ผู้เขียน หัวข้อ: เล่นพระแพง ต้องช้ำใจภายหลัง...  (อ่าน 868 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ suwatchai

  • การนิ่งเงียบต่อคนโง่คนสามหาว เป็นทางยาวสู่เกียรติที่ใฝ่ฝัน ทั้งรักษาในศักดิ์ศรีเป็นเกราะกัน ไม่หุนหันฉันท์หมาวัดที่จัญไร เราจงดูราชสีห์น่าเกรงขาม ทุกผู้นามเกรงกลัวได้ไฉน ไม่เคยเห่าเคยหอนไล่ผู้ใด แล้วไซร้ใยมีเกียรติเป็นราชันต์...
  • สมาชิกที่ถูกแบน
  • **
  • กระทู้: 241
  • เพศ: ชาย
  • Death Is Beautiful & Sweet ....
    • MSN Messenger - suwatchai.com@windowslive.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ก่อนอื่น ลองพิจารณาดูตัวอย่างที่ผมจะยกมาให้ดูต่อไปนี้นะครับ....

คุณสมชายเป็นนักสะสมพระเครื่อง มีเงินใช้จ่ายคล่องมือเพราะเป็นเจ้าของโรงงานเฟอร์นิเจอร์ส่งออก คุณสมชายชอบสะสมพระเครื่อง ชอบสมาคมกับนักเลงพระ และเป็นคนที่ชอบดื่มพอสมควร มันเป็นเรื่องธรรมดาที่คุณสมชาย ย่อมมักจะสวมบทบาทเป็นเจ้ามือเลี้ยงข้าวเสมอเมื่อเวลาที่ไปเข้าร่วมสนทนาอยู่ในกลุ่มเพื่อนฝูง อันเป็นการแสดงออกถึงความเป็นผู้มีน้ำใจของคุณสมชาย

คุณสมชายเช่าพระองค์เป็นแสน นับเป็นเรื่องธรรมดาเหลือเกินในบรรดาเพื่อนฝูงที่รู้จักกัน แต่การที่เช่าในราคาเป็นแสนนั้น ก็ใช่ว่าเขาจะหลับตาเช่าสุ่มสี่สุ่มห้าแต่อย่างใดไม่ ความละเอียดถี่ถ้วนและความน่าเชื่อถือของพระแต่ละองค์จะต้องได้รับการตรวจสอบจากบรรดาเพื่อน ๆ ที่รักชอบพอกันอยู่เสมอ แต่คุณสมชายดันมีข้อเสียตรงที่ว่าเป็นคนเจอลูกยอไม่ได้ เขาเป็นคนใจอ่อนต่อคำป้อยอ บางครั้งจึงมักได้ของแพงจนเกินไป คุณสมชายสะสมพระเครื่องอยู่หลายปี พอมาก ๆ เข้า คิดรวมกันก็เป็นเงินก็หลายสิบล้านอยู่

แต่แล้ววันดีคืนดี กิจการที่คุณสมชายประกอบการอยู่ ได้เกิดปัญหาติดขัดเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ขึ้นมาซะนี่ คุณสมชายก็มานั่งคิดว่าพระเครื่องที่เช่ามาสะสมอยู่นั้น มากมายอยู่ เห็นทีจะต้องปล่อยออกเพื่อเอาเงินมาหมุนซะบ้างแล้ว

เมื่อคิดหาทางออกเช่นนั้นแล้ว คุณสมชายก็แวะเวียนไปหาเพื่อนฝูงที่เคยคบค้าสมาคมกันเพื่อจะให้เป็นธุระช่วยปล่อยของให้หน่อย ซึ่งเพื่อนฝูงบางคนก็ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดีทีเดียวเพราะคุณสมชายถือได้ว่าเป็นกัลยาณมิตร แต่ในขณะที่บางรายก็บ่ายเบี่ยงตอบปฏิเสธแบบบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น  แต่ที่น่าช้ำใจสุด ๆ ก็เห็นจะเป็นคำตอบที่ว่าพระที่หอบไปให้ดูนั้น มันบอกว่าผิดพิมพ์ ซึ่งคำว่า " ผิดพิมพ์ " ก็หมายถึง " พระเก๊ " นั่นเอง คุณสมชายก็ยั๊วลมออกหูซีครับ เพราะพระเหล่านั้น ล้วนซื้อมาจากพรรคพวกกันแถมไอ้คนที่บอกว่าผิดพิมพ์ก็อยู่ในกลุ่มซะด้วย อีตอนที่ซื้อก็ไม่เห็นว่ามันจะบอกว่าผิดพิมพ์ซะหน่อย พอคุณสมชายโวยวายมากเข้า มันก็บอกว่า " พิมพ์นี้เขาไม่นิยมกัน " เขานิยมพิมพ์อื่น ตกลงว่าคุณสมชายกว่าจะปล่อยพระกะเอาเงินมาหมุนหน่อยก็เล่นปลงไปเลย

คุณสมชายขายพระที่สะสมไว้หลายปีออกไปค่อนกรุ ได้เงินกลับมาไม่ถึงล้าน คุณสมชายเป็นพ่อค้า ถ้าคิดแบบพ่อค้าก็ถือว่างานนี้ขาดทุนป่นปี้

ข้อเตือนใจจากตัวอย่างคุณสมชายที่อยากจะบอกบรรดานักซื้อ นักนิยมสะสมพระเครื่องทั้งหลายว่าราคาซื้อขายพระเครื่องนั้น  ขึ้นอยู่กับกระแสของท้องตลาดเป็นสำคัญ ถ้าหากจะคิดซื้อพระมาเพื่อเก็งกำไรนั้น ย่อมเป็นเรื่องยาก  แต่หากสะสมเพื่อใจรักและเชื่อในพุทธคุณขององค์พระ เช่าหรือแลกเปลี่ยนในหมู่ก๊วนที่ชอบเหมือน ๆ กัน ย่อมสบายใจกว่า...