ฝึกนามรูป ฝึกธรรมกาย พรรษาที่ ๕ ปฏิบัติแบบ นามรูป ศึกษาจากฆราวาสบ้าง ศึกษาจากพระภิกษุบ้างและจากที่อื่นบ้าง ก็ได้มาศึกษาเรื่อง นามรูป ติดต่อกันนาน ทำได้สะดวกดี
ทั้งนี้เพราะพิจารณานามรูปนี้ กำหนดไม่ยาก กำหนดว่า เห็นเป็นรูป-รู้เป็นนาม, รักเป็นรูป-รู้เป็นนาม, เดินเป็นรูป-รู้เป็นนาม, ย่างเป็นรูป-รู้เป็นนาม, เกลียดเป็นรูป-รู้เป็นนาม, รักเป็นรูป-รู้เป็นนาม
ฉะนั้นอะไรเกิดขึ้นเป็นรูปทั้งหมด และตัวรู้เป็นนามทั้งหมดด้วย เพราะไม่ใช่ตัวเรา ของเราทั้งหมดแยกออกไป
พอย่างเข้าพรรษาที่ ๖ อาตมาปฏิบัติแบบ ธรรมกาย ตอนนั้น พระอาจารย์แจ้ง สอนบ้างและศึกษากับพี่ชายบ้าง ซึ่งตอนหลังพระอาจารย์แจ้งก็สึกออกมา
ขณะที่ศึกษากับพระอาจารย์แจ้ง อาตมาไปติดเพียง กายทิพย์ แล้วก็เห็นว่าถึงทำไปก็ไม่ใช่เป็นพระอรหันต์ เป็นเพียงดวงของพระอรหันต์ เช่นดวงพระโสดา ดวงพระสกิทาคามี ดวงพระอนาคามี นี่เรียกว่าสำเร็จดวง แต่คนยังไม่ได้เป็น ก็เลยเลิก
หลังจากนั้นผ่านนานแล้ว อาตมาก็ได้เข้าปริวาสกรรมที่วัดตโปทาราม จังหวัด ชลบุรี ได้เจอกับอาจารย์แก้ว ซึ่งเป็นฆราวาสเป็นผู้สอบอารมณ์ให้ผ่านพ้นไป จนถึง ดวงพระอรหันต์ เมื่อถีงดวงพระอรหันต์ก็ดวงเป็น แต่คนยังไม่เป็น
สรุปว่าวิชาธรรมกายนี้ ถึงแม้ว่าจะได้เพียง กายทิพย์ ก็สามารถเอา ดวง ไปรักษาคน โดยทำดวงให้ใหญ่ก็ได้ เล็กก็ได้ แล้ววางไว้ที่หัวคนให้หายปวดหัว พอดวงหายแว๊บ แล้วก็หายปวด หายเมื่อย หายอาการต่าง ๆ คนก็นิยมให้อาตมารักษาอยู่ช่วงหนึ่ง
อาตมาเห็นว่าหากทำอย่างนี้ต่อไปจะถูกรบกวนตลอด โดยไม่ได้มรรคผลอะไรเลย
ความจริงวิชาธรรมกายนี้สามารถระลึกชาติหนหลังได้ เมื่อถึงกายทิพย์ดวงกำเนิด พอถึงดวงกำเนิดนี้ สามารถอธิษฐานให้รู้ว่าชาติก่อนเป็นอะไร พูดอย่างไร เสียงอย่างไร
ฉะนั้นเมื่อได้ดวงแล้วใช้ให้มีกำลังก็ได้ ใช้ให้คนกลับใจก็ได้ แต่จะให้เป็นถึง พระอรหันต์ คงไม่เป็น
http://www.oknation.net/blog/My-fais/2009/12/10/entry-36