มีที่มาที่ไปดังนี้ครับ
นะ มะ พะ ธะ ถอดมาจาก พุทธคุณของพระเจ้า ห้าพระองค์
นะ คือ อาโปธาตุ น้ำ
โม คือ ปถวีธาตุ ดิน
พุท คือ เตโชธาตุ ไฟ
ธา คือ วาโยธาตุ ลม
ยะ คือ อากาศธาตุ ลมหายใจ
สำหรับพระคาถาที่จัดเป็นแม่ธาตุ อันได้แก่ นะ โม พุท ธา ยะ เมื่อจำแนกออกเป็นธาตุทั้ง สี่ ถอดได้ดังนี้
นะ ถอดเป็น นะ
โม ถอดเป็น มะ
พุท ถอดเป็น พะ
ธา ถอดเป็น ธะ
และเมื่อถอดอักขระธาตุทั้งสี่ ออกโดยอนุโลมปฏิโลมแล้วก็จะได้เป็นธาตุดังนี้
นะมะพะธะ อาโปธาตุ น้ำ
มะพะธะนะ ปถวีธาตุ ดิน
พะธะนะมะ เตโชธาตุ ไฟ
ธะนะมะพะ วาโยธาตุ ลม
โบราณจารย์บอกว่าถ้าจะใช้ธาตุทั้งสี่ ทางพุทธคุณ มีดังนี้
ถ้าจะทำให้ล่องหนให้เสก วาโยธาตุ เจ็ดที เป็นล่องหนแล
ถ้าจะให้เป็นจังงังให้เสก ปถวีธาตุ เจ็ดที
ถ้าจะข้ามน้ำไม่มีเรือ ให้เอาใบไม้มาเสกด้วยปถวีธาตุ สามที
ถ้าจะให้ศัตรูฉิบหายให้เสกด้วยเตโชธาตุ สิบแปดที
ถ้าจะให้เป็นจรเข้ ให้เสกดอกไม้ด้วย อาโปธาตุ สิบเจ็ดที
ถ้าจะให้เป็นต่อแตน ให้เสกใบมะขามด้วยปถวีธาตุ สิบเอ็ดที
ที่ย่อๆมีเพียงแค่นี้ ถ้าหากท่องบ่นจนขึ้นใจ อยากให้ดีทางไหน ท่อง แม่ธาตุ ครบสี่ธาตุ แล้วอธิฐานเอา สำเร็จทุกประการ...
รายงานโดย ขุนแผนเมืองรถม้า
รับรองสำเนาถูกต้องครับ ชัดเจนมากครับ
สังเกตว่า หัวใจธาตุ ๔ มีการเขียนทั้งสองแบบ คือ "นะ มะ พะ ทะ" และ "นะ มะ พะ ธ"
ธาตุทั้ง ๔ มักพบเห็นบ่อยๆ ในการจารหรือลงรูปต่าง ทั้งสัตว์และเทพ รวมถึง ปลัดขิกด้วย
คงหนุนให้ มีครบทั้ง น้ำ ดิน ไฟ ลม เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์และอานุภาพให้ของที่ปลุกเสก ใช้ไดุ้ทุกกระบวนยุทธ์