ศีล 5 เป็นศีลปกติพื้นฐานสำคัญของความเป็นมนุษย์ ส่วนศีลที่แตกออกไปจนถึง 227 ข้อ เป็นการบัญญัติเพื่อความเป็นระเบียบ เป็นวินัย เป็นความพร้อมเพรียงในคณะสงฆ์ แต่หลักจริงๆ คือศีล 5 เป็นศีลที่ทำให้สังคมสงบสุข ปิดกั้นภัยเวรแก่ผู้รักษาศีล ... ที่พวกเรารู้สึกว่ารักษายากขัดกับชีวิตประจำวัน นั่นเป็นเพราะตาใจของเรามันบอดแสง หรือเจ้ากรรมนายเวรมาบังจิตบังใจเรา ไม่ยอมให้ลุถึงซึ่งความดี ... หลายคนกว่าจะถึงดีมีสุข เจ้ากรรมนายเวรเคยจิตให้คิดผิด พูดผิด ทำก็ผิด ต้องตกระกำลำบากมาก เหตุเพราะเราทำเขาไว้นี่ เขาจองเวรเราก็ลำบาก จะรักษาศีล 5 ให้ถึงความดี ก็ทำไม่ได้สักที กาย วาจา ใจ ก็เลยไม่ปกติ ยังเกลือกกลั้วกับภัยเวร จึงเป็นทุกข์รำไป ...
เมื่อศีล 5 ไม่ครบ ภูมิจิตก็ตำกว่าความเป็นมนุษย์ หากโชคดีตกบันไดตายในขณะจิตนั้น ก็จะไปเกิดในภูมิที่ตำกว่ามนุษย์ คือ มีหวังได้ไปเห่าหอนหรือร้องโหยหวลตามวัดแน่ๆ จึงไม่ควรประมาท ... ครูบาอาจารย์จึงแนะนำเคล็ดลับ 3 ข้อ เพื่อเลี่ยงอบายภูมิต่างๆ ดังนี้
1. รักและเคารพบูชาคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ผู้ทรงคุณงามความดีถึงพร้อม...ระลึกรักษาไว้เป็นอารมณ์อยู่เสมอ จนรู้สึกลึกซึ้งในพระคุณของท่าน
2. ระลึกอยู่เสมอว่า ... ร่างกายคนและสัตว์สกปรกพอๆ กัน ต้องตายเหมือนกันทั้งหมด ... ร่างกายเป็นที่อาศัยของเราชั่วคราวเท่านั้น อย่าหลงใหลรูปกายนี้
3. เจริญพรหมวิหาร 4 มีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นอารมณ์เย็นอยู่เสมอ และพยายามรักษาศีล 5 ให้ครบสมบูรณ์ ตั้งจิตตรงเฉพาะพระนิพพานที่เดียว "เคล็ดลับ 3 ข้อนี้ ... ท่านให้รักษาไว้จนกว่าชีวิตจะหาไม่ ..."
ที่มา : ธรรมะดอทคอม