สวัสดีครับวันนี้มาต่อกันครับ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?
? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?
สารญฺจ? สารโต? ญตฺวา? อสารญฺจ? อสารโต
? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?เต? สารํ? อธิคจฺฉนฺติ สมฺมาสงฺกปฺปโคจรา
ชนเหล่าใด? รู้สิ่งเป็นสาระโดยความเป็นสาระ? และสิ่งไม่เป็นสาระโดยความไม่เป็นสาระ ?
? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ชนเหล่านั้นมีความดำริชอบเป็นโคจร? ย่อมประสบสิ่งเป็นสาระ ( พุทธภาษิต? ธรรมบท? ขุททกนิกาย? ยมกวรรค )
***อันสาระจะทำให้ ได้ประโยชน์
ไม่เกิดโทษไม่เกิดทุกข์ แต่สุขแน่
ผิดกันกับอสาระ ไม่ดีแล
สมควรแท้จะละลด ให้หมดไป
***มวลมนุษย์น้องพี่ ที่เกิดมา
มิควรข้าพึงรีบหา สาระไว้
เพื่อจักได้อยู่รอด และปลอดภัย
ประสบสุขยิ่งใหญ่ จริงจริงแล
***? ?สารธรรม คือธรรมที่จะให้เกิดประโยชน์และความสุข? ส่วน
อสารธรรมเป็นธรรมที่จะนำมาซึ่งโทษและความทุกข์ ?
สารธรรมเป็นธรรมที่ดีแต่
อสารธรรมเป็นธรรมที่ชั่ว? ?
สารธรรมเป็นธรรมที่น่ายินดีในการที่จะกระทำตาม ? แต่
อสารธรรมเป็นธรรมที่ควรจะเกรงกลัวและพยายามหลีกหนีเสียให้ห่างไกล***? ?
ธรรมที่ดีหรือความดีนี้? ได้แก่? การกาะทำดี พูดดี และคิดดี? ที่เป็นไปในทวารทั้ง ๓ คื? กาย? วาจา? และใจนี้เอง? การกระทำความดีย่อมไม่ทำให้ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อน? แต่จะทำให้ตนเองและผู้อื่นเป็นสุข ส่วนธรรมที่ชั่วตรงกันข้ามกับความดี? คือทำชั่ว? พูดชั่ว? และคิดชั่ว? ทำให้ตนเองและผู้เดือดร้อน.***? ?
พระอรรถกถาจารย์ได้จำแนกสารธรรมไว้ ๕ อย่าง? คือ?
ศีล? สมาธิ? ปัญญา? วิมุต? และวิมุตติ? ญาณ ? ทัสสนะ? และกล่าวถึงพระนิพพานว่าเป็นปรมัตถสาระ ?
คือสาระที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง ? สาระ ๕ อย่างนี้? เรียกว่า? ธรรมขันธ์ก็ได้ ศีล ?
เป็นธรรมที่เป็นพื้นฐานของคุณธรรมความดีต่าง ๆ ที่สูงยิ่งกว่าศีล เช่น สมาธิ ? เป็นต้นนั้นต้องอาศัยศีลเป็นเหตุเป็นเครื่องรองรับจึงจะเกิดได้? การรักษาศีลนี้จะต้องให้สมบูรณ์ คือ ให้ครบทุกข้อ ศีล ๕ ก็ครบ ๕ ข้อ ศีล ๘ ก็ครบ ๘ ข้อ? เป็นต้น? และต้องรักษาให้เหมาะสมกับเพศของตน? คือคฤหัสถ์ก็รักษาแบบคฤหัสถ์? เป็นบรรพชิตก็รักษาแบบบรรพชิต? การรักษาศีลนอกจากจะต้องให้สมบูรณ์คือ ? ?
มีครบทุกข้อไม่ขาดตกบกพร่องแล้ว? ยังต้องให้บริสุทธิ์? ไม่เป็นที่อาศัยเกิดของกิเลสอีกด้วย? เช่นรักษาศีลแล้วปรารถนาเป็นมนุษย์หรือเทวดา เป็นต้น? ก็ชื่อว่าไม่บริสุทธิ์? ศีลเมื่อไม่บริสุทธิ์ก็ไม่เป็นเหตุให้เกิดสมาธิ ?
แต่ถ้าศีลบริบูรณ์และบริสุทธิ์ดีแล้ว? ก็ย่อมจะเป็นเหตุให้เกิดสมาธิต่อไปสมาธิ ในที่นี้เป็นสมาธิที่เกิดจากรักษาศีลบริสุทธิ์? ที่เรียกว่า? ศีลวิสุทธิ? ซึ่งได้มาจากการเจริญสติปัฏฐาน เพราะศีลจะบริสุทธิ์ได้นั้นต้องมีอินทรียสังวรศีล ? ซึ่งได้มาจากการปฏิบัติสติปัฏฐานนั่นเอง? แต่การปฏิบัติในขั้นต้นนั้น? นิวรณ์ยังเกิดกลุ้มรุมได้? ใจยังไม่สงบ? ไม่เป็นสมาธิ? ไม่เป็นจิตตวิสุทธิ ได้อย่างมากก็เพียงศีลวิสุทธิ? แต่เมื่อได้ปฏิบัติต่อไปอย่างถูกวิธีดีแล้ว? นิวรณ์ทั้งหลายมีกามฉันทะเป็นต้น? ก็ย่อมจะสงบลง?
จิตก็เป็นสมาธิเป็นจิตตวิสุทธิ ? และเป็นปัจจัยให้เกิดปัญญาต่อไปปัญญา ?
หมายถึงวิปัสสนาปัญญา? ได้มาจากการเจริญสติปัฏฐานจนนิวรณ์สงบแล้ว ?
ปัญญาประเภทนี้ย่อมรู้จักรูปนามหรือขันธ์ ๕ ตามความเป็นจริง ?
รู้ทั้งปัจจัตตลักษณะ? ลักษณะประจำตัวของรูปนามนั้น ๆ เช่น? รูปมีลักษณะเสื่อมสลาย? นามลักษณะน้อมสู่อารมณ์หรือจะเรียกว่าวิเสสลักษณะก็ได้? และรู้ลักษณะอีกอย่างหนึ่งคือสามัญลักษณะ ? ลักษณะที่มีเสมอเหมือนกันกับสังขารทั้งปวง? คือ? การเกิดขึ้น? ตั้งอยู่? และดับไป? หรืออนิจจัง? ไม่เที่ยง? ทุกขัง? เป็นทุกข์? และอนัตตา? ไม่ใช่ตน? เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า? ไตรลักษณะ? ลักษณะ ๓ อย่างเมื่อได้เจริญวิปัสสนามาจนเห็นรูปนาม? เป็นของไม่เที่ยงเป็นทุกข์และเป็นอนัตตาแล้ว ?
เป็นเหตุให้เกิดความเบื่อหน่ายในรูปนาม? และนี่เองที่พระพุทธองค์ทรงแสดงว่าเป็นทางแห่งความบริสุทธิปราศจากกิเลส ปัญญาจึงเป็นเหตุให้ถึงวิมุตความหลุดพ้นจากกิเลสได้ ***? ?
วิมุต ?
ในที่นี้หมายถึง? มรรคและผล? เมื่อได้เจริญวิปัสสนาจนมีปัญญาแก่กล้าแล้ว? ก็สามารถประหาณกิเลสได้เด็ดขาด? บรรลุมรรคและผล? ในขณะที่มรรคจิตเกิดขึ้น? ย่อมทำกิจในอริยสัจครบ ๔ ประการ? คือ รู้ทุกขสัจ? ละสมุทัยทำให้แจ้งนิโรธสัจ? และทำมรรคสัจให้เกิดสำหรับผลจิตนั้นแม้ไม่ได้ทำกิจเหมือนกับมรรคจิตแต่ก็มีพระนิพพานเป็นอารมณ์และมีเจตสิกประกอบเหมือนในมรรคจิต?
จึงจัดเป็นวิมุตด้วย***? ?
วิมุตติญาณทัสสนะ? เป็นสารธรรมข้อสุดท้าย? คือความรู้มรรค? ผล? นิพพาน ? ที่ตนได้ประสบแล้วนั่นเอง ?
และรู้ตลอดถึงกิเลสที่ตนละได้แล้ว ? และกิเลสที่ยังละไม่ได้ด้วย ความรู้ประเภทนี้รู้ในปัจจเวกขณวิถี? จะเกิดมีแก่พระอริยบุคคลทุกท่าน***? ?
สำหรับปรมัตถสาระ ? ไม่ได้อยู่ในสาระ ๕ แต่พระอรรถกถาจารย์ได้นำมากล่าวไว้ เพราะเป็นยอดแห่งสาระทั้ง ๕ คือเป็นผลที่เกิดจากสาระทั้ง ๕ นั่นเอง? พระบรมศาสนดาได้ทรงยกย่องว่าเป็นธรรมที่ประเสริฐที่สุด? เป็นปรมัตถประโยชน์ ***? ?
ผู้มีศรัทธาและปัญญา ?
เมื่อมาปฏิบัติตนอยู่ในสารธรรมทั้ง ๕ แล้ว ?
ในที่สุดก็จะถึงปรมัตถสาระ? หรือปรมัตถประโยชน์ ? คือพระนิพพานได้โดยแท้.***?
วันนี้ขอหยุดไว้ก่อนนะครับ...สวัสดีครับ? ?พิศร? ?ครับ? ?