สวัสดีครับพี่น้องชาวบอร์ดกระดานสนทนาวัดบางพระทุกท่าน วันนี้จะมานำเสนอเหรียญ. . .
เหรียญเสมาหลังสิงห์ หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย ปลุกเสก ไตรมาสปี 2528 สำหรับเหรียญเสมาหลังสิงห์รุ่นนี้ปลุกเสกพร้อมรูปหล่อรุ่นแรก ประสบการณ์ด้านคงกระพันชาตรี สุด ๆ เลยครับ และหลวงพ่อมียังเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ได้เรียนวิชาด้านการปลุกเสกสิงห์และยันต์นะหน้าทองจากหลวงพ่อจงอย่างเชียวชาญครับ รูปหล่อรุ่น1 หลวงปู่มี
รูปหล่อรุ่นแรก หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย
รูปหล่อรุ่นแรก พิมพ์สมาธิ ปลุกเสกไตรมาสปี 2528 มี 3 เนื้อ
เนื้อทองคำ 9 องค์
เนื้อเงิน 75 องค์
เนื้อโลหะรมดำ 1000 องค์
เนื้อหาการสร้างพระรูปหล่อรุ่นแรกเนื้อโลหะผสมรมดำ
ประกอบด้วยทองชนวนหล่อพระต่าง ๆ ตะกรุดหลายชนิดของหลวงพ่อมี และของพระเกจิอาจารย์อีกว่า 108 ดอกรวมทั้งแผ่นโลหะลงอักขระเลขยันต์ของหลวงพ่อมี และพระอาจารย์เก่า ๆ อีกมากมายในปัจจุบัน
วันนี้เอาเนื้อโลหะรมดำมาให้ชมกันครับ
ด้านหลังครับ
ของแท้ต้องมีโค๊ด
ประสบการณ์พระรูปหล่อรุ่นแรก ปี 2528ท่ามกลางบรรยากาศอันสลัวในตอนพลบค่ำ แสงแดดอ่อน ๆ สะท้อนกลับมากระทบกับร่างของชายหนุ่ม 2 คน ที่ยืนซุ่มอยู่ต้นไม้ข้างทางพร้อมมีดพกคู่มือ ยามนั้นคนโบราณท่านเรียกว่า "ผีตากผ้าอ้อม" เป็นเวลาที่ไม่เหมาะสมแก่การเดินทางไปในที่ใดทั้งสิ้น ยิ่งในยุคนี้ด้วยแล้วต้องมีความตื่นตัวระมัดระวังเป็นพิเศษ อย่าได้พกสิ่งของมีค่าเป็นการล่อใจคนร้าย หรือเดินไปในที่เปล่าเปลี่ยวแต่ผู้เดียว เพราะอาจจะพบกับภัยในความมืดที่คาดคิดไม่ถึงได้ทุกขณะ
ชายหนุ่มในวัยเบญจเพสเดินกลับบ้านในเวลาใกล้ค่ำเช่นนี้ตามปกติทุกวัน สายที่ที่ได้รับความสว่างมาทั้งวันยังไม่ค่อยชินกับความสลัวยามผีตากผ้าอ้อมเท่าใดนัก จึงทำให้มองไม่เห็นชาย 2 คน ที่กำลังจ้องทำร้ายหมายชีวิต ทันทีที่ชายหนุ่มเคราะห์ร้ายเดินผ่านไป ชาย 2 คน พุ่งตัวมาทางด้านหลังอย่างรวดเร็วดุจพยัคฆ์ตะปบเหยื่อ จึ๊ก! หนุ่มเบญจเพสสะดุ้งสุดตัวเมื่อรู้สึกมีวัตถุชนิดหนึ่งกระทบ กลางหลัง อย่างแรง และยังไม่ทันได้ตั้งตัว ของแข็งอีกชนิดหนึ่งก็ปักกึกที่กลางหลังอีกครั้ง จนศีรษะขมำไปข้างหน้าอย่างเสียหลัก จึ๋ก!โอ๊ย! สิ้นเสียงร้องของหนุ่มผู้เคราะห์ร้าย แต่ยังมีสติดีเอามือทั้งสองยันพิ้นก่อนที่จะล้มคว่ำอย่างไม่เป็นท่า พร้อมกันทะยานตัวขึ้นประจัญหน้ากับบุคคลผู้ประสงค์ร้ายทันที
"เฮ้ย...มันเหนียว...ระวังหน่อย"
คนร้ายหนึ่งในสองร้องบอกเพื่อนเสียงลั่น แต่ก็ไม่สามารถหยุดความบ้าระห่ำของเพื่อนที่ถือมีดวิ่งเข้าไปแทงซ้ำหมายชีวิตคู่ปรับ
เก่าให้จงได้ พร้อย ๆ กับปากก็ร่ำร้องว่า
"นี่แน่ะ...นี่แน่ะ...เหนียวหรือ...เหนียวหรือ..."
หนุ่มหนังดีถอยกรูดแล้วยกมือปิดป้องคมมีดเป็นพัลวัน แล้วยกเท้าเต๊ะต่อยคู่อาฆาตตามตำรับแม่ไม้มวยไทยอย่างสุดความสามารถ แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ หน่มหนังเหนียวซึ่งใช้มือเป่าต่อสู้กับคนร้ายที่มีมีดเป็นอาวุธถึง 2 คน จึงสู้พลางหนีพลางอยู่ตลอดเวลา
ขณะที่กำลังหนีตั้งหลังอยู่นั้นก็ถูกคมมีอคู่ต่อสู้ แทงที่แขนซึ่งกำลังยกขึ้นปีดมีด 2-3 ครั้ง พอเห็นว่าถูกแทงไม่เข้าจริง ๆ จึงฮึดสู้มองหาไม้ฉวยมาได้ท่อนหนึ่งวิ่งเข้าไปตีมือมีดทั้งสองอย่างอุตลุด คนร้ายกันคนดีต่างกันตรงนี้เอง พอเห็นว่าตัวเองเสียเปรียบก็เผ่นหนีไปราวกับนัดแนะกันไว้ ส่วนหนุ่มคนดีเมื่อเห็นคู่ปรับเก่าวิ่งหนีไปหมดก็รีบสำรวจดูแขนและข้อศอกซึ่งถูกมีดแทงและปาดถึง 2 ครั้งแต่พอเห็นเป็นแค่ รอยแดง ๆ เท่านั้นก็ขนลุกซู่ด้วยความตื่นเต้น
แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องตื่นเต้นยิ่งขึ้น เมื่อเอามือคลำไปข้างหลังที่ถูกแทงโดยไม่รู้ตัวในคราวแรกก็รู้สึกเจ็บแต่ไม่มีบาดแผลและรอยเลือดแต่อย่างใด "ไม่เข้าจริง ๆ "
หนุ่มหนังเหนียว อุทานขึ้นด้วยท่าทีอันตื่นเต้น และมือกุม พระที่คล้องเชือกร่มบนคออยู่เพียงองค์เดียว ขึ้นท่วมศีรษะ พร้อมกันรีบจ้ำอ้าว ๆ กลับเข้าบ้านทันทีแล้วเล่าเหตุการณ์และถอดเสื้อให้ภรรยาตรวจดูกลางหลังก็ไม่ปรากฏมีบาดแผลใด ๆ เลย ทั้ง ๆ ที่เสื้อยังถูก คมมีดแทงทะลุขาดเป็นรู ถึง 2 รอย ด้วยกัน
"คุณพระช่วยแท้ ๆ " ภรรยาเห็นสภาพสามีที่ถูกทำร้ายกลับมาแล้วอุทานเสียงสั่นทั้งน้ำตา อีก 2 วันต่อมา ชายหนุ่มในวัยเบญจเพส แต่ชะตาไม่ถึงฆาต เพราะมีของดีคุ้มตัวพาภรรยามาหา หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย ตำบลบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อให้ท่านทำพิธีสะเดาะเคราะห์และประพรมน้ำพระพุทธมนต์ พร้องกับนำสังฆทานมาถวายอีกด้วย
เนื่องจากพระบนคอที่ช่วยให้เขารอดชีวิตจากคมมีด ดุจปาฏิหารย์นั้นเป็น พระรูปหล่อรุ่นแรก หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย นั่นเอง
อำนาจแห่งพุทธคุณได้ปรากฏอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่ประจักษ์แก่มวลชนทางด้านอยู่ยงคงกระพันอีกครั้งเมื่อหนุ่มเบญจเพสถูกคู่อริ 2 คน ลอบแทงด้านหลังด้วยมีดพกทะลุผ่านเสื้อที่สวมใส่อย่างง่ายดาย แต่คมมีดไม่อาจระคายผิวหนังมนุษย์ที่เปราะบาง ซึ่งประกอบด้วยเลือดเนื้อเลยแม้แต่น้อย
