""~จงใช้เวลาของชีวิตที่เหลืออยู่ มาเรียนรู้ชีวิตที่เป็นจริง...ทุกสิ่งที่ผ่านมา คือมายาของชีวิต ที่ลิขิตไปตามแรงแห่งตัณหา เป็นโลกมายาของกิเลส ""~พระไตรลักษณ์คิอความเป็นจริงของชีวิต ""
""~ทดลองการปฏิบัติมาทุกรูปแบบ ทุกสำนัก ในที่สุดก็กลับมาสู่ของเก่าดั้งเดิม ที่ครูบาอาจารย์รุ่นเก่าท่านได้ปฏิบัติมาโดยยึดเอาตามพระอรรถกถา ""วิสุทธิมรรค""เป็นบาทฐานในการปฏิบัติ
:054:คำครูบาอาจารย์ที่ท่านกล่าวสอนไว้ ยังเตือนสติอยู่เสมอไปไม่เคยลืม คำนั้นคือ"ธรรมะทั้งหลายทั้งปวง คุณก็รู้และเข้าใจมาหมดแล้ว
ยังเหลือเพียงอย่างเดียว คือคุณยังไม่ได้ "" ทำ "" ถ้าคุณไม่ลงมือกระทำ คุณก็เหมือนใบลานเปล่า เป็นได้เพียง"นักประชาสัมพันธ์" หาใชผู้ปฏิบัติธรรมไม่" คำสอนนั้นยังฝังใจมาจนทุกวันนี้ แม้เวลาจะผ่านเกือบยี่สิบปี คำสอนนี้ศิษย์ยังจำ และทำตาม...
:059:สอนคนอื่นมามากแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องสอนตัวเราเองบ้าง คำพูด คำสอน มันย้อนกลับมาสู่ตัวเรา เราเป็นห่วงผู้อื่นจนเกินไป ทำให้ลืมดูตัวเราเอง มองแต่ข้างนอก มองแต่ข้างหน้า ลืมหันมาดูปัจจุบันที่เรากำลังเป็นอยู่ ..ดูหนัง ดูละคร แล้วจงย้อนมาดูตัวเรา
:059:เจริญวิมังสาธรรม ทบทวนสภาวะของอารมณ์กรรมฐานแต่ละกองที่เคยปฏิบัติมา เรียบเรียงลำดับความจำ(สัญญา)บันทึกไว้ในสมองเสียใหม่ เพื่อไม่ให้สับสนกันในอารมณ์กรรมฐานแต่ละกอง เพราะต้องนำไปใช้ในการเผยแผ่ บรรยายธรรม หรือตอบคำถามในเวลาที่เพื่อนผู้ปฏิบัติธรรมมาขอคำแนะนำ เพราะถ้าเราเกิดสับสนในสภาวะธรรมของอารมณ์กรรมฐานแต่ละกอง สลับกันไปไม่ตรงกับกรรมฐานที่เขาปฏิบัติ มันทำให้เกิดความผิดพลาดคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง แนะนำเขาในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง "มันจะเป็นบาปอย่างมหันต์ คล้ายกับเราไปปิดกั้น มรรคผลนิพพานของเขา" เราจึงต้องเตือนตัวเราอยู่เสมอว่า...ถ้าไม่ชัดเจนและแจ่มชัด อย่าได้ไปแนะนำสั่งสอนเขา เพราะมันเป็นการสร้างเวรสร้างกรรมให้กับตัวเราและตัวเขา มันจะเป็นบาปอย่างมหันต์...
:054:แด่สภาวะธรรมทั้งหลายที่ผ่านมา
เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๒ เวลา ๑๑.๐๐ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายแดนประเทศไทย