กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => ธรรมะ => ข้อความที่เริ่มโดย: เว็บมาสเตอร์... ที่ 12 ก.ย. 2550, 07:27:54

หัวข้อ: ปริศนาธรรมจากพระพุทธรูป
เริ่มหัวข้อโดย: เว็บมาสเตอร์... ที่ 12 ก.ย. 2550, 07:27:54
พระพุทธรูปเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าชาวพุทธให้ความเคารพศรัทธามาก
บางแห่งก็มีชื่อเรียกเฉพาะ เช่น หลวงพ่อพุทธโสธร วัดโสธรวราราม จังหวัดฉะเชิงเทรา
หรือ พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัด พิษณุโลก เป็นต้น
ความขลังและความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปแต่ละองค์นั้น
มีตำนานเล่าขานกันมามากบ้างน้อยบ้างสุดแท้แต่ความศรัทธา ของชาวบ้าน
แต่สิ่งที่เหมือนกันของรูปเปรียบหรือตัวแทนของพระพุทธเจ้านี้
ที่สังเกตเห็นได้มีอยู่ด้วย กัน ๓ ประการ คือ

๑. พระเศียรแหลมม
มีคำถามว่า
ทำไมพระพุทธรูปจึงมีพระเศียรแหลมในเมื่อพระพุทธเจ้าของเราก็เป็นมนุษย์
ที่เป็นเช่นนี้เพราะ เขาสร้างพระพุทธรูปเพื่อให้คิดเป็นปริศนาธรรม
พระเศียรที่แหลมนั้นหมายถึง สติปัญญาที่เฉียบแหลม
ในการดำเนินชีวิตสอนให้ชาวพุทธแก้ปัญหาต่างๆ ด้วยสติปัญญาไม่ใช่ใช้อารมณ์
หากใช้ปัญญาคิดพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบเสียก่อนแล้วจึงทำ ความผิดพลาด
ก็เกิดขึ้นน้อย หรือไม่เกิดขึ้นเลย

๒. พระกรรณยาน หรือหูยาน
เป็นปริศนาธรรมให้ชาวพุทธเป็นคนหูหนัก คือมีจิตใจหนักแน่นมั่นคงนั่นเอง
ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ แต่คิดพิจารณาไตร่ตรองด้วยสติปัญญาอันแยบคายแล้วจึงเชื่อ
ในฐานที่เป็นชาวพุทธก็ ต้องเชื่อในกฎแห่งกรรม
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว บุคคลหว่านพืชเช่นใดย่อมได้รับผลเช่นนั้น เชื่อว่าไม่
มีอะไรทำให้ใครเป็นอะไรๆ ทั้งนัน แต่ตัวเราเองนั่นแหละทำให้เราเป็นสุขเป็นทุกข์

คนเราจะดีจะชั่วจะเสื่อมจะเจริญไม่ได้ขึ้นอยู่กับอำนาจภายนอกหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์
แต่ขึ้นอยู่กับการทำ การพูดการคิดของตนเอง
นี้เป็นการเชื่อตามหลักของพระพุทธศาสนา

๓. พระเนตรมองต่ำาร
พระพุทธรูปที่สร้างโดยทั่วไปจะมีพระเนตรมองลงที่พระวรกายของพระองค์
อย่างในพระอุโบสถของวัดทั่วไปดพ จะนั่งมองดูพระวรกายไม่ได้มองดูหน้าต่าง
หรือมองดูประตูพระอุโบสถว่าจะมีใครเข้ามาไหว้บ้าง นี้เป็นปริศนาธรรม
สอนให้มองตนเองพิจารณาตนเอง ตักเตือนแก้ไขตนเอง ไม่ใช่คอยจับผิดผู้อื่น
ซึ่งตามปกติของคนแล้วมักจะมองเห็นความผิดพลาดของบุคคลอื่น
แต่ลืมมองของตนเองทำให้สูญเสียเวลาและโอกาสในการปรับปรุงพัฒนาตนเอง
ใครเล่าจะตักเตือนตัวเราได้ดี กว่าตัวเราเอง จึงมีพุทธพจน์ตรัสให้เตือนตนเองว่า
"อตฺตนา โจทยตฺตาน" = จงเตือนตนด้วยตนเอง จงเตือนตนของตนให้พ้นผิด
ตนเตือนจิตตนได้ใครจะเหมือน็นปร
ตนเตือนตนเตือนไม่ได้ใครจะเตือน ตนแชเชือนรีบเตือนตนให้พ้นภัย
ที่กล่าวมาทั้ง ๓
ประการนั้นเป็นการสอนโดยใช้ปริศนาธรรมจากพระพุทธรูปเป็นสื่อการสอนใจตนเอง

ดังนั้น ชาวพุทธเมื่อมีปัญหาอะไรแก้ไขไม่ได้คิดไม่ตกก็เข้าวัดเสียบ้าง
นั่งประนมมือตรงหน้าพระพุทธรูป หรือถ้าที่บ้านมีพระพุทธรูป
ก็นั่งประนมมือต่อหน้าพระพุทธรูป ที่บ้านนั่นแหละ
ค่อยๆเพ่งพินิจที่พระพักตร์ของพระพุทธเจ้า
ก่อนที่จะกราบ จะมองเห็นพระเศียรแหลม สอนใจตนว่า
"อย่าแก้ปัญหาด้วยอารมณ์นะ ใจเย็นๆ ปัญหาต่างๆ
ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ไม่มีอะไรแก้ไขไม่ได้ ค่อยๆ คิด
ค่อยๆแก้ด้วยสติปัญญาที่เฉียบแหลม
เหมือนพระพุทธเจ้าของเราที่พระองค์ใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหา"
เห็นพระกรรณยานก็บอกตนเองว่า "สุขุมเยือกเย็นมีเหตุผลเข้าไว้
อย่าปล่อยใจตามอารมณ์หรือหุนหันพลันแล่น
เดี๋ยวจะผิดพลาดได้ ต้องมีจิตใจหนักแน่นมั่นคง เชื่อในสิ่งที่มีเหตุผล"
เห็นสายพระเนตรที่มองต่ำก็บอกตนเองว่า "มองตนเองบ้างนะ
อย่าไปมองคนอื่นมากนักเลยเดี๋ยวจะไม่สบายใจ และอาจมีปัญหาได้ การมองตนเองบ่อยๆ
จะได้พิจารณาตนเองปรับปรุงตนเอง และแก้ไขตนเองให้ดีขึ้น"
จากนั้นก็ค่อยกราบ พระพุทธรูปด้วยสติปัญญาและจิตใจที่ชื่นบาน นี้เรียกว่า
"ยิ่งกราบยิ่งฉลาด" สมกับเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ที่แท้จริง

ได้รับ forward มา เห็นว่าดี มีประโยชน์ เลยมาให้อ่านกันครับ
หัวข้อ: ตอบ: ปริศนาธรรมจากพระพุทธรูป
เริ่มหัวข้อโดย: พาหุง ที่ 12 ก.ย. 2550, 01:25:24
ขอบคุณครับ ที่นำมาให้อ่าน ได้รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ 13; :054: :054: 13;
หัวข้อ: ตอบ: ปริศนาธรรมจากพระพุทธรูป
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์โจรสลัด~ ที่ 12 ก.ย. 2550, 04:13:32
ความรู้ ครับ  ;D ขอบคุณมากครับ  ;D
หัวข้อ: ตอบ: ปริศนาธรรมจากพระพุทธรูป
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกผู้ชายตัวจริง ที่ 12 ก.ย. 2550, 08:57:15
เป็นประโยชน์มากครับ