นตามแนวยาวของงา


[IMG]

89
หน้าผากเสือหลวงพ่อเปิ่น รุ่นแรก ออกปี 2523 เพิ่งได้มาใหม่ครับ
เจ้าของเดิมเลี่ยมพลาสติก 3 ห่วงไว้แล้ว
ด้านหน้า



ด้านหลังครับ



90
พอดีได้มาใหม่ 2 เขี้ยวแกะเป็นเสือพิมพ์หลวงพ่อปานเรียบร้อยครับ
เอามาแบ่งกันชม ใจอยากจะเอาไปให้อาจารย์ญาลงอักขระเลขยันต์ให้ แต่ยังไม่มีโอกาสไป












91
เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับตนเอง ผมเป็นลูกศิษย์วัดบางพระและเริ่มสักตั้งแต่ปี 2540 โดยสักหลวงพี่แป้วยันต์แรกที่ได้คือ ยันต์เก้ายอด
สาริกา งบน้ำอ้อย ยันต์แม่ทัพ เสือคู่ ซึ่งตั้งแต่สักยันต์เก้ายอดตอนที่หลวงพี่แป้วสวดครอบยันต์นั้นรวดสึกว่ามีกระแสความร้อนผ่านจากมือท่านวิ่งเข้าสู่ร่างกาย และจะเป็นอย่างนี้ทุกครั้งที่สักยันต์ และสิ่งที่ทำให้ผมเชื่อและศัทธาในบารมีของหลวงพ่อเปิ่น และหลวงพี่แป้วมากก็คือ ตอนที่สักยันต์เสือเผ่นที่หน้าอก  โดยปีนั้นเป็นปีขาลพอดี หลวงพี่นัดให้ผมไปสักในวันอังคาร โดยท่านบอกว่าของถึงจะเข้าตัว แรงและขลัง ผมก็ไปตามที่ท่านบอก พอสักเสร็จตอนที่หลวงพี่เป่าครอบให้ โดยผมนอนหงายอยู่ใต้โต๊ะที่หลวงพี่สัก พนมมือหลับตารับพลัง ก็ปราฏำเหมือนทุกครั้งคือมีกระแสความร้อนแผ่ออกมาตามมือหลวงพี่ไหลเข้าสู่ตัวผม สักพักตัวผมเริ่มสั่น แล้วในขณะที่ผมหลับตานั้นผมเห็นเป็นภาพเสือดำตัวใหญ่กระโจนเข้าตรงหน้าผากของผม วิ่งเข้าแขนทั้งสองข้างและวิ่งลงขา ทำให้ตัวผมร้องออกเป็นเสียงเสือ กางมือกางแขนออก ตัวผมรู้สึกตัวนะว่ามีของผมแต่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ผมร้องอยู่จนหลวงพี่เป่าเสร็จแล้วใช้มือตีที่หน้าอกผมเบาๆ แล้วบอกว่าโยมเสร็จแล้ว ....และจากนั้นมาผมจึงเชื่อมั่นให้คาถาและรอยสักที่ปรากฎอยู่ที่ตัวผมว่าความศักดิ์สิทธิ์ ผมจึงเคารพและนับถือในองค์ของหลวงพ่อเปิ่น หลวงพี่แป้ว ตลอดจนอาจารย์สักที่วัดบางพระมากๆ และเชื่อว่าได้รับการประสิทธิ์ประสาทเรื่องคาถาอาคมจากหลวงพ่อเปิ่นจนครบทุกองค์ครับ 
   จากศิษย์หลวงพ่อ

หน้า: [1]