ผู้เขียน หัวข้อ: วันเด็กแบบ"พระๆ"ของ...หลวงพ่อเลิศและหลวงพี่โอ๋  (อ่าน 1000 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ umpawan

  • ก้นบาตร
  • *****
  • กระทู้: 3112
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์วัดบางพระ
    • ดูรายละเอียด
เมื่อ ผ่านพ้นเทศกาลเฉลิมฉลองในช่วงปีใหม่ ก็ถึงคิวของวันมหัศจรรย์ของเด็กๆ นั่นคือ "วันเด็กแห่งชาติ" ที่ถูกกำหนดให้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒ ของเดือนมกราคมของทุกปี โดยในปี ๒๕๕๓ นี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๙ มกราคม ๒๕๕๓ ถนนทุกสาย เปิดพื้นที่ให้เด็กๆ หรือร่วมกันทำกิจกรรม ในแต่ละชุมชนเพื่อเด็กๆ จัดบรรยากาศเพื่อเด็ก ๆ เพลงเด็ก ๆ ของขวัญเพื่อเด็ก ๆ ฯลฯ



กิจกรรมต่าง ๆ ที่ปฏิบัติในวันเด็กแห่ง ชาติ  ล้วนมีจุดประสงค์ไปในทิศทางเดียวกัน คือ "เพื่อให้เด็กได้ตระหนักถึงคุณค่าบทบาท และความสำคัญของตนเอง โดยการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้น ในโรงเรียน หมู่บ้าน หรือหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน"

ภาพของสถานที่จัดงานวันเด็กที่คนคุ้นตา ส่วนใหญ่จะเป็นสถานที่ราชการและภาคเอกชน แต่ที่ อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม สถานที่จัดงานวันเด็กกลับกลายเป็นวัด  และที่สำคัญยิ่งกว่านั้น คือ เจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ได้จัดงานวันเด็กติดต่อกันมาเป็นเวลากว่า ๑๐ ปี จนกลายเป็นว่า เมื่อวันเด็กมาถึง เด็กๆ ทุกคนในบางคนทีและอำเภอใกล้เคียง ก็จะไปรวมตัวกันที่วัดแห่งนี้
วัด ดังกล่าว คือ วัดปราโมทย์ หมู่ที่ ๒ บ้านบางสะแก ต.บ้านปราโมทย์ อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม ซึ่งมี พระครูปลัดปริยัติวรวัฒน์ หรือ หลวงพ่อเลิศ เจ้าคณะตำบลบ้านปราโมทย์ เป็นเจ้าอาวาส

ส่วนวัดอีกแห่งหนึ่ง คือ วัดแค ต.รั้วใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งมี พระครูปลัดธรรมวงศานุวัตร (สมศักดิ์ กตวฑฺโน) หรือ พระครูโอ๋ เป็นเจ้าอาวาส แม้ว่าจะเป็นปีแรก แต่มีเด็กมาร่วมงานเกือบ ๑,๐๐๐ คน

  “ในจำนวนเด็กที่มาร่วมงานเกือบ ๔,๐๐๐ คน อาตมาไม่ได้หวังอะไรมาก เพียงแค่เด็กไปพูดต่อๆ กันว่า วันเด็กปีนี้ไปเที่ยววัดปราโมทย์ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว ซึ่งเมื่อถึงวันเด็กก็ เป็นอย่างที่ตั้งไว้จริงๆ นอกจากนี้แล้ว พระไม่ให้แล้วใครจะให้ เรากินข้าวกินขนมของพ่อแม่เด็กและชาวบ้านมากว่า ๓๖๕ วัน น้ำ ไฟ จีวร รวมทั้งปัจจัยสี่ ล้วนได้มาจากศรัทธาของพ่อแม่เด็กทั้งสิ้น เมื่อทุกอย่างได้มาจากศรัทธาชาวบ้านปีหนึ่งๆ เราเลี้ยงอาหารเด็กซึ่งเป็นลูกของชาวบ้านไม่ได้เชียวหรือ เลี้ยงเพียงวันเดียวมันจะหนักหนาสาหัสอะไร ที่สำคัญคือ อย่างน้อยพระก็ได้ใจเด็ก ทำให้เด็กกล้าเข้าหาพระ กล้าเข้าวัด โดยไม่ตะขิดตะขวงใจ”  นี่คือความตั้งใจและจุดประสงค์ของ หลวงพ่อเลิศ



ส่วนกิจกรรมบนเวที โดยเฉพาะการตอบปัญหาเกี่ยวกับวันเด็กของวัดปราโมทย์นั้น หลวงพ่อเลิศ บอกว่า ตั้งแต่จัดงานวันเด็กมา ไม่เคยตั้งคำถามเด็กว่า คำขวัญวันเด็กของ นายกรัฐมนตรีว่าอย่างไร เพราะคำขวัญของนายกรัฐมนตรีเปลี่ยนทุกปี ในปีถัดไปก็ต้องท่องใหม่และจำใหม่ แม้ว่าคำขวัญของนายกรัฐมนตรีจะเป็นคำขวัญที่ดี แต่ที่ดียิ่งกว่าและเทียบกันไม่ได้เลย คือ ธรรมของพระพุทธเจ้าที่ไม่เคยเปลี่ยนเลย ทั้งนี้ จะถามเด็กอยู่ ๓ อย่าง คือ ๑.ให้กล่าวคำแสดงตนเป็นพุทธมามกะ ๒.กล่าวคำอาราธนาศีล และ ๓.สวดมนต์บทอิติปิโส ทั้งนี้คนทั่วๆ ไปอาจจะมองเป็นเรื่องยาก แต่เด็กอนุบาลที่มาร่วมงานส่วนใหญ่ท่องได้ นอกจากแจกรถจักรยาน ของเล่น ขนม และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ แล้ว ยังมอบทุนการศึกษาอีกประมาณ ๒๐๐,๐๐๐ บาท ให้กับโรงเรียน ๑๓ แห่ง

 พร้อมกันนี้ หลวงพ่อเลิศ  ยังบอกด้วยว่า  อยากให้แนวคิดการจัดงานวันเด็กของวัดและพระของวัดปราโมทย์เป็นต้นแบบของวัดต่างๆ ในการจัดงานวันเด็ก อาจจะเริ่มจากเล็กๆ ก่อน เช่น พระมาตักไอศกรีมแจกเด็กๆ หรือแจกสมุดเล็กๆ น้อยๆ หากมีกำลังก็จัดให้ใหญ่ขึ้น ถ้าเป็นไปได้อยากให้วัดจัดงานวันเด็กวัด ละ ๑ อำเภอ ทั้งนี้อยากให้แนวความคิดดังกล่าวขยายออกไป ได้นิมนต์พระสงฆ์ที่รู้จักกว่า ๑๐ วัด มาดูงาน เผื่อว่าในปีต่อๆ ไป ท่านจะไปเริ่มจัดงานวันเด็กที่วัดบ้าง ในปีแรกๆ พระอาจจะเหนื่อยหน่อย แต่เมื่อญาติโยมเห็นว่า พระทำจริง ทำเพื่อลูกหลาน ญาติโยมก็จะมาช่วยเอง ทั้งปัจจัยและกำลัง




อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปีนี้เป็นปีแรกของการจัดงานวันเด็ก ที่วัดแคแต่ก็มีพ่อแม่ผู้ปกครองพาเด็กมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก

 หลวงพี่โอ๋ บอกว่า ครั้งแรกเตรียมของขวัญไว้ให้เด็ก ๕๐๐ ชิ้น เช่น จักรยาน ๕๐ คัน ตุ๊กตาแบบต่างๆประมาณ ๑๐๐ ตัว พัดลม ๕๐ ตัว รวมทั้งขนมขบเคี้ยวต่างๆ แต่เมื่อถึงวันงานจริงๆ ปรากฏว่า มีเด็กมาร่วมงานเกือบ ๑,๐๐๐ คน จึงต้องเพิ่มของขวัญอีก แม้ว่าไม่ได้ตามจำนวนเด็กที่มาร่วมงาน แต่ก็เชื่อว่า อย่างน้อยก็สร้างรอยยิ้ม และความสุขให้เด็กๆ และผู้ปกครองได้ไม่น้อย

 ความสำเร็จในครั้งนี้ ในวันเด็กปีหน้าและต่อๆ ไป ก็จะจัดอีก ทั้งนี้จะเพิ่มกิจกรรมบนเวทีเกี่ยวกับพุทธศาสนา รวมทั้งให้พระในพื้นที่มีบทบาทในการจัดงานให้มากยิ่งขึ้น





สำหรับปัจจัยที่นำมาจัดงาน และซื้อของขวัญแจกเด็กๆ นั้น หลวงพี่โอ๋ พูดไว้อย่างน่าคิดว่า “ไม่ใช่ปัจจัยของอาตมาสักบาทเดี๋ยว หากเป็นปัจจัยของญาติโยมที่มาทำบุญที่วัดทั้งสิ้น โดยเฉพาะจากผู้ที่มาทำบุญถวายสังฆทานให้กับทารกที่คลอดก่อนกำหนด นอกจากเดินทางไปมอบเป็นทุนการศึกษาตามโรงเรียนต่างๆ แล้ว ส่วนหนึ่งจะแบ่งไว้จัดงานวันเด็กที่วัด เมื่อญาติโยมทำบุญมาอาตมาก็ไปสร้างบุญต่อ”



ขอบคุณที่มาจาก ๐ เรื่อง ไตรเทพ ไกรงู  ๐ ๐ ภาพ ประเสริฐ เทพศรี ๐  คมชัดลึก ขอบคุณครับ


ออฟไลน์ ชินฺนปญฺชร

  • ปัญจมะ
  • *****
  • กระทู้: 131
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - chinapat_a@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
โมทนาสาธุด้วยครับ
นะเมตตา โมกรุณา พุทปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู แก่ข้าพเจ้าที่แท้จริง นะมะพะทะ ทะพะมะนะ