กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด มิตรไมตรี => บทความ บทกวี => ข้อความที่เริ่มโดย: อชิตะ ที่ 29 ก.ย. 2552, 10:12:32

หัวข้อ: พระปางป่าเลไลย์ พระปางที่มีต้นเหตุจากการทะเลาะวิวาท
เริ่มหัวข้อโดย: อชิตะ ที่ 29 ก.ย. 2552, 10:12:32
(http://img29.imageshack.us/img29/6/2486c.jpg)



หายจากบอร์ดไปหลายวันนะครับ    หุหุ..


คิดถึงพี่้น้องทุกคนครับผม (ปากหวาน..ซะหน่อย)

วันนี้ขอนำเรื่องราวของพระพุทธรุปปางหนึ่งมาคุยกันให้อ่านเพลินๆ ครับ  

ก็เป็นเรื่องราวของพระพุทธรูปปางป่าเลไลย์ ซึ่งเป็นพระประจำวันของคนที่เกิดวันพุธกลางคืน หรือ วันราหู ก็เรียกกันครับ
(ตั้งแต่พระอาทิตย์ตกดินจนถึงเช้าตรู่วันพฤหัสบดี)


พระพุทธรูปปางนี้มีำพระพุทธลักษณะเป็นพระพุทธรูปในอิริยาบถประทับนั่งบัลลังก์
หย่อนพระบาททั้งสองทอดลงมาเหยียบบนพื้น
พระพาหา(แขน)ทั้งสองวางบนพระเพลา(เข่า) หงายพระหัตถ์ขวา
เป็นกิริยารับหม้อน้ำจากพญาช้างปาลิไลยกะ ซึ่งเป็นช้างอยู่ในป่า หลีกหนีจากโขลง มาคอยปรนนิบัติพระพุทธองค์
พระหัตถ์ซ้ายคว่ำลง แสดงกิริยาไม่รับรวงผึ้งจากลิง เนื่องจากรวงผึ้งมีแมลงผึ้งอยู่
ลิงต้องกลับไปเอาแมลงผึ้ง และตัวลูกอ่อนออกหมดก่อน แล้วนำไปถวายใหม่ พระองค์จึงทรงรับประเคน



ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ พระพุทธรูปปางนี้มีมูลเหตุมาจากการที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปประทับในป่าป่ารักขิตวัน
ในละแวะบ้านปาริเลยยกะ (อ่านว่า ปา-ลิ-ไล-ยะ-กะ = ป่าเลไลย์)


มีคำถามว่าทำไม พระพุทธองค์ต้องเสด็จไปทรงประทับในป่า ให้ช้างกับลิงคอยอุปฐากดูแล แทนที่จะเป็นพระภิกษุสาวก
คำตอบก็คือ พระพุทธองค์ทรงหลีกเร้นมาเพราะพระทะเลาะกัน ทรงห้ามแล้วก็ไม่ฟัง จนพระองค์เองต้องทรงหลีกมาอยู่ในป่า


ณ จุดนี้ ทำให้มองเห็นว่า การที่ทะเลาะวิวาทกัน อารมณ์ฟุ่งผล่าน ขนาดที่เรียกว่า พระพุทธเจ้าทรงปรามก็ยังไม่ฟัง

หน้ามืดตาัมัว สุดพลัง.....  จริงๆ ครับ



เรื่องราวความเป็นมา ค่อนข้างจะยาวมาก ซึ่งปกติคนเล่นบอร์ดจะไม่ชอบอ่านอะไรยาวๆ
เพราะถ้าอยากข้อความหรือข้อมูลที่ยาวๆ คงไม่เล่นบอร์ด เอาเวลาไปนั่งอ่านวิกิพิเดีย มันส์กว่าเยอะ   :095: :095:

เรื่องราวแบบย่อๆ พอจะเอามาเล่าแบบภาษาที่อ่านง่ายๆ ก็คือว่า

เรื่องเกิดเพราะ พระนักเทศน์กับพระนักปกครองทะเลาะกัน แล้วก็ทะเลาะกันด้วยเรื่อง ขันในห้องน้ำ  แค่นั้นเอง
ต้องอธิบายเล็กน้อยนะครับว่า วินัยของพระที่มาในปกรณ์ นอกพระปาฎิโมกข์ มีกำหนดไว้ว่า
เมื่อใช้น้ำเวลาเข้าห้องน้ำแล้ว ต้องคว่ำภาชนะหรือขันไว้ที่ขอบอ่าง ห้ามลอยขันไว้ในอ่างน้ำ
ดังนั้นถ้าเราไปวัดและลองสังเกตกันดู ห้องน้ำ ห้องไหนที่ขันลอยในอ่างแสดงว่าห้องน้ำคน
ถ้าห้องน้ำไหนเข้าไปแล้ว เห็นขันวางบนขอบอ่างโดยคว่ำไว้อย่างเรียบร้อย นั้นคือ ห้องน้ำพระ
เพราะพระทำอะไรต้องมีสติควบคุมตลอด เรียบร้อยตลอด  สาธุๆ

แต่เรื่องที่เกิดก็เพราะว่า พระนักเทศน์ซึ่งไม่เก่งเรื่องวินัย เข้าไปในห้องน้ำแล้ว เสร็จธุระแล้ว ไม่ได้คว่ำภาชนะไว้ที่ขอบอ่าง
เหลือน้ำไว้ในภาชนะ  พอพระนักปกครองหรือพระวินัย มาเห็นก็เลยกล่าวตามประสาพระเก่งวินัย
ประมาณว่า ท่านใช้ห้องน้ำแล้วเหลือน้ำไว้หรือ? พอพระนักเทศน์รับว่า ใช่ ตามนั้น..
พระวินัยก็แจ้งข้อหาทันที ว่าเป็ยอาบัติทุกกฎ(แปลว่า ทำชั่ว) เพราะเหลือน้ำไว้ในภาชนะ
พระนักเทศน์ก็บอกว่า ยอมรับเพราะตนไม่รู้
พระวินัยบอกว่า ถึงไม่รู้ก็เป็นอาบัติ
ถึงไม่รู้ก็เป็นอาบัติ" พระวินัยธรว่า
พระนักเทศน์หรือพระธรรมกถึกก็กล่าวว่า "ถ้าอย่างนั้นก็ขอปลง(แสดง)อาบัติละกัน
พระนักปกครองหรือพระวินัยธรก็บอกว่า "แต่ถ้าท่านไม่แกล้งทำ ท่านทำเพราะไม่มีสติ อาบัติก็ไม่มี"
พอพูดแบบนี้ พระนักเทศน์ก็จึุงไม่ปลงอาบัติ...........
ดูเหมือนเรื่องจะจบลงด้วยดี ใช่ไหมครับ..??

แต่จริงๆ เรื่องไม่จบ ซะแล้ว..

เพราะหลังจากนั้นพระวินัยหรือพระปกครองก็เที่ยวไปโพทนากับลูกศิษย์ของตนเองทำนองว่า
พระนักเทศน์ดีแต่เทศน์สอนคนอื่น เป็นอาบัติเองก็ยังไม่รู้ตัวเลย
เมื่อศิษย์ของพระวินัยธรเจอศิษย์ของพระพระนักเทศน์หรือธรรมกถึก ก็พูดใส่หูเป็นเชิงดูหมิ่นว่า
 "อุปัชฌาย์อาจารย์ของพวกท่านด้องอาบัติแล้วก็ไม่รู้"
เท่านี้ก็งานเข้าซิครับ  หมิ่นใครหมิ่นได้ มาหมิ่นครูบาอาจารย์ ต้องถามให้รู้เรื่อง
ลูกศิษย์ของพระันักเทศน์จึงเข้าไปถามพระอาจารย์ว่า จริงหรือไม่ ที่ ต้องอาบัติเรื่องภาชนะใส่น้ำ
พระนักเทศน์จึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ศิษย์ฟังแล้วกล่าวว่า
"พระวินัยธร ทีแรกพูดว่าไม่เป็นอาบัติ มาบัดนี้ ไฉนจึงพูดว่า เป็นอาบัติ พระวินัยธรพูดมุสา"
จากนั้นศิษย์พระนักเทศน์ เมื่อพบศิษย์ของพระวินัยธรก็พูดบ้างว่า "อุปัชฌาย์ของพวกท่านพูดมุสา"


เท่านั้นละครับ งานเข้ายาวเลย

ทั้งสองฝ่ายก็ทิ่มแทงกันด้วยหอก คือ คำพูดเสียดแทง กระทบกระแทกแดกกันกัน สุดพลัง
... :067: :067:

การทะเลาะกันของเหล่าพระนักเทศน์ซึ่งขอใช้คำว่า เก่งทฤษฎี กับพระนักปกครอง ซึ่งเน้นการปฎิบัติ ก็ขยายวงกว้างออกไป
ทะเลาะกันแรงขึ้นๆ ลามถึงชาวบ้านที่ชอบพระกลุ่มไหนก็เข้าข้างพระกลุ่มนั้น ทะเลาะกันไปจนถึงเทวดา ทีเดียว
จนกระทั้งพระพุทเจ้าต่้องเสด็จมาประทานพระโอวาท พระทั้งสองฝ่ายก็ไม่ฟัง

ทรงสั่งสอนและห้าม พระทั้งสองกลุ่มก็ไม่ยอมฟัง ตั้งหน้าตั้งตาจะทะเลาะกัน แบ่งสี แบ่งสาย กันชัดเจน
พระพุทธเจ้าทรงระอิดระอาต่อการทะเลาะของภิกษุเหล่านั้น
มีพระประสงค์จะเสด็จหลีกออกจากหมู่ อยู่โดดเดี่ยว  จึงเสด็จบิณฑบาตลำพังพระองค์เองแล้วหลีกเข้าป่าป่ารักขิตวัน
มีช้างกับลิงคอยดูแลอุปัฎฐากดูแล



ที่นี้ทางพระที่ทะเลาะกันไม่เลิก   จนชาวบ้าน ร้านตลาดเขาเบื่อหน่าย จึุงไม่ใส่บาตรให้ฉัน ไม่ยกมือไหว้ หมดศรัทธา
พอเจอแบบนี้ พระทั้งสองกลุ่มก็เริ่มสำนึกตนได้ว่า


เรามาทะเลาะกันจนคนเขาเบื่อจะแย่แล้วทำไมกัน?

ภายหลังจึงได้ไปขอขมาพระพุทธเจ้า และพระพุทธองค์ทรงอดโทษให้(ยกโทษ)

เรื่องการทะเลาะกันนั้น ท่านกล่าวไว้ว่า เป็นเพราะ ๒ สาเหตุ

๑.ผลประโยชน์ขัดกัน

๒.มีทิฎฐิมานะความคิดเห็นไม่ตรงกัน(หงส์กับผี ,ปืนกับสิงโตน้ำเงิน)  ถือตัวว่าเก่ง ว่าเก๋า หรือลืมตัวนั้นเอง




เรื่องราวของพระปางป่าเลไลย์มีรายละเอียดที่น่าสนใจและสนุกครับ

ผมเก็บมาเล่า คงมีผิดพลาดตกหล่นไปบ้าง อีกทั้งใช้ภาษาที่ไม่ใช่ภาษาดั้งเดิม ต้องขออภัย มา ณ ที่นี้


อยากจะฝากไว้ว่า "การทะเลาะกัน พระพุทธท่านยังหนี แล้วจะมีดีอะไรเหลือไว้คุ้มตัว"

ถ้าจะคุยกันก็คุยกันด้วยดี อย่าทิ่มแทงกันด้วยคำพูดเลยครับ  เรื่องแบบนี่้มีมาแต่โบราณแล้ว  

รัีกกันไว้ดีกว่า  จะได้น่ารักมากกว่าน่าเบื่อ ครับผม


สาธุๆ

(อ้างอิงข้อมูลจาก หนังสือ ทางแห่งความดี ของอาจารย์วิศิน อินทสระ)











หัวข้อ: ตอบ: พระปางป่าเลไลย์ พระปางที่มีต้นเหตุจากการทะเลาะวิวาท
เริ่มหัวข้อโดย: Gearmour ที่ 29 ก.ย. 2552, 10:22:12
ด้วยความเคารพครับ

   ชอบครับ
ใครว่าอะไรก็นิ่งๆ เสีย
มีคนไม่โดนนินทาไม่มีในโลก
สาดโคลนกันกันมา ก็ไม่จบ
ขอบคุณมากมายที่นำมาให้อ่านครับ
  ขอแสดงความนับถือ
Gearmour
หัวข้อ: ตอบ: พระปางป่าเลไลย์ พระปางที่มีต้นเหตุจากการทะเลาะวิวาท
เริ่มหัวข้อโดย: cho presley ที่ 29 ก.ย. 2552, 11:02:21
..ลดละเลิกหลีกเลี่ยง ฉนวนก่อเชื้อที่จะก่อเกิดวิวาทะ...
และอย่าได้แสดงความอ่อนแอให้ศัตรูเข้มแข็ง.....



....วัตถุภายนอกไม่ว่าพิมพ์ใดชนิดไหนไม่สำคัญเท่าวัตถุภายใน คือใจอันบริสุทธิ์ของตนเอง
พยายามปลุกปลอบสร้างขวัญกำลังใจที่ดี ให้มีในตน..

ไม่มีใครเสกให้อุปสรรค เมฆหมอกความขุ่นมัวออกจากชีวิตใครได้ นอกจากใจที่มีพลังกล้าแข็งในการเผชิญช่วงจังหวะร้ายของชีวิตให้ผ่านพันไปด้วยตัวตนของตนเอง
'ปล่อยให้มันกระทบ แต่อย่าสะเทือน'
ไม่มีกรรม (การกระทำ) ชนิดใดที่เกิดขึ้นแล้วตัวเราจะรับไม่ได้
ไม่มีกรรมสนองกรรมชนิดใดเกินกว่าที่เราจะรับได้ ถ้าจิตใจเรามั่นคงพร้อมย่อมผ่านอุปสรรคเพื่อความสำเร็จอันสดใสที่รอคอยอยู่ข้างหน้า

'คนไม่รักตัวเอง ย่อมไม่ปรารถนาดีต่อคนอื่น' จงจำไว้ทุกสิ่งทุกอย่าง 'สำคัญที่ใจ' คำสอนพ่อครูศิริพงศ์ by cho. presley.
หัวข้อ: ตอบ: พระปางป่าเลไลย์ พระปางที่มีต้นเหตุจากการทะเลาะวิวาท
เริ่มหัวข้อโดย: ~@เสน่ห์เอ็ม@~ ที่ 29 ก.ย. 2552, 11:10:33
ขอบพระคุณครับพี่เมฆ  ที่นำข้อมูลและประวัติเกี่ยวกับ พระพุทธรูปปางป่าเลไลย์  ได้ความรู้มากเลยครับ

ถ้าคนไทยไม่รักกัน .......อีกหน่อยจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟังหละครับ   หุหุ

ละกิเลศบ้างจิตใจเป็นสุข จิตใจไม่ทุกข์ ไม่ต้องระแวงว่ากลัวใครจะมาว่าอะไรเรา ทำหูทวนลมแกล้งไม่รู้ซะก็จบนะครับ อิอิ

จะดับทุกข์ต้องดับที่ต้นเหตุ ไม่ใช่แก้ที่ปลายเหตุนะครับ อิอิ

หัวข้อ: ตอบ: พระปางป่าเลไลย์ พระปางที่มีต้นเหตุจากการทะเลาะวิวาท
เริ่มหัวข้อโดย: kaitip ที่ 29 ก.ย. 2552, 11:39:37
ขอบคุณที่นำเรื่องราวดี-ดีมาเล่ากันคะ..ช่างเหมาะเจาะกะเวลาในช่วงนี้เหลือเกิน...

บางอย่างเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หากเรามองข้ามไป..ความขัดแย้งก็ไม่เกิด..

อยากให้คนไทยรักกันค่ะ..พี่เมฆอยากรู้เรื่องวันพุธกลางวันบ้างอ่ะคะ..
:077: :077:
หัวข้อ: ตอบ: พระปางป่าเลไลย์ พระปางที่มีต้นเหตุจากการทะเลาะวิวาท
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 29 ก.ย. 2552, 12:42:40
อชิครับ...กลับมาทีไร มีสาระดีๆทุกครั้งน่ะครับ ใกล้จตุรมิตรแล้วน่ะครับ หวังว่าคงได้เจอกันที่สนามน่ะครับ

(http://img200.imageshack.us/img200/8713/2007111707.jpg)
หัวข้อ: ตอบ: พระปางป่าเลไลย์ พระปางที่มีต้นเหตุจากการทะเลาะวิวาท
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์โจรสลัด~ ที่ 29 ก.ย. 2552, 01:11:06
เอาดวงใจของเขามาใส่ดวงใจของเราแล้วจะรู้ว่าเขาคิดกับเรายังไง ...  :095:
หัวข้อ: ตอบ: พระปางป่าเลไลย์ พระปางที่มีต้นเหตุจากการทะเลาะวิวาท
เริ่มหัวข้อโดย: อชิตะ ที่ 29 ก.ย. 2552, 01:25:18
อชิครับ...กลับมาทีไร มีสาระดีๆทุกครั้งน่ะครับ ใกล้จตุรมิตรแล้วน่ะครับ หวังว่าคงได้เจอกันที่สนามน่ะครับ

(http://img200.imageshack.us/img200/8713/2007111707.jpg)

ครับพี่ตี๋ จตุรมิตร ส่วนมากได้ไปวัดเปิดนะครับ 

วันปิดถ้าได้เข้าชิง ก็เต็มที่   ป้วนเปี้ยนแถวแสตนด์เชียร์ฝั่งแปรอักษรครับ

รึ ..พี่ตี๋จะมาเต้นลีดร่วม..สี่สถาบันละครับ ๕๕+  :095: :095:(ล้อเล่นนะครับพี่)

เพิ่งสังเกต...ยินดีด้วยนะครับที่ได้เป็นที่ปรึกษา เย้ๆ   :114:  :114:  :114:
หัวข้อ: ตอบ: พระปางป่าเลไลย์ พระปางที่มีต้นเหตุจากการทะเลาะวิวาท
เริ่มหัวข้อโดย: อชิตะ ที่ 29 ก.ย. 2552, 01:36:01
อ้อ เพิ่มเติมอีกเล็กน้อยครับ   คำว่า พระปางที่มีเหตุเพราะทะเลาะกัน

อย่าไปเผลอคิดว่า พระปางนี้มีไว้บูชาแล้วจะทะเลาะกันนะครับ


แต่เพราะ พระพุทธเจ้าทรงไปประทับที่ป่ารักขิตวัน นั้นละ ที่ทำให้พระมาสมานสามัคคีกันเหมือนเดิม

สำหรับผมแล้ว ผมมองว่า เป็นพระพุทธรูปที่เหมาะกับการเข้าป่านะ  สัตว์ต่างๆ น่าจะเมตตาเรา ไม่ทำร้าย

คิดเอาเองนะครับ ไม่มีที่ไปที่มาอะไรมากไปว่า เห็นว่า ขนาดช้างกับลิงยังมาอุปัฎฐากพระพุทธองค์

นำเรียนเพิ่มเติมครับผม
หัวข้อ: ตอบ: พระปางป่าเลไลย์ พระปางที่มีต้นเหตุจากการทะเลาะวิวาท
เริ่มหัวข้อโดย: tum72 ที่ 29 ก.ย. 2552, 02:19:49
ขอบคุณพี่เมฆมากครับ
ได้ความรู้มากเลยครับ ความหมายของพระปางป่าเลไลย์

ยอมถอยกันคนละก้าว ยอมกันคนละนิดละน้อย ทุกอย่างสวยงามแน่นอนครับ...มิตรภาพอันแสนสุขอยู่ร่ำไรแล้วครับพี่น้อง
หัวข้อ: ตอบ: พระปางป่าเลไลย์ พระปางที่มีต้นเหตุจากการทะเลาะวิวาท
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์ต้นน้ำ~ ที่ 29 ก.ย. 2552, 05:15:27
ขอบคุณพี่เมฆนะครับสำหรับบทความดีๆครับ

เราหยุดแล้ว แต่ท่านหยุดแล้วหรือยัง
หัวข้อ: ตอบ: พระปางป่าเลไลย์ พระปางที่มีต้นเหตุจากการทะเลาะวิวาท
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์ack01~ ที่ 29 ก.ย. 2552, 07:15:16
เหตุผลของการทะเลาะกัน ก็แค่เพียง ความคิดเห็นไม่ตรงกัน...

...ไม่เปิดใจยอมรับเหตุผลของกันและกัน...

...ไม่เคารพในสิทธิ์ ส่วนบุคคลของกันและกัน...





....เปิดใจยอมรับ ก้าวเดินเข้าหา และจับมือกันไว้เถิด....


...เพื่อนมนุษย์ผู้ร่วมโลก...
หัวข้อ: ตอบ: พระปางป่าเลไลย์ พระปางที่มีต้นเหตุจากการทะเลาะวิวาท
เริ่มหัวข้อโดย: umpawan ที่ 29 ก.ย. 2552, 07:25:24
ขอบคุณพี่อชิตะมากนะครับ.. :054: