ผู้เขียน หัวข้อ: สะสมบารมี  (อ่าน 1104 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ NONGEAR44

  • นวมะ
  • ****
  • กระทู้: 669
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - en2005f@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
สะสมบารมี
« เมื่อ: 25 ส.ค. 2553, 01:15:58 »
  สาร์ทจีน เป็นประเพณีอย่างหนึ่ง ซึ่งตามความเข้าใจเดิมนั้น มีดังต่อไปนี้

ตามความเข้าใจเดิม

ไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ ไหว้วิญญาณพเนจร

ไหว้เจ้า เจ้าคืออะไร คือเทพ แล้วไหว้เจ้ากันนั้น ไหว้ด้วยอะไร ด้วยของเซ่นต่างๆ
เป็นต้น เพื่ออะไร เพื่อความเจริญของคนที่ไหว้

ไหว้บรรพบุรุษ ไหว้เพื่อแสดงความกตัญญู ไหว้ด้วยอะไร ด้วยของเซ่นต่างๆ มี

เป็ด ไก่ ขนม และกระดาษเงิน กระดาษทอง เป็นต้น เพื่อให้บรรบุรุษได้รับสิ่งต่างที่

ลูกหลานทำให้

ไหว้วิญญาณพเนจร ด้วยของเซ่นต่างๆ เพื่อให้เขาได้รับอาหาร ด้วยความเข้าใจว่า

เป็นวันประตูนรกเปิด เป็นต้น
ความเข้าใจที่ถูกต้องในทางพระพุทธศาสนา (สาร์ทจีน)

การไหว้เจ้า

ไหว้เจ้า เจ้าคืออะไร คือ เทพ เทพต้องการอาหารแบบมนุษย์ไหม หรือมีอาหารทิพย์อยู่

แล้ว ไม่ต้องให้อาหารมนุษย์ก็ได้ ( ดังข้อความในพระไตรปิฎก พรหมเทวสูตร )

การบูชาเทพคืออย่างไร คือ ทำกุศลอุทิศผลบุญที่เราทำให้ ชื่อว่าบูชาเทพ ( ข้อความ

ใน ปาฏลิคามิยสูตร )

การที่เราจะเจริญไม่เจริญ อยู่ที่กุศลใช่ไหม ( สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของๆ ตน )

ระลึกถึงเทพอย่างไรจึงจะถูกต้อง การได้เกิดเป็นเทพ เป็นผลมาจากกุศลกรรม และ

คุณธรรมของเทพนั้น ก็มี ศรัทธา ศีล เป็นต้น ดังนั้น การระลึกถึงเทพ คือ นึกถึง

คุณธรรมที่เป็นธรรมฝ่ายดี เช่น ศรัทธา ศีล เป็นต้น จึงเป็นการระลึกถึงเทพที่ถูกต้อง

( เทวตานุสสติ )

การไหว้บรรพบุรุษ

การกตัญญูต่อบรรพบุรุษคืออย่างไรจึงจะถูกต้อง

การกตัญญูต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับ คือ ทำกุศลแล้วอุทิศส่วนกุศลให้ ( สิงคาลกสูตร )
อาหารของมนุษย์ บุคคล ( บรรพบุรุษ ) ที่ล่วงลับไปแล้วทานได้ไหม ( อรรถกถาธนปาล

เสฏฐิเปตวัตถุ )

การไหว้วิญญาณพเนจร

วิญญาณพเนจรมีจริงไหม ไม่มีจริง ตายแล้วต้องเกิดทันที ( ถ้ายังมีกิเลส ) ไม่มีไปเร่
ร่อน 7 วัน 15 วัน แสวงหาที่เกิด แต่ที่เราเห็นว่า เป็นคนนั้น คนนี้ที่ตายแล้ว เป็นภพภูมิ
อื่นที่เขาไปเกิดแล้วเช่นเปรตที่ต้องการส่วนบุญ จากการอุทิศส่วนกุศล จึงมาปรากฎตัว

ประตูนรกเปิดได้ไหม เปิดได้ บางครั้งบางคราว ต่อก็อยู่ในนรกนั้นอีก (นรกขุมใกล้ๆ)

อาหารของสัตว์นรกคืออะไร ใช่อาหารของมนุษย์หรือเปล่า ไม่ใช่ แต่มีอาหารของสัตว์

นรกอยู่แล้ว


 

เรื่อง บุคคลที่ควรกราบไหว้สูงสุด
ดังนั้น การกตัญญูที่ถูกต้อง สำหรับบุคคลที่ล่วงลับไปแล้ว คือ ทำบุญอุทิศกุศลไปให้
เทวดาก็เช่นกัน ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ใครหละควรไหว้ สูงสุด พระพุทธเจ้า เป็น
บุคคลที่ควรกราบไหว้สูงสุด แม้แต่พรหม เทวดา มีพระอินทร์ เป็นต้น ก็ไหว้ เพราะ
พระองค์เป็นบุคคลผู้เลิศครับ( ทุติยสักกนมัสนสูตร )

เรื่อง อาหารของเทพ ไม่ใช่อาหารแบบมนุษย์
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 133
ข้อความบางตอนจาก พรหมเทวสูตร
ครั้งนั้นแล ท้าวสหัมบดีพรหมลอยอยู่ในอากาศ ได้กล่าวกะนาง
พราหมณีผู้มารดาของท่านพระพรหมเทวะด้วยคาถาทั้งหลายว่า
ดูก่อนนางพราหมณี ท่านถือการ
บูชาด้วยก้อนข้าวแก่พรหมใด มั่นคงเป็น
นิตย์ พรหมโลกของพรหมนั้นอยู่ไกลจาก
ที่นี้ ดูก่อนนางพราหมณี ภักษาของพรหม
ไม่ใช่เช่นนี้ ท่านไม่รู้จักทางของพรหม
ทำไมจึงบ่นถึงพรหม.
 
 
เรื่อง การบูชาเทพคือทำบุญแล้วอุทิศกุศลให้ พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 755
ข้อความบางตอนจาก ปาฏลิคามิยสูตร
บุรุษชาติบัณฑิต ย่อมสำเร็จการอยู่ในประเทศ
ใด พึงเชิญท่านผู้มีศีล สำรวมแล้ว ประพฤติ
พรหมจรรย์ ให้บริโภคในประเทศ นั้น ควรอุทิศ
ทักษิณาทานเพื่อเทวดาผู้สถิตอยู่ในที่นั้น ๆ เทวดา
เหล่านั้น อันบุรุษชาติบัณฑิตนับถือบูชาแล้ว ย่อม
นับถือบูชาบุรุษชาติบัณฑิตนั้น แต่นั้นย่อมอนุเคราะห์
บุรุษชาติบัณฑิตนั้น ประหนึ่งมารดาอนุเคราะห์บุตร
บุคคลผู้อันเทวดาอนุเคราะห์แล้ว ย่อมเห็นความเจริญ
ทุกเมื่อ..

 
เรื่อง การบูชาบรรพบุรุษคือ การทำบุญแล้วอุทิศกุศลให้ พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้าที่ 88
ข้อความบางตอนจาก สิงคาลกสูตร
[๑๙๙] ดูก่อนคฤหบดีบุตร มารดาบิดา เป็นทิศเบื้องหน้า อัน
บุตรธิดาพึงบำรุงด้วยสถาน ๕ คือ ด้วยตั้งใจว่า ท่านเลี้ยงเรามา เราจัก
เลี้ยงท่านตอบ ๑ จักรับทำกิจของท่าน ๑ จักดำรงวงศ์ตระกูล ๑ จักปฏิบัติ
ตนให้เป็นผู้สมควรรับทรัพย์มรดก ๑ เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ทำบุญอุทิศ
ให้ท่าน ๑.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้าที่ 220
ข้อความบางตอนจาก อรรถกถาธนปาลเสฏฐิเปตวัตถุ
พวกพานิชเหล่านั้น ได้สดับคำของเปรตทั้งหลาย เกิดความ
สังเวช เมื่อจะอนุเคราะห์เปรตนั้น จึงเอาภาชนะตักน้ำดื่มมา ให้
เขานอนลงแล้ว กรอกเข้าทางปาก. แต่นั้นน้ำที่มหาชน ลาดลง
หลายครั้ง ก็ไม่ไหลลงสู่ลำคอ เพราะพลังแห่งกรรมชั่วของเปรต
นั้น. จักกำจัดความกระหายได้ที่ไหนเล่า. พ่อค้าเหล่านั้นจึงถาม
เปรตว่า ท่านได้ความโปร่งใจอะไรบ้างไหม ? เปรตนั้นตอบว่า
ถ้าน้ำที่ชนมีประมาณเพียงนี้ กรอกเข้าไปตลอดเวลาเพียงเท่านี้
แม้เพียงสักหยดเดียวก็ไม่เข้าไปในลำคอเรา กับไหลเข้าลำคอ
ของคนอื่นไปหมด, ความหลุดพ้นไปจากกำเนิดเปรตนี้ จงอย่ามีเลย.
ลำดับนั้น พ่อค้าเหล่านั้น ได้ฟังดังนั้น จึงเกิดความสังเวชยิ่งนัก
พากันกล่าวว่า ก็อุบายอะไร ๆ เพื่อระงับความกระหายมีบ้างไหม ?
เปรตตอบว่า เมื่อกรรมชั่วนี้สิ้นไป เมื่อพวกญาติถวายทานแต่
พระตถาคต หรือสาวกของพระตถาคต อุทิศทานให้แก่เรา,
เราก็จักพ้นจากความเป็นเปรตนี้ไปได้.
 

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 511
ข้อความบางตอนจาก ทุติยสักกนมัสนสูตร

[๙๓๔] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล มาตลีสังคาหกเทพบุตร
ได้ทูลถามท้าวสักกะจอมเทพด้วยคาถาว่า
ข้าแต่ท้าววาสวะ เทวดาและมนุษย์
ทั้งหลายย่อมนอบน้อมพระองค์นั่นเทียว
ข้าแต่ท้าวสักกะ เมื่อเช่นนั้น พระองค์
ทรงนอบน้อมท่านผู้ควรบูชาคนใด ท่าน
ผู้ควรบูชาคนนั้น คือ ใครเล่า.
[๙๓๕] ท้าวสักกะตรัสตอบว่า
ดูก่อนมาตลี พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระองค์ใดในโลกพร้อมทั้งเทวโลก เรา
นอบน้อมพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์
นั้น ผู้เป็นศาสดามีพระนามไม่ทราม
ดูก่อนมาตลี ท่านเหล่าใดสำรอกราคะ
โทสะและอวิชชาแล้ว เป็นพระอรหันต
ขีณาสพ เรานอบน้อมท่านเหล่านั้น
ดูก่อนมาตลี ท่านเหล่าใดกำจัดราคะและ
โทสะก้าวล่วงอวิชชา ยังเป็นพระเสขะ
ยินดีในธรรม เครื่องปราศจากการสั่งสม
เป็นผู้ไม่ประมาท ตามศึกษาอยู่ เรา
นอบน้อมท่านเหล่านั้น.
 
 

เอาบุญมาฝากวันนี้ได้ถวายสังฆทาน
กรวดน้ำอุทิศบุญ เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน
รักษาศีล อาราธนาศีล เจริญวิปัสสนา ปฏิบัติธรรม
ถวายข้าวพระพุทธรูป สักการะพระธาตุ ศึกษาธรรม
ทำงานบ้านช่วยพ่อแม่และเจริญอาโปกสิน ศึกษาการรักษาโรค
และเมื่อวานและวันนี้ได้ไปปิดทองคำและร่วมบุญถวายทองคำเปลวหน้าพระเจดีย์ธาตุและได้ถวายดอกไม้หน้าพระเจดีย์เดินปทักษิณรอบพระธาตุ
ที่ผ่านมาเพื่อนๆได้ไปไหว้พระประธานขอพรและไปทำบุญที่วัด
และสร้างบารมีครบทั้ง 10 อย่าง ขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

  ขอบคุณที่มา http://board.palungjit.com

ออฟไลน์ john_4682

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 92
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: สะสมบารมี
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 25 ส.ค. 2553, 04:11:43 »
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆที่แบ่งปันครับ
ปาฏิหารย์เกิดจากศรัทธา ความเจริญก้าวหน้าเกิดจากคุณธรรม