ผู้เขียน หัวข้อ: เล่าสู่กันฟัง...จิตสำนึกแห่งคุณธรรม  (อ่าน 900 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ รวี สัจจะ...

  • รองประธาน
  • *****
  • กระทู้: 1137
  • รวี สัจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
    • ดูรายละเอียด
    • รวี สัจจะ สมณะไร้นาม (เคลื่อนไหวดุจสายลม)
ธุดงคสถานบ่อน้ำทิพย์เจริญธรรม  ภูเก้ายอด แม่ฮ่องสอน
28 กรกฎาคม 2545
         มีสติและสัมปชัญญะคุ้มครองกายและจิต แต่ยังไม่อาจจะหยุดคิดปรุงแต่งในอกุศลได้
เพราะว่าองค์แห่งคุณธรรมนั้นยังไม่มีกำลังเพียงพอ ที่จะเข้าไปหักห้ามและข่มใจไม่ให้คิดได้
ทบทวนพิจารณาดูว่ามาจากสาเหตุอะไร ที่ทำให้เราต้องคล้อยตามกิเลสตัณหาที่เกิดขึ้นมานั้น
พบว่าสาระสำคัญนั้นเกิดมาจากจิตสำนึกแห่งคุณธรรมของเรานั้น ยังไม่มีกำลังเพียงพอที่จะต่อสู้
กับกิเลสนั้นได้ จึงต้องคล้อยตามและเสพในอารมณ์อกุศลเหล่านั้น  ทั้งที่รู้ว่ามันเป็นอกุศลจิต
จึงได้รู้ว่ามันมีที่มาของของปัญหาเหล่านั้น ซึ่งเกิดจากพื้นฐานแห่งการปฏิบัติที่เราได้กระทำมา
เพราะว่าเราไปเน้นเรื่องสติเพื่อให้เกิดสมาธิมากเกินไป เรื่องศีลเรื่องวินัยเพียงแต่รู้และเข้าใจ
ในตัวอักษรตามตำรา ไม่ได้คิดและพิจารณาถึงที่มาและเจตนาของเรื่องศีลขอวัตรและพระวินัย
ว่าเป็นไปเพื่อการเจริญสติและสัมปชัญญะ โดยมีหิริและโอตตัปปะซึ่งเป็นองค์แห่งคุณธรรมนั้น
ควบคุมคุ้มครองอยู่ การที่เราจะทรงไว้ซึ่งศีลและวินัยนั้นได้ เราต้องมีสติและสัมปชัญญะอยู่ทุกขณะ
ระลึกรู้ในทางกายและทางจิต ในสิ่งที่คิดและในสิ่งที่ทำ และการที่เราไม่ก้าวล่วงล้ำพระธรรมพระวินัย
ศีลและข้อวัตรทั้งหลายนั้น เพราะเรามีความละอายและเกรงกลัวต่อบาปกรรมการล่วงละเมิดทั้งหลาย
การรักษาศีลจึงเป็นการเจริญสติสัมปชัญญะและเพิ่มกำลังขององค์แห่งคุณธรรมอยูทุกขณะจิต
ตามหลักธรรมในพระพุทธศาสนาที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ในหลักของการปฏิบัติเรื่องไตรสิกขา
อันได้แก่"ศีล สมาธิ ปัญญา" แต่เรากลับทำลัดขั้นตอนเพราะใจร้อน อยากจะเห็นผลสำเร็จโดยเร็วไว
จึงไม่ค่อยจะใส่ใจในเรื่องของศีล มาเน้นหนักเรื่องสมาธิมากเกินไป จึงทำให้จิตสำนึกแห่งคุณธรรม
นั้นมีกำลังไม่เพียงพอ ที่จะเข้าไปต่อสู้กับกิเลสตัณหาทั้งหลายได้
     นึกถึงคำครูบาอาจารย์ที่ท่านได้เคยกล่าวสอนไว้ "รู้ไปหมด แต่อดไม่ได้"ซึ่งมันได้เกิดขึ้นแล้ว
กับตัวของเราเอง ขบวนการทางจิตนั้นมันละเอียดอ่อน ทุกขั้นตอนของการปฏิบัติพัฒนาทางจิตนั้น
ต้องทำอย่างสม่ำเสมอข้ามและลัดขั้นตอนนั้นไม่ได้เลย มันทำให้เกิดการสั่งสมอบรมจิต ให้รู้จักคิด
รู้จักการพิจารณาเหมือนดั่งคำที่ว่า"ทุกข์ไม่มา ปัญญาไม่มี บารมีไม่เกิด" คือเราต้องเรียนรู้เรื่องทุกข์จากทุกข์
เรียนรู้ตัณหาจากตัณหา ทุกข์ละทุกข์ ตัณหาละตัณหา คือต้องเห็นของจริงเสียก่อน เมื่อเห็นแล้วต้องทำความ
เข้าใจในสิ่งนั้นให้ชัดแจ้ง เห็นที่เกิดของสิ่งนั้น รู้และเข้าใจแล้วจึงเข้าไปจัดการกับมัน ซึ่งการที่จะเข้าไปจัดการนั้น
ขึ้นอยู่กับภูมิธรรมของแต่ละท่านในขณะนั้น ว่ามีกำลังมากน้อยเพียงใด
    การปฏิบัติธรรมนั้น ไม่ใช่แต่เพียงการนึกคิดและจินตนาการ แต่มันเป็นเหตูการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในจิตของเรา
ที่มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปทุกขณะจิต ไม่ใช่อดีตหรือว่าเป็นอนาคต แต่มันเป็นปัจจุบันธรรมที่เรากำลังสัมผัส
เรียนรู้จากของเกาเพื่อเอามาใช้ในปัจจุบัน เพื่อที่จะสร้างสรรค์กำหนดอนาคตที่จะก้าวเดินต่อไป...
               ..............................................................................
 :059:ภาคขยาย...เพราะเมื่อก่อนนั้นเราไปเน้นเรื่องสมาธิเชิงพลังงานมากเกินไป เพื่อจะนำมาสงเคราะห์
ช่วยเหลือญาติโยม มันจึงทำให้เราหลงตัวเองเกิดอัตตามานะขึ้นมาโดยที่เราไม่รู้ตัว โดยคิดว่าสมาธิของเราดีแล้ว
จิตของเราดีแล้ว ทุกอย่างก็จะดีตามไปด้วย เพราะอำนาจพลังของสมาธินั้นมันกดทับกิเลสอยู่ทำให้เราไม่เห็นมัน
จนเราคิดว่ากิเลสนั้นมันหมดไปแล้ว แต่เมื่อไหร่ที่สมาธินั้นอ่อนกำลังลง กิเลสที่ถูกทับถมไว้ก็จะปรากฏแสดงออกมา
จึงทำให้เรารู้ว่า เรานั้นต้องปฏิบัติพัฒนาจิตของเราให้ยิ่งไปกว่านี้ที่มันเป็นอยู่......
                   เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต
                      รวี สัจจะ-วจีพเนจร-สมณะชายขอบ
๕ ธันวาคม ๒๕๕๒ เวลา ๐๕.๓๑ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายขอบประเทศไทย
ใช่หวังจะดังเด่น  จึงมาเป็นสมณะ
เพียงหวังจะลดละ  ซึ่งมานะและอัตตา
เร่ร่อนและรอนแรม ไปแต่งแต้มแสวงหา
สัญจรร่อนเร่มา  ผ่านร้อยป่าและภูดอย
ลาภยศและสรรเสริญ  ถ้าหลงเพลินจิตเสื่อมถอย
พาใจให้เลื่อนลอย  จิตเสื่อมถอยคุณธรรม
       ปณิธานในการปฏิบัติธรรม

ออฟไลน์ cho presley

  • ------> I'm Cho Presley
  • นวมะ
  • ****
  • กระทู้: 2049
  • เพศ: หญิง
  • สุดท้ายก็กาหลง!
    • MSN Messenger - cho.khalong@hotmail.com
    • AOL Instant Messenger - เมืองเสน่ห์กาหลง
    • Yahoo Instant Messenger - มหาเสน่ห์+เมตตา+มหานิยม
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.khalong.com
ตอบ: เล่าสู่กันฟัง...จิตสำนึกแห่งคุณธรรม
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 06 ธ.ค. 2552, 09:08:27 »
รู้ไปหมด แต่ก็อดไม่ได้.. เป็นเพราะสมาธินั้นอ่อนกำลังลง กิเลสที่ถูกทับถมไว้ก็จะปรากฏแสดงออกมา :100:

บทความนี้สะท้อนความน่ากลัวของคำว่ากิเลสได้อย่างดีเยี่ยม...มันเกาะอยู่ที่ใจเรานั่นแหละ!
ทำให้หนูมีกำลังใจต่อไป หลวงพ่อสอน สำคัญที่ใจ! ชนะทุกสิ่ง! ไม่ใช่พูดได้ เขียนได้...มันต้องทำให้ได้ต่างหากเพราะใจสั่งมา!

cho presley       

ออฟไลน์ derbyrock

  • คณะกรรมการ
  • *****
  • กระทู้: 2494
  • เพศ: ชาย
  • สติมา ปัญญาเกิด........ปัญหามา ปํญญามี.......
    • MSN Messenger - derbyrock@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: เล่าสู่กันฟัง...จิตสำนึกแห่งคุณธรรม
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 06 ธ.ค. 2552, 09:22:25 »
การปฏิบัติธรรมนั้น ไม่ใช่แต่เพียงการนึกคิดและจินตนาการ แต่มันเป็นเหตูการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในจิตของเรา
ที่มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปทุกขณะจิต ไม่ใช่อดีตหรือว่าเป็นอนาคต แต่มันเป็นปัจจุบัน

กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ผมคงต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อศึกษาธรรม เพราะธรรมะไม่ใช่แค่อ่านหรือจำ ถึงเข้าใจเป็นอย่างดี แต่ถ้าทำไม่ได้ก็มิอาจกล่าวได้ว่า เป็นคนมีธรรม

ความสุขที่แท้จริงรอคอยคุณอยู่.......เพียงแค่คุณนั่งลงแล้วหลับตา

ออฟไลน์ รวี สัจจะ...

  • รองประธาน
  • *****
  • กระทู้: 1137
  • รวี สัจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
    • ดูรายละเอียด
    • รวี สัจจะ สมณะไร้นาม (เคลื่อนไหวดุจสายลม)
ตอบ: เล่าสู่กันฟัง...จิตสำนึกแห่งคุณธรรม
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 07 ธ.ค. 2552, 07:14:45 »
การปฏิบัติธรรมนั้น ไม่ใช่แต่เพียงการนึกคิดและจินตนาการ แต่มันเป็นเหตูการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในจิตของเรา
ที่มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปทุกขณะจิต ไม่ใช่อดีตหรือว่าเป็นอนาคต แต่มันเป็นปัจจุบัน

กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ผมคงต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อศึกษาธรรม เพราะธรรมะไม่ใช่แค่อ่านหรือจำ ถึงเข้าใจเป็นอย่างดี แต่ถ้าทำไม่ได้ก็มิอาจกล่าวได้ว่า เป็นคนมีธรรม
รู้ธรรม..เห็นธรรม...เข้าใจธรรม..แต่ยังไม่ได้ทำ...เท่ากับยังไม่ถึงธรรม...และยังไม่มีธรรมเป็นเครื่องอยู่..