กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด มิตรไมตรี => บทความ บทกวี => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 06 พ.ย. 2552, 06:48:34

หัวข้อ: ริมฝั่่งสายน้ำนครชัยศรี...ณ ราตรีหนึ่ง..?
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 06 พ.ย. 2552, 06:48:34
 :059:กลับมาสู่อ้อมอก    ที่ป้องปกและคุ้มครอง
      ซุกกายริมชายคลอง    ลมหนาวต้องสะท้านกาย
     อ่อนล้าเพราะแรมรอน   ได้พักผ่อนให้เหนื่อยคลาย
     หลับลงอย่างสบาย       ที่ริมชายน้ำแห่งเดิม
     กลับมาเพื่อเติมฝัน        ถึงคืนวันที่ริเริ่ม
     ทบทวนเพื่อต่อเติม       กลับมาเสริมกำลังใจ
     กราบร่างไร้วิญญาญ      ครูอาจารย์เพื่อเติมไฟ
     เพื่อก้าวเดินต่อไป        ที่หวังไว้อุดมการณ์
    ร่อนเร่และแรมรอน         หยุดพักผ่อนเพียงไม่นาน
    คิดชอบประกอบการ       สร้างตำนานนักเดินทาง
        " วจีพเนจร "           ฝากกาพย์กลอนที่สรรค์สร้าง
    บอกเล่าเรื่องรายทาง      ถึงทุกอย่างที่พบมา
   เดินทางมายาวไกล         ตามที่ใจปรารถนา
   ก้าวผ่านกาลเวลา           เจอปัญหาสารพัน
   ให้คิดให้แก้ไข              ผ่านพ้นไปหลายครั้งนั้น
   ก่อเกิดสายสัมพันธ์         ช่วยเหลือกันตามเส้นทาง
   ฝึกกายและฝึกจิต           ฝึกความคิดเพื่อสรรค์สร้าง
   ลดละและปล่อยวาง        เดินตามทางแห่งมรรคา
   มรรคาสมณะ                 คือลดละซึ่งตัณหา
   กิเลสและอััตตา             สติมาปัญญามี
   ใช้หลักของพุทธะ          ในการละสิ่งเหล่านี้
   ศีลธรรมนำชีวี               เป็นสิ่งชี้คุณธรรม
      ลมพัดโพธิ์พริ้วไหว      สายน้ำไหลใจเย็นฉ่ำ
   ก่อเกิดบทลำนำ             อุทานธรรมริมสายธาร...
                .............................
" อ่อน   เมื่อพบลมแรงอย่างแข็งขืน
  น้อม   แล้วยืนขึ้นสู้สู่จุดหมาย
  ถ่อม   ลงหาประชาอย่างมงาย
  ตน     ควรมีความหมายแห่งตัวตน "
     ........................................
ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิตแด่มวลมิตรทุกผู้คน
        รวี สัจะ-วจีพเนจร-สมณะชายขอบ
๖ พฤศจิายน ๒๕๕๒ เวลา ๐๖.๔๘ น. ณ กุฏิทรงไทยชายน้ำนครชัยศรี  วัดบางพระ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
 
   
หัวข้อ: ตอบ: ริมฝั่่งสายน้ำนครชัยศรี...ณ ราตรีหนึ่ง..?
เริ่มหัวข้อโดย: umpawan ที่ 06 พ.ย. 2552, 07:33:21
กราบนมัสการพระอาจารย์นะครับ ช่วงนี้อากาศหนาวดูแลสุขภาพด้วยนะครับ  :054:
หัวข้อ: ตอบ: ริมฝั่่งสายน้ำนครชัยศรี...ณ ราตรีหนึ่ง..?
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 06 พ.ย. 2552, 09:13:33
 ฝึกกายและฝึกจิต           ฝึกความคิดเพื่อสรรค์สร้าง
 ลดละและปล่อยวาง        เดินตามทางแห่งมรรคา

กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ การฝึกจิตเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและความเพียร จุดที่ยากที่สุดคือฝึกแล้วรู้แค่คนเดียวคือตัวเรา เราหลอกตัวเราเองไม่ได้ ความคิดที่เป็นอกุศลจิตชอบแวบเข้ามาให้คิดต้องคอยดับทุกครั้งที่เกิด บางครั้งก็เคลิ้มไปกับอกุศลจิต กว่าจะดับได้ก็ต้องตั้งมั่น ผมคงต้องใช้เวลาอีกนานแต่ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดครับ
หัวข้อ: ตอบ: ริมฝั่่งสายน้ำนครชัยศรี...ณ ราตรีหนึ่ง..?
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์ack01~ ที่ 06 พ.ย. 2552, 11:37:26
ใช้หลักของพุทธะ          ในการละสิ่งเหล่านี้
   ศีลธรรมนำชีวี               เป็นสิ่งชี้คุณธรรม



 เมื่อวานได้กราบนมัสการพระอาจารย์ ที่วัดห้วยขวาง

พระอาจารย์ผอมมากเลยครับ (จำไม่ได้ 11;)

หัวข้อ: ตอบ: ริมฝั่่งสายน้ำนครชัยศรี...ณ ราตรีหนึ่ง..?
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์โจรสลัด~ ที่ 06 พ.ย. 2552, 06:11:36
อากาศที่นั่นหนาวไม่น้อยเลยสิครับพระอาจารย์ รักษาสุขภาพนะครับ ...  :054:


ได้พบพระอาจารย์ ก็ยังคุยกับพี่ ack01 อยู่ว่าทำไมพระอาจารย์ดูผอมลง ...  :075:
หัวข้อ: ตอบ: ริมฝั่่งสายน้ำนครชัยศรี...ณ ราตรีหนึ่ง..?
เริ่มหัวข้อโดย: gottkung ที่ 07 พ.ย. 2552, 02:33:50
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย
รักษาสุขภาพด้วยนะครับ
หัวข้อ: ตอบ: ริมฝั่่งสายน้ำนครชัยศรี...ณ ราตรีหนึ่ง..?
เริ่มหัวข้อโดย: cho presley ที่ 07 พ.ย. 2552, 09:35:37
ทุกย่างก้าวระยะเดินทาง ทุกอักษรความหมาย ซ่อนบริบทใหม่แห่งชีวิตสมณะเพื่อปถุชนเช่นเรา.. อนุโมทนาธรรมทานออนไลน์ส่งตรงถึงพวกเราทุกวัน

cho.
หัวข้อ: ตอบ: ริมฝั่่งสายน้ำนครชัยศรี...ณ ราตรีหนึ่ง..?
เริ่มหัวข้อโดย: nobeeta ที่ 07 พ.ย. 2552, 10:42:27
" อ่อน   เมื่อพบลมแรงอย่างแข็งขืน
  น้อม   แล้วยืนขึ้นสู้สู่จุดหมาย
  ถ่อม   ลงหาประชาอย่างมงาย
  ตน     ควรมีความหมายแห่งตัวตน "

บทธรรมผสมบทกวีที่ลงตัว ความหมายดี กราบขอบพระคุณพระอาจารย์มากครับที่นำบทกวี ที่ความหมายดีมาให้ได้อ่านกัน :054: