ผู้เขียน หัวข้อ: อานิสงส์ การทำบุญด้วยแสงไฟ (ถวาย เทียนเข้าพรรษา)  (อ่าน 8626 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ★แดนพระนิพพาน★

  • ◕‿◕★พุทธะสถานบวรพระรัตนะตรัย ชัยยะสถาน ทิพย์พิมาน พระโพธิญาณ อวตารสถิตย์★◕‿◕
  • ทุติยะ
  • **
  • กระทู้: 26
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
อานิสงส์ การทำบุญด้วยแสงไฟ (ถวายเทียนเข้าพรรษา)
โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง



นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)

                        อัตตา หิ  อัต ตโน  นาโถ     โก หิ นาโถ ปโร  สิยา
                        อัตตา  หิ  สุทันเตนะ           นาถัง  ลภติ  ทุลลภัง  ตี ติ
   
               

           ณ  โอกาส บัดนี้ อาตมาจะแสดงพระสัทธรรมเทศนา  ในความเป็นมาของพระอนุรุทธ  เพื่อเป็น เครื่องโสรจสรงองค์ศรัทธาบารมี  แก่บรรดาท่านพุทธ ศาสนิกชนทั้งหลาย  ที่มาบำเพ็ญกุศลในวันนี้

          สำหรับวันนี้  ตรง กับวันที่  14  กรกฎาคม  2535  เป็นวันอังคาร ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8  เราก็เรียกกันว่าวันจะเข้าพรรษา  บางวัดก็เข้าพรรษาวันนี้  บางวัด ก็เข้าพรรษาวันพรุ่งนี้  แต่สำหรับวัดท่าซุงเข้า พรรษาวันนี้  เป็นอันว่าวันนี้  บรรดา ท่านพุทธบริษัททั้งหลาย  ทำบุญมีอานิสงส์  2  ประการด้วยกัน  คือ

          1.  ถวาย เทียนเข้าพรรษา
          2.  ถวาย ผ้าไตร  หรือผ้าวัสสิกสา แก่บรรดาพระสงฆ์


          ทั้งสองอย่างนี้มีอานิสงส์ไม่ เหมือนกัน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่างแรก  ถวายเทียนเข้าพรรษาจะเทศน์วันนี้  สำหรับ อานิสงส์ถวายผ้าไตรจะเทศน์วันพรุ่งนี้ ถ้าวันนี้ไม่จบ

พระอนุรุทธ

          เป็นอันว่าเมื่อองค์สมเด็จพระ สัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่  ณ  เชตวันมหาวิหาร  องค์สมเด็จพระพิชิตมารบรมศาสดาสัมมา สัมพุทธเจ้า ทรงปรารภพระอนุรุทธ ความจริงพระอนุรุทธนี่เป็นพระอนุชาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  อนุชานะไม่ใช่อาชานะ  อนุชานี่เขา แปลว่าน้อง  อาชาแปลว่าม้า  เป็น น้องพระพุทธเจ้า คือว่าเป็นลูกของอา  ในตระกูลมีอยู่  2  คน  คือ  ท่านมหานาม  1  สอง พระอนุรุทธ

         ในสมัยเมื่อพระพุทธเจ้าทรงบรรลุ อภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว  ท่านท้าวมหานามก็ปรารภ กับน้องชายว่า  เวลานั้นท้าวมหานามเป็นพระมหา กษัตริย์  ตระกูลอื่นเขาก็มีคนบวชกันหมดแล้ว  ตระกูลของเรายังไม่มีใครบวช  ถ้า ยังงั้นขอให้น้องเป็นพระราชาต่อไป  พี่จะบวช  พระอนุรุทธก็บอกว่า  การเป็นพระ ราชาทำยังไง  เวลานั้นพระราชาต้องทำนาเหมือนกัน  ก็ต้องเลี้ยงทหาร  เขาบอกว่า  ตอนต้นปีก็ไถนาแล้วก็หว่าน  พอ ปลายปีก็เกี่ยวข้าวเอาเข้าฉาง  ต้นปีไถนาแล้วก็หว่าน  ปลายปีเกี่ยวข้าวเข้าฉาง  แบบนี้ เรื่อยไปตลอดชีวิต พระอนุรุทธถามว่า  ไอ้การทำนานี่ ไม่มีการเลิกรึ  ท่านมหานามบอก เลิกไม่ได้  พระอนุรุทธก็บอกว่า  ถ้ายังงั้น พี่อยู่เถอะฉันบวชเอง  ก็ไปชวนเพื่อนอีก 4 คนบวช


เป็นผู้เลิศในทิพจักขุญาณ

        เมื่อบวชเข้ามาแล้วก็ปรากฎว่า  พระอนุรุทธเจริญพระกรรมฐานไม่ช้าไม่นานนัก  วันเข้าพรรษาวันนี้ก็ได้บรรลุอรหัตถผลพร้อมไปด้วยทิพ จักขุญาณ  เป็นพระวิชชาสาม ต่อมาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตั้งพระอนุรุทธเป็นผู้เลิศในทิพจักขุ ญาณ  นั่นหมายความว่า  พระ อรหันต์นี่มี 4 ขั้น  ตัดกิเลสได้เหมือนกัน แต่ความสามารถไม่เท่ากัน คือ

