...เมื่อจิตระลึกถึงธรรม บทที่ ๒๙...
...ชีวิตคือการเดินทางของจิตวิญญาณ
ที่ต้องผ่านบททดสอบมามากมาย
กว่าจะถึงจุดหมายปลายทางของชีวิต
เรียนรู้ความถูกผิดและดีชั่วอยู่ตลอดเวลา
แสวงหาซึ่งความสำเร็จของชีวิตที่คิดไว้
แตกต่างกันไปตามความปรารถนาของแต่ละคน
...รางวัลของชีวิตนั้น มิได้วางไว้ที่จุดเริ่มต้น
และหนทางนั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
ย่อมมีอุปสรรคขวากหนามอยู่บนเส้นทาง
ทุกอย่างที่พานพบล้วนเป็นประสบการณ์ของชีวิต
ความพลาดผิดพลาดพลั้งจึงไม่ใช่ความล้มเหลว
แต่มันเป็นบทเรียนของชีวิตที่สอนให้เราเรียนรู้
...ชีวิตที่เหลืออยู่ เรียนรู้จากสิ่งที่ผ่านมา
เพื่อที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าแสวงหาในสิ่งที่ดี
ให้แก่ชีวิต ไม่ให้พลาดผิดอย่างที่เคยผ่านมา
เพราะว่าเราได้เรียนรู้และมีบทเรียนมาแล้ว
ตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่ การเดินทาง
ของชีวิตนั้นยังไม่สิ้นสุด....
๐ ค่ำลง ฟ้ามืดแล้ว
เสียงเจื้อยแจ้ว หริ่งเรไร
กังวาน ก้องพงไพร
บรรเลงกล่อม ในราตรี
๐ พร่างพราว ดาวบนดิน
เห็นจนชิน ในถิ่นที่
คือไฟ จากแสงสี
ของบ้านเรือน ที่เรียงราย
๐ มองฟ้า ที่มืดมิด
ชวนให้คิด ได้มากมาย
คิดถึง จุดมุ่งหมาย
ที่ตั้งไว้ และเฝ้ารอ
๐ มองกาย แล้วมองจิต
มองแล้วคิด พินิจต่อ
ทำใจ ให้รู้พอ
การลดละ ตัวอัตตา
๐ มานะ และทิฐิ
มีสติ รู้ปัญหา
ใช้ธรรม นำปัญญา
สติมั่น ปัญญามี
๐ รู้กาย และรู้จิต
รู้ความคิด ให้ถ้วนถี่
รู้ชอบ และชั่วดี
รู้ในกิจ ควรกระทำ
๐ มองสิ่ง ที่พบเห็น
มองให้เป็น กุศลกรรม
มองเห็น ให้เป็นธรรม
เพื่อนำสู่ หนทางดี
๐ ก่อนพูด ควรจะคิด
จะไม่ผิด กล่าววจี
พูดแต่ สิ่งที่ดี
วจีกรรม เป็นสัมมา
๐ สัมมา วาจานั้น
สื่อสารกัน ด้วยภาษา
กล่าวดี มีเมตตา
เอื้ออารี ไมตรีกัน
๐ เพ่งโทษ ผู้อื่นเขา
เพิ่มโทษเรา อย่างมหันต์
อย่าติ ทำลายกัน
สร้างสรรค์มิตร ด้วยปัญญา
๐ เป็นผู้ รู้สติ
มีดำริ เป็นสัมมา
ตามแนว แห่งมรรคา
องค์แปดนั้น ท่านว่าดี
๐ สายกลาง ของชีวิต
ชี้ถูกผิด อย่างถ้วนถี่
มรรคแปด สายกลางนี้
เจริญสุข เจริญธรรม...
...ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต...
...รวี สัจจะ - สมณะไร้นาม...
...๒๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๓...