กระดานสนทนาวัดบางพระ

นำยันต์มาฝากครับ

หัวข้อนี้ได้ถูกย้ายไปบอร์ด รูปภาพและวีดีโอสายอื่นๆ.

http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=30893.0

หัวข้อนี้ได้ถูกย้ายไปบอร์ด รูปภาพสายอื่นๆ.

http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=30599.0

เพลงพระคาถาชินบัญชร - อ.สุรพล โทณะวณิก [Flac]

01.เพลงพระคาถาชินบัญชร
02.เพลงนะโมฯ
03.เพลงบูชาพระรัตนตรัย
04.เพลงพระคาถาอิติปิโส
05.เพลงพระคาถาพาหุง
06.เพลงแผ่เมตตา


คลิ๊กโหลดไฟล์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้เลยครับ

http://dl-1.one2up.com/onetwo/content/2013/5/4/5d5fe60b69f0751b97a05da94b0e9a09.rar

พอดีไปพบมาในเว็บบอร์ดแห่งนึงเลยขอนำมาแบ่งปัน

เครดิตคุณ cancanisstory ขอบคุณมากครับ

หัวข้อนี้ได้ถูกย้ายไปบอร์ด หัวข้อ,..กระทู้ที่ถูกลบ.

http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=29296.0

ขอเชิญชวนเพื่อสมาชิกร่วมทำบุญบูชา พระพิฆเนศ

แบบลอยองค์ ตะกรุดทอง สร้างจำนวน 1 องค์ สอบถามที่หลวงพี่ปาด วัดบางพระ

       ตะกรุดเงิน สร้างจำนวน 24 องค์ ทำบุญ 700 บาท

แบบเศียร ตะกรุดเงิน ทำบุญ 400 บาท

สมาชิกท่านที่สนใจ ติดต่อหลวงพี่ปาด กุฏิพระอาจารย์ต้อย วัดบางพระ


.

สวัสดีวันเด็กครับ สมาชิกทุกท่าน

      วันนี้ผมขอมาแจ้งข่าวสำหรับท่านที่สนใจ เหรียญหลวงปู่หิ่มหลวงพ่อเปิ่น

ด้วยทางพระอาจารย์ท่านได้จัดสร้างเหรียญหลวงปู่หิ่มหลวงพ่อเปิ่น เนื้อกะหลั่ยเงิน

เดิมทีแรกตั้งใจไว้เพื่อเก็บบรรจุ แต่ก็มีลูกศิษย์หลายๆท่านที่สนใจอยากจะได้ไว้บูชา

จึงไปกราบขอบูชาเหรียญจากพระอาจารย์ และด้วยความเมตตาของพระอาจารย์

ท่านจึงเปิดโอกาศให้ลูกศิษย์ทุกท่านได้บูชา ร่วมทำบุญ เหรียญละ 300 บาท

ท่านที่สนใจ ติดต่อร่วมทำบุญได้ที่ หลวงพี่ปาด กุฏิพระอาจารย์ต้อย มีจำนวนจำกัดครับ

      ปล. ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ นับตั้งแต่หลวงพ่อเปิ่นท่านละสังขาร ผ่านไป 10 ปี

เหรียญรุ่นนี้เป็นรุ่นแรกที่ทำพิธีในโบสถ์ของวัดบางพระโดยพระอาจารย์จากที่วัดบางพระทั้งหมด

และยังจัดพิธีปลุกเสกถึง 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 ปลุกเสกที่กุฏิใหญ่ริมน้ำ ครั้งทีี่่ 2 ปลุกเสกในโบสถ์วัดบางพระ

เพื่อนๆที่อยากได้วัตถุมงคล พระหลวงพ่อเปิ่นมาบูชา ผมขอแนะนำเหรียญชุดนี้เลยครับ

มีรูปบูรพาจารย์ถึง 2 ท่านคือ หลวงปู่หิ่มและหลวงพ่อเปิ่น  อยู่ในเหรียญเดียวกัน อย่าพลาดโอกาสนะครับ

และยังได้ร่วมบุญกับพระอาจารย์ด้วย เหรียญดี พิธีใหญ่ ทุกวันนี้ผมก็แขวนเหรียญนี้เพียงเหรียญเดียวครับ

หัวข้อนี้ได้ถูกย้ายไปบอร์ด ผู้ดูแลบอร์ด.

http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=28848.0

ห้ามโพสวัตถุมงคลที่ไม่ใช่ของวัดบางพระนะครับ

ความเดิมจากกระทู้นี้ ครับ

http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=28687

วันนี้เหรียญที่จัดสร้างได้ดำเนินการแล้วเสร็จจึงของนำมาให้เพื่อนๆได้ชมกันครับ

เนื้อเงิน



[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

สวัสดีครับเพื่อนสมาชิก เปิดให้จองเหรียญหลวงปู่หิ่มหลวงพ่อเปิ่นแล้วนะครับ

ใน วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน 2555 เป็นต้นไป ติดต่อได้ที่ กุฏิพระอาจารย์ต้อย

รายละเอียดคลิ๊กที่ลิงค์เลยครับ

http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=28662

หัวข้อนี้ได้ถูกย้ายไปบอร์ด ผู้ดูแลบอร์ด.

http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=28672.0

กฏ กติกา มารยาท ในการใช้งาน กระดานสนทนาวัดบางพระ

๘. ไม่อนุญาตให้มีการแสวงหาผลประโยชน์ใดๆ ในการการซื้อขายแลกเปลี่ยน ทั้งทางตรงและทางอ้อมผ่านกระดานสนทนาเว็บไซต์ วัดบางพระ

๙. ห้ามตั้งกระทู้ที่มีเนื้อหา ไปในทางโฆษณาบอกประกาศ เพื่อส่อเจตนาในทางซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนใดๆ ทั้งสิ้น

เนื้อตะกั่วทดลองพิมพ์

หัวข้อนี้ได้ถูกย้ายไปบอร์ด ผู้ดูแลบอร์ด.

http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=28598.0

อ่านกฎกติกามารยาทก่อนใช้งานนะครับ

กฏ กติกา มารยาท ในการใช้งาน กระดานสนทนาวัดบางพระ

๗. ห้ามตั้งกระทู้ใดๆ ที่เกี่ยวกับการประกาศโฆษณาชวนเชื่อ หลอกลวงต่างๆ

๘. ไม่อนุญาตให้มีการแสวงหาผลประโยชน์ใดๆ ในการการซื้อขายแลกเปลี่ยน ทั้งทางตรงและทางอ้อมผ่านกระดานสนทนาเว็บไซต์ วัดบางพระ

๑๐. เพื่อรักษาสิทธิส่วนบุคคลและเพื่อป้องกันเหตุไม่พึงประสงค์อันจะเกิดขึ้น ดังนั้นห้าม วางเบอร์โทรศัพท์ วางลิงค์ อีเมล์ ที่อยู่ โดยเด็ดขาด

หัวข้อนี้ได้ถูกย้ายไปบอร์ด หัวข้อ,..กระทู้ที่ถูกลบ.

http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=28564.0


ศึกษากฎกติกามารยาท ก่อนใช้งานนะครับ

สวัสดีครับ เพื่อนสมาชิกเหลือเวลาอีกไม่กี่วัน (ประมาณ 2 เดือน )ก็จะเป็นเทศกาลปีใหม่กันแล้วนะครับ

ผมเชื่อว่าคงมีเพื่อนสมาชิกที่อยู่ไกลตามต่างจังหวัด หรือเพื่อนสมาชิกที่ยังไม่มีโอกาศได้ครอบครอง

พระเครื่องและวัตถุมงคล ของหลวงปู่เปิ่น แห่งวัดบางพระ ซึ่งในปรกติทางเว็บก็มีแจกอยู่เรื่อยๆ

แต่มาวันนี้ผมอยากจะให้เพื่อนๆได้มีส่วนร่วมในการมอบสิ่งดีต้อบรับปีใหม่ด้วยกัน

ผมจึงขอเชิญเพื่อนสมาชิกร่วมแบ่งปันน้ำใจ โดยขอน้ำใจจากเพื่อนสมาชิกที่มีวัตถุมงคล

มากๆหลายรุ่นหลายแบบ มาร่วมกันมอบวัตถุมงคลให้กับสมาชิกท่านอื่นๆ ซึ่งท่านสามารถ

ลงชื่อรุ่น ของวัตถุมงคล หรือรูปภาพประกอบและจำนวนที่จะมอบให้ ในกระทู้นี้เลยครับ

เพื่อที่จะรวบรวมและสรุปจำนวน แล้วผมจะมาแจ้งกติกาเพิ่มเติมสำหรับท่านที่ จะขอรับวัตถุมงคลอีกครั้งนึง

ปล. เราไม่ตีค่าราคาหรือความเก่าของวัตถุมงคลเพราะว่า ของหลวงปู่เปิ่นดีทุกรุ่น และน้ำใจของทุกๆท่านมีค่ามากที่สุดครับ

หัวข้อนี้ได้ถูกย้ายไปบอร์ด หัวข้อ,..กระทู้ที่ถูกลบ.

http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=28503.0

ห้ามโพสยันต์วัตถุมงคลที่ไม่ใช่ของวัดบางพระ
และการนำรูปหรือข้อความจากที่อื่นมาโพส
ควรให้เครดิตแหล่งที่มาของรูปและบทความด้วย
เพราะเป็นมารยาทที่ดีในโลกอินเตอร์เนต

หัวข้อนี้ได้ถูกย้ายไปบอร์ด หัวข้อ,..กระทู้ที่ถูกลบ.

http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=28296.0

หัวข้อนี้ได้ถูกย้ายไปบอร์ด หัวข้อ,..กระทู้ที่ถูกลบ.

http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=28324.0


อ่านกฎกติกามารยาทก่อนใช้งานเว็บบอร์ดด้วยนะจ๊ะ 2 กระทู้ติดๆ

จากกระทู้ที่ภาคแรก ขอยกยอดมาเริ่มต่อกันใหม่ เพราะเดี๋ยวกระทู้จะยาวเกินไป

ขอยกคะแนนมาดังนี้ครับ   (ผิดพลาดกรุณาทักท้วยด้วยนะครับ)

   assis.aod      ได้ 5 คะแนน    รวม 10 คะแนน
   Legend13       ได้ 4 คะแนน   รวม 11 คะแนน
   naklop1911    ได้ 3 คะแนน   รวม 10 คะแนน
   sounthen boy   ได้ 2คะแนน      รวม 7 คะแนน
   richie01       ได้ 1 คะแนน   รวม 2 คะแนน
   Br2518      ได้ 1 คะแนน   
   berm       ได้ 1 คะแนน   รวม 4 คะแนน
   JAWSUN       ได้ 1 คะแนน   รวม 3 คะแนน
   chinjung       ได้ 1 คะแนน


เริ่มกันเลยสำหรับภาพในวันนี้ รูปที่ 4 ครับ พระอาจารย์ท่านใดที่กำลังสักยันต์ในภาพ

หัวข้อนี้ได้ถูกย้ายไปบอร์ด ผู้ดูแลบอร์ด.

กรุณาตั้งกระทู้โดยใช้ภาษาที่ถูกต้องและเหมาะสมด้วยครับ

ใช้ประโยคนี้แทน จะเหมาะสมกว่าหรือเปล่าครับ

(พระอาจารย์ท่านเมตตาสักยันต์ให้โดยไม่ต้องใช่แบบแม่พิมพ์)

http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=28246.0

วันเข้าพรรษา เป็นวันสำคัญในพุทธศาสนาวันหนึ่ง ที่พระสงฆ์เถรวาทจะอธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ตลอดระยะเวลาฤดูฝนที่มีกำหนดเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น หรือที่เรียกติดปากกันโดยทั่วไปว่า จำพรรษา ("พรรษา" แปลว่า ฤดูฝน, "จำ" แปลว่า พักอยู่) พิธีเข้าพรรษานี้ถือเป็นข้อปฏิบัติสำหรับพระสงฆ์โดยตรง ละเว้นไม่ได้ ไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตาม[1] การเข้าพรรษาตามปกติเริ่มนับตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี (หรือเดือน 8 หลัง ถ้ามีเดือน 8 สองหน) และสิ้นสุดลงในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 หรือวันออกพรรษา

วันเข้าพรรษา ( วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ) หรือเทศกาลเข้าพรรษา (วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ถึง วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ) ถือได้ว่าเป็นวันและช่วงเทศกาลทางพระพุทธศาสนาที่สำคัญเทศกาลหนึ่งในประเทศไทย โดยมีระยะเวลาประมาณ 3 เดือนในช่วงฤดูฝน โดยวันเข้าพรรษาเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่ต่อเนื่องมาจากวันอาสาฬหบูชา (วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ) ซึ่งพุทธศาสนิกชนชาวไทยทั้งพระมหากษัตริย์และคนทั่วไปได้สืบทอดประเพณีปฏิบัติการทำบุญในวันเข้าพรรษามาช้านานแล้วตั้งแต่สมัยสุโขทัย

สาเหตุที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตการจำพรรษาอยู่ ณ สถานที่ใดสถานที่หนึ่งตลอด 3 เดือนแก่พระสงฆ์นั้น มีเหตุผลเพื่อให้พระสงฆ์ได้หยุดพักการจาริกเพื่อเผยแพร่ศาสนาไปตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นไปด้วยความยากลำบากในช่วงฤดูฝน เพื่อป้องกันความเสียหายจากการอาจเดินเหยียบย่ำธัญพืชของชาวบ้านที่ปลูกลงแปลงในฤดูฝน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วงเวลาจำพรรษาตลอด 3 เดือนนั้น เป็นช่วงเวลาและโอกาสสำคัญในรอบปีที่พระสงฆ์จะได้มาอยู่จำพรรษารวมกันภายในอาวาสหรือสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยจากพระสงฆ์ที่ทรงความรู้ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และสร้างความสามัคคีในหมู่คณะสงฆ์ด้วย

ในวันเข้าพรรษาและช่วงฤดูพรรษากาลตลอดทั้ง 3 เดือน พุทธศาสนิกชนชาวไทยถือเป็นโอกาสอันดีที่จะบำเพ็ญกุศลด้วยการเข้าวัดทำบุญใส่บาตร ฟังพระธรรมเทศนา ซึ่งสิ่งที่พิเศษจากวันสำคัญอื่น ๆ คือ มีการถวายหลอดไฟหรือเทียนเข้าพรรษา และผ้าอาบน้ำฝน (ผ้าวัสสิกสาฏก) แก่พระสงฆ์ด้วย เพื่อสำหรับให้พระสงฆ์ได้ใช้สำหรับการอยู่จำพรรษา โดยในอดีต ชายไทยที่เป็นพุทธศาสนิกชนเมื่ออายุครบบวช (20 ปี) จะนิยมถือบรรพชาอุปสมบทเป็นพระสงฆ์เพื่ออยู่จำพรรษาตลอดฤดูพรรษากาลทั้ง 3 เดือน โดยพุทธศาสนิกชนไทยจะเรียกการบรรพชาอุปสมบทเพื่อจำพรรษาตลอดพรรษากาลว่า "บวชเอาพรรษา"

นอกจากนี้ ในปี พ.ศ. 2551 รัฐบาลไทยได้ประกาศให้วันเข้าพรรษาเป็น "วันงดดื่มสุราแห่งชาติ" โดยในปีถัดมา ยังได้ประกาศให้วันเข้าพรรษาเป็นวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั่วราชอาณาจักร ทั้งนี้เพื่อรณรงค์ให้ชาวไทยตั้งสัจจะอธิษฐานงดการดื่มสุราในวันเข้าพรรษาและในช่วง 3 เดือนระหว่างฤดูเข้าพรรษา เพื่อส่งเสริมค่านิยมที่ดีให้แก่สังคมไทย

สำหรับในปี พ.ศ. 2555 นี้ วันเข้าพรรษาตรงกับ วันศุกร์ที่ 3 สิงหาคม ตามปฏิทินสุริยคติ


พิธีกรรมของพุทธศาสนิกชน อันเนื่องในวันเข้าพรรษา


         พุทธศาสนิกชนมีการกระทำบุญตักบาตรกัน ๓ วัน คือวันขึ้น ๑๔ - ๑๕ ค่ำ และวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ และขนมที่นิยม ทำกันในวันเข้าพรรษาได้แก่ ขนมเทียน และท่านสาธุชนที่มีความเคารพนับถือพระภิกษุวัดใด ก็จัดเครื่องสักการะ เช่น น้ำตาล น้ำอ้อย สบู่ แปรง ยาสีฟัน พุ่มเทียน เป็นต้น นำไปถวายพระภิกษุวัดนั้น ยังมีสิ่งสักการะบูชา ที่พุทธศาสนิกชน นิยมกระทำกันเป็นงานบุญอีกอย่างหนึ่งคือ "เทียนเข้าพรรษา"     บางแห่งจะมีการบอกบุญเพื่อร่วมหล่อเทียนแท่งใหญ่ แล้ว แห่ไปตั้งในวัดอุโบสถ เพื่อจุดบูชาพระรัตนตรัยตลอด ๓ เดือน การแห่เทียนจำนำพรรษา หรือเทียนเข้าพรรษา จัดเป็น งานเอิกเกริก มีฆ้องกลองประโคมอย่างสนุกสนาน และเทียนนั้นมีการหล่อหรือแกะเป็นลวดลาย และประดับตกแต่งกัน อย่างงดงาม

      เทศการเข้าพรรษานี้ ถือกันว่าเป็นเทศกาลพิเศษ ชาวพุทธ จึงขะมักเขม้นในการบุญกุศลยิ่งกว่าธรรมดา บางคนตั้งใจรักษา อุโบสถตลอด ๓ เดือน บางคนตั้งใจฟังเทศน์ทุกวันพระ ตลอดพรรษา มีผู้ตั้งใจทำความดีต่างๆ พิเศษขึ้น ทั้งมีผู้งดเว้น การกระทำบาปกรรมในเทศกาลเข้าพรรษา และบางคนอาศัย สาเหตุแห่งเทศกาลเข้าพรรษาตั้งสัตย์ปฏิญาณ เลิกอบายมุข และ ความชั่วสามานย์ต่าง ๆ โดยตลอดไป จึงนับเป็นบุคคลที่ควร ได้รับ การยกย่องสรรเสริญและได้รับสิ่งอันเป็นมงคล

หลักธรรมที่ควรปฏิบัติ
        ระหว่างเทศกาลเข้าพรรษานั้น พุทธศาสนิกชนนิยมไปวัด ถวาย ทาน รักษาศีล ฟังธรรมและเจริญจิตภาวนา ซึ่งเป็นการเว้น จากการกระทำความชั่วบำเพ็ญความดีและชำระจิต ให้สะอาด แจ่มใส เคร่งครัดยิ่งขึ้น หลักธรรมสำคัญที่สนับสนุนคุณความดี ดังกล่าวก็คือ "วิรัติ"คำว่า "วิรัติ" หมายถึงการงดเว้นจากบาป และความชั่วต่าง ๆ จัดเป็นมงคลธรรมข้อหนึ่ง เป็นเหตุนำบุคคลผู้ปฏิบัติตาม ไปสู่ความสงบสุขปลอดภัย และความเจริญ รุ่งเรือง ยิ่งขึ้นไป

       วิรัติ การงดเว้นจากบาปนั้น จำแนกออกได้เป็น ๓ ประการ คือ

        ๑. สัมปัตตวิรัติ ได้แก่การงดเว้นจากบาป ความชั่วและอบายมุขต่าง ๆ ด้วยเกิดความรู้สึกละอาย (หิริ) และเกิดความ รู้สึกเกรงกลัวบาป(โอตตัปปะ) ขึ้นมาเอง เช่น บุคคลที่ได้สมาทานศีลไว้ เมื่อถูกเพื่อนคะยั้นคะยอให้ดื่มสุรา ก็ไม่ยอมดื่ม เพราะละอาย และเกรงกลัวต่อบาปว่าไม่ควรที่ชาวพุทธจะกระทำเช่นนั้นในระหว่างพรรษา

        ๒. สมาทานวิรัติ ได้แก่การงดเว้นจากบาป ความชั่วและอบายมุขต่าง ๆ ด้วยการสมาทานศีล ๕ หรือศีล ๘ จากพระสงฆ์ โดยเพียรระมัดระวังไม่ทำให้ศีลขาดหรือด่างพร้อย แม้มีสิ่งยั่วยวนภายนอกมาเร้าก็ไม่หวั่นไหวหรือเอนเอียง

       ๓. สมุจเฉทวิรัติ ได้แก่การงดเว้นจากบาป ความชั่วและอบายมุขต่าง ๆ ได้อย่างเด็ดขาดโดยตรง เป็นคุณธรรม ของพระอริยเจ้า ถึงกระนั้นสมุจเฉทวิรัติ อาจนำมาประยุกต์ใช้กับบุคคลผู้งดเว้นบาป ความชั่วและอบายมุขต่าง ๆ ในระหว่าง พรรษากาลแล้ว แม้ออกพรรษาแล้วก็มิกลับไปกระทำหรือข้องแวะอีก เช่นกรณีผู้งดเว้นจากการดื่มสุราและสิ่งเสพติด ระหว่าง พรรษากาล แล้วก็งดเว้นได้ตลอดไป เป็นต้น

ขอบคุณข้อมูลจาก วิกิพีเดีย และ KAMMATAN

สวัสดีครับ วันนี้เปิดกระทู้ด้วยคำถามชวนหัว กันสักนิดก่อนนะครับ วันวิสาขบูชาคือวันอะไร

บางท่านอาจจะตอบว่า ก็เป็นวันพระนะสิ ถือว่าตอบได้ถูกต้อง แต่ขาดสาระสำคํญไปบางอย่างนะครับ

ผมว่าคงมีหลายต่อหลายท่านที่ไม่ทราบว่า วันวิสาขบูชา สำคัญอย่างไร  อ่านเพิ่มเติมในกระทู้ได้เลยครับ



           วันวิสาขบูชา หรือ วันเพ็ญเดือน 6 นับเป็นวันที่สำคัญที่สุดในพระพุทธศาสนา
 
เพราะเป็นวันคล้ายวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญของพระพุทธศาสนามากถึง 3 เหตุการณ์ คือเป็นวันคล้าย

   วันประสูติ    ตรัสรู้ และปรินิพพาน  ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

 ดังนั้นจึงมีคำเรียกวันนี้อีกอย่างหนึ่งว่า "วันพระพุทธเจ้า"
            
                       วันวิสาขบูชา (บาลี: วิสาขปูชา; อังกฤษ: Vesak) เป็น "วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาสากล" ของชาวพุทธทุกนิกายทั่วโลก, วันหยุดราชการ ในหลายประเทศ และ วันสำคัญของโลก ตามมติเอกฉันท์ของที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ
เพราะเป็นวันคล้ายวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญที่สุดในพระพุทธศาสนา 3 เหตุการณ์ด้วยกัน คือ เป็นวันคล้ายวันประสูติ, ตรัสรู้ และปรินิพพาน แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยทั้งสามเหตุการณ์นั้นได้เกิดตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 หรือในวันเพ็ญแห่งเดือนวิสาขมาส (ต่างปีกัน) ชาวพุทธจึงถือว่าเป็นวันที่รวมเกิดเหตุการณ์อัศจรรย์ยิ่ง จึงเรียกการบูชาในวันนี้ว่า "วิสาขบูชา" ย่อมาจาก"วิสาขปูรณมีบูชา" แปลว่า "การบูชาในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ" อันเป็นเดือนที่สองตามปฏิทินของอินเดีย ซึ่งตรงกับวันเพ็ญเดือน 6 ตามปฏิทินจันทรคติของไทย ซึ่งมักจะตรงกับเดือนพฤษภาคม หรือมิถุนายน โดยในประเทศไทย ถ้าในปีใดมีเดือน 8 สองหน ก็เลื่อนไปทำในวันเพ็ญเดือน 7 หลัง ตามปฏิทินจันทรคติของไทย ซึ่งประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาเถรวาทอื่นที่ไม่ได้ถือคติตามปฏิทินจันทรคติของไทย จะจัดพิธีวิสาขบูชาในวันเพ็ญเดือน 6 แม้ในปีนั้นจะมีเดือน 8 สองหนตามปฏิทินจันทรคติไทยก็ตาม    และในกลุ่มชาวพุทธมหายานบางนิกาย ที่นับถือว่าเหตุการณ์ทั้ง 3 นั้น เกิดในวันต่างกันไป จะมีการจัดพิธีวิสาขบูชาต่างวันกันตามความเชื่อในนิกายของตน ๆ ซึ่งจะไม่ตรงกับวันวิสาขบูชาตามปฏิทินของชาวพุทธเถรวาท

                      วันวิสาขบูชานั้น ได้รับการยกย่องจากพุทธศาสนิกชนทั่วโลกให้เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาสากล เนื่องจากเป็นวันที่บังเกิดเหตุการณ์สำคัญ 3 เหตุการณ์ ที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธเจ้าและจุดเริ่มต้นของศาสนาพุทธ ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดได้เกิดขึ้นเมื่อ 2,500 กว่าปีก่อน ณ ดินแดนที่เรียกว่าชมพูทวีปในสมัยพุทธกาล โดยเหตุการณ์แรก เมื่อ 80 ปี ก่อนพุทธศักราช เป็น "วันประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ" ณ ใต้ร่มสาละพฤกษ์ ในพระราชอุทยานลุมพินีวัน (อยู่ในเขตประเทศเนปาลในปัจจุบัน) และเหตุการณ์ต่อมา เมื่อ 45 ปี ก่อนพุทธศักราช เป็น "วันที่เจ้าชายสิทธัตถะได้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ ตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า" ณ ใต้ร่มโพธิ์พฤกษ์ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม (อยู่ในเขตประเทศอินเดียในปัจจุบัน) และเหตุการณ์สุดท้าย เมื่อ 1 ปี ก่อนพุทธศักราช เป็น "วันเสด็จดับขันธปรินิพพานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า" ณ ใต้ร่มสาละพฤกษ์ ในสาลวโนทยาน พระราชอุทยานของเจ้ามัลละ เมืองกุสินารา (อยู่ในเขตประเทศอินเดียในปัจจุบัน) โดยเหตุการณ์ทั้งหมดล้วนเกิดตรงกับวันเพ็ญเดือน 6 หรือเดือนวิสาขะนี้ทั้งสิ้น ชาวพุทธจึงนับถือว่าวันเพ็ญเดือน 6 นี้ เป็นวันที่รวมวันคล้ายวันเกิดเหตุการณ์สำคัญ ๆ ของพระพุทธเจ้าไว้มากที่สุด และได้นิยมประกอบพิธีบำเพ็ญบุญกุศลและประกอบพิธีพุทธบูชาต่าง ๆ เพื่อเป็นการถวายสักการะรำลึกถึงแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสืบมาจนปัจจุบัน

                         วิสาขบูชา มีการนับถือปฏิบัติกันในหลายประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาทั้งมหายานและเถรวาททุกนิกายมาช้านานแล้ว ในบางประเทศเรียกพิธีนี้ว่า "พุทธชยันตี" (Buddha Jayanti) เช่นใน อินเดีย และศรีลังกา ในปัจจุบันมีหลายประเทศที่ยกย่องให้วันวิสาขบูชาเป็นวันหยุดราชการ เช่น ประเทศอินเดีย, ประเทศไทย, ประเทศพม่า, ประเทศศรีลังกา, สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย เป็นต้น (ส่วนใหญ่เป็นประเทศที่มีสัดส่วนประชากรที่นับถือพระพุทธศาสนานิกายเถรวาทมากที่สุด) ในฝ่ายของประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาเถรวาทในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ได้รับคติการปฏิบัติบูชาในวันวิสาขบูชามาจากลังกา (ประเทศศรีลังกา) ในประเทศไทยปรากฏหลักฐานว่ามีการจัดพิธีวิสาขบูชามาตั้งแต่สมัยสุโขทัย

                        วันวิสาขบูชา ถือได้ว่าเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาสากล เพราะชาวพุทธทุกนิกายจะพร้อมใจกันจัดพิธีพุทธบูชาในวันนี้พร้อมกันทั่วทั้งโลก[4] (ซึ่งไม่เหมือนวันมาฆบูชา      และวันอาสาฬหบูชา ที่เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่นิยมนับถือกันเฉพาะในประเทศไทย, ลาว, และกัมพูชา) และด้วยเหตุนี้ ประชุมใหญ่สมัชชาสหประชาชาติจึงยกย่องให้วันวิสาขบูชาเป็น "วันสำคัญสากลนานาชาติ (International Day)" หรือ "วันสำคัญของโลก" ตามคำประกาศของที่ประชุมใหญ่สมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 54 ลงวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2542
ปัจจุบัน ประเทศไทยได้ประกาศให้วันวิสาขบูชาเป็นวันหยุดราชการ โดยพุทธศาสนิกชนทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ พระสงฆ์ และประชาชน จะมีการประกอบพิธีต่าง ๆ เช่น การตักบาตร การฟังพระธรรมเทศนา การเวียนเทียน เป็นต้น เพื่อเป็นการบูชารำลึกถึงพระรัตนตรัยและเหตุการณ์สำคัญ 3 เหตุการณ์ดังกล่าว ที่ถือได้ว่าเป็นวันคล้ายวันที่ "ประสูติ" ของเจ้าชายสิทธัตถะ ผู้ซึ่งต่อมาได้ "ตรัสรู้" เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงกอปรไปด้วย "พระบริสุทธิคุณ", "พระปัญญาคุณ" ผู้ซึ่งได้ทรงสั่งสอนประกาศพระสัจธรรม คือความจริงของโลกแก่พหูชนทั้งปวงโดย "พระมหากรุณาธิคุณ" จวบจนทรง "เสด็จดับขันธปรินิพพาน" ในวาระสุดท้าย ซึ่งทั้งสามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสืบเนื่องในวันเพ็ญเดือน 6 ทั้งสิ้นนี้ ทำให้พระพุทธศาสนาได้บังเกิดและสืบต่อมาอย่างมั่นคงจนถึงปัจจุบัน

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก วิกิพีเดีย ด้วยครับ

งานไหว้ครูหลวงพ่อเปิ่นปี 55 ที่ผ่านมา TNN โดยคุณสมพันธ์ จารุมิลินท (สอง)

ได้ให้ทีมงานมาถ่ายทำงานไหว้ครู (โดยได้รับอนุญาต จากหลวงพ่อท่านเจ้าอาวาส) ได้ ON AIR

เวลา 3 ทุ่มของคืนนั้น และถ่ายทอดไปยัง 110 ประเทศทั่วโลก พร้อมกับรับชมทาง INTERNET ได้ด้วย

และพี่สองได้จัดทำ DVD บันทึกงานพิธีไหว้ครูจำนวน 100 ชุด พร้อมกล่องด้านหน้าปกเป็นรูปหลวงพ่อเปิ่น

ถวายพระอาจารย์ ญา  โดยมอบหมายให้ "ผู้การเสือ" เป็นผู้ดำเนินงาน จำหน่าย(แผ่นละ100บาท)

โดยไม่หักค่าใช้จ่าย ในวันเสาร์ที่ 7เมษายนนี้ ตั้งแต่ เวลา 7.19 น. สถานที่ กุฏิพระอาจารย์ ญา





พระอาจารย์ญา ครอบเศียรครู(ฤาษี)ให้แก่ "ผู้การเสือ"

แจ้งสมาชิก เรื่องการโพสข้อความตั้งกระทู้ต่างๆ

ห้าม โพส ข้อความเดิมๆ ซ้ำๆกันหลายๆกระทู้

ห้าม ปั๊มกระทู้เก่าๆขึ้นมาโดยใช้คำตอบที่ไร้สาระ

ห้าม ตั้งกระทู้ โดยเริ่มเอง ตอบเอง (ชงแล้วตบ)

ห้าม โพสข้อความ ตั้งกระทู้เพื่อเจตนาสื่อสาร

ให้เกิดการซื้อ ขาย แลก เปลี่ยน วัตุมงคลและอื่นๆ

ทุกครั้งที่เข้ามาใช้งาน ให้พึงระลึงเสมอว่านี่ คือ

เว็บบอร์ด หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ  

ตอนนี้ผมว่าเพื่อนๆคงทราบเรื่องคลิป ที่กำลังเป็นข่าว อยู่กันนะครับ

ผมขอความร่วมมือ ไม่พูดถึงคลิป ห้ามโพสหรือแชร์ ร่วมถึงเล่าเรื่องต่อความ

เพื่อไม่ให้เป็นการพูดต่อ ซึ่งทำให้เรื่องราวเกิดการแพร่กระจายเป็น talk of the town

      อย่างน้อยก็ได้ผลสามารถทำให้ยุติได้ในระดับนึ่ง

(เฉพาะเว็บเรา วันนี้ผมลบไปหลายกระทู้แล้ว) และได้ดำเนินการขอลบคลิปดังกล่าวไปแล้ว

ตั้งแต่เมื่อวาน  ส่วนเรื่องที่เหลือ ตอนนี้ทางผู้ใหญ่ได้ดำเนินการประสานงานอยู่ครับ

   สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้ที่ ๒ ที่เพื่อนๆสามารถตอบคำถามกันนะครับ

ตามที่ทางวัดบางพระได้จัดทำหนังสือที่รวบรวมประวัติของหลวงพ่อเปิ่นและวัตถุมงคลรุ่นต่างๆ

รูปถ่ายพระเครื่อง วัตถุมงคลรุ่นต่างๆเกือบจะทุกรุ่น อาจจะกล่าวได้ว่า มากที่สุดและสมบูรณ์แบบที่สุด

เท่าที่มีการจัดพิมพ์หนังสือมาเลยก็ได้ เพื่อเป็นมาตรฐานให้กับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อไปในอนาคต

ท่านที่สนใจติดต่อได้ที่วัดบางพระ กุฏิใหญ่ริมน้ำสอบถามหลวงพี่เชษฐ์ หลวงพี่คม โดยตรงเลยครับ



ขอบคุณภาพถ่ายสวยๆจาก เครดิต พี่หอมเชียง


   วันนี้ผมขอมอบวัตถุมงคล ในโอกาสวันไหว้ครู ให้กับเพื่อนๆ จำนวน 10 ท่าน ท่านละ 1 ชิ้น

โดยมีกติกาดังนี้ผู้ที่จะตอบคำถาม จะต้องสามารถไปรับวัตถุมงคลจากคุณ ~เสน่ห์ack01~

ในวันไหว้ครูที่ 3 มีนาคมได้ด้วยตัวของท่านเอง (การติดต่อกับทีมงานจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง)

จะต้องเป็นผู้ที่ตอบคำถามได้ถูกมากที่สุด จำนวน 10 ท่านแรก (การตัดสิ้นของทีมงานถือว่าเป็นที่สิ้นสุด)

ตอบคำถามได้จนถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 24.00 น.

      คำถาม

ในการเรียบเรียงหนังสือ มีการจัดพิมพ์คำปรารภของพระคุณเจ้า(เจ้าอาวาส)ทั้งหมดกี่ท่าน ชื่ออะไรจากวัดอะไรบ้าง

หนังสือมีจำนวนทั้งหมดกี่หน้า (ให้ถือจำนวนเลขที่ตีพิมพ์ในหนังสือเลขไทยที่กึ่งกลางขอบด้านบน)

ให้โพสรูปถ่ายหนังสือของท่านที่ด้านสันหนังสือให้เห็นตัวเลขอันดับเล่มที่ให้ชัดเจนในกระทู้ที่ท่านตอบคำถาม

ผมขอล๊อกกระทู้ไว้ แล้วจะปลดล๊อคให้ตอบคำถามพร้อมกันในวันที่ 21 เวลา 12.00 น. นะครับ

ทีมงานเว็บไม่มีสิทธิ์ตอบคำถาม จ้า.. สมาชิกรับวัตถุมงคลได้เพืยงท่านละ ๑ ชิ้นเท่านั้นจากการตอบคำถามทั้ง ๓ กระทู้

สวัสดีครับ วันนี้หลวงพี่เชษฐ์ ท่านฝากข่าวมาบอก สำหรับท่านสมาชิกที่สนใจ

หนังสือประวัติและรวมวัตถุมงคลหลวงพ่อเปิ่น สามารถบูชารับหนังสือได้เลยครับ

ติดต่อที่กุฏิใหญ่วัดบางพระ สอบถามหลวงพี่เชษฐ์ หลวงพี่คม ได้ทั้งสองท่านเลยครับ

ยังพอมีเหลือสำหรับผู้ที่สนใจ หนังสือเล่มนี้น่าสนใจมากๆเลยครับ มีรูปภาพหลายรูปที่

ไม่เคยจัดพิมพ์ในหนังสือใดมาก่อน และหลวงพี่ท่านให้ เจ้าหน้าที่ใช้ร่มบินพารามอเตอร์

ขึ้นถ่ายภาพของวัดบางพระจากมุมสูง สวยงามมากเลยครับ และยังมี ภาพถ่ายต่างๆของวัดบางพระ

ในแบบ 360 องศา  ภาพถ่ายหนังสือสุทธิของหลวงปู่เปิ่น ที่หาดูได้ยากยิ่ง รวมถึงรูปยันต์เก่าๆ

ที่เป็นลายมือของหลวงปู่เขียนเอาไว้ และได้จัดให้มี พิธีพุทธาภิเษก ไปแล้วเมื่อวันที่ ๐๙ ก.พ. ๕๕

 ชมภาพคลิ๊กที่ลิงค์  http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=26350  เครดิต พี่หอมเชียง

จะกล่าวได้ว่าหนังสือเล่มนี้หลวงพี่ท่าน ตั้งใจจัดทำให้ดีที่สุด สมบูรณ์แบบที่สุด สวยงามที่สุด

เพื่อให้เป็นมาตรฐานอ้างอิงในอนาคต ดูได้จาก ชื่อฉายาของหลวงปู่ในหน้าแรก คำว่า ฐิตคุโณ

ตัว ฐ จะต้องไม่มี ตีน จึงจะถูกต้องตามหลักของคำบาลี นี่แสดงให้เห็นว่าหลวงพี่ท่านตั้งใจจัดทำหนังสือนี้เป็นอย่ามาก

และแอบกระซิบนิดนึงครับผมได้ยินข่าวมา เหรียญที่มอบพร้อมกับหนังสือที่อยู่ข้างในปก

ตอนนี้มีผู้ติดต่อขอซื้อเหรียญดังกล่าวกันนะครับ สมาชิกและเพื่อนๆที่มี ให้เก็บรักษาเอาไว้ให้ดีๆนะครับ

สวัสดีครับช่วงนี้น้ำท่วมกันหลายที่เลยนะครับ

พี่น้องเพื่อนๆที่ประสบภัยน้ำท่วม ทางทีมงานของเป็นกำลังใจให้เข็มแข็ง สู้ๆนะครับ  ส่วนวัดบางพระก็

ถูกมวลน้ำเข้าโจมตีอยู่หนักพอสมควร แต่ทางวัดก็ได้เตรียมพร้อมวางแผนการป้องกันไว้ล่วงหน้า

และต้องกล่าวขอบคุณ ในความกรุณาของทุกๆท่านที่ให้การร่วมมือ ในทุกๆด้านเป็นอย่างดี ซึ่งนำโดย

   ๑.ท่านพระครูสังฆรักษ์ชะออม ขันติโก (หลวงพี่ออม)ผู้ช่วยเจ้าอาวาส เป็นผู้ประสานงาน

บริหารจัดการ ประชุมวางแผนการทำงานทั้งหมด ท่านอดหลับอดนอน หลายคืนเดินตรวจตราภายในวัด

ดูแลผู้ที่มาช่วยงาน เพื่อวัดบางพระของเรา  ขอกราบขอบคุณหลวงพี่เป็นอย่างสูงครับ

   ๒.พระอาจารย์ญา ท่านเมตตาเรื่องเสบียงอาหารและเครื่องดื่มต่างๆกับผู้ร่วมแรงร่วมใจที่มีจิตอาสา กรอกกระสอบทราบ

และจัดเรียงกระสอบทราย รวมถึงทำคันดินเพื่อกั้นน้ำ

   ๓.ท่านสจ.บุญส่ง นัดสูงวงศ์  ได้ส่งรถบรรทุก 10 ล้อจำนวนหลายคันเพื่อขนทราย และรถแบ๊คโฮเพื่อมาทำคันดินกั้นน้ำ

และในภาวะที่น้ำยังท่วมอยู่ก็ได้ให้รถบรรทุกขนาดใหญ่มาช่วยวิ่งเป็นรถโดยสาร รับส่งประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน

   ๔.เจ้าหน้าที่ทหารจาก ค่ายกำแพงเพชรอัครโยธินทุกๆท่าน นำโดยท่าน พันโท โป้ (ขออภัยที่ไม่ทราบชื่อจริงของท่าน)

และเจ้าหน้าที่ทหารจาก ค่ายทองฑีฆายุ นำกำลังโดยท่าน พันเอก ทวี  ที่ท่านได้ให้การสนับสนุนกำลังพลมาช่วยเหลือทางวัดบาง

พระอย่างเต็มที่

   ๕. ศิษย์วัดบางพระทุกๆท่าน ที่มีจิตอาสากรอกกระสอบทราบ จัดเรียงกระสอบทรายซึ่งไม่ได้เอ่ยนามอีกหลายท่าน

            
            ซึ่งหากไม่ได้การสนับสนุนและความช่วยเหลือของทุกๆท่าน ทั้งหลายได้กล่าวมาในข้างต้น

      วัดบางพระอาจจะต้องถูกน้ำท่วมอย่างแน่นอน  และในปัจจุบันสถานะการณ์น้ำก็ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

                        
                        ในนามเว็บไซด์วัดบางพระขอกราบขอบคุณ และขอขอบคุณ เป็นอย่างสูง

   

   

ภาพนี้ ได้จาก fw mail    เป็นภาพใน UN จากประเทศภูฏาน ภาพนี้ ประทับใจ ซาบซึ้งใจที่กษัตริย์จิกมี่

ทรงนับถือในหลวงของเรา และเอาเป็นแบบอย่างของพระองค์ในการปกครองประเทศ

ถึงกับเอาพระบรมฉายาลักษณ์ ไปประดิษฐานในที่สูงเสมอด้วยพระบรมฉายาลักษณ์แห่งพระราชบิดา

ในที่อันควรบูชาส่วนพระองค์เห็นเพียงนี้ได้...

ตลอดระยะเวลาที่เสียสละช่วยเหลือสังคม

ต้องเสี่ยงภัยผจญอันตรายนับครั้งไม่ถ้วน

แต่ด้วยบารมีหลวงปู่เปิ่นท่านและพระอาจารย์

ช่วยปกป้องและคุ้มครอง จึงผ่านพ้นมาได้ทุกๆครั้ง







เสื้อตัวนี้ผ่านงานมานานแล้ว สภาพจึงยับเยินอย่างที่เห็นครับ



ส่วนเสื้อตัวนี้คือเสื้อที่มาทดแทนตัวเก่า

สวัสดีครับ นี่ก็ใกล้วันไหว้ครูเข้ามาแล้วทุกทีนะครับ เหลืออีกแค่ ๙วันเอง

เนื่องในโอกาสใกล้วันไหว้ครู ผมมีวัตถุมงคลมามอบให้กับเพื่อนๆ จำนวน ๕ ท่าน

ท่านละ ๑ ชุด ซึ่งในหนึ่งชุดจะมีวัตถุมงคลทั้งหมด ๕ ชิ้น โดยผู้ที่จะได้รับวัตถุมงคล

จะต้องเป็นผู้ที่ตอบคำถามได้ถูก ทั้ง ๕ ข้อ และเรียงตามลำดับก่อนหลังนะครับ

ซึ่งผมจะมาตั้งคำถาม วันละ  ๑ ข้อ รับรางวัลวันที่ ๑๙ มีนาคม ที่วัดบางพระ

โดยติดต่อขอรับรางวัลได้ที่ คุณ ~เสน่ห์ack01~


คำถาม ข้อที่ ๑

หลวงปู่เปิ่น          มีฉายาพระภิกษุ ว่าอย่างไร

หลวงพ่อสำอางค์  มีฉายาพระภิกษุ ว่าอย่างไร

พระอาจารย์ต้อย   มีฉายาพระภิกษุ ว่าอย่างไร

พระอาจารย์ติ่ง     มีฉายาพระภิกษุ ว่าอย่างไร

พระอาจารย์ญา    มีฉายาพระภิกษุ ว่าอย่างไร
 
พระอาจารย์แป๊ว   มีฉายาพระภิกษุ ว่าอย่างไร

พระอาจารย์นัน    มีฉายาพระภิกษุ ว่าอย่างไร


(ฉายาพระภิกษุ คือนามสกุลทางพระนะครับ)

สงวนสิทธิ์เจ้าหน้าที่ทีมงาน เว็บบอร์ดวัดบางพระ งดเข้าร่วมการตอบคำถามนะครับ

ข้อความถูกซ่อน (ลากเมาส์เข้าในกรอบเพื่อแสดง)

สวัสดีครับ วันนี้ผมขอนำตัวอย่างเหรียญไหว้ครูที่ทางวัดจะมอบให้กับทุกท่านที่บูชาพานครู

ในพิธีไหว้ครู วันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๔ มาให้ชมกันครับ





ส่วนกำไลนี้เปิดให้เช่าบูชาได้ที่กุฏิใหญ่ริมน้ำครับ

   ความหมาย ของคำว่า ครู

          "ครู" มีความหมายว่า ผู้สั่งสอนศิษย์ หรือ ผู้ถ่ายทอดความรู้ให้แก่ศิษย์ ซึ่งมีผู้กล่าวว่ามาจากคำ

ว่า ครุ (คะ-รุ) ที่แปลว่า "หนัก" อันหมายถึง ความรับผิดชอบในการอบรมสั่งสอนของครูนั้น นับเป็นภาระ

หน้าที่ที่หนักหนาสาหัสไม่น้อย กว่าคนๆหนึ่งจะเติบโตเป็นผู้มีวิชาความรู้ และเป็นคนดีของสังคม

 ผู้เป็น "ครู" จะต้องทุ่มเทแรงกายและแรงใจไม่น้อยไปกว่าพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเลย ซึ่งในชีวิตของ

คนๆ หนึ่ง นอกเหนือไปจากพ่อแม่ซึ่งเปรียบเสมือน "ครูคนแรก" ของเราแล้ว การที่เด็กๆ

จะดำรงชีพต่อไปได้ในสังคม จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมี "ครู" ที่จะประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้

เพื่อปูพื้นฐานไปสู่หนทางทำมาหากิน ในภายภาคหน้าด้วย ดังนั้น "ครู" จึงเป็นบุคคล สำคัญที่เราทุกคน

ควรจะได้ แสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อท่าน


ขอบคุณข้อมูลและภาพถ่ายดีๆจากโลกอินเตอร์เนตครับ

ภาพไม่ชัดต้องขออภัยด้วยนะครับ ถ่ายด้วยกล้องในโทรศัพย์ครับ

คลิ๊กที่ลิงค์เลยครับ http://royal.sipa.or.th/king/index.php

สวัสดีครับ วันนี้ผมขอเป็นสื่อกลางมอบความเมตตาจากพระอาจารย์ให้กับเพื่อนๆครับ

โดยมีวัตถุมงคลที่ท่านฝากมามอบให้เป็น รูปถ่ายหลวงปู่เปิ่น จิ้งจกเนื้อพุทธคุณ และกุมารเทพ

ซึ่งสมาชิกที่จะขอรับวัตถุมงคลจะต้องมีเลขลำดับสมาชิกไม่เกินท่านที่ ๙๘๓๕ และไม่ใช่

เจ้าหน้าที่ทีมงานเว็บบอร์ดวัดบางพระ โดยขอมอบให้กับสมาชิกที่ลงชื่อในกระทู้นี้จำนวน ๙๙ ท่าน

เริ่มต้นโพสชื่อได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๓ เวลา o๖:oo น เป็นต้นไป

และสมาชิกจะได้รับวัตถุมงคลท่านละ ๑ ชิ้นเท่านั้น สุ่มคละแบบสลับกันไป ส่วนวิธีการจัดส่งและ

รายละเอียดเพิ่มเติมจะมาแจ้งเพิ่มเติมอีกครั้ง ครับ


คร่าวๆนั้นเบื้องต้นสมาชิกจะต้องส่ง กล่องพัสดุเพราะว่าวัตถุมงคล เป็นเนื้อผงอาจจะชำรุดได้ง่าย

จ่าหน้าที่อยู่ของท่าน ปิดสแตมป์แล้วนำกล่องที่ยังไม่ได้พับใช้งาน ใส่ซองอีกครั้งแล้วค่อยส่งมาให้ผม




ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดหรือยกเลิกโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า



ส่วนรูปนี้ฝากให้คุณสายชล ดู ครับ

สวัสดีครับเพื่อนสมาชิกทุกๆท่าน ช่วงนี้ไข้หวัดกำลังระบาดมาก ระวังตัวและรักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ

ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา เว็บบอร์ดเรามีจำนวนสมาชิก เพิ่มขึ้นหลายท่าน วันนี้ผมจึงมาขอความร่วมมือ

ในเรื่องการนำรูปมาโพส ให้ย่อขนาดของรูป และตกแต่งตัดรูป(cut,crop)โดยใช้โปรแกรมตกแต่งรูปภาพ

หรือถ่ายรูปเฉพาะบริเวณรูปยันต์เท่านั้น เพื่อความเหมาะสม และป้องกันการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

(copy รูปภาพไปใช้งานในทางที่ไม่ดี) และเพื่อป้องกันเหตุไม่พึงประสงค์ต่างๆอันที่จะเกิดขึ้นในอนาคต



ตัวอย่างรูปที่ยังไม่ได้ใช้โปรแกรมตกแต่งตัดรูป(cut,crop)




ตัวอย่างรูปที่ตกแต่งตัดรูป(cut,crop)ด้วยโปรแกรมแล้ว

      
             วันนี้ (อังคารที่ 24 ต่อเนื่องเที่ยงคืนวันพุธที่ 25 )เป็นวันพิเศษคือวันเป็งปุ๊ด เป็นวันเพ็ญ ที่ตรงกับวันพุธ ที่จังหวัดเชียงใหม่ จะมีวัด

ชื่อวัดมหาอุปคุต เป็นวัดที่ได้สืบสานประเพณี นี้มาเป็นร้อยกว่าปีแล้ว พิธีการคือ ในวันเพ็ญที่ตรงกับวันพุธ เป็นวันที่ประชาชนดังเดิมของเชียงใหม่

และชาวล้านนาจะจัดเตรียมอาหารแห้ง ไปทำบุญที่วัดอุปคุต เวลาหลังเทียงคืนของวันอังคาร คือ 0 นาฬิกาของวันพุธ เพื่อให้พระสงฆ์ ออกรับบาตร

ซึ่งถือเป็นการระลึกถึงพระมหาอุปคุต ซึ่งบางปีอาจมีได้หลายวัน ในปีนี้ตรงกับ วันพุธที่ 24 ขึ้น 15 ค่ำที่ ตรงกับวันพุธที่เชื่อกันว่าจะมีพระอรหันต์ที่ชื่อ

พระอุปคุตจะออกมาบิณฑบาตรแต่เช้ามืด ผู้ใดที่ได้ใส่บาตรท่านจะได้บุญและโชคดีสูงสุด    เป็งพุธ หรือ เป็งปุ๊ด ทางล้านนาจะออกเสียง พ.พาน

เป็น ป.ปลา จึงเรียกว่า เป็งปุ๊ด คำว่า เป็ง มีความหมายถึงพระจันทร์เต็มดวง เดือนเพ็ญ เพ็ญพโยม ดวงแข ศศิธร หรือวันขึ้น 15 ค่ำ ตรงกับวันศีล

หรือวันพระ วันเดือน ปีใดที่วันขึ้น 15 ค่ำ ตรงกับวันพุธ นั่นคือ วันเป็งปุ๊ด ชาวพุทธถือว่าพระอุปคุตมาโปรดเมื่อเริ่มเข้าเวลาของวันพุธ

คือตั้งแต่เวลา 00.00 น. ไปจนถึงก่อนพระอาทิตย์จะขึ้น ผู้คนจะพากันใส่บาตรเพื่อความเป็นศิริมงคล ผู้ที่จะมารับบิณฑบาตรนี้จะเป็นเฉพาะสามเณรเท่านั้น

ไม่มีพระภิกษุสงฆ์ เพราะสามเณรได้รับการอุปโหลกเป็นตัวแทนพระอุปคุต คำว่า อุป ปะ มาจากอุปถัมภ์ อุปถาก อุปการะ หมายถึง การช่วยเหลือ เกื้อกูล ค้ำจุน

คำว่า คุต อ่านว่า คุต ตะ มาจากความคุ้มครอง การรักษา   ตามคติความเชื่อของชาวบ้าน ถือว่าพระอุปคุต บำเพ็ญตนอยู่ในเกษียณสมุทร

เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า  มีอิทธิฤทธิ์ปราบภัยมาร และป้องกันมิให้สิ่งชั่วร้ายมากล้ำกรายได้ ช่วยบันดาลให้สิ่งที่เลวร้ายได้บรรเทาเบาลง

นอกจากนี้ยังมีสติปัญญา เฉลียวฉลาด  ปราดเปรื่องเรืองวิชาอีกด้วย ชาวบ้านยังเชื่ออีกว่า ครั้งหนึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมีพระบัญชา

ให้พระอุปคุตคอยดูแล สอดส่องชาวโลก อย่าให้ภัยมารมารบกวนได้ เมื่อถึงเวลาวันเป็งปุ๊ด พระอุปคุตจึงออกมาโปรด และปราบภัยมารต่าง ๆ

นอกจากนี้ยังมีคืนวันพุธราหูเข้ามาเกี่ยวข้องอีก จึงเพิ่มความขลังขึ้นมาให้ชาวบ้านได้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด การตักบาตรทำ ในตอนกลางคืน ช่วงเวลาสุดท้าย

ของคืนวันอังคาร ข้าวสารอาหารแห้ง ดอกไม้ธูปเทียน ปัจจัย เมื่อผู้ใดได้ทำบุญกับพระอุปคุตแล้ว จะบังเกิดผลคือ ผู้ที่เจ็บไข้ได้ป่วยจะบรรเทาหายเร็ววัน

เด็ก ๆ จะเพิ่มสติปัญญา หนุ่มสาวจะสมพรในคำอธิฐานของเขา ส่วนคนทั่วไปแล้วจะเป็นศิริมงคลตลอดไป


   ผมออกเดินทางไปที่สะพานนวรัฐ  รถติดมากๆ ชาวเชียงใหม่ออกมาทำบุญกัน ท่ามกลางสายฝน แต่ทุกๆคนก็ยังไม่ย่อท้อ

ออกมาใส่บาตรเที่ยงคืนกัน ครับ และเท่าที่เห็น ส่วนมากจะนำอาหารแห้ง นมกล่อง ไปใส่บาตรกันเป็นเสียส่วนมากครับ

ขออภัยที่รูปไม่คมชัดเพราะใช้กล้องจากมือถือ ถ่ายท่ามกลางสายฝน และคนเยอะมากเบียดกันแน่มาก 

แจ้งข่าวเพิ่มหลวงพี่ญาฝากบอกว่า จะต้องรวบรวมค่าหล่อพระไปส่งให้ในวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๕๓

ดังนั้นขอให้สมาชิกที่ร่วมทำบุญโอนเงินก่อนวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๕๓ นะครับ


สวัสดีครับ เพื่อนสมาชิก วันนี้ผมมาขอเชิญเพื่อนสมาชิกร่วมทำบุญสร้างพระพุทธรูป

เนื่องด้วย หลวงพี่ญา วัดนางเหลียว จังหวัดลำปาง ได้จัดสร้างพระพระพุทธรูป

ศิลปะแบบเชียงแสนเนื้อสัมฤทธิ์ หน้าตัก 32นิ้ว เมื่อแล้วเสร็จจะนำไปถวาย

เพื่อประดิษฐาน ณ วัดบ้านทาป่าเปา  อ.แม่ทา จ.ลำพูน


พระประธานที่จัดสร้างมีลักษณะคล้ายในเหรียญ ครับ





สมาชิกท่านใดจะร่วมบุญในนามคณะศิษย์หลวงพ่อเปิ่น และเว็บบอร์ดวัดบางพระ

ก็สามารถแจ้งความประสงค์ได้ในกระทู้นี้เลยครับ ทำบุญตามกำลังศรัธา

เลขบัญชี ที่โอนเงินร่วมทำบุญสร้างพระพุทธรูป ในนามคณะศิษย์หลวงพ่อเปิ่น ครับ

ธนาคารกสิกรไทย  สาขา ถนนจันทร์ ชื่อบัญชี นายอานนท์ พิกุลกานตเลิศ เลขบัญชี 715 252 0101

หรือโอนเงินร่วมทำบุญตามกำลังศรัธาโดยตรงได้ที่  ชื่อบัญชี พระสิงหนาท กันทาคำ (หลวงพี่ญา วัดนางเหลียว)

ธนาคาร กรุงเทพ  สาขาลำปาง   เลขที่บัญชี  254-474-9944

ส่วนท่านที่ร่วมทำบุญตั้งแต่ 300 บาท จะได้รับเหรียญที่หลวงพี่ญาท่านได้จัดสร้างดังรูป





ผ่านพิธีพุทธาเทวาภิเษก ปลุกเสกเสาร์ห้าในโบสถ์มหาอุตต์

ขออนุโมทนาบุญกับผู้ร่วมทำบุญทุกๆท่าน



ซึ่งก่อนหน้านี้มีสมาชิกมาบอกบุญไปแล้วครั้งนึง และได้ทำการตรวจสอบข้อมูลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สวัสดีครับ ใกล้ถึงวันที่ ๑๒สิงหาคม วันแม่แล้วนะครับ

เพื่อนๆบอกรักคุณแม่ผู้เป็น พระอรหันต์ ของพวกเรากันแล้วหรือยังครับ

แล้วถ้ามีโอกาสว่าง ไปร่วมงานทำบุญวันคล้ายวันเกิดหลวงปู่เปิ่นด้วยกันนะครับ



http://www.youtube.com/watch?v=6I1zCyqugZ0&feature=related

 ตอนแรกที่ได้อ่านเมล์ฉบับ นี้ (ต้นๆเรื่อง)

ผมมีความรู้สึกเสียเวลา ไร้สาระ...แต่พออ่านไป...จนจบ!!

เอ้ย! โดนว่ะ กับ องค์กรในบริษัทของ "คนทำงาน" และที่สำคัญ

เมล์นี้มิได้ตำหนิใครหรือ ด่าว่าใคร...

คุณต้องลองอ่านและอ่านโดย ฝึกใช้สติกับปัญญาเพื่อค้นหา...

ยิ่งอ่าน...คุณจะเข้าใจ!! (แล้วคุณจะรู้ว่าทำไมถึงใช้ชื่อหัวข้อนี้)

ปราถนาดี...



ลิงกับลา
หญิงชาวบ้านคนหนึ่งอาศัยอยู่คนเดียวในกระท่อม ด้วยความเหงานางจึงหาสัตว์มาเลี้ยง
ไว้เป็นเพื่อนสอง ตัว คือ ลิงและลา
วันหนึ่งหญิงชาว บ้านคนนี้ต้องออกไปตลาดเพื่อซื้ออาหาร ก่อนออกจากบ้านเธอได้เอา
เชือกมาผูกคอลิง แล้วมัดขาของลาเอาไว้ทั้งสองข้าง เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงทั้งสองตัว
เดินย่ำไปมาในกระท่อมจนทำให้ข้าวของต่างๆ ได้รับความเสียหาย ทันทีที่หญิงชาวบ้านออกจากบ้านไป
ลิงซึ่งมีความฉลาดและแสนซนเป็นคุณลักษณะประจำตัวก็ค่อย ๆ คลายปมเชือกออกจากคอของมัน
อีกทั้งยังซุกซนไปแก้เชือกมัดขาให้แก่ลาอีก ด้วย

หลังจากนั้นเจ้าลิงก็กระโดดโลด เต้น ห้อย โหนโจนทะยานไปทั่วกระท่อมจนทำให้ข้าว
ของต่างๆ ล้มระเนระนาดกระจัดกระจายไปทั่ว อีกทั้งยังซุกซนรื้อค้นเสื้อผ้าของหญิงชาวบ้าน
มาฉีกกัดจนไม่เหลือชิ้นดี ในขณะที่ลา ได้แต่มองดูการกระทำของเจ้าลิงอยู่เฉย ๆ สักครู่หนึ่ง
หญิงชาวบ้านคนนี้ก็กลับมาจากตลาด เจ้าลิงมองเห็นเจ้าของเดินมาแต่ไกลจากทางหน้าต่าง
ก็รีบเอาเชือกมาผูกคอตนไว้ อย่างเดิมและอยู่อย่างสงบนิ่ง


ฝ่ายหญิงชาวบ้านเมื่อเปิดประตูกระท่อมเข้ามาเห็นข้าวของของตนถูก รื้อค้น กระจุยกระจายเช่นนั้นก็เกิดโทสะขึ้นทันที
หันมองลิงและลา เพื่อดูว่าใครเป็นผู้ก่อเรื่อง และเห็นว่าลาไม่มีเชือกผูกขาดังเดิม
เธอก็คิดเอาเอง ว่าเจ้าลานี่เองคือตัวปัญหา ทำให้กระท่อมของเธอมีสภาพไม่ต่างจากโรงเก็บขยะ


ดังนั้นหญิงชาวบ้านจึงวิ่งไปหยิบท่อนไม้นอกบ้านมาทุบตีลาอย่าง รุนแรง ซึ่ง เจ้าลาผู้น่าสงสารก็ได้
แต่ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดจนสิ้นใจโดยไม่ สามารถทำอะไรได้เลย




คุณทั้งหลาย...
หลายคนคงไม่ค่อยชอบตอนจบของ นิทานเรื่องนี้นัก เพราะสงสารเจ้าลาที่ไม่ได้ทำความผิดอะไรแต่กลับถูกเจ้าของทำโทษจนตาย
ส่วนเจ้าลิง ซึ่งเป็นต้นเหตุแท้ๆ กลับรอดพ้น และไม่ได้รับผลกรรมใดๆ แต่แท้ที่จริงแล้วนิทานเรื่องนี้ต้องการชี้ให้เห็นถึง ความเป็นผู้นำของ
หญิงชาวบ้าน ที่ไม่พิจารณาเหตุการณ์ให้ถ่องแท้ เชื่อแค่สิ่ง ที่ตนเห็นแล้วลงโทษไปตามความรู้สึกและประสพการณ์ส่วนตัว เธอมองเห็น
ข้าวของเสียหาย และมองเห็นลาที่หลุดออกมาจากเชือก แล้วตัดสินว่าลาคงเป็นผู้กระทำ แต่ไม่ได้มองว่าลาไม่มีปัญญาจะแก้เชือก
และไม่มีนิสัย ชอบรื้อทำลาย เธอมองเห็นลิงยังถูกเชือกล่ามอยู่ก็คิดว่าลิงคงไม่ใช่ผู้กระทำ แต่มองไม่ออกว่าผู้น่าจะแก้ปมเชือกได้
และมีนิสัยชอบ รื้อทำลายนั้นคือลิง ความจริงถ้าเธอรู้จัก สำรวจ ร่องรอยความเสียหายเสียสักเล็กน้อย เธอก็จะพบรอยเท้าและ
ฟันของ ลิงกระจายไปทั่วห้อง แต่ไม่พบรอยเท้าของลาเลย เพราะลาไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหน



เหตุที่องค์กรของเราต้องเหน็ด เหนื่อยทรมานกันอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะความสะเพร่าของผู้นำที่ " ปล่อยให้ลิง สร้างปัญหา
แต่ลารับ เคราะห์" ลาก็เหมือนกับคนที่ปฏิบัติงานได้ตามหน้าที่ แต่ไม่ค่อยมีปากมีเสียง พูดจาตรงไปตรงมาแต่ไร้เลห์เหลี่ยม
ลิงก็เหมือนกับ คนที่ฉลาดแกมโกง พูดมากพรีเซ็นต์เก่ง อ้างอิงตำราได้สารพัด แต่ไม่เคยทำงานจริง นายที่ดีไม่ควรปล่อย
ให้ลิงหลง ระเริงว่าทำผิดเท่าไหร่นายก็ไม่มีทางรู้ ผู้เป็นนายไม่ ควรยึดติดความสบาย นั่งขึ้นอืดรอฟังแต่รายงานในห้องประชุม
รู้จักยอมเสีย สละตน สละเวลาอีกเล็กน้อยเพื่อค้นหาความจริง เพื่อควบคุม เจ้าลิง เพราะไม่เช่นนั้น องค์กรก็จะทุกข์ทรมาน
อย่างไม่มีที่ สิ้นสุด ถ้าลิงสงบได้องค์กรก็จะพลอยสบายและมีความสุขอย่างยั่งยืนไปด้วย


ชอบคุณที่มา FW MAIL  ครับ

สวัสดีครับ สิ้นสุดการตอบคำถามกันแล้วนะครับ แต่ว่า

ไม่มีสมาชิกท่านใดที่ตอบคำถามได้ถูกต้องครบทั้งหมด ๓ ข้อ

ดังนั้นผมจึง แบ่งวัตถุมงคล มอบให้กับสมาชิก ที่ร่วมตอบคำถามครบทั้ง ๓ ข้อ

ดังมีรายชื่อต่อไปนี้นะครับ


dangerous จัดส่งให้แล้วครับ

The_Crow13 จัดส่งให้แล้วครับ

เซอร์ดอน จัดส่งให้แล้วครับ

osgar จัดส่งให้แล้วครับ

porpar จัดส่งให้แล้วครับ



chatsmm จัดส่งให้แล้วครับ

SIC  จัดส่งให้แล้วครับ

hangman69 จัดส่งให้แล้วครับ

seka จัดส่งให้แล้วครับ

sanjod จัดส่งให้แล้วครับ



ตามพรลิงค์ จัดส่งให้แล้วครับ

nayfertity จัดส่งให้แล้วครับ

puntanaruk จัดส่งให้แล้วครับ

tudsanai047  จัดส่งให้แล้วครับ

rinrin จัดส่งให้แล้วครับ



ธรรมะรักโข จัดส่งให้แล้วครับ

GAPKRC จัดส่งให้แล้วครับ

หนอน-*ณ.ลำปาง จัดส่งให้แล้วครับ

ณ.อยุธยา จัดส่งให้แล้วครับ


โดยขอให้ท่านสมาชิก พี่น้องที่มีรายชื่อทั้งหมด ๑๙ ท่าน กรุณาส่งซองเปล่าติดแสตมป์ 5 บาท

จ่าหน้าซองถึงตัวท่านเอง แล้วนำซองดังกล่าวใส่ซองจดหมายอีกครั้งแล้วจ่าหน้า

ส่งมาที่ผม  ตามที่อยู่ี้นี้ (ที่อยู่จะมาแจ้งอีกครั้งครับ)

หมายเหตุ ขนาดซองควรเป็นซองขนาด A5 ขึ้นไปนะครับ (ประมาณ 6 x 8 นิ้ว ครึ่งของA4)




สวัสดีครับสมาชิก เพื่อความรวดเร็ว ขอแก้ไขดังนี้ครับ

ขอให้ท่านที่มีรายชื่อ  ทั้งหมด ๑๙ ท่าน ส่งชื่อที่อยู่ของท่านมาให้ผมทาง

ข้อความส่วนตัว แล้วผมจะรีบจัดส่งวัตถุมงคลกลับไปให้นะครับ

ในวาระโอกาส วันคล้ายวันเกิด น้องต้นน้ำ วันที่ ๒๘ มิถุนายน นี้ ไม่ใช่อายุ ๒๘ นะครับ

ขอบารมีอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหลาย และบารมีแห่ง หลวงปู่เปิ่น รวมทั้งพระอาจารย์ทุกๆท่าน

โปรดดลบันดาลให้น้องต้นน้ำและครอบครัว ประสบแต่ความสุขด้วยจตุรพิธพรชัย สมบูรณ์พูนผลในสิ่งที่พึงปรารถนาทุกประการ

สวัสดีครับสมาชิกทุกๆท่าน ช่วงนี้มาภาระกิจ ทางไกล คิดถึงวัดบางพระมากมาย

มีพระเครื่องหลวงปู่เปิ่น ติดตัวมาด้วยเล็กน้อยจึงอยากจะขอมอบให้กับสมาชิกครับ

ขอเป็นสมาชิกที่ตอบคำถามได้ ถูกต้อง มากที่สุด จำนวน ๓ ท่านนะครับ



ขออภัยรูปไม่สวยเท่าไหร่ นะครับ

ผมจะมาตั้งคำถามที่ละข้อนะครับ

ตอบได้ท่านละ ๑ คำตอบ   ต่อ ๑ คำถามนะครับ  


คำถามที่ ๑

เว็บวัดบางพระเปิดมาแล้วเป็นเวลา กี่ปีครับ

คำถามที่ ๒ ครับ  คลิ๊กที่ลิงค์

http://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,17390.html#msg152605


หมดเขตการตอบคำถามวันอาทิตย์ ที่ ๔ กรกฎาคม  เวลา ๒๓.๕๙ น  นะครับ

พระผงอินทขิล (เสาหลักเมืองเชียงใหม่)



ด้านหน้า



ด้านหลัง

ปี ๒๕๕๑



ปี ๒๕๕๒



ปี ๒๕๕๓ ยังไม่เสร็จครับ

ยามดึกๆ กับ กล้องจากโทรศัพย์มือถือ ภาพ ไม่ดีเท่าที่ควร ขอภัยด้วยนะครับ

สภาพพร้อมรบอยู่ในฝัก



ด้านฝั่งซ้ายของมีด



ด้านฝั่งขวาของมีด



ส่วนของด้าม

ขอขอบคุณ www.houvthak.com

ก่อนที่ท่านสมาชิกจะตอบกระทู้เคยสังเกตุกันบ้างไหมครับ
 



ถ้าไม่มีความจำเป็นจริงๆ งด ตอบกระทู้ที่มีอายุเกิน 120 วันนะครับ

ขอความร่วมมือสมาชิกที่โพสรูปในบอร์ด ช่วยปรับขนาดของรูปภาพ (Resize รูป)

ให้ได้ขนาด 800 X600 พิกเซล(เพราะว่าเป็นขนาดที่เหมาะและแสดงผลได้เต็มหน้าจอ)

เพราะว่าสมาชิกหลายๆท่านที่ใช้เนตที่มีสปีดต่ำ หรือเนตผ่านระบบมือถือจะได้เข้าชม

กระทู้และรูปภาพได้รวดเร็วและไม่ต้องเสียเวลาโหลดรูปนาน............ขอบคุณครับ




[shake]กระทู้แนะนำวิธี Resize รูป เพื่อความเหมาะสมสำหรับโพสในเว็บบอร์ดครับ[/shake]

คลิ๊กที่ลิงค์ http://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,11663.html

วันนี้ ขอฝาก กฏกติกา และ มารยาท ในการใช้งาน กระดานสนทนาวัดบางพระ ในหัวข้อที่ ๕ ดังนี้ครับ


๕. ห้ามตั้งกระทู้ใดๆ ที่มีข้อความ เนื้อหาซ้ำๆ กัน หลายๆ กระทู้ และหรือตอบกระทู้ ที่เข้าข่ายการปั่น การปั๊ม หรือขุดกระทู้เก่าๆขึ้นมาตอบโดยไม่มีเหตุจำเป็น(กระทู้ที่ไม่มีการตอบข้อความเกินกว่า ๑๒๐ วัน)





และฝากอีกกระทู้ให้ได้อ่านกัน อีกครั้งครับ http://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,5830.0.html

ได้พระชุดนี้มาเป็นแบบสีพื้นธรรมดา ครับ เลยนำไปทำสีตกแต่งครับ



หลังจากที่ตกแต่งแล้ว ออกมาเป็นแบบนี้ ครับ

พอดีมีเพื่อนนำมาให้ชม เลยขอถ่ายรูปมาให้สมาชิกศึกษากันครับ

แบบนี้ งานยังไม่สวย ไม่ใกล้เคียงของแท้ ซักเท่าไหร่ ดูง่ายๆรู้เลยว่า  ปลอมครับ

ขอความร่วมมือท่านสมาชิก งดตอบกระทู้ ด้วยข้อความสั้นๆซ้ำๆกัน หรือปั้มตอบหลายๆกระทู้ในเวลาที่ติดๆกัน

โดยไม่มีเนื้อหาใจความที่เป็นประโยชน์ เช่น ดีครับ สวยครับ ขอบคุณมาก แจ่มเลยครับ สุดยอดครับ ซึ่งเป็นการเปลืองทรัพยากร

ของบอร์ดโดยใช่เหตุ ถ้าท่านต้องการแสดงออกซึ่งน้ำใจด้วยการ ขอบคุณ ให้ใช้ระบบการขอบคุณ (Thank You.)

คลิ๊กที่นี่ http://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,5716.0.html
แทนการตอบกระทู้ ซึ่งถือว่าเป็นความงามของสังคมไทยมาช้านานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

สวัสดีครับสมาชิกทุกท่านวันนี้ พี่เว็บมาสเตอร์และผู้จัดทำบอร์ด ได้เปิดหมวดหมู่ เส้นทางสายบุญ

ขึ้นมาใหม่ โดยได้รับคำแนะนำจาก ท่านพระอาจารย์ เมสันต์ คมฺภีโร (รวี สัจจะ) เพื่อให้สมาชิกได้บอกเล่าเรื่องราว

หรือโพสภาพถ่าย รูปต่างๆ พร้อมทั้งบทความเนื้อหาเรื่องราว ความประทับใจหรือประวัติความเป็นมาที่มีความสำคัญ

ที่น่าสนใจ เกี่ยวกับวัดต่างๆ ที่สมาชิกได้มีโอกาสแวะไปเยี่ยมเยือนมา ตามจังหวัดต่างๆหรือว่าจะเป็นวัดในภูมิลำเนา

บ้านเกิดที่ต่างจังหวัด ซึ่งได้จัดแยกไว้ตามภูมิภาคคือ เหนือ อีสาน กลาง ใต้ และต่างแดนหรือต่างประเทศ

ช่วง ๒-๓ วันมานี้ คงมีสมาชิกหลายๆท่านได้รับข้อความส่วนตัว จากเพื่อนสมาชิก

ซึ่งเป็นการส่งข้อความให้กับสมาชิกหลายๆท่าน คล้ายๆกับการปั๊มกระทู้ โดยเป็นการ

กระทำและมีเนื้อหาที่ผิดระเบียบของทางเว็บบอร์ด ในข้อที่ ๔


http://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,357.html

๔. ห้ามตั้งกระทู้และหรือส่งข้อความ (pm) ใดๆ ที่หยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้ายหรือหมิ่นประมาท สร้างความแตกแยก สร้างความสับสน สร้างความปั่นป่วน


ซึ่งมีสมาชิกหลายท่านได้ร้องเรียนแจ้ง ผ่านมาทาง พี่เว็บมาสเตอร์ และ ผม

ดังนั้นจึง ห้าม สมาชิก กระทำการดังกล่าวโดยเด็ดขาด ถ้าหากท่านต้องการ

สื่อสาร หรือ พูดคุยในเรื่องส่วนตัว ขอให้ติดต่อกันระหว่างบุคคลเท่านั้น

เนื่องจากในช่วงที่ผ่ามมามีการตั้งกระทู้ โพสข้อความ forward mail ขอความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ

ซึ่งอาจจะเป็นข้อมูลที่ไม่มีแหล่งที่มาเพราะส่งต่อๆกันมาทาง Email และในเบื้องต้นนั้นไม่ได้ทำการตรวจสอบ

ข้อความว่าจริงหรือเท็จ และข้อมูลดังกล่าวอาจจะเป็นการหลอกลวงหรือชักชวนให้ร่วมบริจาค ในรูปแบบต่างๆ

ดังนั้นจึงขอความร่วมมือสมาชิก ห้ามโพสข้อความที่มาจาการ forward mail หรือข้อความที่มีลักษณะเดียวกัน

โดยเด็ดขาด หากสมาชิกฝ่าฝืนทำการตั้งกระทู้ ทีมงานจะลบกระทู้ทิ้งทั้งหมดทันที

ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ผมว่าคงมีสมาชิกหลายๆท่าน ได้อ่านบทความ บทกวี และธรรมะดีๆ จากท่าน รวี สัจจะ ( RaveeSajja )

หลายๆท่านคงเข้าใจในบทความ บทกวีและคำสอนธรรมะ ที่ท่านได้เมตตา สั่งสอน  แรกเริ่มเดิมทีนั้นท่านไม่ประสงค์

ที่จะแสดงตัวตน แต่ว่า ในหลายๆครั้งมีสมาชิกไปตอบกระทู้ของท่าน ในลักษณะหยอกล้อ หรือล้อเลียน ทั้งเจตนาหรือ ไม่เจตนา

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ จะเป็นบาปกรรมต่อผู้ที่ไม่รู้จัก ที่เข้ามาทักมาติชม  " ถ้าไม่มีจิตเจตนาเป็นอกุศล ไม่มีผลเป็นบาปเป็นกรรม "

ผมจึงได้กราบเรียนปรึกษาและขออนุญาตจาก ท่าน รวี สัจจะ เพื่อแจ้งให้สมาชิกได้รับทราบว่า ท่านเป็นพระมหาเถระ

ที่ได้เมตตามาสอนบทความและ ธรรมะให้กับพวกเรา โดยท่าน รวี สัจจะ ก็เป็นศิษย์หลวงปู่เปิ่น ด้วยเช่นกัน

ซึ่งพวกเราต้องให้ความเคารพท่าน เช่นเดียวกับท่านประธานบอร์ด และพระอาจารย์ที่วัดบางพระทุกๆท่าน

แรกเริ่มเดิมที ที่ทางทีมงานได้จัดทำ กระดานสนทนาวัดบางพระ ขึ้นมาเพื่อมีวัตถุประสงค์

ที่จะให้กลุ่มลูก ศิษย์วัดบางพระ ได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

 และเวลาก็ได้ล่วงเลยผ่านมาพอสมควร ๗ ปีแล้ว แต่ความตั้งใจนั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลง และสังคมเล็กๆ

ขอพวกเรา ศิษย์วัดบางพระ ได้เติบโตขึ้นเป็นลำดับ มีการเปลี่ยนรูปแบบของเว็บบอร์ดหลายครั้ง

เพื่อรองรับจำนวนสมาชิก แต่ว่าความเป็น ศิษย์วัดบางพระ ก็ยังเพิ่ม มากขึ้นอยู่ตลอดเวลา

นี่คือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า เรายังคงเคารพและศรัธา วัดบางพระ และหลวงปู่เปิ่น อย่างไม่มีเสื่อมคลาย




[shake]ขอความร่วมมือสมาชิกตอบแบบสำรวจด้วยครับ[/shake]


๑ ท่านรู้จักวัดบางพระได้อย่างไร

๒ เคยเดินทางมาที่วัดบางพระหรือไม่ ประมาณกี่ครั้ง

๓ ครั้งแรกที่ท่านมานั้นมีโอกาสได้พบหลวงปู่ เปิ่นตอนท่านยังดำรงค์ขันธ์ หรือเปล่า

๔ ท่านเคยสักยันต์ที่วัดบางพระหรือไม่ สักหมึก หรือน้ำมัน

๕ ท่านรู้จักเว็บบอร์ด วัดบางพระ ได้อย่างไร

๖ ท่านอยากให้มีสิ่งใดเพิ่มเติมในบอร์ด วัดบางพระ

เชิญศิษย์ยานุศิษย์ร่วมงานทำบุญวันคล้ายวันเกิด หลวงพ่อเปิ่น

ในวันพุธ ที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๒ เวลา ๑๑.๐๐ น.

ร่วมถวายภัตตาหารเพล พระสงฆ์ ๑๐๐ รูป ( โต๊ะจีน )

ท่านผู้มีจิตศรัธา เป็นเจ้าภาพ ถวายภัตตาหารเพล 1 โต๊ะ (1500 บาท)

จะได้รับ ล๊อคเก็ต หลวงพ่อเปิ่น จำนวน 1 องค์ (มีจำนวนจำกัด)

ติดต่อแจ้งความประสงค์เพื่อเป็นเจ้าภาพโต๊ะจีนได้ที่ พระอาจารย์ ญา

ก่อนวันที่ ๒๐ กรกฏาคม ๒๕๕๒

รายนามผู้ปริจาคร่วมทำบุญหลวงพ่อเปิ่น วันที่ 12 สิงหาคม 2552

http://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,10524.0.html

พระอาจารย์ติ่ง เครดิต น้อง ปอร์  porvfc(สิบทัศน์)  ครับ

 [mthai=380,320]http://video.mthai.com/player.php?id=6M1241256700M0[/mthai]

เป็นรูปถ่ายหลวงปู่ แบบขาวดำครับ ถ่ายก่อนทำความสะอาดในวันสงกรานต์ มีน้ำตาเทียนติดอยู่ด้วย

ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาทางผู้ดูแล ถูกร้องเรียนหลายครั้ง

ว่ามีสมาชิกบางท่าน ทำการก๊อปปี้รูปและบทความเนื้อเรื่องต่างๆ จากเว็บอื่นๆที่ไปเปิดพบเจอ

แล้วนำมาโพสเผยแพร่ต่อในเว็บบอร์ของวัดบางพระ โดยไม่ได้ขออนุญาตจากเจ้าของ

ดังนั้นสมาชิกที่โพสรูปที่ไม่ได้ถ่ายเองหรือเป็นเจ้าของรูปหรือบทความ

ท่านจะต้องให้เครติดกับเจ้าของรูปเหล่านั้นด้วย โดยการลงชื่อเจ้าของรูปหรือบทความ

ที่ท่านไปก๊อบปี้มา และกล่าวขอบคุณ เจ้าของรูปหรือบทความนั้นๆ

ซึ่งถือว่าเป็นการให้เกียรติและเป็นมารยาทที่ดีในโลกของอินเตอร์เนต



สมาชิกท่านใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม จะถูกแบนสมาชิกถาวร โดยไม่การตักเตือน

ช่วงนี้มีกระทู้ ขอคาถากันบ่อย สงสัยว่าไปสักมาแล้วจึงอยากได้คาถา

คาถาหัวใจต่างๆนั้นบางคาถานั้น ต้องยกครูเสียก่อนถึงจะเรียนได้

ไม่เช่นนั้นถือว่าผิดครูนะครับ และการท่องสวดคาถาปลุกต่างๆนั้นก็ต้อง

มีองค์ประกอบอื่นร่วมด้วย เช่นการกำหนดจิต ไม่ใช่ว่าท่องปากเปล่าแต่เพียงอย่างเดียว

ผมเลยอยากจะฝากว่า เปลี่ยนจากขอคาถา มาเป็นขอบทสวดมนต์กันบ้างดีไหมครับ

ให้สวดมนต์ระลึก คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดา-มารดา คุณครูอาจารย์

ปฏิบัติตนให้ยึดมั่นอยู่ในศีลธรรม (อย่างน้อยก็ศีล 5 ควรจะทำให้ได้)ประกอบแต่กรรมดี

ละเว้นสิ่งไม่ดีทั้งปวง เพราะถือว่าเป็นพื้นฐานที่พุทธศาสนิกชนพึงมีและปฏิบัติครับ

วันสุกดิบ อีก 1 วัน ก็จะถึง วันไหว้ครูแล้วนะครับ

สมาชิกเตรียมตัวนัดหมายกันพร้อมหรือยังครับ

นึกถึงบรรยากาศปีเก่าๆที่ผ่านๆมา ความเข้มขลังในพิธี ความรู้สึกดีใจที่ได้มาเข้าร่วมในงานไหว้ครู

เพื่อนๆที่ไปร่วมงานปีเก่าๆที่ผ่านมา รู้สึกอย่างไรกันบ้างครับ  วันสำคัญๆสำหรับลูกศิษย์วัดบางพระ

มีแค่ปีละครั้งเท่านั้น นะครับ พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง

             
Count Down วันไหว้ครูเหลืออีกแค่ 1 วันแล้วนะครับ     


       

เนื่องด้วยกระผมเป็นผู้ที่จะต้องดำเนินการจัดส่งมอบของขวัญให้กับสมาชิก ตามกระทู้นี้ครับ

http://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,6412.0.html

แต่ล่วงเวลาผ่านมาพอสมควร ก็ยังไม่ได้จัดส่งให้กับสมาชิก ต้องขอโทษกับสมาชิกทุกท่านด้วย

เพราะว่าเร่งดำเนินงานประสานงาน เรื่องเสื้อที่ระลึกให้เสร็จทันในงานวันไหว้ครู

และคิดว่าพระดังกล่าวนั้นเป็นเนื้อตะกั่ว ถ้าส่งทางจดหมายอาจจะเกิดการชำรุดบิดงอ

ท่านประธานบอร์ดจึงให้ ผมมอบให้กับสมาชิกในงานวันไหว้ครูจะดีกว่า

ดังนั้น สมาชิกที่มีรายชื่อดังกล่าว ติดต่อขอรับได้ในวันไหว้ครูนะครับ

พีเอ็มมาขอหมายเลขโทรศัพย์นะครับ เพราะว่า

(ห้ามโพสหมายเลขโทรศัพย์หน้าบอร์ด)  

วันนี้ท่านเวปมาสเตอร์ฝากผมมาแจ้งข่าวสารความคืบหน้า เรื่องเสื้อที่ทางเวปได้จัดทำไว้ว่า  ขณะนี้เสื้อที่สั่งทั้งหมดได้ตัดเย็บเสร็จเรียบร้อยแล้ว

กำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบและบรรจุใส่ห่อ คาดว่าวันที่ 2 มีนาคมจะเริ่มจัดส่งให้กับสมาชิกได้ น่าจะถึงมือประมาณไม่เกินวันที่ 5 มีนาคม 

รอรับกันได้เลยครับ  และขอให้สมาชิกที่สั่งจองและโอนเงินแล้วช่วยตรวจสอบข้อมูลสถานะการโอนของท่านด้วยว่าถูกต้องหรือไม่ 

http://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,6873.html ตามลิงค์นี้เลยครับ



ส่วนสมาชิกที่ลงชื่อจองเอาไว้แต่ไม่ได้โอนเงิน ขอยกเลิกการสั่งจอง ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป 

เนื่องจากในช่วงที่ผ่ามมามีการตั้งกระทู้บอกบุญกับสมาชิกหรือชักชวนให้ร่วมทำบุญ ในรูปแบบต่างๆ จึงขอให้ผู้ที่ต้องการประกาศข้อความใดๆ

ที่เกี่ยวกับการทำบุญหรือชักให้ร่วมบริจาคในลักษณะต่างๆ ให้ส่งข้อความ (pm) หรือ แจ้งรายละเอียดไปที่  CONTACT

เพื่อทำการตรวจสอบข้อมูลก่อน เมื่อตรวจสอบความถูกต้องแล้วเห็นว่าสมควร ทางทีมงานจะเป็นผู้ตั้งกระทู้ให้เอง

หากสมาชิกฝ่าฝืนทำการตั้งกระทู้เองโดยไม่แจ้งให้ทราบก่อน  ทีมงานจะลบกระทู้ทิ้งทั้งหมดและแบนสมาชิกทันที

มีข่าวความคืบหน้าเรื่องเสื้อที่ระลึกมาแจ้งให้ทราบกันครับ ตอนนี้ได้สรุปแบบเสื้อของเว็บเราตามแบบ

ที่คุณปราณจิต ได้ช่วยออกแบบไว้ ตามลิงค์นี้ครับ

http://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,6520.0.html

แต่ได้เปลี่ยนโลโก้เสื้อที่ด้านหน้าจากรูปเสือมาเป็น ยันต์ นะ ซึ่งเป็นลายมือของหลวงปู่

ดังรูปนี้ครับ จะปักไว้บริเวณกระเป๋าหน้าอก



ส่วนด้านหลังก็เป็นชื่อของเว็บเราเหมือนเดิมครับ และสีของเสื้อเป็นสีขาว มีกระเป๋าด้านหน้า

ตอนนี้รอเอกสารแจ้ง ขนาดsizeเสื้อและราคาจากทางบริษัท โดยประมาณราคาตัวละ 250 บาท

ซึ่งราคานี้รวมค่าจัดส่งแล้ว ได้ขนาดเสื้อมาแล้วจะเปิดให้ลงชื่อกันอีกครั้งนะครับ

เสื้อที่ทำในครั้งนี้เมื่อตัดเย็บเสร็จแล้วทางท่านเว็บมาสเตอร์ จะนำไปขอบารมี

จากหลวงพ่อเปิ่นโดยโยงสายสิญจน์มาที่เสื้อและขอความเมตตาจากหลวงพ่อ สำอางค์ ปลุกเศก

เพื่อความเป็น มงคลกับสมาชิกทุกๆท่านด้วยครับ 

ส่วนเข็มกลัดและพวงกุญแจขอไว้เป็นโอกาสหน้าค่อยจัดทำนะครับ

สะดุ้งปี๋

ผมอ่านบทความนี้ แล้วเห็นว่าน่าสนใจดีครับ ต้องขออนุญาต คุณ Gearmour นำมาเผยแพร่ นะครับ

ที่มาจาก http://www.konrakmeed.com/webboard/upload/index.php?showtopic=3650

ด้วยความเคารพครับ
มีหลายๆท่านที่สอบถามผมมาถึงเรื่องการสักยันต์
ทั้งๆที่ผมก็เรียกว่ารู้น้อย อาศัยประสบการณ์ที่ได้เห็นได้ยินได้ฟังมาบ้าง
ซึ่งผมพยายามจะเลี่ยงๆที่จะตอบเนื่องจากไม่อยากตัดสินใจไปสักกัน
แต่หลังจากตรองดูผมอยากแบ่งปัน(ชอบจังคำนี้ผมได้มาจากเจ้าของเวปท่านหนึ่ง)
เรื่องนี้ออกมาสำหรับชุมชนคนรักมีดแห่งนี้
แต่ทั้งหมดทั้งมวลเป็นความเห็นของผม
ซึ่งผมนึกอะไรก็จะพยายามแบ่งปั่นนะครับ
ขออนุญาตเริ่มเลยนะครับ

สักทำไม สักเพื่ออะไร ??
เป็นคำถามที่คนส่วนมากมักจะถามคนที่สักกัน
ในตอนที่ผมยังเด็ก ผมเห็นคนของพ่อผม สักยันต์
หนุมาน ลิงลม ลิงแหวกฟองน้ำ สักอักขระไว้ตามแขน คอ
ผมถามด้วยความเป็นเด็กว่าสักไว้ทำไม
ส่วนมากจะตอบว่าสักไว้ป้องกันตัว และถามว่ารูปนี้(รูปยันต์)ทำอะไรได้บ้าง
ก็จะตอบอีกว่าไม่ทราบอาจารย์หรือพระสักให้มา
นัยว่าสมัยก่อนเลือกลายไม่ได้ แล้วแต่เค้าให้มา
เท่าที่สอบถามมาการสักในสมัยก่อนมันไม่ง่ายเหมือนสมัยนี้
ที่อยากสักวันไหนก็ไปตามตำหนักสัก แล้วเปลี่ยนพาน (ซื้อพานดอกไม้ธูปเทียน)
ใส่ค่ายกครู แล้วสักได้เลย
การที่จะไปสักต้องมีลูกศิษย์เก่าแนะนำพาไป หรือ ไปอยู่รับใช้
ครูบาอาจารย์ก่อน ผมได้คุยกับพระองค์หนึ่งซึ่งเป็นครูสักสายครูหนู
ที่อยู่ทางราชบุรี ท่านว่าสมัยก่อนขนาดดอกไม้ธูปเทียน ตามต่างจังหวัด
หายาก ยกครูบางครั้งต้องเด็ดดอกไม้มากำเอง ตัดใบตองมาทำบายศรี
หรือขันห้าเอง ตามแต่ครูบาอาจารย์เรียก แต่เรื่องเงินทองนั้นน้อยมาก
ไม่เหมือนสมัยนี้ที่เป็นค่ากู ไม่ใช่ค่าครูไปหมด เรียกว่ากว่าจะได้นี้ยากเย็น
วันที่สักต้องเลือกวันแข็ง เช่นอังคาร พฤหัส เสาร์ หริอไม่ก็ถึงขนาดต้องดูฤกษ์
บางยันต์ต้องเลือกสถานที่ประกอบพิธีเช่นสักในป่าช้า สักในโบสถ์ และนิมนต์พระมาชยันโตด้วย

ฝากไว้ครับ เห็นว่าแปลกดีครับ เกี่ยวกับรอยสักครับ
http://picdb.thaimisc.com/kathaarkom/3125.jpg

ที่บอกว่าต้องเผา เพราะว่าความเชื่อนะครับ
ของแบบนี้ถ้าไม่เผาเจ้าของเค้าจะไม่ไปไหนนะครับ
ยังยึดติดอยู่
ถ้ามีญาติพี่น้อง ที่เผาแล้วไม่ไหม้ หรือไหม้ไม่หมด
ให้กลั้นใจเด็ดใบบอนแล้วปิดที่รอยสัก และเผาอีกครั้ง
หรือกลั้นในเด็ดยอดผักบุ้งเจ็ดยอดยอดเข้าไปในกองไฟ

กลับมาเรื่องสักเพื่ออะไร
ถ้าถามกันจริงๆ ส่วนมากมักจะ หวังในเรื่องของพุทธคุณไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความอยู่ยงคงกระพัน
พูดถึงเรื่องคงกระพัน ต้องแยกจากชาตรี ตามที่ในตำราเค้าว่า
คงกระพันคือพันแทงไม่เข้า แต่กระดูกอาจจะหัก อาจจะช้ำในตาย
แต่ชาตรีแม้นเอาหินมาทุ่มใส่หัว ก็ไม่เป็นไรของที่มากระทบจะเบาไป หากแต่ถ้าโดนตีด้วยหมอนหรือไม้โสน
ก็อาจถึงตายได้ ที่มีชื่อคือวิชา 9 เฮ ของศาสนาอื่นเค้า
นอกจากคงกระพันชาตรีที่เค้านิยมแล้วสำหรับคนวัยแรง หรือคนสู้คน นั้น
ยังหวังผลทางเมตตามหานิยม โชคลาภ แคล้วคลาด สามารถดลจิตดลใจ หรือบอกเหตุล่วงหน้าได้

เหนืออื่นในการสักยันต์สำหรับในความคิดของผมจะผิดถูกอย่างไรขอน้อมรับไว้
การสักจริงๆเป็นอุบายทำให้คนเป็นคนดี เป็นคนมีสัจจะ หากลึกๆไปอาจถึงขั้นมีสมาธิดี
โดยการนำเอาอักขระเลขยันต์ติดตัว ที่บอกว่าทำให้เป็นคนดี เนื่องจากสักไปแล้วหากจะให้ขลังให้อยู่
ต้องปฏิบัติตามข้อห้ามข้อกำหนดของครูบาอาจารย์ ซึ่งหลักๆไม่พ้นห้ามด่าพ่อล่อแม่ ห้ามผิดลูกผิดเมียเค้า
ในความจริงถ้าคนปฏิบัติแค่สองข้อนี้ก็ลดโอกาสในการมีเรื่องมีราวกันแล้ว (แต่ถ้าคนพาลคนจ้องมีเรื่องกัน
พูดอะไรนิดอะไรหน่อยก็เป็นประเด็นแล้ว) นอกจากนั้นยังต้องรักษาตัว
เช่นไม่เที่ยวซ่อง เห็นครูบาอาจารย์เค้าเรียกว่า “บ้านคนชั่ว” อันนี้เห็นว่าจริง นอกจากเรื่องโรคภัยแล้ว
จากประสบการณ์ที่เคยช่วยราชการที่ทำการปกครองจังหวัดหนึ่งริมชายแดนกรุงเทพ ตามสถานบริการส่วนมากเวลาที่
ไปตรวจจะพบว่า ตรงปากทางเข้าเหนือประตู ที่ต้องผ่านเข้ามามักมีวัตถุไม่รู้จักเรียกว่ามงคลหรือเปล่า?
พวกอิ้น เป๋อ ปลัด อยู่เหนือหัวเรา คิดดูว่าเวลาเราเดินเข้าไปต้องลอดอะไรบ้าง
มีเพื่อนหลายๆท่านในนี้ ถามว่าอยากสักหมึกควรจะไปสักที่ไหน
อย่างไรผมคงมิบังอาจแนะนำว่าควรจะไปสักที่ไหนอย่างไร

แต่อยากให้ตั้งคำถามกับตัวเองก่อนว่า
ข้อหนึ่ง ตั้งใจอยากได้จริงหรือเปล่า? ทำไมถึงอยากได้รอยสักที่เป็นหมึก
เพราะว่ามันจะติดตัวเราไปจนตาย
ข้อสอง เตรียมคำตอบไว้สำหรับตอบบิดามารดา ในกรณีที่ยังหาเลี้ยงตัวเองไม่ได้
ควรจะไปขออนุญาตจากท่านก่อน และเตรียมใจไว้สำหรับ ถ้าท่านเจอผู้หญิงหรือคนที่ถูกใจ
แต่รับไม่ได้กับรอยสักของท่านก็เป็นไปได้ พร้อมเตรียมคำตอบสำหรับลูกหลาน ถ้าถามว่าปู่ พ่อ
สักทำไม
ข้อสาม คิดถึงอนาคตและเตรียมรับสภาพในบ้างเรื่อง อย่างถ้าหวังจะเป็นข้าราชการ พนักงานของรัฐ
อาจจะไม่สมหวังเพราะรอยสัก และหากมีเหตุการณ์ที่ทำให้เราตกเป็นผู้ต้องสงสัย ถ้าเรามีรอยสัก
คนส่วนมากจะมองเราผิดเสมอ
ข้อสี่ รับได้กับข้อห้าม ข้อปฏิบัติ ของครูบาอาจารย์ได้หรือไม่ ต้องสอบถามให้แน่ใจก่อนว่าปฏิบัติได้
ซึ่งแต่ละครูบาอาจารย์ข้อห้ามจะไม่เหมือนกัน ถ้าทำไม่ได้ไม่ควรจะเอามาอย่างเด็ดขาด
ข้อที่ห้า หวังอะไรจากการสัก อันนี้อยากให้หาคำตอบเอง
เอาเป็นว่าเท่าที่นึกออกได้แค่นี้ครับ

เอาละครับ ถ้ารับได้แล้ว มาต่อกันที่สักที่ไหน

เป็นเรื่องของความเห็นส่วนตัว ห้ามนำไปอ้างอิงที่ไหนนะครับ
มาต่อกันว่าสักที่ไหน
ผมๆไม่บังอาจจะชี้นำว่าสักที่ไหนดี แต่
อยากจะให้ ใช้ความคิดตรึกตรองดีๆ
เนื่องจากว่าถ้าเจ็บตัวแล้วขอให้เจ็บอย่างมีสาระอย่างมีหลัก
ขอให้ดูที่ชื่อเสียงของผู้สักหรือสำนักสัก ที่ใช้คำว่าขอให้ดู
คืออยากให้ไปสำรวจก่อนว่าที่คนมาขึ้นคนเข้าเข้าไปเพราะเป็นหน้าม้า
หรือเป็นคนที่ไปหาจริงๆ ให้ไปดูไปสังเกตุก่อน อย่าฟังด้วยหูอย่างเดียว
บางที่เค้ามีหน้าม้าคอยเป็นคนของขึ้น เป็นคนโดนลอง
ต้องหาข่าวหรือสืบจนแน่ใจว่าดีจริงๆ
ที่สำคัญขอให้ดูการปฏิบัติตนของครูสัก หรือผู้สักหากเป็นฆาราวาส
ดื่มเหล้าเมายา เที่ยวผู้หญิงอย่างนี้ใช้ไม่ได้ เป็นครูเค้าต้องรักษาตัว
หากเป็นพระ ต้องไม่หย่อนในพระธรรมวินัย
ประสบการณ์ความเชื่อที่ ก็สำคัญ ตัวอย่างเช่นถ้าพ่อ พี่น้อง เราสักมากับสำนักนี้
สายนี้ ก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก อยากให้ดูให้แน่ๆ อย่างเพื่อนคนรู้จักมีประสบการณ์มาจริงๆ
แล้วบอกต่อ
อีกอย่างค่าครู ไม่ใช่ค่ากู
ถ้าเรียกแพงเกินไป ก็พิจารณาเอาเองครับ
เป็นเรื่องของความเห็นส่วนตัว ห้ามนำไปอ้างอิงที่ไหนนะครับ
มาต่อกันว่าสักที่ไหน ผมรู้น้อย
ผมๆไม่บังอาจจะชี้นำว่าสักที่ไหนดี แต่
อยากจะให้ ใช้ความคิดตรึกตรองดีๆ
เนื่องจากว่าถ้าเจ็บตัวแล้วขอให้เจ็บอย่างมีสาระอย่างมีหลัก
ขอให้ดูที่ชื่อเสียงของผู้สักหรือสำนักสัก ที่ใช้คำว่าขอให้ดู
คืออยากให้ไปสำรวจก่อนว่าที่คนมาขึ้นคนเข้าเข้าไปเพราะเป็นหน้าม้า
หรือเป็นคนที่ไปหาจริงๆ ให้ไปดูไปสังเกตุก่อน อย่าฟังด้วยหูอย่างเดียว
บางที่เค้ามีหน้าม้าคอยเป็นคนของขึ้น เป็นคนโดนลอง
ต้องหาข่าวหรือสืบจนแน่ใจว่าดีจริงๆ
ที่สำคัญขอให้ดูการปฏิบัติตนของครูสัก หรือผู้สักหากเป็นฆาราวาส
ดื่มเหล้าเมายา เที่ยวผู้หญิงอย่างนี้ใช้ไม่ได้ เป็นครูเค้าต้องรักษาตัว
หากเป็นพระ ต้องไม่หย่อนในพระธรรมวินัย
ประสบการณ์ความเชื่อที่ ก็สำคัญ ตัวอย่างเช่นถ้าพ่อ พี่น้อง เราสักมากับสำนักนี้
สายนี้ ก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก อยากให้ดูให้แน่ๆ อย่างเพื่อนคนรู้จักมีประสบการณ์มาจริงๆ
แล้วบอกต่อ
และอีก การที่อ้างว่าเรียนมาจากสายนั้น สายนี้
ต้องมีที่มาที่ไป อย่างผมเคยไปถามพระเกจิ หรืออาจารย์ฆารวาสที่มีชื่อเสียง
ว่า อาจารย์คนนี้มาเรียนจริงหรือไม่
ท่านตอบว่า "เค้ามาหาฉันจริง มาหา มาถาม แต่เค้ามา ดอกไม้ธูปเทียนไม่มีมา"
แล้วเรียกว่ามาเรียนได้อย่างไร"

ไว้จะมาเพิ่มข้อมูลเรื่อยๆ ครับ

ขอแสดงความนับถือ

Gearmour

เก่าไปหน่อยนะครับเพราะว่าใช้ติดกระเป๋าสตางค์ตลอดเลย

สวัสดีครับเพื่อนสมาชิก ขอเพิ่มเติมเนื้อความนะครับ มีหลายๆท่านอายากได้คาถาบุชา เห็นสอบถามกันหลายครั้ง

ผมได้รับความเมตตาจากท่านพระอาจารย์และท่านประธานบอร์ด ได้บอกกับผมว่า

คาถาในแผ่นนี้ แผ่นเดียวก็เพียงพอแล้วครับ ดีครบทุกด้าน และที่สำคัญ สมัยที่หลวงปู่เปิ่นท่านยังดำรงขันธ์

ท่านได้เมตตาอนุญาติให้เผยแพร่ เมตตาให้ลูกศิษย์นำไปสวดบูชากัน (อนุญาตให้ใช้ได้)

จึงไม่ต้องกลัวว่าจะผิดคำครู เพราะบางวิชาคาถาจะต้องมีการตั้งพานขันธ์ครูก่อนที่จะเรียน






เครดิต คุณ Kitisin  ผมเห็นนำมาโพสไว้เลยขอนำมาปักหมุดไว้ให้สมาชิกได้อ่านกันครับ

อัพเพิ่ม 18/2/52

ขอชี้แจงให้สมาชิกทราบว่า กระทู้ที่ท่านโจรสลัด เปิดให้ประมูลหนังสือของทางวัดบางพระ พร้อมกับวัตถุมงคล เหรียญรัชกาลที่ 5

นั้นเป็นมติของผู้ดูแลบอร์ดทั้งหมด และ ผู้คุมกฎ และรายได้จากการประมูลทั้งหมด (เป็นการกุศล ไม่ได้ทำเพื่อการค้า)

จะได้นำไปจัดซื้อกระดาษทิชชู่ และ แอลกอฮอล์ หรือ สิ่งอื่นๆที่เหมาะสมเพื่อนำถวายพระอาจาร์ยที่วัดบางพระต่อไป

                                                         ผู้คุมกฎ  โองการยันนะรังสี....

เมื่อวานนี้ไปวัดบางพระมา 30-6-51 พบกับลูกศิษย์ชาวต่างชาติแต่ไม่ได้คุยอะไรมากเพราะคนเยอะมาก รู้สึกว่าพูดไทยได้เล็กน้อย เลยขอถ่ายรูปมาให้เพื่อนชมกัน

ด้านหน้าครับ ผิวไฟขี้เบ้ายังติดอยู่เลยครับ



ด้านหลังครับ

พุทธชัยมงคลคาถา

๑. พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง
ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ

๒. มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง
ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ

๓. นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง
เมตตัมพุเสกะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ

๔. อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง ธาวันติโย ชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง
อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ

๕. กัตตวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ
สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ

๖. สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง
ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ

๗. นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต
อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ

๘. ทุคคาหะ ทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรัหมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง
ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ
เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถาโย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที
หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ
******************************************************

"พาหุงมหากา" หรือ "พุทธชัยมงคลคาถา" มีอยู่ ๘ บท
มีความมุ่งหมายแตกต่างกันทั้งแปดบท ดังนี้คือ
บทที่ ๑ สำหรับเอาชนะศัตรูหมู่มาก เช่น ในการสู้รบ
บทที่ ๒ สำหรับเอาชนะใจคนที่กระด้างกระเดื่องเป็นปฏิปักษ์
บทที่ ๓ สำหรับเอาชนะสัตว์ร้ายหรือคู่ต่อสู้
บทที่ ๔ สำหรับเอาชนะโจร
บทที่ ๕ สำหรับเอาชนะการแกล้ง ใส่ร้ายกล่าวโทษหรือคดีความ
บทที่ ๖ สำหรับเอาชนะการโต้ตอบ
บทที่ ๗ สำหรับเอาชนะเล่ห์เหลี่ยมกุศโลบาย
บทที่ ๘ สำหรับเอาชนะทิฏฐิมานะของคน

*******************************************************

ทรงผนวช เมื่อวันที่ ๒๒ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๙๙ เวลา ๑๕.๐๐ น.
ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ประทับ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ๒๒ ตุลาคม - ๕ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๙๙



เวปไซด์ ที่น่าสนใจ
http://80thbirthdayanniversary.go.th/th/th/module.php?p=fordad&a=post

ความสุขของพระมหากษัตริย์
หนึ่งปีที่ผ่านมา......เราใส่เสื้อเหลือง   เราใส่สายรัดข้อมือสีเหลือง

       คนนับแสนไปนั่งรอเป็นชั่วโมงๆ หน้าพระที่นั่งอนันตสมาคมเพื่อจะได้เห็นพระพักตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพียงไม่กี่นาที
       วันนั้น ในขณะที่ทั้งโลกเริ่มเสื่อมศรัทธาในระบบการปกครองโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เราได้แสดงให้โลกได้เห็นว่ามีประเทศเล็กๆ ประเทศหนึ่งที่คนทั้งชาติยังซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อราชวงศ์จักรี และพระมหากษัตริย์อันทรงเป็นที่รักยิ่งของคนไทย

.....สิบสองปีที่ผ่านมา......
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวรหนักด้วยโรคหัวใจเพราะทรงงานหนักเกินไป
       ในขณะเดียวกัน สมเด็จพระราชชนนีก็ทรงพระประชวรหนักอยู่ ณ โรงพยาบาลศิริราชเช่นกัน
       เรายังจำรูปในหนังสือพิมพ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมพระราชชนนีไม่กี่วันหลังจากการผ่าตัดใหญ่ถวาย พระหัตถ์ข้างหนึ่งกุมอยู่ที่พระอุระ และในพระหัตถ์อีกข้างหนึ่งทรงถือม้วนแผนที่กรุงเทพฯ เพราะน้ำกำลังท่วมกรุงอยู่
ยังจำกันได้ไหม?

..... 34 ปีที่ผ่านมา.....
      วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2516  เป็นครั้งแรกในรัชกาลที่เกิดวิกฤติด้านการเมืองรุนแรงที่สุด
       วันนั้น นิสิตนักศึกษาและประชาชนนับหมื่นนับแสนเดินขบวนประท้วงรัฐบาล เหตุการณ์ร้ายแรงยิ่งขึ้น ตำรวจทหารยิงประชาชน ในขณะที่นิสิตนักศึกษาก็เผาสถานที่ราชการ เกิดกลียุคทุกหย่อมหญ้า คนไทยฆ่าคนไทยด้วยกันเอง
       คืนนั้น สถานีโทรทัศน์ทุกช่องถ่ายทอดสดจากพระราชวังสวนจิตรลดา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสกันคนไทยทุกคนว่า “คนไทยจะฆ่าคนไทยด้วยกันไม่ได้ ทุกอย่างต้องสงบโดยฉับพลัน”
และทุกอย่างก็สงบโดยฉับพลัน
หลังจากนั้นไม่นาน มีฝรั่งคนหนึ่งมาถามผมว่า “เป็นไปได้อย่างไร ที่คนๆ เดียวจะมีอำนาจเหนือคนทั้งประเทศได้อย่างนั้น?”

       ผมไม่ได้ตอบ แต่ตอนนั้นใจผมคิดถึงประโยคที่  มรว. คึกฤทธิ์ ปราโมชฯ ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ BBC ว่า พระองค์ทรงเป็น "SOUL OF THE NATION" หรือ “จิตวิญญาณของคนไทยทั้งชาติ”
ยังจำกันได้ไหม?

แล้ววันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่?
เราสร้างค่านิยมผิดๆ ว่าคนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่มีเงินมากที่สุด
เราโกงทุกครั้งที่มีโอกาส
เราเรียกร้องประชาธิปไตยโดยคิดถึงแต่ “สิทธิ” แต่ลืมคำว่า “หน้าที่”
เรากำลังฆ่ากันเองทุกวันในภาคใต้    เราสร้าง “กฎหมู่” ให้เหนือ “กฎหมาย”  เราเดินขบวนประท้วงในทุกอย่างที่เราไม่เห็นด้วย เราก้าวร้าวต่อกัน เราแตกแยกกัน และทั้งโลกกำลังจับตามองเราอยู่

เราเคยหยุดคิดกันบ้างไหมว่า

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา
จะทรงเสียพระทัยเพียงใด?
    80 ชันษาของพระองค์ท่าน หากเปรียบกับคนธรรมดาก็สมควรที่จะได้พักเต็มที่ ได้รับการดูแลและระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่สมควรที่จะตรากตรำทำงานหนัก หรือกระทบกระเทือนใจแต่อย่างใด

       แต่กลับเป็นว่า ในปีที่ครบ 80 ชันษาของพระองค์ท่านยังต้องทรงงานอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่ทรงต้องอยู่ภายใต้การถวายการดูแลของคณะแพทย์
พระองค์ต้องรับทุกข์ของคนไทยทั้งชาติ
ความสุขของพระมหากษัตริย์พระองค์นี้ ไม่ใช่จะประทับอยู่ในพระราชวังใหญ่โตสวยงาม แห่ล้อมด้วยข้าราชบริพาร

       หากแต่ความสุขของพระมหากษัตริย์พระองค์นี้คือ เมื่อประชาชนของพระองค์ท่านรักสามัคคีกัน รู้จักความพอเพียง และมีสติ-เพียงเท่านี้เอง
แล้ววันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่?
หรือนี่คือการแสดงความกตเวทีต่อพระมหากษัตริย์ของเรา?


เครดิต : คุณคมน์สิทธิ์  / http://www.torrentmove.com/

เปิดโหมดให้ท่านสมาชิก สามารถโพสกระทู้ได้ปกติแล้วครับ