ผู้เขียน หัวข้อ: ทำกรรม ต้องชดใช้  (อ่าน 3978 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ทำกรรม ต้องชดใช้
« เมื่อ: 11 มิ.ย. 2554, 11:15:35 »
ำกรรม ต้องชดใช้ ๑/๒
กรรม จากบ้าน รถ เงินทอง


   กรรม ที่เกิดจากความโลภมนุษย์เรานั้นจริง ๆ แล้วคงไม่มีคำว่า "พอ" อย่างแน่นอน เพราะเมื่อได้อย่างหนึ่งก็ต้องการอีกอย่างหนึ่ง หรือเมื่อได้สิ่งนั้นมาแล้วเล็กน้อย ก็ไม่พอใจต้องการที่จะได้ให้มากขึ้นไปอีก นั้นแหละเขาเรียกว่า "มนุษย์ ซึ่งไม่รู้จักคำว่า พอ"

   คนเราทุกคนนั้นย่อมที่อยากจะสบาย ไม่มีใครที่ไหนแน่นอนว่าต้องการที่จะลำบาก หาเช้ากินค่ำ แต่คำว่า "สบา่ย" ก็มีหลายต่อหลายทางที่จะทำให้เกิดขึ้นมาได้ อย่างบางคนก็คดโกง บางคนก็หลอกเค้า บางคนก็ทำมาด้วยน้ำพัักน้ำแรงของตน แต่คนที่คดโกงเค้านั้นย่อมต้องชดใช้กรรม ไม่ว่าจะในชาตินี้ หรือชาติหน้าก็ต้องชดใช้กรรมกันทั้งนั้น อย่างเช่นเรื่องที่จะนำมาให้ลองอ่านกันต่อไป

นั้นคือว่า ผู้ที่ต้องการความสบาย แต่ไม่ได้มาจากหยาดเหงื่อแรงกายของตน เรื่องมีอยู่ว่า

   มีครอบครัวอยู่ครอบครัวหนึ่ง ซึ่งถ้าจะพูดถึงด้านฐานะความมั่นคง คือเป็นครอบครัวที่ยากจน และครอบครัวนี้ยังต้องประสบกับปัญหาอีกคือหัวหน้าครอบครัว หรือพ่อของพวกเค้านั้นเองได้เสียชีวิตในขณะที่พวกเรายังเยาว์วัย จึงทำให้ภาระทุกอย่างมาตกอยู่กับผู้ที่เป็นแม่ ครอบครัวนี้มี สามคนแม่ลูก คือ ตัวแม่ ลูกชาย และลูกสาว ซึ่งทั้งสามนั้นได้ใช้ชีวิตกันตามลำพังตั้งแต่น้่องคนเล็กอายุได้เพียง 5 ขวบเท่านั้น ส่วนพี่ชายมีอายุ 7 ขวบ แม่ได้ทำงานทุกอย่างเพื่อที่จะให้ลูก ๆ ได้เรียนหนังสือสูง ๆ และมีหน้่าที่การงานที่ดีทำ และเรื่องทุกอย่างก็ได้ดังที่แม่ต้องการ คือลูกชายเมื่อแม่ได้ส่งเสียจนเรียนจบแล้ว เค้าก็ได้เข้าทำงานที่บริษัท ฯ แห่งหนึ่ง ซึ่งเงินเดือนที่ได้นั้นก็สามารถที่จะส่งน้องสาวเรียนต่อสูง ๆ ได้เช่นกัน พี่ชายเป็นคนที่รักแม่ และน้องสาวมาก ๆ ตัวเค้าเคยพูดไว้ว่า "เค้าจะต้องหาวิธีทำอะไรก็ได้ เพื่อที่จะให้แม่และน้องสาวของเค้าได้อยู่อย่างมีความสุข ชีวิตต้องสะดวกสบาย" และพี่ชายเค้าก็ได้สามารถทำได้อย่างที่เค้าได้พูดเอาไว้ แต่จะทำเช่นไร

   ในขณะที่พี่ชายเค้าเข้าทำงานเค้าก็ได้คบหากับแฟนสาวคนหนึ่ง "ที่สำคัญทุกวันนี้พี่ชายคนนี้ได้บวชพระ และไม่คิดที่จะสึก เพราะหนี้กรรมในจิตใจที่เค้าได้สร้างเอาไว้ ถ้าเค้าสึกออกไปชีวิตก็คงจะหาความสุขไม่ได้" เรื่องของแฟนสาวคนนี้พี่ชายก็ไม่ได้สมหวังอะไรกับเค้า แต่พี่ชายกับต้องไปแต่งานกับผู้่หญิงคนหนึ่งซึ่งมีอายุมากกว่าพี่ชายอยู่ประมาณ 10 ปีได้ และพี่ชายก็ยินดีที่จะแต่งงานกับผู้่หญิงคนนี้ด้วย สาเหตุที่เค้ายอมแต่งงานด้วยนั้นก็คือ "เงิน" ที่จะบรรดาลให้แม่ และน้องสาวของเค้าได้อยู่่กินกันอย่างมีความสุขนั้นเอง เพราะจริง ๆ แล้วผู้หญิงคนนี้ คือหุ้นส่วนคนหนึ่งของบริษัท ฯ ที่พี่ชายเค้าได้ทำงานด้วย แถมเธอยังมีธุรกิจอีกมากมายเหลือเกิน

   ชีวิตของทั้งคู่ก็ได้ดำเนินมาเรื่อย ๆ แต่ไม่มีใครได้รับรู้เลยว่า "พี่ชายนั้น เมื่อแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ แล้วต้องทนทุกข์ทรมานเพียงใด" ที่เป็นเช่นนั้นเพราะอันที่จริงแล้วผู้หญิงคนนี้เค้ามีอาการคล้าย ๆ กับโรคจิตคือชอบทำร้ายร่างกายของสามี อีกทั้งยังเป็นคนที่ขี้หึงมาก ๆ ด้านอารมณ์ก็เป็นคนเอาแต่ใจตัวเองเป็นที่สุด ชีวิตของเธอเคยแต่งงานมาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ผู้ชายทั้งสองก็ต้องเลิกไป เพราะทนกับเรื่องอารมณ์ หรือเรื่องอื่น ๆ ในตัวเธอไม่ได้นั่นเอง

ที่มา
http://khonsin.blogspot.com/2009/10/blog-post_30.html
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว....ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา...สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา...กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ทำกรรม ต้องชดใช้
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 11 มิ.ย. 2554, 11:18:42 »
ทำกรรม ต้องชดใช้ ๒/๒

  แต่เหตุการณ์ยังไม่จบเท่านี้ เพราะเมื่อพี่ชายได้แต่งงานอยู่กินกับเธอได้ประมาณ ปีกว่า ๆ ก็ได้เกิดเรื่องขึ้นคือภรรยาของพี่ชายได้เสียชีวิตลง ด้วยสาเหตุทางรถยนต์ คือเธอได้ขับรถไปชนกับรถบรรทุกที่จอดเสียอยู่ที่ข้างทาง ทำให้เธอต้องเสียชีวิตคาที่

  แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมันไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการฆาตกรรม และผู้ที่ทำร้ายเธอก็คือ "พี่ชาย" นั่นเอง เรื่องเกิดขึ้นในวันหนึ่ง เมื่อถึงที่สุดกับการอดทนกับชีวิตครอบครัว พี่ชายก็ได้คิดที่จะวางแผนเพื่อที่จะได้ฆ่าภรรยาของตนเอง โดยเค้าคิดว่าจะพาภรรยาไปพักผ่อน แต่ระหว่างทางนั้นภรรยาได้เสียชีวิตก่อน จากการกระทำของพี่ชาย คือพี่ชายได้ทำการตัดสายเบรครถที่ภรรยาของตนขับ เพื่อที่จะได้ดับชีวิตของเธอเสีย และเหตุการณ์ก็เป็นอย่างที่พี่ชายได้วางแผนเอาไว้ และสมบัติทั้งหมดของภรรยา ๆ เค้าก็ได้ทำการยกให้เป็นชื่อของพี่ชายไปทั้งหมดแล้ว

   ชีวิตของพี่ชายยังไม่จบเท่านี้เพราะพี่ชายได้แต่งงานใหม่อีกครั้งกับแฟนคนแรกของเค้า ทั้งคู่อยู่กันอย่างมีความสุขได้เพียงระยะสั้น ๆ เท่านั้น เพราะภรรยาเ่ก่าได้มาเข้าฝันพี่ชายให้นำสมบัติคืนเค้่าให้หมด และยังด่าว่าพี่ชายว่าเป็นคนเนรคุณอีกด้วย และหลังจากนั้นอีก 2 วันคราวนี้ภรรยาเก่าของเค้าได้ปรากฎตัวให้เห็น เพราะเวลานั้นพี่ชายได้ลุกไปเข้าห้องน้ำ และกำลังจะมาเข้านอนที่เตียง ขณะนั้นเองเึค้าก็ได้เห็นหน้าภรรยาเก่ามาปรากฎต่อหน้า และพูดว่า "เอาคืนมา.. เอาคืนมา.. เอาของฉันคืนมา่.. แต่ต้องชดใช้กรรมที่ได้ก่อไว้.. คนเนรคุณ.." จากนั้นภาพภรรยาเก่าก็ได้หายไป จนในที่สุดพี่ชายไม่สามารถอยู่เฉยได้ จึุงได้นำเรื่องนี้ไปบอกกับครอบครัวของภรรยเก่าว่า "เค้าเป็นคนฆ่าเธอเอง และวิธีการกระทำนั้นคือเค้าได้วางแผนไว้ว่าจะให้ดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุ แต่จริง ๆ เค้านั้นเองที่เป็นคนตัดสายเบรค" แต่ทุกคนไม่เชื่อ คิดเพียงว่าพี่ชายรักภรรยาของเค้า่มากจนเพ้อเจ้อ และพี่ชายก็ได้บอกกับแม่เช่นกัน จากนั้นพี่ชายจึงตัดสินใจที่จะบวชเพื่อชดใช้กรรมที่ได้ก่อขึ้นมา

   นี้ก็เป็นชีวิตอีกชีวิตหนึ่งที่มีทุกอย่างรอคอย เงินทองก็มีมากมายแต่ไม่สามารถที่จะใช้ได้ เพราะกรรมที่เค้าได้ก่อเอาไว้นั่นเอง เพราะถ้าสึกพระออกมาเค้าก็ไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตให้สงบสุขได้

   ถ้าเค้าไม่คิดที่จะอยากได้ของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง และฆ่าเค้าผู้่นั่น พี่ชายคนนี้ก็คงได้มาใช้ชีวิตเหมือนกับคนทั่ว ๆ ไปเป็นแน่

ฉะนั้นคนเราจะทำอะไรควรที่จะคิดไตร่ตรองให้ดีก่อน อย่าให้สิ่งที่ไม่มีมาบังตาเราจนทำให้ก่อกรรมชั่วขึ้นมาได้เช่นเค้าคนนี้เลย

ที่มา
http://khonsin.blogspot.com/2009/10/blog-post_30.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11 มิ.ย. 2554, 11:21:16 โดย ทรงกลด »

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ทำกรรม ต้องชดใช้
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 11 มิ.ย. 2554, 11:22:42 »
การลบหลู่ ผลถึงสุขภาพจิต
ลบหลู่พ่อแม่ สุขภาพจิตเสีย


   กรรม และแล้วเราก็ต้องมาพูดเรื่องของเวรกรรมกัน เพราะเมื่อเราลบหลู่พ่อแม่ สุขภาพจิตเสีย ที่พูดว่าสุขภาพจิตเสียนั้น บางคนก็อาจจะพูดว่า "เป็นบ้า" นั่นเอง แต่เหตุการณ์นี้ไม่แน่ใจว่าเค้าเป็นบ้าหรือไม่้ เพราะสุขภาพจิตของเค้าปกติ แต่มีสิ่งที่ผิดปกติไปหนึ่งอย่าง เรามาดูกันดีกว่า

  เรื่องของเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นได้เกิดกับลูกสะใภ้ ที่เกิดกับเค้านั้นก็คือว่า ครอบครัวของนายแดง (ซึ่งเป็นลูกชายคนเล็กของบ้าน) กับนางส้ม (เป็นภรรยาของนายแดง) นายแดงกับนางส้มได้แต่งงานกัน และเข้ามาอยู่ที่บ้านของนายแดง ซึ่งมีพ่อ และแม่ของนายแดงอยู่ด้วย ฐานะครอบครัวของนายแดงนั่นถือว่าอยู่กินแบบสบาย ๆ เลยที่เดียว เพราะนายแดงมีอาชีพรับเหมา ส่วนพ่อ และแม่ก็เป็นคนที่มีเงินเก็บมาก นับได้ว่าเป็นคนรวยคนหนึ่งในหมู่บ้านทีเดียว

   นางส้ม เป็นสะใภ้ที่ พ่อ แม่สามีรักมาก อีกทั้งเพื่อนบ้านก็รักนางส้มกันทุกคน นางส้มจะเป็นคนที่ดูแลพ่อ แม่สามีดีทุกอย่างไม่ว่าจะเรื่องอาหารการกิน หรือเรื่องที่หลับที่นอน นางส้มจะไม่เคยทอดทิ้ง หรือละเลยต่อหน้าที่แม้แต่วันเดียว จนเวลาได้ผ่านพ้นไปประมาณ 2 ปี พ่อแม่ของนายแดง เห็นว่าลูกชายตนได้ภรรยาที่ดี ก็เลยได้ยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้แก่คนทั้งสอง แต่เรื่องก็ไม่ได้ดำเนินดีต่อไปเพราะ

  เมื่อนางส้มได้สมบัติของพ่อแม่สามีแล้ว คราวนี้ลายที่แท้จริงก็เริ่มออก โดยแรก ๆ ที่ลายออกนั้นคือเรื่องของอาหารการกิน เพราะเมื่อก่อนนี้นางส้มจะทำอาหารที่ย่อยง่าย และรสไม่จัดให้แก่พ่อแม่สามีทุกวัน แต่เดี๋ยวนี้อาหารที่ทำให้พ่อแม่สามีกินคือ แกงเผ็ด ซึ่งเผ็ดมาก ๆ และเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ที่เหนียว และอีกทั้งเวลาที่พ่อแม่สามีทำอะไรไม่ถูกใจ หรือบ่นว่าเรื่องอาหาร นางส้มก็จะว่าต่าง ๆ นา ๆ ให้กับพ่อแม่สามีตลอด แต่พ่อแม่สามีไม่เคยที่จะด่าว่านางส้มเลย เพียงแต่เคยบ่นให้กับนายแดงซึ่งเป็นลูกชาย แต่เรื่องกลับกลายเป็นใหญ่โต เพราะเมื่อนายแดงรับรู้เรื่องที่นางส้มทำกับพ่อแม่ของตน นายแดงจึงได้ว่ากล่าวตักเตือนให้นางส้ม ทำกับพ่อแม่ตนให้เหมือนเดิม แต่นางส้มกลับว่ากลับว่า พ่อแม่ใช้จนไม่มีเวลาว่าง เลยไม่สามารถที่จะทำอาหารต่างหากให้พ่อกับแม่ได้

  เมื่อนายแดงไปทำงานต่างจังหวัดเป็นอาทิตย์ หรือสองอาทิตย์นางส้มก็ได้ดุด่าว่า พ่อแม่ของนายแดงต่าง ๆ นา ๆ อีกเช่นเคย แต่คราวจะด่าว่ามากกว่าเก่า จนบางครั้งเพื่อนบ้านต้องมาปลอบพ่อแม่ของนายแดง จนวันหนึ่งแม่ของนายแดงทนไม่ไหว ได้ยกมือท่วมหัวและสาปแช่งนางส้ม โดยแม่พูดว่า "ขอให้ผลกรรมที่มันทำเอาไว้กับแม่และพ่อตกอยู่ที่มันทั้งหมด" ด้านนางส้มก็มีชาวบ้านมาตักเตือนว่า ไม่กลัวบาปกลัวกรรมหรือ ที่ไปด่าพ่อแม่ เพราะนั้นเค้าก็เป็นพ่อแม่สามีของตนน่ะ นางส้มก็ยังยืนกรานว่า "ไม่กลัวบาปทั้งนั้น"

   เวลาได้ผ่านไปหลายปี นางส้มก็มีลูก 2 คน เป็นชาย 1 และหญิง 1 และพ่อแม่สามีของเค้าในเวลานี้ก็ได้จากโลกไปแล้ว แต่คำสาปแช่งยังไม่หมดไป เพราะเมื่อพ่อแม่ได้ตายไป นางส้มได้เริ่มเข้าวัดเข้าวา และยังทำวิปัสสนา จนใคร ๆ คิดว่านางคงจะคิดได้กับเหตุการณ์ที่ได้ทำกับพ่อแม่ของสามี แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น จริง ๆ แล้วนางส้มต้องการที่จะประกาศให้ใครต่อใครได้รับรู้ว่าตนเป็นเศรษฐีคนหนึ่ง แต่เรื่องยังไม่จบเท่านี้ เพราะมีอยู่วันหนึ่งนางส้มได้กลับมาจากวัด แต่นางได้เดินด่าลูกหลานไปตลอดทาง จนใครต่อใครต่างสงสัยในพฤติกรรมของนาง นางส้มได้รับผลกรรมที่ทำกับพ่อแม่สามีแ้ล้ว คือ นางส้มจะด่าว่าลูกหลานให้ชาวบ้านฟังตลอดเวลาที่ไปไหนมาไหน จนทุกคนคิดว่า "เป็นบ้า" ไปแล้ว

   และนั้นก็คือเหตุการณ์ที่ "ลบหลู่พ่อแม่ สุขภาพจิตเสีย" จนสุดท้ายลูก ๆ และสามีได้พยายามที่จะนำตัวไปรักษา แต่ก็ไม่สามารถที่จะรักษาได้ และนั้นก็คือ "กรรม" นั่นเอง บั่นปลายชีวิตจึงเหมือนคนบ้า

   การที่เราไม่เครารพผู้มีพระคุณ หรือพ่อ แม่เรานั่น เป็นสิ่งที่ไม่ควรที่จะกระทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะพวกท่านเป็นผู้ที่ให้กำเนิดกับเรา เราควรที่จะปฏิบัติกับท่่านให้ดี ไม่ควรที่จะทำตัวเหมือนนางส้ม เพราะสุดท้ายก็คือ "ลบหลู่พ่อแม่ สุขภาพจิตเสีย"

ที่มา
http://khonsin.blogspot.com/2009/11/blog-post_12.html

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ทำกรรม ต้องชดใช้
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 11 มิ.ย. 2554, 11:27:22 »
กรรมที่ทำกับ สุนัข
สุนัข เป็นเป้านิ่ง


   เพื่อน ๆ ค่ะถ้าเพื่อน ๆ เป็นคนคนหนึ่งที่ชอบความสนุก แต่การกระทำความสนุกขอ งเพื่ อน ๆ อาจจะลืมคิดถึงความเป็นปวดของคนอื่น ๆ หรือสัตว์อื่น ๆ เพื่อน ๆ ต้องลองมาดูกันน่ะค่ะว่า อะไรเกิดขึ้นกับอะไร แต่จะเกี่ยวกับเราหรืิอไม่นั้นเพื่อน ๆ ต้องลองดูเองน่ะค่ะ เพราะเรื่องนี้ก็จะบอกเพื่อน ๆ ไม่ได้เหมือนกันน่ะค่ะว่าเกี่ยวหรือไม่ เราลองมาดูดีกว่าค่ะ ว่า เค้าเอา สุนัข เป็นเป้านิ่ง มันคืออะไรกันน่ะ

   เพื่อน ๆ ทุกคนคงจะมีนิสัยที่ว่า รักสัตว์ กันบ้างน่ะค่ะ และสัตว์ทั่ว ๆ ไปที่เพื่อน ๆ รักกันก็ต้องมี สุนัข บ้างนั่นแหละค่ะ แต่ทำไมเค้าถึงได้นำ สุนัข เป็นเป้านิ่ง กันน่ะเริ่มดีกว่า เรื่องก็มีอยู่ว่า

   มีครอบครัวอยู่หนึ่งครอบครัว ซึ่งมีคนอาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คน คือ พ่อ แม่ ลูกสาว และน้าชาย ซึ่งทั้ง 4 คนนี้รักกันมากยิ่งแม่กับน้าชาย เป็นพี่น้องที่รักกันมาก และน้าชายก็รักหลานสาวคนนี้มาก ๆ เช่นกัน แต่สิ่งที่น้าชายได้สอนหลานสาวในบางเรื่องเป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่หลานสาวซึ่งยังเด็กอยู่ก็ไม่รู้ประสาอะไรกับเค้า น้าชายบอกให้่ทำอะไรก็ทำตามทุก ๆ อย่าง บ้านที่ทั้ง 4 คนอยู่นี้เป็นบ้านที่ออกไปแถบชนบท ซึ่งก็มีอาชีพทำนา, ทำสวนอะไรกันทำนองนั้น ชีวิตของทั้ง 4 คนก็ดำเนินกันไปเรื่อย ๆ คือเช้าตื่นมาก็เข้าสวน เข้านา น้าชายก็มีหน้าที่ส่งหลานสาวที่โรงเรียน ชีวิตก็เป็นแบบนี้เรื่อย ๆ จนมาถึึงวันหนึ่ง ซึ่งเป็นวันที่หลานสาวดีใจมาก เพราะเป็นวันปิดเทอม ซึ่งเมื่อปิดเทอมน้าชาย กับหลานสาวก็จะพากันเข้าไปเที่ยวแถวป่าที่อยู่ระแวกบ้าน หรือไม่ก็เข้าทุ่งไปไกล ๆ กันสองคน แต่วันนี้เป็นวันที่โชคร้ายที่สุดของ สุนัข ตัวหนึ่ง เป็นเพราะอะไรเรามาดูกันต่อน่ะค่ะ

   ในวันหยุดวันนี้ น้าชายก็ได้พาหลานสาวสุดที่รักเข้าไปเที่ยวตามทุ่งต่าง ๆ เช่นเคย ขณะที่ทั้งคู่เดินทางไปนั่นเอง น้าชายและหลานสาวได้พบกับ สุนัข ตัวหนึ่งซึ่งได้นอนอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ สุนัข เห็นทั้งคู่เดินมาก็ดีใจ เพราะจริง ๆ แล้วสุนัข เคยเจอกับทั้งคู่บ่อยมากอยู่แล้ว เรียกว่าถ้าน้าชาย หรือหลานสาวเรียก สุันัข ตัวนั้นก็เข้ามาหา วันนี้ก็เช่นกันน้าชายได้เรียก และสุนัขก็เข้าไปหา และทั้งคู่ก็ได้พาสุนัขเดินเล่นเข้าไปในทุ่งต่าง ๆ ด้วย พอมาถึงที่ต้นไม้ใหญ่อีกต้น น้าชายได้เกิดความคิดที่พิเรนขึ้น นั้นก็คือเค้าได้อุ้มสุนัขขึ้นแต่เค้าได้นำเชือกมัดที่คอของสุนัข และนำสุนัขไปแขวนไว้กับกิ่งไม้ เท่านั้นยังไม่พอ เค้ายังหากระป๋องมาผูกเชือก และมัดไว้ที่หางของสุนัขอีก อ้อ! น้าชาย และหลานสาวชอบเล่นปืนผาหน้าไม้ด้วย เมื่อน้าชายเค้าทำเป้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาของสุนัขแล้ว นั่นคือ สุนัข เป็นเป้านิ่ง แล้ว เมื่อทุกอย่างเตียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่ก็เริ่มบรรเลงกันเลย คือน้าชายจะสอนให้หลานสาวยิงให้โดนกระป๋องที่ผูกไว้กับหางของสุนัข เมื่อเป็นเช่นนั้นสุนัขก็เริ่มมีอาการกลัว แต่ทั้งคู่ยังคงทำต่อไปเรื่อย ๆ จนมาถึงกระสุนลูกสุดท้า่ยที่น้าชายเป็นคนยิง แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น เพราะกระสุนพลาดไปโดนขาของสุนัขตัวนั้น จนมันร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดเป็นที่สุด ทั้งคู่ก็รีบนำมันลงจากเชือก และทั้งคู่ก็จากไป แต่เรื่องยังไม่จบเช่นนั้น เมื่่อมาถึงบ้านหลานสาวได้ลืมของไว้ที่ใต้ต้นไม้ที่ทั้งคู่ยิงสุนัข ระหว่างเดินทางไปนั้นหลานสาวได้เจอสุนัขตัวนั้น มันได้เดินลากขาตัวเองมาจนถึงใต้ต้นไม้ใหญ่ที่มันนอนอยู่ หลานสาวได้หยุดดูและสุนัขตัวนั้นก็มองหน้า และน้ำตาไหล หลานสาวก็ได้รีบกลับไปที่บ้านเพื่อที่จะให้น้าชายนำรถมอเตอร์ไซค์พาสุนัขตัวนั้นไปหาหมอ และหลานสาวก็ได้ดูแลเลี้ยงดูสุนัขจนทุกวันนี้ แต่เรื่องยังมีต่อน่ะค่ะ