ดังนั้นจะเป็นอื่นไปไม่ได้ ถ้าหากไม่ใช่เกิดจากพุทธานุภาพแห่งพระเครื่องรางที่ช่วยคุ้มครอง คุณสมทรง แซ่ตั้ง ให้รอดชีวิตอุจปาฏิหารย์ สามารถนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเองสด ๆ ร้อน ๆ มาเล่าให้ หลวงพ่อมี ที่วัดมารวิชัยฟังเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา
เหตุการณ์แห่งอิทธิปาฏิหารย์พระรูปหล่อรุ่นแรกหลวงพ่อมี วัดมารวิชัย เกิดขึ้นในตอนเย็นวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2529 คุณสมทรง แซ่ตั้ง อาชีพขับรถแท็กซี่ มีนิวาสสถานอยู่ในละแวกวัดมหาวงษ์ สำโรงใต้ พระประแดง สมุทรปราการ เล่าว่าขณะที่กำลังเดินเข้าซอยเพื่อกลับบ้านตามปรกติจึงไม่ทันระวังตัวถูกคู่อริเก่า2 คน ซึ่งเคยเกิดเรี่องตีกับเพื่อน ๆ เมื่อ 3-4 ปีที่แล้วลอบแทงข้างหลัง
คุณสมทรงท้าวความที่เคยเกิดเรื่องกันในสมัยวันรุ่น ให้หลวงพ่อมี และชาวบ้านหลายคนที่มีให้ท่านรักษาโรคอยู่บนกุฏิฟังต่อว่า ความจริงผู้ที่ลอบทำร้ายทั้ง 2 ก็เคยรู้จักกัน โดยเป็นเพื่อนของเพื่อนสนิทอีกที
นึ่งเกิดขัดใจกันในวงเหล้าเพื่อนคุณสมทรงถูกตีด้วยขวดจนศีรษะแตก คุณสมทรงจึงเป็นผู้พาเพื่อนไปหาหมอและแจ้งความกับตำรวจ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาก็เลยไม่ถูกกัน และมีเรื่องตีกันอยู่เสมอ
ต่อมาจอมเกเรทั้งคู่ต้องคดียาเสพติดอยู่หลายปีเข้าใจว่าเพิ่งพ้นโทษออกมาพบเห็นตนเดินอยู่คนเดียว จึงแอบทำร้ายตนอีก เคราะห์ดีที่พี่ชายคนที่ 2 ซึ่งเป็นศิษย์คนหนึ่งของหลวงพ่อมี ให้พระรูปหล่อรุ่นแรกของท่านมาห้อยคอก่อนเดินทางไปต่างประเทศ ไม่เช่นนั้นคงจบชีวิต
คุณสมทรงและภรรยา ผลัดกันเล่าเหตุการณ์อันตื่นเต้นให้หลวงพ่อมีและชาวบ้านทั้งหลายฟัง พร้อมกับให้ดูรอยมีดที่แขนและถลกเสื้อให้ดูกลางหลัง ซึ่งหลวงพ่อมี และชาวบ้านหลายคน บอกตรงกันว่า
"ที่แขนเป็นรอยแดง ๆ อยู่ 2 รอยเช่นกัน"
หลวงพ่อมีเล่าให้ฟังว่า
ทั้งสองคนนำสังฆทานมาถวายและให้ฉันรดน้ำมนต์ เมื่อจะกลับสามีจะเอาเสื้อที่ถูกแทงขาดไปด้วย แต่ฝ่ายภรรยาบอกให้ถวายฉันไว้เป็นการสะเดาะเคราะห์ พระที่วัดก็เลยเอามาแขวนที่ข้างเสาไว้เป็นที่ระลึก
หลวงพ่อมีพูดแล้วให้หยิบเสื้อมาพิสูจน์ดูรอยขาดที่ถูกแทงด้วยมีด ต่อหน้าพระภิกษุสามเณร และลูกศิษย์ลูกหาอีกหลายคนที่อยู่บนกุฏิของท่านชมด้วยความอัศจรรย์
Cradit จากหลังสือลานโพธิ์ครับ