ผู้เขียน หัวข้อ: พระอริยะน่ะ เขาดูจริยาไม่ได้  (อ่าน 1191 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ★แดนพระนิพพาน★

  • ◕‿◕★พุทธะสถานบวรพระรัตนะตรัย ชัยยะสถาน ทิพย์พิมาน พระโพธิญาณ อวตารสถิตย์★◕‿◕
  • ทุติยะ
  • **
  • กระทู้: 26
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด

พระอริยะน่ะ เขาดูจริยาไม่ได้ พระอริยะนี่ถ้าดูจริยาภายนอกผิดหมด เพราะพระอริยะนี่เป็นคนใจเปิด ถ้าเป็นพระอรหันต์เมื่อใดก็ดูเหมือนเด็ก ๆ ตอนเด็ก ๆ
หรือก่อนบวชเป็นยังไง ท่านจะใช้จริยานั้นเพราะเป็นพระไม่มีการผูกอีกต่อไป จึงไม่มีมายานิสัยเดิม ๆ เป็นยังไง พระอริยะก็ใช้นิสัยนั้น
ท่านปล่อยตามสบายเพราะจิตท่านไม่มีอะไร

อย่าง พระสารีบุตร ท่านไปกับพระพุทธเจ้ากับพระสงฆ์ พอถึงลำรางพระองค์อื่น ๆ ค่อย ๆ ย่อง ๆ ไป พระสารีบุตรขัดเขมร
โดดแพล๊บนั่นพระอัครสาวกเบื้องขวานะ ภายหลังมีพระถามพระพุทธเจ้าว่า “ทำไมพระอัครสาวกเบื้องขวาจึงขัดเขมรโดด”
พระพุทธเจ้าบอก

“อย่าไปว่าท่านเลย ลูกตถาคตไม่มีอะไรหรอกก็มาจากลิง” แล้วก็มี พระอีกองค์หนึ่งท่านเป็นแม่ทัพมาก่อน
พอเป็นพระอรหันต์แล้วท่านก็อยู่ในป่า ท่านรบของท่านองค์เดียวก็เอาไม้เล็ก ๆ นี่มันหักแล้วมาตัด มาวางตั้งเป็นกองทัพ
ไอ่นี่เป็นเมือง ไอ่นี่ตั้งเป็นกำแพงเมือง ไอ่นี่เคลื่อนทัพมาทางนี้ ข้าศึกมาทางโน้น และก็ทัพนั้นตี ตีอยู่คนเดียว เล่นง่วนอยู่องค์เดียว
 ตีไปตีมาในที่สุดพระย่องมาเห็นเข้า จึงไปฟ้องพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าบอก “ลูกตถาคตเป็นพระอรหันต์แล้วไม่ไปตีกับใครหรอก ก็ตีอยู่แค่นั้นแหละ”
น่ากลัวจะเป็นต้นตระกูลหมากรุกนะ นี่เห็นไหม กลับไปเป็นสภาวะเดิมหมด องค์นี้เขายังนึกถึงนิสัยของสภาวะเดิม เพราะสิ่งนั้นมันไม่เป็นพิษเป็นภัยกับท่าน
ที่ท่านเล่นตีไปตีมาอย่างนั้นน่ะ ท่านก็มองดูว่ามันไม่เป็นเรื่องตีกันเพื่อประโยชน์อะไร

บ้านก็แตก เมืองก็แตก แล้วแต่ แต่ละคนก็ตายไปหมด เรียกว่าทุกคนมีอำนาจวาสนาก็ตาย ตายไปแล้วเอาอะไรไปได้หรือเปล่า
แล้วก็ทำให้ชีวิตมนุษย์ตาย ทำให้คนลำบาก ใช่ไหม...ไม่เกิดประโยชน์ นี่ท่านเห็นความไม่เป็นเรื่องเป็นราวของชีวิต
ทีนี้ที่คุณถามว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่า พระองค์นั้นองค์นี้เป็นพระอริยะ ถามคนอื่นมันจะถูกรึ ถ้าหากว่าคุณกินแกง
แล้วถามคนอื่นว่าเค็มไหมวะ ... เผ็ดไหมวะ...เขาจะรู้ไหม ?


จากหนังสือธัมวิโมกข์ฉบับรวมเล่มปีที่ ๒ วัดท่าซุง
   
พุทธะสถานบวรพระรัตนะตรัย ชัยยะสถาน ทิพย์พิมาน พระโพธิญาณ อวตารสถิตย์...สมบัติใดในโลกก็ไม่เท่าธรรมะ...ด้วยอานิสงส์ในการเผยแผ่ธรรมทานในครั้งนี้ขอให้ข้าพเจ้าได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้เถิด