   เมื่อหลานสาวเรียนจบ และได้ทำงานเค้าก็ได้มาเที่ยวบ้าน พอดีว่ามีงานบั้งไฟ สองน้าหลานก็พากันไปดูงานด้วยเหมือนเดิม แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับพวกเค้าทั้งคู่นั้นคือ มีบั้งไฟกระบอกหนึ่งที่เค้ายิงแล้วไม่ขึ้นฟ้า แต่กลับพุ่งมาใส่คนทั้งคู่ ผลทำให้น้าชายขาด้านซ้ายขาดทันที และหลานสาวเกิดอาการแก้วหูแตกไปข้างหนึ่ง เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นทั้งคู่ จึงคิดถึงเรื่อง การกระทำที่นำ สุนัข เป็นเป้านิ่ง ขึ้นมาทันที จากนั้นทั้งคู่ก็ไม่จับปืนกันอีกเลย และทุกวันนี้ทั้งคู่ก็พยายามทำบุญ เพราะเค้าคิดว่าสิ่งที่เค้าทำนั้นมันเป็นบาป และกรรมก็ได้ตามมาให้ทั้งคู่ได้รับแล้ว

   เพื่อน ๆ เห็นไหมค่ะว่าคนเราถ้าทำบาป ก็จะต้องรับกรรมจากบาปที่เรากระทำ ถ้าให้ดีเรามาทำแต่ความดีกันดีกว่าน่ะค่ะ เพื่อว่าเราจะได้มีชีวิตที่ดี ๆ กันยังไงหล่ะค่ะ


ที่มา
http://khonsin.blogspot.com/2010/01/blog-post.html

ออฟไลน์ saken6009

  • อย่ากลัวคนจะมาตำหนิ แต่จงกลัวว่าตัวเองจะทำผิด อย่ากลัวที่จะรับรู้ความบกพร่องของตน แต่จงกลัวว่าตนจะเป็นคนที่ดีได้ไม่จริง
  • ก้นบาตร
  • *****
  • กระทู้: 893
  • เพศ: ชาย
  • ชีวิตของข้า เชื่อมั่นศรัทธา หลวงพ่อเปิ่น องค์เดียว
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ทำกรรม ต้องชดใช้
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 12 มิ.ย. 2554, 02:29:06 »
ทำกรรม ต้องชดใช้ 11; 11;
                                                               
ขอขอบคุณท่าน ทรงกลด ที่นำบทความดีมากๆมาให้พี่น้องศิษย์วัดบางพระได้อ่านครับ :053: :053:
   
ติดตามอยู่ครับ อ่านแล้วเพลินดีมากๆครับ และ ได้สาระความรู้มากๆครับผม :016: :015:
 
(ขออนุญาตเข้ามาอ่าน เพื่อเป็นความรู้ ขอบคุณครับผม) :054: :054:
   
 

กราบขอบารมีหลวงพ่อเปิ่น คุ้มครองศิษย์ทุกๆท่าน ให้แคล้วคลาด ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง สาธุ สาธุ

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ทำกรรม ต้องชดใช้
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 12 มิ.ย. 2554, 07:06:07 »
ทำกรรม ต้องชดใช้ 11; 11;
                                                               
ขอขอบคุณท่าน ทรงกลด ที่นำบทความดีมากๆมาให้พี่น้องศิษย์วัดบางพระได้อ่านครับ :053: :053:
 
ติดตามอยู่ครับ อ่านแล้วเพลินดีมากๆครับ และ ได้สาระความรู้มากๆครับผม :016: :015:
 
(ขออนุญาตเข้ามาอ่าน เพื่อเป็นความรู้ ขอบคุณครับผม) :054: :054:
 
ขอบคุณที่ติดตามอ่าน....ยังมีต่อครับ อ่านเพื่อเป็นความรู้ความบันเทิงกันครับ
===========================
คน ไม่รู้บุญคุณ
บุญคุณ ที่ไม่ทดแทน


เพื่อน ๆ ค่ะบาปกรรมใครว่าไม่มีจริงค่ะ และยิ่งการกระทำบาปกับผู้เป็นบุพการีของเราแล้วหล่ะก็ยิ่งไปใหญ่เลยน่ะค่ะ เพราะบาปกรรมอะไรก็ช่าง ไม่เท่ากับบาปกรรมที่อกตัญญูต่อบิดา มารดาของตน เพื่อน ๆ ว่าจริงไหมค่ะ ถ้าเพื่อน ๆ ไม่แน่ใจก็ลองมาดูเรื่องนี้กันดีกว่าน่ะค่ะ เพราะเป็นการกระทำของลูก ๆ ที่ได้พึงปฏิบัติต่อบิดา มารดาของตน คือ การกระทำที่เป็น บุญคุณ ที่ไม่ทดแทน

เรื่องเกิดขึ้นที่ทางภาคเหนือของบ้านเราเอง ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เกิดกับครอบครัว ๆ หนึ่งซึ่งมีด้วยกัน 6 คน คือ พ่อ, แม่ และลูก 4 คน ซึ่งลูกทั้ง 4 นั้นก็ล้วนแต่เป็นลูกชายทั้งสิ้น อาชีพของครอบครัวนี้การมีอาชีพทำนา ซึ่งเป็นอาชีพที่สืบทอดกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ยาตาทวดกันเลยทีเดียว สภาพของครอบครัวนี้ก็ไม่ถือว่ารวย และไม่ถือว่าจน เพราะครอบครัวนี้มีที่นาของตนเองอยู่ประมาณ 10 ไร่เห็นจะได้ และการทำนาทุกครั้งลูก ๆ ทั้ง 4 ก็จะช่วยพ่อแม่ของพวกเค้าทุก ๆ ครั้งไป ซึ่งทุกคนในครอบครัวนี้รักกันมาก แต่ทำไมเค้าถึงไม่รู้จักบุญคุณ ก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะจริง ๆ แล้วบุพการีของเรานั้นย่อมเป็นน่าเคารพสูงสุด เพราะถ้าเราปฏิบัติกับพ่อแม่เราดี สิ่งดี ๆ ก็จะมาเกิดกับตัวเราเช่นกันน่ะค่ะ เรามาดูเรื่องราวกันต่อดีกว่าน่ะค่ะ

ถ้าพูดถึงสุขภาพร่างกายของพ่อและแม่นั้น ผู้ซึ่งเป็นแม่มีโรคประจำตัว แต่ไม่ได้ร้ายแรงอะไรนัก ก็รักษากันไปเรื่อย ๆ จนอยู่มาวันหนึ่ง แม่ของพวกเค้าได้ล้มป่วยลง และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา และเมื่อแม่เสียชีวิตลง ลูกชา่ยคนโตก็ได้แต่งงานกับคนในหมู่บ้าน แต่การดำเนินชีวิตก็ยังคงเหมือนเดิมคือ พวกเค้าก็ยังช่วยพ่อทำนาเหมือนเดิม จนอยู่มาวันหนึ่ง พ่อก็ได้พูดคุยกับลูก ๆ และรู้สึกเหงาจึงอยากที่จะมีแม่บ้านสักคนมาคอยดูแลรับใช้ เมื่อยามแก่เฒ่า แต่ลูก ๆ ทั้ง 4 ก็ไม่เห็นด้วย เหตุผลที่พวกเค้าไม่เห็นด้วยก็เพราะว่าผู้หญิงคนที่พ่อของตนไปชอบนั้น เค้า่ชอบเล่นการพนัน และเป็นคนที่ปากคอจัดจ้าน คือชอบพูดหยาบ และชอบด่าคนโน้นคนนี้อยู่เรื่อยไป ลูกทั้ง 4 จึงไม่ชอบ และไม่เห็นด้วยที่พ่อจะใช้ชีวิตในตอนแก่กับผู้หญิงแบบนี้ แต่พ่อก็ไม่ยอมฟังเสีัยงของลูก ๆ พ่อได้ย้ายบ้านไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้น และพออยู่มาสักพักผู้หญิงคนนั้นเริ่มออกลาย คือจะชอบจิกใช้พ่อเสมอ บางครั้่งก็ให้พ่อมาขนข้าวของที่บ้านไป มาเอาข้าวสารบ้าง หรืออะไรต่อมิอะไรก็ได้ทั้งนั้น จนลูก ๆ ทั้ง 4 ไม่พอใจ ถึงขั้นมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับพ่อเลยทีเดียว แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น

เมื่อพ่อกับลูกไม่ถูกกันก็เกิดมีปากเสียงกันตลอดเวลาที่ได้เจอหน้า ขนาดว่าการทำนาซึ่งพ่อก็มีนาของตนเหมือนกัน และก็อยู่ใกล้กับนาของลูก ๆ นั้นเอง ตัวพ่อเมื่อรู้ว่าไม่ค่อยลงรอยกับลูก ๆ แล้วก็กลัว เมื่อถึงหน้านาเมื่อพ่อปักกล้าแล้วก็จะต้องนอนเฝ้านาไว้ เพื่อระัวังใครนำวัวควายมาเลี้ยง และเข้ามากินต้นกล้าหมด และก็เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นจริง ๆ ซึ่งเมื่อพ่อมานอนเฝ้าก็เผลอหลับไป พอตื่นขึ้นมาก็เห็นควายของลูกตนเองนั่นแหละกำลังเข้ามากินต้นกล้า และพ่อก็ไล่ แต่ลูก ๆ เมื่อเห็นเช่นนั้นแทนทีจะไล่ควายออก กลับมาว่าพ่อของตนว่ามาไล่ทำไม ทั้งสองฝ่ายจึงมีปากเสียงเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้ลูก ๆ ได้ลงมือทำร้ายร่างกายพ่อเลยทีเดียว คือพี่ชายเมื่อทะเลาะกับพ่อการได้ทุบตีพ่อของตน เมื่อน้อง ๆ เห็นว่าพ่อสู้ และตีพี่ชาย น้อง ๆ จึงเข้าไปรุมพ่อ และได้ใช้มีดแทงเข้าที่ขาของพ่อ จนพ่อล้มลงไปกับพื้น จากนั้นพวกเค้าทั้ง 4 ก็เดินกลับบ้านไปเฉย ๆ

เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่่นนี้ ภรรยาใหม่ของพ่อก็ให้พ่อไปแจ้งความแต่พ่อไม่แจ้ง พ่อได้พูดแต่ว่า ถ้าพวกเค้ากล้าที่จะทำพ่อก็ปล่อยเค้าไปเถอะ จากนั้นก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรกันอีก จนหลังจากนั้นประมาณ 5 เดือน พ่อก็ได้ล้มป่วยกระทันหัน และเสียชีวิตในที่สุด ลูก ๆ ทั้ง 4 ก็เสียใจมาก แต่ไม่มีอะไรดีขึ้น ยกเว้นน้องชายคนสุดท้อง ซึ่งพอพ่อเสียชีวิตลง เค้า่ก็ได้บวชให้พ่อ แต่พี่ ๆ อีก 3 คนกลับมีโรคร้าย หรือโรคประหลาดเกิดขึ้น นั้นคือเป็นโรคเรื้อน ซึ่งทำการรักษายังไงก็ไม่หาย และเค้าทั้ง 3 ก็ไม่ได้เป็นน้อย ๆ เลยกลับเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนน้องคนเล็กที่บวชให้พ่อนั้นก็ไม่ได้เป็นโรคเช่นเดียวกับพี่ ๆ เค้าเพราะได้บวชทดแทนบุญคุณพ่อแล้ว

และนี้ก็คือกรรมของ บุญคุณ ไม่ทดแทน ซึ่งเรื่องเช่นนี้อาจจะเกิดได้กับทุก ๆ คนน่ะค่ะ แต่ไม่แน่ว่าจะเกิดในลักษณะไหนเท่านั้นเอง เพราะกรรมของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกันน่ะค่ะ ถ้าเพื่อน ๆ ทราบเช่นนี้แล้ว เรามาทำแต่ความดีกันดีกว่าน่ะค่ะ การที่เราได้ทดแทนบุญคุณพ่อแม่ ชีวิตของเราย่อมที่จะเจริญขึ้นน่ะค่ะเพื่อน ๆ ค่ะ

 
ที่มา
http://khonsin.blogspot.com/2010/02/blog-post.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 มิ.ย. 2554, 07:13:57 โดย ทรงกลด »

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ทำกรรม ต้องชดใช้
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 12 มิ.ย. 2554, 07:15:51 »
บา่ปกรรม จากหมู
หมู กับบาปกรรม


   เพื่อน ๆ ค่ะเพื่อนเชื่อหรือไม่ค่ะว่า บาปกรรมนั้่นมีขึ้นจริง ๆ กับเรา ๆ ทุกคน เพราะบางครั้งที่เรากระทำอะไรลงไปทั้งที่เรารู้ตัวว่า ถ้าทำไปแล้วจะต้องเกิดทุกข์กับบุคคลอื่น แต่เราก็ยังทำนั้่นแหละค่ะที่เค้าเรียกว่าบาป เพราะการทำบาปนั้นถ้าทำให้ผู้อื่นเกิดทุกข์ไม่ว่าจะทุกข์กาย หรือทุกข์ใจ นั่นก็คือบาปน่ะค่ะ อย่างเช่นเรื่องที่จะนำมาเล่าให้เพื่อน ๆ ไ้ด้ฟังกันในวันนี้น่ะค่ะ ว่าหมู กับบาปกรรม เป็นอย่างไร และทำไมถึงเกี่ยวข้องกับหมู และหมู มาเกี่ยวข้องได้อย่างไรกันเรามาเริ่มเรื่องกันเลยน่ะค่ะ

   เรื่องนี้เกิดขึ้นกับคนใกล้ ๆ ตัวของเราเอง ก็คือคนรู้จักกันนั่นเอง คือที่บ้านนี้จะมีพี่น้องอยู่ด้วยกัน 5 คน คือพ่อ, แม่ และลูกชาย 2คน และหญิง 1 คน ครอบครัวนี้เป็นครอบครัวที่ถือได้ว่ามีฐานะทีเดียว สภาพโดยทั่ว ๆ ไปของครอบครัวพวกพี่เค้า่ก็อยู่กันอย่างมีความสุข จนกระทั่งลูก ๆ ทั้ง 3 ได้โตเรียกได้ว่าเข้าสู่วัยรุ่นกันดีกว่า พ่อของพวกเค้าก็ได้ประกอบอาชีพขายหมู และเชือดหมู หรือจะพูดอีกอย่างก็คือ เค้าทำโรงฆ่าสัตว์นั่นเอง แต่จะรับเฉพาะหมูเท่านั้นน่ะค่ะ วิธีทำหมูนั้นขอไม่เล่าให้ฟังน่ะค่ะ เพราะเป็นเรื่องที่น่าสงสารมาก ๆ เลยทีเดียว ในแต่ละวันนั้นพ่อเค้าก็ต้องมีหน้าที่เป็นเพชรฆาตวันละไม่ต่ำกว่า 10 ตัวเลยทีเดียว เพราะเมื่อก่อนนั้นคนที่เชือดหมู หรือฆ่าสัตว์ใหญ่นั้นจะมีไม่มากนัก ภารกิจของพ่อเค้าก็คือ พอเวลา่ประมาณ 6 ทุ่มพ่อเค้า่ก็จะมีหน้าที่รับหมูที่รอเชือด แต่เพื่อน ๆ คงสงสัยใช่ไหมค่ะว่า ก็หมูย่อมเป็นอาหารของเรา ๆ ทั่ว ๆ ไปกันอยู่้แล้ว และจะมาเกิดเหตุการณ์อะไรกับคนเชือดได้ ชีวิตของพ่อเค้าก็ดำเนินมาเรื่อย ๆ นับสิบปี แต่สิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็ได้เกิดขึ้น

   เมื่ออยู่มาวันหนึ่งพ่อของพี่เค้าได้ล้มป่วยลงโดยที่ไม่ทราบสาเหตุที่ป่วย อาการของพ่อพวกพี่เค้าก็คือมีอาการเจ็บคอ (อันนี้ก็สงผลมจากที่แทงคอหมู) จากนั้นก็กินอะไรไม่ลง และร่างกายเริ่มซูบผอมลงไปเรื่อย ๆ แต่สิ่งที่น่ากลัวยังไม่เพียงแค่นี้ค่ะ เพราะลักษณะหน้าตา่ของพ่อเค้านั้นถ้ามองดี ๆ จะคล้ายหมู ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แปลกทีเดียว อยู่มาไปถึง 2 ปีพ่อเค้าก็เสียชีวิตลง แต่ก่อนเสียชีวิตลงนั้น ทุกคนในบ้านต้องประหลาดใจเป็นอย่างมากเลยน่ะค่ะ เพราะพ่อเค้าได้ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดทุกข์ทรมานอย่างมาก และตอนหลังพ่อเค้าได้มีเสียงร้อง ซึ่งทุกคนในที่นั้นฟังดูแ้้ล้ว เหมือนมาก ๆ เลยน่ะค่ะ ที่เหมือนก็คือ เสียงที่เค้าร้องออกมานั้นเป็นเสียงร้องของหมูนั้นเอง และสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวพี่เค้าก็เริ่มตามมาเีรื่อย ๆ โดยเริ่มจากพ่อที่มีเสียงร้องประหลาด และหน้าตาก็กลายเป็นหมูอีก แต่เรื่องยังไม่จบเท่้านั้น เมื่อพ่อของพวกเค้าเสียชีวิตลง แม่ก็เริ่มเจ็บปวดอาการเหมือนพ่อเค้าไม่มีผิด และก่อนตายยังร้องเสียงเหมือนหมูด้วยเหมือนกัน

   เพื่อน ๆ ค่ะจริงแล้วครอบครัวนี้ถึงแม้ว่าเค้ามีอาการเชือดหมูก็ตามแต่พวกเค้าก็พยายามที่จะทำบุญน่ะค่ะ เพราะพวกเค้าจะตักบาตรทุกวัน และเข้าวัดเป็นประจำ แต่ก็เป็นสิ่งให้เราได้รู้น่ะค่ะว่า "การทำบุญล้างบาป" นั่นเป็นไปไม่ได้แน่นอนค่ะ สุดท้ายครอบครัวนี้ก็หมดตัวด้วยเรื่องต่าง ๆ นานา และลูกก็ได้เลิกอาชีพที่พ่อ และแม่ของตนได้กระทำมา สุดท้ายพวกเค้่าก็ไม่เหลืออะไรเลย อย่างว่าน่ะค่ะว่า คนเราบางครั้งก็เลือกไม่ได้เหมือนกันว่าจะไม่ทำอาชีพนั่น ๆ ถึงแม้เราจะพยายามทำบุญเท่าไหร่ ก็ไม่่สามารถที่จะชดใช้ให้กับชีวิตที่ต้องตายลงเพราะน้ำมือของเค้าได้

  เพื่อน ๆ ค่ะเรื่องหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ นี้บา่งคนก็คิดว่านำมาเล่าให้ฟังจากการแต่งเรื่องขึ้น แต่สิ่งที่นำมาบอกเพื่อน ๆ นั่นเป็นเรื่องจริง และจุดประสงค์จริง ๆ ก็ไม่อยากที่จะให้เพื่อน ๆ หลงกับบาปกรรม โดยที่เพื่อน ๆ ได้กระทำทั้งแบบตั้งใจ และไม่ได้ตั้งใจน่ะค่ะ ขอให้เพื่อน ๆ เชื่อเถอะค่ะว่า บาปกรรม นั้นมีจริง

ที่มา
http://khonsin.blogspot.com/2010/03/blog-post.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 มิ.ย. 2554, 07:19:43 โดย ทรงกลด »

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ทำกรรม ต้องชดใช้
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 12 มิ.ย. 2554, 07:26:34 »
ร้อน เพราะบาป
บาปกรรม กับความร้อน


   เพื่อน ๆ ค่ะวันนี้เราจะมาเล่าเรื่องให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกันน่ะค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดกับคนใกล้ตัวของเราเอง แต่เราขอไม่เอ่ยชื่อ หรือเอ่ยนามให้เพื่อน ๆ ฟังน่ะค่ะ

   เรื่องของความร้อน ทำไมถึงว่าเกี่ยวกับบาป เพื่อน ๆ คงแปลกใจกันใช้ไหมค่ะว่า บาปกรรม กับความร้อน จะเกี่ยวข้องกันได้อย่าง แต่ไม่ต้องแปลกใจน่ะค่ะ เพราะเดี๋ยวเราลองมาดูเลยดีกว่าว่าเรื่องเป็นอย่างไรบ้าง

   เรื่องนี้ก็เกิดจากความไม่ไ้ด้ตั้งใจของคน ๆ หนึ่ง แต่ความไม่ตั้งใจนี้กลับมาเป็นบาปที่ติดตัวเค้ามาจนทุก ๆ วันนี้เลยค่ะ ก็เพราะว่า เมื่อสมัยที่คน ๆ นี้ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ ที่บ้านเค้าก็ได้เลี้ยงสัตว์ไว้หลายต่อหลายชนิด แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่ต้องเลี้ยงใส่กรงไว้ นั้นคือลิงลมค่ะ เพื่อน ๆ คงรู้จักกันน่ะค่ะ เอาเป็นว่าอธิบายลักษณะให้ฟังสักหน่อยดีกว่าค่ะ ลิงลม จะเป็นสัตว์จำพวกเดียวกับลิง, ชะนี แต่ลักษณะนิสัยของลิงลมคือจะเชื่องช้า และขี้อาย เข้าเรื่องต่อดีกว่า เมื่อเค้าเลี้ยงลิงลม (นางอาย) เค้าก็ต้องนำกรงออกตากแดดบ้างในบางครั้ง เพราะเค้าเลียงไว้บนบ้าน อยู่มาวันหนึ่ง เค้าก็ได้นำกรงลิงลมไปวางตากแดดเช่นเคย แต่คราวนี้ไม่เหมือนเคย เพราะว่าเมื่อเค้าเอากรงไปวางตากแดดแล้ว แต่เค้าลืมเก็บ เพื่อน ๆ ค่ะพูดถึงก็น่าสงสารน่ะค่ะ เพราะลิงลมนั้นได้ตายเพราะการตากแดดนานนั้นเอง

  แต่ผลกรรมก็ได้ตามมาน่ะค่ะ เพราะเค้าคนนั้นทุกวันนี้จะเป็นคนที่ขี้ร้อนมาก ๆ มากถึงมากที่สุดเลยค่ะ และนี้ก็คือผลกรรมที่เค้าได้รับ แต่คนเราบ้างครั้งการทำอะไรเราก็อาจจะไม่ได้ตั้งใจก็ได้น่ะค่ะ แต่คำว่า บาปกรรม นั้น เมื่อเราทำบาปก็ต้องแก้บาป แต่แก้อย่างไรก็ไม่หมด จากนั้นก็จะเป็นกรรมตามมาค่ะ และนี้ก็คือ บาปกรรม กับความร้อนที่จะเอามาให้เพื่อน ๆ ได้รับรู้กันบ้างน่ะค่ะ ถึงแม้บางครั้งเราเป็นคนที่ไม่เชื้ออะไรได้ง่าย ๆ แต่เราอยากที่จะให้เพื่อน ๆ เชื่อน่ะค่ะ กับคำว่า บาปกรรม นั่นเองค่ะ

  ยังไม่สายเกินไปน่ะค่ะกับทุก ๆ คน ถ้าเพื่อน ๆ หมั่นทำบุญ คิดดี ทำดี มองโลกในแง่ดี ทำอะไรก็ได้ที่ไม่มีการเบียดเบียนคนอื่น ๆ และที่สำคัญ การทำบุญ เพื่อน ๆ ควรที่จะต้องหมั่นทำบุญ มาก ๆ ด้วยน่ะค่ะ เพราะเราเคยทำอะไร อย่างไร สิ่งเหล่านนั้นก็จะกลับมาหาเราค่ะ

==จบ==
ที่มา
http://khonsin.blogspot.com/2010/10/blog-post_01.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 มิ.ย. 2554, 07:27:11 โดย ทรงกลด »