ผมขอความเมตตาพระเกจิอาจารย์อยู่เสมอๆ คือให้ท่านทำตะกรุดให้ แต่เรื่องม้วนตะกรุดเองผมทำบ่อยๆเพราะหลวงพ่อบางรูปท่านก็ม้วนให้เลย
บางรูปท่านก็ไม่ม้วนให้ท่านบอกว่าไปม้วนเอาเอง การที่ท่านจารยันต์ท่านก็บริกรรมคาถาอยู่แล้วแผ่นทองเหลืองหรือวัสดุที่ท่านจารลงไปก็มีอานุภาพอยู่แล้ว การม้วนคือการประสิทธิหรือเสกกำกับอีกที่หนึ่ง ถ้าเราม้วนเองก็ได้คาถาม้วนตะกรุดก็มีอยู่ครับ
แต่ผมเป็นคนที่นิสัยเสียอยู่อย่างหนึ่งคือไม่เห็นท่านจารกับตาจะไม่เชื่อมือมันคันต้องแกะดู
(น่าตีมือให้หงิก) ทำให้ต้องพิสูจน์ว่าจารไหม เพราะเคยมีประสบการณ์ตรงครับไปบูชาตะกรุดจากวัด.........เขาลือกันหนาหูว่าไม่ได้จารผลปรากฏว่าไม่ได้จารจริงๆ ตะกรุดดอกไม้ทองผมก็เคยแกะดูปรากฏว่ามีจารครับ ไปเล่าให้ท่านฟังโดนดุเลยถ้าแกะแล้วก็หมดถ้ากันที่หลังอย่าแกะนะท่านบอก ส่วนมากตะกรุดที่ม้วนแล้วจากวัด
ห้ามแกะเด็ดขาดเสื่อมทันที แต่ปัจจุบันน้อยวัดที่หลวงพ่อท่านจะจารกับมือโดยส่วนมากจะให้โรงงานปั๊มเป็นแผ่น หรือไม่ก็ให้ลูกศิษย์จารแล้วปลุกเสกอีกทีหนึ่ง
เพราะใช้เวลานานมากในการทำตะกรุดหนึ่งดอก
เพราะต้องผ่านกระบวนการ 4 อย่าง
1. พินทุ คือ การจรดเหล็กจารที่แผ่นทอง เพื่อที่จะลงอักขระตัวใดตัว เช่นลงตัว นะ ก็ต้องว่าสูตร นะ กาโร โหติ
2. สัมผุส คือ การเขียนตัวอักขระให้ปรากฏชัดเจนด้วยตัว นะ ว่าสูตรต่อ จาก พินทุ นะกาโรโหติ นะสัมภะโว จงมาบังเกิดเป็นนะ
3. สัมผัส คือเมื่อพินทุและสัมผุสไปแล้วก็อ่านทบทวนง่าถูกต้องไหม เช่นเราลงตัวนะ แต่พลาดไปลงตัว มะเป็นต้ย
4. ปัจจัย คือผ่าน3กระบวนการแล้ว ก็มีการปลุกเสกกี่คาบแล้วแต่จะกำหนด จึงไ้ด้มาเป็นแผ่นยันต์หรือตะกรุดหนึ่งดอก
ดังนั่นในปัจจุบันการทำตะกรุดจารมือสดๆหาได้ยากมากเพราะเนื่องจากได้จำนวนน้อยและใช้เวลานานไม่พอกับความต้องการ..
ตะกรุดจารสดๆที่ผมมีส่วนหนึ่ง
ตะกรุดหลวงพ่อแม้น วัดหน้าตา่งนอก เมตตาจารให้แต่ไม่ได้ม้วนให้ครับ ม้วนเอง
ภายในตะกรุดมณีแดงหลวงพ่อจำลอง แกะแล้วเสื่อมครับผมถามท่านมาโดยดุอีกตามเคย
ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยท่านผู้รู้ทุกท่านด้วยครับ