ตถตาอาศรม เขาเรดาร์ บ้านบึง ชลบุรี
๑๓ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๔
ห่างหายไปหลายวันต้องกลับมาลับสมองใหม่
เขียนบทกวีเรื่อยไป เป็นกาพย์ เป็นกลอน เพื่อให้ไม่ลืม
ภาษาและฉันทลักษณ์ รักษาและสืบทอดไว้ในภาษาที่สวยงาม
...จากภูผาสู่นาครตอนที่สอง...
หลีกหนี สังคม วุ่นวาย
มุ่งหมาย ความเงียบ สงบ
หลบหน้า ผู้คน ไม่พบ
แอบหลบ อยู่ตาม ภูดอย
สัญจร รอนแรม เรื่อยเรื่อย
ยามเหนื่อย หยุดพัก รอคอย
แสงแดด แผดร้อน ซ่อนรอย
แสงคล้อย จึงออก เดินทาง
ร้อยป่า ร้อยภู พันผา
ข้ามมา เพื่อสู่ โลกกว้าง
ศรัทธา ไม่เคย เจือจาง
หนทาง สายนี้ ยาวไกล...
...วันหนึ่ง ต้องออก จากป่า
ค้นหา ซึ่งเส้น ทางใหม่
เรียนรู้ ชีวิต ต่อไป
เพื่อให้ เข้าถึง หลักธรรม
ผัสสะ คือสิ่ง กระทบ
ต้องพบ อยู่ทุก เช้าค่ำ
ชีวิต มีกิจ ต้องทำ
ชี้นำ หนทาง ให้คน
ชี้ทาง ชี้โทษ ชี้ทุกข์
ประยุกต์ เข้ากับ เหตุผล
ส่งเสริม สิ่งเป็น มงคล
เหตุผล ที่ต้อง ออกมา...
...ไม่ว่า จะอยู่ ที่ไหน
ขอให้ ตั้งจิต รักษา
สำรวม กายจิต วาจา
รักษา จิตใจ ให้เย็น
ใจเย็น ใจนิ่ง ใจสุข
หมดทุกข์ จากสิ่ง ที่เห็น
วางใจ วางจิต ให้เป็น
ใจเย็น ใจนิ่ง..นิพพาน....
...เชื่อมั่นและศรัทธา...
...รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม..
๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๔ เวลา ๑๔.๐๕ น. ณ ตถตาอาศรม เขาเรดาร์ บ้านบึง ชลบุรี