        1.  สุกขวิปัสสโก  ตัดกิเลสได้ แต่ไม่มีจิตเป็นทิพย์  ไม่สามารถเห็นผี นรก สวรรค์ ได้

        2.  เตวิชโช  อย่างนี้สามารถมีจิตเป็นทิพย์  เห็นสวรรค์ได้ นรกได้ เปรตได้ อสุรกายได้ เห็นอะไรก็ได้ และสามารถระลึกชาติได้

        3.  ฉฬภิญโญ  สำหรับหมวดนี้เหาะเหินเดินอากาศได้  แปลง ได้  เนรมิตได้

         4.  ปฏิสัมภิทัปปัตโต  ปฏิสัมภิทาญาณ  มี ความฉลาดมาก

          ฉะนั้น  สำหรับ พระอนุรุทธเป็นพระอรหันต์ขั้นวิชชาสาม  แต่ความจริง พระอรหันต์ขั้นวิชชาสามนี่ความจริงต้องอ่อนกว่าทุกอย่าง  อ่อน กว่าฉฬภิญโญ  ฉฬภิญโญก็คืออภิญญาหก  แต่ ว่านี่ท่านเข้มแข็งในด้านทิพจักขุญาณ  จะพิสูจน์ใน สมัยองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้านิพพานเวลานั้น เวลาที่พระพุทธเจ้านิพพาน  พระอนุรุทธเข้าฌานตาม  พระ อรหันต์ตั้งสองแสนองค์ ไม่สามารถจะเข้าฌานตามได้  ไม่ รู้จิตใจของพระพุทธเจ้าว่าเวลานี้อยู่ที่ไหน  แต่ สำหรับพระอนุรุทธติดตามได้

           พระอานนท์เข้าไปสะกิดถาม  หลวงพี่  เวลานี้พระพุทธเจ้าอยู่ ที่ไหน  ไปนิพพานหรือยัง  ใน ขณะที่ท่านจะเข้านิพพานท่านเข้าสมาธิเต็มที่  ไอ้การ เข้าสมาธิเต็มที่นี่ บรรดาพุทธบริษัทบางทีเขานึกว่าหัวใจหยุดเต้น  ความจริงไม่หยุด  มันเต้นเบาลม หายใจน้อย บางคนคิดว่าไม่มีลมหายใจ  ท่านก็บอกว่า  เวลาที่พระพุทธเจ้าอยู่ที่ฌาน 1 บ้าง  ฌาน 2 บ้าง  ฌาน 3 บ้าง  ฌาน 4 บ้าง  ในอรูปฌานบ้าง  แล้ว เลื่อนมาในฌาน 4 ของรูปฌาน นิพพานตอนนั้น

           นี่จะเห็นว่าพระอนุรุทธชื่อว่า เป็นผู้เลิศในทิพจักขุญาณ  เลิศจริง ๆ ทั้งนี้เพราะอะไร  เพราะว่าองค์สมเด็จพระจอมไตรบรม ศาสดากล่าวว่า  กล่าวถึงประวัตินะ ตอนนี้ยังไม่นิพพาน  ท่านบอกว่า  พระ อนุรุทธนี่ในสมัยชาติก่อนชอบทำบุญด้วยแสงไฟ

           ก็อย่างที่บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท ทั้งหลาย บูชาเทียนเข้าพรรษานี่แหละ บูชาเทียนเข้าพรรษาบ้าง  ช่วยค่ากระแสไฟฟ้าบ้าง  ช่วยน้ำมันตะเกียง บ้าง  อย่างนี้เป็นต้น เป็นเรื่องให้เกิดแสงไฟ  ให้เกิดแสงสว่างขึ้น  พระอนุรุ ทธชอบทำอย่างนี้  ทุกวาระถึงปีถึงเวลาเข้าพรรษาก็นำ เทียนเข้าพรรษาถวายตามวัด  วันละหลาย ๆ วัด  เป็นการบูชาให้แสงสว่าง  ฉะนั้น มาชาติหลังสุด  อานิสงส์ถวายเทียนเข้าพรรษา  แสงไฟ  จึงได้ทิพจักขุญาณเป็นเลิศ กว่าพระอรหันต์ทุกองค์

ด้วยอานิสงส์ในการให้ธรรมทานในครั้งนี้ขอให้ข้าพเจ้าได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุปันนี้เถิด

เคดริตจากเว็บ www.kaskaew.com
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 ก.ค. 2553, 11:53:21 โดย guidekung »
พุทธะสถานบวรพระรัตนะตรัย ชัยยะสถาน ทิพย์พิมาน พระโพธิญาณ อวตารสถิตย์...สมบัติใดในโลกก็ไม่เท่าธรรมะ...ด้วยอานิสงส์ในการเผยแผ่ธรรมทานในครั้งนี้ขอให้ข้าพเจ้าได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้เถิด

ออฟไลน์ NONGEAR44

  • นวมะ
  • ****
  • กระทู้: 669
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - en2005f@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
ขอบคุณครับที่ให้ความรู้