ผู้เขียน หัวข้อ: ลองอ่านดู -----> เหตุการณ์หลวงปู่แหวน กับ หลวงปู่ตื้อ....น่าขนพองสยองเกล้า  (อ่าน 1324 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

TUM

  • บุคคลทั่วไป
เหตุการณ์หลวงปู่แหวน กับ หลวงปู่ตื้อ....น่าขนพองสยองเกล้า

   ในเช้าวันหนึ่ง หลวงปู่แหวนกับหลวงปู่ตื้อ ได้อาศัยบิณฑบาตที่หมู่บ้านชาวป่า มี 4-5 หลังคาเรือน ชาวบ้านพากันมาใส่บาตรด้วยความดีใจ เพราะนานๆ จึงจะมีพระธุดงค์มาโปรดสักที

ชาวบ้านถามว่า พระคุณเจ้าทั้งสองจะไปไหน หลวงปู่บอกว่าจะมุ่งไปทางเทือกเขาที่มองเห็น แล้วจะลงไปทางสุวรรณเขต (อยู่ตรงข้ามกับมุกดาหาร) ชาวบ้านแสดงอาการตกใจ พร้อมทั้งทัดทานว่าอย่าไปทางโน้นเลย เพราะมียักษ์ปีศาจดุร้ายสิงอยู่ คอยทำร้ายคนและสัตว์ที่ผ่านไปทางนั้น

หลวงปู่ทั้งสอง กล่าวขอบใจในความหวังดี และบอกว่าท่านทั้งสองได้มอบกายถวายชีวิตให้พระศาสนาแล้ว ขออย่าได้ห่วงตัวท่านเลย แล้วท่านก็ออกเดินทางไปในทิศทางดังกล่าว

หลวงปู่ออกเดินทางโดยข้ามลำน้ำสองแห่ง แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ป่าแถบนั้นเงียบกริบ ไม่ได้ยินเสียงสัตว์ต่างๆ เลย แม้แต่นกก็ไม่มี ดูผิดประหลาดมาก

พอใกล้ค่ำหลวงปู่ทั้งสอง ก็มาถึงยอดเขาสูงที่มีลักษณะประหลาดมาก คือยอดเป็นสีดำคล้ายถูกไฟเผา รูปลักษณะดูตะปุ่มตะป่ำคล้ายหัวคนบ้าง หัวตะโหนกช้างบ้าง แปลกไปจากเขาลูกอื่นๆ

หลวงปู่ทั้งสอง เลือกปักกลดค้างคืนข้างลำธารที่มีน้ำใสไหลผ่านอยู่ที่เชิงเขาลูกนั้น ปักกลดห่างกันประมาณ 10 เมตร เมื่อสรงน้ำพอสดชื่นแล้วต่างองค์ก็นั่งสงบภายในกลดของตน ทั้งสององค์ตระหนักในความประหลาดของสถานที่นั้น ไม่ได้พูดอะไรกันเพียงแค่นั่งสงบอยู่ภายในกลด

ประมาณ 5 ทุ่ม หลวงปู่แหวน ก็ออกจากกลดเตรียมจะเดินจงกรม หลวงปู่ตื้อ ออกมาตามและพูดว่า "ผมรู้สึกว่าที่นี่วิเวกผิดสังเกตนะ"
หลวงปู่แหวน ตอบ "ผมก็รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน"
พูดกันแค่นี้แล้วต่างองค์ต่างก็เดินจงกรมในทางของตน

ต่อจากนั้นไม่นานก็มีเสียงกรีดแหลมเยือกเย็นดังลงมาจากยอดเขารูปประหลาดนั้น เสียงนั้นแหลมลึกบีบเค้นประสาทจนรู้สึกเสียวลงไปถึงรากฟันทีเดียว

หลวงปู่ตื้อ ถามพอได้ยินว่า "ท่านแหวนได้ยินแล้วใช่ไหม"
หลวงปู่แหวน ตอบด้วยเสียงเรียบ ๆ ว่า "ผมกำลังฟังอยู่"
เสียงกรีดร้องนั้นใกล้เข้ามาทุกที ฟังแล้วน่าขนพองสยองเกล้า ทั้งสององค์คงเดินจงกรมอยู่เงียบๆ ตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ป่านั้นเงียบสงัดจริงๆ เสียงนกเสียงแมลงก็ไม่มี ครั้นแล้วเกิดพายุปั่นป่วนมาอย่างกระทันหัน ชนิดไม่มีเค้ามาก่อนเลย ต้นไม้โยกไหวรุนแรงราวกับจะถอนรากออกมา อากาศพลันหนาวเย็นวิปริตขึ้นมาทันที พลันปรากฏร่างประหลาดขึ้นร่างหนึ่ง ตัวดำมะเมื่อม สูงราว 7 ศอก มีขนยาวรุงรังคล้ายลิงยักษ์ แต่หน้าคล้ายวัวควาย ตาโปน มือสองข้างยาวลากดิน มันก้าวเข้ามาอยู่ห่างจากหลวงปู่ทั้งสองประมาณ 10 เมตรเห็นจะได้

สัตว์ประหลาดนั้นส่งเสียงร้องโหยหวนขึ้น พลันพายุนั้นก็สงบลง แสดงว่ามันมีอำนาจเหนือธรรมชาติ สัตว์นั้นส่งกลิ่นเหม็นรุนแรงร้ายกาจเหมือนกลิ่นศพที ่กำลังขึ้นอืด มันกระทืบเท้าสนั่นจนแผ่นดินสะเทือน

หลวงปู่แหวนเล่าในภายหลังว่า ท่านไม่รู้สึกกลัว แต่ขนลุกซู่ซ่าไปหมด เพราะไม่เคยเห็นสัตว์ประหลาดอย่างนั้นมาก่อน ยังไม่รู้ว่าเป็นปีศาจหรือสัตว์อะไรแน่ ท่านได้กำหนดสติไม่ให้ใจคอวอกแวก ทอดสายตาไปยังสัตว์ประหลาดนั้น กำหนดจิตแผ่เมตตาไปยังร่างนั้น สัตว์ร่างยักษ์นั้นหยุดร้อง หยุดส่งกลิ่นเหม็น แสดงว่ารับกระแสเมตตาได้ มันค่อยๆ ทรุดร่างลงนั่งยองๆ เอามือยันพื้นไว้ ทำท่าแสดงความนอบน้อมต่อท่าน

หลวงปู่ตื้อ พูดพอได้ยินว่า "ท่านแหวนทำดีมาก" พร้อมทั้งเดินมาสมทบ แล้วพูดว่า "เขาแบกหามบาปหาบทุกข์อันมหันต์ เขามาหาเรา เพื่อให้ช่วยปลดทุกข์ให้เขานะ เขาสร้างกรรมไว้มาก เมื่อตายจากมนุษย์แล้วต้องมาเป็นปีศาจอสุรกาย ทนทุกข์ทรมานอยู่ที่นี่"
หลวงปู่แหวน ได้กำหนดจิตถามดูก็ได้ความว่า สมัยเป็นมนุษย์เขามีการกระทำที่มากล้นด้วยตัณหา และความโลภ คือละเมิดศีลข้อ 2 และข้อ 3 อยู่เสมอ จึงต้องมาเป็นปีศาจอสุรกาย รับทุกข์อยู่ที่นั่นมากว่าร้อยปีแล้ว

ปีศาจอสุรกายนั้นดูท่าทางอ่อนลงมาก มันร้องไห้คร่ำครวญน่าสงสาร ขอความเมตตาจากพระคุณเจ้าทั้งสองให้เขาได้พ้นทุกข์ทรมานนั้นด้วยเถิด

หลวงปู่แหวน ได้พิจารณาเห็นว่า เขาสร้างกรรมซับซ้อนเหลือเกินใครจะช่วยเขาได้ พลันหลวงปู่ตื้อตอบมาในสมาธิว่า "กรรมเป็นเรื่องสลับซับซ้อนลึกซึ้งอยู่ก็จริง บางทีพระผู้มีศีลบริสุทธิ์และมีบารมีเช่นท่านแหวน ก็อาจจะช่วยให้เขาพ้นทุกข์ได้ ลองอ่านพระคาถา หรือเทศนาธรรมให้เขาฟังดูสิ"

หลวงปู่แหวนได้กำหนดจิตว่าพระคาถา แล้วเทศนาให้เขาสำนึกบาปบุญคุณโทษ เขาค่อยๆ คลายความกังวลลง ก้มลงกราบด้วยความซาบซึ้ง

"พระคุณเจ้า ข้าพเจ้าได้กำหนดจิตพิจารณาตามกระแสธรรมของท่านแล้ว เกิดแสงสว่างกับข้าพเจ้าอย่างมหัศจรรย์ และข้าพเจ้าได้เห็นสภาวธรรม คือ ชาติ ชรา มรณะ อันเป็นทุกข์เป็นธรรมดาของสรรพสัตว์ทั้งหลายแล้วพระคุณเจ้า"
สีหน้าเขาดูสดชื่นขึ้น ก้มลงกราบหลวงปู่ทั้งสององค์ แล้วร่างนั้นก็หายไป



จากหนังสือ "หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ" วัดดอยแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ (โครงการหนังสือบูรพาจารย์ เล่ม3)

อ่านแล้วชนลุกครับ เพื่อนลองอ่านดูครับ
ด้วยความเคารพ ตั้ม.

TUM

  • บุคคลทั่วไป

ที่มา ของบทความข้างบนมาจาก เว็บพลังจิต ครับ

ออฟไลน์ พุงโต

  • ปัญจมะ
  • *****
  • กระทู้: 131
    • ดูรายละเอียด
 :054: :054: :054: สาธุ ๆ ผิดศีลมันช่างน่ากลัวครับ มารมันหลอกเราว่าดี มีความสุขแต่มันเก็บความทุกข์ ทรมารไว้ข้างหลังครับ น่ากลัว ๆ จริง ๆ
ตายแน่ ตายแน่ สักวันหนึ่งฉันต้องตาย กลายเป็นผี เหมือนพวกนี้แน่ ๆ

ออฟไลน์ cho presley

  • ------> I'm Cho Presley
  • นวมะ
  • ****
  • กระทู้: 2049
  • เพศ: หญิง
  • สุดท้ายก็กาหลง!
    • MSN Messenger - cho.khalong@hotmail.com
    • AOL Instant Messenger - เมืองเสน่ห์กาหลง
    • Yahoo Instant Messenger - มหาเสน่ห์+เมตตา+มหานิยม
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.khalong.com
พระท่านสนทนากัน.. พี่โชวเชื่อว่า ไม่มีการมุสาอย่างแน่นอน..

แทบไม่น่าเชื่อว่าจะมีเรื่องสยองแบบนี้... ปีศาจเดรัจฉาน แบกความทุกข์น่าเวทนา..ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดมานาน จนได้ปลดเปลื้องจากเมตตามารบีของพระคุณท่าน... สุดหาที่เปรียบถึงความเมตตา.. ปถุชนคนเรา เพียงหนึ่งเมตตาไม่เบียดเบียนสรรพสิ่งใดให้เขาเดือดร้อน..เป็นกุศลล้นพ้น สุขกายสบายหัวใจ.. พระท่านบารมีสูงส่งจนสามารถทำให้ความทุรนทุรายของปีศาจเดรัจฉานนั้น..ค่อยๆ หมดลง!

ปีศาจเดรัจฉานผิดศีลข้อ 2 มุสา.. กล่าวเท็จ ให้ร้ายคนอื่น ทำให้คนอื่นเสียหายด้วยวาจา เป็นเรื่องปถุชนธรรมดาทำเป็นอาจิณ.. ไหนจะข้อ 3 อีก.... มนุษย์มีแต่กิเลสและตัณหาราคะ.. ยังไม่รอให้ถึงวันตายเป็นปีศาจเดรัจฉาน.. ไม่นานก้ได้รับกรรม..ในชาตินี้แหละ!.. ฟังแล้วน่าสยองแบบน้องตั้มว่าจริง!.. คนเราไม่จำเป็นต้องดีหรอก.. แต่ขอให้ดำรงคุณค่าความเป็นคนให้ดีไว้.. เมื่อเรามีความสุขดีแล้ว เราต้องเผื่อแผ่ความสุขนั้นให้กับคนอื่น..นั่นหละกำลังจะเป็นคนที่อัพเกรด!

ขอบคุณน้องตั้ม..ที่อ่านเรื่องดีๆ มาแล้วมาแบ่งปันให้พี่น้องวัดบางพระ.. อนุโมทนา.. ใกล้ถึงวันสำคัญของชีวิตลูกผู้ชายแล้วสินะ.. cho.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 ก.ย. 2552, 02:53:25 โดย cho presley »

cho presley       

ออฟไลน์ ~@เสน่ห์เอ็ม@~

  • ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย พระคุณบิดามารดาผู้มีพระคุณ แล ครูบาอาจารย์ผู้เกื้อหนุน สาธุ..
  • เด็กวัด
  • *****
  • กระทู้: 5894
  • เพศ: ชาย
  • ศิษวัดบางพระ
    • ดูรายละเอียด
ขอบคุณครับพี่ตั้ม ได้ความรู้เยอะเลย ครับ

หลวงปู่แหวน ได้กำหนดจิตถามดูก็ได้ความว่า สมัยเป็นมนุษย์เขามีการกระทำที่มากล้นด้วยตัณหา และความโลภ คือละเมิดศีลข้อ 2 และข้อ 3 อยู่เสมอ จึงต้องมาเป็นปีศาจอสุรกาย รับทุกข์อยู่ที่นั่นมากว่าร้อยปีแล้ว



ศิล ข้อ 2 มุสา ดูไม่ยากครับ ....ส่วนมากคนที่ชอบโกหกก็มักจะถูกเขาจับได้แล้วไม่เชื่อถือ เพราะสันดานคนอะครับ แก้ยาก ธาคุแท้มักเผยออกมา กรรมติดจรวดเร็วจะตายไปครับ สมัยนี้  :007:
เหมือนเรื่องเด็กเลี้ยงแกะ..... คนเราพูดความจริง ไม่ผิดศิล แสดงความจริงใจ ก็ไม่ตายหลอกครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 ก.ย. 2552, 03:28:04 โดย เอ็มเมืองไร่ขิง »

ออฟไลน์ sudfish2499

  • ฉัฏฐะ
  • *
  • กระทู้: 93
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ขอบคุณมาครับ ที่นำมาให้อ่าน เพื่อประดับความรู้เพิ่มเติม :054: