ผู้เขียน หัวข้อ: หลวงพ่อทวีศักดิ์กับนิมิตประหลาดที่หนองน้ำแดง  (อ่าน 4070 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ~@เสน่ห์เอ็ม@~

  • ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย พระคุณบิดามารดาผู้มีพระคุณ แล ครูบาอาจารย์ผู้เกื้อหนุน สาธุ..
  • เด็กวัด
  • *****
  • กระทู้: 5894
  • เพศ: ชาย
  • ศิษวัดบางพระ
    • ดูรายละเอียด
หลวงพ่อทวีศักด์กับนิมิตประหลาดที่หนองน้ำแดง
            ดึกมากแล้วแสงจันทร์ส่องสกาวแต่ทำไมนอนไมหลับข่มเปลือกตาอย่างไรก็ไม่หลับแล้วจะทำอย่างไรกันดีล่ะ  คงจะวิตกเรื่องสร้างวัดละซี  ไม่เป็นไรน่า  แล้วค่อยคิดก่อนจะม่อยหลับไปก็คิดอยู่ว่า  หากสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงและบารมีจะสร้างวัดได้ก็คงจะทำได้
                ม่อยหลับไปเมื่อใดก็ไม่รู้  รู้แต่ว่าในท่ามกลางแสงสกาวของดวงจันทร์นั้นได้มีนิมิตประหลาดเกิดขึ้นอันเป็นนิมิตที่ท่านเองก็ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้น

            น้ำค้างพร่างพรมลมกรรโชกเป็นครั้งคราว  ร่างของพระธุดงค์นอนจำวัดนิ่งสนิทด้วยความอ่อนเพลีย  เพราะครุ่นคิดแต่เรื่องสร้างวัด  งานสร้างวัดไม่ใช่สร้างกระต๊อบ  เพราะวัดนั้นต้องมีทั้งหมู่กุฎิสงฆ์วิสุงคามสีมา  พระอุโบสถ  และองค์ประกอบอื่นๆ  อีกมากมาย

            ใกล้อรุณจะรุ่งนั้นเองพระธุดงค์รูปนั้นก็เกิดนิมิตประหลาด  ซึ่งท่านได้เปิดเผยให้ฟังดังนี้

            ?อาตมายังจำได้ดีเหมือนเมื่อเกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้  อาตมาฝันว่ากำลังนั่งพักผ่อนอยู่หน้ากลด  พลันท้องฟ้าอันมืดมิดทางด้านทิศเหนือก็ปรากฎแสงสว่างอันแพรวพราว  แสงนั้นรวมตัวกันเป็นภาพของนักรบโบราณ  สวมเครื่องแต่งกายแบบขุนศึกมีสังวาลย์และเครื่องรางต่างๆ  อันเป็นของสูงใส่กางเกงแบบสนับเพลาบนศีรษะ  สวมหมวกปีกกว้างปลายปีกหลุบลงด้านข้างในมือถือ  ดาบฝักคร่ำทองสวยงามกระชับมั่น?

            นักรบโบราณคนนั้นได้เดินตรงเข้ามายังที่ที่อาตมานั่งอยู่  พอได้ระยะพอสมควรที่จะพูดจากันได้  จึงนั่งคุกเข่าลงข้างหนึ่งดาบในมือปลดออกวางไว้ด้านข้าง  เข่าข้างหนึ่งชันขึ้นนมัสการแล้วก็เอ่ยขึ้นด้วยเสียงอันนุ่มนวลแต่มีอำนาจว่า

            ?ท่านยังจำผมได้อยู่หรือเปล่าเล่า?

          อาตมารู้สึกมึนงงเพราะตั้งแต่อาตมาเกิดมาจำความได้จนบวชเรียนมาถึงปัจจุบันก็ไม่เคยพานพบนักโบราณผู้นี้เลย  จึงจ้องหน้าด้วยความแปลกใจไม่ตอบเพราะไม่รู้จักจริงๆ  เสียงอันนุ่มนวลแต่ทรงอำนาจก็ย้ำขึ้นอีกครั้งหนึ่งว่า

            ?ท่านยังจำผมได้อยู่หรือเปล่าเล่า?

            อาตมาจึงนึกว่าเป็นขุนแผนแสนสะท้านกาญจนบุรีร้องตอบไปว่า

            ?ท่านขุนแผนแสนสะท้านเจ้าเมืองกาญจนบุรีหรือเปล่าล่ะ?

          นักรบโบราณคนนั้นส่ายหน้าช้าๆ  แล้วจึงเอ่ยขึ้นว่า

            ?ท่านจำผมไม่ได้จริงๆ  แหละผมก็สมเด็จพระนเรศวรมหาราชผู้กอบกู้เอกราชของชาติไทยไว้เมื่อ 400  กว่าปีมาแล้วยังไงล่ะท่าน  ก็น่าเห็นใจเพราะเวลาผ่านมาหลายร้อยปีจะให้ท่านจำผมได้นั้นย่อมเป็นการลำบาก?

            อาตมาปีติจนขนลุกซู่เพราะไม่นึกว่าจะได้พบกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราชพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาในค่ำคืนวันนี้  จึงกล่าวตอบไปว่า

            ?ต้องขออภัยให้อาตมาด้วยเถิดมหาบพิตร  อาตมามิอาจจำพระองค์ได้เลยเป็นความสัตย์จริงหาไม่ก็คงไม่บอกว่าเป็นขุนแผน?

            พระพักตร์อันสง่างามไม่ไว้พระมัสสุ(หนวด)  โดยเฉพาะดวงพระเนตรนั้นมีแววเด็ดเดี่ยวและเมตตาระคนกัน  อาตมาภาพยังจดจำเค้าพระพักตร์ได้ไม่ลืมเลือนพระวรกายอุดมไปด้วยมัดกล้าม  แผงพระอุระใหญ่สมชายชาตรีทรงแย้มพระโอษฐ์เล็กน้อยแล้วกล่าวกับอาตมาสืบไป

            ?ท่านรู้สึกหนักใจมากนักหรือในการสร้างวัด  ผมเห็นว่าท่านมีทุกข์จึงมาหาและมาคุยกับท่านเป็นพิเศษ  ท่านรู้ไหมว่าทำไมที่ดินนี้จึงถูกยกมาให้ท่านอย่างง่ายดาย  ถ้าไม่รู้ผมจะบอกให้ที่นี่แต่โบราณเรียกกันว่าหนองน้ำแดง  ผมเคยหยุดกองทัพพักที่นี่  ผมเคยเหยียบรอยเท้าไว้เมื่อมีผู้จะสร้างวัดผมจึงมาอนุโมทนา?

            ?เจริญพรมหาบพิตร  อาตมาหนักใจมาก  เพราะเป็นเรื่องใหญ่และต้องลงทุนมหาศาลนัก  อาตมาเป็นสงฆ์จะทำได้แค่ไหนก็ไม่รู้ได้?

            ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรกันต่อไป  ท้องฟ้าทางด้านทิศตะวันออกก็พลันปรากฎแสงสว่างขึ้นอีก  แสงสว่างนั้นรวมตัวกันเป็นนักรบโบราณ  แต่งกายชุดเครื่องรบ  สวมหมวกปีกกว้างไว้พระมัสสะ (หนวด)  ในมือถือดาบกระชับมั่น  เมื่อเข้ามาใกล้จนเห็นถนัด  อาตมาจำได้เป็นมั่นเหมาะถึงกับอุทานว่า

            ?มหาบพิตรสมเด็จพระตากสินมหาราช?

          พระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช  แสดงการคารวะต่อพระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช  ก่อนที่จะเข้ามาคุกเข่าลงข้างหนึ่ง  แล้วปลดดาบลงวางไว้ข้างพระองค์เคียงคู่กับสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงมีพระราชดำริกับอาตมาว่า

            ?ที่หนองน้ำแดงนี่กองทัพกู้ชาติของผมก็เคยมาพักท่านไม่ต้องกังวล  ถ้าผมกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราชคอยหนุนแล้วท่านไม่ต้องเป็นห่วง  ท่านจะทำอะไรก็บอกมาเลย?

          อาตมาจึงกล่าวตอบทั้งสองพระองค์ไปว่า

            ?เจริญพรมหาบพิตร  อาตมาต้องการสร้างวัดเมื่อมีวัดก็ต้องมีโรงเรียน  มีพระอุโบสถ  มีสถานฝึกอาชีพ  และสิ่งสุดท้ายก็คือโรงพยาบาล?

          พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช  ทรงมีพระดำรัสว่า

            ?โครงการอย่างนั้นไม่ใช่ล้านสองล้านนะท่าน?

            อาตมาก็ชิงทูลท่านไปว่า
            ?สี่ห้าสิบล้านก็จะขอสู้หากพระบารมีคอยหนุนอยู่ละก็?

          ทั้งสองพระองค์ทรงพระสรวลเบาๆ  พร้อมๆ  กัน  พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงมีพระดำรัสว่า

            ?งานชิ้นแรกที่ท่านจะต้องทำก็คือ  ท่านต้องหาทางตัดถนนเข้ามายังที่ที่ท่านจะสร้างวัด  แต่ไม่ใช่ทำเปล่าๆ  นะท่าน  ต้องปักป้ายเอาไว้ด้วยว่า  ถนนสมเด็จพระนเรศวรมหาราช  นั่นแหละ  คือเส้นทางที่จะนำปัจจัยมาสู่สถานที่นี้  แต่ท่านต้องต่อสู้นะอย่าอยู่นิ่งแล้วทุกอย่างจะสำเร็จตามที่ท่านปรารถนาทุกประการ?

            สิ้นพระสุรเสียงภาพของทั้งสองพระองค์ก็กลายเป็นแสงสว่างพุ่งออกไปทางทิศเหนือทิศตะวันออกตามที่เสด็จมา  นี่คืออีกประสบการณ์หนึ่งที่อาตมาได้ประสบมา
http://m.exteen.com/blog/jantatip/read/1176619

ออฟไลน์ ~@เสน่ห์เอ็ม@~

  • ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย พระคุณบิดามารดาผู้มีพระคุณ แล ครูบาอาจารย์ผู้เกื้อหนุน สาธุ..
  • เด็กวัด
  • *****
  • กระทู้: 5894
  • เพศ: ชาย
  • ศิษวัดบางพระ
    • ดูรายละเอียด
เป็นประสบการณ์ ตอนหลวงพ่อธุดง ครับ บทความนี้ผมเคยอ่านในหนังสือเหมือนกัน ครับ มีหลายเรื่องๆ
ว่างๆ จะเอาเรื่องอื่นมาให้อ่าน กัน ครับ ผม  :075:

ออฟไลน์ ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์)

  • *โปรดระวัง - สีลัพพตปรามาส, ๗ เดือน ๑๙ วันจะเก็บแต่ความทรงจำที่ดีๆไว้, ตถตา (เช่นนั้นเอง).
  • ...
  • *****
  • กระทู้: 6436
  • เพศ: ชาย
  • ผู้สอนคือผู้ลวง? ผู้เรียนคือผู้หัดที่จะลวง?
    • ดูรายละเอียด
    • เฟสบุ๊ควัดบางพระ (หลวงพ่อเปิ่น)
ขอบคุณบทความครับผม อ่านเพลินดีครับ  :002:  :015: