สภาพอากาศแปรปรวน......
กลางวันร้อนจัดแดดจ้า กลางคืนอากาศหนาวลมแรง
ธาตุในกายปรับไม่ทันทำให้พระเกือบหมดวัดมีอาการไข้
ที่ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า"ไข้หัวลม"ซึ่งเกิดจากสภาพดินฟ้าอากาศ
โยมเก็บยอดแค ดอกแค มาต้มให้ฉันเพื่อแก้อาการไข้หัวลม
ฉันยาแล้วพักผ่อนนอนดู เดินลมปรานปรับธาตุในกายให้มีสมดุลย์
จนถึงเที่ยงจึงได้ลงไปดูงานการก่อสร้างและงานฝ่ายทำวัตถุมงคล
เป็นความประมาท...
เพราะเราไปเน้นเรื่องจิต เรื่องสติและสัมปชัญญะมากเกินไป
เรื่องธาตุ เรื่องกาย ปล่อยให้มันเป็นไปตามสภาพ ขาดการดูแลเอาใจใส่
ลืมหลักการที่ว่า บริหารกาย บริหารจิต บริหารขันธ์ เราพร่องในหน้าที่
ทั้งที่เมื่อก่อนนั้นเราต้องสงเคราะห์ญาติโยมวันละไม่ต่ำกว่า ๘ ชั่วโมง
และพักผ่อนไม่เกนวันละ ๔ ชั่วโมง แต่เราอยู่ได้ไม่เจ็บไข้หรืออ่อนเพลีย
เพราะว่าเราฝึกลมปราน ปลุกธาตุ เดินธาตุอยู่ทุกวันหลังเสร็จกิจสงเคราะห์โยม
และวัยของเราที่ล่วงเลยเพิ่มขึ้นทุกวัน ทำให้ธาตุ ให้ขันธ์ มันพร่องลง
เมื่อพิจารณาได้เช่นนั้นจึงทำการแก้ไข ปรับปรุงกายและจิตของเราใหม่
ร่างกายก็กลับมาเป็นปกติ พร้อมที่จะทำงานได้ต่อไป อาการไข้ก็หายไป
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเหมือนจะมากระตุ้นเตือนเราว่าอย่าได้ประมาทในชีวิต
กายและจิตต้องมีความสัมพันธ์กัน เราต้องบริหารขันธ์ บริหารจิต ให้เกิดความพอดี
เพราะกายนี้เราต้องใช้และอาศัย เพื่อการเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทาง
สิ่งที่เรามุ่งหวังและตั้งใจไว้...ต้องอาศัยทั้งกายและจิตในการที่จะไปสู่จุดนั้น
:059:แด่ธาตุ แด่ขันธ์ ในกายนี้ที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ได้พิจารณาธรรม
เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ไมตรีจิต
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-กลุ่มยุทธธรรมสัญจร
๑๑ กันยายน ๒๕๕๒ เวลา ๐๙.๑๐ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายแดนประเทศไทย